ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
2 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
ทอย (61)

ทอยล่องลอยอยู่เพียงลำพังในความว่างเปล่า อัลฟาที่เป็นดั่งคู่เต้นรำคนสุดท้ายของเขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่ต้องรอให้ถึงเวลาเที่ยงคืน และไม่ทิ้งไว้แม้แต่รองเท้าสักข้างเพื่อที่เขาจะได้ใช้ในการออกติดตามหาตัวเธอในวันพรุ่งนี้ ถ้ามันจะยังคงมีสิ่งที่เรียกว่าอนาคตหลงเหลืออยู่

'เจ้าเป็นอย่างไร'

เสียงของผู้หญิงดังมาจากภายในหัวของเขาเอง เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นเสียงจริงๆ เป็นจินตนาการที่เขาคิดขึ้นมา หรือเขาจินตนาการว่ามีเสียงดังขึ้นภายในจินตนาการของเขาอีกทีกันแน่ การล่องลอยอยู่ในความไร้สิ้นซึ่งทุกสิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกสับสนได้มากถึงขนาดนั้นเลยทีเดียว เขาพยายามนึกทบทวนรายละเอียดของสิ่งสุดท้ายที่ได้กระทำลงไป แต่ราวกับว่ามันได้เกิดขึ้นเมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เขาจับแขนของอัลฟาไว้แน่นพร้อมกับก้าวถอยหลังไปอีกก้าว ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้แต่มือสังหารก็ไม่อาจกระทำ แต่ในตอนนั้นเขาคิดเพียงแค่ว่ามันอาจเป็นวิธีที่จะสามารถหยุดยั้งนางเอาไว้ได้

“...ผมไม่เป็นไร” เขาตอบ และคิดว่ามันคงไม่เสียหายอะไรที่จะลองตั้งคำถามกลับไปดูบ้าง “ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้น ที่นี่คือที่ไหน แล้วคนอื่นๆ หายไปไหนกันหมด” ถ้าเสียงนี้ตอบได้ก็แสดงว่าเขาคงไม่ได้เป็นคนจินตนาการมันขึ้นมา เพราะตัวเขาเองไม่มีวันที่จะรู้คำตอบเหล่านี้ได้

'อีกไม่นานทุกอย่างก็จะสิ้นสุด'

นั่นไม่ใช่คำตอบสำหรับคำถามของเขา และเขาไม่แน่ใจว่าควรจะเข้าใจมันอย่างไร เขาจึงยังคงไม่อาจตัดสินได้ว่าเสียงนี้จะเป็นเพียงจินตนาการของเขาเองหรือไม่

เมื่อก้าวถอยหลังออกจากความเป็นจริง เขาจะเข้าสู่ช่องว่างของกาลอวกาศที่มีแต่มือสังหารเท่านั้นที่จะเฉียดผ่านเข้าไปได้ ปู่มักชอบเปรียบเปรยว่ามันเป็นการเล่นซ่อนหากับผู้ที่ไม่มีวันหลบหนีพ้น แล้วถ้าหากเขายังก้าวถอยหลังต่อไปอีกเล่า มันก็อาจจะหมายถึงการเหยียบย่างเข้าสู่เขตแดนของใครคนนั้นหรือไม่

“คุณคือ...ยมทูตใช่ไหม”

'ไม่' เสียงนั้นตอบกลับ 'เราไม่ใช่เพียงความตาย แต่เราคือจุดจบ คือการสิ้นสุดของทุกสิ่ง'

เขาไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นมาก่อน ดังนั้นอย่างน้อยเขาก็ได้คำตอบมาอย่างหนึ่งแล้วว่า เสียงที่ได้ยินอยู่นี้คงไม่ได้เกิดมาจากจินตนาการของตัวเขาเองแน่

“แล้วคุณเป็นใคร ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ เกิดอะไรขึ้นกับคนอื่น กับสถานที่อื่น”

'ไม่มี' คำตอบนั้นว่างเปล่าเหมือนกับความหมายของคำที่ใช้

“ไม่มี มันหมายความว่าอย่างไร ไม่มี ไม่มี อะไร”

'เราได้ติดตามเจ้าออกไปพบเจอกับเรื่องน่าสนใจมาไม่น้อย' เขาไม่รู้ว่าเสียงนี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไร 'ในระหว่าง อัลฟา กับ ตัวเรา ระหว่าง จุดเริ่มต้น กับ จุดจบ นั้นมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็ยังคงเป็นพวกเจ้านั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นในโลกใดๆ ก็ตาม พวกเจ้าได้สร้างสรรสิ่งต่างๆ ขึ้น เพียงเพื่อก่อให้เกิดความทุกข์ที่แตกต่าง พวกเจ้ามีสองตาที่มองออกไปทางด้านนอก และน้อยครั้งนักที่จะมองกลับเข้าสู่ภายในตนเอง แม้แต่ในยามที่หลับตาลง พวกเจ้าก็ยังคงมองเห็นสิ่งต่างๆ ทางภายนอกอยู่ดี'

'ดังนั้นเราจึงคิดต่างจากอัลฟาที่ต้องการจะเริ่มต้นใหม่ เราคิดว่ามันคงจะดีกว่า ถ้าทุกสิ่งนี้จะสิ้นสุดลง ทั้งอัลฟาและโอเมกา จะ ไม่มี อีกต่อไป'

“เดี๋ยวสิ หมายความว่า...” สิ่งที่เสียงนี้พูดถึงคงเป็นตอนที่เขารู้สึกเหมือนถูกบางสิ่งคอยติดตาม หลังจากที่ได้ก้าวเข้าไปในช่องว่างของกาลเวลาเพื่อจัดการกับจอมโจรอาลีคนนั้น เขาตื่นตระหนกไปกับสิ่งที่พึ่งได้รับรู้ อัลฟาที่ต้องการทำลายล้างทุกสิ่งเพื่อเริ่มต้นใหม่ก็นับว่าย่ำแย่มากแล้ว แต่เสียงในหัวของเขาที่เรียกตนเองว่าโอเมกา หรือการสิ้นสูญนี้กลับเลวร้ายยิ่งกว่า ดูเหมือนมันจะเป็นการหนีเสือปะจรเข้อย่างแท้จริง

“คุณจะบอกว่า คุณมองโลกผ่านทางสายตาของผม ผ่านความไม่พอใจในตัวเองของผม เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ แล้วใช้มันตัดสินว่าโลกทั้งหมดนั้นไม่ดี ไม่สมควรมีอยู่อีกต่อไปอย่างนั้นหรือ” เขารู้สึกโกรธ “คุณทำแบบนั้นไม่ได้”

'ไม่ใช่เพียงแค่เจ้าคนเดียวเท่านั้น แต่เราหมายถึงทั้งหมด เรารับรู้ได้ ทุกคนล้วนไม่พอใจในบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา นั่นคือสิ่งที่พวกเจ้าเป็น'

“เดี๋ยวนะ” อะไรบางอย่างในนั้นสะกิดความคิดของเขาเข้า “คุณหมายความว่าทุกคนต่างก็มีความไม่พอใจอยู่ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าเขาหรือเธอจะทำอะไร อยู่อย่างไร หรือได้พบเจอกับสิ่งใดก็ตามอย่างนั้นหรือ”

'ชีวิตของพวกเจ้าก็คือความไม่พอใจในทุกสิ่ง'

เขาไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อน เขาคิดว่ามันเป็นเพราะเขาเกิดมาในครอบครัวมือสังหาร ถูกเลี้ยงดูฝึกฝนให้เป็นมือสังหาร เขาคิดมาตลอดว่าสิ่งเหล่านี้คือที่มาแห่งความไม่พอใจของเขา เขาจึงอยากเป็นอย่างคนอื่น อยากลองใช้ชีวิตเหมือนกับคนอื่นบ้าง เป็นอะไรที่ต่างออกไปจากสิ่งที่เขาเป็น เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนอื่นเองก็อาจจะเป็นเช่นเดียวกับเขาได้เช่นกัน

โฮมชอบหรือไม่ที่เป็นตำรวจ แล้ววสันต์ล่ะ รวมไปถึง สโนว คุณนายวิกเซ่น กู๊ดแมน สไตน์ ลินคอน คุณครอส แซนแมน และคนอื่นๆ แม้แต่ปู่แจ็คจอมเสียบของเขาเองด้วยก็ตาม พวกเขาจะรู้สึกพอใจในทุกครั้งเมื่อลืมตาตื่นขึ้น และหลับตาลงหรือไม่ จะชอบใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ที่ตัวเอง คิด พูด ทำ รวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ มากมายที่ต้องพบเจอในชีวิต กับทุกการตัดสินใจที่เลือกด้วยหรือไม่

