ในมุมมองของคนเป็นพ่อ
หนังไทยชั้นดีของปีนี้เลยทีเดียว น่าจะมีคนเขียนถึงเยอะแล้วนะ ในแง่เนื็อหา เพิ่งจะได้ดูจากแผ่นที่เช่ามา ซึ่งกว่าจะได้เช่าต้องเวียนไปร้านถึงสองวัน ดูเหมือนคนจะชอบเยอะเหมือนกัน
ตอนแรกก็ดูเหมือนหนังสูตรสำเร็จ แต่ดูไปดูมาชักชอบแฮะ โดยเฉพาะประเด็นความเสียสละของพ่อที่มีต่อลูก ชอบประโยคเด็ด
"คนเราอยู่กับลูกไม่ได้ตลอดหรอก แต่สิ่งที่เขาชอบจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต" ต้องจดประโยคนี้
ทำให้นึกถึงหนัง Billy Elliot ที่พ่อยอมเปลี่ยนแม้อุดมการณ์ เพื่อความฝันของลูก, อีกสองเรื่องที่นึกถึงเรื่องพ่อกับลูกคือ The Village Album และ Big fish ที่ผู้เป็นลูกได้เรียนรู้เรื่องพ่อหลังพบกันอีกครั้ง
ตัวละครที่ผมสนใจคือ อ้อม ที่เป็นคนที่คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง อ้อมทานข้าวกับป้อมแค่ครั้งเดียวก็รู้ว่าป้อมไม่กินผัก ส่วนดาวทานด้วยตั้งหลายครั้งไม่รู้ การสนใจความต้องการของคนอื่นมากกว่าเรื่องของตนเป็นลักษณะที่สร้างยาก
ผมเลยมีคำถามในใจว่าพ่อของอ้อมเลี้ยงอ้อมอย่างไร ทำไมถึงเป็นคนละเอียด ช่างสังเกต เป็นคนมีฝัน สนใจความต้องการของผู้อื่นโดยเริ่มจากคนที่เรารัก แล้วค่อยขยายผลไปยังสังคม โดยคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่เรารัก
แม้อ้อมจะเล่นเครื่องดนตรีที่ตีแค่ครั้งเดียวในวงดนตรีคลาสสิคคือฉาบ แต่เธอพอใจที่จะฟัง สิ่งที่เธอรัก ทำไงลูกเราจะคิดแง่บวกอย่างนี้ได้บ้าง น่าศึกษา แต่เท่าที่ดูจากในเรื่อง
คุณพ่อของอ้อมเข้าใจความต้องการของลูกเป็นอย่างดี และส่งเสริมสิ่งที่เขารักอย่างเต็มที่นั่นเป็นหนึ่งตัวอย่างที่มองเห็น
อีกสิ่งที่ชอบอีกอย่างคือการเห็นป้อมนั่งเงียบๆ คล้ายนั่งสมาธิ ก่อนเข้าไปทดสอบ ดูแล้วชอบ และอยากให้ลูกเราหัดทำสมาธิได้บ้าง สงสัยเป็นสิ่งที่คู่กับการเล่นดนตรี
เป็นหนังของทีมผู้กำกับแฟนฉันที่ชอบที่สุดในกลุ่ม โดยมีเรื่องเพื่อนสนิท และเด็กหอ ตามมาติดๆ ดีใจครับที่มีผู้กำกับทีมนี้ หนังไทยจะได้น่าดูขึ้น
ชอบความละเอียดอ่อนของหนังเรื่องนี้
ซื้อดีวีดีมาเก็บไว้แล้ว
เอาไว้จะรีวิวให้ดูเร็วๆ นี้นะคะ