เปิดถุงงานหนังสือเมษายน 2559 ค่า ร้อน...จะร้อนไปไหนก็ไม่รู้สำหรับเดือนเมษายน หนิงเลยไปเดินเล่นงานหนังสือแก้ร้อนดีกว่า แต่ผลปรากฏว่าร้อนกว่าเดิม เพราะร้อนอกร้อนใจที่ทำเงินปลิวหายไปจากกระเป๋าตังค์ ไปสองรอบก็ปลิวไปสองรอบเป็นที่เรียบร้อย เจ็บใจกับความร้อนมาก เลยเอามาหนังสือต้นเหตุความร้อนมาประจานเสียเลย จะได้รู้ซะมั่ง! หนิงเคยออกตัวอยู่บ้างว่าชอบ non-fiction แต่งานหนังสืองวดนี้ ได้หนังสือนิยายมาด้วยแหละ ไม่ใช่แค่ non-fiction เพียงอย่างเดียว ประเดิมที่นิยายก่อนเลยก็ได้ค่ะ ได้มา 3 เล่ม ตามนี้เลยค่า ![]() เรื่องแรก "รักประดับใจ" ของสนพ.แจ่มใส เรื่องนี้ปกหลังเขาบอกแล้วว่าซินเดอเรลล่าแดนมังกร ก็ตามนั้นเลยค่ะ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องแรกของชุดมากกว่ารักของแจ่มใส มีสาวกมากกว่ารักตามหาน่าดูจนกระทั่งตีพิมพ์ใหม่ออกมาอีกครั้ง จึงไปสอยมาเรียบร้อย ![]() ต่อมาเป็นชุดวิวาห์อสูร เรื่อง "อสูรพิษ" กับ "อสูรเร้นร้าย" เป็นของสนพ.แจ่มใสอีกเช่นกัน เรื่องนี้ซื้อเพราะมุขเลยค่ะ เรื่องไม่มีอะไรมากมาย แต่ส่วนตัวหนิงชอบอารมณ์ขันของคนเขียนแบบอารมณ์ตลกตึ่งโป๊ะ อะไรทำนองนั้นน่ะ (ส่วนเรื่อง "อสูรเร้นร้าย" ใช้มุขของภาษาค่อนข้างเยอะ ตลกดี) ออกตัวว่าหนิงเป็นหนึ่งในแฟนชุด 'มากกว่ารัก' ของแจ่มใส เป็นเรื่องน้ำเน่าแบบฉกาจฉกรรจ์ที่ตรงกับจริตข้าพเจ้ามากมาย (เห็นงี้ ชอบเรื่องน้ำเน่านะ แต่ไม่ค่อยแสดงออก) และอีกเรื่องหนึ่งคือ รู้อยู่แล้วว่าชุดนี้เป็นหนังสือพาฝัน หนิงเลยไม่ค่อยมีกำแพงมากมายเหมือนกับเวลาอ่านนิยายไทย คือ เจอความไม่สมเหตุสมผลอะไรก็ทำเป็นมองไม่เห็น ข้ามๆ ไปเถอะ อะไรเทือกๆ นั้น พอไม่ตั้งความหวังอะไร ก็นับว่าเป็นชุดที่สร้างความบันเทิงให้กับหนิงได้ดีเลยค่ะ ทีนี้ fiction อีกเรื่องหนึ่งที่ได้มาคือเรื่องนี้เลย "มิลินทปัญหา" ![]() ไม่แน่ใจว่าเคยได้ยินเรื่องนี้กันไหม แต่เล่าให้ฟังคร่าวๆ ก็ได้ว่า เป็นเรื่องพระเจ้ามิลินทร์ (กษัตริย์) ผู้มีปัญญามาก เที่ยวเสาะแสวงหาคำตอบโดยการตั้งคำถามกับพระสงฆ์ทั้งหลาย เหล่าสงฆ์ไม่สามารถตอบคำถามได้ และละอายแก่ใจ ก็เลยออกจากเมืองไปจนทำให้เมืองนี้แทบจะร้างสงฆ์อยู่แล้ว หลังจากนั้นเลยเกิดประชุมสงฆ์ขึ้นว่าจะแก้ไขปัญหานี้ไงดี สงฆ์รูปหนึ่งเลยเสนอความเห็นว่าให้ลองไปขอความช่วยเหลืออัญเชิญมหาเสนเทวบุตรผู้มีปัญญามากจากบนสวรรค์ให้ลงมาจุติที่เมืองมนุษย์เพื่อจะได้มีผู้สามารถตอบปัญหาแก่พระเจ้ามิลินทร์ได้ (ก่อนอื่น ขอให้เข้าใจก่อนว่า ต่อให้เป็นพระอรหันต์ ก็ใช่ว่าจะสามารถตอบปัญหาได้อย่างแยบคาย เพราะพระอรหันต์หรือสาวกทั่วไปเป็นเพียงมัคคานุคา หรือผู้เดินตามมรรคเท่านั้น ไม่ใช่ผู้พบมรรคอย่างตถาคต ผู้ตามไม่ใช่ผู้ค้นพบ ดังนั้นใช่ว่าจะตอบปัญหาได้ทุกแง่มุมอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ถ้าเป็นอรหันต์ผู้มีปัญญามากก็สามารถทำได้ในระดับหนึ่ง) เท่าที่ลองเปิดอ่านคร่าวๆ ก็สนุกดีนะคะ เพียงแต่สำนวนภาษาอาจจะไม่ค่อยคุ้นเท่าที่ควร แต่พอดีหนิงเคยอ่านพุทธวจนะมาก่อน เลยค่อนข้างเคยชินอยู่แล้ว ที่จริงหนิงอยากแนะนำให้ลองอ่านดูนะคะ (แม้ว่ามันเป็นเรื่องที่ดูเข้าใจยากก็ตาม) ในโลกนี้ ไม่ค่อยมีหนังสือที่เป็นเรื่องของเมธีปะทะเมธีให้อ่านสักเท่าไรหรอก หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในนั้น เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เขียนขึ้นได้เกือบ 2,000 ปีก่อน หลังจากตถาคตปรินิพพานได้ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้นเอง ถ้าจะอ่านเล่มนี้ให้รู้เรื่อง หนิงแนะนำว่าให้ลองอ่านพุทธวจนะก่อน คือ เรื่องศรัทธาเป็นเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องเฉพาะตน ไม่ว่ากัน แต่ไม่ว่าคนผู้นั้นจะศาสนาใดก็ตาม หนิงก็ยังคงอยากแนะนำให้อ่านอยู่ เพราะอยากยกตัวอย่างตถาคตผู้เป็นเมธีที่สามารถเปรียบเทียบอุปมาอุปไมยได้เจ๋งที่สุดคนหนึ่งเท่าที่หนิงเคยได้อ่านได้ฟังมาค่ะ ยกตัวอย่างว่า ตถาคตเคยกล่าวไว้ว่า การเกิดเป็นมนุษย์ยาก แล้วยกตัวอย่างว่าให้ลองคิดดูว่า ในมหาสมุทรที่มีพื้นที่ติดต่อกัน มีเต่าตาบอดตัวหนึ่งดำผุดดำว่ายอยู่ สัก 100 ปีจะโผล่ขึ้นจากน้ำสักครั้ง แล้วในมหาสมุทรนั้นก็มีไม้มีรูตรงกลาง ลมพัดทีก็ไปตามกระแสน้ำนั้น จะสำคัญความนี้ว่ายังไงถ้าเต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นมาลอดรูไม้นั้นได้พอดี? การเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นฉันนั้นแหละ การเชื่อว่าการเกิดเป็นมนุษย์ยากหรือไม่ถือเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การอุปมาอุปไมยนี้เจ๋งไหม มันเป๊ะมากอ่ะค่ะ คือ แค่คำว่า 'ยาก' ธรรมดายังฟังดูง่ายไปถนัดใจเมื่อเจอการอุปมาอุปไมยนี้ ตถาคตยังคงมีการอุปมาอุปไมยในอีกหลายๆ เรื่องตามแต่ผู้ฟังพระองค์เป็นใคร ดังนั้นมีอุปมายากบ้างง่ายบ้างสลับกันไป ลองไปศึกษาได้นะคะ จะช่วยให้เรียนรู้เรื่องการยกตัวอย่างเพื่อให้คนฟังเข้าใจได้ดีขึ้น สำหรับ "มิลินทปัญหา" ก็ทำได้ไม่เลวเลยค่ะ พระนาคเสนตอบปัญหาได้ดีมากนะคะ แสดงให้เห็นเลยว่าผู้แต่งได้แตกฉานคำของตถาคตน่าดูทีเดียวค่ะ (เท่าที่ดูคร่าวๆ บางคำตอบก็น่าจะดึงมาจากวจนะของตถาคตเหมือนกัน) หากยกย่องตถาคตให้เป็นอันดับหนึ่งของการอธิบายให้คนฟังเข้าใจ พระนาคเสนก็นับว่าเป็นแนวหน้าในใจหนิงเช่นกันค่ะ อะ เปลี่ยนบรรยากาศเป็นหนังสือภาพกันบ้างแล้วกันนะคะ "Sky of Yesterday" โดยศศิ วีระเศรษฐกุล เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลยค่ะ ภาพก็สวยด้วย หนิงไปเจอเล่มนี้ในร้านกาแฟ แล้วพลิกหานานมากว่าเป็นของสนพ.อะไร ตอนแรกนึกว่าหนังสือทำมือด้วยซ้ำ ถามเจ้าของร้านก็บอกว่ามีคนให้มา จนกระทั่งรู้ว่าสนพ.ชื่อ fullstop ก็ตระเวณหาตามร้านหนังสือ ไม่มีเลยค่ะ ร้านใหญ่แค่ไหนก็ไม่มี นับว่าเป็นหนังสือที่ต้องใช้ความทรหดอดทนมากกว่าจะหามาได้ วิธีเล่าเรื่องดีนะคะ เป็นการเล่นกับเส้นเรื่องได้ดี สรุปรวมความแล้วเป็นหนังสือที่อยากแนะนำอย่างยิ่งสำหรับใครที่ไม่เคยอ่านอ่ะค่ะ ![]() เล่มถัดมาก็เป็นของคุณศศิ วีระเศรษฐกุล เช่นเดิม เพิ่งออกมาใหม่ในงานหนังสืองวดนี้ แล้วหนิงก็ไปสอยมาเรียบร้อยแล้วค่ะ จริงๆ อ่านเล่มไหนก็ไม่ประทับใจเท่า "Sky of Yesterday" แต่เห็นคนเขียนไปเที่ยวยุโรปมา เป็นบันทึกการเดินทางที่เล่าด้วยภาพวาดสีน้ำ เลยจัดมาอีกเล่มหนึ่งค่ะ ![]() หมดหนังสือ fiction แล้วก็มาต่อที่ non-fiction กันเลยค่า ครั้งนี้หนิงซื้อ How-to ของนักเขียนชาวญี่ปุ่นมา 3 เล่ม ตามนี้เลย 1. "เทคนิคสรุปทุกอย่างลงในกระดาษแผ่นเดียว ที่ฉันเรียนรู้มาจากโตโยต้า" โดย อะซะดะ ซุงุรุ สาบานว่านี้คือชื่อหนังสือ ยาวมั่กๆอ่ะ หนิงซื้อเล่มนี้เพราะหน้าปกล้วนๆเลยค่ะ คือ หนิงเคยเจอหนังสือพวก Toyota ways ทั้งหลาย เห็นหน้าตาแล้วยังกะคัมภีร์อะไรสักอย่าง ไม่น่ารักเล้ย พอเจอเล่มนี้ก็เลยคว้ามาแบบมึนๆ เป็นเหยื่อการตลาดชัดๆ ![]() 2. "ชีวิตดีขึ้นทันตาเห็นแค่หยิบเรื่องมาคุยเล่นเพียง 30 วินาที" โดย ไซโต้ ทะคะชิ หนิงชักสงสัยจริงจังว่าชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่นจริงๆ นี่มันยาวเหยียดหนังสือแบบชื่อภาษาไทยหรือเปล่าเนี่ย เรื่องนี้ซื้อมาเพราะหนิงชอบ How-to ของคนญี่ปุ่นค่ะ คือ คนญี่ปุ่นเขาค่อนข้างถ่อมตนน่ะนะ แล้วหนังสือที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของคนที่เขียนโดยชาวญี่ปุ่น มันเลยให้กระแสบวกกับคนอ่าน อ่านแล้วสบายใจดี เนื้อหาไม่ได้อะไรมากมายเพราะเป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน แต่กระแสบวกของทัศนคติที่เราได้รับจากคนเขียนได้ใจไปเต็มๆค่ะ ![]() 3. ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว โดย คะเมะดะ จุนอิชิโร เออ ชื่อเล่มนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่งั้นเห็นชื่อเรื่องนึกว่าคำนำหนังสือ เป็นเล่มเดียวที่หนิงยังไม่ได้เปิดอ่านเลย เลยไม่มีอะไรจะพูดถึงค่ะ แต่เล่มบางแบบนี้น่าจะอ่านจบได้เร็วนะ ![]() หมด How-to แล้วก็มาที่หนังสือประเภทสารคดีกันบ้าง หนิงเป็นพวกบ้า 'สารคดี' ค่ะ (แต่หนิงมักเรียกมันว่าสารานุกรม เพราะดูหนาๆ ปกแข็งๆอ่ะ) ไปงานหนังสือทีไรจะต้องสอยมาเป็นตำราอ้างอิงบางอย่าง ซื้อเก็บๆไว้ เวลามีเหตุให้ต้องใช้ก็หยิบมาได้ตลอด ครั้งแรกที่ไปของปีนี้ไม่ได้มาเพราะกะว่าจะเพลาๆ ลงหน่อย แต่ไปอีกรอบก็สอยมาจนได้เพราะเห็นแก่ของถูก นี่เลยค่ะ ชุดพิเศษของ National Geographic เกี่ยวกับพวกอารยธรรมโบราณ ![]() ที่จริงมีหนังสือประเภทอารยธรรมเยอะอยู่แล้ว แต่พอเห็นแล้วก็อดไม่ได้ สองเล่มนี้ 450 บาทเองอ่ะ ราคาต่อเล่มพอๆ กับนิยายเล่มหนึ่ง แต่อันนี้เป็นภาพสี ปกแข็งอย่างดี เลยเป็นเหยื่อของของถูกและการตลาดอีกรอบไปโดยปริยาย ใครมี non-fiction ที่น่าสนใจแนะนำกันได้นะคะ หนิงไม่ค่อยได้เจอในร้านหนังสือเท่าไร ถ้าอยากได้มักจะต้องรองานหนังสือแล้วไปสอยมาเชยชมน่ะ อ้อ มีทำคลิปแนะนำหนังสือไว้ด้วย ก็คงคล้ายๆที่เขียนนี่แหละ แต่ก็ต่างกันนิดหน่อยมั้ง ลองดูแล้วกันค่ะ แต่ไม่ได้เรียงตามลำดับเหมือนในบล็อกนะ เรียงตามวันที่สอยมาได้น่ะค่ะ อันนี้ไปรอบแรก อันนี้ไปรอบสอง เพิ่งเห็นว่ารูปไม่ขึ้นเหมือนกันค่ะพี่กบ เลยแก้ไขแล้ว
มิลินทปัญหา บ่ใช่นิยายเน่อ แต่จัดอยู่ใน fiction เลยเอามาวางอยู่ใน category นี้ จริงๆ ควรต้องเปลี่ยนคำแฮะ ขออภัยค่ะ (-__- " )a โดย: peiNing
![]() ข้างบน ยังพิมพ์ไม่จบ ดันโง่กด Enter เอาใหม่ค่ะๆ
เหมือนไม่ค่อยเยอะนะคะ ซื้อน้อยดี ![]() โดย: Prophet_Doll
![]() จริงๆซื้อไม่เยอะเพราะกองดองยังท่วมหัวอยู่เลยค่ะ ^^"
โดย: peiNing
![]() งานนี้ทำงานไม่ได้เดินเลย แต่ที่น่าเสียใจคือก็ทำงานหนังสือนี่แหล่ะ
โดย: Kisshoneyz
![]() ไม่เป็นไรนะค้า งานหนังสือมีเรื่อยๆ (และความเห็นส่วนตัว ซื้อในร้านหนังสือดีกว่าอ่ะ อยากได้ก็ซื้อ พอไปงานมักเห็นแก่ของถูกแล้วเลยกลายมาเป็นกองดองเอาได้นะ)
โดย: peiNing
![]() |
บทความทั้งหมด
|
มิลินทปัญหามีเป็นนิยายด้วย! เดี๋ยวไปลองด้อมๆมองๆดู