เรื่องนี้อ่านจบไปนานชาติแล้ว แต่เพิ่งได้ฤกษ์หยิบมารีวิวค่ะ ช่วงนี้อ่านแต่หนังสือญี่ปุ่นกับจีน เรื่องจีนนั่นไปรีวิวใน Youtube แล้ว เลยเอาเรื่องญี่ปุ่นมาเขียนในบล็อกแทนแล้วกันนะคะ
งวดนี้หวยตกที่ "โดรายากิขนมนี้ทำด้วยใจ" โดย Durian Sukegawa (ไม่รู้คนเขียนชอบทุเรียนหรือไงถึงได้ใช้ชื่อนี้เป็นนามปากกา)
ชื่อเรื่อง: โดรายากิขนมนี้ทำด้วยใจ
ผู้เขียน: Durian Sukegawa
ผู้แปล: ธีราภา ธีรรัตนสถิต
สำนักพิมพ์: Maxx Publishing
คำโปรย
เรื่องราวอันมีเสน่ห์ของมิตรภาพ ความรักและความโดดเดียวในสังคมร่วมยุคสมัยของญี่ปุ่น
เซนทาโร่ ผู้จัดการร้านขนมโดรายากิ ชายหนุ่มผู้มีความหลังฝังใจจนไม่อาจก้าวข้ามไปได้ชีวิตของเขาผ่านไปอย่างไร้แรงใจขับเคลื่อนได้แต่นั่งมองความฝันที่ห่างไกลออกไปทุกทีแต่ทุกอย่างก็เปลี่ยไป
เมื่อเขาได้พบกับ "โยชิอิ โทคุเอะ" หญิงชราผู้มีนิ้วหงิกงอ จากอาการป่วยบางอย่างในอดีต แต่ไส้ถั่วแดงที่เธอทำใส่ในขนมโดรายากินั้นช่างแสนอร่อย อย่างที่เซ็นทาโร่ไม่เคยลิ้มรสมาก่อนเลย เขาตัดสินใจรับหญิงชราเข้าทำงานที่ร้าน
หลังจากนั้นมิตรภาพต่างวัยก็เริ่มก่อตัวขึ้น เขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากเธออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำขนมหรือการใส่ใจในสิ่งที่ทำพร้อมไปกับการปรากฏตัวของ "วาคานะ" เด็กสาววัยมัธยม ลูกค้าของร้านที่แบกความลับไว้ในใจเช่นกัน
จนเมื่ออดีตอันน่าสะเทือนใจของหญิงชราถูกเปิดเผยจึงทำให้เซ็นทาโร่ได้ตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต
ความคิดเห็นส่วนตัว
อ่านโปรยปกน่าจะทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเรื่องนี้พูดถึงความฝัน และการดำรงอยู่ของชีวิตโดยผ่านชีวิตของเซนทาโร่ที่เป็นคนทำโดรายากิ ซึ่งชีวิตเขาแสนจะจืดชืด ทำโดรายากิไปแกนๆ จนกระทั่งได้พบหญิงชรานามว่าโทคุเอะ ที่ทำถั่วแดงได้อร่อยมาก เธอใส่ใจทุกขั้นตอน และเซนทาโร่ก็พยายามจะครูพักลักจำวิธีการของเธอ
ตอนเช้าที่เคยตื่นมาแบบล่องลอยก็ดูจะมีความหมายขึ้น โดรายากิที่เคยทำแบบสุกเอาเผากินก็อร่อยจนมีคนที่เคยมองผ่านกลับขายดี แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเรื่องที่ไม่เป็นดังใจหวังจนได้ นั่นทำให้เซนทาโร่ต้องดิ้นรนแล้วเรียนรู้ความหมายของการมีชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
เรื่องนี้ไม่ได้จบแบบตัดสิน แต่มาแนวทิ้งไว้ให้คิดต่อว่าจะเป็นอย่างไร
ถ้ามองว่าเป็นเรื่องอบอุ่น ฟีลกู๊ด ก็น่าจะได้ คนที่ชอบแนวนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าหยิบขึ้นมาอ่านเลยค่ะ แต่สำหรับหนิงเอง (ที่เป็นนักอ่านเรื่องมาก) หนิงมองว่าเรื่องนี้ถูกสร้างมาด้วยกระบวนการที่แสนจะยัดเยียดความคิดจากคนเขียนเสียเหลือเกิน
จะว่าไงดี ไม่ใช่เรื่องนี้เขียนไม่ดี แต่บริบททุกอย่างที่ใส่มามันจงใจเกินไปน่ะค่ะ ถ้าเปรียบเทียบเช่น หนังสือสืบสวนสอบสวนที่คนเขียนสร้างสถานการณ์ขึ้นมาประเภทที่แค่ได้ฟังก็รู้ว่า "หมอนี่ต้องตาย" ยังไงยังงั้น เราเลยอ่านแล้วรู้สึกว่าไร้ทางเลือกให้ตัวเอง ต้องรู้สึกไปตามสิ่งที่คนเขียนขีดกั้นเพราะมันยากเหมือนกันที่จะทำให้คิดเห็นไปทางอื่น
เป็นเรื่องที่ชวนน่าอึดอัดสำหรับหนิงเกินไปหน่อยค่ะ
แต่ว่าไม่ได้ หนิงเคยบอกแล้วว่าไม่ถูกโฉลกกับหนังสือญี่ปุ่น จะมีพักหลังที่เริ่มอ่านได้บ้างแต่ก็ไม่ทั้งหมด เรื่องนี้ทำให้นึกถึงบางอย่างที่ไม่ค่อยชอบ มีความญ๊่ปุ่นจ๋าอยู่ในนั้นซึ่งหากคนเคยชินกับขนบนี้ก็น่าจะเห็นคนละอย่างกับหนิงนะคะ
เอาเป็นว่า เนื้อหาเรื่องนี้ดี ควรค่าแก่การอ่าน (ถ้ามองข้ามในเรื่องความเนิบนาบและน่าอึดอัดจากการชี้นำของคนเขียนที่ออกจะมากเกินไปค่ะ)