the five people you meet in Heaven
ไปแอบเห็นที่บล็อกของคุณยาคูลล์ (ขอใช้สิทธิพาดพิง) แล้วเห็นมีการ review หนังสือที่อ่านเยอะแยะเต็มไปหมด ก็เลยอยากมีมั่ง ^^" ลอกกันเห็นๆ

มาคิดๆ ดู ว่าอ่านหนังสือเยอะมาก แต่ว่าก็ลืมเลือนมันไปในที่สุด ลืมแม้กระทั่งว่าเคยอ่านเล่มนี้ด้วยเหรอ ที่จะเขียนก็เพราะอยากจะ capture อารมณ์ที่อ่านจบ ณ ช่วงเวลานั้นๆ ไว้ บางทีเมื่อเราอ่านหนังสือจบ 1 เล่มในครั้งแรก เราจะมีความคิดอย่างหนึ่ง แต่พอเมื่อเราโตขึ้น แล้วมาอ่านมันอีกรอบ เราก็จะมีอะไรใหม่ๆ ผุดขึ้นมา แล้วอาจจะมองย้อนกลับไปว่า เมื่อก่อนเราคิดแบบนั้นได้ไง (วะ) -_-'

บ่นซะยาว จริงๆ คืออยากพูดถึงหนังสือเล่มนี้ the five people you meet in Heaven จริงๆ คือประทับใจการเขียนของ Mitch Albom ตั้งแต่ วันอังคารกับคุณครูมอร์รี แล้ว แล้วพอได้เห็นเล่มนี้ออกมาปุ๊ป

ก็ยังไม่ซื้อ -_-'

ก็มันแพงนี่

จนเวลาล่วงเลยมานาน นานมาจนลืมเล่มนี้ไปแล้ว แล้วอยู่มาวันนึง ปันจังให้รายชื่อหนังสือมือสองในร้านแถวๆ สุขุมวิทมาให้ พอเห็นชื่อหนังสือเล่มนี้ ก็เลยฝากปันซื้อเลย โดยให้ปันอ่านก่อน แล้วรุ้งค่อยไปเอามาอ่านทีหลัง

ทีนี้อ่านเสร็จเมื่อนานมาแล้ว กะว่าจะเขียนๆ ก็ยังไม่ได้เขียนซะที จนป่านนี้ ลืมไปเกือบหมดแล้ว แต่ก็จะลองเขียนดู

ปล บล็อคนี้ Spoil ทั้งบล็อก กระทู้ไหนๆ เกี่ยวกะหนังสือ จะ Spoil ยับ ถ้าอยากอ่าน ก็อย่าอ่าน (งงๆ แฮะ)

the five people you meet in Heaven เป็นเรื่องของ Eddy เป็นหัวหน้าแผนกซ่อมบำรุงที่สวนสนุกมาตลอดทั้งชีวิต เขาคิดว่าชีวิตเขาไม่มีอะไรน่าสนใจ meaningless ไม่มีอะไรตื่นเต้นท้าทาย ครอบครัวของเขาก็อยู่ที่นี่ พ่อของเขาอยู่ที่นี่ เขาก็อยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด เขาอยากจะออกไปเผชิญโลกกว้าง แต่สุดท้ายด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เขาจำเป็นต้องอยู่ทีนี่จวบจนวาระสุดท้าย เขาก็ตายที่นี่เช่นกัน

เมื่อเขาตาย เขาได้พบ 5 คนที่มีอิทธิพล หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของเขา ทั้งในทางตรง ทางอ้อม ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักกัน เขาจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ และเรียนรู้ความหมายของชีวิตตัวเอง

แน่นอนว่า พออ่านจบ น้ำตาก็ไหลๆๆๆๆๆ จนหมอนแฉะ รุ้งอินง่าย ร้องไห้ตั้งแต่เจอคนที่ 3 แล้ว รุ้งชอบภาษาของ Albom เขาเป็นนักข่าวกีฬา ดังนั้นรูปแบบประโยคและการเล่าเรื่องของเขา จะกระชับ สั้น ง่าย แต่ได้ใจความ ประโยคเดียว บาดซะเลือดหยดติ๋งๆ

ในเรื่องจะแอบเอาปมปัญหาของเอ็ดดี้มาใส่ไว้ตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อย แล้วในการเจอะเจอคนแต่ละคน ปมปัญหาที่เอ็ดดี้คิดว่า ตัวเองไม่ดีพอ หรือปัญหาเกี่ยวกับพ่อ เกี่ยวกับสิ่งที่เคยทำไว้แล้วมันกัดกินอยู่ในความคิดของเอ็ดดี้ ก็จะค่อยๆ คลายทีละเปาะๆ จนสุดท้าย เอ็ดดี้ก็สามารถเจอสวรรค์ของตัวเอง

ความรู้สึกส่วนตัว เอ็ดดี้ในเรื่องแก่มากๆ เลย แต่พอเราอ่าน เรารู้สึกเหมือนเอ็ดดี้กลับกลายเป็นเด็กคนนึง ที่หลงทางอยู่ มันสมจริงมากๆ และสะกิดให้เรากลับมาคิด เรามักจะมองคนที่อายุ เมื่ออายุมากขึ้น เราจะถูก assume ว่า เราจะเข้าใจเหตุผลของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ตอนเด็กเราถูกตีทั้งๆ ที่เราไม่ผิด น้องเราทำผิด แต่เราก็ต้องโดนด้วยเพราะถือว่า เป็นพี่ไม่ดูแลน้อง ตอนนั้นเราเจ็บตัว เจ็บใจ พอเราโตมา เราเข้าใจเหตุผล แต่ว่าเหตุผลนั้นไม่สามารถลบล้างเสี้ยนที่มันตำอยู่ว่าเราไม่ได้รับความยุติธรรม เมื่อใดก็ตามที่เราคิดถึงเรื่องนี้ หรือมีการถกกันในเรื่องนี้ เราก็จะกลับกลายเป็นเด็กคนนั้นอีก เหมือนเด็กคนนั้นซ่อนอยู่ในตัวเรา ไม่ได้ไปไหน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราได้ใช้สมอง และหัวใจของเราทำความเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ เสี้ยนอันนั้น จะค่อยๆ หลุดออกไป แล้วพันธนาการที่เราถูกมัดไว้ มันคลายออกไปในทันที

เอ็ดดี้ในเรื่องก็เหมือนกัน กลับกลายเป็นเด็กเมื่อได้เจอกับทุกๆ คนที่เข้ามา เขาได้ทำความเข้าใจว่าชีวิตของเขาไม่ได้เป็นชีวิตของเขาคนเดียว และถูกผูกติดกับชีวิตอื่นๆ เป็นทอดๆ ถ้าไม่มีเขา ก็ไม่มีอีกคน และถ้าไม่มีอีกคน ก็ไม่มีเขา (เหมือน pay it forward เลยเนอะ) เราเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับโดยทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว

อ่านไปก็น้ำตานองไป หนิงนั่งอยู่ข้างๆ ก็มองๆ เมียงๆ ว่าเจ้เป็นอะไร ^^"

สิ่งที่ขัดใจ เอ่อ ... จริงๆ ก็ไม่เชิงว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีหรอก แต่ว่ามันไม่ตรงกับใจมากกว่า อาจจะเพราะตอนที่อ่านเราต้องการอะไรที่ออกประชดประชันเล็กน้อยเพื่อทำให้น้ำตาเรานองหน้ามากขึ้น คือเรามี 2 ความเห็น ความเห็นแรกก็คือ เอ็ดดี้ต้องช่วยเด็กได้อยู่แล้ว เพราะว่าสไตล์ของ Albom เขาจะไม่เขียนอะไรที่มันร้ายๆ หรอก เขาจะเขียนอะไรที่ทำให้เกิดการประทับใจในแบบที่ดีๆ แต่อีกใจหนึ่ง เป็นความอยากส่วนตัว อยากให้เด็กตาย แล้วคนที่ห้าที่เอ็ดดี้เจอก็คือเด็กคนนั้น (โหดไปไหม)

