Title: ดนตรีที่รัก



นานเท่าไรแล้วนะ...
ที่ผมไม่ได้จับกีตาร์ตัวนี้...
ไม่มีการสั่นไหวของสายทั้ง 6 เสียง...
ไม่มีเสียงสั่นของสายเมื่อกระทบกับปิ๊ก...
ไม่มีการบรรเลง...
ไม่มีเสียงเพลง...

*********************************

ผมนึกย้อนไปเมื่อครั้งยังเยาว์...
แรงบันดาลใจที่ทำให้จับกีตาร์นั้น...
มาจากพี่ชายของผม...
เสียงกีตาร์ที่กรีดกราย...
กับเสียงกรีดร้องของผู้ชม...
มันช่างยิ่งใหญ่...
ถ้าผมได้มีโอกาสขึ้นไปยืนบนเวที...
อารมณ์นั้นผมจะรู้สึกอย่างไรนะ...

ผมเริ่มฝึกหัดเล่นกีตาร์...
ลองกดๆ จับๆ เปิดหนังสือเพลง เพื่อดูวิธีการจับคอร์ด
ร้อง เล่น บรรเลง ตามอารมณ์และความรู้สึก
ผมเล่นเพลงแรกได้หลังจากผ่านการฝึกเพียงแค่ 3 ช.ม.
ใครๆก็บอกว่าผมมีพรสวรรค์ ไม่แพ้พี่ชาย

ผมเริ่มฟอร์มวง...หัดเขียนเพลง...แต่งทำนอง
แต่ละเพลงที่ผมเขียนนั้น...
ใช้เวลาแต่งไม่ถึงชั่วโมง...
ใครๆก็บอกว่าผมมีพรสวรรค์ ไม่แพ้พี่ชาย

ความรู้สึกที่ได้เป็นผู้ให้กำเนิดเสียงเพลง
มันทำให้ผมมีความสุขที่สุด
ผมรักเสียงเพลง...ผมรักดนตรี

******************************

บนเวทีนี้มันช่างยิ่งใหญ่....
ผมได้เป็นพระเจ้า...ใช่...ผมเป็นพระเจ้าแห่งเสียงเพลง
ท่วงท่า ลีลาการโซโล่กีตาร์ของผม
ผู้หญิงหลายๆคนบอกว่าเซ็กซ์ซี่ ไม่แพ้ลีลาบนเตียง...
ใครๆก็ต้องการพระเจ้าอย่างผม
ใช่...ผมเป็นคนสำคัญสำหรับพวกเธอ

สำคัญกว่าเรือนร่าง และหัวใจเธอ
สำคัญกว่าเงินของพวกเธอ
สำคัญกว่าพ่อแม่ของพวกเธอ
สำคัญกว่าการเรียนหรือการงานของพวกเธอ
เพียงเพื่อให้ได้ขึ้นชื่อว่าครอบครองตัวผม
ทุกอย่างล้วนไร้ความสำคัญ ยกเว้นตัวผม

*********************************

ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า...
เหลือบมองผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆ...
“ใครวะ” ผมพึมพำกับตัวเอง

ไม่เห็นแปลก...เพราะแต่ละวัน
ผมก็นอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันอยู่แล้ว

ชื่อเสียงมักแลกกับความเป็นส่วนตัว
ผมไม่ถือ...
หากว่าชื่อเสียงที่ผมได้มานั้น
มันมาพร้อมกับความสุข เงินทองและผู้หญิง

เคยมีคนสัมภาษณ์ผม...ว่าคุณรักดนตรีมากน้อยแค่ไหน
เฮอะ! ช่างเป็นคำถามที่งี่เง่ามาก
จะมีศิลปินซักกี่คนกันที่บอกว่าไม่รักการร้องเพลง ไม่รักดนตรี ไม่รักเสียงเพลง
ถ้าตอบออกไปอย่างนั้นก็เท่ากับว่าฆ่าตัวตายชัดๆ

“ครับ...ผมรักดนตรี รักเสียงเพลง
เสียงเพลงช่วยกล่อมเกลาจิตใจ
เสียงเพลงทำให้ผมมีความสุข”
(แต่ก็รักไม่เท่ากับการมีชื่อเสียงอยู่ ณ ตอนนี้)

********************************

หลังจบคอนเสิร์ตใหญ่ ผมก้าวเดินลงจากเวที
รู้สึกหน้ามืด อ่อนเพลีย
น่าจะเป็นเพราะจากอาการเหนื่อยล้า และอดนอนมาหลายคืน
ผมตัดสินใจกลับบ้านคนเดียว
วันนี้ผมอยากพักผ่อน และไม่อยากทำกิจกรรมกับใคร

ผมขับรถกลับบ้านด้วยสายตาที่พร่ามัว
ภาพข้างหน้าเบลอ จนถึงขั้นมองไม่เห็น
แสงไฟจากรถข้างหน้าทำให้ผม ตาโพลง...
แต่กว่าที่ผมจะทำอะไรได้...ก็ไม่ทันการเสียแล้ว

*********************************

สติสัมปชัญญะ ของผมกลับคืนมาแล้ว
น่าแปลกที่ผมลืมตาไม่ขึ้น
และรู้สึกว่า มีผ้าพันอยู่รอบหัวของผม
ผมรู้สึกว่าที่แขนด้านซ้ายของผม
จะมีสายน้ำเกลือและกำลังไหลเข้าสู่เส้นเลือดอยู่

ทำไมผมถึงลืมตาไม่ขึ้น...
และทำไม...ที่ขาซ้ายของผมกลับว่างเปล่า
สภาพของผมตอนนี้เป็นอย่างไร...
ผมไม่สามารถรู้ได้...ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเป็นอย่างไร
ผมไม่รู้อะไรเลย...

