Title: ความสูญเสีย
“พี่ป้ายค๊า...กาเฟด้ายเล้วค่า...”

เป็นประจำทุกวันที่ผมจะได้ยินประโยคภาษาไทย แปร่งๆ เพี้ยนๆ
จากปากของเธอ พร้อมกับกลิ่นหอมของกาแฟในยามเช้า

ทุกเช้าของวันทำงาน ผมมักที่จะมาออฟฟิศก่อนเวลาเข้างานประมาณ 1 ชั่วโมงเสมอ
เพื่อให้มีเวลาในการละเลียดรสกาแฟและคิดงานเงียบๆเพียงคนเดียวอย่างเรื่อยเปื่อย
แต่ก็ยังมีอยู่อีกคน ที่ผมจะเข้าออฟฟิศเช้าแค่ไหน ผมก็ต้องเจอเธอทำงานตามหน้าที่ของเธอรออยู่ก่อนแล้ว
เธอคนนี้เป็นแม่บ้านประจำออฟฟิศผมเองครับ...เธอมีชื่อว่า “เอ”

“เอ” คือชื่อในภาษาไทยของเธอที่ผมรู้
ใช่ครับ...แม่บ้านสาวประจำออฟฟิศผมคนนี้เธอเป็นชาวต่างด้าว
สาเหตุที่เธอเข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านในบริษัทของผมได้อย่างไรนั้น
ผมจำได้ครับคล้ายครับคราจากที่เธอเคยเล่าให้ฟังว่า...

เธอเดินทางมาจากเมืองหลวงของประเทศพม่า หรือ เมียนมาร์
เข้ามาทางแม่สาย ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่ง
แลกกับเงินเก็บของเธอ 8 พันบาท เพื่อมาทำงานในกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรแห่งนี้
และสุดท้าย หัวหน้าของผม ก็ตกลงรับเธอมาเป็นทั้งแม่บ้านประจำออฟฟิศ
และแม่บ้านประจำบ้านของหัวหน้าของผมด้วยเงินเดือน เดือนละ 5 พันบาท

วันๆหนึ่งงานของ “เอ” ไม่มีอะไรมาก คือต้องตื่นตั้งแต่ตี 5
เพื่อลุกขึ้นมาทำความสะอาดบ้านของหัวหน้าผม
เตรียมอาหารเช้ากับ “บัว” แม่บ้านประจำบ้านของหัวหน้าผมอีกคน (เธอคนนี้เป็นชาวเขาครับ)
ก่อนที่จะปั่นจักรยานออกจากบ้านย่านสายไหม มาที่ออฟฟิศซึ่งอยู่แถววัชรพล
ทั้งๆที่ระยะทางค่อนข้างไกล แต่เธอเลือกที่จะปั่นจักรยานแทนการนั่งรถมา

ผมเคยถามเธอว่าไม่เหนื่อยเหรอ ต้องปั่นจักรยานมาที่ออฟฟิศ
ทำงานเหนื่อยๆก็ต้องปั่นกลับบ้านอีก คำตอบของเธอก็คือ
“ม่ายเหนื่อยโหรก...มะก่องปั่งจักรยางขั้มขาวเหนื่อยกั่วเน้เอก”

สิ่งที่เอชื่นชอบในการทำงานที่บริษัทผมที่สุด ก็คือ
การได้ไปออกงานกิจกรรมข้างนอกกับพวกผ
หรือที่เรียกกันว่า การออกงานอีเวนท์นั่นล่ะครับ
ซึ่งส่วนใหญ่ หน้าที่ของเธอคือการแจกใบปลิวเรียกลูกค้า
แต่ผมต้องกำชับเธอเสมอว่า “เอพยายามอย่าพูดนะ...แค่ยิ้มต้อนรับลูกค้าสวยๆก็พอ”
ซึ่งเธอก็ทำตาม และปฏิบัติหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี

ปกติแล้ว เอ เป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างร่าเริง พูดเก่ง แม้จะพูดไม่ค่อยชัดก็ตามที
เวลาผมคุยกับเธอ ต้องฟังเธอพูดอย่างตั้งใจ ถึงจะฟังรู้เรื่อง

แต่จนเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ถล่มประเทศบ้านเกิดของเธออย่างโหดร้าย
ความร่าเริงของเอก็ลดลง ความซึม เศร้าหมองเข้ามาแทนที่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ที่เธอจะรู้สึกอย่างนั้น ถ้าเป็นผมเองอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
แล้วเกิดภัยพิบัติแบบนี้ขึ้นในประเทศของตัวเอง ผมก็คงอดห่วงไม่ได้เหมือนกัน

“หนูเป็งห่วงแม่...”
“อืม...พี่เข้าใจ แล้วติดต่อใครได้หรือยัง”
“ยางเลย”

ผมไม่รู้ว่าจะปลอบใจเธอย่างไรดี ได้แต่บอกว่าไม่เป็นไรหรอก ครอบครัวของเธอต้องปลอดภัย




“ผู้เสียชีวิตจากเหตุพายุไซโคลน "นาร์กิส" ในย่างกุ้งและอิรวดิ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 22,464 รายในขณะนี้ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตในอิรวดีมีจำนวน 21,793 ราย และยอดผู้เสียชีวิตในย่างกุ้งมีอยู่ 671 ราย ขณะที่มีผู้สูญหายทั้งหมด 41,054 คน แบ่งเป็น 40,695 รายในอิรวดี และ 359 รายในย่างกุ้ง นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 670 รายในย่างกุ้งเพียงแห่งเดียว”



วันที่ 5 พ.ค. 2551

หลังจากเกิดเหตุพายุไซโคลนนาร์กีสถล่มประเทศพม่า 2 วัน พวกเรานั่งดูข่าวนี้ พร้อมๆกับเด็กสาวที่ประเทศของเธอกำลังผจญภัยพิบัติอยู่ พวกเรามองหน้า “เอ” ซึ่งเปรียบเสมือนน้องสาวของพวกเรา ไม่มีคำพูดอะไรใดๆจากปากของเธอ และก็ไม่มีคำพูดเห็นใจใดๆจากพวกเราเช่นกัน...พวกเราไม่กล้า แม้กระทั่งปลอบใจเธอ


วันที่ 6 พ.ค. 2551

ผมมาทำงานแต่เช้าเหมือนกับทุกวัน...แต่วันนี้ผมไม่เจอ “เอ” ในใจผมคิดเป็นห่วงเธอขึ้นมาผมคิดว่าเธอคงจะไม่สบาย หรือสภาพจิตใจไม่พร้อมที่จะทำงานในเมื่อญาติพี่น้องของเธอตกระกำลำบากอยู่ ผมหวังว่าเธอคงจะไม่กลับไปหาญาติพี่น้องเธอที่บ้านหรอกนะ

จนเวลาล่วงเลยไปถึงช่วงสาย ลางสังหรณ์ก็เป็นจริง เมื่อหัวหน้าของผมได้บอกว่า “เอ” เธอไปจากที่นี่เสียแล้ว ด้วยเหตุผลที่ทุกคนต่างก็เข้าใจโดยไม่จำเป็นต้องบอก


“รัฐบาลพม่าออกแถลงการณ์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไซโคลนนาร์กีส์พุ่งขึ้นกว่า 10,000 คนแล้วในขณะนี้ และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกนับแสนคน อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เข้าไปสำรวจเขตห่างไกลที่ยากต่อการเข้าถึง”


หลังจากที่ผมฟังรายงานข่าวแล้ว ใจผมอดเป็นห่วงน้องสาวของผมไม่ได้ เธอจะอยู่อย่างไร จะกินอย่างไร และจะได้เจอแม่ เจอญาติพี่น้องของเธอหรือไม่...นั่นเป็นคำตอบที่ไม่มีใครตอบได้ แม้กระทั่งตัวของเธอเอง





ผมถอนหายใจ เดินขึ้นบันได เพื่อกลับไปทำงานต่อ คงจะนานน่าดูที่ผมจะได้ยินเสียงอันสดใสร่าเริงของน้องสาวคนดีคนนี้ของผมอีก...

ผมทำได้แค่เพียง ส่งกำลังใจให้เธอ และชาวพม่าทุกคน...เท่านั้น




Create Date : 02 มิถุนายน 2551
Last Update : 3 มิถุนายน 2551 0:01:51 น.
Counter : 1880 Pageviews.

5 comments
U2 Sleepless Sea
(17 มี.ค. 2568 06:48:48 น.)
๏ ... ท่าใหม่ในสภาเก่า ... ๏ นกโก๊ก
(15 มี.ค. 2568 16:58:11 น.)
Slow Life บางกอก : พื้นที่แห่งการผ่อนคลายหัวใจ ให้จังหวะชีวิตที่เร่งรีบนั้นช้าลง (พี่จิ้น & จิง) peaceplay
(13 มี.ค. 2568 06:35:51 น.)
ชา Sleepless Sea
(10 มี.ค. 2568 06:02:09 น.)
  
...
ลงชื่อ ร่วมไว้อาลัยแด่ผู้สูญเสีย สูญหาย จากมหันตภัยนาร์กีส
โดย: สิงห์อมบ๊วย วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:12:03:52 น.
  
ขอร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจอย่างสูงสุดต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกๆท่านคะ

ขอให้ดวงวิญญาณผู้จากไปทุกๆดวง จงไปสู่สุคติคะ

โดย: sandhurst IP: 58.136.48.247 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:15:47:58 น.
  
ขอร่วมไว้อาลัยแด่ผู้สูญเสียทุกท่านค่ะ . . .

โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:11:55:23 น.
  
วันหยุดทำอะไรอยู่คะคุณยางมะตอย

โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:7:59:43 น.
  
เสียใจด้วยนะคะขอให้ทุกท่านจงเข้มแข็งแล้วสู้ต่อไปคะ
โดย: เมย์ IP: 203.172.241.2 วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:9:46:49 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pinkyangmatoy.BlogGang.com

ยางมะตอยสีชมพู
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด