ดอกไม้ฝนแรก ยังไม่งามนัก แต่ก็พอชื่นๆใจ ไปชื่นชมกัน
ดอกไม้ฝนแรก ยังไม่งามนัก แต่ก็พอชื่นๆใจ ไปชื่นชมกัน ห่างหายจากการเรียนรู้ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ไปนาน เนื่องจากมีดอกไม้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ไปเน้นแปะภาพให้ชมกัน แต่นานๆก็น่าจะมารื้อฟื้นกันบ้าง เรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ จขบ.ก็รู้น้อยมาก ไปเที่ยวขอเขามาอ่าน หากจะผิดถูกอย่างไร รบกวนชี้แนะด้วยค่ะ ช่วงนี้มีดอกไม้หลายชนิดกำลังผลิดอกออกช่อ หลายชนิดมาเร็ว บางชนิดมาล่า เอื้องกุหลาบกระเป๋าเปิดถือว่ามาเร็วกว่าปกติสำหรับบ้านป่า แต่บางต้นก็เพิ่งผลิช่อดอก ก็ดีเหมือนกัน จะได้ทยอยบานให้ดูไปอีกนานๆ หอมด้วย ช่อนี้เป็นช่อแรกแห่งปี ***** ชื่อวิทยาศาสตร์: Aerides falcata Lindl. ตระกูล: ORCHIDACEAE ชื่อพื้นเมือง: กุหลาบกระเป๋าเปิด, พวงกุหลาบ,เอื้องกุหลาบหลวง, เอื้องกุหลาบป่า ลักษณะทั่วไป: ต้น ยอดเลื้อยทอดทรงโปร่งตั้งตรงหรือเอน ลำต้นส่วนที่ใบร่วงแล้วจะห้อยลง พวกที่ห้อยลงยาวได้ถึง 1 เมตร ส่วนยอดจะตั้งขึ้น ลำต้นเป็นข้อปล้อง สามารถแตกเป็นยอดใหม่ได้ ทำให้เป็นกล้วยไม้ที่มีกอขนาดใหญ่ ใบ แบน หนา ผิวเรียบเป็นมัน ปลายใบยาวเรียว อวบน้ำ กว้างประมาณ 2-4 ซม. ยาวประมาณ 15-30 ซม. ปลายใบมนและเว้าตรงกลางเล็กน้อย ดอก เป็นช่อ ออกดอกคราวละหลายช่อ แต่ละช่อมีหลายดอก ก้านช่อดอกยาวประมาณ 20-40 ซม. ดอกโตประมาณ 2.5 ซม. แต่ละช่อดอกจะบานพร้อมกันและช่อจะห้อยลง ช่อรูปทรงกระบอก กลีบปากมี 3 แฉก เปิดกว้าง ริมแผ่นปากเป็นฝอย มีลายสีม่วงแดงแล้วจางเป็นสีขาว พื้นกลีบดอกเป็นสีขาว มีแต้มสีม่วงอมชมพูที่ปลายกลีบ ลักษณะกลีบทั้งสองคู่งุ้มมาข้างหน้า ราก เป็นแบบรากอากาศ (epiphytic) ฤดูกาลออกดอก: เมษายน พฤษภาคม ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก การใช้ประโยชน์: ไม้ประดับ ถิ่นกำเนิด: ไทย เมียนม่าร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย แหล่งที่พบ: พบตามป่าทั่วทุกภาค ขอบคุณ Nana Gardenเราเหลือเอื้องกุหลาบโคราชต้นเดียว พยายามจะหามาเพิ่ม แต่ไปเจเจทีไรก็ไม่เจอเลย ช่วงนี้น่าจะมีมาขาย แต่ก็ร้อนจนไม่อยากไปตากแดด กลัวจะกลับมาหมอบอีก ***** ชื่อ : กุหลาบเหลืองโคราช ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aerides houlettiana Rchb. f ลักษณะทั่วไป : กุหลาบเหลืองโคราชมีลักษณะดอกคล้ายกุหลาบกระเป๋าเปิด แต่มีพื้นกลีบเป็นสีเหลืองแทนที่จะเป็นสีขาว ดอกมีกลิ่นคล้ายกลิ่นตะไคร้ ความยาวของใบและของช่อดอกจะสั้นกว่ากุหลาบกระเป๋าเปิด จุดเด่นของกุหลาบเหลืองโคราชอยู่ตรงที่มีสีเหลือง ในแต่ละต้นจะมีความผิดเพี้ยนกันไป คือ อาจมีสีเหลืองเข้ม เหลืองอ่อน หรือบางต้นแทบไม่มีสีเหลืองเลย ในการคัดพันธุ์ควรเลือกสีเหลืองเข้มเป็นหลัก เพราะกล้วยไม้สกุลนี้ในประเทศไทยมีชนิดนี้เพียงชนิดเดียวที่ดอกมีสีเหลือง ยาว 12-30 ซม. ใบขนาด 12-16 x2.5-3 ซม. มีกลิ่นหอม คล้ายเอื้องกุหลาบกระเป๋าปิด แต่กลิ่นอ่อนกว่า กล้วยมไชนิดนี้ปลูกเลี่ยงง่าย และให้ดอกได้ดีเช่นกัน ช่วงออกดอก : ประมาณเดือนเมษายน - พฤษภาคม แหล่งที่พบในประเทศไทย :ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอบคุณ กล้วยไม้นานาพันธุ์ Facebook ชื่อ: มาลัยแดง, เอื้องพวงมาลัย, พวงมาลัย, เอื้องอัยเรศ (กรุงเทพมหานคร), เอื้องนกน้อย, เอื้องเป็ดน้ำ(เชียงใหม่), เอื้องพวงมาลัย, เอื้องหางจ้อน(แม่ฮ่องสอน) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aerides multiflora Roxb.var multiflora ลักษณะทั่วไป : กุหลาบมาลัยแดงมีลักษณะดอกคล้ายกุหลาบน่าน แตกต่างกันที่ปลายปาก คือ ปากของกุหลาบน่านเป็นรูปสามเหลี่ยม แต่ปากของกุหลาบมาลัยแดงเป็นรูปหัวใจ ปลายสุดของปากป้านและหยักกลางกุหลาบมาลัยแดงมีลำต้นแข็งแรง ใบหนาโค้ง ซ้อนกันถี่ สูง 5-15 ซม. ใบกว้างประมาณ 2.5-4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-25 เซนติเมตร ช่อดอกโค้งห้อยยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ก้านช่อมักมีสีคล้ำเกือบดำ ออกดอกเบียดชิดกันแน่นช่อ โดยทั่วไปจะมีกลีบดอกสีม่วงแดง มักจะมีสีจางจนถึงขาวที่โคนกลีบ และสีจะเข้มขึ้นจนสุดที่ปลายกลีบช่อดอกจะแตกแขนงถ้าเลี้ยงให้สมบูรณ์และอากาศเย็น ก้านดิกสั้นกว่าเอื้องกุหลาบชนิดอื่นๆ กลิ่นหอมคล้ายกุหลาบกระเป๋าเปิด แต่กลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย ต้นที่ดอกมีสีขาวล้วนเรียกว่า มาลัยเผือก ช่วงออกดอก : ประมาณเดือนเมษายน - พฤษภาคม แหล่งที่พบในประเทศไทย : ขึ้นตามป่าดิบแล้งและป่าผลัดใบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการกระจายพันธุ์ : ประเทศเนปาล สิกขิม ภูฎาน อินเดีย พม่า ลาว กัมพูชา และอินโดจีน ขอบคุณกล้วยไม้นานาพันธุ์ //onepiece.igetweb.com/ เอื้องสามปอยชมพู ชื่อ Thai Name สามปอยชมพู ชื่อวิทยาศาสตร์ Scientific Name Vanda bensonii Batem ชื่อวงศ์ Family ORCHIDACEAE ชื่อเรียกอื่น Other Name เอื้องสามปอยแพะ เอื้องนกน้อย ลักษณะ Characteristics กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้นเรียว สูง 20-40 ซม. มีรากอากาศเป็นนวมยาว ใบ รูปเข็มขัด กว้าง 2.5-3.5 ซม. ยาว 17-20 ซม. ดอก ออกเป็นช่อตั้งตามข้อ ยาว 30 ซม. จำนวน 8-10 ดอกต่อช่อ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีครีม มีขีด สีน้ำตาลอ่อน กลีบปากสีชมพูเข้ม ด้านหลังดอกเป็นสีชมพู ดอกบานเต็มที่กว้าง 4 ซม. มีกลิ่นหอม พบตามป่าดิบเขา ทางภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ออกดอกช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม การกระจายพันธุ์ Distribution เมียนม่าร์ และไทย ประโยชน์ Utilization แหล่งข้อมูล Reference หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 6 Book 'Queen Sirikit Botanic Garden', Vol. 6มาชมไม้ต้นใหญ่ๆกันบ้าง ที่เพิ่งให้ดอกบานเต็มต้นหอมขจรขจายไปทั่วหมู่บ้านก็ต้นนี้เลยค่ะ กันเกรา ***** ชื่อวิทยาศาสตร์ : Fagraea fragrans Roxb. วงศ์ : Gentianaceae ชื่ออื่น : มันปลา (ภาคเหนือ,อีสาน) ตำเสา ทำเสา (ภาคใต้) ตะมะซู ตำมูซู (มลายู-ภาคใต้) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้น สูง 10-15 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาล พอต้นแก่จะแตกเป็นร่องลึกตามยาว ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน หนาแน่นที่ปลายกิ่ง รูปรี กว้าง 4+6 ซม. ยาว 8-12 ซม. ปลายใบและโคนใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน เนื้อใบค่อนข้างเหนียว ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ พอเริ่มบานเป็นสีขาว เมื่อบานเต็มที่เป็นสีเหลืองอมส้ม กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้น ปลายแยกเป็น 5 แฉก ปลายแฉกแหลม เกสรเพศผู้ยาวติดกับกลีบดอก เกสรเพศเมียยาวมี 1 อัน ผล รูปทรงกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผลอ่อนสีเขียว พอสุกเป็นสีแดง เมล็ดเล็ก สีน้ำตาลไหม้ ส่วนที่ใช้ : แก่น สรรพคุณ : แก่น - รสมัน เฝื่อน ฝาดขม บำรุงไขมันในร่างกาย บำรุงธาตุ เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ไข้จับสั่น แก้หืดไอ ริดสีดวง ท้องมานลงท้อง มูกเลือด แน่นหน้าอก บำรุงม้าม แก้เลือดพิการ ขับลม อวดไม้ผลสักต้นนะคะ ปกติเราไม่ปลูกไม้ผลนอกจากจะได้อะไรมาแปลกๆ แต่มีต้นหนึ่งที่ไม่แปลกและไม่ค่อยนิยมกินกัน คือ มะไฟ ค่ะ เอามาปลูกเพราะเคยเห็นตามสวน เวลาออกลูกจะกองอยู่โคนต้นและที่เจอมักจะหวานอมเปรี้ยว พอเราเอามาปลูก เธอออกผลทั่วต้นเลย ออกจะผิดหวัง แต่พอแก่จัด ผลหวานสนิท ถูกใจจริงๆ ชื่นชมโสมนัสจังเลย ***** ชื่อ Thai Name มะไฟ ชื่อวิทยาศาสตร์ Scientific Name Baccaurea ramiflora Lour. ชื่อวงศ์ Family EUPHORBIACEAE ชื่อเรียกอื่น Other Name แซเครือแซ ผะยิ้ว ส้มไฟ หัมกัง ลักษณะCharacteristics ไม้ต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูง 10-15 เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกัน รูปรีแกมหอก โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ หรือหยักตื้นๆ ปลายใบเรียวแหลม กว้าง 5-8 ซม. ยาว 10-22 ซม. เส้นแขนงใบมี 5-8 คู่ ด้านล่างนูน เนื้อใบค่อนข้างบางเกลี้ยง ก้านใบยาว 5-7.5 ซม. ดอก ออกเป็นช่อ กลีบรองกลีบดอกมี 4-5 กลีบขนาดไม่เท่ากัน เกสรผู้มี 4-8 อัน ดอกเพศเมียออกเป็นช่อยาวมาก ใบประดับขนาดเล็กอยู่ที่โคนก้านดอก กลีบรองกลีบดอกรูปขอบขนานแคบๆ ยาวประมาณ 1.2 ซม. รังไข่มีขน ผล ค่อนข้างกลมหรือรี วัดผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 ซม. สีผิวเหลืองถึงแดง ผิวเกลี้ยง มี 1-3 เมล็ด เนื้อหุ้มเมล็ดสีขาวขุ่น รสเปรี้ยวอมหวาน การกระจายพันธุ์ Distribution ขึ้นในป่าดงดิบใกล้ลำธาร หรือที่ชื้นในป่าผลัดใบ ออกดอกประมาณเดือนมีนาคม ประโยชน์ Utilization ราก น้ำต้มราก รวมกับสมุนไพรอื่นๆ ดื่มแก้ท้องร่วง แก้บวมอักเสบ เผาไฟกินเป็นยาถอนพิษ ดับพิษร้อน ต้น เปลือก ทำเป็นยาทาภายนอก แก้บวมอักเสบ แหล่งข้อมูลReference หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 1, ไม้ต้นในสวน Tree in the Garden Book 'Queen Sirikit Botanic Garden', Vol. ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Data พื้นที่จัดแสดง Display Location Q3N - โรงเรือนไม้ใหญ่ : Q3 - เรือนรวมพันธุ์ไม้ใหญ่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สรรพคุณ/ประโยชน์ Ultilization ราก แก้วัณโรค ดับพิษร้อน รักษาเริม นั่งนานอาจจะเบื่อ แดดร่ม ลมดีแล้ว ออกไปเดินเก็บดอกไม้กันดีกว่า ชอบดอกไหนก็เก็บเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ วันนี้มาไม่ทันดอกว่านมหาบัว มาเมื่อโรยไปเสียหนึ่งดอกแล้ว ชื่นชมส่วนที่เหลือก็แล้วกันนะคะ ส่วนว่านแร้งคอดำก็ไม่สามัคคีกันบานเสียอีก แล้วจะมีอะไรสมประกอบให้ชมบ้างใช่ไหมคะ ความร้อนแห้งแล้ง เป็นบ่อเกิด ของดอกไม้ไม่สมประกอบ แต่ถ้าเป็นพวกไม้ใหญ่อย่างเช่น ไคร้ย้อยที่ สูงใหญ่เป็นสิบเมตร ก็ให้ดอกเต็มต้น สวยงามทั้งต้นเลยทีเดียว ปลูกฟักข้าวไว้หนึ่งต้น ปล่อยให้เลื้อยชึ้นต้นตะแบกอินเดียกับต้นไทรใบยาว เพิ่งได้เห็นลูกเดียว ยังไม่แดง เห่อซ้าาาาา ขอพามาเสนอหน้าหน่อยค่ะ ฝากกุหลาบบ้านๆ สดสวยอ่อนหวานไว้สักสองดอก น้องมุจลินทร์ก็มาขอลาไปด้วยภาพสุดท้าย น้องบัวดินสีชมพูดอกใหญ่ มากับ พี่ฝนหยาดแรกเมื่อต้นเดือน ขอให้มีความสุขทุกท่านนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ TOP 10 ROMANTIC FRENCH SONGS, PIANO INSTRUMENTAL Special thanks to uploader: Maximo Spodek เอนทรี่นี้อยู่ในหมวด HOME&GARDEN