รอคิดหัวข้อ II ![]() คุนหมิงในความทรงจำ ผมเริ่มเขียนบล็อกในหมวด ชีวิตไทยในต่างแดน เมื่อปี พ.ศ.2550 จากความรู้สึกหลายอย่างที่ผสมกัน ไม่ว่าเมื่อไหร่เรื่องราวภายนอกประเทศก็เป็นที่สนใจของผู้คน ที่เขียนเปรียบเทียบเรื่องราวต่างๆ เกิดจากความรู้สึกอยากที่เห็นประเทศไทยพัฒนาให้ดีขึ้นแบบนั้นบ้าง ในขณะเดียวกันก็มีด้านแย่ๆ ที่เราไม่อยากให้ไทยเดินตามเช่นกัน ในหมวดนี้ ผมจงใจเขียนให้ครบ 100 เอนทรี่ และปิดตำนานลงในปี พ.ศ.2555 (ความจริงกลับไทยแล้ว แต่ยังเขียนต่อ) ผมตั้งใจตอบคำถามของทุกคนที่แวะเข้ามา ทั้งในบล็อกตัวเองและไปตอบถึงบล็อกคนที่แวะเข้ามารวมไปถึงทางหลังไมค์ที่สอบถามข้อมูลต่างๆ ถ้าคุณเปิดดูในหมวดนี้อีกครั้งพบข้อความหลายอย่างเหมือนคำทำนายอนาคตที่แสนมืดมน ประเทศไทยแทบไม่ได้พัฒนาในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานเลย แม้แต่ตอนนี้ที่อ้างว่ากำลังทำก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นเท่าไหร่นัก ขณะที่เมืองคุนหมิงในตอนนี้แทบจะกลายเป็นคนละเมืองกับคุนหมิงที่ผมรู้จักไปเสียแล้ว มีรถไฟใต้ดินหลายสาย สนามบินใหม่ การขยายตัวเมือง ร้านค้าบางร้านที่เราเคยไปประจำตอนอาศัยอยู่ที่นั่นย้ายที่ไปที่ใหม่แล้วก็มี ตั๋วร่วมของรถประจำทางที่คุนหมิงมีใช้ก่อนปี 2549 น่าตกใจที่แม้แต่ตอนนี้ประเทศไทยก็ยังไม่มีระบบตั๋วร่วม หมายความว่าระบบรถโดยสารประจำทาง เราตามหลังเมืองคุนหมิงมากกว่า 10 ปี (ถ้านับเริ่มจากปี 2549 เราตามหลัง 16 ปี) ผมชอบที่นั่น แม้ว่าเมืองอาจไม่ใหญ่ แต่ก็อยู่สบายไม่ลำบาก ตอนที่อยู่ที่นั่นมันรู้สึกดีมากๆ โชเซ่ มูรินโญ่เคยกล่าวถึงทีมปอร์โต้ไว้ว่า "ที่นั่น.. รองจากพระเจ้าก็คือผม" ตอนผมอยู่ที่นั่น ผมมีความรู้สึกไม่ต่างกัน น่าเสียดายพอกลับมาประเทศไทยแล้วไม่สามารถทำให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นได้ที่นี่ ช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่นถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต รางวัล Best Klaibann Blog ผมก็ได้เพราะนำเสนอเรื่องราวของที่นั่น เรื่องราวเก่าๆ มานั่งย้อนนึกถึงความหลังมันก็สนุกดี แต่ตำนานที่จบไปแล้วก็ต้องให้มันจบไป นอกเสียจากว่า เราจะเขียนตำนานบทใหม่ขึ้นมา นักศึกษาชาวอเมริกัน หวงเหอ ชื่อของนักศึกษาต่างชาติชาวอเมริกันวัยกลางคน เป็นคนที่จริงจังในการเรียนมาก ไม่เอาเพื่อนสนแต่เรียน ผมไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่นัก เพื่อนในห้องก็ไม่ค่อยชอบ เขาเคยมีพฤติกรรมเข้าขั้นก้าวร้าวอาจารย์ เขาเคยถามคำถามพวกเราขึ้นมาคำหนึ่ง ซึ่งเป็นคำถามที่ทำให้เราต้องมานั่งคิด "คุณเรียนภาษาจีนไปเพื่ออะไร สำหรับเขาเขาเรียนเป็นงานอดิเรก" แล้วเขาก็ให้เหตุผลที่ทำให้เราตะลึงว่า "คิดว่าคนจีนจะจ้างคุณทำงานเหรอ? คนจีนไปที่ไหนก็เอาแต่พวกเดียวกัน คิดว่าเรียนภาษาจีนแล้วทำงานกับจีนจะดีจริงๆ เหรอ?" ผมมานั่งย้อนนึกถึงที่เขาพูด ผมได้แต่หัวเราะตัวเองในตอนนั้น "เออ แกพูดถูกหว่ะ ไอ้หวงเหอ" อาจเป็นเพราะซอฟต์พาวเวอร์ ในยุคหูจิ่นเทา (คนที่โดนลากตัวออกไปในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งล่าสุด) ทำให้เรารู้สึกว่าประเทศมันโอเค มันดูมีหวัง ยุคนั้นแม้คุณอาจจะไม่อยากยอมรับ แต่ยุคท่านผู้นำหูจิ่นเทา แกใช้ซอฟต์พาวเวอร์ได้ดี หลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะพวกสื่อบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เกม การ์ตูน หรือเรื่องอื่นๆ อย่างกีฬา การเรียนภาษา แม้แต่วัฒนธรรม อาหารการกิน แกส่งออกได้หมด แต่พอมายุคท่านผู้นำคนปัจจุบันนั้นแตกต่างกันมาก เพราะแกเล่นใช้แต่ฮาร์ดพาวเวอร์แบบเอ็กซ์ทีม ตอนนี้ในประเทศเขาแม้ภายนอกจะดูสงบ แต่ถ้าคุณส่องเข้าไปจะรู้เลยว่ามันวุ่นวายมาก ![]() ซีโร่โควิด ประเทศจีนที่ดูเหมือนสงบ ภายในยุ่งเหยิงวุ่นวายมาก ผมรับรู้ข่าวสารจากเพื่อนชาวต่างชาติที่อาศัยที่นั่น และคนจีนท้องถิ่นที่รู้จักกัน หลายเมืองล็อคดาวน์ เวลาเจอคนติดเชื้อคนเดียวก็ล็อคดาวน์กันทั้งตึก ขังไว้ไแบบนั้น คนที่ไม่แน่ใจว่าติดหรือไม่ก็คลั่งสิครับ แต่ทว่านโยบายนี้แม้ว่ามันจะผิดพลาด แต่จะไม่มีวันยกเลิกเด็ดขาด เพราะถ้าหากยกเลิกมันจะมีนัยยะทางการเมืองว่า "นโยบายที่ใช้อยู่นั้นผิดพลาด" ก่อความเสียหายให้ประเทศ รวมไปถึงความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งของท่านผู้นำด้วย มีป้ายแปะอยู่สองอัน อันบน 'เนื่องด้วยสภาวะโรคระบาดไม่อนุญาตให้ผู้ที่มาจากเมืองเจ้าหยางเข้า' อันล่าง 'ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปข้างใน' ผมนึกถึงกลุ่มทุนจีนสีเทาที่กำลังเป็นข่าว ยิ่งถ้าซื้อที่ได้ล่ะก็ ต่อไปอาจมีป้ายแปะลักษณะเดียวกันก็ได้ ห้ามคนไทยเข้า นี่ขนาดยังไม่สามารถซื้อที่ได้ยังขนาดนี้เลย ศรัทธาที่พังทลาย ผมเคยศรัทธามนุษย์หลายคน แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป มันเหมือนเรามืดบอดทางปัญญา ผมพยายามโกหกตัวเองหลายต่อหลายครั้ง หาเหตุผลข้ออ้างต่างๆ เพื่อปกป้องตัวเขา แต่คำโกหกมันก็เป็นได้แค่คำโกหก สิ่งที่สัมผัสได้มันตรงกันข้าม สุดท้ายก็เหมือนเราไปเปิดประตูต้องห้าม "เปิดใจเสีย มองในมุมมองคนนอกแบบที่เคยทำ" ผมทำแบบนั้นจากนั้นความรู้สึกของผมก็เปลี่ยนไปตลอดกาล มันเหมือนแม่น้ำยมโลกเมื่อเราข้ามมันไปแล้ว เราก็ไม่สามารถกลับมาในจุดเดิมได้อีก เมื่อมันพังทลายไปแล้วเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก จากนี้ไปผมจะไม่สนพวกมันอีกแล้ว และขอหันหลังให้พวกมันอย่างสมบูรณ์ ไม่มีอะไรที่ต้องไปห่วงพวกมันหรอก ห่วงตัวเราเองดีกว่า มันมีอะไรมากกว่าเราเยอะ ผมจะไม่โกหกตัวเองอีกแล้ว ![]() ความกล้า การที่จะได้อะไรบางอย่าง จำเป็นต้องสูญเสียบางอย่างที่เท่าเทียมกัน แล้วถ้าเราต้องการความกล้าล่ะ เราจะต้องจ่ายด้วยอะไร? ของหลายอย่างไม่สามารถซื้อตามตู้ขายของหยอดเหรียญ หรือสั่งซื้อออนไลน์ ที่สำคัญสิ่งที่เราต้องจ่ายไม่สามารถชำระได้ด้วยเงิน เราต้องจ่ายด้วยอะไรเพื่อให้ได้รับความกล้า กล้าที่จะทำในเรื่องที่เราหวาดกลัว กล้าที่จะยืนหยัดบนความถูกต้อง แม้มันอาจไม่ถูกใจคน เราจะกำจัดความกลัวในใจไปได้อย่างไร? เราจะหนีไม่ได้ แต่เราจะสู้กับมันอย่างไร? เราต้องการความกล้ามากขนาดไหน จิตใจที่มุ่งมั่นจะหาได้จากที่แห่งใด ต้องหาทางนำจิตใจมุ่งมั่นแบบสมัยก่อนกลับมาให้ได้ พวกด้อยพัฒนา ตอนเรียนที่จีนในชั่วโมงวัฒนธรรมมีการพูดถึงบทบาทครูในโรงเรียน ทุกคนในห้องก็พูดถึงบทบาทครูในประเทศตัวเอง มีหลายเรื่องเล่าสู่กันฟัง เรื่องครูเอากรรไกรมาตัดผมนักเรียนก็มี แม้จะมีกฎระเบียบยกเลิกเรื่องทรงผมแล้ว แต่ครูก็ไม่ปฏิบัติตาม ต่างประเทศทำแบบนี้เป็นคดีความเลยนะครับ (ครูถึงขั้นติดคุกเลย) บางครั้งเมื่อเราฟังเรื่องราวจากประเทศอื่น ก็รู้สึกว่าประเทศเขาล้าหลัง ด้อยพัฒนา แต่ถ้ามองในมุมของคนต่างชาติมองเข้ามาในประเทศเรา เขาก็อาจมองเราในแบบที่เรามองเช่นกัน คือ "ด้อยพัฒนา" มันคุ้นๆ ใจเราในตอนนั้นผมยอมรับว่าเกิดความรู้สึกที่เรียกว่าเหยียดเชื้อชาติ ผมมองว่าประเทศเหล่านั้นว่าด้อยพัฒนา แต่เมื่อนึกถึงประเทศเราก็ตาสว่างขึ้นมาในบัดดล ในมุมมองคนนอกเราก็คงโดนมองไม่ต่างกันว่าเป็นประเทศด้อยพัฒนา เพียงแต่เราอาจไม่ตระหนักถึงจุดนี้ต่างหาก เรื่องตัวร่วมนี่ ได้ยินมานาน... จำได้ว่าน่าจะดี
นะ ราชการเขาดึง บริษัทรถเมล์หลายบริษัทเข้ามาวิ่ง ในบริษัทขนส่งมวลชน 555 แล้วจะดีนะ ต่อไป เราขึ้นรถคันนี้ ไปขึ้นอีกคันได้เลย เขาพูดว่าต่อไป จะได้ประหยัดเงิน 555 แต่นั่น ปีใดจำไม่ได้แล้ว ยังเหมือนเดิม ขสมก.ดูไม่ดี ขึ้นเลย .... หลังจากผมกับเพื่อนหลายคนเรียนจนจบ จนได้ 555 ทำงานได้ปีกว่าเริ่มรู้แล้วว่า วิชาที่เรียน เป็นความรู้ ที่ต้องทำตามเพราะเป็นวิชาการ แต่วิชาใด มีอาจารย์พิเศษจาก กก.ผจก.หรือ คำทำงานจริงมาสอนพวกเรา เราได้ความรู้ ที่แท้จริงจากวงการค้า แง่กฏหมาย หาทางออกในการทำงานได้ด้วย อาจารย์พิเศษ สอนได้ดีทำเราไม่ง่วง สนใจสอบถามไม่ค่อยจดอะไรจนเข้าใจ เสียดายจัง วิทยาลัยเขามีอาจารย์พิเศษน้อย ส่วนใหญ่จะเป็น คนที่เรียนเก่งเกรดดี จนรับเข้าเป็นอาจารย์ ทั้งที่ไม่เคยทำงาน โดย: ไวน์กับสายน้ำ
![]() ![]() ทักทายยามเย็นครับคุณต่อ
ซีโร่โควิด นี่เข้มมากกระทบหลายๆอย่างครับ ส่งกำลังใจครับ โดย: Sleepless Sea
![]() ![]() พี่ก๋าไปคุนหมิงเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว
ไปงานพืชสวนโลก และเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกด้วย ที่ชอบที่สุดคืออากาศ เย็นสบาย ตอนไปพี่ก๋าเป็นสิวเยอะมาก ไปเที่ยว 7 วันกลับมาหน้าใสเลย 5555 ตอนนี้คุนหมิงคงจะพัฒนาแบบก้าวกระโดดไปไกลแล้ว จีนพยายามสู้โควิดในแบบที่ตัวเองคิด แน่นอนมันมีทั้งถูกต้อง ถูกใจ มีทั้งผิดพลาด และไม่ถูกใจประชาชน แต่ใครจะสน สีจิ้นผิงตอนนี้อำนาจเทียบเท่าจักรพรรดิ์แล้ว ด้อยพัฒนา ใช้คำนี้กับบ้านเราได้เลยนะครับ ในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา การบริหารประเทศล้มเหลวในทุกๆด้าน โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน หลักสูตรมีปัญหามาก ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนถูกถ่างออกอย่างเห็นได้ชัด คนที่รอด ปลอดภัยและมีความสุข คือ ทหาร ข้าราชการประจำ แต่พี่ก๋าก็ไม่ได้มองโลกแบบสิ้นหวังนะ ใดใด --- ที่สุดแล้ว พวกเขาก็จะพ่ายแพ้กาลเวลา อำนาจไม่มีวันยั่งยืน โดยเฉพาะอำนาจที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง อำนาจที่ได้มาแล้วไม่มีคุณภาพพอที่จะรักษามันไว้ ถึงวันหนึ่งมันก็เสื่อมครับ เพียงแต่เราในฐานะประชาชนก็ต้องอดทนอยู่ในวงจรของความเสื่อมนี้ให้ได้ จนกว่าพวกเขาจะจากไป ไม่ว่าจะในครรลองของฏกหมาย การเลือกตั้ง หรือกาลเวลาและอายุขัยนี่แหละครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
ก็ต้องเดินตามๆกันต่อไป โดย: สองแผ่นดิน
![]() ![]() พี่ก๋าเขียนงานขุดนี้ไว้นานแล้ว
เขียนก่อนโควิดอีก ตั้งใจจะเอาประสบการณ์การทำงานมาเขียน แต่เลือกวิธีเขียนแบบมองโลกในแง่ร้ายก่อน แล้วค่อยมองโลกในแง่ดี ถ้าใครอ่านไม่ครบ คงจับใจความไม่จบเหมือนน้องต่อว่านั่นล่ะครับ 555 8 ปีสำหรับบางประเทศ มันคอืการพลิกโฉมและพัฒนาไปเร็วมาก ในขณะที่บางประเทศมันคือการย่ำอยู่กับที่แล้วก็ถอยหลังลงคลองไปเรื่อยๆครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() จีนเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ ซอฟต์พาวเวอร์ในแง่บันเทิงเราว่าเขาน่าจะเป็นประเทศแรกๆเลยนะ
เกิดมาจำความได้ก็ชอบดูจีนโบราญมาจนถึงปัจจุบัน แต่ซีรีย์จีนโบราญปัจจุบัน ดูเอาสนุก หาสาระไม่ค่อยได้ ก็จริงนะจีนเอาแต่พวกเดียวกัน ศูนย์เหรียญถึงได้ระบาดที่บ้านเรา เรื่องโควิดนี่เกินไปมาก เห็นในข่าวที่ประชาชนต้องตุนอาหาร แย่งกันซื้ออาหาร หมดคำจะพุด บ้านเราด้อยพัฒนาจริงนะไม่ต้องให้ใครมาบอก หลายๆอย่างมันเห็นๆกันอยู่ โดย: NENE77
![]() ให้อภัย
แต่ไม่ลืม พี่ก๋าว่ามันเป็นวิธีที่ดีนะ อย่างน้อย เขาก็ทำร้ายเราแบบเดิมไม่ได้อีกต่อไป ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ประเทศจีนสวยงามน่าเที่ยว แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เราก็มีเพื่อนเป็นคนจีน โคตรขยันเรียนเลย คุยการเมืองด้วยสนุกมาก ประเทศจีนพัฒนาไปมากจริงๆ เราไม่เคยไปเที่ยวจีน เคยเห็นก็จากในภาพ แต่เท่าที่ตามหลายๆ เมืองเจริญมาก
วันนี้ไม่มีข่าวไหนงามหน้าเท่าหมีพูไม่จับมือด้วยแล้วมั้ง ความกล้ามันคงสำคัญที่เราต้องพุ่งชนโดยที่ไม่คิดอะไรมั้ง การที่เรายังมีความกลัวแสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจในตัวเราเหมือนกัน เพราะเก่งถึงได้รู้ว่าสิ่งที่เราเผชิญอยู่มันน่ากลัว แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาที่เราต้องสู้ มันก็ต้องสู้ ขอให้มีก้าวแรกให้ได้ก่อนแล้วก้าวต่อไปจะตามมา โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969
![]() สวัสดี ยามดึก จ้ะ น้องต่อ
บล็อกวันนี้ เปลี่ยนแนวเขียนไปเยอะเลย อิอิ นาน ๆ จะเห็น ต่อ เขียนงานเขียนในด้านนี้ เนาะ เมืองคุนหมิง ครูเคยไปเรียนอยู่ 1 เดือน ครู ก็ชอบมากเหมือนกัน ได้กลับมาเป็นนักเรียนอีก ครั้งหนึ่ง มหาวิทยาลัยหวินหนันเขาต้อนรับพวก ครูดีมาก พาเที่ยวทุกเสาร์อาทิตย์ได้ความรู้ได้ไป ทัศนศึกษา เป็นช่วยชีวิตที่สนุกมากช่วงหนึ่ง พูดถึงการพัฒนา คุนหมิงเจริญ พัฒนาเร็ว มากแค่ปีเดียวไปอีกครั้ง ก็เห็นความเจริญ ถนน หนทาง ตึกรามบ้านช่องผุดขึ้นมากมาย ไทยเรา คงเปรียบเทียบกับเขายาก จ้ะ แต่เราก็ภูมิใจ ประเทศไทยเรานะ ยากดีมีจนอย่างไร เราก็ไม่ ยากไร้ ปลูกผัก ปลูกข้าว จับปลาหากินได้ ถ้าไม่ เกียจคร้าน ก็ไม่อดตายหรอก จ้ะ อิอิ โหวดหมวด งานเขียนฯ เบตง ตอนนี้ ก็โอเค นะ ถ้าไปกับทัวร์ ก็ไม่ น่ากลัวนัก เพียงแต่อย่างเดินทางกลางคืน จ้ะ โดย: อาจารย์สุวิมล
![]() ![]() สวัสดีค่ะคุณต่อ
ยังไม่เคยไปคุนหมิงค่ะ น่ายินดีที่เมืองนี้มีการพัฒนาในหลายด้านนะคะ ประเทศด้อยพัฒนาหรือกำลังพัฒนาอย่างบ้านเรา อยากให้ก้าวผ่านสถานะนี้เป็นประเทศพัฒนาแล้วจริงๆค่ะ แต่คิดว่าความหวังก็คงเป็นความหวังต่อไป เพราะปัจจัยหลายด้าน ไม่ทันรู้จักกันช่วงที่คุณต่อเขียนเรื่องราวตอนอยู่คุนหมิง น่าย้อนอ่านด้วยค่ะ ![]() โดย: Sweet_pills
![]() ![]() ^
^ ^ ข้อความด้านบนอ่านแล้วฮึกเหิมดีครับน้องต่อ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() เคยบิ้วซีให้ไปเรียนต่างประเทศในช่วงมัยมแบบนี้เห็นเพื่อนๆ ขอทุน แต่ก็มีน้อยนะคที่เลือกจีน ส่วนซี บอกว่าไม่อยากไปเรียนต่างประเทศ
ขอบคุณคุณต่อที่มาเล่าเรื่องต่างๆ ให้เราได้อ่านกันค่ะ โดย: kae+aoe
![]() ![]() หากไม่อ่านบล็อกนี้...ก็ไม่เคยคิดเช่นกันว่า..จีนจะจ้างเราทำงานเปล่า
เสียดายโอกาสประเทศไทยเรา แทนที่จะได้ตำแน่งเสือตัวที่ห้า กลับได้สุนัขมาแทน โดย: ทั่นขุน (Rain_sk
![]() จีนสมัยคุณต่อไปเรียน เทียบกับไทยแล้วเป็นไงบ้างครับ แต่ตอนนี้ดูจะไปไกลแล้ว
ไทยช่วงรวบอำนาจเบ็ดเสร็จตั้งแต่ปี 57 ไม่ได้ไปไกลเท่าไหร่เลยครับ เสียดายเวลามาก ที่เห็นก็แค่อนุมัติก่อสร้างนู่นนี่นั่น ซึ่งถ้าไม่มีหน่วยงานขัดแข้งขัดขาแบบที่รัฐบาลพลเรือนเคยโดน มันก็ทำได้อยุ่แล้ว กองเชียร์ยังจะยกมาเป็นผลงานอีก ตัวเลขดัชนีต่างๆ ที่วัดความสำเร็จกันชัดๆ (GDP growth, GCI, CPI, GII, Gini Coef ฯลฯ) ไม่สนใจเลย เพราะคะแนนมันตกเอาๆ ละลายทรัพยากรหนักมาก เอื้อประโยชน์พรรคพวกตัวเองหนักมาก ภายในจีนเองไม่รู้ว่ามองสีจิ้นผิงยังไงนะครับ ผมมองแบบคนรู้จักจีนผิวเผินในปีแรกๆก็รู้สึกว่าแกพาจีนไปไกลมาก แต่หลายอย่างที่ถูกกดทันมันก็เริ่มปะทุออกมา พอ geopolitics แรงขึ้น โครงการลงทุนของ ปตท. หลายอย่างโดนบอร์ดเบรคเอี๊ยดเลยครับ แต่ยังทำกับไต้หวันอยู่นะ (ก็ Foxconn มากับเราตั้งขนนาดนี้แล้ว ถ้า tsmc มาด้วยก็จะเพอร์เฟ็คต์.....แต่ฝันไปเหอะ) ไทยแรกๆก็พยายาม zero covid เหมือนกัน พอรู้สึกว่าไม่ไหวก็ปล่อยละ แต่ไม่อยากให้ประชาชนลืมความชั่วช้าที่ ภท. ทำไว้ทั้งเรื่องกั๊กวัคซีน กั๊กหน้ากากอนามัย เอื้อให้ทุนพวกตัวเองเป็นคนผลิต แจกจ่ายวัคซีนให้พวกตัวเองก่อน ฯลฯ พวก สส. ที่พรรคนี้ซื้อตัวไปทั้งหลายขอให้สอบตกให้หมดเลยนะครับ ศรัทธาที่พังทลายนี่ต่อใครหนอ? ...สงสัยไม่น่าถาม สมัยนี้ฝั่งที่ถูกต้องระดมคนได้ง่ายกว่ายุคก่อนมากเลยครับ ต้องขอบคุณพลังของโซเชี่ยลและสังคมที่เปิดให้ถกเถียงกันได้อย่างเสรี ทำให้คนที่มีข้อมูลมากกว่าและตรรกะดีกว่า ชนะใจคนส่วนใหญ่ได้ แม้จะอยู่ตรงข้ามกับคนมีอำนาจ ต่อให้อีกฝ่ายพยายามกดทับยังไง ก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจและคนที่เคยเป็นพวกเดียวกันตีตัวออกห่างไปเรื่อยๆ ตายสิบเกิดแสน ครูประเทศอื่นๆ มีเอากรรไกรตัดผม หรือไม้เรียวตีเด็กแบบบ้านเราไหมครับ หรือมีเคสแซ่บๆ แบบอื่นมาแชร์มั้ย โดย: ชีริว
![]() ![]() ไม่รู้เป็นไงเดี๋ยวนี้ไม่สนใจการเมืองเลย
จนไม่รู้สึกว่ามีรัฐบาลอยู่ ไม่รู้ว่าบริหารดีจนคนไม่รู้สึกว่าถูกปกครอง หรือบริหารแย่จนสิ้นหวังกะสิ่งเหล่านั้นแล้วค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() คนรวยก็มีความทุกข์แบบคนรวยนะครับ
ใครว่าคนรวยไม่ทุกข์ ไม่จริงเลย ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() สวัสดีค่ะคุณต่อ ขอบคุณที่ไปให้กำลังบล็อกก๋วยเตี๋ยวไก่นะคะ
พี่กิ่งตามมาอ่านงานเขียนวันนี้แล้ว ชอบใจมากจริงๆค่ะ บ้านเมืองเราตามหลังประเทศอื่นๆโดยเฉพาะจีนไม่ทันเลย แล้วยิ่งมีผู้นำแบบนี้สลดหดหู่ใจมากกี่เรื่องแล้วที่ทำออกมาไม่สวยน่าอาย ยิ่งเรื่องของการบริหารประเทศไม่ต้องพูดถึง การดูแลประชาชนในชาติก็แสนจะอนาถาน่าสงสารจริงๆเมืองไทยยังมีประชาชนไร้การศึกษาเยอะมาก เห็นได้จากข่าวหนุ่มถูกรางวัลที่ 1 แต่โดนภรรยาเชิดเงินหนีไปเพราะไปโอนเข้าบัญชีภรรยาเนื่องจากตัวเองไม่รู้หนังสือ 555 นี่แหละข่าวดังบ้านเราด้อยพัฒนาขนาดนี้ผู้นำจะอ่านและรู้สึกอะไรบ้างไหม ในเรื่องเศรษฐกิจ ก็แสนจะเอาเปรียบปล่อยให้ปลาใหญ่กินปลาเล็กชาวบ้านจนๆจะทำมาหากินไม่ได้แล้วแต่คำตอบของผู้นำเหมือนกำปั้นทุบดิน 555 แล้วแบบนี้บ้านเมืองจะพัฒนาไปได้อย่างไรกันพี่กิ่งว่ามันมืดไปหมดแล้วค่ะอย่าว่าแต่คุณต่ออึดอัดเลยพี่กิ่งก็เช่นกันต้องทำใจเฉยๆยอมรับไปอย่างแกน 555 อ่านข้อเขียนวันนี้มีการรำลึกถึงความหลังของคุณต่อในชีวิตที่อยู่เมืองจีนและเปรียบเทียบบ้านเราได้ดีมากพี่กิ่งโหวต Diarist นะคะ ![]() ![]() ![]() โดย: กิ่งฟ้า
![]() จากบล็อก... ที่ทำงานพนักงานบางคนวิ่งทำหลายที่
บริษัทพูดไม่ออก บางคนรอโบนัส... บริษัทก็ต้องใช้ วิธีแบบกัดๆปล่อยๆ ดีหน่อยที่ช่วงนี้ทางรัฐบาล(ผู้ว่าของรัฐ) ส่งคนเข้ามาช่วยหรือเสริม ไม่งั้นพวกพนักงานประจำอย่างผม คงไม่ได้หลับนอนกัน... โดย: ทั่นขุน (Rain_sk
![]() มีช่วงวลีฮิตอยู่ช่วงนึงใช่มั๊ยครับ ว่าอย่าทำเป็นไทย อารมณ์ประมาณเราไปว่าคนลาวว่าอย่ามาลาวนะ
โดย: The Kop Civil
![]() ![]() กฏหมายไม่เคยผิด
แต่ผิดตรงคนบังคับใช้กฏหมายนี่ล่ะครับ ในทางการเมือง ถึงไม่เคยมีความยุติธรรม เพราะกฏหมายนั้นเลือกฝั่งเลือกข้างเสียก่อนแล้ว ว่าจะถูกนำมาใช้เพื่อทำร้ายใคร ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ขอบคุณ คุณต่อที่แวะไปทักทายนะครับ
....ใช่ครับเดี๋ยวนี้ อินเดียนหรือชนพื้นเมืองอเมริกัน ทันสมัยหมดแล้วครับ ทุกเผ่าร่วมกันทำกิจกรรม ไม่สู้รบกันเหมือนในอดีตแล้วครับ แต่ก็มีสืบสานประเพณีเก่าๆบางอย่างไว้บ้างครับ โดย: Sleepless Sea
![]() ![]() ฟุตบอลโลกผมดูเหมือนกัน แต่ดูช่องทางพิเศษนะครับ 555 อ้าวทายผลในพันทิพลืมเล่นเลยครับ
โดย: The Kop Civil
![]() ![]() ขอบคุณที่แวะไปบอกเล่าประสบการณ์มากมายเลยครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้แวะมาคุยอีกที
![]() ไปลุ้นบอลแป๊บ โดย: ชีริว
![]() ![]() ทุกอย่างต้องแลกมาจริงๆครับ
ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆแน่นอน ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ช่วงนี้ในเมืองจีน โควิด ระลอกใหม่มาอีกแล้ว
เห็นข่าว นศ.แย่งกันวิ่งหนีออกจากมหาวิทยาลัย ![]() ![]() ![]() แวะมาส่งการบ้านตะพาบ 315 ค่ะ คุณต่อ ![]() ![]() ![]() โดย: เริงฤดีนะ
![]() ![]() |
BlogGang Popular Award#19
![]() toor36
![]() บทความทั้งหมด
|
แต่บางทีก็มากเกินไป บางประเทศยังถามว่าเรามีขี่ช้างไปรร หรือมาทำไงไหม ก็ยังมี
อยาตามหาจิตใจที่มุ่งมั่นแบบสมัยก่อนกลับมาเหมือนกัน บางทีก็เหมือนเราทำร้ายตัวเอง
การหมดศรัทธาต่อคนอื่น หมดไปหมดไป
แต่อย่าหมดศรัทธาต่อตอนเองก็พอ
เอาจริงๆ บางทีเราก็เผลอปล่อยให้ตัวเอง
ท้อแท้ หมดหวัง หมดซึ่งความเชื่อต่อตัวเอง
เหมือนกัน ต้องพยายามหาทางกระตุ้น
ด้วยวิธีไหนก็ตามที่ลองแล้วมันดีต่อตัวเอง
ก็ต้องลองทำดู ไม่งั้นได้ใช้ชีวิตล่องลอยไปวันๆแน่
อยากมีโมเม้นไปลองใช้ชีวิตไกลบ้านเหมือนกัน
แต่ด้วยปัจจึยหลายอย่าง ทำให้ไม่ได้ไป
แต่...เป็นแบบปัจจุบันนี้
มันก็ไม่ได้แย่หรอกนะ