***********************************

เสียงลมพัดปะทะผ้าม่านในห้อง
เสียงดังพรึ่บพั่บ...
เสียงกรีดของกระดาษเมื่อต้องลม...
เสียงของสายลมที่พัดผ่านปะทะเข้าไปในหูของผม ดัง วิ้ว หวิว
เสียงเปิดประตูของใครบางคน
เสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินเข้า ณ เตียงที่ผมนอนอยู่

“คุณ สรายุครับ...” เสียงนั้นฟังดูราบเรียบและน่าเชื่อถือ
“เรื่องขาซ้ายของคุณ...ทางเราได้ใส่ขาเทียมให้คุณแล้วนะครับ
แรกๆอาจจะลำบากในการกายภาพบำบัดนิดหน่อยนะครับ
แล้วหลังจากนั้น คุณจะเดินได้อย่างเหมือนมีขาปกติเลยครับ”

“ครับผม...ขอบคุณมากครับ

“แล้วอีกอย่าง...ผมต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ
หลังจากการตรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว
ดวงตาทั้ง 2 ของคุณ...” เสียงนั้นเว้นว่างไปหลายอึดใจอยู่เหมือนกัน

ผมยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมทำใจได้แล้ว”

“เอ่อ...ครับ ดวงตาของคุณนับจากวันนี้ไป
จะ...ไม่สามารถใช้การได้อีก”

“ครับ...ผมทราบครับ”

“มีอีกอย่างนะครับ...
คือ...ผลการตรวจเลือดของคุณ...
ออกมาเป็นเลือดบวก...ครับ”

ในสมองของผมพร่ามัว...
เรื่องตา...เรื่องขา...ผมพอรับได้
แต่........................................

ผมไม่ได้ยินเสียง...ไม่ได้ยินคำแนะนำจากใครๆทั้งนั้น
ผมอยากจะร้องไห้...แต่ผมไม่มีแม้ดวงตา...
ที่จะผลิตน้ำตาให้ผมซักหยด
เรื่องร้ายๆอย่างนี้....ทำไมต้องมาเกิดขึ้นที่ผมด้วยนะ
ผมกลายเป็นคนไร้ค่า...ไปแล้ว

ในห้องที่ผมรู้สึกได้ถึงความว่างเปล่า
ไม่มีเพื่อนฝูง...
ไม่มีแฟนๆ...
ไม่มีใคร...

ผมหมดความสำคัญ
เป็นคนไร้ค่า...
และ...ไม่ใช่พระเจ้าของใครอีกต่อไป

*********************************

ผมได้ยินเสียงดนตรี...ได้ยินเสียงเพลง
ผมค่อยๆใช้มือคลำ...
ปาดป่ายไปตามฝาผนังห้อง...
เสียงสิ่งของต่างๆตกลงพื้นดังตึงตัง...
จนมือของผมไปสัมผัสอะไรบางสิ่งที่ผมคุ้นเคย

นานเท่าไรแล้วนะ...
ที่ผมไม่ได้จับกีตาร์ตัวนี้...
ไม่มีการสั่นไหวของสายทั้ง 6 เสียง...
ไม่มีเสียงสั่นของสายเมื่อกระทบกับปิ๊ก...
กีตาร์ตัวแรกในชีวิต...
กีตาร์ตัวที่ทำให้ผมรู้ว่าเสียงเพลงคืออะไร
กีตาร์ตัวที่ทำให้ผมรู้ว่าความสุขคืออะไร

หัวใจผมเต้นระรัว...
หยิบกีตาร์ตัวนั้น ขึ้นมาจับคอร์ดด้วยท่าทีที่คุ้นเคย...
ผมใช้นิ้วกรีดลงบนเส้นสายเล็กใหญ่ทั้ง 6 นั้น
เสียงเพลงบังเกิดขึ้น...
ผมบรรเลงเพลงด้วยความรู้สึกเก่าๆ ท่ามกลางความมืดมิด
เสียงดนตรีแห่งความสุข...กลับคืนมาอีกครั้ง

แกคิดถึงฉันไหม...ฉันคิดถึงแกนะ
ขอโทษ...ที่ฉันลืม ทิ้งแกไว้นานแสนนาน
ฉันกลับมาแล้วนะ...

เสียงเพลงที่ฉันรัก...ดนตรีที่ฉันรัก...




Create Date : 22 กันยายน 2549
Last Update : 23 ธันวาคม 2549 0:19:18 น.
Counter : 811 Pageviews.

0 comments
Fukuoka Dream Destination : Day 14 รถไฟ รถบัส เฟอร์รี่ ดั้นด้นจนพบเธอ "ไอโนะชิมะ" mariabamboo
(14 ม.ค. 2568 14:33:16 น.)
งานซ้อมใหญ่พยุหยาตราทางชลมารค 2567 (6) ผู้ชายในสายลมหนาว
(10 ม.ค. 2568 14:17:46 น.)
3 M E A L S_ A D A Y ป้ายเหลืองสไตล์ nonnoiGiwGiw
(8 ม.ค. 2568 15:18:41 น.)
Volkswagen Beetle GSR Zamak (Majorette) kid^_^
(2 ม.ค. 2568 14:47:32 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pinkyangmatoy.BlogGang.com

ยางมะตอยสีชมพู
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด