ศีล กับ พรต
192ศีล กับ พรต

    ศีล กับ พรต แตกต่างกัน ตามนัยคัมภีร์มหานิทเทสว่า ศีล หมายถึงการสังวร ยับยั้ง ไม่ละเมิด

    พรต (บาลีว่า "วต") หมายถึงการสมาทานถือปฏิบัติ  ข้อปฏิบัติที่เรียกว่าธุดงค์ทั้งหลาย เป็นวตะ หรือพรตเท่านั้น ไม่เป็นศีล (ขุ.ม.29/81/77; 918/584 แต่บาลี ฉบับอักษรไทยสับสนเอา วต/พรต กับ วตฺต/วัตร ปนเปกัน)   ข้อปฏิบัติที่เป็นวต/พรต  แต่ไม่เป็นศีล อย่างธุดงค์นั้น เป็นข้อปฏิบัติ ส่วนพิเศษ เพื่อความเคร่งครัด ขัดเกลา ฝึกอบรมตนเองให้ยิ่งกว่าปกติ เน้นที่ความมักน้อยสันโดษ แต่เป็นเรื่องของความสมัครใจ ความเหมาะสมกับอุปนิสัยและขึ้นกับความพร้อม ใครจะถือปฏิบัติหรือไม่ก็ได้ ไม่มีความผิด ต่างจากศีล ซึ่งสมาชิกทุกคนของหมู่พึงรักษาเสมอเหมือนกัน ถ้าไม่รักษา ย่อมมีผลเสียหาย ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม (ถ้าเป็นศีลแบบวินัย มีโทษตามบัญญัติอีกด้วย)

     วต/พรต บางอย่าง แม้จะมองดูเคร่งครัดอย่างยิ่ง แต่ผิดหลักการของพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงห้าม และบางอย่างถือเป็นความผิดทางวินัยด้วย เช่น การถือพรตไม่พูด ที่เรียกว่า มูคพรต (วินย.4/224-6/304-313 ย่อมตัดปัญหาจากการพูดผิด เช่น พูดเท็จเป็นต้นได้หมด) ทรงตำหนิว่า เป็นการอยู่อย่างปศุสัตว์ การถือพรตกินเฉพาะผลไม้ที่หล่นเองจากต้น (เช่น องฺ.ติก.20/596/381 ย่อมตัดปัญหาการเบียดเบียนสัตว์ และพืชได้หมด) เป็นข้อปฏิบัติทรมานตนเกินพอดี ของพวกเดียรถีย์ที่หลบลี้สังคม

    อนึ่ง ยังมีข้อปฏิบัติอีกพวกหนึ่งคู่กับศีล เป็นส่วนปลีกย่อย เรียกว่า "วัตร" พูดเทียบสั้นๆว่า ศีลเป็นหลักความประพฤติพื้นฐาน วัตรเป็นข้อปฏิบัติเสริมให้ดีงามเคร่งครัดยิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนการรักษาศีล เช่น เพื่อตัดหรือลดโอกาสที่จะละเมิดศีลข้อใดข้อหนึ่ง

    ศีลความประพฤติดีทางกายและวาจา, การรักษากายและวาจาให้เรียบร้อย, ข้อปฏิบัติสำหรับควบคุมกายและวาจาให้ตั้งอยู่ในความดีงาม, การรักษาปกติตามระเบียบวินัย, ปกติมารยาทที่ปราศจากโทษ, ข้อปฏิบัติในการฝึกหัดกาย วาจา และอาชีพ, มักใช้เป็นคำเรียกอย่างง่ายสำหรับคำว่า อธิศีลสิกขา

    ศีล ๕ สำหรับทุกคน คือ ๑ เว้นจากการทำลายชีวิต ๒. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้ ๓. เว้นจากประพฤติผิดในกาม ๔. เว้นจากพูดเท็จ เป็นพยานเท็จ ๕. เว้นจากของเมา คือสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแต่ความประมาท

    ศีล ๘ สำหรับฝึกตนให้ยิ่งขึ้นไปโดยรักษาในบางโอกาส หรือมีศรัทธาจะรักษาประจำก็ได้ เช่น แม่ชีมักรักษาประจำ หัวข้อเหมือนศีล ๕ แต่เปลี่ยนข้อ ๓ และ เติมข้อ ๖, ๗, ๘ คือ ๓ เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือเว้นจากการร่วมประเวณี ๖. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือเที่ยงแล้วไป ๗. เว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอมและเครื่องลูบไล้ ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง ๘. เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่หรูหราฟุ่มเฟือย

ศีล ๑๐ สำหรับสามเณร แต่ผู้ใดจะรักษาก็ได้

ศีล ๒๒๗ ศีลสำหรับพระภิกษุ มีในภิกขุปาฎิโมกข์

ศีล ๓๑๑ ศีลสำหรับพระภิกษุณี มีในภิกขุนีปาฎิโมกข์

ศีลอุโบสถ คือ ศีล ๘ ที่สมาทานรักษาพิเศษในวันอุโบสถ

    อุโบสถศีล ศีลที่รักษาเป็นอุโบสถ หรือศีลที่รักษาในวันอุโบสถ ได้แก่ ศีล ๘ ที่อุบาสกอุบาสิกาสมาทานรักษาเป็นการจำศีลในวันพระ คือ ขึ้นและแรม ๘ ค่ำ ๑๕ ค่ำ (แรม ๑๔ ค่ำ ในเดือนขาด)




Create Date : 15 พฤษภาคม 2564
Last Update : 15 พฤษภาคม 2564 18:59:45 น.
Counter : 315 Pageviews.

0 comments
: พู่กันเดียว - กาย วาจา ใจ : กะว่าก๋า
(26 พ.ค. 2566 05:20:22 น.)
ไม่ได้เปล่า อธรรมหลอก ปัญญา Dh
(25 พ.ค. 2566 21:00:26 น.)
ไม่ได้อยู่กับเราตลอด นาฬิกาสีชมพู
(25 พ.ค. 2566 07:52:30 น.)
: ง่าย คือ งาม : กะว่าก๋า
(22 พ.ค. 2566 09:01:24 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Samathijit.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด