Hub
Hub ในความหมายของภาษาอังกฤษ หมายถึงจุดศูนย์กลาง ศูนย์รวม

วันนี้ผมกำลังกลับมามองตัวเองว่าผมเป็นศูนย์กลางของหลายๆเรื่อง

หรือเปล่า ผมรับเอาความรู้สึกและอารมณ์ของคนอื่นมามากเกินไปหรือเปล่า

ผมรู้ว่าในบางคำพูดและในบางความคิดของผมอาจจะทำให้ใครหลายๆคน

ข้างตัวผมไม่พอใจและไม่ชอบใจ แต่ก็นั่นแหละตัวผม ผมเป็นคนพูดตรงๆ

อาจจะแรงไป ผมโกหกไม่เป็นเสแสร้งประชดประชัน ผมไม่ทำ มีอะไรผม

ใส่ๆ ตรงๆ แรงๆไปเลย คุณบอกผมวันนี้ว่าผมเป็นดุเหมือนกันเนอะ อาจจะใช่

ในมุมมองของใครหลายๆคน แต่ผมเองก็เป็นแบบนี้แหละ รักใครรักหมดใจ

ผมแบ่งไม่เป็น ถ้าไม่รักคือ 0 เลย เย็นนี้มีเวลาอยู่ด้วยกัน ตอนที่อยู่ด้วยกัน

มันก็ดีแหละ แต่พอเราต้องไปเจอคนที่เราไม่อยากเจอ ไม่อยากไป

ทานข้าวด้วย ผมเริ่มมีอาการแสดงออกทางสีหน้าบ้าง แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์

ไม่อยากให้ใครไม่สบายใจ ผมเองก็แคร์คุณหนิงนะ หันไปมองเรื่อยๆ

แต่พอเราขับรถกลับบ้านกัน ผมรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง เหมือนมี

อะไรที่กำลังกัดกินใจผมอยู่ จนผมรู้สึกไม่ดีเลยและสิ่งเดียวที่ผมต้องการ

คือกำลังใจจากคุณเพื่อชนะตัวเองให้ได้ อย่าคิดฟุ้งซ่าน อย่าคิดมาก

อย่าน้อยใจ อย่าไร้สาระ อย่าทำให้เค้ารำคาญ อย่าทำให้เค้าเบื่อ

และหมดสนุก เพราะวันนี้มันก็แย่พออยู่แล้ว ผมเองตอบตัวเองไม่ได้ว่า

ตอนนี้ผมรู้สึกยังไง เหมือนตัวเองเป็นศูนย์รวมของความทุกข์ หรือเปล่าไม่รู้

แต่ที่รู้ ผมเองไม่เคยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล แต่จะมองตัวเอง

ว่าเป็นแค่ดาวเล็กๆดวงหนึ่งที่พยายามจะส่องแสง ให้กลางคืนมันสวยงาม

โดยที่ไม่ต้องมีใครมาเห็นผม ตั้งชื่อให้ผม เอาผมไปรวมอยู่ในดาวหลายๆ

ดวงเพื่อให้ผมเป็นกลุ่มดาว ผมเองอยากมีชีวิตอสิระ เคยมั้ยที่มองออกไป

นอกหน้าต่างแล้วมันเหงาจับใจ เคยมั้ยที่กลับมาบ้านแล้วถามตัวเองว่าจะทำอะไรดี

ให้ไม่เหงา ไม่เครียด ผมเลือกที่จะอัพบล๊อก ผมคิดแค่ว่าอย่างน้อย

มันก็เป็นพื้นที่ของผมที่ผมใช้ระบาย และเขียนความรู้สึกของผมลงไป

นอกหน้าต่างลมพัดแรงเหมือนฝนกำลังจะตกเลย แต่ถ้าตกจริงก็ดี

อากาศดี ผมชอบอากาศหลังฝนตก มันจะได้กลิ่นไอดิน นึกถึงสมัยผม

เด็กๆตอนที่ป๊ากำลังจะสร้างบ้าน ผมชอบขับรถมาดูกับป๊า ฟังป๊าเล่านั่น

เล่านี้ระหว่างขับรถ วันไหนที่ฝนตกนะ พอฝนหยุดตก ผมจะออกไปยืนพ้นหลังคาบ้าน

เพื่อสูดเอากลิ่นไอดินให้เต็มปอด โดยจะมีป๊ายืนหัวเราะอยู่ไม่ไกลสายตานัก

ส่วนแม่ผมเหรอขานั้นนานๆจะมาที เพราะเค้าจะพูดเสมอว่าเค้าไว้ใจป๊า

เพราะว่าป๊าเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เค้าเสมอ เอาใช้สมองและเวลาคิดมาแล้วไง

ก่อนที่จะเลือกป๊า พอตัดสินใจเลือกไปแล้ว เค้าดีสำหรับเรา

แน่นอนเค้าจะเลือกอะไรที่เหมาะกับเราด้วย ตอนนั้นผมนี้มองหน้าป๊า

แล้วแบบว่า กล้าพูดจริงๆ แต่ป๊ากลับยิ้มตอบแล้วก็ "จ้า ครับๆ" ตามเดิม

ผมอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนที่ผมเคยอยู่มาเด็กๆ แต่ผมเองก็

คิดเสมอนะว่า ผมไม่อยากมีลูก เพราะผมกลัวว่าถ้ามีผมจะดูแลเค้าได้ดีเท่าที่ป๊าแม่ดูแลผมรึเปล่า

ลูกไม่สบาย ร้องไห้ จะทนได้รึเปล่า เพราะแค่ทุกวันนี้คุณหนิงป่วย ไม่สบาย

ผมยังแทบทำอะไรไม่ถูกเลย จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย

แล้วถ้าเป็นลูกคงแย่แน่ๆเลยผมว่านะ เฮ้ย! ถอนหายใจหนึ่งที คิดสะว่า

เดี๋ยวมันก็ผ่านไปหลับสะตื่นขึ้นมาจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดออะไรแบบนี้อีกรู้มั้ย(ผมบอกกับตัวเอง)

P.s ผมไม่อยากอ่อนไหวอะไรแบบนี้เลย ผมขอโทษนะครับ





Create Date : 29 พฤษภาคม 2553
Last Update : 29 พฤษภาคม 2553 22:01:03 น.
Counter : 891 Pageviews.

0 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
The Last Thing on My Mind - Tom Paxton ... ความหมาย tuk-tuk@korat
(1 ม.ค. 2567 14:50:49 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Winggang.BlogGang.com

wingang
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด