ละครคน โดย ว. วินิจฉัยกุล (นิยายเรื่องแรกในชีวิตการอ่าน)
ละครคน โดย ว. วินิจฉัยกุล (นิยายเรื่องแรกในชีวิตการอ่าน)
รุ้งอ่านนิยายเล่มนี้เป็นเรื่องแรก ตอน ม.1 แล้วก็อ่านมาอีกหลายรอบ ในอายุที่แตกต่างกันไป นี่ก็หยิบมาปัดๆ ฝุ่นจากร้านหนังสือเช่ามาอ่านอีกรอบหนึ่ง สารภาพว่าจำเนื้อเรื่องไม่ได้เลย มันก็เหมือนอ่านใหม่โดยไม่มีอะไรอยู่ในหัว
พยายามหาเรื่องย่อในเวป แต่ว่าหาไม่ได้เลย แล้วก็ขี้เกียจย่อซะด้วยสิ เอาไงดี ....
ย่อแบบสั้นๆ ก็แล้วกัน
เรื่องย่อ
แก้วใสเพิ่งจบมหาลัยด้านนิเทศ (ไม่ก็วารสาร เกี่ยวกับวงการบันเทิงน่ะ) คุณพ่อคุณแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก พ่อก็ไปอยู่กินกับประมาณเจ้าของช่องทีวีที่อายุแก่กว่า แม่ก็ใช้ชีวิตอิสระ อยากทำอะไรก็ทำโดยที่ไม่แคร์อะไร แก้วใสก็ได้ไปทำงานกับคุณแม่เลี้ยง แล้วพบกับศิวา ลูกของแม่เลี้ยงที่ทั้งหยิ่งและดูถูก แก้วใสก็ต้องอยู่กับโลกมายาในหน้าที่การงาน และ โลกมายาที่ฉาบอยู่บนชีวิตจริงด้วย
(เอาแค่นี้ไปก่อนละกัน อยากรู้ก็ไปหาอ่านกันละกันเน้อ)
เล่มนี้ก็เป็นเล่มที่อ่านตอนปั่นจักรยาน ทำให้เราสามารถปั่นจักรยานได้นานแล้วก็เวลาผ่านไปเร็วมาก แม้ว่าเรื่องจะเครียด แต่ว่าภาษาการเล่าเรื่องก็ลื่นไหล อ่านเพลินเชียวแหละ
ไม่อยากวิเคราะห์ แต่อยากแชร์ความเห็นมากกว่า เอาเป็นว่าจะพูดถึงความเห็นที่เราอ่านจบแล้วรู้สึกได้ มี 4 จุดด้วยกัน
1. คนเขียนเล่นคำว่า "ละคร" ได้ดี ตัวละครเกือบทุกตัวเหมือนกำลังแสดงบทบาทโลดแล่ยอยู่ทั้งในหน้าที่การงานแล้วก็ชีวิตจริง ตัวละครเยอะมาก ดีเทลก็เยอะ คนเขียนใส่ให้ครบบ้างไม่ครบบ้าง มันก็ทำให้เราไปคิดต่อเอาเองว่าชีวิตใคร ใครก็กำหนดเองเช่นกัน
2. คนอ่านอย่างเราๆ มองเหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ผ่านสายตาของนางเอก ซึ่งรุ้งว่าเป็นคนที่แสดงน้อยที่สุดแล้ว คือ เราจะเห็นวิวัฒนาการของ "หน้ากาก" ของนางเอก ว่าอ่านช่วงแรกๆ ก็จะบางๆ ความหนาของมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามประสบการณ์ จนกระทั่งตอนจบ และที่รุ้งรู้สึกอีกอย่างก็คือ ความหนาของหน้ากาก กับความด้านชาในหัวใจ มันก็เพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กัน ในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน มันก็ทำให้เรานั่งมองตัวเองเหมือนกันนะว่าเราก็เป็นแบบนี้ด้วยหรือเปล่า
3. เรื่องนี้เน้นที่คุณค่าของคน เรื่องคุณค่ามันเป็นนามธรรม ตีความได้ค่อนข้างลำบาก เรื่องนี้ก็เลยมีตัวเลือกให้เราดูเยอะแยะเชียว ตั้งแต่ตัวเองตัวเอง คนอื่นตีค่าตัวเอง ตัวเองตีค่าคนอื่น และ คนอื่นตีค่าคนอื่น มีตัวอย่างในเรื่องมหาศาลเพราะตัวละครเยอะ ตอนที่รุ้งชอบที่สุดก็คือตอนที่นางเอกพูดกับรงค์เกี่ยวกับความรักและคุณค่าของผู้หญิง เมื่อรงค์บอกว่าเขาสามารถรับได้กับผู้หญิงที่มีประสบการณ์ผ่านมาแล้ว แต่ก็รับไม่ได้ถ้ามันเกิดมาจากความใจแตกเหลวแหลก แต่นางเอกก็ตอบว่า แล้วถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ต้องการ... เขาเรียกว่าอะไรนะ ความช่วยเหลือ บุณคุณที่ผู้ชายอุตส่าห์มองข้ามสิ่งนั้นล่ะ ถ้าผู้หญิงรู้สึกว่าเขาก็เป็นคนหนึ่งที่มีคุณค่าด้วยตัวเขาเองล่ะ ... (อะไรประมาณนี้) รุ้งชอบมาก ต้องคิดว่าเรื่องนี้แต่งมานานมากแล้ว แต่ดูทันสมัยจริงๆ
4. พออ่านจบก็รู้สึกว่า นางเอกนี่ซวยจริงๆ มาเจอคนรอบข้างแต่ละคน เห็นแล้วจะเป็นลม แต่ก็ยังดี ยังมาเจอคนดีๆ บ้าง แต่ก็เป็นคนดีแบบสังคมเมืองล่ะนะ ทำได้แค่ช่วยและเตือนอยู่ห่างๆ แต่ถ้าแกไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ เพราะตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ตอนจบนางเอกทำดีแล้วล่ะ เอาตัวออกไปห่างๆ สังคมนี้ซะ อย่างน้อยก็ซักพัก จะทำให้รู้ว่า เรานี่ซวยจริงๆ นะเนี่ย ...
สรุป สนุกค่ะ เรื่องอาจจะเครียด แต่รุ้งว่าอ่านเพลินดีนะ ดีกว่าอ่านเรื่องหลั่นล้า แต่เขียนห่วย เรื่องไม่ฮา พาเอาเครียดกว่านะเออ ...