กำกับ : Peter Chan (
ผู้กำกับเรื่อง เถียนมีมี่ 3650 วัน ฉันรักเธอ)
นำแสดง : Xiaoming Huang, Dawei Tong, Deng Chao
ความยาว : ๑๑๒ นาที
ระดับความชอบ : ๑๐/๑๐
ในวันหยุดที่ว่างไม่รู้จะไปไหน มองหาหนังในเครือข่ายนอกคอกอย่าง Apex Lido และ House RCA ก็เจอหนังเรื่องนี้ฉายอยู่ที่ House RCA
หาข้อมูลคาดว่าจะถูกจริต ชวนน้องสาวไปดูกันเลย
ไปถึงหนังฉายช้าไป ๑ ชั่วโมง ทางโรงหนังให้บัตรฟรีไว้ดูเรื่องอื่นเป็นการชดเชยที่ต้องเสียเวลา
ใจดีจริง ๆ ทีหลังไม่ต้องก็ได้แค่แจ้งในช่องทางต่าง ๆ ก็พอ เดี๋ยวอยู่ไม่ได้ รักโรงหนังนี้มากครับ
เมื่อเวลาเหลือน้องสาวก็เลยได้ทานข้าว ส่วนเราซื้อขนมปังมาซะแล้วเพื่อเตรียมรับกำหนดการเดิม
เลยทำให้หงุดหงิดตามประสาคนขี้โกรธ ไม่รู้จะโกรธทำไมนักหนา
หนังทำจากเรื่องจริงของโรงเรียนกวดภาษาอังกฤษในประเทศจีน เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก
ถึงขั้นสามารถเข้าตลาดหุ้นของอเมริกาได้สบาย ๆ ตอนแรกไม่เข้าตลาดหุ้นนะ ที่เข้าเพื่อให้อเมริกาเห็นหัวคนจีนบ้าง ก็เท่านั้น
โรงเรียนมีเจ้าของ ๓ คน เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย
ความฝันของคนหนุ่มสาวจีนคือการได้ไปศึกษาต่อในอเมริกาและหากมีโอกาสก็ทำงานต่อที่นั่นเลย อเมริกาจึงเป็นดินแดนแห่งความฝัน
โรงเรียนนี้ชื่อ New Dream เป็นโรงเรียนที่นักเรียนชาวจีนที่ได้ไปเรียนอเมริกาแทบทุกคนต้องผ่านการเรียนภาษาอังกฤษจากโรงเรียนนี้
ผู้ก่อตั้งเคยพลาดหวังจากการขอ Visa ไปอเมริกา แต่เขาก็มาช่วยคนให้ได้มีฝันที่เป็นจริง เขาใช้ประสบการณ์ของเขามาใช้ในการสอนถึงได้น่าสนใจ
ตอนแรกที่เขาสอนในมหาวิทยาลัยสอนแบบอ่านตำราให้ฟัง ลูกศิษย์หลับหมดทั้งชั้น
นักเรียนชาวจีนทำคะแนน TOEFL และ GRE สูงมาก จนคนออกข้อสอบไม่เชื่อแล้วก็มาสืบจนทราบว่า New Dream ใช้ข้อสอบเก่าที่ไม่ได้รับอนุญาตมาติวนักเรียน
เลยยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายมหาศาล
เจรจาในช่วงแรก จีนสู้ไม่ได้ จนพักครึ่ง หนึ่งในสามของเจ้าของโรงเรียนที่เคยมาเรียนและใช้ชีวิตที่อเมริกาก็เล่าประสบการณ์ที่โหดร้ายของเขา ที่คนอเมริกาไม่ให้เกียรติชาวจีนเลย
จึงมีคำพูดจากเพื่อนอีกคนว่า "เราไปสั่งสอนอเมริกากัน"
แล้วก็เหมือนบอลครึ่งหลังของลูกทีมท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สามหนุ่มเมืองจีนลุยเลย จะฟ้องกฎหมายข้อไหนบอกมา
ทนายบอกข้อมา พระเอกโต้กลับว่ามีข้อยกเว้นอย่างไรสรุปว่าใช้ข้อนั้นไม่ได้ บอกอีกข้อก็โต้แย้งได้อีก
พระเอกบอกฝรั่งตาน้ำข้าวว่าผมท่องกฎหมายนี้ทั้งเล่มเมื่อคืน แล้วบอกต่อว่านักเรียนชาวจีนท่องดิกชันนารีได้ทั้งเล่ม
ไม่แปลกหรอกที่พวกเราจะได้คะแนนเยอะ
จบเปล่า?
หลังจากนั้นจีนก็ล่ออเมริกันซะจนมุมไปเลย
น้องสาวผมถามว่าอเมริกาจะให้ฉายไหมหนังเรื่องนี้ ก็ไปว่าประเทศเขาออกอย่างนั้น
ก็ไม่รู้สินะ
หนังใช้เทคนิคการเล่าเรื่องสลับเวลาไปมา ไม่ยากสำหรับผมเพราะดูแนวนี้มาบ่อย ผมว่าคนเป็นผู้กำกับยากกว่าที่จะเรียงอย่างไรให้คนดูเข้าใจและออกมาน่าสนใจ
หนังเรื่องนี้สอบผ่านครับ
หนังเดินเรื่องฉับไว ถูกจริตผมเหลือเกิน
เพลงประกอบเป็นอีกจุดแข็งของหนังเรื่องนี้ หลายเพลงมาถูกที่ถูกเวลาเหลือเกิน อย่างเพลง Leaving on the jet plane ผมใช้ในบรรยากาศแบบในหนังบ่อยครั้งเวลาต้องเดินทางจากครอบครัวมาทำงาน
เลยอินกับเพลงนี้มาก แทบกรี๊ดเมื่อได้ยินเพลงนี้ในหนัง ชอบมาก ๆ เลยครับ
อีกความดีเด่นของหนังคือฉากเรียกน้ำตาแบบไม่บีบคั้นเยอะมาก เก่งสุด ๆ ครับ Peter Chan
ไม่ว่าฉากวิ่งกลับมาช่วยเพื่อน ฉากลาจากเพื่อนไปอเมริกา ฉากเราเลิกกันเถอะ ฯลฯ
ร้องไห้กันขนาดนี้ เอาคะแนนเต็มไปเลยดีกว่า
เห็นด้วยว่าไม่ควรทำธุรกิจกับเพื่อน เพราะมักจะเสียเพื่อนเนื่องจากเงินไม่เข้าใครออกใคร
ในชีวิตจริงไม่มีสถานการณ์กลับมาคืนดีเหมือนในหนังหรอกครับ ดังนั้นอย่าทำธุรกิจกับเพื่อนสนิท จบ.
ผมคาดหวังมากก่อนเข้าไปชมและไม่ผิดหวัง
เข้าทำเนียบ
หนังในดวงใจเรื่องล่าสุด
มีความสุขทุกคนครับ
ชอบใบปิดเค้าค่ะ
มองปุ๊ป ก็รู้ว่าติดดิน(ติดซีเมนต์) ดี
อยากดูๆก่อนหนังพ้นโรง
หาคนไปดูด้วยก่อน
เพราะย่าน RCA ไม่ไกล แต่ไปยาก