คงจะไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเท่ากับวันนี้สังคมไทยมีความเห็นที่แตกต่างกัน แล้วนำไปสู่การแตกแยก แบ่งพรรค แบ่งพวกกันในสังคม ตั้งแต่ระดับประเทศลงไปสู่ระดับภูมิภาคแล้ว


ความแตกแยกระดับประเทศคือความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่สามารถเข้าใจกันได้ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และระหว่างพรรคพลังประชาชน กับ พรรคประชาธิปัตย์


ในส่วนของกลุ่มประชาชนก็มีเครือข่ายมากมายนับไม่ถ้วนที่ก่อตั้งกันขึ้นมา เพื่อแสดงความเห็นทางการเมือง อาทิ นปช.หรือ นปก. (แนวร่วมประชาธิปไตยเพื่อต่อต้านเผด็จการ) แม้กระทั่งล่าสุดองค์กรทางการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย คืออธิการบดีรวมตัวกันจำนวน 24 มหาวิทยาลัย ก็มาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วย


ในทางสากลเรายอมรับกันทั่วโลกว่า ระบอบประชาธิปไตย ประชาชนสามารถมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ สามารถแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะชนได้ แต่ไม่ควรจะนำเอาความคิดเห็นที่แตกต่างกันนั้น มาเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม


จากข้อมูลข่าวสารที่เสนอโดยสื่อโทรทัศน์ทุกช่อง รายงานว่าขณะนี้ความแตกแยกได้ขยายวงกว้างลงไปถึงระดับภูมิภาคแล้ว หลายจังหวัดมีการแบ่งกลุ่มแตกแยกกันอย่างชัดเจน เช่น จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีษะเกษ ล่าสุดคือ เชียงใหม่ ฯลฯ และมีแนวโน้มที่จะแบ่งแยกกันทุกจังหวัด



ถึงวันนี้ก็ไม่ทราบว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะยุติลงได้อย่างไร ใครจะมาเป็นคนกลางที่จะสามารถนำทุกฝ่ายที่มีความเห็นแตกต่างกัน มานั่งจับเข่าคุยกันด้วยภาษาดอกไม้

ผลกระทบที่ประเทศชาติได้รับอย่างรุนแรงแสนสาหัสคือ ภาวะตกต่ำทางด้านเศรษบกิจการค้า การท่องเที่ยว การลงทุนจากต่างชาติ ฯลฯ




ประชาชนคนหาเช้ากินค่ำ หรือที่ดัดจริตเรียกกันว่า ระดับรากหญ้านั้น คงไม่ต้องไปพูดถึง พวกเขาเหล่านั้นจะทำได้ก็คือ สวดมนต์ไหว้พระ วิงวอนให้สิ่งศักดิ์ในเมืองไทย เช่น พระสยามเทวาธิราช พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และพระบารมีของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ ได้โปรดช่วยปกปักรักษาให้เมืองไทยอยู่รอดปลอดภัย จากความแตกแยกที่เกิดขึ้นทั่วทุกหย่อมหญ้าด้วยเถิด