The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
วานราสูร/ตรุ

ยามเด็กข้าซุกซน ยามรุ่นก็เป็นอันธพาลถืออำนาจ มีบริวารที่ข้าเองก็ทราบว่าไม่ได้ภักดีอย่างแท้จริง คนเช่นข้าย่อมท่องไปในที่ต่าง ๆ พอใจจะเห็น พอใจจะแสดงให้คนอื่นทราบว่าข้ามีความกล้าหาญ ในขวบปีเหล่านั้น ข้าทำเรื่องห่ามมากมายด้วยนึกเอาเองว่าคือความฉลาด คือสติปัญญา คือความเหนือกว่าคนทั้งปวง บางทีข้าคงเหมือนพ่อกระมัง และบางที ข้าอาจจะมีความไม่สบายอยู่ในใจ ข้าผู้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสิ่งใดกันแน่ ก็พยายามจะเป็นบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่สำคัญ

ในเวลาหลายปีนั้น มีหลายครั้งที่ข้าลักลอบเข้าไปในคุก ผ่านช่องน้อยและโพรงลับ ผ่านหลังราชมัลที่ไม่ทันเห็น และเพชฌฆาตที่มิได้สนใจ ผ่านไปยังแดนอันแปลกประหลาดที่เต็มไปด้วยคนโทษผมยาวรุงรัง กลิ่นเหม็นสาบสาง ความเจ็บปวดและความรุนแรง โลกของซี่กรง การสูญเสียอิสรภาพ การทำผิดและความเลว ครั้งหนึ่งข้าเคยลอบเข้าไปดูยามมีการทรมาน ตอกเล็บ บีบขมับ ใช้กะลามะพร้าวตบปาก ข้าเห็นโลหิต ชิ้นเนื้อ และซี่ฟันกระจายออกมา เห็นความแหลกเหลวขององคาพยพทั้งปวง ในใจข้าทั้งที่คิดว่าตนกล้าหาญมีความสามารถ กลับรู้สึกกลัวอย่างยิ่ง กลัวจนต้องถดถอยออกมา วิ่งไปหลบซ่อนในซอก ในห้องของแม่ ข้ากลัวสิ่งเหล่านั้นเพราะอะไรหรือ เพราะได้เห็นว่าโลหิตเลือดเนื้อไม่เที่ยงแท้ เพราะเห็นความเปราะบาง ข้าไม่ทราบหรอก

แต่นานหลังจากนั้น จิตใจของข้าก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ข้าเริ่มเฉยชายามได้เห็นความเจ็บปวดและความกลัว ข้าเริ่มคิดว่าตนควรเป็นนักรบ จึงหัดใช้กระบองและตรี อดทนต่อการฝึกฝนและความยากลำบาก ร่างกายข้ามีรอยช้ำและแผลเป็น ความกลัวก็บรรเทาเบาบางลง ร่างกายย่อมแตกสลาย เป็นความจริงเที่ยงแท้แน่นอน แต่จิตวิญญาณจะยังอยู่ หากว่าข้าไม่กลัว แม้ร่างกายเจ็บปวด ใจข้าก็จะไม่เป็นอะไร

พอถึงตอนนั้น ข้ามองนักโทษได้โดยไม่รู้สึกอะไรแล้ว ข้าอาจมองคนถูกทรมาน หรือถูกจำครบห้าประการ ข้าอาจมองการประหารชีวิต และเห็นโลหิตฉีดพุ่งสู่ท้องฟ้า ข้าไม่ได้ชอบดูภาพเหล่านั้น แต่ก็ไม่ได้กลัวอีกต่อไป เช่นเดียวกับที่นักรบทั้งปวงแห่งลงกา หรือขีดขิน หรือชมพู หรือแดนอื่นใดทั้งปวงไม่ได้กลัว ก็เป็นเช่นนั้นเอง

แต่ยามท้าวจักรวรรดิมารบตาข้า ยามที่ตาถูกยิง และถูกจับได้ ยามนั้นไม่เหมือนกัน ยามลงกาเป็นของท้าวจักรวรรดิ และตาของข้าถูกจำตรุ ข้ามีความกลัว ข้าไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร ในใจสับสนยิ่งนัก ไพนาอยู่ที่นั่น ข้างท้าวจักรวรรดิ มีความยิ่งใหญ่ภาคภูมิใจ ตาของข้าถูกใส่โซ่ตรวนนำออกไป ไพนาไม่ได้ทำอะไรข้า หรือแม่ หรือย่า ท้าวจักรวรรดิก็ไม่ได้ทำเช่นกัน สายตาของท้าวจักรวรรดิยามมองข้า มีเพียงความรู้สึกว่าเห็นสิ่งทุเรศไม่สลักสำคัญ ไอ้ลูกลักเพศของทหารราม ก็เพียงเท่านั้น ท้าวจักรวรรดิไม่ได้คิดทำลายข้า เขาไม่เคยทราบ เช่นเดียวกับที่คนลงกาทราบ ว่าพ่อของข้าเป็นคนอย่างไร

ยามท้าวจักรวรรดิมองข้าเช่นนั้น สายตาของไพนาก็สะท้อนสายตาเขา ไพนาก็มองข้าอย่างเหยียดหยามไม่เห็นค่าเช่นกัน แปลก ข้ารู้สึกแปลกอย่างยิ่ง ทางหนึ่งข้ารู้สึกราวถูกทำลายศักดิ์ศรี สูญเสียบางสิ่งไป ไพนาที่อ่อนแอไม่ร้องไห้อีกแล้ว ไม่นับถือข้าเป็นพี่อสุรผัดผู้กล้าหาญ ไพนาเห็นข้าเป็นไอ้ลักเพศเช่นเดียวกัน ท่ามกลางความโกรธและตื่นตระหนกในการพลัดร่างจากฐานะของตน ข้าก็เสียใจ ข้ารักไพนา...น้องชายของข้า ข้าไม่เข้าใจ

วรณีไม่ได้มองข้าเหมือนไพนา ข้าคิดว่าเธอสนใจ เธอสงสัยว่าข้าจะเปลี่ยนไปอย่างไร จะกลายเป็นอะไร เธอควรฆ่าข้าแต่ต้นมือ ควรทราบว่าหากปล่อยข้าไว้ ข้าอาจจะทำอะไร แต่เธอก็ไม่ได้ทำ เพียงแต่มอง และเบือนหน้าจากไป ข้าคิดว่าบางทีวรณีคงเล่นพนันกับโชคชะตา ไอ้ลักเพศนั้นจะกลายเป็นอะไร เธอเปลี่ยนไพนาสุริยวงศ์แล้ว ก็เปลี่ยนอสุรผัดได้เช่นกัน

ในความตกใจเคว้งคว้างอย่างยิ่งนั้น ข้ากลับตำหนักของแม่ ข้ากับแม่ไม่ได้พูดอะไรกัน เพียงฟังยายกล่าวมากมาย คำของยายเพียงผ่านหู เราไม่ได้ยินว่าท่านพูดอะไร เราจ้องหน้ากัน แม่ไม่ได้หายโกรธตา ในสิ่งที่ท่านทำ ในทางที่ท่านเลือก แต่แม่ก็เป็นลูกสาวของตา มีบางสิ่งที่ตัดไม่ได้ และไม่สูญหายไป อีกประการหนึ่ง ท่านก็เป็นมารดา ข้าเป็นเช่นนี้ หากตาเป็นกษัตริย์ย่อมไม่เป็นไร แต่หากไพนาเป็นกษัตริย์ หากท้าวจักรวรรดิเป็นใหญ่ อสุรผัดจะไปอยู่ที่ใด อสุรผัดบุตรของท่าน ที่ไม่ใช่ยักษ์ ที่ไม่ใช่ลิง

"ไปหาตาที่ตรุ" แม่บอกข้า "ไปหาในยามราตรี"

ข้าทำตามคำท่าน ค่ำคืนมืดมิด ข้าผ่านไปตามซอยน้อยและทางลับซึ่งนำสู่ตรุแห่งลงกา ข้าผ่านราชมัลและเพชฌฆาต ไปยังตรุที่ลึกที่สุด อับทึบแทบปราศจากช่องให้แสงผ่าน ที่นั่นข้าแปลงกายดังที่แม่สอน เป็นแมลงลอดผ่านช่องเล็ก และค้นหาตา ข้าพบท่านในห้องขังที่ไม่มีสิ่งใด ความมืดและความเงียบ ข้าเห็นรูปโครงของตา ตอนนั้นข้าคิดว่าท่านผอมอย่างยิ่ง ตาของข้า ตาที่สู้ใครไม่ได้แม้แต่คนเดียว

ข้ากลับเป็นตัวเอง ก้มลงกราบเท้าท่าน ตาจึงขยับตัว ข้าเห็นเครื่องจำทั้งห้าอย่าง เห็นตรวนที่มือและเท้า ขื่อคาและโซ่ร้อย ยังดีอยู่อย่างหนึ่งที่เขาไม่ได้ล่ามเอวท่านมัดขึงพ้นพื้นดังนักโทษทุเรศร้ายแรงที่สุด ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังคิดว่า...ไพนาทำอย่างนี้กับตา เขาคิดอะไร

"แม่บอกให้ข้าไปหาพ่อ พ่อจะขอให้พระรามมาช่วยเรา" ข้าบอกตาแผ่วเบา ยามอยู่ต่อหน้าคนทั้งปวง ข้าเรียกพระราม แต่ในใจข้า หรือต่อหน้าคนรู้จักสนิท ข้าเรียกเพียงราม ไม่ใช่เพราะข้าเห็นเขาดีหรือเลว เขาไม่ได้ดีหรือเลว เพียงต่อสู้เพื่อนำภรรยาของตนคืนไป แต่ข้าเป็นคนลงกา ในกายข้ามีบางสิ่งที่เป็นลงกาอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเป็นบุตรชายหนุมาน ข้าก็เป็นหลานชายของพิเภก กุมภกรรณ และทศกัณฐ์ รามเป็นเจ้าต่างเมือง ข้าเอง...ข้าก็มีศักดิ์ศรีของตน

"อย่างนั้นหรือ" ตารับในคอ

ท่านมองไปในความมืด ข้าไม่ทราบว่าท่านเห็นอะไร

"ข้ารู้อยู่แล้ว จะเป็นอย่างนี้" ตาบอกในที่สุด

"ตา..."

"มีเรื่องมากมายที่รู้อยู่แล้วว่าจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างไร แต่การรับรู้ช่างขัดแย้งกับการเป็นปุถุชน" ตาบอกข้าอย่างนั้น "อสุรผัด ยามเป็นปุถุชน ก็รัก ก็เกลียดชัง ก็ต้องการ ก็ปรารถนา ตัดสินใจผิดและถูกไปด้วยอัตตาและความโง่เขลาเบาปัญญาของตัวเอง"

"ตา" ข้าเรียกท่านอีกครั้ง ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงถามคำถามเหล่านั้นออกไป "เหตุใดท่านทอดทิ้งแม่ข้า ยอมให้พระรามประหาร เหตุใดท่านจึงแต่งงานกับนางมณโฑ"

ตาไม่ได้แปลกใจที่ข้าถามคำถามเหล่านั้นในเวลานี้ บางทีท่านอาจจะรออยู่ บางทีท่านอาจจะรู้แล้วกระมัง

"อย่าได้เห็นข้าเป็นตา เห็นข้าเป็นคนอ่อนแอสามัญ ทำได้หรือไม่" ตาถามข้า "อย่าได้เห็นว่าข้าแปลกกว่าคนอื่น เพราะมีความเกี่ยวพันใดกับเจ้า ข้าไม่มีคำแก้ตัวให้ตัวเอง อสุรผัด เรื่องเล่าจะบิดเบือนไปทุกครั้งที่เปลี่ยนคนเล่า ทุกครั้งที่เปลี่ยนสายตาที่มอง จงมองข้าด้วยดวงตาของเจ้าเอง หากประสงค์จะเข้าใจ"

ตาก็ยังไม่ตอบข้าอยู่นั่นเอง เพราะอะไร ข้าอยากฟังคำของท่าน ข้าอยากเชื่อตา แต่ตาไม่อนุญาตให้เป็นอย่างนั้น ไม่มีคำแก้ตัวให้ตัวเอง ไม่มีคำอุทรณ์จากจำเลย หากว่าตาข้าโลภในสิ่งที่ตนไม่เคยมี หากว่าตาข้าลอบรักนางมณโฑ หากว่าตาข้าเพียงคิดแต่งงานการเมืองโดยไม่แยแสความรู้สึกของผู้ใด นั่นก็เป็นความจริง เป็นความอ่อนแอ หากว่าตาข้าคิดปล่อยให้แม่ตายด้วยความกลัว หรือด้วยความเย็นชาปรารถนาเพียงให้แผนการสำเร็จ หรือเพียงเพราะทราบว่ารามจะไม่ฆ่าแม่ ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน ข้ามีตาที่แปลกประหลาดกว่าคนทั้งปวง แม้ตราบจนตลอดไปก็ไม่อาจเข้าใจความคิดและโลกของท่านได้หรอกกระมัง

"ให้ข้าสอนมนตร์สามคาบให้เจ้า" ตาข้าเอ่ยขึ้น "ไม่มีสิ่งใดจะสอนดีกว่านี้ หากว่าร่ายมนตร์ไป แม้พบเรื่องร้ายต้องบาดเจ็บ ก็จะรักษาตัวเองได้"

ตาข้าไม่สมบูรณ์ แต่ความรักของท่านเล่า สมบูรณ์หรือเปล่า ความรักของท่านต่อตัวข้า สิ่งประหลาดที่ไม่ใช่ยักษ์และไม่ใช่ลิง พระยาพิเภกซึ่งคนทั้งปวงไม่อาจเข้าใจ

"เมื่อไปพบพ่อเจ้า อย่าได้ตัดสินเขาเช่นกัน อย่าจำกัดด้วยคำว่าเป็นพ่อ คนเราก็เป็นอย่างนั้น เขาไม่ใช่พ่อที่ดี แต่ก็เป็นคนมีดีควรแก่การเคารพ แม้เชื่อในอิสระเสรีเกินกว่าจะมีครอบครัว เขาก็รักเจ้า เขาจะต้อนรับเจ้าอย่างดี จะทำตามที่เจ้าขอทุกประการ และจะยิ่งยินดีหากเจ้าคิดเรียนเป็นทหาร ตามรอยที่เขาเป็น"

"ตา หรือข้าไม่ควรพบพ่อ" ข้าถามออกไป "ข้าจะนำสงครามมา เราจะต้องรบกับลิงอีก ไม่ใช่หรือ"

"ถ้าอย่างนั้นก็อย่าได้นำมา"

แต่หากไม่นำมา ตาข้าจะเป็นอย่างไร อยู่ในตรุไปชั่วกาลนานหรือ ถูกจำครบห้าประการเช่นนี้ไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย ไพนาบอกท้าวจักรวรรดิว่าจะไม่ฆ่าตา เขาคิดว่านี่คือความกตัญญู

"หากข้ามีความสามารถมากกว่านี้" ข้าบอกตา "ข้าจะพาท่านออกไป ไปกับแม่ กับยาย เราไปด้วยกัน ห่างไกลจากที่นี่ จากทุกสิ่งทั้งปวง ยักษ์รบกับลิงแล้วเป็นอย่างไร ข้าไม่ต้องการจะสนใจ"

ตาข้ามองมา ครั้นแล้วท่านก็ยื่นมือติดตรวน ลูบศีรษะข้า

ตารู้ดีเกินกว่าจะพูดหรือ เรื่องอนาคตเหล่านั้น สิ่งที่รอข้าอยู่ เรื่องราวที่จะำไปสู่เรื่องราว ตารู้ดีเกินกว่าจะพูดอะไร ดังนั้นท่านจึงแสดงความรักข้า เพราะมีเพียงสิ่งนั้นที่ทำได้ มีเพียงสิ่งนั้นที่สำคัญ

โลกก็เป็นอย่างนั้นเอง


Create Date : 05 มกราคม 2553
Last Update : 5 มกราคม 2553 23:14:37 น. 0 comments
Counter : 579 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.