แต่ละคนต้องการการเยียวยา

กำกับ : Thomas McCarthy (เขียนบทด้วยครับ)
นำแสดง : Peter Dinklage, Patricia Clarkson, Bobby Cannavale
ความยาว : ๘๘ นาที
ระดับความชอบ : ๙/๑๐

หนังเรื่องนี้อ่านเจอในนิตยสารสีสันนานนับปี ตอนอ่านโดนใจมาก อยากดู แต่หาแผ่นไม่ได้เสียที เลยอยู่ใน Waiting List ลำดับต้นๆ มานานทีเดียว

จนได้ย้ายมาทำงานกรุงเทพฯ พักใกล้โรงหนังสุดเลิฟ Houserama เข้าไปดูในเวบของโรงหนังเห็นว่าเปิดห้องสมุดให้ยืมหนังแล้ว ค่าสมัครเพียง ๑๐ บาท เวลายืมฟรี แล้วแต่ใครจะบริจาค แถมใครมี DVD เก่าๆ ก็มาบริจาคได้ แต่ทางห้องสมุดขอเป็นแผ่นลิขสิทธิ์นะครับ
เอกสารที่ต้องเตรียมไปตอนสมัครคือสำเนาบัตรประชาชน
ตอนไปสมัครก็ได้หนังเรื่องนี้มาชม ด้วยความปิติเลยครับ
รีบกลับที่พักและเปิดชม เป็นซับภาษาอังกฤษครับ

ตัวละครในหนังมีไม่มาก พระเอกของเราเป็นคนแคระครับ และจับพลัดจับผลูต้องมาอยู่ที่ Station Agent ซึ่งพระเอกตอบเพื่อนที่เป็นเด็กน้อยไปว่าทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถไฟสำหรับ Station Agent

ฉากเปิดตัวนางเอกที่เจอกับพระเอก ฮามากครับ ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะเลยครับสำหรับตัวผม

เนื้อเรื่องเล่าเรื่องของคนสามคนที่มีปมในชีวิตแตกต่างกัน แต่ละคนเจอหนักๆ มาทั้งนั้น พระเอกเป็นคนแคระที่มักจะโดนสังคมกระทำอยู่เสมอ ทั้งตะโกนเยาะเย้ย มองไม่เห็น หรืออะไรต่างๆ นานา แต่เขาก็นิ่งเฉย จนระเบิดออกมาในฉากที่เขาดื่มเหล้า ทำให้รู้ว่าจริงๆ เขาเก็บกดมากขนาดไหน
ลักษณะของพระเอกคือใช้การเดินเป็นหลัก และทำอะไรได้ครั้งละนานๆ ไม่ว่าการเฝ้ามองรถไฟ อ่านหนังสือ หรือการเฝ้ารอนางเอก
ด้วยความนิ่งและแน่วแน่ ช่วยเยียวยาเพื่อนๆ อีกสองคนได้เป็นอย่างดี

นางเอกเป็นศิลปินนักวาดสาวใหญ่ที่มีปัญหากับสามี และต้องการการเยียวยา ซึ่งคงไม่ได้จากสามีคนนี้อีกแล้ว สุดท้ายเพื่อนอีกสองคนนี่แหละที่มาช่วยเยียวยา

คนสุดท้ายเป็นคนขายกาแฟบนรถตู้ใกล้ Station Agent เขาพูดภาษาสเปนได้ด้วย มีปัญหาชีวิตอยู่บ้างตามฉากที่โทรศัพท์ แต่ต้องการเรียนรู้เลยเดินตามพระเอกจนเป็นหนึ่งในทีม Train Chasing เอากล้องวีดีโอไล่ล่าถ่ายรถไฟ โดยกล้องได้อภินันทนาการจากนางเอก

อีกตัวละครคือบรรณารักษ์สาว ที่สุดท้ายก็มาระบายเรื่องสำคัญกับพระเอก

เด็กน้อยผิวสีเป็นอีกตัวละครที่เข้ามาเป็นระยะๆ น่ารักดี

สุดท้ายสามคนก็ช่วยกันดูแล เข้าใจ และมีความสุขกันตามอัตภาพ

หนังจบดื้อๆ ตามแบบหนังฝรั่งชั้นดี ไปคิดเอาเองต่อ

ดูแล้วไหลลื่นดีครับหนังเรื่องนี้ ดนตรีประกอบก็มาถูกที่ถูกเวลา ได้อารมณ์ร่วมได้ดี

สมราคาการเฝ้าตามหาครับสำหรับหนังเรื่องนี้ ได้เห็นชีวิตหลากหลาย เห็นมุมมองชีวิตในรูปแบบต่างๆ และแนวทางหาความสุขของแต่ละคน นับว่าทำได้ดีมากๆ เลย
ไม่มีท่อนฮุคครับ แต่แย็บเรื่อยๆ จนโดนเลยครับ

หามาชมให้ได้นะครับ หนังดีๆ แบบนี้ ขอแนะนำครับ

ปล. เข้าไปดูใน //www.rottentomatoes.com เขาให้คะแนน ๙๕% เลยครับ ถูกใจ ที่ให้มากๆ ก่อนหน้านี้คือ Slumdog Millionaire ได้ ๙๔%
ตอนเรื่อง Once ได้ ๙๗% สุดยอด
เลยเปิดดู Juno ให้ ๙๓% ถูกใจเหลือเกิน
Little Miss Sunshine ให้ ๙๒% ถูกใจอีกเช่นกัน

ส่วน IMDb ให้ ๗.๙/๑๐ ครับ