ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 213 "วันที่ใจเหน็บหนาว"




ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 213
"วันที่ใจเหน็บหนาว"
โจทย์โดยคุณ กะว่าก๋า




จขบ.(เจ้าจองบล็อก)ผ่านชีวิตมาจนเกษียณ ผ่านวันที่หนาวเหน็บ ทั้งท้อ ทั้งเศร้า
ทั้งเจ็บปวด มากมายหลายครั้ง มาระยะนี้เป็น สว. ไม่ค่อยมีอะไรรบกวนมาก
อาจจะเป็นเพราะสว.เลยสามารถปรับตัวกับเหตุการณ์ได้ดีกว่า
สมัยก่อนเยอะเลย

วันที่ จขบ.หนาวเห็บมากครั้งหนี่งที่จำได้ ก็คือวันที่เดินทางมาถึงอเมริกา
ตอนจะมาก็ตื่นเต้น จำได้ว่า สมัยนั้นเดินทางไปต่างประเทศ ญาติๆเอา
พวงมาลัยมาคล้องคอด้วย ดูตื่นเต้นดี

พอขี้นเครื่องบิน รู้สีกตื่นเต้นมากๆ สมัยนั้นมีคนมาขายตั่วเครื่องบินที่หอพยาบาล
และเขาก็บอกว่ามีใครไปบ้าง มีทั้งพยาบาล และนักศีกษามาเรียนปริญญาโท
ก่อนมาก็ติดต่อเพื่อนว่าจะมาพักด้วย เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาจะไม่อยู่ ไปทำงานต่างรัฐ จะฝากกุญแจไว้กับเพื่อนบ้าน

คณะเราประมาณ 10 คนเดินทางจากเมืองไทย ไปลงที่ลอนดอน ค้างสองคืน
แต่มีคนมารับ(ฝรั่งผู้หญิง คงเป็นคนที่จัดการต่อจากเมืองไทย)ที่สนามบิน
พาเราทั้งกลุ่มไปพักโรงแรม และบอกว่าปลอดภัย เช้าๆเดินไปหาอาหารทาน
ที่ร้านแถวๆที่พัก จำได้ว่าเราตื่นเต้นมาก ว่าได้นอนโรงแรม
ต่างประเทศ ประเทศอังกฤษเลยนะ ที่ไหนได้ เราเข้าโรงแรมกลางคืน
ผ้าปูที่นอนก็ไม่ได้ปู ห้องน้ำก็ไม่มีกระดาษชำระ นึกว่าเอ ทำไมเมืองเจริญถึงไม่มีอะไรแบบนี้เราต้องลงมาขอผ้าปูที่นอนไปปูที่นอนกันเอง

เช้าก็ออกไปทานอาหารเช้ากัน ราคาติดเป็นเงินไทยก็แพงพอควร แถมน้ำเปล่าก็ต้อง
เสียเงินด้วย เราเดินเที่ยวแถวๆโรงแรมกัน เห็นรถเข็นขายแอปเปิล ตื่นเต้นมาก
ว่าโอ แอปเปิล เยอะขนาดเอามาขายแบบรถเข็นด้วย จำได้ว่าเราซื้อหนี่งลูก
macintosh apple ลองกัดกินแบบฝรั้งที่เห็นในหนังด้วย รู้สีกตื่นเต้นดีจัง
นอนที่โรงแรมอีกหนี่งคืน วันรุ่งขี้น ( ผู้หญิงฝรั่งคนเดิม)คนมารับทั้งกลุ่มพาไปส่งขี้นเครื่องบิน
บินไปอเมริกา ที่สนามบิน JFK เราก็เริ่มกลัวๆ เริ่มคิดถึงบ้านแล้วด้วย




ถึงสนามบินประมาณหกโมงเย็น สนามบินกว้างขวางใหญ่มาก
คนก็เต็มไปหมด ลงจากเครื่องบินก็เดินไปที่แผนกตรวจคนเข้าเมือง





ถึงที่ตรวจคนเข้าเมือง ชักกลัวๆ ด้วยว่าเอ เราจะผ่านเข้าประเทศเขาไหมเนี่ย
เกิดไม่ผ่านจะทำไง เขาคงส่งกลับเมืองไทยหรือเปล่า ? รอนานหลายชั่วโมง
ใจไม่สบายเลย แต่ที่จขบ.มาทำเอกสารว่ามาทำงาน มาถึงก็จะได้ใบเขียว
(​Green Card) เลย เพราะมีเอกสารพร้อม แต่ก็ยังอดกังวลไม่ได้ว่าจะ
เอกสารเราว่าเอามาครบ แล้วครบไหม ผลที่สุดก็ผ่าน เราก็แยกย้ายกัน
ไปที่พักกัน

จขบ.นั่งแท้กซี่ไปที่พักกันสองคนกัน ออกมารอแท้กซี่ไม่นาน แต่ฝนตกแรงมาก
เริ่มคิดถึงบ้านบ้างแล้ว เพราะไหนจะมืด ต้องนั่งแท้กซี่ก็ไม่รู้ว่าจะพาไปที่พักถูกไหม
ประมาณสามทุ่ม ไม่รู้อีกด้วยว่าต้องไปอีกนานเท่าไร ถึงจะถึงที่พัก แถมเพื่อนที่จะ
ไปพักด้วย เขาก็ไม่อยู่ โอยยย ชักจะอยากกลับบ้านแล้วนะ คิดว่าเรามาทำไมเนี่ย
อยู่เมืองไทยก็ทำงานดีๆ สมัยนั้นพอจบพยาบาลเขาก็สมัครมาอเมริกากัน เหมือน
ทำตามๆกัน คิดว่ามาสักปีสองปี จะได้เห็นอเมริกา แถมเรามีโอกาสได้มาด้วย
ก็เลยมากันเยอะมากทุกปี

นั่งแท้กซี่ฝนตกแรงมาก ถามคนขับว่ารู้จักที่อยู่ที่ให้ไว้ไหม เขาก็บอกว่าพา
ไปได้ นานประมาณชั่วโมงกว่าแล้วแต่รถจะติดไหม นั่งแทกซี่กันสองคน
รู้สีกว่าเอจะโดนหลอกไม่เนี่ย คิดอีกแล้ว ไม่น่ามาเล้ย

พอถึงตึกที่เราจะพัก โชคดีหน่อย กดออดห้องเพื่อนจะมีกุญแจห้อง เขารออยู่
เวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว เขาออกมารับและพาไปที่ห้อง บอกว่าห้องครัวอยู่ตรงไหน
ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น




ตึกที่เราพักสูงใหญ่มาก แบบตึกนี้ ตีกนี้คือตึกไทยคู่ฟ้า คนไทยพักกันเยอะมาก
ตอนหลังจขบ.ก็ย้ายมาอยู่ตึกนี้ ตอนแรกไปพักห้องเพื่อน ตึกสูงๆแบบนี้แต่เขา
อยู่ห้องใต้ดิน (Basement) เพื่อนพาดูห้องแล้วก็กลับไปห้องเขา

เราสองคนนั่งห้องรับแขกฝนตกแรงมาก ได้ยินเสียงฝน ฟ้าร้องเป็นครั้งคราว
อากาศก็หนาวเย็น เสียฝนตกได้ยินชัดเจน คงเป็นเวลากลางคืน ทุกอย่างเงียบสงบ
บรรยากาศเศร้าๆเย็นๆ เงียบสนิท มองที่หน้าต่างก็มืดมิด มองเห็นไฟที่ถนนไกลๆ
เริ่มคิดถึงบ้านมากกก เราสองคนร้องไห้กัน คิดว่ามาทำไมเนี่ยทั้งกลัว เหงา เศร้าใจ ไม่มีกำลังใจเลย อยากกลับบ้านมาก

ตอนนั้นพี่ชายจขบ.อยู่คาลิฟอเนีย โทรไปคุยกับพี่ชาย พี่ชายก็ชวนว่าไปอยู่คาลิฟอเนียไหม แต่พี่ก็จะกลับเมืองไทยแล้ว อีกสองสามเดือน เลยคิดว่าไม่ไปดีกว่า

โทรหาเพื่อนสนิทที่มาก่อนแล้วสองสามเดือน บอกว่าเหงา น่ากลัว ร้องไห้ด้วย
เพื่อนเลยบอกว่าจะไปอยู่กับเพื่อนไหม เพื่อนแต่งงานกับหมอ อยู่ห่างจากที่จขบ.
พัก ขับรถเกือบชั่วโมงครี่ง ตีสามแล้ว เพือนบอกว่าไปพักกับเพื่อนเถอะ แต่เพื่อนเอง
ก็พักกับพี่สาวของสามี จขบ.อยากไปเหมือนกัน แต่ก็เกรงใจ เพราะเขาคงอยู่
กันหลายคนแล้ว แต่ผลทีสุดเพื่อนก็ส่งคุณหมอมารับ คุณหมอมา เราคุยกัน
คุยพักใหญ่ ตัดสินใจว่าไม่ไปดีกว่า ไหนๆเราก็มีที่พักแล้ว ถ้าไปก็ต้องไปเบียด
กันที่อาพาทเมนต์พี่สาวเขา เขาอยู่กันสีคนแล้ว ตกลงก็บอกให้คุณหมอกลับไป
เถอ (น้ำใจงามมาก ขับรถมาหาเราตีสาม) ได้คุยกับคนไทยด้วยกัน ก็เริ่ม
รู้สีกดีขี้นหน่อย แต่ปัญหายังมีอีกเยอะ มีที่พักกับเพื่อน เราต้องหางาน
ต้องหาที่พักเอง ...

รุ่งเช้าเพื่อนที่พักอยู่ตึกไทยคู่ฟ้า แวะมาหา เริ่มสบายใจขี้น เขาบอกว่า
ตึกไทยคู่ฟ้ามีคนไทยอยู่เยอะมาก และเป็นลักษณะห้องใหญ่ๆ มีหลายๆเตียง
เตียงเสริมได้ด้วย ผู้จักการใจดีมาก เขาอยู่กันห้องละเป็นสิบคน โดยผลัดเวรกัน
นอน คนไทยที่มาอยู่มาทำงานกันแบบโรบินฮู้ต คือทำงานแต่ไม่ถูกต้อง ไม่มีใบ
รับรองให้ทำงานได้ ไปทำงานด้วย เรียนด้วย ส่วนมากเป็นผุ้ชายที่อยู่กันกันสิบคน
คนไปทำงานตอนเช้า นอนกลางคืน คนที่ทำงานกลางคืนกลับมาก็นอนห้องเดียว
กัน ค่าเช่าห้องเดือนละ $180 เหรียญ จะนอนกี่คนก็ได้ คนไทยก็นอนกันสิบคน
แปดคน ก็หารไป อยู่กันแน่น แต่ก็สะดวกใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน เดินทางไปเรียน
ไปทำงานสะดวก บางคนก็อยู่กันเป็นครอบครัว มีลูกด้วย เดินเจอกันทุกวัน
ทำให้รู้สึกดีที่เจอคนไทย เพื่อนที่แวะมาก็พาไปเที่ยว Liberty นั่งรถไฟใต้ดิน
พากิน Hot Dog บอกว่าต้องกิน Hot Dog ถึงจะถึงนิวยอร์ก

เราเริ่มสบายใจและปรับตัว คิดถึงบ้านน้อยลง อยู่กับเพื่อนเดือนกว่า
ก็ย้ายมาอยู่ตึกไทยคู่ฟ้า เช้าห้องเล็กๆอยู่ ครัว และห้องน้ำอยู่นอกห้อง
ราคาเดือนละ 80 เหรียญ ก็พอไหว เพราะเรายังไม่มีงานทำ

พอปรับตัวกับเวลากลางวันและกลางคืนได้แล้ว ก็เริ่มไปหางาน เพื่อนๆ
ที่เคยมาอยู่ก็แนะนำให้ไปสมัครงานที่โรงพยาบาลต่างๆ ไปหางานกับเพื่อน
ทุกวัน โชคดีเราพอมีเงินติดตัวมาบ้าง หางานที่ไหนๆ เขาก็บอกว่าต้องการ
คนที่มีประสบการณ์ทำงานที่อเมริกา (จนเราเริ่มท้อ คิดว่าก็ไม่มีใครจ้างสักคน
เราจะเอาประสบการณ์ทีอเมริกาได้ยังไงนะ)

จขบ.มาถึงนิวยอร์กวันที่ 30 มิถุนายน 1972 (2515) หางานอยู่สามเดือน
จนเกือบจะกลับเมืองไทยอยู่แล้ว กว่าจะได้งานก็เดือนตุลาคม พอได้งาน
ก็ทำงานไปเรื่อยๆ กลับเมืองไทยครั้งแรกปี 1980 (2523) ระยะหลังๆ
ก็ได้กลับเมืองไทยทุกสองสามปี ก็ค่อยหายคิดถึงเมืองไทยขี้นบ้าง
ไม่น่าเชื่อกลายเป็นอยู่นิวยอร์กทำงานจนเกษียณและยังไม่ได้กลับ
เมืองไทยเลย

ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต


สาขา Klaibannn



newyorknurse




Create Date : 24 กันยายน 2561
Last Update : 9 ตุลาคม 2561 19:16:47 น.
Counter : 1294 Pageviews.

13 comments
แคดเมียม Cadmium ความอันตรายของมัน สมาชิกหมายเลข 4149951
(8 เม.ย. 2567 07:11:22 น.)
กาแฟคั่วเข้ม เหมาะกับเมนูไหนดี สมาชิกหมายเลข 7983004
(29 มี.ค. 2567 02:14:10 น.)
เอื้องชมพูไพร สมาชิกหมายเลข 4313444
(21 มี.ค. 2567 02:45:05 น.)
ประโยชณ์ของ living trust มีมากกว่า will มากมายค่ะ newyorknurse
(19 มี.ค. 2567 04:58:36 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณจอมใจจอมมโน, คุณสองแผ่นดิน, คุณวลีลักษณา, คุณhaiku, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณSweet_pills, คุณหงต้าหยา, คุณInsignia_Museum, คุณkae+aoe, คุณSertPhoto, คุณหอมกร, คุณlife for eat and travel, คุณALDI, คุณเกศสุริยง, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณก้นกะลา

  
ยกนิ้วให้เลยค่ะคุณพี่หนู
อยู่ที่นั่นได้ยาว ๆ มาหลายสิบ
เพราะเวลาหนาวเนี่ยะ ถึงใจจริง ๆ
โดย: จอมใจจอมมโน วันที่: 9 ตุลาคม 2561 เวลา:21:32:00 น.
  
พี่น้อยเก่งจังเลยค่ะ
โดย: วลีลักษณา วันที่: 9 ตุลาคม 2561 เวลา:22:13:44 น.
  
ต่างประเทศ สถานที่ไม่คุ้น คนก็ไม่รู้จัก ไม่แปลกที่จะรู้สึกกังวล ประกอบกัยอากาศเป็นใจแบบนั้นไม่แปลกที่จะรู้สึกกังวลมากๆ เลยล่ะครับ อีกเรื่องที่น่าคิดคือ สมันก่อนติดต่อสื่อสารไม่ง่ายเหมือนสมัยนี้ด้วย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 ตุลาคม 2561 เวลา:0:05:23 น.
  

สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย

ผมยังทันเห็นภาพบรรยากาศคล้องพวงมาลัยก่อนขึ้นเครื่องครับ
เมื่อก่อนใส่สูทผูกเนคไทกันเรียบร้อยด้วย

อ่านเรื่องราวที่พี่น้อยเขียนไว้
ทั้งบรรยากาศ ทั้งความกังวล
ชวนให้เหน็บหนาวจริงๆครับ
เมื่อก่อนมีคำนึงที่พูดกันบ่อย
เวลาเดินทางไปต่างประเทศนานๆ คือ โรค Homesick
ตอนนี้ไม่มีใครพูดถึงแล้ว

การเดินทางสะดวกสบาย
เด็กรุ่นใหม่สื่อสารภาษาคล่องแคล่ว
เทคโนโลยีก็ทำให้พูดคุยกันได้ตลอดเวลา
เด็กๆไปต่างประเทศแล้วสนุก ไม่ค่อยคิดถึงบ้านแล้วนะครับ 555


ปล. ตอนนี้ไมค์อัดเสียงถูกลงมากครับพี่น้อย
ใช้ไอโฟนอัดเสียงที่บ้านเลย ลงยูทูปไม่ยากครับพี่
เมื่อก่อนลงไฟล์นึงนั่งรอเกือบชั่วโมง
ตอนนี้ไม่ถึง 3นาทีก็เสร็จเรียบร้อยครับ


โหวตครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 ตุลาคม 2561 เวลา:6:50:14 น.
  
สวัสดีค่ะพี่น้อย

อ่านแล้วรับรู้ถึงความกังวลใจ เหงา คิดถึงบ้านในช่วงแรกที่พี่น้อยไปอเมริกาเลยค่ะ
เพื่อนที่ให้ที่พักและเพื่อนรวมถึงคุณหมอสามีเพื่อนที่ขับรถมาตอนตีสาม มีน้ำใจมากนะคะ
46 ปีแล้วตั้งแต่วันแรกที่พี่น้อยถึงอเมริกา เหมือนฟ้ากำหนดนะคะ
ขอบคุณพี่น้อยที่แบ่งปันประสบการณ์
ขอให้พี่น้อยมีความสุขมากๆในทุกวันค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 10 ตุลาคม 2561 เวลา:8:47:37 น.
  
อ่านสนุกครับคุณน้อิย
ความจำในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแม่นยำมาก
ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่า
อยากฟังเรื่องเล่าแบบนี้ ถ้ามีเวลาเขียนอีกนะครับ

โดย: Insignia_Museum วันที่: 10 ตุลาคม 2561 เวลา:11:36:00 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ผีเสื้อยิปซี Literature Blog ดู Blog
lovereason Literature Blog ดู Blog
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
วลีลักษณา Literature Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog

อ่านแล้วได้คิดครับ
โดย: จันทร์ใส วันที่: 11 ตุลาคม 2561 เวลา:3:05:25 น.
  


สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย


ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2561 เวลา:6:25:57 น.
  
ตอนไปถึงครั้งแรก เป็ฯมี้เก๋ก็คงร้องไห้มากๆ เลยค่ะ นึกภาพตามออกเลย
โดย: kae+aoe วันที่: 11 ตุลาคม 2561 เวลา:8:18:46 น.
  
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
พี่น้อยอัพบล็อกบ่อยดีนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 11 ตุลาคม 2561 เวลา:10:35:23 น.
  
แวะมาโหวตค่ะ อยากไปเที่ยวบ้างจังค่ะ
โดย: life for eat and travel วันที่: 11 ตุลาคม 2561 เวลา:12:27:51 น.
  
ช่วงนี้วุ่นวายกับงานแข่งขันทางวิชาการ เลยหายไปพักใหญ่ วันนี้ค่อยเบาตัวขึ้นกลับมาทักทายกันเหมือนเดิมค่ะ พี่น้อยสบายดีนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: เกศสุริยง วันที่: 12 ตุลาคม 2561 เวลา:15:59:11 น.
  
สวัสดีจ้า..
อ่านแล้วตื่นเต้นตามไปด้วยเลยจ้า..
โดย: ก้นกะลา วันที่: 12 ตุลาคม 2561 เวลา:23:37:21 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Newyorknurse.BlogGang.com

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ...   United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]

บทความทั้งหมด