วาสนา วาสนา อาการกายวาจา ที่เป็นลักษณะพิเศษของบุคคล ซึ่งเกิดจากกิเลสบางอย่าง และได้สั่งสมอบรมมาเป็นเวลานานจนเคยชินติดเป็นพื้นประจำตัว แม้จะละกิเลสนั้นได้แล้ว แต่ก็อาจจะละอาการกายวาจาที่เคยชินไม่ได้ เช่น คำพูดติดปาก อาการเดินที่เร็วหรือเดินต้วมเตี้ยม เป็นต้น ท่านขยายความว่า วาสนา ที่เป็นกุศล ก็มี เป็นอกุศล ก็มี เป็นอัพยากฤต คือ เป็นกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่ว ก็มี ที่เป็นกุศลกับอัพยากฤตนั้น ไม่ต้องละ แต่ที่เป็นอกุศลซึ่งควรจะละนั้น แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนที่จะเป็นเหตุให้เข้าถึงอบาย กับ ส่วนที่เป็นเหตุให้เกิดอาการแสดงออกทางกายวาจาแปลกๆ ต่างๆ ส่วนแรก พระอรหันต์ทุกองค์ละได้ แต่ส่วนหลัง พระพุทธเจ้าเท่านั้นละได้ พระอรหันต์อื่นละไม่ได้ จึงมีคำกล่าวว่า พระพุทธเจ้าเท่านั้นละกิเลสทั้งหมดได้พร้อมทั้งวาสนา, ในภาษาไทย คำว่า วาสนา มีความหมายเพี้ยนไป กลายเป็นอำนาจบุญเก่า หรือกุศลที่ทำให้ได้รับลาภยศ https://www.facebook.com/photo?fbid=128781706059789&set=gm.1647542852245533 “วาสนา” บาลีอ่านว่า วา-สะ-นา รากศัพท์มาจาก - (1) วสฺ (ธาตุ = อยู่) + ยุ ปัจจัย + อา (ปัจจัยอิตถีลิงค์), ทีฆะต้นธาตุ คือ อ ที่ ว- เป็น อา, แปลง ยุ เป็น อน : วสฺ > วาส + ยุ > อน = วาสน + อา = วาสนา แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่อยู่ในจิต” (2) วาสฺ (ธาตุ = อบ, บ่ม) + ยุ ปัจจัย + อา (ปัจจัยอิตถีลิงค์), แปลง ยุ เป็น อน : วาส + ยุ > อน = วาสน + อา = วาสนา แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันเขาบ่มเพาะมา” ขยายความว่า กิริยาอาการ หรือ ลักษณะการพูดจา เป็นต้น ที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษหรือเฉพาะตัวของบุคคล ซึ่งนอนเนื่องอยู่ในจิต หรือได้สั่งสมอบรมมาเป็นเวลานาน ถึงข้ามภพข้ามชาติ จนเคยชินติดเป็นพื้นนิสัยประจำตัว และแก้ไม่หายทั้งๆ ที่จิตเจตนามิได้ต้องการเป็นเช่นนั้น เช่น กิริยาเรียบร้อยหรือหลุกหลิก คำพูดกระโชกโฮกฮาก หรือนุ่มนวล คำติดปากที่หยาบหรือสุภาพ เป็นต้น เหล่านี้บาลีเรียกว่า “วาสนา” พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “วาสนา” ว่า that which remains in the mind, tendencies of the past, impression (สิ่งที่เหลืออยู่ในใจ, แนวโน้มของอดีต, ความฝังใจหรือประทับใจ) https://www.facebook.com/tsangsinchai/posts/673347352759005 ตัวอย่าง วาสนา ๑. พระสารีบุตรเถระ (พระอัครสาวกเบื้องขวา เอตทัคคะผู้เลิศด้วยปัญญา 1 ใน 80 พระอสีติมหาเถระ) ท่านมีวาสนาที่ละไม่ได้อยู่อย่างหนึ่ง คือเวลาท่านพบแม่น้ำลำธารที่พอจะข้ามได้ หรือกิ่งไม้ที่พอจะเหนี่ยวรั้งได้ ท่านจะละอาการสงบเสงี่ยมชั่วขณะ กระโดดข้ามแอ่งน้ำบ้าง โหนกิ่งไม้บ้าง ภิกษุทั้งหลายเห็นเข้าก็พากันตำหนิท่านว่า พระสารีบุตรเป็นถึงพระเถระไม่น่าแสดงอาการเช่นนี้ ความทราบถึงพระบรมศาสดา พระองค์ทรงตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อย่าได้ตำหนิสารีบุตรเลยกิริยาอาการอย่างนั้นเป็น “วาสนา” ที่สั่งสมมานานของสารีบุตร แม้เป็นพระอรหันต์แล้วก็ละไม่ได้ สารีบุตรเธอเคยเกิดเป็นลิงติดต่อกันหลายร้อยชาติ จึงติดนิสัยกระโดดโลดเต้นของลิงมา ๒.พระปิลินทวัจฉเถระ (เอตทัคคะผู้เป็นที่รักใคร่ของเหล่าเทวดา 1 ใน 80 พระอสีติมหาเถระ) ท่านมีวาสนาที่ละไม่ได้อยู่อย่างหนึ่ง ท่านชอบพูดคำว่า “วสลิ” (ไอ้ถ่อย) จนติดปาก คือเวลาที่ท่านพบใครไม่ว่าจะระดับใด (ยกเว้นพระพุทธเจ้า และพระเถระพรรษามากกว่า) ท่านจะชอบทักว่า สบายดีหรือไอ้ถ่อย ภิกษุทั้งหลายเห็นเข้าก็พากันตำหนิท่านว่าเป็นผู้ไม่สำรวมวาจา ความทราบถึงพระบรมศาสดา พระองค์ทรงตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเป็น “วาสนา” ของปิลินทวัจฉะเอง แก้ไม่ได้ แต่เธอไม่มีเจตนาจะพูดคำหยาบ" |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 6393385
บทความทั้งหมด
|