******เลข 13 นั้นมีความเชื่อของคนไทยมาโดยตลอดว่าไม่ดีเป็นเลขเอียงดูจะเป็นคำว่า ผีซึ่ง นำมาในความเชื่อที่ว่าจะมากับความโชคร้ายเพราะมีคำไม่ดีอยู่ในนั้น ทั้งเลขบ้าน หรือเลขรถก็ตามแต่ ว่าเป็นเบอร์มงคล หรือไม่ในยุคต้นๆ ที่กล่าวกันว่าอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ที่เรียกกันว่า"The Last Supper" นั้นมีผู้ร่วมโต๊ะพร้อมกัน 13 คนและมีความเชื่อว่าวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันแห่งความโชคร้ายนั้นก็เพราะว่าเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขนเรื่อง เบอร์มงคล หรือ ตัวเลข 13 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับลางร้ายต่างๆ จนถึงขนาดมีบางคนจิตตก วิตกจริต หวาดผวาจนขึ้นสมอง กลายเป็น“โรคกลัววันศุกร์ที่ 13” หรือโรคที่มีชื่อเรียกยาวๆว่า“พาราสเคฟดิคาเทรียโฟเบีย” (paraskevidekatriaphobia)หรือโรค “ฟริกกาทริสไคเดคาโฟเบีย” (friggatriskaidekaphobia)ศูนย์จัดการความเครียดและสถาบันบำบัดอาการกลัวในเมืองแอชวิลล์มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ประเมินว่าในแต่ละครั้งที่มีวันศุกร์ที่ 13 สหรัฐอเมริกาต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นเงินถึง 800-900 ล้านเหรียญสหรัฐทีเดียวเพราะว่าประชาชนบางคนไม่กล้าเดินทางไปไหนไม่กล้าแม้แต่จะไปทำงานแต่จริงๆแล้ว เลข 13 ก็ไม่ได้แย่เสมอไปกับทุกคน อาจจะเป็นเบอร์มงคล ของใครบ้างคนบางคนชอบเลข 13เพียงเพราะว่า แก้เคล็ด เรียกกันว่า ลัคคกี้ นัมเบอร์ เท่านั้นเอง แต่ปัจจุบันทัศนคติอันเลวร้ายต่อวันศุกร์ที่ 13 นั้นเป็นการผสมผสานความโชคร้ายของวันศุกร์ และเลข 13 ไว้ด้วยกันหรือไม่และเหตุใดความหมายของวันศุกร์ และเลข 13 ที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีกลับแปรเปลี่ยนอย่างไรก็ตามความเชื่อนี้กำลังแพร่หลายจากสังคมตะวันตกไปทั่วโลก แม้แต่ในประเทศจีนเองซึ่งสมัยก่อนนั้นถือว่าเลข 4 เป็นเลขแห่งความโชคร้ายมากที่สุดเดี๋ยวนี้ก็จัดให้เลข 13 เข้ากลุ่มเลขโชคร้ายไปด้วย และแทบไม่มีอาคารสมัยใหม่อาคารไหนที่มีชั้น 13 ขณะเดียวกันโรงแรมส่วนใหญ่ก็หลีกเลี่ยงที่จะทำห้องพักหมายเลข 13 ด้วยความเชื่อนั้นเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับจิตใจเรา ว่าเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อไม่มีใครสามารถบังคับใครได้ว่าจะต้องเชื่อสิ่งเดียวกับเราความคิดสามารถเปลี่ยนได้https://www.berboonmee.com/article/content/46*******height="307" loading="lazy" src="https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2022/06/o4gqxmm10Oepkc6D70jy.webp" width="600" />ศุกร์ 13 เปิดความเชื่อ ศุกร์ 13 และที่มาของความอาถรรพ์ความหมาย วันศุกร์วันศุกร์ ก็ถือว่าเป็นวันโชคร้ายของชาวคริสเตียนเช่นเดียวกัน บางคนมีความเชื่อว่าพระเยซูถูกตรึงกางเขนในวันศุกร์ บางความเชื่อก็เชื่อกันว่าวันศุกร์เป็นวันที่อีฟชักจูงให้อดัมกินผลไม้ต้องห้ามในสวนอีเดนชาวคริสเตียนเชื่อว่าเลข 13 เป็นตัวเลขแห่งความโชคร้ายเพราะ เลข 13 ไปคล้องกับจำนวนคน 13 คนที่รับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับพระเยซู ความเชื่อดังกล่าวผูกความเชื่อของความโชคร้ายของทั้งวันศุกร์และวันที่ 13 เข้าด้วยกันนั่นเองค่ะใน ค.ศ. 1881 มีองค์กรที่ชื่อว่า Thirteen Club พยายามที่จะแก้ไขชื่อเสียให้เลข 13 ในการประชุมครั้งแรกของพวกเขาสมาชิกทั้ง 13 คน ได้เดินผ่านใต้บันไดเพื่อเข้าไปยังห้องทีมีเกลือโปรยปรายไปทั่ว กลุ่มนี้มีอายุยืนยาวอยู่หลายปีและมีสมาชิกเพิ่มถึง 400 คนรวมทั้งสมาชิกที่เป็นประธานาธิบดีถึงห้าคนได้แก่ Chester Arthur, Grover Cleveland, Benjamin Harrison,William McKinley และ Heodore Rooseveltถึงแม้ว่าองค์กรนี้จะพยายามเท่าไร แต่โรค triskaidekaphobia(โรคกลัวเลข 13) ก็ยังคงอยู่ ในปัจจุบันนี้ตึกสูงๆ ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีชั้น 13 อยู่ดีเลข 13 เกี่ยวข้องยังไงกับ วันศุกร์ส่วนเรื่องที่ เลข 13เกี่ยวข้องกับวันศุกร์นั้นเกิดในช่วงศตรวรรษที่ 20 ใน ค.ศ.1907 นักค้าหุ้นแห่งบอสตันชื่อ Thomas Lawson ได้ตีพิมพ์หนังสือที่ชื่อว่า Friday the Thirteenthซึ่งเป็นเรื่องราวของนักธุรกิจที่ชั่วร้ายที่พยายามจะล้มตลาดหุ้นในวันที่โชคร้ายที่สุดของเดือนต้องขอบคุณการโฆษณาที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ขายดี สัปดาห์แรกก็ขายได้ถึง 28,000 เล่มใน ค.ศ. 1916 หนังสือเรื่องนี้ก็ถูกทำเป็นหนังเงียบตลาดหุ้นที่วอลสตรีทยังคงถือเรื่อง วันศุกร์ที่ 13 จนกระทั่งปี 1925หนังสือพิมพ์ New York Times บอกไว้ว่า ผู้คนจะไม่ซื้อหรือขายหุ้นในวันศุกร์ที่ 13ต่อมาจึงมีการแก้เคล็ดอาถรรพ์อันชวนขนลุกนี้โดยการให้เรียกเลข 13 ว่าเป็นเลขแห่งความโชคดีเป็นลั๊กกี้นัมเบอร์ แม้จะมีคนพยายามคิดหาวิธีแก้เคล็ดแล้วก็ตามแต่เมื่อไหร่ที่วันศุกร์ 13 เวียนมาบรรจบก็ยังทำให้หลายคนหวาดระแวงอยู่ดีนี่เป็นเพียงข้อมูลบางส่วนเท่านั้นและเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยข้อมูลจากhttps://www.thainewsonline.co/lifestyle/836527