ทุกอย่างในชีวิตเราเลือกกดได้

Family come first คือคำที่ต้องการจะสื่อในหนังเรื่องนี้
Adam Sandler ดาราตลกชื่อดัง กับ เดือนเพ็ญ สีหรัตน์ ดีเจ(ตอนนี้เห็นว่ากลับมาจัดที่ FM 99.5), นักวิจารณ์คนโปรด เป็นสองคนที่ทำให้หยิบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาดู ปกติหนังของ Adam Sandler จะซื้อเก็บยังไม่ได้ดูเสียที แต่อ่านบทวิจารณ์เรื่องนี้แล้ว คว้าทันทีเมื่อเห็นแผ่น ก็คุณเดือนเพ็ญแกบอกสรรพคุณเรื่องเพลงประกอบเสียเลิศหรู เมื่อดูแล้วก็ไม่ผิดหวังกับเพลงประกอบ โดยเฉพาะ Linker ของ เดอะ แครนเบอร์รี่ส์ (ดโลรีส โอ'เรียร์แดน นักร้องนำของวง เป็นดารารับเชิญ เป็นนักร้องในงานแต่งงานลูกชายของพระเอกด้วย) ร่วมสมัยเลย Sound Track เรื่องนี้น่าจะเพราะทีเดียว
เป็นหนังตลกปนแฟนตาซี เป็นเรื่องของคนที่สับสนกับรีโมทคอนโทรลที่มีหลายอันจนจำไม่ได้ โดยสิ่งที่ทำให้เป็นอย่างนั้นเกิดจากการทุ่มเทกับงานมาก จนจัดครอบครัวเป็นเรื่องรอง มองข้ามเรื่องละเอียดอ่อนภายในครอบครัวไปเสียหมด ใครบ้างานมากๆ จนเริ่มลืมครอบครัว น่าจะเอามาดูนะครับเรื่องนี้
ความหมายของคำว่า Family ของหนังเรื่องนี้ครอบคลุมไปถึงพ่อแม่ด้วย มีหลายฉากที่ย้ำเตือนว่าเราควรดูแลท่านให้มากที่สุด เพราะท่านรักเราตลอดอายุขัยของท่านเลยทีเดียว ทำอะไรต้องคิดให้มากว่าจะทำท่านเสียใจไหม เพราะไม่คุ้มหากมาเสียใจภายหลัง
มีอีกประเด็นที่น่าสนใจคือการที่เราก้าวข้ามเหตุการณ์ที่เราไม่ชอบไปหมด บางครั้งทำให้เราพลาดประสบการณ์ดีๆ หรือสิ่งที่ควรทำทั้งหลายไป และเมื่อมองย้อนกลับอย่างคนนอกจะทำให้เห็นว่ามีบางจังหวะชีวิตที่เราเลือกดำเนินชีวิตผิดพลาด ทำคนที่รักเราเสียใจ หรือลืมร้องไห้กับบางอย่าง ทั้งหมดนี้มาจากการตัดสินใจว่าเราจะเลือกอะไรระหว่างครอบครัวกับงาน ซึ่งบางครั้งเราหากเราสามารถหาจุดสมดุลย์ระหว่างสองสิ่งนี้ให้ได้จะดีมาก
เป็นหนังตลกที่ให้แนวคิดในการดำเนินชีวิตดีครับ แต่บางฉากก็ยังไม่เหมาะกับเยาวชน ผู้ใหญ่มีครอบครัวแล้วน่าจะเหมาะกว่า
ที่ชอบอีกอย่างในเรื่อง คือ ดาราที่มาเป็นครอบครัวน่ารักมากทั้งแม่ (Kate Beckinsale) และ ลูกๆ (Joseph Castanon และ Tatum McCann) ดูแล้วเป็นครอบครัวดีครับ
สุดท้ายผมมีคำจากหนังสือที่ชอบและน่าจะเข้ากับหนังเรื่องนี้
Sometimes when there's a conflict between work and family, choose family.มีความสุขกับครอบครัวให้มากที่สุด
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๐ ครับ

