ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 132 "ถ้าวันนั้น ..." ไม่เกิดวินาศกรรม9/11
ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 132
"ถ้าวันนั้น ..." ไม่เกิดวินาศกรรม 9/11
ถ้าวันนั้นไม่เกิด ... เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 หรือ 9/11 (ไนน์วันวัน) เป็นปฏิบัติการก่อการร้ายที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์[ต้องการอ้างอิง] โดยการการโจมตีพลีชีพที่ประสานกันสี่ครั้งต่อสหรัฐอเมริกา (อ่านต่อท้ายบล็อกค่ะ - ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
จขบ.ขอเล่าถึงความทรงจำวันที่แสนเศร้าของหลายๆครอบครัวที่ต้องศูนย์เสียคนที่รักไปโดยไม่รู้ต้ว เป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายและสร้างความทุกข์แด่ทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ภรรยาขาดสามี ลูกขาดพ่อ พ่อแม่ขาดลูก ...
จขบ.อยู่นิวยอร์กซิตี้ในวันที่เกิดเหตุการณ์วันนั้นด้วย และที่เศร้ามากๆคือพี่พยาบาลที่ทำงานด้วยกัน ศูนย์เสียลูกสาวสุดที่รักในเหตุการณ์นี้ด้วย
วันนั้นจขบ.ไม่ได้ไปทำงาน เป็นเวรหยุดพอดี แต่ก็ไม่ได้เปิดทีวีดู สายๆทำความสะอาดบ้าน มีโทรศัพท์ดัง รับโทรศัพท์ กลายเป็นญาติที่เมืองไทยโทรมา บอกว่าเกิดอะไรขี้นรู้ไหม ทำอะไรกันอยู่ ปลอดภัยหรือเปล่า จขบ.งง มาก ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ญาติบอกไปเปิดทีวีเร็วๆ พอเปิดทีวี เห็นเครื่องบินขับทะลุตึกสองตึก มองแล้วเหมือนภาพอะไรนะ เครื่องบินบินทะลุตึกเหมือนตึกบางๆอย่างกับกระดาษทะลุได้เลย มีเปลวไฟ ควันไฟ งง อยู่สักพัก ฟังข่าวก็เลยรู้เรื่อง ตกใจมากเพราะสามีทำงานในเมือง ลูกชายทำงานที่รพ.ไม่ไกลจากที่เกิดเหตู รีบโทรศัพท์ไป ทางสามีบอกว่ากำลังกลับบ้านปลอดภัยดี
ลูกชายโทรไม่ติด แต่ก็คิดว่าเขาอยู่ห่างจากตึก World Trade ก็คงต้องทำงานดูแลคนป่วย คงไม่ได้กลับบ้าน แต่ก็ปลอดภัย เพราะข่าวไม่ได้บอกว่ามีที่อื่นที่ถูกทำลายอีก
อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา การสื่อสาร คมนาคม ตัดขาดหมด สะพานต่างๆปิดการเดินทาง โชคดีวันน้้นสามีขับรถไปทำงาน กลับถึงบ้านแล้ว เพื่อนๆอีกหลายคนบอกว่าญาติ ลูก สามี ยังกลับไม่ถึงบ้านและติดต่อไม่ได้ ... ทั้งห่วงใยและกลัวกัน ไม่รู้เกิดอะไรขี้น ได้แต่รอว่าญาติๆเพื่อนๆเป็นอย่างไรกันบ้าง
วันรุ่งขี้น เริ่มได้ข่าวจากเพื่อนๆว่าใครเป็นอะไร กลับบ้านกันอย่างไร เพื่อนสองคนบอกว่า สามีเดินกลับบ้านไกลมาก ต้องเดินข้าสะพาน George Wasthington แล้วโทรให้เพื่อนไปรับ พอเย็นๆโทรศัพท์เริ่มใช้ได้ จขบ.ได้ข่าวจากลูกชายว่าได้กลับที่พัก เพราะรพ.ไม่ค่อยมีคนไข้มา อยู่ไกลจากที่เกิดเหตูหลายสิบถนน รพ.ใกล้เคียงคนไข้แน่นมาก และมีพยาบาลและคนไปอาสาสมัครช่วยดูแลคนบาดเจ็บกันมากมาย จขบ.กลับไปทำงานเช้าวันรุ่งขี้นที่รพ.ห่างจาก World Trade อีกมาก ทางรพ.ก็ไม่ค่อยยุ่งเท่าไร แต่ก็มีคนไข้ย้ายมาจากโรงพยาบาลที่ใกล้ที่เกิดเหตุ
ขอนำภาพและข้อมูลมาให้อ่านกันค่ะ ขออภัย บางส่วนก็อปมาเป็นภาษาอังกฤษ (จขบ.แปลไม่เก่งค่ะ )
Freedom Tower
วินาศกรรมผ่านมา 14 ปีแล้ว ขณะนี้ที่ World Trade Center สร้างใหม่เรียกว่า Ground Zero เปิดให้ประชนเข้าชมบริเวณข้างล่าง และสามารถขีันบนตึก Freedom Tower ได้ด้วย แต่ต้องจองบัตรล่วงหน้า ราคาบัตร 24 เหรียญ
ขณะนี้วันนั้นไม่กีนาทีก่อนเกิดเหตุ เพื่อนที่ทำงานด้วยกันทำงานเวรดีกกำลังจะลงเวร ลูกสาวทำงานที่ตึกนี้ โทรศัพท์มาคุยกับคุณแม่ แล้ว... เสียงก็หายไป เพื่อนก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขี้น พอข่าวออกมาว่าตึก World Trade Center ถูกเครื่องบินชน เพื่อนตกใจมาก เพราะลูกสาวเพิ่งโทรมากจากที่ทำงาน เพื่อนๆที่ทำงานแสดงความเสียใจและให้กำลังใจเพื่อน แต่การศูนย์เสียลูกสาว ไม่ใช่สิ่งง่ายๆที่จะทำใจได้ ระยะนี้จขบ.ก็พบเพื่อนรุ่นพี่คนนี้เป็นครั้งคราว พี่ก็ดูปกติแต่พูดถึงลูกสาวก็ร้องไหนทุกครั้ง ทุกวันที่ 11 กันยายน ที่ Ground Zero (World Trade Center) จะมีพิธีเป็นทางการระลึกถึงผู้เสียชิวิตในวันนั้น โดยมีการอ่านชื่อทุกท่านที่เสียชีวิตในวันนั้น ญาติๆของผู้เสียชีวิตจะร่วมพิธีด้วย
คนแน่นหนาวิ่งหนีกัน และก็มีผู้หญิงไทยหนี่งคน วิ่งหนีแล้วหกล้ม คนวิ่งเหยียบย่ำจนได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ กว่าจะมีคนมาช่วยก็ต่อเมื่อฝูงชนวิ่งไปกันหมด เหตุการณ์ค่อยสงบลง หญิงไทยคนนี้ได้รับการช่วยเหลือส่งรพ.รัฐ ต้องรับการรักษาหลายเดือน กว่าจะอาการดีขี้น จากนั้นเราก็ไม่ได้ข่าวอีกเลยว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง
Ground Zero ที่สร้างขี้นมาแทน World Trade Center มีรายชื่อผู้เสียชีวิตทุกท่านสลักไว้ที่นี่เป็นอนุสรณ์ด้วยค่ะ
ทุกปีวันที่ 11 กันยายน พีธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในวันวินาศกรรมปีนั้น
President Barack Obama spoke at the 9/11 Memorial Museum dedication ceremony on May 15, 2014 in the museums Foundation Hall. Standing before an audience of 9/11 family members, politicians and other guests, Obama stated:
Here we tell their story, so that generations yet unborn will never forget. Of coworkers who led others to safety. Passengers who stormed a cockpit. Our men and women in uniform who rushed into an inferno. Our first responders who charged up those stairs. A generation of servicemembers our 9/11 Generation who have served with honor in more than a decade of war. A nation that stands tall and united and unafraid because no act of terror can match the strength or the character of our country. Like the great wall and bedrock that embrace us today, nothing can ever break us; nothing can change who we are as Americans.
ๅ
Today, One World Observatory opens its doors to the world. The beautiful One World Trade Center has helped reclaim the skyline of New York City and now, for years to come, millions of visitors will be a part of seeing the unmatched vistas that it offers.
ราคาบัตรเข้าชม Memorial Museum ticket เริ่มด้วยราคา $24 เหรียญ ควรจองบัตรล่วงหน้า บัตรแต่ละวันจะเต็ม ซื้อวันที่ไปโอกาสเข้าชมยากมาก
ต้องการซื้อตั่วชม 9/11 Memorial Museum ticket ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่
วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วินาศกรรม 11 กันยายน
National Park Service 9-11 Statue of Liberty and WTC fire.jpg
อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่ถูกเครื่องบินพุ่งเข้าชนเห็นเป็นควันพวยพุ่ง
สถานที่ นครนิวยอร์ก, รัฐนิวยอร์ก
เคาท์ตีอาร์ลิงตัน, รัฐเวอร์จิเนีย
บริเวณใกล้กับแชงค์วิลล์, รัฐเพนซิลเวเนีย
วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544
8:46 - 10:28 น. (UTC−4)
ประเภท การจี้เครื่องบิน, การสังหารหมู่, การก่อการร้าย, การพลีชีพโจมตี
ตาย 2,996 คน
เจ็บ กว่า 6,000 คน
ผู้ก่อการ กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์[1]
เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 หรือ 9/11 (ไนน์วันวัน) เป็นปฏิบัติการก่อการร้ายที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์[ต้องการอ้างอิง] โดยการการโจมตีพลีชีพที่ประสานกันสี่ครั้งต่อสหรัฐอเมริกา ในนครนิวยอร์กและพื้นที่วอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 เช้าวันนั้น ผู้ก่อการร้าย 19 คนจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงอัลกออิดะฮ์ จี้อากาศยานโดยสารสี่ลำ[2][3] โจรจี้เครื่องบินนั้นนำเครื่องบินทั้งสองพุ่งชนกับ ตึกแฝด เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์กโดยเจตนา และอาคารทั้งสองถล่มลงภายในสองชั่วโมง โจรจี้เครื่องบินชนเครื่องบินลำที่สามกับอาคารเพนตากอนในอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ส่วนเครื่องบินลำที่สี่ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 ตกในทุ่งใกล้กับแชงค์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนจะถึงเป้าหมายที่โจรจี้เครื่องบินต้องการพุ่งชนอาคารรัฐสภาสหรัฐ ในวอชิงตัน ดี.ซี. หลังผู้โดยสารพยายามยึดเครื่องกลับคืน มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คนในเหตุโจมตีดังกล่าว[4][5][6] และไม่มีผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินทั้งสี่ลำ
มีการพุ่งเป้าสงสัยไปที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์อย่างรวดเร็ว อุซามะฮ์ บิน ลาดิน ผู้นำกลุ่ม ซึ่งได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในตอนแรก สุดท้ายได้อ้างความรับผิดชอบเหตุวินาศกรรมดังกล่าวใน พ.ศ. 2547[1] อัลกออิดดะห์และบิน ลาดิน อ้างเหตุผลจูงใจในการก่อเหตุ ว่า การสนับสนุนอิสราเอลของสหรัฐอเมริกา การคงทหารสหรัฐประจำการไว้ในซาอุดิอาระเบีย และการลงโทษต่ออิรัก สหรัฐอเมริกาดำเนินมาตรการตอบโต้เหตุวินาศกรรมโดยการเริ่มสงครามต่อต้านการก่อการร้าย (War on Terror), การรุกรานอัฟกานิสถานเพื่อขับรัฐบาลตอลิบัน ซึ่งให้ที่พักพิงแก่สมาชิกอัลกออิดะฮ์ หลายประเทศเพิ่มกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายและขยายอำนาจการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 หลังลอยนวลมาได้นานหลายปี บิน ลาเดนถูกพบและถูกสังหาร
เหตุวินาศกรรมทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อเศรษฐกิจของแมนฮัตตันล่าง[7] การทำความสะอาดเขตเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2545 พิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์ 11 กันยายนแห่งชาติมีกำหนดเปิดในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554 ที่ติดกับอนุสรณ์ วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ซึ่งมีความสูง 541 เมตร ประเมินไว้ว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2556[8] เพนตากอนซ่อมแซมภายในเวลาหนึ่งปี และมีการเปิดอนุสรณ์เพนตากอน ติดกับตัวอาคาร ใน พ.ศ. 2551 มีการจัดตั้งอนุสรณ์แห่งชาติเที่ยวบินที่ 93 ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 และอนุสรณ์ดังกล่าวก่อสร้างเสร็จอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554[9][10]
ขอขอบคุณภาพ,ข้อมูลและยูทูปจากอินเตอร์เนต
KEVIN KERN -Pastel Reflections
newyorknurse
วันที่เกิดเหตุ
ผมเปิดทีวีดูอยู่พอดี
เห็นภาพข่าว
ยังนึกว่าเป็นหนังฮอลลีวู๊ด
จนไดนั่งดูดีดี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยความตื่นเต้น ตกใจ
เป็นเหตุการณ์ทำร้ายกันด้วยความบ้าคลั่งจริงๆครับ