ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
9 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
ทอย (62)

ในทุกทุกโลกต่างก็ต้องมีสถานที่ที่ไม่มีมนุษย์คอยรับรู้ถึงการคงอยู่ของพวกมันเหมือนๆ กัน สถานที่ที่หากว่ามีต้นไม้ล้มลงสักต้นหนึ่งก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่ามันจะเกิดเสียงดังขึ้นจริงหรือไม่ เพราะไม่มีผู้ใดอยู่คอยรับฟัง สถานที่ที่สนามความเป็นจริงนั้นมีพลังเจือจางกว่าในที่อื่นใด สถานที่เหล่านี้ต่างพากันเลือนหายไปก่อนเป็นลำดับแรก เหมือนกับความฝันที่ถูกลืมเลือน เหมือนความทรงจำเก่าๆ ที่จางหายไปโดยไม่มีใครรู้ตัว

ร่างที่เคลื่อนเข้ามาหยุดอยู่ต่อหน้าคุณครอสนั้นดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งคุณครอส และสโนวต่างก็ยังจำสหายเก่าผู้นี้ได้ แม้ว่าตอนนี้จะต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อพูดคุยกันก็ตาม ก้อนน้ำแข็งสีฟ้าใสขนาดยักษ์ที่มีรูปกายคล้ายมนุษย์ร่างบึกบึนนั้นขยับเปลี่ยนท่าได้อย่างน่าประหลาด มันย่อตัวนั่งลงพร้อมกับยื่นส่วนที่เป็นใบหน้าลงมาใกล้

“สวัสดีฟรอส” นี่คือยักษ์น้ำแข็งจากยุคโบราณกาลที่ครั้งหนึ่งเคยแช่แข็งโลกทั้งใบเอาไว้ในกรงขังสีขาว ด้วยฤดูหนาวอันแสนยาวนานจนเกือบทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกต้องสูญสิ้นพันธุ์ไป

“ดู สิ่ง ที่ เจ้า มือ สัง หาร นั่น ทำ ลง ไป สิ” มันเป็นเสียงที่ราวกับเกิดจากก้อนน้ำแข็งบดกันเป็นเสียงดังเสียดหู ”บอก แล้ว ว่า มัน ไม่ เหมาะ กับ ธุ ระ กิจ ของ เรา”

“มันไม่ใช่ความผิดของเขา” คุณครอสส่ายหน้า “หรือของใครทั้งนั้น เราจะไปโทษใครในเรื่องนี้ไม่ได้”

“พวก นั้น ไม่ เคย เข้า ใจ ใน สิ่ง ที่ เรียก ว่า ชี วิต” คุณครอสรู้ว่า พวกนั้น ที่ฟรอสหมายถึงก็คืออัลฟากับโอเมกา “มัน เป็น สิ่ง ที่ ไร้ ความ หมาย สำ หรับ ทั้ง สอง”

“แต่มันต่างไปสำหรับมนุษย์...รวมถึงพวกที่เป็นแบบเรา ชีวิตนั้นได้มอบบางสิ่งที่พิเศษให้ในแบบที่คาดไม่ถึง” ก้อนน้ำแข็งยักษ์ทำท่าพยักหน้าเห็นด้วย คุณครอสถือโอกาสจ้องตรงเข้าไปในดวงตาน้ำแข็งคู่โตนั้นพร้อมกับตั้งคำถามที่นึกสงสัยมาตั้งแต่แรก

“แล้วเจ้าล่ะ อยู่ฝ่ายไหนกันแน่”

แม้ว่าทั้งคู่จะเคยร่วมงานกันมานาน แต่คุณครอสก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ว่า ทั้งสองต่างเป็นด้านตรงข้ามของกันและกัน ฟรอสนั้นมีโอกาสที่จะเอนเอียงไปอยู่ฝ่ายเดียวกับโอเมกาได้มาก โดยเฉพาะเมื่อกลับมาอยู่ในร่างดั้งเดิมเช่นนี้

