วันอาทิตย์แล้วนะ
แทบจะกรี๊ดลั่นห้อง เพราะเมื่อกี้ผมอัพบล๊อคใกล้จะเสร็จแล้ว

แต่ดันเน็ตหลุดครับ ต้องเริ่มกันใหม่ทั้งหมด

โอ้วจะจำได้หรือเปล่าว่าเขียนเรื่องอะไรไปบ้าง

ยิ่งที่หลงขี้ลืมอยู่ช่วงนี้ แต่ที่จำได้แน่ๆ

คือผมเขียนเรื่องราววันอาทิตย์ของผม เมื่อก่อนกับตอนนี้

ตอนผมเป็นเด็กๆ วันอาทิตย์จะเป็นวันที่ป๊ากับหม้าต้องไปซื้อของเข้าบ้านที่ Food Land แถวๆบ้าน

ผมจะลงมาแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวแล้วนั่งดูทีวีรออยู่ที่ห้องรับแขก

เพราะใครเดินไปเดินมาในบ้านผมจะเห็น

นั่งกันเป็นป้อมปราการเลยทีเดียว เพราะป๊าชอบเบี้ยวไปบ่ายๆ

แต่ผมเองอยากไปเร็วๆ เพราะผมจะได้เลือกขนม

และได้กินไอติมอร่อยๆ ตอนขากลับ สมัยก่อนบ้านผมจะผ่านร้านไอติม

และผมเองก็เล็งด้วยสายตาทุกครั้งให้หม้ากับป๊าจอดรถ

และแน่นอนเมื่อไรที่ถึงที่จอดผมจะรีบไปเปิดประตูให้หม้าก่อนเลย

เพราะว่าคนจ่ายตังนี้น่า ป๊าเป็นคนไม่ชอบไปห้างไม่ว่าที่ไหนก็แล้วแต่

เพราะป๊าเองจะบอกว่าทำไมต้องแย่งกันกิน แย่งกันจ่าย

แต่พอหม้าบอกว่าจะไปซื้อของ ป๊าจะยิ้มและบอกว่า

"ได้ครับเดี๋ยวไปเอากุญแจรถก่อนนะครับ"

ผมเคยถามป๊าว่าทำไมละในเมื่อไม่ชอบก็ไม่ต้องไปสิครับ ป๊าตอบแค่ว่า

"ไปซื้อของ ก็ของหลายอย่าง และเป็นของที่หม้าเค้าซื้อมาใช้ที่บ้านนะ เราจะไม่ช่วยเค้าถือ ไม่ช่วยเค้าเลือก เพียงเพราะว่าเราไม่ชอบและไม่อยากไป ทั้งหมดตกอยู่กับหม้าทั้งหมด รักหม้ารึเปล่าละ แล้วถ้าเราไปเค้าก็ไม่เหนื่อยมาก ไม่ต้องขนของขึ้นรถเอง ไม่ต้องขับรถเองนั่งสบายๆ ซื้อของแวะกินอะไรกันกลับบ้าน ได้เห็นรอยยิ้มของเค้าคุ้มจะตาย"


ผมนี้ทำหน้ามึนๆ แล้วบอกว่า แค่รอยยิ้มคุ้มจะตาย จริงอะ

(แต่ในใจผมคิดแค่ว่า วันหลังเวลาผมจะขอตังป๊าผมจะยิ้มแล้วจะบอกว่า

ป๊าให้ตังผม ผมยิ้มป๊าคุ้มจะตาย 555) แต่ก็ไม่เคยทำสักที

จนมาวันนี้ที่ผมมีคุณ เวลาที่ผมทำอะไรให้หรือเวลาที่ผมได้ดูแลคุณ

ได้เห็นรอยยิ้มของคุณ อ๋อมันเป็นแบบนี้นี่เองที่บอกว่าคุ้มจะตาย

จริงๆนะ เพราะเมื่อไรที่คุณยิ้มให้ผม มันเหมือนโลกนี้น่าอยู่และสดใสขึ้นทันทีเลย ที่เหนื่อยๆอยู่หายเหนื่อยไปเลย

เพราะแบบนี้นี่เองที่เรามักจะห่วงรอยยิ้มของคนที่เรารัก

เค้าอาจยิ้มให้คนอื่น หรือเพื่อนหรือใครต่อใคร แต่ลองสังเกตุดีๆว่าเวลาที่เค้ายิ้มให้เรา มันจะไม่เหมือนที่เค้ายิ้มให้อื่น (ถ้าเค้ารักเรานะ)

ผมเองก็ไม่เคยรู้เพิ่งมาสังเกตุและคำสอนต่างๆของป๊าและคำพูดของป๊าก็พูดขึ้นในหัวมากมาย

นี้และการเริ่มต้นในครอบครัวที่ฐานแข็งแรง ผมว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง

ผมไม่เคยเห็นป๊ากับแม่ทะเลาะกันเลย ตั้งแต่เล็กจนโต

เสียงดังใส่กันก็ไม่เคย อาจจะมีงอนกันบ้างในบางที

ป๊ากับหม้าสอนผมว่า "อย่าโกรธใครจะตะวันตกดิน"

เพราะเราไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่เค้าอยู่คนเดียว เค้าคิดหรือทำอะไรไปแล้วบ้าง"

ถ้าเรารักเค้าเราคงไม่ปล่อยให้เค้าอยู่ในความคิดของตัวเองอยู่แบบนั้นแน่ๆ

ผมว่าจริงนะ ผมเองพอเห็นคุณหนิงทำหน้าเครียด

ผมมักจะถามว่าเป็นไรมั้ย บอกผมได้นะ มีเรื่องอะไร

แต่คำตอบที่ได้เสมอคือ "ไม่เป็นไร คุณหนิงสบายดี"

แบบนี้ทุกที แต่ทีผมเรียกผม "นายเปล่า" ทุกที

นะคนเราที่ตัวเองบ้างนะ "นางสาวไม่เป็นไร"

ผมอยากทำให้ทุกวันของคุณหนิงยิ้มได้แบบนี้ไปทุกวันนะครับ

ผมรู้ว่าผมมีใครที่จะเดินไปกับยิ้มและหัวเราะไปด้วยกัน

ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของคุณหนิงเลย

อยากให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขนะครับ ผมจะพยายามและทำทุกอย่าง

ที่จะให้คุณหนิงเป็นผู้หญิงคนนั้นครับ

P.s วันนี้เจอกันนะครับ วันนี้วันอาทิตย์แล้ว





Create Date : 23 พฤษภาคม 2553
Last Update : 23 พฤษภาคม 2553 9:00:56 น.
Counter : 781 Pageviews.

0 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
The Last Thing on My Mind - Tom Paxton ... ความหมาย tuk-tuk@korat
(1 ม.ค. 2567 14:50:49 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Winggang.BlogGang.com

wingang
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด