ปฏิรูปการศึกษา I : เรื่องทั่วไป
จากที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนชาวต่างชาติ และผู้มีประสบการณ์ตรงที่อาศัยอยู่ต่างแดน รวมไปถึงในแวดวงการศึกษา ทำให้ต้องมองย้อนกลับมาในเรื่องระบบการศึกษาไทย แน่นอนว่าจุดด้อยตรึม วันนี้มาถกประเด็นเครียดเกี่ยวกับเรื่องการศึกษากัน

ผมได้ชมสารคดีชุดหนึ่งเรื่องประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งกล่าวถึงโรงเรียนในชนบทซึ่งมีนักเรียนไม่ถึง 10 คน และมีครูแค่เพียงคนเดียว นักเรียนก็เรียนต่างระดับชั้นกัน ตั้งแต่ประถม-มัธยม แต่เขามีเครื่องมือพร้อม ครูก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี สามารถสอนนักเรียนที่มีความรู้แตกต่างกันในชั้นเรียนได้ แปลกดีครับ

ปัจจัยที่ต้องพร้อมในระบบการศึกษาคือ "ครู" ทุกอย่างพร้อมครูไม่พร้อมคือจบ ครั้งนี้ขอพูดถึงประเด็นที่ยังไม่เกี่ยวข้องกับครูก่อนนะครับ


จำนวนนักเรียนในหนึ่งห้อง
คิดว่ากี่คนถึงจะเรียกว่าเหมาะสม ข้อนี้หาตัวเลขที่ทุกคนพอใจได้ยาก ง่ายๆ เลยถ้าครูสามารถจำชื่อนักเรียนในห้องนั้นได้ทุกคนก็ถือว่าสอบผ่านครับ จะกี่คนก็ได้ แต่ในความคิดผมอยู่ที่ 20-25 คนกำลังดี

ทำไมจึงควรจำกัดจำนวนนักเรียนต่อห้อง? ก็เพื่อที่ครูจะสามารถควบคุมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการทำงานของครูจะได้ไม่หนักจนเกินไป (ปัญหานี้วกมาที่ครู)


ห้องเรียน
ทราบหรือไม่ว่าหลายโรงเรียนห้องเรียน โต๊ะ อุปกรณ์ไม่พอ เมื่อไม่พอการเดินเรียนจึงเกิดขึ้น และทำเกิดปัญหาตามมา กว่าจะไปถึงห้องกว่าจะนั่งกว่าจะหาโต๊ะเก้าอี้ กว่าจะพร้อม บางครั้งไปถึงห้องปรากฏว่าห้องนั้นยังไม่เลิก ทำให้ต้องรอหน้าห้อง คนเมื่ออยู่รวมกันหลายคนก็ย่อมเกิดเสียง หลายครั้งครูที่อยู่ในห้องไม่มีท่าทีจะเลิก ก็รอกันไปรอกันมาเสียทั้งเวลาเสียทั้งสุขภาพจิตเสียกันทุกฝ่าย

ทางที่ดีควรกำหนดห้องให้นักเรียนนั่งอยู่ในห้องแล้วให้ครูเท่านั้นที่ต้องเดิน แบบนี้จะสะดวกกว่า นักเรียนจะได้ไม่ต้องแอบใช้ลิฟต์ด้วย หากเป็นชั่วโมงกิจกรรม คหกรรม พลศึกษาที่ต้องใช้ห้องเฉพาะ หรือสถานที่เฉพาะ แบบนั้นค่อยให้ย้ายที่ การที่นักเรียนเรียนห้องประจำ มีข้อดีหลายเรื่อง ไม่ต้องไปแย่งใช้ลิฟต์กับครู นักเรียนก็ไม่ต้องเดินไปเดินมาจนบางครั้งไปรบกวนห้องอื่น ยังไม่รวมไปถึงปัญหาเรื่องโต๊ะเก้าอี้ที่อาจไม่พอ จนต้องไปลากมาจากห้องเรียนห้องอื่น ทำให้เกิดเสียง และเสียเวลาในการเรียน แน่นอนครูบางคนมักอารมณ์เสียกับเรื่องแบบนี้ทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของนักเรียน (ปัญหานี้วกมาที่ครู)


ระบบการศึกษา
ความจริงจะหลักสูตรที่เน้นให้ท่องจำ หรือหลักสูตรใหม่ที่ให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางจำนวนคนในห้องก็ไม่ควรมากเกินไป ยิ่งระบบการศึกษาแบบให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง สมัยผมระบบนี้เพิ่งเริ่มใช้ใหม่ๆ ซึ่งก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง กิจกรรมในห้องเรียนทำได้ยาก เนื่องจากจำนวนนักเรียนมากเกินไป และครูมักอ้างเรื่องจำนวนนักเรียนทำให้สอนตามแผนไม่ได้ น่าเห็นใจครูในเรื่องนี้ (ปัญหานี้วกมาที่ครู)


กิจกรรม
สำหรับชั่วโมงกิจกรรม กิจกรรมไม่เป็นที่น่าสนใจ สมัยก่อนจะเข้ากิจกรรมไหนส่วนมากนักเรียนจะดูว่าครูที่ปรึกษากิจกรรมคือใครแล้วเลือก ไม่ได้เลือกเพราะชอบ กิจกรรมที่น่าสนใจ หรือชื่นชอบคนเยอะ จนที่ไม่พอ ถ้ายังดันทุลังเลือกกิจกรรมนั้น สุดท้ายเราจะโดนจับไปใส่ในกิจกรรมที่เราไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้น่าเบื่อยิ่งขึ้น แต่ถ้าเลือกกิจกรรมที่ครูพูดกันรู้เรื่องมันยังไม่น่าเบื่อเท่าไหร่นัก

กิจกรรมที่นักเรียนคิดขึ้น ไม่ได้รับความสนใจ และถูกมองว่าไร้สาระ ความจริงแล้วทุกอย่างมีสาระหมดเพียงแต่ว่าคุณจะมองเห็นมันหรือไม่? เหมือนกับการเขียนบล็อกนี่แหละ กิจกรรมขอแค่เป็นการใช้เวลาว่างร่วมกันเพื่อทำอะไรบางอย่างทีต้องใช้ความร่วมมือกัน มันก็เพียงพอแล้ว เป็นการฝึกการเข้าสังคมทางหนึ่ง ส่วนเรื่องเป็นประโยชน์ก็ต้องถามว่าอะไรคือเป็นประโยชน์ล่ะ?

อ่านหนังสือนิยายแปล เขียนบล็อก วิเคราะห์หุ้น หรือแม้แต่การเย็บผ้าทำชุดคอสเพลย์ ทุกอย่างมีประโยชน์หรือไม่ขึ้นอยู่กับมุมมอง ถ้ามองในแง่ร้าย การเขียนบล็อกนี่ก็ไร้สาระนะ เปลืองไฟ ลำบากทีมงานบล็อกแก๊งด้วย โดยเฉพาะไอคนเขียนบทความนี้ มันขยันหาเรื่องให้ทีมงานประจำ ถึงแม้ความจริงแล้วมันจะมีประโยชน์หลายอย่างก็ตาม (ปัญหากิจกรรมวกมาที่ปัญหามุมมองของครู)


เครื่องแบบนักเรียน
ชุดนักเรียนของประเทศไทยไม่สวยครับ แต่พอรับได้ ผมยังเห็นด้วยในเรื่องชุดนักเรียน แต่อยากให้มีการแก้ไขในเรื่องของการปักชื่อ ผมมองว่าไม่จำเป็นต้องมีการปักชื่อ จะปักชื่อไปทำไมในเมื่อมันไม่ทำให้ครูจำชื่อนักเรียนได้ ไม่มีประโยชน์ ดีแต่จะทำให้ผู้ปกครองเสียเงินมากขึ้น และเพิ่มปัญหาสิ่งแวดล้อมให้โลกร้อนเล่น



วันนี้เขียนแบบหอมปากหอมคอแค่นี้ก่อนจะเห็นได้ว่า ปัญหาแต่ละจุดที่เอามาพูดถึงนั้นเกี่ยวข้องกับครูแทบทั้งสิ้น เดี๋ยวเรามาต่อตอนสองพร้อมด้วยกรณีศึกษา จากที่ได้พูดคุยกับครูไทย ผมเห็นใจและสงสารครูไทยอย่างจับใจ หลายเรื่องเลย แต่บางจุดก็น่าติเตียน



Create Date : 28 มิถุนายน 2560
Last Update : 28 มิถุนายน 2560 0:16:56 น.
Counter : 1923 Pageviews.

71 comments
มาฟิตเนสที่ One Bangkok ในสไตล์คนงบน้อย แต่ได้กินของอร่อย: ข้าวคลุกน้ำพริก peaceplay
(24 พ.ย. 2567 15:11:31 น.)
เมื่อฉันต้องทำงานคนเดียวในเวลาที่ผอ.ถูกสั่งย้าย prettypsyche
(23 พ.ย. 2567 14:29:28 น.)
สรุปผล ตค.67 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(23 พ.ย. 2567 13:07:58 น.)
โจทย์ตะพาบ ... พักผ่อน ... tanjira
(18 พ.ย. 2567 14:39:19 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณmambymam, คุณClose To Heaven, คุณหอมกร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณเริงฤดีนะ, คุณเรียวรุ้ง, คุณJinnyTent, คุณALDI, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณกิ่งฟ้า, คุณTui Laksi, คุณชีริว, คุณcomicclubs, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเนินน้ำ, คุณmariabamboo, คุณSai Eeuu, คุณtuk-tuk@korat, คุณaitai อ่านว่า อะอิไต้, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณRinsa Yoyolive, คุณสองแผ่นดิน, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณhaiku, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณปรัซซี่, คุณInsignia_Museum, คุณกาปอมซ่า, คุณ**mp5**

  
คำชี้แจง


บล็อกนี้อยู่ในหมวด
Education Blog ยินดีเปิดรับทุกความคิดเห็นของเพื่อนๆ ที่มีล็อคอิน เพื่อพูดคุยอย่างสร้างสรรค์
โดย: คุณต่อขอชี้แจง (toor36 ) วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:0:08:46 น.
  
อ่านแล้วเจ็บ ๆ คัน ๆ...

สมัยเรียนมัธยมต้น พวกเราจะอยู่ประจำห้อง
ครูเดินไปสอนตามห้อง..

ยกเว้นฤดูหนาว ในห้องมันหนาว แสงน้อยครู
จะพาพวกเรา ไปนั่งนอกห้องสนามหญ้า สอน
ปากเปล่า ให้ถูกแสงแดดอุ่น ๆ ผมว่าดี..
เพราะไม่อึดอัด.. และจำสิ่งที่ครูสอน นอกหนังสือ
ได้ดี แหะ ๆ เป็นงั้นไป..

พอโต..เรียนต่อไปเรื่อย ๆ เดินไปแต่ละห้องแต่
อาคาร

นึกถึงสมัยก่อน... การบ้านมีครับ แต่ไม่มากเหมือน
สมัยนี้

......

เมื่ออาทิตย์ก่อน เพื่อน กำลังทำโท.. ขอให้
ช่วยวิเคราะห์ งบการเงิน ตีแผ่กิจการบริษัท
จริงแห่งหนึ่ง... คือเธอจะได้ นำข้อมูลไป
เขียน ส่งอาจารย์ 555

แถมย้ำว่า หุ้นบริษัทนี้ควรซื้อหรือไม่ ให้
วิเคราะห์แยก งบกระแสเงินสด แสดงว่าให้
เห็นว่า กระทบต่อ กิจการส่วนใด โรโช

ผมนั่งดูให้ ตั้ง ชม. เลยเขียนเคร่า ๆ ไปว่า
งบกระแส เงินสดที่ นำมาจาก งบกำไรขาดทุนงบดุล.. ไม่ใช่ แคชโฟลว.. นะเออ..

แล้วก็ตีแผ่ไปว่า บริษัทนี้นำเงินไปลงทุน
ในกิจการอื่น...เกือบ 80 % ตอบได้แต่
เพียงว่า ถ้าเขาขายหุ้นควรซื้อหรือไม่ ตอบ
ว่า รอดูข้อมูลก่อน เพราะเราไม่รู้ว่า กิจการ
ร่วมลงทุน มีรายได้ในอนาคตต่อปีเท่าใด

คือเพียงแต่ เริ่มต้นเท่านั้น เสี่ยง...555

เธอบอกช่วยวิเคราะห์ (คือวิธีวิเคราะห์ตัวเลข
จากงบกระแสเงินสดอีก)

เลยบอกว่า นั่นเป็นส่วนประกอบที่จะนำส่ง
อาจารย์ไปโม้ให้ถูกก็แล้วกัน... ผมทำไม่ถูก
หรอก รู้แต่เพียงว่า อย่าไปหลง ตามตัวเลข
บัญชีที่ (ตกแต่งให้สวยที่สุด) เขียนส่งว่า
กิจการร่วมลงทุน เสี่ยง ยังอีกหลายปีกว่าจะ
มีผลกำไร หรือรู้ว่าขาดทุน..

เธอบอกว่า อาจารย์สอน 3 ครั้งเอง...เวรกรรม
แล้วจะให้ ทำรายงาน...

แต่เอะ เกี่ยวกับการศึกษา ข้างบนหรือไม่หนอ

toor36 Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

...

ต่ออีกหน่อย.... ผมว่า คุณต่อคิดอะไรนอก
กรอบ ดีนะผมชอบ.... เป็นผู้บริหารได้

ถ้าคิดแล้วตอบ ตามตำรา คงได้แต่เพียง
พนักงานธรรมดา

ผมว่า การศึกษา ควรให้เด็ก คิดเอง มีการ
แบ่งกลุ่มสัมนา.. ยกหัวข้อ ให้เด็กมาถกกัน

แบ่งเป็น ผังก้างปลา...

แต่อย่าให้เหมือน บางแห่ง ให้ไปสัมนา..ผม
งี้ เมื่อยฉิบ... มานบอกว่า สัมนา แต่ไม่ให้
เราพูดสักแอะ มานยังไม่รู้เลยว่า สัมนาแตก
ต่างกับ การถูกสอน หรือ ถูกอบรมต่างกัน

ไปละครับ ปากจัดมากไป..มะดีเลย
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:6:06:43 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องต่อ


พี่ก๋าเพิ่งอ่านหนังสือสองเล่มที่เกี่ยวกับการศึกษาจบไปครับ
เนื้อหาในหนังสือทั้งสองเล่ม
พูดถึงปัญหาของ "ครู" ครับ

ตอนนี้อเมริกามีปัญหาเรื่องการฝึกหัดครู
สมัยโอบามาเปลี่ยนมาให้นักเรียนประเมินครู
ปรากฏว่ามีการไล่ครูออก 3 พันกว่าคน
กลายเป็นการปฏิรูปนั้นล้มเหลว
ในขณะที่ประเทศเล็กๆอย่างฟินแลนด์
ปฏิรูปวิธีการรับและฝึกอบรมครู
ปรับค่าครองชีพครูให้กลายเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีมาก
รับคนเก่งและคนตัั้งใจจริงมาเป็นครู
เปลี่ยนวิธีคิดและรูปแบบในการสอนเด็ก

ทำให้เปลี่ยนโฉมระบบการศึกษาของประเทศไปเลย

เรื่องจำนวนนักเรียน รูปแบบการสอน
ความพร้อมของห้องเรียน
จึงอาจยังไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของครู

หันมามองบ้านเรา
โรงเรียนดังนักเรียนห้องนึง 55 -60 คน
อุปกรณ์การเรียนก็ไม่พอและไม่พร้อม
หลักสูตรเก่า วิธีการสอนแบบเดิมๆ
ครูวุ่นอยู่กับการประชุมและการประเมินจากโรงเรียนและกระทรวง

เฮ้อ --- อยากจะเฮ้อสักพันหน 55555

โหวต Education Blog ครับ
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:6:39:08 น.
  
toor36 Education Blog

ชอบค่ะ คุณต่อว่างๆ เขียนอีกนะคะ คงไม่เปลืองค่าไฟเท่าไหร่ อิอิ แซวๆ

ห้องซีทะเล มี 30 คนค่ะ กิจกรรมเลือกมีวันเดียว ซีอยากเรียนมาก เลือกทำอาหารค่ะ แต่เปิดเทอมมาหลายอาทิตย์แล้ว ยังไม่ได้เรียนกิจกรรมเลย เจ้าตัวบ่นๆ
โดย: kae+aoe วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:8:48:55 น.
  
อยากให้เมืองไทยปฎิรูปการศึกษาให้จริงๆจังๆซักทีค่ะ
ปฎิรูปให้เทียบเท่าต่างประเทศ
อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่ค่ะ
บอกเลยว่าระบบการศึกษาโดยรวมทั้งหมดของไทยแย่มาก

toor36 Education Blog ดู Blog






โดย: mambymam วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:8:49:24 น.
  
toor36 Education Blog ดู Blog

พูดถึงเรื่องการศึกษา นี่ประเด็นใหญ่เลย
ไม่ว่าจะเรื่องวิชาการที่เห็นเคี่ยวเข็ญเด็กเรียนพิเศษกันรัว ๆ
แล้วจบมา ไม่มีอะไรโดดเด่นก็มีนะ
โดย: Close To Heaven วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:8:58:35 น.
  
toor36 Education Blog ดู Blog
ตัวหนังสือพรืดไปหมดเลยนะคุณต่อ

โดย: หอมกร วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:9:06:39 น.
  
เคยได้รับเชิญไปสอนครุศาสตร์ให้น.ศ.
เอกการสอนภาษาอังกฤษ ในมหาวิทยาลัย
เปิดแห่งหนึ่ง พบว่านักศึกษาไม่น้อยกว่า
80% ออกเสียงผิดจนปวกหัว เค้าบอกว่า
ครูเค้าสอนมาอย่างนี้ แล้วเด็กพวกนี้ก็ยืนยัน
ว่าเป็นเช่นนี้จริง และทุกวันนี้ คนไทยก็ออก
เสียงคำพวกนี้ผิดจนมันกลายเป็นถูกใน
พาราสารขันฑ์นี้แหละ ฝรั่งฟังยังงงแล้วใน
ที่สุดก็สรุปว่า มาเมืองไทย เค้าพูดกันแบบนี้
ทั้งที่เดี๋ยวนี้ ไทยมีโรงเรียนสอนสองภาษา
คู่กันมาตั้งแต่อนุบาล คือก็เลยผิดกันมา
ตั้งแต่อนุบาลอ่ะ ปัญหาของใครอีกเหรอคะ
ปัญหานี้พอไปถึงระดับป.โท มันแก้ยากแล้ว
เค้าชินปาก พี่เลยสอนได้ปีเดียว บอกลา
ทำใจฟังบ่อยๆไม่ไหว แต่ไม่ว่าจะไปสอน
แผนกไหนก็เจอปัญหานี้ไปทั่ว เลยทำใจได้
ในที่สุด คิดว่าตัวเองทำผิดนะคะที่ทำใจได้

toor36 Education

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:9:46:06 น.
  
ถ้าไม่อ่านในคอมเมนท์ คงโหวตผิดหมวดแล้ว

เห็นด้วยว่าครูเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการศึกษา เราอยากให้อาชีพครูเป็นอาชีพอันดับต้นๆ ที่คนเก่งคนดีอยากทำงาน หัวกะทิที่เก่ง รู้เยอะ สอนดี ฯลฯ อยากทำงานครูมากกว่าอาชีพครู เพราะมันสำคัญมากต่ออนาคตของประเทศ

ไม่นะ ตอนเราเลือกกิจกรรม เราเลือกกิจกรรมที่เราสนใจ ไม่ได้ดูอาจารย์ที่ปรึกษาแฮะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
AdrenalineRush Review Food Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:10:06:12 น.
  
แวะมากด Vote ให้คุณครูต่อ ค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:12:17:48 น.
  
เห็นด้วยกับทุกข้อค่ะยกเว้นเดินเรียน เพราะตอนสมัยเรียนหนังสือเกดชอบเดินเรียนมาก ช่วงระหว่างเปลี่ยนห้องคือการผ่อนคลาย ไม่ชอบนั่งอยู่ห้องเดิมนานๆอ่ะค่ะ แฮ่ะๆๆ


"ถ้าพูดถึงหนัง + ขนมหวาน ชื่อแรกที่นึกถึงเลยจะเป็น Charlie and the Chocolate Factory"
ทีแรกก็กะเขียนเรื่องนี้ค่ะ แต่เห็นคนอื่นเขียนไปแล้วก็เลยเปลี่ยนค่ะ อิอิ
โดย: Gorjai Writer วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:12:56:57 น.
  
การศึกษาประเทศไทย

เรารู้สึกว่าถอยหลังลงคลองทุกวัน

ปฏิรูปจริงๆจังๆสักทีก็ดี

คงต้องรื้อทั้งระบบซะละมั้ง

toor36 Education Blog

ปล.สมัยเราก็เดินเรียน เลิกปักชื่อนักเรียนก็ดีนะ ไม่มีประโยชน์จริงๆ กิจกรรมนี่นึกไม่ออกเลยว่าสมัยเรียนลงกิจกรรมอะไร ถ้ามีกิจกรรมคุย เล่น เฮฮาก็ดีสิ
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:13:43:39 น.
  
@ไวน์กับสายน้ำ
บางพื้นที่อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนกันตามแต่ละท้องถิ่น ที่เขียนไว้ผมคิดคร่าวๆ จริงๆ ถ้ามีฮีตเตอร์ก็ช่วยได้นะครับ (เรื่องหน้าหนาวแต่เมืองไทยไม่เหมาะเท่าไหร่) หลายๆ เรื่องต้องคิดนอกกรอบจริงๆ ครับ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็เน้นให้ง่ายแบบพื้นฐานเข้าไว้ก็สะดวกดีเหมือนกัน


@กะว่าก๋า
ปัญหาครูจะกล่าวถึงในเอนทรี่ถัดๆ ไป เป็นกรณีศึกษาที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ถือว่าน่าสนใจครับ คราวนี้พูดเรื่องทั่วๆ ไปก่อน ประเทศฟินแลนด์ใช่ว่าครูจะเห็นด้วยหมด แต่รูปแบบการปฏิรูปของเขา น่าสนใจ


@kae+aoe
เจ้าตัวน่าจะผิดหวังนะครับ เพราะใจอยากเรียนแต่ไม่ได้ลงมือทำอาหารซะที


@mambymam
พูดไปเดี๋ยวจะโดนหาว่าไม่รักชาติ แต่ตราบเท่าที่เรายังไม่ยอมรับว่าการศึกษาของเรามันควรต้องพัฒนา เราก็จะไม่สามารถพัฒนาได้เลย มีหลายกรณีให้พูดเยอะครับ


@Close To Heaven
ประเด็นใหญ่มาก เรียกได้ว่าจี้ตรงไหนพังตรงนั้น ตอนแรกผมคิดว่าจะเขียนจบได้ 2-3 เอนทรี่ พี่บุ๊งมาเพิ่มประเด็นเรียนพิเศษเข้าไปอีก อันนี้ก็น่าสนใจครับ


@หอมกร
ครั้งต่อๆ ไปจะตาลายยิ่งกว่านี้


@คนบ้านป่า
คำว่า ริบบิ้น ใช่มั้ยครับ ของไทยเราใช้ผิดกันเยอะดีครับ สนุกสนานกันไป


@สาวไกด์ใจซื่อ
แสดงว่าคุณเต้ยเลือกกิจกรรมแล้วได้กิจกรรมที่ตัวเองเลือก แต่หากโดนจับไปอยู่กิจกรรมที่เราไม่ได้เลือก มันจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก บางครั้งกิจกรรมเราไม่ได้สนใจแต่ครูในกิจกรรมนั้นคุยง่าย เป็นกันเอง กิจกรรมมันก็ไปของมันได้นะ (ปัญหาที่ครูจริงๆ)


@เริงฤดีนะ
ครูเถื่อนสิครับ


@Gorjai Writer
ยินดีรับฟังความเห็นต่าง อันที่จริงผมเห็นด้วยกับที่พิมพ์มา ช่วงระหว่างเปลี่ยนห้องคือการผ่อนคลาย มันเป็นการยืดเส้นยืดสายด้วย แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า โต๊ะเรียน เก้าอี้มีพร้อมทุกห้อง ไม่งั้นต้องไปหาโต๊ะ เก้าอี้

อีกมุมหนึ่งในเรื่องการให้นั่งประจำห้องเพื่อให้นักเรียนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ และใส่ใจในห้องของตน อีกเรื่องคือประหยัดไฟครับ ใช้ลิฟท์นี่ค่าไฟไม่ใช่น้อยเลย ยังไงจำนวนครูก็น้อยกว่านักเรียนอยู่แล้วด้วย


@เรียวรุ้ง
กิจกรรมจริงๆ แล้วแค่ให้ใช้เวลาร่วมกันของครู-นักเรียน รุ่นพี่รุ่นน้อง และมีอะไรทำร่วมกัน ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะครับ เน้นประโยชน์มากๆ เด็กเบื่อแย่เลย กิจกรรมมันควรเป็นสิ่งที่ทำแล้วผ่อนคลายมากกว่าทำเพื่อหวังผลทางวิชาการ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:15:08:56 น.
  
เย้ย อ่านจบโหวตปั๊บ
ไม่รอบคอบ ไม่เห็นคุณต่อให้โหวตโหมดการศึกษา
ไว้แก้ตัวคราวหน้า^^

ตอนแรกอ่าน เอะ ซีเรียสวุ๊ย
อ่าน ๆ ไป เออจริง ชักเข้าท่า
บางทีก็คิดนอนกรอบ ตามไม่ทัน
แต่พี่ว่าชุดนักเรียนของไทย น่ารักกว่า
ชุดนักเรียนอินเตอร์บางโรงเรียนนะ อิอิ

ตอนที่พี่ตัดสินใจพาลูกชายคนโตย้ายโรงเรียน
ทั้งที่ตอนนั้น ลูกเรียนโรงเรียนที่มีชื่อเสียง
เข้ายากมา ใคร ๆ ก็อยากจะพาลูกมาเรียน
แต่พี่กลับพาลูกย้ายโรงเรียน ด้วยเหตุผลบางอย่าง

เฮิร์ทกันทั้งบ้าน เพราะมันหมายถึงอนาคตของน้องเค้าที่อดเรียนตามพี่ในโรงเรียนนั้นด้วย
เหตุผลที่นำมาตัดสินใจในวันนั้นคือ

เลือกโรงเรียนที่เหมาะสมกับลูกที่สุด เรียนแล้วมีความสุข
มากกว่า โรงเรียนที่คิดว่าดีที่สุด แต่ไม่เหมาะกับลูกเราค่ะ

โรงเรียนเดิมนักเรียนเยอะมาก ชั้นเรียนหนึ่ง มี 12
ห้องนักเรียนแต่ละห้อง 30-35 กว่าคนต่อครู 2 คน
แต่พอย้ายมาโรงเรียนใหม่ นักเรียนมีประมาณ 20/ห้อง ครูสองคน
ยิ่งเจ้าตัวเล็กตามอ้ายไปเรียน รร.นี้
เพื่อนในห้องเรียนมี 10 กว่าคน ครูระจำชั้น 1 ครูผู้ช่วยหนึ่ง

ผู้ปกครองรู้จักกันเยอะ กับครูเข้าถึงทุกวิชา เรียนรู้ความเป็นไปของลูก ๆ ได้
แต่โรงเรียนเดิม เวลาลูกมีปัญหา เห็นลูกซึมเศร้า
เข้าถึงครูยากมาก ผู้ปกครองแทบจะไม่ค่อยรู้จักกัน ด้วยความที่นักเรียนเยอะมาก

เม้าธ์แจมแค่นี้ เล่าต่อเดี๋ยวยาวค่ะ
โดย: JinnyTent วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:18:08:34 น.
  
ดาวกระจายซ้อนมีออกมาไม่กี่ปีนี่เองค่ะ
เด๊่ยวนี้มีสีเพิ่มมาอีก ออกด่างๆสวยมาก
ขอบคุณโหวตค่ะ

โดย: mambymam วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:18:16:25 น.
  
ฟินแลนด์เค้าเป็นประเทศเล็กครับ
พี่ก๋าว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงอะไรทำง่าย
แล้วถ้าการเมืองนิ่ง ไม่ขัดแข้งปัดขากัน
มันทำอะไรง่าย

บ้านเมืองไหนที่การเมืองขัดแย้งกัน
ระบบยุติธรรมมีปัญหา
คอรัปชั่นจนเคยชิน
ไม่ต้องคิดถึงการปฏิรูปการศึกษาหรอกครับ
ปฏิรูปตัวเองก่อนดีกว่า 5555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:18:50:39 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องต่อ

วันนี้บล็อกน้องต่อ เป็นบล็อกหนักสมองนะ อิอิ เป็นประเด็นที่เป็นอยู่ในโรงเรียน และเป็นการศึกษาระดับชาติ ที่ไม่เคยแก้ไขได้ ทุกประเด็นที่เธอยกมา ซึ่งในฐานะ เป็นครูมาก่อนครูพบเจอปัญหาที่เธอยกมาวิเคราะห์วิจารณ์ทุกข้อ
-ประเด็นแรก คือเรื่องของจำนวนนักเรียนในห้อง ตามหลักการของการเรียนการสอน ห้องละ ควรจะอยู่ประมาณ 20-25 คน เห็นด้วย จ้ะ เพราะครูจะดูแลนักเรียนได้ทั่วถึง แต่งบประมาณแผ่นดิน ไม่สามารถเกื้อหนุนความฝันนี้ได้ โดยเฉพาะโรงเรียนใหญ่ ๆ มีชื่อเสียง ยิ่งอัดเข้าไปไม่น้อยกว่าห้องละ 50-55 คน เพราะเด็กชอบไปเรียนโรงเรียนที่มีชื่อดัง ๆ ตามค่านิยม รวมไปถึงค่านิยมของผู้ปกครองด้วย ไม่งั้นคงไปเกิดกรณีการให้เงินโรงเรียนเพื่อนำลูกของตนเข้าไปเรียนหรอก โรงเรียนที่ไม่ดัง ห้องละ ก็ประมาณ 40 คน แหละ ถ้าน้อยกว่านี้ ปัญหาที่ตามมาก็คือ เรื่องของห้องเรียนและครูที่จะสอน ซึ่ง ปัจจุบันนี้ มีปัญหามาก เพราะไม่มีเงินบรรจุครูให้ได้อัตราตามทฤษฎีที่ว่าไว้
-ประเด็นเรื่องห้องเรียน ที่นักเรียนต้องเดินเรียน ก็อีกนั่นแหละ ไม่มีงบประมาณสร้างตึก หาห้องเรียนให้พอ ห้องหลายห้องต้องนำไปใช้เป็นห้องเทคโนโลยี ห้องสารพัด ที่ตั้งขึ้น ว่าไปแล้ว ก็หลีกไม่พ้นเรืองของงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้องอีกนั่นแหละนะ การเดินเรียน จึงคงจะต้องมีอยู่ แต่ก็คงต้องพยายามให้เดินน้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเสียเวลา อารมณ์เสียทั้งครูทั้งเด็ก ตอนครูสอน ก็เจอปัญหาอย่างที่เธอว่า นั่นแหละ ครูที่สอนอยู่ก่อน ก็กินเวลากันอย่างนี้ เป็นการกินเวลาต่อ ๆ กัน ยกเว้นครูบางคน ก็ไม่สนใจ ยิ่งดี ฉันจะได้ไม่ต้องสอนเยอะ ห้าห้า บางคนก็ขอเอาคืน เพราะคาบก่อนกินเวลาของฉันไปเท่าไหร่ ฉันก็ขอเอาคืน ห้าห้า เป็นปัญหาที่เจออยู่ แต่ปัจจุบัน ไม่ทรายนะ เพราะเกษียณมาเกือบ 10 ปีแล้ว
-ประเด็นเรื่องระบบการศึกษา ไม่ต้องพูดถึง เปลี่ยนหลักสูตร ตามก้นฝรั่ง ซึ่งเป็นระบบที่เขาเลิกใช้แล้ว เราก็นำมาใช้บ้าง ที่จริง ระบบ นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ครูว่า เป็นระบบที่ใช้ได้ เพราะสามารถให้เด็กแสดงความคิดอะไร ๆ ร่วมกันได้ เป็นการฝึกทักษะการคิดได้วิธีหนึ่ง แต่ครูผู้สอน ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ กลายเป็นครูสบายปล่อยให้เด็กเรียนเอง โดยไม่ต้องสอนอะไร ก็เลยล้มเหลว บ้าง ถ้าเจอครูที่เข้าใจวิธีสอนของวิธีนี้ เด็ก ก็ได้สิ่งที่ตรงเป้าหมายของหลักการไป
- ประเด็นชั่วโมงกิจกรรม สมัยที่ยังสอนอยู่ เขามีหัวหน้ากิจกรรม และเปิดให้นักเรียนเลือกอย่างเสรี จำกัดการรับตามจำนวนครูผู้สอนกิจกรรมนั้น ๆ ที่จริงก็ถูกต้องแล้ว แต่บางครั้งเด็กก็ชอบเลือกกิจกรรมที่สบาย ๆ สมัครไปมากมาย ก็ต้องตัดออก ส่วนใหญ่เด็กไม่นิยมเรียนกิจกรรมที่เป็นวิชาการ นี่เป็นปัญหาทั้งของเด็กและของจำนวนครูผู้สอนกิจกรรม
- เป็นเด็นเครื่องแบบ ครูไม่ติดใจ เพราะเครื่องแบบเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก และประโยชน์คือ ความเป็นระเบียบไปในทางเดียวกัน เรื่องของการปักชื่อ ก็ไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับว่า จะทำให้ครูจำชื่อเด็กได้ ครูที่ดี ผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์แรกของการเปิดเทอม ควรจำชื่อของเด็กประจำชั้นให้ได้แล้ว เด็ก ๆ จึงจะชื่นชอบ และเข้าใจว่า ครูให้ความสำคัญแก่พวกเขา เพราะจำเขาได้ (โดยไม่จำเป็นต้องปักชื่อ)

โหวด หมวดการศึกษา จ้ะ

ขอบใจ ต่อ ที่แวะไปเยี่ยมและโหวดที่บล็อกของครู จ้ะ
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:20:54:07 น.
  
คิดว่าไม่เกิน 30คนต่อห้องน่าจะโอเคนะ

เรื่องปักชื่อนี่เห็นด้วยไม่ค่อยมีประโยชน์
หาที่ปักยากอีก
ชุดนักเรียนไทยก็โอเคนะดูเรียบร้อยน่ารักดี

เคยเดินเรียนแล้วมีปัญหากินเวลาเรียนไปเยอะ
นักเรียนเดินลีลาโอ้เอ้
บางทีเดินสวนกันกับห้องอื่นแล้วเจอเพื่อนสนิทมีหยุดคยกันก่อน ไปไม่ถึงห้องเรียนซักที (เราคนนึงล่ะ55) ตอนหลังมาเขาเลยให้ใช้แบบอาจารย์เดินมาสอน

เรื่องการศึกษา มองว่ายัดเยียดความรู้มากเกินวัยของเด็ก
เคยสอนหลานอนุบาลทำการบ้าน ยากเกินไปนะสำหรับเด็กวัยนี้
พอเข้าประถมแล้วสงสารมากหลานแบกหนังสือไปเรียนเยอะมากหนักมากแต่ละวันเด็กก็ตัวนิดเดียว



โดย: NENE77 วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:21:02:44 น.
  
บ้านเราครูไม่บาลานซ์กับนักเรียนจริง ๆ ค่ะ หลาย ๆ อย่างก็ไม่พร้อมด้วย ถ้ามีการปฏิรูปจริงจังคงจะดีไม่น้อย
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:22:22:33 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
เนินน้ำ Travel Blog ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีคะคุณต่อ พี่กิ่งมาอ่านปญหาของการศึกษาไทยพบว่าเป็นแบบนี้มานามากไม่สามารถแก้ไขได้ ความเห็นของพี่กิ่งตรงกับของอาจารย์สุวิมลเป๊ะเลยค่ะ อิอิ

โหวตให้ค่ะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:22:36:23 น.
  
วันนี้มาแนววิชาการ เน้นๆถึงปัญหาการปฏิรูปการศึกษา
เรื่องระดับประเทศเชียวนะคะคุณต่อ
เราขออ่านๆๆๆอย่างเดียวละคะ
โดย: Tui Laksi วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:22:36:31 น.
  
โอว วันนี้สาระมาเต็ม โหวตการ์ตูนครับ //โดนเตะ ....education blog สิครับปัดโธ่!

พวก teacher-pupil ratio, สัดส่วนคนจบการศึกษาในสายเทคโนโลยี, ฯลฯ นี่เป็นตัววัดประกอบความแข็งแกร่งด้านการศึกษาในหลายๆดัชนีอยู่แล้ว อันนี้เลขออกมาชัดๆเลยว่าบ้านเรายังด้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วอยู่มาก

ที่คุณต่อเล่ามาชวนให้นะลึกถึงความหลังสมัยเรียนเลยครับ ห้องเรียนสมัยประถมเด็กนั่งอยู่กับที่ ครูเดินมาหา ทีนี้ละรักษาโต๊ะตัวเองกันน่าดู แต่พอมัธยมกับมหาลัยเด็กเดินเรียนเอาครับ ตอนเล่นพละที่สนามเสร็จแล้วต้องเดินขึ้นไปเรียนดนตรีชั้น 7 นี่นรกชัดๆ (บ่นเฉยๆไม่เกี่ยวกับการศึกษาเลย)
ระบบ child center นี่ผมเกิดเร็วเกินไปเลยไม่ทัน ไม่ค่อยเห็นภาพเท่าไหร่ แต่ดูผลลัพธ์แล้วเดาว่าไม่ค่อยเวิร์ค
วิชาเลือกหรือกิจกรรมในโรงเรียนที่ได้ทำกันตามความใจรักจริงๆก็หาได้ยากนะครับ ส่วนใหญ่เด็กมันไปเข้าชมรมตามเพื่อน ชมรมดีๆก็รับคนจำกัดสุดๆ หรือไม่ก็ชอบเลือกวิชาเลือกที่แจกเกรดง่ายๆมากกว่า
ส่วนเรื่องครูปัญหาหลักๆคงเป็นการทำรายงานบ้าบอคอแตกเต็มไปหมดเพื่อส่ง สพฐ. ไม่ได้มีเวลากับการสอนจริงจัง

ป.ล. รอดูอัลบั้มพาด๋อยเที่ยวยุดยาครับ
โดย: ชีริว วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:22:43:32 น.
  
@JinnyTent
ชุกนักเรียนผมเฉยๆ แต่ติดตรงปักชื่อนี่แหละ ปักไปครูก็ไม่ได้เรียกชื่อตามที่ปัก ครูใส่ใจเด็กรู้จักเด็กหมดมันดีจริงๆ ครับ แต่ค่านิยมโรงเรียนมีชื่อไม่ว่าจะเป็นบริษัท หรือในหมู่สังคมมันก็มีจริง เรื่องนี้เราก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน


@กะว่าก๋า
สำคัญที่สุดคือการเมืองนิ่งครับ ของเรานี่ไม่นิ่งมากๆ มาก-------- ของเราหลายๆ คน หน้าที่ตัวเองยังไม่รู้ ดีแต่มายุ่งเรื่องชาวบ้าน น่าอนาถใจ


@อาจารย์สุวิมล
ในส่วนนี้ผมทราบดีเกี่ยวกับงบประมาณ ผมไม่เคยปฏิเสธในเรื่องนี้เลย มันไม่ใช่ค่านิยมผู้ปกครองอย่างเดียวหรอกครับ แม้แต่บริษัทสำนักงานก็มีค่านิยมแบบนี้ อาจจะเป็นค่านิยมของคนในประเทศนี้ก็ได้ เรื่องระบบการศึกษาเราต้องพัฒนาที่ครูจริงๆ ครับซึ่งจะเขียนเป็นกรณีศึกษาในครั้งต่อๆ ไป

กิจกรรมผมมองว่าแค่ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์และทำงานร่วมกันกับคนที่หลากหลายในช่วงอายุ ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ ประโยชน์ที่ได้รับควรจะเป็นผลพลอยได้มากกว่า


@NENE77
เรื่องแบกหนังสือสมัยก่อนแบกหลังแอ่นจริงๆ แล้วครูก็ชอบหาว่าไม่จัดตารางสอน แต่เอาเข้าจริงๆ แค่วิชาเลข มีหนังสือ แบบฝึกหัด สมุดทำแบบฝึกหัด/การบ้าน แค่วิชาเดียว 4 เล่มเข้าไปแล้ว เดี๋ยวนี้ดีครับเด็กใช้กระเป๋าลาก


@บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
ขออภัยจริงๆ ครับ ที่ทำให้ต้องมาอ่านอะไรที่เครียดๆครั้งนี้ผมยังไม่ได้กล่าวถึงครู คราวต่อไปจะเป็นกรณีศึกษาของครู


@กิ่งฟ้า
ยากที่จะแก้จริงๆ ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหาหลายๆ ส่วนเกี่ยวข้องกับครู ไว้จะนำเสนอในโอกาสต่อไป


@Tui Laksi
เป็นปัญหาระดับประเทศจริงๆ ครับ


@ชีริว
ความรู้สึกเป็นเจ้าของมันจะมีถ้ากำหนดให้นักเรียนเรียนประจำห้อง แล้วให้ครูเดินมาสอน มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ครับ ของคุณชีริวชั้น 7 เอง ผมชั้น 9 ครับ แทบอ้วกเลย

ระบบ child center เด็กไม่ได้แสดงความคิดเห็นจริงจังหรอก มันโดนครูกดไว้ ลองไปถามมากๆ สิ โดนสั่งให้ทำรายงานมาส่งสัปดาห์หน้า แล้วก็โดนเพื่อนทั้งห้องประณามด้วยฐานทำให้ซวยทั้งห้อง

ปัญหาครูที่โดนประเมินเป็นเรื่องจริงเลยนะครับ เล่นซะจนครูไม่มีเวลาเตรียมการสอนเลย วันๆ เอาแต่ทำรายงาน
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:0:23:55 น.
  
จำนวนนักเรียนในหนึ่งห้อง:: 20 – 25 คนก็กำลังดีนะ แต่ปัญหาในประเทศไทยคือ โรงเรียนมีน้อย นักเรียนมีเยอะ ถ้ามีโรงเรียนเพิ่มขึ้นที่เป็นโรงเรียนของรัฐบาล ก็สามารถที่จะช่วยกระจายเด็กนักเรียนได้ เพราะโรงเรียนรัฐปัจจุบัน เชื่อว่ามีนักเรียนไม่ต่ำกว่า 35 คนต่อห้อง

ส่วนเรื่องการจำชื่อนักเรียน อันนี้ขึ้นอยู่กับความใกล้ชิดระหว่างครูและนักเรียน โดยส่วนตัวที่เคยเจอก็มีครูที่จำชื่อนักเรียนได้หมดทั้งห้องนะ ซึ่งในห้องมีประมาณ 43 – 44 คน

ครูบางคนรู้ว่านักเรียนคนไหนไม่ถูกกับคนไหน ก็จับคู่ให้ทำความสะอาดด้วยกัน

คือ ถ้าครูสามารถรู้เรื่องลึกถึงเรื่องราวปัญหาของนักเรียนแต่ละคนก็จะดี

ห้องเรียน :: อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของโรงเรียน โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าโรงเรียนไหนมีพื้นที่มาก ยังมีพื้นที่เหลือและสามารถสร้างอาคารเรียนเพิ่มได้ ก็น่าจะสร้าง เพื่อที่จะได้มีห้องเรียนเพิ่มขึ้น ได้กระจายนักเรียน ให้จำนวนนักเรียนในแต่ละห้องไม่เยอะเกิน

แต่ในส่วนโรงเรียนที่มีพื้นที่ไม่เยอะก็ต้องเข้าใจ บางโรงเรียนอาจจะแบ่งอาคารเรียนเป็นแต่ละวิชา ทำให้ต้องเดินเรียน เรียนวิทย์ตึกนี้ เรียนภาษาไทยตึกนู้น เรียนภาษาต่างประเทศอีกตึก (โรงเรียนม.ปลายที่พี่เรียน เขาแบ่งอย่างนี้)

ส่วนเรื่องที่จะให้นักเรียนนั่งประจำห้องแล้วให้ครูเดินไปสอนนั้น สำหรับโรงเรียนรัฐพี่ว่าเป็นไปได้ยาก แต่โรงเรียนเอกชนคงเป็นอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าทุกโรงเรียนไหม แต่โรงเรียนเก่าตอนม.ต้นของพี่ นักเรียนนั่งอยู่ในห้อง คุณครูจะเป็นคนเดินมาสอน

โรงเรียนรัฐบางโรงเรียนไม่มีลิฟต์ ถ้าคุณครูต้องเดินสอน และขึ้นลงบันไดหลายๆ ชั้น หลายๆ ขั้น ถ้าเป็นครูหนุ่มสาวอาจจะไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นครูที่อาวุโสก็อาจจะไม่ไหว ปวดหัวเข่า

โดยส่วนตัวจากที่ได้เคยเรียนทั้งแบบที่นั่งอยู่แต่ในห้องแล้วอาจารย์เดินมาสอน กับต้องเดินเรียน พี่ว่าเดินเรียนสนุกกว่า พอหมดคาบก็ได้เปลี่ยนอิริยาบถ ยิ่งถ้าได้เดินผ่านคนที่เราชอบนะ โหย สุดๆ (ฟิน) หรือบางทีก็ตื่นเต้น เวลาเห็นคนที่เราชอบจะมาเรียนต่อห้องเรา ออกจากห้องก็เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ฮ่าๆๆ (คือ ชอบตรงนี้)

ระบบการศึกษา :: ระบบที่จะให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัวนักเรียนด้วย บางคนอาจจะชอบระบบท่องจำ น่าจะมีแบบให้นักเรียนเลือกว่าอยากจะอยู่ในระบบไหน

กิจกรรม :: โดยส่วนของตัวพี่ พี่เลือกเพราะชอบนะ เอาสนุกเข้าว่า อย่างเล่น Scrabble แต่บางทีก็มีเลือกกิจกรรมที่อาจารย์ดูจะปล่อยๆ หน่อย ให้อิสระ ทำอะไรก็ได้

เครื่องแบบนักเรียน :: ปักชื่อน่ะดีนะ ทำให้ได้รู้ว่าคนที่เราแอบชอบ ชื่ออะไร ฮา...

แต่จริงๆ มันเอื้อประโยชน์ต่อครูนะเวลานักเรียนทำผิด ครูจะได้รู้ว่าใคร หรือถ้านักเรียนหายตัวไป คนอื่นๆ ที่เจอก็จะแจ้งกลับมาได้
โดย: comicclubs วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:0:48:56 น.
  
สมัยพี่เรียนก็อยู่ห้องเดิมตลอดนะ
มีช่วงเรียน ม.1-3 อยู่อาคารชั่วคราว (ตั้ง 3 ปี)
มีแต่กระดานกั้นหน้า-หลัง สองข้างเปิดโล่ง
ตอนนั้นม.1-3 มี 10 ห้อง เวลาครูสอนห้องข้างหน้า-หลังยังได้ยินเสียงเลย
พอฝนตกหนักก็โดนฝนสาด พอหน้าหนาวก็ย้ายไปเรียนสนามหญ้า สนุกดี แหะๆ
ห้องหนึ่งมีนักเรียน 45 คน ไม่รู้ครูจำชื่อได้หมดหรือปล่าว

เรื่องการเรียนการศึกษาเป็นปัญหาใหญ่มาก
ถ้าระบบไม่ดีก็มีผลตามมา และครูก็เป็นปัจจัยที่สำคัญด้วย
อย่างหนึ่งที่พี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กต้องเรียนพิเศษมากขนาดนี้
เพราะเด็กที่นี่พี่ไม่เห็นเขาเรียนพิเศษเลย
แต่ก็จบออกมาทำงานมีประสิทธิภาพ

toor36 Education Blog
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:2:07:43 น.
  
หลายเรื่องในบล็อกนี้ ... ไม่ใช่เรื่องใหม่ในบ้านเราเลยเนอะ

โรงเรียนทางเลือกที่ว่ากันว่า "ดี "ประกอบด้วยบรรยากาศในห้องเรียนดี ครูที่ดีมีความเป็น "ครู" ที่สอนเอาใจใส่เด็กดี ดูแลเด็กทั่วถึง เพราะนักเรียนต่อห้องไม่เยอะ สิ่งที่ตามมาคือ สังคม คุณภาพของเด็ก ... ใคร ๆ ก็อยากได้นะ แต่จำนวนโรงเรียนไม่ค่อยจะสัมพันธ์กับความต้องการของผู้ปกครองเลย เราต้องยอมรับว่า เรื่องบางเรื่องเด็กตัดสินใจเองยังไม่ได้หรอก ผู้ปกครองต้องเป็นคนตัดสินใจแทน เช่น เด็กจะเข้า รร. อะไร มันมีเรื่องค่าใช้จ่าย การเดินทางล่ะสะดวกมั้ย อื่น ๆ อีกมากมาย

โรงเรียนของลูก ไม่ว่าการศึกษาระดับไหน ยังคงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพ่อแม่เลยล่ะ เพราะมันมีผลระยะยาวกับการเจริญเติบโต และมีผลกับการหล่อหลอมความคิดเป็นตัวตนของลูก

รร. มัธยมหมอก ไม่มีปักชื่อค่ะ เรื่องนี้พี่ก็เห็นด้วยนะ ไม่จำเป็นต้องปักชื่อ แต่ว่าไปไม่ว่าเรื่องอะไรก็มีมุมดี และไม่ดีนะ

เค้าว่ากันว่า เวลาเราคุยเรื่องเครียด ๆ ต้องมีอีโมลงท้ายประโยค จะทำให้บรรยากาศดูซอฟท์ลง ไม่จริงจังมากไป เนาะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sakormaree Literature Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:5:54:03 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องต่อ


เจ้าคำว่า "รู้หน้าที่" ตรงนี้สำคัญมากจริงๆครับ
และบ้านเรามีคนไม่รู้หน้าที่เยอะเลย
สิ่งที่ควรทำไม่ทำ
ไปทำสิ่งที่ตเนเองไม่ถนัด
เท่ากับสกัดความรุ่งเรืองของบ้านเมืองจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:6:20:58 น.
  
ระบบการศึกษาของเราคงต้องมีการปรับปรุงอีกเยอะค่ะคุณต่อ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:8:57:14 น.
  
น้องซีรอลุ้นว่า อังคารหน้าจะได้เรียนกิจกรรมซะทีรึเปล่าค่ะ อยากๆเรียนทำอาหารมากๆ
โดย: kae+aoe วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:9:33:24 น.
  
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น





จำนวน นร.เป็นส่วนนึงค่ะ ถ้ารัฐไม่เพิ่มงานเอกสารครู แทนที่จะให้ครูเอาเวลาทำงานเอกสารมาดูแลนักเรียน มาพัฒนาการสอน

ระบบการศึกษาไทยยังห่างไกลคำว่า มฐ.สากลอีกเยอะค่ะ
โดย: mariabamboo วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:11:40:52 น.
  
คุณต่อน่าไปเป็นครูนะ

โดย: หอมกร วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:14:52:34 น.
  
วันนี้ คุณต่อ มาแนวการศึกษา เลยแอบงงกับเรื่องโหวตเล็กน้อย มีคำจี้แจงในคอมเมนต์แรก เลยหายงงค่ะ

เห็นด้วยหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องกิจกรรม

แต่เรื่องปักชื่อ เรายังชอบกับรูปแบบเดิมๆ ที่ให้มีชื่อนะคะ เพราะมันไม่ได้ใช้ในการเรียกชื่อของครูต่อนักเรียน แต่มันใช้กับเพื่อนๆ นักเรียนกันด้วย ถ้าสนิทกันรู้จักชื่ออยู่แล้ว แต่ถ้าไม่สนิท ก็จะไม่มีวันได้รู้จัก ยิ่งบางคนขี้อาย ก็ไม่กล้าถามนะคะ อย่างน้อยการปักชื่อ ตัวเองก็ยังชื่นชอบที่จะให้มีไว้จนมัธยมปลายค่ะ
โดย: Sai Eeuu วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:15:13:10 น.
  
มันไม่พอดีสักที ทุกเรื่องค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:15:26:29 น.
  
ปล. เอลตัน จอนร้องเพลงดีนะคะ แต่เวอร์ ๆ หน่อยตามความเป็นศิลปินของเขาอ่ะ + ...
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:15:27:40 น.
  
@comicclubs
ครูต้องใส่ใจนักเรียนมากกว่าแค่สอนครับ (ครูที่ปรึกษา) ผมเทียบกับตอนเรียนที่แผนกนักศึกษาต่างชาติที่จีน แกจำรายละเอียดแต่ละคนได้เยอะมาก ขาดเรียนไม่ลาแกโทรตามเลย

ห้องเรียนเอาเข้าจริงๆ ถ้ามีโตะเก้าอี้เพียงพอจะเดินเรียนก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอกครับ แต่ก็นั่นแหละงบไม่พอ เรื่องครูสูงอายุมีหลายท่านให้เหตุผลแบบนี้เช่นกันครับ ว่าท่านเดินไม่ไหว แต่ก็นั่นแหละเมื่อมีการเดินแล้วเกิดปัญหาก็ไม่ควรบ่นเช่นกันครับ ผมแฟร์นะครับเรื่องนี้ ทุกปัญหามีทางออกทุกทางออกมีปัญหา เป็นเรื่องธรรมดา

แสดงว่าไม่เคยโดนจับไปอยู่กิจกรรมที่ไม่ชอบสินะครับ ถือว่าโชคดีไปครับ เครื่องแบบใช้จับผิดเลยทีเดียว ปกติถึงมีครูก็ไม่ค่อยจะอ่านชื่อหรอกนะครับ เห็นชอบเรียก ไอ้XXX ไม่รู้เค้ามองนักเรียนเป็นสัตว์หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ


@ข้ามขอบฟ้า
จริงๆ ปัจจัยที่เขียนในครั้งนี้พอจะปล่อยผ่านได้บ้าง แต่เรื่องครูมีกรณีศึกษาน่าสนใจครับ ไว้จะเอามาลงในครั้งต่อไป


@สายหมอกและก้อนเมฆ
ประเด็นในครั้งนี้พอจะหลับตาข้างนึงได้ จริงๆ ผมไม่ค่อยชอบลักษณะการหลับตาข้างนึงเท่าไหร่ ประเด็นหลักอยู่ที่ครู หลายๆ คนอาจจะบอกว่ามันเป็นปัญหาปัจเจกบุกคล แต่หลายๆ เคสก็น่าสนใจครับ ไว้จะนำเสนออีกที


@กะว่าก๋า
รู้หน้าที่ไม่พอ ต้อง "เคารพกฏหมาย" ด้วยครับ


@เนินน้ำ
ผมมองว่าสำคัญที่สุดที่ต้องเริ่มที่ครู แต่จะว่าไปเมื่อคุยกับคนที่เป็นครูมันแล้วก็น่าเห็นใจครูจริงๆ


@mariabamboo
โดนครับ อันนี้ผมก็ได้ยินจากปากครูเองเลย ว่าวันๆ มีแต่เอกสาร แล้วก็รายงานประเมินจนไม่มีเวลาเตรียมการสอน


@Sai Eeuu
ยอมรับในความเห็นต่างในจุดนี้ เรื่องปักชื่ออย่างที่บอกผมเป็นคนเปิดรับหลายๆ อย่าง เพียงแต่ข้องใจว่าครูไม่เรียกชื่อตามที่ปักชื่อ จริงๆ มันอาจเป็นปัญหาที่ตัวบุคคล แต่โดยส่วนตัวเจอครูแบบนี้มาเยอะ ที่สำคัญคือมันเปลืองเงินค่าปักครับ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:16:27:04 น.
  
ซีอยากเป็นเซฟค่ะ ..อิอิ เซฟซี
โดย: kae+aoe วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:16:54:07 น.
  
แวะมาโหวตค่ะ
โดย: kai (aitai อ่านว่า อะอิไต้ ) วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:17:18:47 น.
  
มาเยี่ยมคุณต่อค่ะ บล็อกวิวาห์ใต้สมุทรได้เวลาปิดทริปซะที
โดย: sawkitty วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:18:55:54 น.
  
ถ้าทำตัวอยู่เหนือกฏหมายซะแล้ว
ก็คงไม่ต้องเคารพอะไรกันแล้วล่ะครับน้องต่อ 5555

ปล. พี่ก๋านี่เป็นยุคไอ้มดแดงครับ 5555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:19:04:36 น.
  
โหวดค่ะ

แม่ซองฯว่าคุณภาพของครูต้องมาก่อน

สมัยก่อนครูบ้านนอกไม่ค่อยมีวุฒิ เงินเดือนก็น้อย
แต่แม่ซองฯว่าคุณภาพคับแก้ว

สมัยนี้ครูเซ็งลี้ก็เยอะทั้งที่มีความรู้เรียนมาจากเมืองนอกเมืองนา
แต่คุณธรรม และจริยธรรมน้อยมาก

แม่ซองฯเลยรู้สึกว่า ครูต้องมีคุณภาพ และใจรักการเป็นครูอย่างจริงจัง

ระบบการศึกษาจึงจะไปรอด
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:20:45:07 น.
  
ถ้าครูสามารถจำชื่อนักเรียนได้ทั้งห้องถือว่าผ่าน
นี่ก็หินเหมือนกันนะคะ
นักเรียนกจำชื่อครูได้หมด
แต่ครูจำนักเรียนได้หมดยากเอาเรื่อง
ยกเว้นนักเรียนคนนั้นจะมีอะไรโดดเด่นจริงๆค่า




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Gorjai Writer Movie Blog ดู Blog
lovereason Book Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Pet Blog ดู Blog
toor36 Education Blog ดู Blog



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:22:30:32 น.
  
เด็กประถม มัธยมรุ่นใหม่ ไม่ต้องการเข้าแถว ร้องเพลงชาติเคารพธงชาติ สวดมนต์ ฟังครูชีิ้แจงยามเช้า ดื้อขึ้นทุกวัน
ส่วนครู ไม่มีการเตรียมการสอน
สถานที่คับแคบ โรงเรียนดังๆ มีพื้นที่เท่าไรก็ไม่พอ
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:23:08:29 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องต่อ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:6:37:03 น.
  
สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณต่อ
จะว่าไป ก็จริงตามนั้น
ตอนสมัยมัธยมได้เดินเรียนเหมือนกันค่ะ
เป็นตามที่คุณต่อว่าเป๊ะ
คาบนึงได้เรียนจริงๆ ครึ่งชั่วโมงได้มั้งคะ
ชุดนักเรียนอยากได้สีอื่น ที่ไม่ใช่สีขาวจัง
โดย: ann_shinchang วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:8:17:43 น.
  
@ซองขาวเบอร์ 9
โดนครับ ทุกอย่างอาจไม่พร้อม แต่คุณภาพครูต้องพร้อม คราวหน้าเราไปดูกรณีศึกษาเรื่องของครูกัน


@Rinsa Yoyolive
ถ้าปริมาณเหมาะสมไม่มากเกินจำได้ครับ บางครั้งอาจจำชื่อไม่ได้แต่เห็นแล้วรู้ แบบนั้นก็พอให้ผ่านได้ครับ


@สองแผ่นดิน
ผมมองในมุมที่ว่า เพราะอะไรถึงไม่อยากทำ ถ้าสามารถอธิบายเหตุผลได้ก็น่ารับฟัง ในประเด็นนี้มีพูดถึงในครั้งต่อไปครับ


@ann_shinchang
ผมเปิดรับแบบกว้างๆ เลย จะเดินก็เดิน แต่เราชี้ให้เห็นถึงข้อเสีย ถ้าสามารถอุดช่องโหว่นั้นได้ จะเดินเรียน หรือไม่เดินก็ไม่มีปัญหาหรอก
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:11:10:03 น.
  
คำอย่าง ริบบิ้น กาแฟ กับปีตัน พวกนี้เป็นศัพท์บัญญัติ
ในพจนานุกรมมาตั้งแต่ปู่ย่าตายายเรายังฟังภาษาอังกฤษ
ไม่คุ้นหู บัญญัติไปตามที่ท่านคิดว่าได้ยิน บางคำรับได้
ก็รับกันไป ที่ไม่ไหว ไม่มีใครใช้ก็ตกไป อันนี้ไม่ว่ากัน

ที่พี่พูดก็อย่างเช่น ตัว H ซึ่งต้องออกเสียง เอ็ช ตาม
phonetics ที่ต้องอิงอยู่กับลาตินเป็นบางส่วน เพราะคำที่
มี H นำหน้า เค้าไม่ออกเสียง H แต่ออกเสียงสระที่ตาม
มาแทน เช่น เฮ็นรี่ เป็น อองรี แต่ครูที่ไม่รู้ขนาดนี้ จะ
บอกว่า เมื่อเราอ่าน have ว่า แฮฟ เราก็ควรอ่าน H ว่า เฮ็ด
เช่นนี้แล ฟังเผินๆก็สับสนนะคะ ความจริงมันมีสาเหตุอีกเยอะ
เดี๋ยวนี้คนจำนวนไม่น้อยก็เลยอ่าน Truemove H ว่า
ทรูมูฟ เฮ็ด แทนที่จะเป็น ทรูมูฟ เอ็ช อ่ะคะ

การที่ครูสอนภาษาอังกฤษไม่ได้เรียน phonetics มาตาม
สมควร หรือเรียนเพราะหลักสูตรก็มีแต่ไม่ได้จำมาใช้ให้
ถูกต้อง เป็นเรื่องน่าปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง

ช่วงนี้สุขภาพทำให้สิ่งแวดล้อมไม่ค่อยสดชื่น เลยมาออกตัว
สีแปร๊ดๆในบล็อกค่ะ น้องต่อ

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:13:03:37 น.
  
ที่มีเยอะครับ
แต่เวลามีน้อย
เลยไม่เลี้ยงอะไรเลย 555

คือแต่ละอย่างที่หมิงหมิงอยากเลี้ยง
คือแมงป่อง และงูบอล

พี่ก๋าโนเวย์อย่างเดียวเลยครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:13:07:47 น.
  
ก็ยังห่างชั้นจากหนุ่มๆ เยอะค่ะ เรื่องการประลองหุ่นยนต์
โดย: kae+aoe วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:13:12:26 น.
  
วิวทางโน้นสวยมากๆค่ะ
โดยเฉพาะเมืองที่น้องสาวอยู่ขึ้นชื่อเรื่องวิวพอสมควร
ขอบคุณโหวตค่ะ

โดย: mambymam วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:13:46:15 น.
  
คุณต่อคิดเหมือนคุณก๋าเลยค่ะ
ว่าเดือนนี้น้ำพริกปลาทูจะมาแรง
แต่พี่ไม่ได้ทำนะ อิอิ...
โดย: เนินน้ำ วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:17:32:23 น.
  
วงเวียนพะยูน ไม่ได้จอดรถเลยค่ะ ไม่งั้นคงได้หลายมุม ถ่ายเจาะแต่ละชั้นไปเลยชัด ๆ งี้

ร้านสิริบรรณนั่นก็ขับผ่านไปผ่านไป ไม่ได้จอดแวะเหมือนกันค่ะ

เสียดายค่ะ พี่ไม่ได้หมุนอะไรกับเค้าเลย เห็นตู้ ๆ แบบนี้เยอะมาก ไม่รู้ว่าคืออะไร 555 พี่เพิ่งรู้จากบล็อกต่อแหละว่า กาชาปองมีตุ๊กตาเกาะขอบแก้ว น่ารักดีเหมือนกัน เมื่อไหร่จะได้ไปอีกไม่รู้
--------------
เอนทรี่นี้ต่อเลยต้องไล่ตอบรายคนเลย ดีเหมือนกันค่ะ พี่ก็ไล่อ่านคอมเมนท์เพื่อนบล็อกด้วย
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:17:33:52 น.
  
จากบล็อกครั้งนี้ตื่นเต้นกะ หมอกหยอกเขาอีกละค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:20:12:17 น.
  
อิอิ ถูกใจคนชอบเนื้อเนอะะะะะะ
โดย: Close To Heaven วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:22:18:23 น.
  
สวัสดีคะคุณน้องต่อ

ได้ความรู่และได้ประโยชน์คะ

โหวตให้เลยคะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:6:36:32 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องต่อ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:6:40:20 น.
  
หมิงหมิงเคยขออ่านประวัติสุเทพ เทือกสุบรรณด้วยนะครับ
พี่ก๋าก็ซื้อให้อ่าน
อ่านแล้วก็ถามไปด้วยว่าคิดยังไงกับแนวคิด

แต่ส่วนใหญ่หมิงหมิงจะชอบนักวิทยาศาสตร์ครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:14:52:49 น.
  
มันเป็นขบวนการนะครับ
ใครอยู่ฝั่งไหนก็สนับสนุนฝั่งนั้น
สำนักพิมพ์หลายสำนักพิมพ์ก็เลือกข้างเลือกสีให้เห็นเด่นชัดเลยครับ

จริงๆพี่ก๋าไม่ค่อยชอบหนังสือโฆษณาชวนเชื่อนะ
แต่ลูกอยากอ่านก็โอเค ซื้อให้อ่านครับ
พี่ก๋ายังถามหมิงหมิงเลยว่าทำไมอยากอ่าน 5555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:15:46:43 น.
  
เขาผู้แหละที่มาชำแหละปัญหาการศึกษาของชาติ

> จำนวนนักเรียนต่อคนล้นห้อง

>>> สถานที่เรียนไม่เอื้ออำนวย

>>>>> หลักสูตรการสอนที่ล้มเหลว

>>>>>>> กิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์


เขาผู้นี่แหละคือ...คุณต่อ

"โอนิซึกะแห่งบล็อกแก๊ง"
แง้ง แง้ง แง้ง (เสียงแอ็คโค่)

v
v
v

ตุ้บตั้บ! ตุ้บตั้บ! (เสียงทุเรียนโดนแก๊งซิ่งต่อย )
โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:15:47:20 น.
  
ขอขอบคุณคุณต่อคร้า...ที่แวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวใหม่
พระแกะสลักบนหน้าผา อนาคตถือเป็นแลนด์มาร์ค
ท่องเที่ยวใหม่ของสุพรรณเลยละคะ
จามจุรี ...อลังมากจริงๆเห็นต้นเด่นแต่ไกลก่อนใกล้จะถีง
ทำเอาขนลุกเลยคร้า ...ขอบคุณโหวตด้วยนะคร้า
โดย: Tui Laksi วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:20:38:06 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณต่อ ^^

สมัยเรียนมัธยม พี่มีสมาชิกในห้อง 55 คนค่ะ
กว่าจะรู้จักกันแบบยกห้องก็ครึ่งปีละมั๊ง ^^"

ขอบคุณที่แวะไปอวยพรวันเกิดด้วยนะคะ
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:22:40:00 น.
  
ยังมีดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิอีกเยอะค่ะน้องต่อ
ทั้งที่ร่วงโรยหมดแล้ว พี่ก็อัพบล๊อกไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ดอกกหุลาบออกเต็ม อย่าเพิ่งเบื่อก่อนหล่ะ
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:2:36:46 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องต่อ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:6:52:42 น.
  
ผมว่าสมัยนี้อาชีพครูน่าจะสร้างความเชื่อถือได้ยากในทางวิชาการ เพราะคำตอบต่างๆอยู่ในอินเตอร์เน็ต เข้าถึงได้ง่าย ส่วนจะถูกหรือผิดก็อีกเรื่อง

ผมมองว่าครูคือหางเสือ จะคัดท้ายอย่างไรให้ลูกศิษย์เข้าถึงความรู้อย่างลัดสั้น ไม่หลงทาง ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นเราก็คงไม่ต้องมีครู

ส่วนลูกศิษย์ก็ไม่ควรพึ่งข้อมูลจากครูทั้งหมด ต้องเรียนรู้ด้วยตนเองไปพร้อมกัน ความรู้นอกห้องมีมหาศาล ใช้เวลาเป็นร้อยปีเป็นพันปีก็ไม่หมด ไม่ควรโทษครูว่าสอนไม่ดี หรือไม่ตรงใจ

ความมีจริยธรรมเท่านั้นที่อาจทำให้ครูดูแตกต่างกันครับ
โดย: Insignia_Museum วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:7:03:34 น.
  
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะคุณต่อ

มีความสุขวันหยุดมาก ๆ นะคะ
โดย: mariabamboo วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:9:31:07 น.
  
ถ้าเป็นกิจกรรมพี่ไม่เคยนะ แต่ถ้าเป็นวิชาเลือกเสรีล่ะก็ เคย

อย่างทำดอกไม้ประดิษฐ์ พี่ไม่ถนัดมากๆ จะไปให้ใครเขาช่วยทำก็ไม่ได้ เราต้องทำเองในชั่วโมง แต่ก็ยังโชคดีที่ครูไม่ดุ

ถ้าครูดุและต้องเป๊ะ คงเครียดตาย

ของพี่ ถ้าตรงไหนยังไม่ดี ครูก็ยังมาช่วยบ้าง
โดย: comicclubs วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:9:40:06 น.
  
@คนบ้านป่า
เรื่องนี้ลำบากจริงๆ แหละครับ


@คนผ่านทางมาเจอ
มีประเด็นอะไรอยากเอามาร่วมพูดคุยก็สามารถเอามาร่วมพูดคุยได้ครับ


@ทุเรียนกวน ป่วนรัก
เดี๋ยวคราวหน้าจะชำแหละเคสครูที่ไม่ค่อยดีครับ จัดว่าแย่เลยล่ะ


@ปรัซซี่
พอๆ กันเลยครับ 50 กว่าคน กว่าจะจำชื่อได้หมดใช้เวลาจริงๆ ส่วนครูนี่ไม่ต้องพูดเลย สอนหลายห้องด้วย จำนักเรียนได้หมดคงยาก


@Insignia_Museum
ผมถูกใจคำว่าจริยธรรมครับ ครั้งหน้าเรามาดูกรณีศึกษากัน


@comicclubs
ถึงจะเป็นสิ่งที่เราไม่ถนัดแต่ถ้าครูเป็นกันเองไม่เคร่งเครียดมาก มันส่งผลให้เราเรียนรู้ได้มากขึ้นจริงๆ ครับ เคสแบบนี้หลายๆ คนน่าจะเคยเจอมาเหมือนกัน ใครเจอครูไม่เครียดมากก็จะผ่านไปได้ด้วยดี
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:11:21:53 น.
  
ใช่เลยครับน้องต่อ
ไปเที่ยวแบบที่ต้องเดิน ต้องปีนป่าย
พี่ก๋าเหนื่อยมากๆ
หมิงหมิงนี่แรงไม่ตกเลย 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:15:06:04 น.
  
การศึกษาไทย

ปอมว่าเริ่มจากหาครูที่มีคุณภาพ


อาจต้องตั้งเงินเดือนสูงๆ ให้คนเก่งๆอยากมาเป็นครู


หลักสูตรแบบท่องจำเลิกไปโลด . . . สอนให้คนรู้จักคิด

หากระบบยังไม่เปลี่ยน

ตำแหน่งรั้งท้ายของอาเซียน . . . คงไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:21:12:02 น.
  
แวะมาเยี่ยม สวัสดีครับ
โดย: **mp5** วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:21:57:26 น.
  
คาเรน คาร์เพนเตอร์ เสียงสุดยอดค่ะ น่าเสียดายที่อายุสั้นเนาะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:22:08:01 น.
  
@กาปอมซ่า
จริงครับ ครูต้องเป็นพวกครูคุณภาพ แต่ถ้าเป็นลักษณะมีประเด็นให้เด็กถกกันครูต้องเตรียมตัวเยอะนะ หลายๆ อย่างปรับยากจริงๆ ครับ


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมพูดคุย เดี๋ยวไปต่อกันตอน 2 กรณีศึกษาของครู
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:22:11:39 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Toor36.BlogGang.com

BlogGang Popular Award#20



toor36
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]

บทความทั้งหมด