ผลของความก้าวหน้าทางวัตถุต่อการกระจายเศรษฐทรัพย์
ผลของความก้าวหน้าทางวัตถุต่อการกระจายเศรษฐทรัพย์
(จาก ความก้าวหน้ากับความยากจน ฉบับ supercondensed ที่ //utopiathai.webs.com/PPsupercondensed.html )

โดยที่เศรษฐทรัพย์ทุกรูปแบบคือผลผลิตของแรงงานซึ่งกระทำต่อที่ดินหรือผลผลิตของที่ดิน
ดังนั้นเมื่ออุปสงค์ในเศรษฐทรัพย์ไม่รู้จักพอเพียง
ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของแรงงานก็จะถูกใช้ไปในการจัดหาเศรษฐทรัพย์ให้มากขึ้น
และทำให้เกิดอุปสงค์ในที่ดินมากขึ้น

และโดยที่เราไม่สามารถจะกำหนดขอบเขตจำกัดให้แก่ความก้าวหน้าในการค้นคิดประดิษฐ์ได้
เราก็ไม่สามารถจะกำหนดขอบเขตจำกัดให้แก่การเพิ่มค่าเช่าได้ นอกจากผลผลิตทั้งสิ้น
เพราะว่าถ้าการประหยัดแรงงานดำเนินต่อไปจนกระทั่งถึงจุดที่สมบูรณ์ที่สุด
และไม่จำเป็นจะต้องใช้แรงงานในการผลิตเศรษฐทรัพย์ต่อไปแล้ว
เราก็จะได้รับทุกสิ่งที่โลกจะสามารถให้ได้โดยไม่ต้องใช้แรงงานเลย…
และไม่ว่าจำนวนประชากรจะมีน้อยเพียงไร ถ้ายังคงมีผู้ที่มิใช่เจ้าของที่ดินอยู่แล้ว
ก็จะขึ้นอยู่กับอารมณ์หรือความกรุณาของเจ้าของที่ดิน
กล่าวคือบุคคลเหล่านี้จะถูกเลี้ยงไว้เพื่อความหรรษาของเจ้าของที่ดิน
หรือไม่ก็ด้วยความโอบเอื้อของเจ้าของที่ดิน ในฐานะยาจก …

จุดแห่งการทุ่นแรงงานที่สมบูรณ์เช่นนี้อาจจะอยู่ห่างไกลมากหรืออาจจะไม่มีวันไปถึงได้เลย
แต่ก็เป็นจุดที่การค้นคิดประดิษฐ์กำลังมีแนวโน้มเข้าไปหาอยู่ทุกขณะ …

ความเจริญก้าวหน้าซึ่งทำให้ค่าเช่าสูงขึ้นนั้นมิใช่จะมีแต่ความเจริญก้าวหน้าที่เพิ่มความสามารถในการผลิตโดยตรงเท่านั้น
แต่รวมถึงความเจริญก้าวหน้าในการปกครอง มารยาทและศีลธรรม ซึ่งเพิ่มความสามารถในการผลิตโดยทางอ้อมด้วย
ผลของสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ก็คือจะเพิ่มความสามารถในการผลิตขึ้น
และเช่นเดียวกับความเจริญก้าวหน้าในการช่างผลิตกรรม
ผลประโยชน์ของสิ่งเหล่านี้ย่อมจะถูกผู้ครอบครองที่ดินผูกขาดเอาไปในที่สุด…
และถ้าเจ้าหน้าที่ปกครองที่คดโกงแห่งเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐฯ จะทำตัวอย่างแห่งความบริสุทธิ์และการประหยัดแล้ว
ผลก็จะเป็นเพียงทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นเท่านั้น มิใช่ว่าจะยกระดับค่าแรงหรือดอกเบี้ยขึ้นเลย

(ผลของความก้าวหน้าเช่นนี้จะเป็นจริงสำหรับระบบภาษีและการถือครองที่ดินดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
คือมิได้แก้ไขให้มุ่งเก็บภาษีมูลค่าที่ดินและลด-เลิกภาษีเงินได้และภาษีการลงแรงลงทุนผลิตและค้า
ตามข้อเสนอของเฮนรี จอร์จ)



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2552 14:38:35 น.
Counter : 599 Pageviews.

1 comments
  
ลองคิดภาพสังคมที่เจริญถึงขั้นหุ่นยนต์ทำงานแทนมนุษย์

ลองนึกภาพดูว่าสังคมจะมีลักษณะอย่างไร ถ้าเทคโนโลยีการผลิตสินค้าและบริการเจริญก้าวหน้ามาก
มีเครื่องจักรกลและหุ่นยนต์ทำงานและควบคุมดูแลการทำงานผลิตสินค้า
ตั้งแต่การเกษตร การดึงวัตถุดิบมาจากพื้นโลก อุตสาหกรรม การขนส่ง และการค้าขายที่รวมถึงการค้าปลีก
ตลอดจนการบริการชนิดต่างๆ และ . . . การกำจัดขยะและมลพิษที่เกิดจากการทำงานของเครื่องจักรกล
หุ่นยนต์ และการกินอยู่ของมนุษย์ รวมทั้งชิ้นส่วนเก่าๆ ของเครื่องจักรกล หุ่นยนต์ และมนุษย์เอง

คงจะดูเหมือนยุคพระศรีอาริย์
มนุษย์คงแทบไม่ต้องทำงาน

แต่ . . ถ้าไม่ทำงานจะได้เงินมาซื้อสินค้าและบริการหรือ?
ใครจะให้เงินมาฟรี ๆ ?
นายทุนเขาก็ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน
เจ้าของที่ดินก็ต้องการผลตอบแทนจากที่ดินของเขา

ความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด
ยิ่งมีความต้องการก็ยิ่งต้องใช้ที่ดินมาก
บ้านพวกเขาต้องหรูหราอ่าโอ่ ตั้งอยู่กลางสวน มีสนามเทนนิส
สระว่ายน้ำ สปา เซาน่า ห้องพักรับรองแขก ฯลฯ
มีบ้านพักตากอากาศ มีเรือสำราญ หรือขอขึ้นอวกาศสักหน
ถ้าเป็นนายทุนก็ขอมีที่ดินไว้เป็นหลักประกันยามแก่เฒ่าด้วย
เจ้าของที่ดินก็อาจเป็นนายทุนไปพร้อมกัน

แรงงานที่มีฝีมือและแรงงานใช้สมองอาจได้ผลตอบแทนมาก
สามารถเป็นเจ้าของที่ดิน หรือ/และ นายทุนไปแล้ว

คนที่ไร้ที่ดินไร้ทุนคงมีแต่แรงงานชั้นล่าง
แม้จะเข้ายุคพระศรีอาริย์ก็ต้องพยายามหางานทำ
แต่งานแทบไม่มีให้ทำเสียแล้ว
อยากอยู่ในสังคมเมืองที่มีแสงสีศิวิไล
ที่ปลอดภัย สะดวกสบาย มีสิ่งน่ารื่นรมย์นานาชนิด
ก็คงเป็นไปได้เฉพาะแรงสมองแรงกายที่มีความรู้ความชำนาญสูง
นอกนั้นคงต้องออกไปหางานทำไกลสังคมเมือง
ทั้งที่พวกเขามีส่วนร่วมสร้างเมืองทำให้ที่ดินในเมืองสูงค่าขึ้นมา
พวกเขาอาจถึงต้องไปยังที่ดินชายขอบ !

ที่ดินชายขอบ !
เมื่อเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า การผลิตก็ขยายไกลเมืองออกไป
ชายขอบเดิมที่ไม่มีราคาเพราะไม่ค่อยมีคนใช้ ก็มีราคาขึ้นมา
ที่ดินที่มีราคาอยู่แล้วก็มีราคาสูงขึ้นตามส่วนไปด้วยกัน
ที่ดินชายขอบใหม่มักให้ผลผลิตเป็นค่าแรงลดลง
(แต่ก็มีคนไปจับจองไว้ก่อนแล้ว)

ยุคพระศรีอาริย์ อนาคตแรงงานชั้นล่างกลับยิ่งดูมืดมัว
ความเจริญก้าวหน้าดูว่าจะต้องมีความยากจนเกิดขึ้นตามมา
ทั้ง ๆ ที่ผู้ทำงานและผู้ลงทุนร่วมกันผลิต สร้าง ซื้อ ขาย เช่า ให้เช่า
และจ่ายภาษีบำรุงสังคม เช่นเอาไปสร้างถนน ประปา ไฟฟ้า
ยิ่งเจริญ ยิ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ดินยิ่งมีราคา/ค่าเช่า
ผู้ทำงานและผู้ลงทุนควรได้ผลตอบแทนนี้ ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน

เจ้าของที่ดินหามีส่วนในการผลิตไม่ จึงมิใช่ผู้ทำให้ที่ดินมีค่า
(ยกเว้นที่ราคาสูงเพราะการเก็งกำไร)
การซื้อที่ดินหาใช่การลงทุนผลิต
เป็นเพียงการสืบต่อสิทธิ์เรียกผลตอบแทนจากผู้ผลิต
ภาษีซึ่งเจ้าของที่ดินจ่ายก็มาจากผู้ผลิต
ผู้ผลิตต้องเลี้ยงดูเจ้าของที่ดินด้วยค่าเช่าที่สูงขึ้น ๆ ไม่สิ้นสุดหรือ ?
ภาระนี้ทำให้ผู้มีแต่แรงงานชั้นล่างพ้นจากความจนได้ยาก

ก็ถูก – ใครใช้ที่ดินดีเลวมากน้อยเท่าไรควรเสียค่าเช่าตามส่วน
แต่ค่าเช่านี้ทำไมจึงปล่อยให้เจ้าของที่ดินได้ไปไม่มีวันสิ้นสุด
และนับวันยิ่งมากขึ้น ๆ จริงอยู่เขาอาจต้องเสียเงินซื้อหาที่ดิน
ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย ใคร ๆ ที่มีเงินก็มักทำกัน แต่มันไม่เป็นธรรม
จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยผู้ลงแรงลงทุนผลิตหรือ ?
ช่วยให้เขาได้ความเป็นธรรม – ไม่ใช่ช่วยให้ได้เปรียบผู้อื่น
อย่างที่เจ้าของที่ดินได้เปรียบมาตลอด

วิธีแก้ไม่ใช่จัดสรรที่ดินให้คนจน เพราะมีคนเกิดใหม่เรื่อย ๆ
แต่ควรเก็บภาษีจากเจ้าของที่ดินเท่าค่าเช่าตามที่ควรเป็น
และติดตามแก้ไขให้ทันสมัยเป็นระยะ ๆ
แต่เพื่อมิให้เจ้าของที่ดินเดือดร้อนมาก
ควรใช้วิธีค่อย ๆ ลดความได้เปรียบของเจ้าของที่ดิน
โดยค่อย ๆ เพิ่มภาษีที่ดินอาจเป็นปีละ 2-3 % ของค่าเช่า
แล้วนำมาแจกราษฎรทุกคนเท่า ๆ กัน
หรือลด/เลิกภาษีการลงแรงลงทุนชดเชยกับภาษีที่ดินที่เพิ่ม
หรือจะแบ่งทำทั้งสองอย่างก็ได้ - แล้วแต่เสียงข้างมาก

ถ้าทำแบบนี้ไม่ต้องกลัวหุ่นยนต์มาแย่งงานมนุษย์
ทุกคนจะมีสุขเหมือนถึงยุคพระศรีอาริย์
เพราะทุกคนจะเสมือนเป็นเจ้าของที่ดินเท่าเทียมกัน
แม้ไม่ได้ทำงานก็มีรายได้ . . จากที่ดิน.
โดย: สุธน หิญ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:55:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Utopiathai.BlogGang.com

สุธน หิญ
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด