Title: โรคจิต กี่เดือนแล้วนะที่ผมเฝ้าติดตาม เฝ้ามองดูเธอมาตลอด ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนว่าทำไมถึงได้หลงใหลในตัวเธอนัก ใช่...เธอเป็นคนสวย แต่เธอมีอะไรมากกว่าความสวยที่เห็นชัดเจนนั้น และผมก็กำลังหวังที่จะได้สิ่งนั้นอยู่ 08.00 น. เธอเปิดประตูออกมาจากบ้าน 08.02 น. เธอโทรศัพท์หาใครก็ไม่รู้ แต่ท่าทางดูมีความสุข 08.05 น. เธอโบกรถแท็กซี่ พร้อมก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ส่วนผมโบกมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้ตามไปห่างๆ 08.30 น. ระหว่างรถติดไฟแดงอยู่นั้น ผมชะเง้อมองผ่านกระจกใส เห็นเธอคนนั้น... กำลังแต่งหน้าอยู่ ลิปสติกสีชมพูสด...กำลังจะแตะที่ริมฝีปากเธอ ผมนึกเพ้อไปไกล หากว่า ผมเป็นลิปสติกแท่งนั้นล่ะ... 08.32 น. ไฟเขียว ผมเหลียวหลังหันมองเธอคนนั้นบนรถแท็กซี่ พี่มอเตอร์ไซด์อยู่ดีๆ ก็บิดคันเร่งแซงขึ้นไป ผมบอก พี่...ผมให้พี่ตาม ไม่ใช่ให้นำ ขอโทษทีน้องพี่ลืมตัว สายเลือดนักแข่งมันแรง เขาตอบ 08.40 น. รถติดไฟแดงอีกแล้ว ทำไมสี่แยกในกรุงเทพมันถึงได้เยอะนักวะ 08.45 น. ถึงที่หมายเสียที เธอก้าวลงจากรถแท็กซี่ ผมก็โดดลงจากมอเตอร์ไซด์ 08.46 น. เธอเดินเข้าร้านกาแฟหรูที่ผมเห็นแล้วเหงื่อตก ย่านชิดลม ในขณะเดียวกันผมก็กำลังเจรจาต่อรองราคาค่ามอเตอร์ไซด์กับพี่วิน หน้าเหี้ยม 08.47 น. อะไรกันพี่นั่งรถจากอโศก มาชิดลม เอาตั้ง 120 มันทำให้จิตวิญญาณนักแข่งพี่หายไป เขาบอก แล้วมันเกี่ยวไรด้วย ผมถาม ก็น้องให้พี่ขับช้าๆ มันทำให้พี่หงุดหงิดง่ามตูด ทำให้พี่ไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนนักร้องบางประเทศแถวนี้ที่เพิ่งเทปออกชุดแรก เขาตอบ ฮ่าๆๆ ผมหัวเราะออกมา หัวเราะเชี่ยไรน้อง เขาถาม ผมถูกใจคำตอบพี่ แหมเข้าใจเปรียบเปรยนะเรา อ่ะ เอาไป 100 ผมตอบพลางควักแบงก์สีแดงจากระเป๋าสตางค์ เอามานี่ ของผมแล้งวิ่งหนีเข้าร้านไป 08.55 น. เข้าไปในร้านแล้วผมมองหาเธออยู่ เธอก็เพิ่งเข้ามาในร้านนี้นี่ แล้วอยู่ไหน 08.56 น. ขณะที่กำลังมองหาเธอคนนั้นอยู่นั้น ก็มีนิ้วป้อมๆมาสะกิดที่ไหล่ผม ขาดอีก 20 บาท ค่ารถ 120 พี่มอเตอร์ไซด์คนเดิมนั่นเอง 100 นึงน่าพี่ หยวนน่า ผมยุ่งอยู่ ขาดอีก 20 บาท ค่ารถ 120 พี่มอเตอร์ไซด์คนเดิมย้ำ อ่ะเอางี้ พบกันครึ่งทาง เอาไปอีก 5 บาท 5 บาทมันครึ่งทางตรงไหนวะ มันต้อง 10 บาท เขาแย้ง อ่ะเอาไปเพิ่มอีก 2.50 บาท ครึ่งทางไหม ผมถาม เออ พูดง่ายๆอย่างนี้สิ ให้เสียเวลาตั้งนาน เขากล่าวพอใจแล้วเดินออกจากร้านไป 09.00 น. ผมนั่งรอในร้านอยู่นาน เธอคนนั้นหายไปไหนวะ ผมนึกในใจ 09.10 น. บริกรในร้านเข้ามาถาม พี่จะรับอะไรดีครับ ยังไม่เอาน้อง พี่รอเพื่อนอยู่รอแป้บนึงนะ 09.20 น. เฮ้ย!! เธอเดินเข้ามาในร้านนี้หรือเปล่าวะ ผมถามตัวเองในใจ 09.22 น. พี่คะ รับอะไรดีคะ โอ...เธอคนนั้น เธอคนนั้นนั่นเอง เธอทำงานอยู่ที่ร้านนี้หรือนี่ ผมก็นึกว่าเธอหายไปขี้ที่ไหนเสียอีก 09.23 น. บทสนทนาระหว่างผมกับเธอยังดำเนินต่อไป เอานำเปล่าได้ไหมครับ ผมถาม ได้ค่ะ แต่พี่ช่วยคิดนีดส์นึงนะคะ เข้าร้านกาแฟแต่สั่งน้ำเปล่ามันเหมาะไหม ผมจะบอกว่า เอาน้ำเปล่าก่อน แล้วตบตูดด้วยมอคค่าเย็นต่างหาก รับวิปครีมเพิ่มไหมคะ เธอจดอะไรขยุกขยิกบนสมุดรับออเดอร์ อืม ถ้าผมรับมันจะเลอะมือผมน่ะสิ เอาใส่แก้วมาดีกว่านะ เธอยิ้มให้กับความกวนตีนของผมนิดนึง นี่แหล่ะจุดประสงค์ของผมที่ตามเธอมา ผมต้องการรอยยิ้มขอเธออย่างนี้แแหล่ะ แต่รู้ไหมครับ คนเรามันย่อมมีความโลภในตัวเองเสมอ ได้หนึ่งจะเอาสอง ได้คืบจะเอาศอก เพียงแค่รอยยิ้มของเธอในวันนี้ ผมได้มันมาเร็วเกินไปครับ มันต้องมีอะไรที่มากกว่านี้แน่ๆ ที่ผมจะได้จากเธอ ผมมั่นใจ 09.47 น. กาแฟมอคค่าถูกนำเสิร์ฟที่โต๊ะนานแล้ว แต่ผมยังไม่ได้ลิ้มรสชาดของมัน ผมกำลังไว้อาลัยให้กับกาแฟส้นตีนพรรค์นี้แก้วละ 120 บาทอยู่ เออนะ...กูกินข้าวกระเพราไก่ป้าแดงได้ 6 มื้อเลยนะเว้ย ผมสบถในใจ 10.00 น. ผมนั่งจ้องมองเธอทำงานอยู่อย่างมีความสุข เธอช่างน่ารักจริงๆ แต่ผมไม่มองกาแฟที่อยู่ข้างหน้าผมหรอกนะ มันบาดใจ ระคนเสียดายเงิน 11.00 น. ผมชักเริ่มจะหิวแล้ว แน่ล่ะข้าวเช้าผมก็ยังไม่ได้กิน แถมยังต้องมานั่งแกร่วกับกาแฟแก้วละ 120 อีก เอ๊ะ!! แล้วผมจะตอกย้ำตัวเองทำไมวะเนี่ย ผมต้องลืม ใช่ผมต้องลืม โดยการนั่งมองรอยยิ้มของเธอคนนั้นต่อไป 13.00 น. ภายในร้านเริ่มมีคนเข้ามาดื่มกาแฟส้นตีนพรรค์นี้กันอย่างหนาแน่น และผมสังเกตได้เลยว่า มีแต่คนแอบมองเธอคนนั้นอยู่หลายคน 13.05 น. มีผู้ชายคนหนึ่งมานั่งที่โต๊ะข้างๆผม รับอะไรดีคะ เธอคนนั้นเข้ามาถาม อืม...ถ้ารับแล้วมันจะเลอะมือผมหมดน่ะสิ ขอคาปูชิโน่เย็นใส่แก้วมาแล้วกันนะ ผมมองหน้ามัน แม่ง...เลียนแบบมุขกูนี่หว่า แล้วเธอคนนั้นก็น่าจะพอจำมุขนี้ได้ จึงแอบเปรยตามองมาที่ผมแป๊บนึง ฮ่าๆ เธอจำมุขผมได้เว้ย อย่างน้องเธอก็ยังจำได้ว่าผมนี่แหล่ะออริจินัล หึหึ 14.00 น. ผมรู้สึกว่าอากาศในร้านชักจะร้อนขึ้นแล้ว เพราะลูกค้าในร้านนี้ล้วนมีแต่ผู้ชาย และทั้งหมดนี้ก็มานั่งเฝ้ามองรอยยิ้มของเธออยู่แทบทั้งนั้น ผมไม่ยอมหรอก ผมมาก่อน ผมตามเธอมาตั้งแต่เช้า จะมีใครชุบมือเปิบน่ะหรือ...ไม่มีทาง 15.00 น. เธอคนนั้นหายเข้าไปที่หลังร้านอีกแล้ว 15.10 น. เธอคนนั้นเดินออกมาพร้อมกับชุดลำลองเหมือนเมื่อเช้า การแต่งตัวเธอดูง่ายๆ สบายๆ ซึ่งผมรู้สึกว่าเธอน่ารักทีเดียวเชียว 15.12 น. หลังจากที่เธอร่ำลาคนในร้านแล้วก็เดินออกมา ผมก็ลุกขึ้นตามเธอไป แน่นอน หนุ่มๆในร้านทั้งหมด ต่างลุกขึ้นยืน เพื่อ...เดินตามเธอคนนั้นทุกคน ร้านที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คนเมื่อตะกี้นี้ ดูเบาบางลงไปถนัดตา ไม่ได้แล้ว...ผมต้องจับตามองดูเธออย่าให้เผลอเป็นอันขาด ซึ่งหากผมพลาดพลั้งละสายตาไปจากเธอนั้น ไอ้พวกที่ตามอยู่อาจจะเอาไปกินก็ได้ 15.23 น. เธอเดินเข้าร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดัง ผมนึกในใจ เสียตังค์อีกแล้วเหรอวะกู เธอเดินเข้าไปสั่ง ชุดที่ 5 เบอร์เกอร์ปลา ผมที่ต่อแถวอยู่ด้วย จึงสั่งเลียนแบบเธอบ้าง 89 บาท อืม...แพงชิ...หาย กูกินข้าวได้ 4 มือ กำน้ำอัดลมอีกขวดได้เลยนะนั่น ไม่เป็นไรเพื่อสิ่งนั้นของเธอ ผมยอม 15.32 น. ผมมองเธอกัดเบอร์เกอร์ปลาอย่างเอร็ด... ริมฝีปากที่กัดก้อนเนื้อขนมปังก้อนนั้น ทำให้ผมเคลิ้ม ผมอยากโดนเธอกัดแบบนี้มั่งจัง ผมต้องอดทนรอ...อีกไม่นานหรอก ผมจะได้สิ่งนั้นของเธอ 16.00 น. เธอกินเบอร์เกอร์ปลาอิ่มนานแล้ว และกำลังนั่งมองรถราที่วิ่งกันขวักไขว่บนถนน ผมและผู้ชายที่ตามเธอมาอีกหลายคนก็อิ่มกับเบอร์เกอร์ปลาด้วยเช่นกัน บางคนถึงกับเผลอเรอออกมาเสียงดังเชียว อ๋อ!!...นี่สินะ ที่มาของคำว่าเผอเรอ...หึหึ 16.02 น. ขณะที่เธอนั่งมองทิวทัศน์ข้างนอกร้านเพลินๆอยู่ ทันใดนั้นเอง...ผมสังเกตุเห็นเธอใช้นิ้วก้อยเรียวแยงเข้าจมูกเธอ พร้อมกับใช้นิ้วก้อยนั้น ไชเข้าไชออก อาาาาา....ช่างมีความสุขอะไรอย่างนี้นะ...ผมอยากเป็นจมูกเธอเหลือเกิน 16.03 น. และสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเธอดึงนิ้วก้อยเธอออกมา ผมเห็นก้อนสีเขียวเล็กๆ พร้อมกับน้ำใสๆอยู่บนปลายนิ้วงามนั้น ช่วงเวลานี้หนุ่มๆทุกคนที่ลอบมองเธออยู่นั้นต่างนั่งตัวเกร็งกันหมดแล้ว ผมเห็นเธอหันรีหันขวาง ก่อนที่จะบรรจงใช้นิ้วก้อยนั้น ป้ายที่ใต้โต๊ะ.... 16.05 น. ผมเห็น...ทุกคนเห็น มือผมจับที่ขอบโต๊ะอย่างหมายมั่น กับลำตัวที่เกร็งจนผมคล้ายจะเป็นเหน็บชา ผมจับจ้องมองเธอและสิ่งที่อยู่ใต้โต๊ะตาไม่กระพริบ ผมมองไปรอบๆข้าง ต่างคนต่างหมายมั่นปั้นมือ เตรียมพร้อมตัวเองอย่างเต็มที่ รอเวลาให้เธอลุกออกไปเท่านั้น 16.10 น. เธอเก็บสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะ พร้อมกับลุกขึ้นยืน 16.11 น. เธอเลื่อนเก้าอี้ออก ผมอยู่ในท่าเตรียมพร้อมลุกขึ้นยืนเช่นกัน 16.12 น. ประตู้ร้านถูกเปิดออกแล้ว ผมไม่รอช้า รีบวิ่งไปที่โต๊ะของเธอทันใด ผมสังเกตเห็นคู่แข่งนับสิบที่กระโจนเข้ามาเช่นกัน เวลานี้ ใครจังหวะดีกว่าย่อมได้เปรียบ 16.13 น. ผมกระโดดข้ามโต๊ะที่ขวางอยู่ พร้อมกับใช้มือปาดป่ายที่ใต้โต๊ะนั้น ผมมาถึงก่อนใคร และผมรู้สึกถึงก้อนเหนียวๆที่ฝ่ามือผม ผมไม่รอช้า ขณะที่อีกหลายสิบคนกำลังจะคว้าข้อมือผมไว้ได้ทัน ผมก็นำก้อนสีเขียวๆเข้าปากไปแล้ว อืม เค็มๆมัน...หนุบๆ แต่ติดฟันไปหน่อยแฮะผมเปรยอย่างเย้ยหยัน ฮ่าๆ หลังจากนั้นผมได้ยินเสียงร้องครางแห่งความเสียดายของอีกหลายคนที่พลาดไป พวกคุณทำได้ดีแล้วครับ แต่ยังไม่ดีพอสำหรับ....เอ่อ....ช่างเหอะ ผมคิดว่า หากผมตามเธอต่อ ผมต้องได้อะไรที่มากกว่านี้เป็นแน่ ผมตัดสินใจเดินออกจากร้าน เพื่อตามเธอคนนั้นต่อไป บอกแล้วไงครับ ว่าความโลภของคน มันไม่มีที่สิ้นสุด ได้หนึ่งจะเอาสอง ได้คืบจะเอาศอก รอยยิ้มของเธอผมก็ได้แล้ว ไอ้นั่นผมก็ได้ลิ้มรสแล้ว และต่อไป...คืออะไร อย่างงี้ต้องตามต่อครับ เหอะๆๆๆๆๆๆ ผมชักจะอดใจรอไม่ไหวแล้วสิ อึ๋ยยย !!.. ขนลุกอ่ะ .. ทำได้ไงเนี่ย 5555
![]() โดย: แมงป่องไร้พิษ
![]() โอย....อะไรกันเนี่ย...
ผมนึกว่า"จิต"เหมือนผม ฮาๆๆ ชอบจังครับ กาแฟส้นตีน ฮาๆๆ ถูกใจคอกาแฟดำอาแปะปากซอย แกขายแก้วละ 10 บาท แถมน้ำชาอีก 1 ถ้วย กินมาตั้งแต่เป็นหนุ่มจนแก่เท่าทุกวันนี้ ได้ยินกาแฟด้วยละ 120 บาท สมเพช ฮาๆๆ เอื๊อก...ช่างผมเถอะ โดย: พุ่มฮัก (rintana
![]() ทำไมเม้นท์ไม่ได้ล่ะ มันหายไปไหนหมดที่พิมพ์เมื่อตะกี้ ฮือๆๆ
โดย: พุ่มฮัก (rintana
![]() อ้า...มาแล้ว
แต่เมื่อกี้เราพิมพ์อะไรไปหว่า อ้อ...สะใจคำว่า กาแฟส้นตีนครับ อิๆๆ แล้วอะไรอีก แหะๆๆ จำไม่ได้ โดย: พุ่มฮัก (rintana
![]() ใหม่เด๊ะ...
เมือ่กี้พิมพ์อะไรไปบ้างวะ จำได้แค่ว่าสะใจกับคำว่ากาแฟส้นตีน เข้าใจหาคำเปรีนบเทียบดีครับ อิๆๆ โดย: rintana
![]() อ้า...ติดแล้วๆ
เออ...แล้วก่อนหน้านี้พิมพ์อะไรไปบ้างหว่า... จำได้แค่ว่า สะใจกับกาแฟส้นตีน ฮ่าๆๆๆ คิดได้ไง กวนดีมาก... โดย: พุ่มฮัก (rintana
![]() สะใจ จิตแมนกันไปเลย ๕๕๕
เจอกันงานแฟตฯนะ ขอบใจมากเรื่องหนังสือ นี่ๆ ถ้ามีหนังแนวๆ ไรท์มาให้ดูกันมั่งเน้อ ๕๕๕ โลภเหมือนกัน โดย: tanada-จัง (tanada-จัง
![]() สาธุ ขอให้เธอมีเชื้อไข้หวัดนกติดมากับไอ้ก้อนเขียวๆนั่น
หยึยย สยอง โดย: ไอซ์ IP: 58.147.121.218 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:15:36 น.
ผมรู้แล้วครับว่าทำไมวันนั้นผมโพสต์ข้อความไม่ได้
ผมพิมคำว่า กาแฟส้ น ตีน ผมเพิ่งรู้ว่าบล็อกแก๊งเขามีการบล็อกคำหยาบ ที่รู้ก็เพราะผมเล่นคำหยาบที่บล็อกของตัวเอง ฮาๆๆ โดย: พุ่มฮัก IP: 58.136.68.58 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:00:40 น.
ที่พิมพ์ไปเมื่อกี้ก็ไม่ขึ้นอีกแหละ เหนื่อยแล้วนะ
โดย: พุ่มฮัก IP: 58.136.68.58 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:01:39 น.
ไปป์
... จิตมาก... ... จริงๆนะ... ... โครงเรื่องมาจากชีวิตของตัวเองอ่ะเปล่าค่ะ... ... ![]() โดย: ส้มลิ้ม IP: 203.131.213.190 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:43:59 น.
เหอๆๆๆ คิดได้ไงเนี้ย
![]() โดย: กวิสรา IP: 61.19.65.234 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:47:01 น.
เธกเธตเธเธฃเธดเธ เธเธฒเนเธเธชเนเธเธเธตเธเธเนเธฐเธเธฒเธขเธญเธขเธนเนเธเธตเนเนเธเธตเธขเธเธฃเธฒเธข เนเธเธฅเนเนเธงเธฑเธเธฃเนเธญเธเธเธธเนเธ เนเธเนเธฒเธเธญเธเธงเธฑเธ เนเธเธเธฑเนเธเธเธดเธเนเธฅเนเธงเธชเธฑเนเธเนเธเนเธเธเธฑเธ เนเธเธเนเธเธเธฃเนเธฅเธขเธเนเธเธเธฒเนเธเธชเนเธเธเธตเธเนเธเธเธเธฑเธ เนเธเนเธฒเธเธญเธเธฃเนเธฒเธเธเธฒเนเธเธเธถเธเธเธณเธกเธฒเธเธฑเนเธเธเธทเนเธญ เธฃเนเธฒเธเธเธฒเนเธเธชเนเธเธเธตเธ เธเธฑเธ
โดย: เธเธฒเธขเธเธฑเธ IP: 118.174.174.35 วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:1:57:30 น.
|
บทความทั้งหมด
|