ความทุกข์อาจเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถหลีกหนีพ้น เพราะแค่ ร้อน หนาว หรือแม้เพียงการหายใจ เข้า ออก สิ่งเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ก็อาจก่อให้เกิดเป็นความรู้สึกไม่พอใจขึ้นได้ทั้งสิ้น แต่ทุกคนก็ยังคงจดจำได้ถึงช่วงเวลาแห่งความสุขของตน และแน่นอนที่มันไม่ได้เป็นความสุขในทุกทุกเสี้ยววินาที เพราะความทุกข์เองก็ยังอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน เพียงแต่ในตอนนั้นเราเลือกที่จะไม่ใส่ใจกับมันเท่านั้น ทั้งความสุข และความทุกข์ต่างก็มีอยู่พร้อมกัน นั่นต่างหากคือสิ่งที่ชีวิตนี้เป็น 'การเป็น หรือไม่เป็นมือสังหาร การจะได้เข้าทำงานในร้านขายของเล่นอย่างที่ต้องการหรือไม่นั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดของความไม่พอใจของฉัน หรือของใครทั้งนั้น แต่มันอยู่ที่ การเลือก' นั่นก็ยังเป็นคำที่ไม่ค่อยถูกต้องดีนัก

“ไม่ มันไม่ใช่แบบนั้น” เขาอยากที่จะอธิบาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้อย่างไร เพราะตัวเขาเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจมันเช่นกัน

'เจ้าคิดได้น่าสนใจ' ดูเหมือนนางจะไม่ได้แค่เพียงตอบโต้กับเขาผ่านทางเสียงเท่านั้น แต่นางยังสามารถรับรู้ลึกลงไปถึงภายในความคิดของเขาด้วย 'แต่มันจะต้องจบลงแล้ว'

โอเมกาก็ไม่แตกต่างจากอัลฟา นางถูกอัลฟาดึงดูดให้ออกมาจากที่ของนาง ทั้งคู่ต่างก็เป็นสุดปลายของสองด้านที่มาบรรจบพบกัน โดยมีกาลอวกาศ ความเป็นจริง และชีวิตคั่นอยู่ระหว่างกลาง และเมื่อมีโอกาส พวกนางก็มองดูมันอย่างไม่เข้าใจ เหมือนกับผู้คนส่วนใหญ่ ความแตกต่างอย่างสำคัญนั้นอยู่ที่พวกนางทรงไว้ซึ่งพลังอำนาจที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน แทนที่จะเรียนรู้ ล้มเหลว หรือเข้าใจไปกับมัน พวกนางจึงมีอีกทางเลือกคือปฏิเสธทั้งหมดนั้น

จุดจบของทุกจักรวาลควรเป็นเช่นไร หลายคนคิดว่ามันต้องเป็นการระเบิดที่เจิดจ้า เต็มไปด้วยแสง เสียงดัง และน่าตื่นตกใจ ลินคอนซึ่งเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าว่างเปล่าอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนไม่ได้คิดแบบนั้น โฮมที่มองดูความว่างเปล่ารอบๆ ตัวก็เช่นกัน แม้แต่อัลฟา แม้แต่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่งก็กำลังถูกความว่างเปล่านี้กัดกินด้วยเช่นกัน จุดจบนั้นดูเหมือนจะเป็นความเงียบงัน เป็นความสงบ เป็นการหยุดของทุกสิ่ง และเมื่อทุกสิ่งหยุดนิ่งลงอย่างสมบูรณ์ เมื่ออนุภาคทั้งหลายหยุดการเคลื่อนที่ ความเป็นจริงที่เราเคยรู้จักก็จะไม่อาจคงรูปอยู่ได้ ทุกสิ่งจะสลายหายไปจากการรับรู้ จากไปราวกับภาพฝันอันลวงตา เพียงแต่ว่าจะไม่มีการตื่นขึ้นอีก

มันไม่ได้เริ่มทีละส่วน ไม่เริ่มต้นจากที่ใด แล้วไปจบลงในที่ใด แต่เป็นทั้งหมดพร้อมกัน ในทุกกาลอวกาศ ทุกโลก ทุกความเป็นจริง ทุกความฝัน

“ไม่ เราไม่ยอม” อัลฟาพยายามขับไล่ความว่างเปล่าที่รายล้อมออกไป

“โฮ่ โฮ่ โฮ่” คุณครอสพยายามยิ้ม พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะอันเป็นเครื่องหมายประจำตัวอีกครั้ง

ณ ลานหน้าตึกนคราภิวัฒน์ ผู้คนที่มาร่วมชุมนุมอยู่ต่างรู้สึกถึงเงามืดใหญ่โตแปลกประหลาดที่คลี่กางออกมาจากร่างเล็กๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งที่พึ่งตื่นขึ้นจากการหมดสติ วสันต์ลืมตาขึ้นช้าๆ แต่มันยังดูเลื่อนลอย เงาจางๆ ของสะพานลอนดอนแห่งแรกที่เชื่อมทั้งสองฟากฝั่งเข้าไว้ด้วยกันอันเป็นจุดเริ่มต้นของมหานคร เติบโตขึ้นพร้อมกับผู้คน และเมืองแห่งนี้เรื่อยมา ไม่ว่าจะดีงาม หรือมืดมนก็ตาม

'โฮ่ โฮ่ โฮ่'

ชาวมหานครแว่วยินเสียงหัวเราะอันแสนคุ้นเคย พร้อมกับภาพเหตุการณ์จากในอดีต ในใจกลางฤดูหนาว ท่ามกลางหิมะน้ำแข็งขาวโพลน ในความโหดร้ายสำหรับมนุษย์ที่ธรรมชาติได้มอบให้อย่างเท่าเทียมกัน ในวันกึ่งกลางฤดูหนาว เมื่อสามารถฟันฝ่าความอดอยากมาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทุกคนต่างต้องการความหวัง ทุกคนต่างอยากให้ฤดูร้อนอันอุดมนั้นหวนกลับคืนมาโดยเร็ว ผู้คนจึงออกมารวมตัวกัน นำอาหารที่เก็บตุนไว้มาร่วมแบ่งปัน รวมถึงแบ่งปันความทุกข์ยาก เพื่อให้พวกมันบรรเทาเบาบางลง บางคนเริ่มร้องเพลง หลายคนลุกขึ้นเต้นรำ และในส่วนลึกของดวงใจทุกคนต่างพร้อมกันเรียกหาฤดูร้อน เรียกหาดวงอาทิตย์เจิดจ้าแห่งชีวิตอันแสนอบอุ่น

ไม่รู้ว่าการบูชายัญนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อใด จากดวงอาทิตย์จึงกลายเป็นเทพแห่งอาทิตย์ การใช้โลหิตสีแดงเพื่อเรียกหาดวงอาทิตย์ที่ถูกมนุษย์ย้อมทาด้วยสีแดง หยดเลือดสีแดงเข้มบนผืนหิมะสีขาวสะอาดตา สีแดง และขาว เพื่อเรียกหาสีเขียวของแมกไม้ให้หวนกลับคืนมา สีของคืนแห่งของขวัญ และการกำเนิดขึ้นของผู้ที่อาจนับเป็นมือสังหารคนแรก ผู้ที่มีหน้าที่กระทำการฆ่าเพื่อผลตอบแทน การบูชายัญต่อพลังธรรมชาติเพื่อทำให้กลายเป็นเทพเจ้าของมนุษย์

ความเชื่อของมนุษย์ได้ให้กำเนิดคนเก่าแก่ทั้งหลาย และเป็นพลังให้กับคนเก่าแก่เหล่านี้ คุณครอสเองก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น แม้แต่ ฟรอส ยักษ์น้ำแข็งแห่งฤดูหนาวเองก็เช่นกัน แม้แต่ในส่วนอื่นๆ ของโลก หรือในโลกอื่นๆ ที่พลังแห่งฤดูกาลทั้งสองนี้อาจไม่ชัดเจน มันก็จะต้องมีคู่อื่นๆ วงจรอื่นๆ ที่ทรงพลังไม่แพ้กันเข้ามาแทนที่ ทั้งคู่ที่ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของวงจรในธรรมชาติ เป็นจุดเริ่มต้น และจุดจบที่ย่อลงมาจากอัลฟา กับโอเมกา ที่อาจไม่เคยมีใครนึกไปถึงนั้นอีกที

เมื่อความเชื่อดั้งเดิมเหล่านั้นจืดจางลง พลังของคนเก่าแก่ก็เช่นกัน บางคนถูกลืมเลือนหายไป บางคนถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นตัวแทนของสิ่งอื่นที่เล็กกว่า ถูกลดความสำคัญลง จากเทพแห่งอาทิตย์ กลายเป็นเพียงกล่องของขวัญ เป็นความหวังของเหล่าสมาชิกของนครที่เป็นเด็กเท่านั้น

ชาวมหานครที่ชุมนุมรวมกันอยู่ต่างหันมองไปทางซ้ายและขวา ก่อนจะยกมือขึ้นจับต่อๆ กันไปอย่างลังเล แต่สุดท้ายแล้วทุกคนต่างก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของวงเดียวกัน ที่หากต้องการเข้าร่วมก็เพียงแค่เบียดเข้าไปในระหว่างการจับกันไว้ของคนอื่นๆ ทั้งที่รู้จัก หรือไม่รู้จักกันก็ตาม

เสียงเพลงที่คุ้นเคยถูกร้องออกจากปากของทุกคน และมันพร้อมเพรียงกันอย่างประหลาด ทุกคนเริ่มโยกตัวไปทางซ้าย และขวา สลับเท้าก้าวไปมา แล้วการเต้นรำจากอดีตที่แสนไกลก็หวนกลับมาอีกครั้ง ภายในใจของทุกคนต่างนึกไปถึงสิ่งเดียวกัน นึกถึงชายชราในชุดสีแดงที่มีหนวดเคราขาวโพลน ไม่ใช่ในฐานะเจ้าของร้านของเล่น ไม่ใช่ผู้ที่คอยแจกของขวัญให้กับเด็กในคืนแห่งของขวัญ แต่เป็น ซานตา ครอส เทพแห่งอาทิตย์ และการกำเนิดใหม่อีกครั้ง

รอยยิ้มของคุณครอสนั้นกลับมาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง สองแก้มแดงเปล่งปลั่งจนราวกับจะสามารถส่องแสงออกมาต่อต้านกับความมืดรอบกาย ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังๆ อีกครั้ง

“โฮ่ โฮ่ โฮ่”

ครั้งนี้แม้แต่อัลฟา ทอย รวมไปถึงทุกสิ่งในโลกที่มหานครตั้งอยู่ล้วนได้ยินมันอย่างชัดเจน หิมะน้ำแข็งเหล่านั้นต่างเริ่มคิดถึงการละลายที่จะกลายเป็นจุดจบของพวกมันในไม่ช้า แทนที่จะคงอยู่แบบนี้ไปอีกนานแสนนาน

“นั่นเป็นเสียงหัวเราะที่ฟังดูดีขึ้นมากเลย เพื่อนเก่า” แซนแมนยิ้ม

'แต่มันยังไม่เพียงพอ' เสียงของอัลฟาแผ่วดังออกมาจากในความมืด จากในห้วงมิติที่นางกำลังจะถูกสลายไปเพียงลำพังพร้อมกับทุกสิ่ง

รอยยิ้มของคุณครอสค่อยๆ จางหาย คุณครอสเองก็รู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน ไม่มีทางที่จะเอาชนะโอเมกาด้วยพลังเพียงแค่นี้ได้ ดวงอาทิตย์จากระบบสุริยะเพียงหนึ่งเดียวจะสามารถต่อต้านพลังของ หลุมดำสัมบูรณ์ ที่มีมวลวิกฤตยิ่งยวดซึ่งหมุนวนอยู่ ณ ใจกลางแห่งทุกจักรวาลอย่าง การสิ้นสูญ ได้อย่างไรกัน

“มีใครบางคนกำลังพยายามเข้ามา” คุณครอสพูดขึ้นอย่างลังเล ไม่ควรจะมีใครมายังที่นี่ได้อีก แซนแมนพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา “หรือว่าจะเป็น...” เขารู้สึกถึงความหวังที่เปี่ยมล้น ใครคนนั้นที่ว่าอาจจะเป็นคนที่เขากำลังนึกถึงก็เป็นได้

“...สวัสดีอีกครั้ง ครอส” เงาร่างของใครคนหนึ่งโผล่ออกมาจากความมืดที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก พร้อมกับเสียงทักทายที่คุ้นเคย แต่ไม่ใช่คนที่แซนแมนกำลังนึกถึง และไม่ใช่คนที่คุณครอสอยากจะพบเจอในตอนนี้เลย


Create Date : 02 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2557 11:53:36 น. 0 comments
Counter : 547 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.