The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
นามแห่งนิรันดร์ /๑. คุณจิณณ์ไม่เคยอยู่ที่นั่น (1) (The Djinn has never been there)

แมกไม้ไปส่งกับข้าว

เธอเอาของใส่ตะกร้า ข้าวใส่ชามเอาฝาปิด กับสองอย่างเอาฝาปิดเหมือนกัน จับใส่ตะกร้าเอาผ้าคลุม คนกินมีช้อนส้อมอยู่แล้ว ไม่ต้องเอาไปด้วยก็ไม่เป็นไร

แมกไม้ออกจากบ้านเดินข้ามทุ่งนา ใครบางคนโบกมือให้ แมกไม้ก็โบกมือตอบ ใครบางคนตะโกนร้องถาม...จะไปไหนหรือ และใครบางคนก็หัวเราะ ตอบแทนเสียว่าไปหาคนประหลาดที่ปลายทุ่งนั่นใช่หรือไม่ พวกเขาส่ายหน้า บอกว่าแมกไม้แปลกนัก ยังไปหาคนประหลาดได้อยู่เรื่อย ๆ แมกไม้ยิ้มไม่ได้โต้ตอบอะไร เมื่อก่อนเธอก็ไม่ได้ชอบงานนี้ เธอไม่เคยชอบคนประหลาดเลยแม้แต่นิดเดียว แมกไม้คิดว่าเขาน่ากลัว ...ที่จริงคงมีแต่แม่ที่คิดว่าเขาเป็นคนปรกติธรรมดา แต่นั่นเป็นเพราะแม่เคยได้ทุนเข้าไปเรียนต่อในเมือง ...เขาก็เป็นเคยคนในเมืองเหมือนกัน แม่เลยเห็นว่าคนในเมืองเป็นคนธรรมดา

กระนั้น พอถึงตอนนี้แมกไม้ก็ไม่เดือดร้อนเรื่องหน้าที่ส่งกับข้าวของตนอีกต่อไปแล้ว เธอคิดว่าคนประหลาดคนนั้นก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไป...เขาชื่อกริช ชอบกินอาหารที่แม่ทำ หากเธอถาม เขาจะมีเรื่องเล่าให้ฟังมากมายไม่มีที่สิ้นสุด แต่แมกไม้คิดว่าเขาไม่ได้เล่าเรื่องจริงทั้งหมด ...กริชมีลักษณะบางอย่างของคนที่ไม่ได้พูดความจริง แมกไม้คิดว่าเขาเหมือนจิ้งจอกแดงที่เธอเคยเห็นตามชายทุ่ง ...ว่องไวปราดเปรียว ใบหน้าแหลมเต็มไปด้วยเล่ห์กล ระมัดระวังจนถึงขั้นระแวง ในขณะเดียวกันก็ช่างเล่น มีไหวพริบเฉียบคม

แต่กริชไม่ได้เป็นสีแดง เขาเป็นสีขาว ผมของเขาเป็นสีขาวโพลนทั้งศีรษะ แม้เคยบอกว่าสำหรับคนในเมือง กริชยังไม่แก่ชรา เขายังเป็น "เด็ก" อยู่ เด็กเกือบจะเท่า ๆ กับแมกไม้ แต่แมกไม้ไม่เข้าใจ เธอคิดว่ากริชแก่แล้ว คนอายุขนาดเขาหากอยู่นอกกำแพง ป่านนี้ต้องแต่งงานมีลูกหลานคนแล้ว

นอกจากนั้น กริชยังเจาะรูมากมายบนตัวเอง เขาเจาะหูข้างละหลายรู และถึงจะไม่ได้ใส่ตุ้มหู ก็ยังเสียบอะไรไว้ไม่ให้รูนั้นตัน เขาเจาะลิ้นด้วย เจาะจมูกและริมฝีปาก แต่เขาไม่ได้เสียบอะไรไว้ในรูเหล่านั้น แมกไม้สงสัยว่ามันจะตันหรือเปล่า ที่นอกเมืองนี้ผู้ชายจะไม่เจาะเนื้อเจาะตัวแบบนั้นเลย

แมกไม้ไปถึงบ้านที่ชายทุ่ง เธอถือวิสาสะเปิดเข้าไป บ้านหลังนั้นเล็กนิดเดียว มีเพียงชั้นเดียว ภายในดูเป็นปรกติมีโต๊ะตู้เตียงพอให้คนทั่วไปอาศัยอยู่คนเดียวได้ แต่แมกไม้รู้ว่ากริชมีห้องใต้ดิน ภายในห้องใต้ดินมีของมากมาย แมกไม้ไม่เคยเข้าใจว่าของเหล่านั้นคืออะไร บางทีมันคงเป็นของของคนในเมือง บางทีถ้าแม่มาเห็นอาจจะเข้าใจ

"เอาข้าวมาส่งค่า" เด็กหญิงร้องตะโกนลงไป

เสียงของกริชดังมาจากช่องที่เปิดสู่ห้องใต้ดิน บอกให้เอาลงมาเลย

แมกไม้คล้องตะกร้ากับแขนตน ปีนบันไดเชือกลงไปในห้องใต้ดิน เธอเห็นกริชนั่งอยู่ท่ามกลางของประหลาดมากมายรอบตัว แปลกดี ตอนที่เขามาที่นี่ กริชมาแต่ตัวเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าสร้างของพวกนี้ขึ้นมาได้อย่างไรกัน

ชายผมขาวนั่งหันหลังให้เธอ ดูเหมือนยังคงทำอะไรวุ่นวาย

"อุตส่าห์มาส่งข้าวให้แล้ว ต้องทำอย่างไร" เด็กหญิงถามซ้ำ ไพล่ตะกร้าไปด้านหลังตน

กริชหันกลับมา...แสร้งถอนหายใจเฮือกเบื่อหน่าย ใช่...เขาเป็นจิ้งจอกจริง ๆ เขาเป็นคนร่างเล็กแลดูปราดเปรียว ดวงตาเรียวยาวมีประกาย มุมปากมีรอยยิ้มเสมอ แมกไม้คิดว่าดีที่เขายิ้ม แต่คนอื่นบอกว่าเขายิ้มไม่น่าไว้ใจ

เขาเป็นจิ้งจอกสีขาวที่อาศัยอยู่ในรังใต้ดิน

"โตเกินกว่าจะฟังนิทานแล้วนะเรา" กริชบอก

ครั้งหนึ่งเมื่อแมกไม้มาส่งข้าวให้ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ทั้งยังทำท่าจะเร่งหนีไปด้วยความกลัว ชายผมขาวนี้เคยบอกเธอ...หลอกเธอ...ว่าหากยอมมาส่งข้าวให้เขาทุกวัน เขาจะเล่านิทานให้เป็นรางวัล แมกไม้โมโหที่เขาเห็นเธอเป็นเด็ก ๆ แต่เรื่องที่กริชเล่าแปลกประหลาดเกินไป...เธอคิดว่าเขาปั้นเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเอง แต่อีกทีหนึ่ง เธอก็คิดว่าเขาคงเหงาเหมือนกัน นอกจากแม่แล้ว ทุกคนก็คิดว่ากริชน่ากลัว

"วันนี้จะเล่าเรื่องอะไร" เด็กหญิงทวงซ้ำ

"วันนี้เป็นวันดี จะเล่าเรื่องจินน์แล้วกัน" กริชบิดขี้เกียจยืดยาว "ตำนานเมื่อก่อนว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอีกอย่างหนึ่งที่เหมือนคน แต่คนเกิดจากธาตุดิน จินน์เกิดจากธาตุไฟ"

เขามองปลายหางม้าสีขาวของตน ซึ่งยาวจนตกลงมาระบ่าราวกับพุ่มหางของสุนัขจิ้งจอก

"ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แมกไม้ได้พบกับคุณจิณณ์"

"แมกไม้ไม่เคยพบกับจินน์สักหน่อย"

"ไม่ใช่แมกไม้คนนี้ เป็นแมกไม้คนอื่นหรอก"

"ชื่อเหมือนหนูหรือ"

"ใช่ ชื่อเหมือนกัน...บังเอิญจริง ๆ นะ จริงไหมหือ"

แมกไม้ทำปากยื่นนิดหนึ่ง บังเอิญที่ไหนกัน เธอคิดว่ากริชเห็นเธอเป็นเด็กจึงได้แกล้งโกหกปั้นเรื่องขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่ก็เอาเถอะ ไหน ๆ เขาก็เริ่มเล่าแล้วนี่นะ

"แล้วยังไงต่อล่ะค่ะ"

"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แมกไม้ได้พบคุณจิณณ์ในดินแดนแห่งไฟ..."

###

แมกไม้เมาค้าง

เธอดื่มไปตอนหัวค่ำ แต่ก็เพียงแค่เบียร์ผสมน้ำมะนาว ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เมาแอลกอฮอล์ อีกอย่างหนึ่ง...เธอไม่มีทางเมาแอลกอฮอล์ได้หรอก เพราะว่าเธอไม่ได้ดื่มเบียร์ผสมน้ำมะนาวจริง ๆ เพียงแต่ดื่มในโลกเสมือน กับเพื่อนที่ใช้หน้าตาเสมือน ขณะที่กำลังคุยถึงเรื่องอันเกิดอยู่ในดินแดนเสมือนเท่านั้นเอง

มีเรื่องเกิดในดินแดนเสมือนมากมาย...มากเหมือนกับที่เกิดในโลกจริง ๆ คนนั้นกับคนนี้รักกันมีเซ็กซ์กัน "แต่งงาน" และ "เลิกร้าง" ไป คนนั้นคนนี้ปลอมตัวเป็นคนอื่น ก่อเรื่องวุ่นวาย คนนั้นคนนี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่คนนั้นคนนี้ เพียงแต่อยากเป็นจึงได้แสร้งปลอมตัวมา แมกไม้คิดว่าโลกเสมือนเป็นสถานที่ประหลาดดี แม้แต่คนปรกติธรรมดา บางทีพออยู่ในโลกเสมือนแล้วจู่ ๆ กลับกลายเป็นอย่างอื่นก็มี โลกเสมือนไม่มีหน้าตา ทว่ากลับสามารถเลือกหน้ากากสวมใสได้มากมายตั้งร้อยพัน เป็นสิ่งที่อยากเป็น ปลดปล่อยความฝันสูงส่งและสันดานดิบต่ำช้า โอ้อวดยกหางตัวเอง หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นคนดีจริง ๆ ยิ่งกว่าที่คิดตนจะเป็นได้ โลกเสมือนไม่มีความเบื่อหน่าย ไม่มีความสิ้นสุด ไม่มีขีดจำกัดอะไรเลย

...หรือว่ามีกันแน่

เธอดื่มเบียร์ผสมน้ำมะนาว เธอออกไปท่องเที่ยวในที่สวยงาม หลบแวบหนึ่งไปสู่สถานบ้าคลั่งสำหรับปลดปล่อยตนเอง เดินทางสู่ดินแดนแล้วดินแดนเล่า ทั้งที่คุ้นเคยและที่ใหม่ ๆ ซึ่งเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก ใครบางคนพูดให้เธอฟัง...มีที่ใหม่ชื่อ "อนูบิส" มาสเตอร์ที่นั่นใช้รูปดิสเพลย์ตัวเองเป็นคนหัวหมา ที่นั่นเป็นแหล่งใต้ดิน แต่ว่าไปแล้วจะเป็นได้ทุกอย่างที่อยากเป็น...ไร้ขีดจำกัด บางทีพรุ่งนี้เธออาจจะแวะไปลอง

ท่องเที่ยวมากมายนักย่อมมึนเมา โลกนับร้อยนับพันผ่านเข้ามาจนจำไม่ได้ว่าอะไรเป็นความจริงหรือความลวง แมกไม้ใช้กำลังไปหมดสิ้น สนุกสนานสุดเหวี่ยง สุดท้ายแล้วเธอก็เมาค้างอยู่ที่ใดสักแห่งซึ่งอยู่ระหว่างแดน บนม้านั่ง ภายใต้แสงไฟสลัวเลือนราง

แมกไม้ไม่แน่ใจว่าตนควรกลับออกไปสักทีหรือไม่ หรือว่าควรไปที่ไหนต่อดี แต่เธอไม่ได้อยากกลับออกไป และสมองก็ตื้อตันเกินกว่าจะไปไหนต่อได้จริง ๆ

ตอนนั้นเอง ก็มีคนเข้ามาข้างหลัง จับแขนของเธอไว้ก่อนจะทันได้รู้ตัว

"ผมว่าคุณคงต้องออกแล้ว"

แมกไม้สะบัดแขน หันกลับไปมอง เห็นว่าเป็น "ตำรวจ" คนหนึ่งเท่านั้นเอง

"ฉันยังไม่อยากออก" เธอกระชากเสียง...ห้วน...ทว่าลากคำสุดท้ายยาวยียวน "จะมาทำไมหรือ"

"ถ้าไม่ออกไปจะไม่ดีต่อสุขภาพ อีกอย่างหนึ่ง ถึงจะใช้เวลาเสมือน แต่ตอนนี้ก็ใกล้เช้าแล้ว"

"บอกว่ายังไม่อยากออกไงเล่า"

"คุณครับ อย่าบังคับผมเลย" ตำรวจเริ่มเสียงเข้มขึ้น

...อย่ามาทำเสียงอย่างนั้นกับฉันนะ อย่ามาสั่งโน่นสั่งนี่ได้ไหม

"คุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ หากไม่ออกไป ผมจะต้องแจ้งผู้ปกครอง"

"พ่อฉันตายแล้ว!"

...ให้ตาย

ใช่...เธอเมาแล้วจริง ๆ แต่ที่อุตส่าห์เมานี่ก็เพื่อให้ลืมไม่ใช่หรือไง ทำไมเมาแล้วถึงพูดเรื่องนี้ออกมาได้อีก ทั้งที่อัดโลกเสมือนเข้าไปในสมองตั้งมากมาย ทำไมความจริงถึงยังหวนกลับมาอีกได้ ห่วยจริง ๆ ...ห่วยที่สุดในโลก

แมกไม้ร้องไห้ออกมา...น้ำตาที่กักไว้ห้าวันกับอีกสิบชั่วโมง อุตส่าห์นึกว่าแห้งหายไปแล้ว แต่ในที่สุดก็ไหลออกมาอยู่ดี พอเป็นอย่างนี้แล้ว เท่าไรเท่าไรก็ไม่ยอมหยุดเสียที เท่าไรเท่าไรก็ไม่ยอมแห้งหายไป

ห่วยจริง ๆ ...ห่วยจริง ๆ


Create Date : 09 มีนาคม 2551
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 0:39:10 น. 10 comments
Counter : 553 Pageviews.

 
ชอบจัง...

ชอบนิยายที่มีชื่อตัวละครเป็นชื่อไทย =w=

และชอบนิยายที่พี่แต่ง...

จะรอติดตามค่า... >w<

ปล. ไม่รู้ว่าทำไมอ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึง Silence Sound


โดย: kurobina IP: 125.26.123.28 วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:23:00:10 น.  

 
แอบซ่อนอะไรไว้ในเนื้อหาบ้างน้อ


โดย: อสิตา-แมวแป้ง IP: 124.121.205.213 วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:3:22:33 น.  

 
นี่มันไม่ใช่วรรณกรรมเด็กใช่ไหม?
:}


โดย: พิวจัง IP: 161.200.255.162 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:9:46:47 น.  

 
อ่านตอนแรกแล้วนึกถึงนางเอกในเรื่อง breafast at tiffany นางเอกต้องไปซิง-ซิงเพื่อพบผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งที่นั่น ไม่รู้ว่าอยากไปหรือเปล่า แต่ก็ต้องไป ไปคุย ไปฟังเค้าพูด ไปปรึกษาปัญหาชีวิตกับคนแปลกหน้า แต่ก็รู้สึกอุ่นใจพิลึก

รออ่านตอนใหม่จ๊ะ


โดย: พิวจัง IP: 161.200.255.162 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:9:50:07 น.  

 
เปล่าอะจ้า มันเป็นไซไฟ ^^'


โดย: เคียว IP: 128.86.158.253 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:22:33:37 น.  

 
อ่านแล้วเหงาๆ ไงไม่รู้


โดย: MOMIJI_99 วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:14:21:34 น.  

 
ตอนแรกนึกว่าในโลกเสมือนจะเละตุ้มเป๊ะซะอีก พอคุณตำรวจโผล่มา ถึงว่ายังมีกฎเกณฑ์มั่งนิ


โดย: wanderer IP: 125.27.214.187 วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:17:09:40 น.  

 
ไซไฟ ?
แล้วนี่แมกไม้หลุดเข้าไปในแดนพิศวงที่ไหนเนี่ย
มีอนุบิสเป็นมาสเตอร์
รอตอนต่อไปนะคะ
(ว่าแต่จะมีต่อใช่ไหม)

ยังงัยก็อย่าลืมสามฤดูนะคะ (ทวงนิยายซะงั้น!)


โดย: longata IP: 118.174.98.24 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:11:27:15 น.  

 
กรี๊ด

ไซไฟ ๆ
ปูเสื่อนอนรอตอนต่อไป (ที่คงจะมีอะไรอีกมากมาย)

คุณ kurobina พูดถึง Silence Sound แล้วจินตาก็ชักคิดถึงเหมือนกัน (แต่คิดถึงสองเงามากกว่า )

แย่แล้ว!! พี่ปันโดนทวงนิยายหลายเรื่องในคราวเดียว


โดย: จินตานุภาพ วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:12:38:08 น.  

 
เข้ามาดิ้นๆบอกว่าชอบ แล้วจากไปค่ะ ก้าก


โดย: สงซาย IP: 43.244.33.135 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:48:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.