สรุปก็คือ สนุก แนะนำให้อ่าน 5 ดาวไปเลย

ปล ตอนนี้ Albom มีเขียนเรื่องใหม่อีกแล้ว แต่รอหนังสือมือ 2 อีกดีกว่า ^^"



Create Date : 24 มีนาคม 2550
Last Update : 24 มีนาคม 2550 16:19:46 น.
Counter : 2217 Pageviews.

6 comments
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
ไม่ลอดช่องโหว่ ปัญญา Dh
(2 ม.ค. 2567 13:44:30 น.)
  
รุ้งครับ คิดถึงจัง

เรื่องนี้พี่อ่านนานแล้ว
อ่านต่อจากเรื่องของครูมอร์รี่
จำได้ว่าใช้เวลาอ่านไม่นาน ชอบมาก
แต่ต้องหาโลเกชั่นเพื่อการอ่านโดยเฉพาะเลยอะ
โดย: ninaM วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:19:30:32 น.
  
อ๊ะ พี่นินาม คิดถึงเหมือนกัน ไม่ได้เจอกันตั้งแต่งานแจ่มใสโน่นแน่ะ วันหลังไปกินไอติมกันมั๊ย ^^
โดย: Rung (peiNing ) วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:23:11:57 น.
  
มาเก็บค่าธรรมเนียมในการโดนพาดพิงค่ะ เอิ้กๆ

ชอบภาษาง่าย ๆ ตรง ๆ ของมิทช์ อัลบอมเหมือนกันค่ะ เล่มนี้ซื้อตั้งแต่แรกเลย เพราะตื่นเต้นว่าไม่เห็นงานเขานานแล้ว
ชอบเล่มนี้มากกว่าวันอังคารฯ นิดหน่อย เล่มนั้นมันออกแนวฮาวทูไปหน่อย เล่มนี้อ่านเป็นนิยายจริง ๆ

คิดเหมือนกันเรื่องเขียนความรู้สึกหลังอ่านจบไว้ค่ะ
หลายครั้งที่ลืมไปว่าอ่านเล่มนั้นเล่มนี้แล้วคิดยังไง (ลืมไปว่าอ่านแล้วก็เคย) ทำให้อยากบันทึกไว้บ้าง แต่เป็นคนไม่ชอบจดบันทึก โชคดีที่บล็อกใช้พิมพ์ ๆ เอา เลยสบายหน่อย อยากให้ทุกคนที่อ่านหนังสือมาเปิดบล็อกจัง เวลาใครคิดจะหาหนังสืออ่าน จะได้มีแหล่งอ้างอิง (จากมุมมองคนอ่าน)
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:18:28:48 น.
  
อยากอ่านเหมือนกันค่ะ
แต่ยังไม่มีโอกาสได้อ่านซะทีเลย ยังหามาอ่านไม่ได้ แหะๆ

แต่คนชมเยอะนะคะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:9:49:31 น.
  
ยังไม่ได้อ่าน แต่เดี๋ยวจะหามาอ่าน...
โดย: waidhaya วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:18:01:33 น.
  
ยาคูลท์ - - - - ค่าธรรมเนียมต๊ะไว้ก่อน เดี๋ยวคืนเป็นรีวิวเรื่องใหม่ละกัน (ลงทุนสุดๆ เลยนะ) ^^"

สาวไกด์ใจซื่อ - - - - ไว้สบอารมณ์เหมาะๆ ก็ลองหามาอ่านดู ของเค้าดีจินๆ ^^

waidhaya - - - - ลองเลยๆ หนับหนุนๆ
โดย: รุ้ง (peiNing ) วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:21:24:42 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Peining.BlogGang.com

peiNing
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]

บทความทั้งหมด