“มัน เจ็บ นะ คุณ ครอส ที่ อัก ษร ตัว แรก ใน ชื่อ ของ ผม อยู่ คู่ กับ ของ คุณ บน ป้าย ร้าน มา ตั้ง แต่ ดั้ง เดิม ถึง แม้ ว่า มัน จะ ตัว เล็ก กว่า ผม ก็ ไม่ เคย ว่า อะ ไร สัก คำ” นั่นอาจแปลเป็นความหมายได้ว่าไม่ค่อยจะดีนัก “แล้ว ตอน นี้ คุณ ก็ ยัง มา ทำ ท่า ว่า ไม่ ไว้ ใจ กัน แบบ นี้” เสียงของน้ำแข็งเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ แต่คุณครอสคิดว่ามันเปลี่ยนไปจากในตอนแรก มันฟังดูเศร้าอย่างนั้นหรือ

“แล้วคำตอบล่ะ” คุณครอสเหยียดร่างจนดูคล้ายกับสูงใหญ่ขึ้นกว่าเดิม “ฉันต้องการคำตอบ” คุณครอสย้ำด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจจนก้อนน้ำแข็งยักษ์ต้องขยับถอยไปอย่างลืมตัว ไอน้ำสีขาวลอยขึ้นจากก้อนน้ำแข็งสีฟ้าใสเมื่อต้องเผชิญพบกับความร้อนแรงที่แผ่ออกมาจากคุณครอส ทั้งสองต่างจ้องหน้ากันนิ่ง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ก้อนน้ำแข็งส่งเสียงหัวเราะ และมันไม่ได้เยียบเย็นอย่างที่คาด “คุณ ครอส นะ คุณ ครอส”

“ว่าไง ฟรอส” คุณครอสยังคงไม่เปลี่ยนท่าที

“ผม แค่ ต้อง การ มา เตือน ว่า เลย เว ลา ของ คืน แห่ง ของ ขวัญ ไป แล้ว และ คุณ ยัง ไม่ ได้ ส่ง ของ ขวัญ เลย สัก ชิ้น” มันเหมือนกับเป็นคำพูดของเสมียนที่มีนามว่า แจ็ค ฟรอส ที่คุณครอสรู้จักตลอดมา แต่ว่าครั้งนี้มันออกจะผิดที่ผิดเวลาไปหมด

“ใครจะไปสนกัน ว่าจะยังได้รับกล่องของขวัญในปีนี้อีกหรือไม่ ในเมื่อมันจะไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วหลังจากนี้ หากเราเสียอัลฟาไปเมื่อไร ก็จะไม่มีพลังใดในทุกจักรวาลนี้ที่จะสามารถถ่วงดุล เหนี่ยวรั้งโอเมกาไว้ได้อีก ทุกสิ่งก็จะต้องหายไป” คุณครอสถอนใจ “ไม่มีใครต้องการความหวังเล็กเล็กน้อยน้อยในกล่องพวกนั้นอีกแล้ว”

“นั่น เป็น คำ ตอบ ที่ ไม่ สม กับ เป็น คุณ เลย” ยักษ์น้ำแข็งว่า “ทุก ทุก ปี คุณ เคย บอก ว่า...”

“เราไว้ใจเขาไม่ได้” แซนแมนพูดขึ้น “ที่สำคัญ เขามาที่นี่ได้อย่างไรกัน” ฟรอสไม่มีความสามารถแบบนั้น ต้องมีใครพาตัวเขาเข้ามา และแซนแมนสงสัยว่าอาจจะเป็นฝีมือของโอเมกานั่นเอง

“โอ้ แล้ว คุณ เป็น ใคร กัน” ยักษ์น้ำแข็งหันไปหา “คุณ ดู คล้าย ใคร บาง คน ที่ ผม เคย รู้ จัก แต่ ใคร คน นั้น สวม ใส่ แต่ ชุด ทราย สี ทอง เท่า นั้น”

คำพูดนี้ทำให้แซนแมนหวนนึกถึงใครคนนั้นขึ้นมาอีก ยักษ์น้ำแข็งล้วงส่วนที่เป็นมือเข้าไปในร่างของตัวเอง ทำท่าเหมือนกับว่ากำลังค้นหาอะไรบางอย่างที่ใส่เอาไว้ในกระเป๋า ซึ่งอาจทำด้วยน้ำแข็งเช่นกัน “อยู่ นี่ เอง” ก่อนที่จะล้วงเอาอะไรบางอย่างออกมา มันเป็นน้ำแข็งอีกก้อนที่มีขนาดพอๆ กับคนตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่สิ่งที่ถูกแช่แข็งอยู่ภายในนั้นซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนต่างหากที่ทำให้แซนแมนต้องตกตะลึง ก่อนที่ความเศร้าจะเอ่อล้นขึ้นมา

“ชุด สี ทอง แบบ ของ เด็ก คน นี้” ภายในก้อนน้ำแข็งก็คือร่างของ แซนแมน ปริ้น ที่เคยติดอยู่ในลิฟท์อวกาศซึ่งกำลังล่วงตกลงสู่กรุงเทพมหานครด้วยความเร็วสูงนั่นเอง แม้จะถูกแช่แข็งเอาไว้แต่ทรายสีทองเหล่านั้นก็ยังคงส่องประกายระยิบระยับอยู่ได้แม้แต่ในสถานที่เช่นนี้

“แก” ความเศร้าถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นความโกรธ “ไม่ เดี๋ยวก่อน” คุณครอสพยายามที่จะห้ามเอาไว้แต่ไม่เป็นผล รวมไปถึงโฮมที่ส่งเสียงร้องลั่นเพราะต้องถูกแซนแมนลากตัวไปด้วย เขาเหวี่ยงหมัดที่ว่างอีกข้างเข้าใส่ส่วนฐาน หรือขาของยักษ์น้ำแข็งเต็มแรง จนทำให้เกิดรอยสีแดงเปื้อนติดอยู่บนผิวน้ำแข็งเย็นเฉียบ

“คุณ เข้า ใจ ผิด แล้ว” เสียงน้ำแข็งเสียดสีกันอย่างเร่งร้อน ร่างใหญ่โตนั้นไม่จำเป็นต้องปัดป้องการจู่โจมแบบนี้เลย

“แก ไอ้บ้า แก...” คุณครอสรีบเข้ามารวบแขนทั้งสองของแซนแมนเอาไว้จากทางด้านหลัง และด้วยความช่วยเหลือของทั้งโฮม และสโนว ทั้งหมดจึงสามารถดึงร่างของเขาให้ถอยห่างออกมา ในขณะที่เขายังคงพยายามเตะถีบดิ้นรนไม่ยอมหยุด “แก ทำกับลูกฉัน ลูกของฉัน” คุณครอสไม่เคยเห็นแซนแมนเป็นแบบนี้มาก่อน ผู้ที่เคยถูกเรียกว่า ราชาแห่งฝันผู้ไร้หัวใจ กลับต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

“หยุดก่อน แซนแมน” คุณครอสพยายามปลอบ “ทำตัวให้สมกับที่เป็นคุณหน่อย ผม บอก ให้ หยุด” ในที่สุดแซนแมนก็ยอมหยุดดิ้น “แซนแมนมีได้เพียงคนเดียวเท่านั้น คุณเป็นคนบอกเรื่องนี้กับผมเอง” ใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความโกรธของแซนแมนค่อยๆ กลับคืนเป็นปกติเมื่อความคิดของเขามีเวลาเรียบเรียงตัวเองเข้าด้วยกัน แซนแมนมีได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และตอนนี้ลูกชายของเขาก็ยังคงเป็นแซนแมนอยู่เหมือนกับในตอนที่เขาได้มอบตำแหน่งให้ไป พลังไม่ได้หวนคืนกลับมาหาเขาอย่างที่ควรจะเป็น ทรายแห่งฝันยังคงอยู่กับคนที่คู่ควร ไม่เคยมีแซนแมนที่ตายแล้ว ราชาแห่งความฝันไม่เคยตาย แซนแมนมีได้เพียงคนเดียว และจำเป็นที่จะต้องมีแซนแมนอยู่เสมอ นั่นย่อมหมายความได้เพียงอย่างเดียวว่าลูกชายของเขาที่ติดอยู่ภายในก้อนน้ำแข็งนั้นยังไม่ตาย

“ผม ไป เจอ เขา ใต้ ชั้น น้ำ แข็ง เก่า แก่ จน ไม่ อาจ ประ เมิน อา ยุ ได้ ใกล้ กับ มหา นคร จึง ได้ นำ ขึ้น มา และ เพราะ มี พลัง ของ เขา คอย ชี้ นำ ทาง ให้ ผม จึง สา มารถ ข้าม มา ยัง สถาน ที่ นี้ ได้...เอ่อ พวก คุณ คง รู้ อยู่ แล้ว ว่า ผม ช่วย เขา ออก มา เอง ไม่ ได้ จึง ต้อง เก็บ ไว้ แบบ นี้” เพราะเขาเป็นยักษ์น้ำแข็ง เขาเป็นนายเหนือของน้ำแข็งทั้งปวง เขาจะไม่ยอมละลายพวกมันอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะน้ำแข็งที่เก่าแก่ขนาดนี้

“...แล้วก็ไม่รีบบอก” แซนแมนพึมพำพร้อมกับตรวจดูอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการกระแทกหมัดลงไปบนขอบคมของน้ำแข็ง รวมถึงแผลที่เกิดจากความเย็น และถึงแม้กำปั้นข้างนั้นจะเละเทะ แต่มันก็ถูกกลบด้วยความยินดีเรื่องลูกชาย

“ผม กำ ลัง จะ อะ ธิ บาย แต่ คุณ ไม่ ยอม หยุด ฟัง”

แซนแมนยังคงบ่นต่อ แต่เขาก็พึมพำ “...ขอบคุณที่ช่วยพาเขามาที่นี่” ออกมาเบาๆ ในขณะที่คุณครอสเริ่มทำการละลายน้ำแข็งอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกับแซนแมนน้อยที่อยู่ภายใน มันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่สำหรับแซนแมนผู้พ่อนั้นราวกับเป็นการรอคอยที่ไม่มีวันจบสิ้น

“...พ่อ...” นั่นเป็นคำพูดคำแรกของแซนแมนน้อยหลังจากที่เขาหลุดพ้นออกจากสภาพการถูกแช่แข็งทั้งเป็น ทั้งหมดที่เขาจำได้มีเพียงการหลบหนีออกจากลิฟท์อวกาศที่กำลังตก เผชิญพบกับความหนาวเย็นอย่างเฉียบพลันแล้วในชั่วพริบตาเขาก็ตื่นขึ้นมาภายในสถานที่นี้ มหานคร กับ กรุงเทพมหานคร สองนครที่แตกต่าง สองโลกที่แตกต่าง กับกาลเวลายาวนานที่หายไปในความหลับไหลของเด็กชายซึ่งยากที่จะมีใครสามารถให้คำตอบเกี่ยวกับการเชื่อมโยงอย่างลึกลับนี้ได้ ความยินดีได้ถูกถ่ายทอดไปมาระหว่างคนที่แตกต่างกันทั้งหกโดยไม่มีการแบ่งแยก แซนแมนได้โอบกอดลูกชายเอาไว้ด้วยแขนทั้งสองอีกครั้ง เมื่อคุณครอสเข้ามาช่วยจับตัวโฮมเอาไว้แทน

แต่แล้วความว่างเปล่าของมิติแห่งนี้ก็ยิ่งบีบรัดตัวเองเข้ามามากขึ้น จนทำให้ความยินดีชั่วคราวต้องรีบสิ้นสุดลง

“เรายังพอที่จะทำอะไรได้อีกบ้างไหมครับ” โฮมถามขึ้น เขายังคงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวแปลกๆ ทั้งหมดนี้ เขาพึ่งเคยได้ยินเกี่ยวกับอัลฟา และโอเมกา เป็นเพราะว่าคนเก่าแก่เพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ต้องการให้เป็นแบบนั้น แต่เขาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ “ดูเหมือนว่าเราคงต้องหาทางช่วยสาวน้อยหมวกแดง หรือโอเมกาคนร้ายของเราเสียก่อน แล้วค่อยหาทางจับเธอกลับไปรับโทษในภายหลัง”

คุณครอสต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อได้ยินคำพูดของสารวัตรผู้นี้ 'เขายังคิดที่จะจับนางอยู่อีกหรือ' มันเป็นความหัวรั้นอย่างเหลือเชื่อของมนุษย์ผู้นี้

“ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องหาวิธีเพิ่มพลังให้กับนาง เพื่อให้สามารถหยุดยั้งโอเมกาได้” สโนวพูดออกมาอย่างใช้ความคิด

“แต่ผมว่าเราออกไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่า อยู่ในนี้แล้วทำอะไรไม่สะดวกเลย” แซนแมนบอกพร้อมกับวางมือข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บลงบนไหล่ของลูกชาย “ช่วยพาพวกเราออกไปจากที่นี่ทีนะ แซนแมน”

“...ไม่รู้ว่าทอยจะเป็นอย่างไรบ้าง” สโนวพูดขึ้นมาลอยๆ เธอไม่อยากคิด ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นมือสังหาร มันก็มีโอกาสเพียงน้อยนิดที่เขาจะสามารถรอดชีวิตกลับมาจากการที่ก้าวเข้าไปในห้วงแห่งการสิ้นสูญด้วยตัวเองเช่นนั้นได้

ทรายสีทองบนร่างของเด็กชายเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้น เขาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อ ยิ้ม พร้อมกับที่ทรายทั้งหมดนั้นก็ไหลขึ้นไปตามมือ แขน และทำให้แซนแมนผู้พ่อ กลับคืนเป็นแซนแมนในชุดสีทองคนเดิมอีกครั้ง “ผมว่าให้พ่อเป็นคนจัดการดีกว่า ผมรู้ตัวว่ายังไม่พร้อมรับมือกับพลัง และความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับทรายพวกนี้”

“...ลูกคงดูหนังมากเกินไป” แซนแมนบอก พร้อมกับที่ร่างของเขาลอยขึ้น หรือลง หรือในทิศใดสักทางอย่างช้าๆ ภายในห้วงมิติที่ว่างเปล่า “เราไปที่มหานครกันดีกว่า กลับไปยังสถานที่ที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น” ทรายสีทองพลันเปล่งประกายขึ้นพร้อมกัน และในพริบตานั้น ทุกคนก็มายืนอยู่ภายในห้องทำงานของคุณครอส ห้องเก่าแก่ไร้การประดับประดาใดใดที่เกินเลยไปกว่าประโยชน์ใช้สอยของสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ภายในนี้

ทั้งหมดต่างแอบยินดีที่ถึงแม้ว่าฟรอสจะยังคงมีร่างเป็นยักษ์น้ำแข็ง แต่ขนาดตัวของเขาก็หดเล็กลงจนเหลือเพียงสูงเท่ากับโฮม ซึ่งก็ยังคงสูงกว่าร่างที่เคยเป็นเสมียนของเขาอยู่เล็กน้อย

ในขณะที่กำลังก้าวผ่านประตู โฮมพลันนึกเรื่องแปลกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาจดจำรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องมือประหลาด กล่องผลงานประดิษฐ์ของเอดิสันชิ้นนั้นได้ขึ้นใจ เมื่อเขาพิมพ์คำถามลงไปว่า คุณซานต้า ครอส อยู่ที่ไหน มันก็ได้ให้คำตอบกลับมา

'สำนักงานร้านขายของเล่นซีเอฟ เลขที่ เจ็ด เจ็ด เจ็ด ถนนซัมเมอร์!!!'

ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็นับว่าสามารถตอบได้อย่างถูกต้อง คุณครอสหายตัวไปจากภายในห้องทำงานของตน แล้วก็กลับมาผ่านทางห้องนี้อีกครั้ง หากไม่นับในเรื่องของมิติอื่นๆ ที่คุณครอสถูกนำตัวผ่านไป มันก็อาจจะมองได้ว่าคุณครอสดูเหมือนจะอยู่ภายในห้องนี้มาโดยตลอดนั่นเอง 'รวมถึงเรื่องที่ตอบว่าหิมะกำลังตกในตอนนั้นด้วย' และมันยังทำให้เขาหวนนึกถึงเนื้อหาที่ได้พูดคุยกับเอดิสันโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ เทพเจ้า พลังความเชื่อ เวทมนต์ กับที่มาของคนเก่าแก่ทั้งหลาย

เขาคิดว่ามีเงื่อนงำที่สำคัญบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น แต่เขายังไม่รู้คำตอบที่ต้องการ 'ความเชื่อเหล่านั้นไม่ได้แค่สร้างเทพเจ้าต่างๆ ขึ้นในจินตนาการ ในความคิดเท่านั้น ยิ่งเวลาผ่านไป พลังงานของความเชื่อเหล่านั้นก็ยิ่งสะสมเพิ่มพูนมากขึ้น' เอดิสันว่าไว้อย่างนั้น แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเผชิญพบกับการต่อสู้ระหว่างเทพองค์แรก และองค์สุดท้าย อัลฟา และโอเมกา คนเก่าแก่ที่อาจจะเก่าแก่ที่สุด เก่าแก่เสียยิ่งกว่าการดำรงค์อยู่ของมนุษยชาติซึ่งจะทำให้สมมติฐานของเอดิสันนี้มีข้อบกพร่องเกิดขึ้น

'หรืออาจจะไม่'

“...ผมมีความคิดบางอย่าง” โฮมพูดออกไปอย่างไม่แน่ใจ แต่เขาคิดว่าจำเป็นที่จะต้องพูดไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้ความคิดของเขาวิ่งต่อไปไม่หยุด ทุกคนที่กำลังจะออกจากสำนักงานไปยังตรอกแคบๆ นั้นต่างหยุดรอรับฟังอย่างตั้งใจ ซึ่งทำให้เขานิ่งอึ้งไปชั่วครู่เพราะเรื่องนี้มันดูไม่น่าเป็นไปได้แม้แต่น้อย แม้แต่กับตัวเขาที่เป็นคนคิดมันออกมาก็ตาม

“ก่อนอื่นเลย ผมอยากให้คุณครอสตอบคำถามของผมมาตามตรงข้อหนึ่งครับ และผมจริงจังมากกับคำตอบนี้”

“เอ่อ...ก็ได้ ถามมาเลยสารวัตร” คุณครอสมีท่าทีลังเล

'ฉันกำลังพูดถึงพลังของสิ่งที่ถูกเรียกว่าเวทมนต์ ปาฏิหาริย์ หรืออะไรก็ตามแต่ พลังนี้ได้สร้างให้เทพเจ้ามีตัวตนขึ้นมาในรูปแบบที่พิเศษเฉพาะตัว ในครั้งแรกพวกเขาคงเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของบางสิ่ง' อัลฟาก็คือความหวัง หรือการเริ่มต้น ส่วนโอเมกาคือความสูญสิ้น หรือจุดจบ หากต้องการที่จะหยุดการสิ้นสูญ ก็ต้องหาทางเพิ่มพลังให้กับความหวัง

“คุณครอสส่งของขวัญทั้งหมดนั้นให้กับเด็กๆ ได้อย่างไรภายในค่ำคืนเดียวครับ”

“หา!” โฮมมองเห็นเครื่องหมายอัศเจรีย์ที่ลอยตามหลังการอุทานประสานเสียงของทุกคนได้อย่างชัดเจน

“สารวัตร นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเล่นนะ” คุณครอสเริ่มโวยวาย

“นี่ไม่ใช่การล้อเล่น แต่ผมต้องรู้คำตอบ และต้องเป็นคำตอบจริงๆ ด้วย มันสำคัญกับแผนของผม” เขาคิดถึงวสันต์ และอยากให้เธอมาอยู่ตรงนี้ เธอจะต้องเชื่อเขา เธอจะต้องไม่มองเขาด้วยสายตาแบบคนพวกนี้

คุณครอสลังเลก่อนที่จะบอกให้คนอื่นออกไปจากสำนักงานก่อน “ผมจะตอบคำถามของสารวัตร แต่จะต้องไม่มีคนอื่นได้ยินคำตอบนี้ และสารวัตรโฮม คุณต้องสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น”

ประตูสำนักงานร้านขายของเล่นซีเอฟถูกปิดลงโดยคนที่เหลือต่างรอคอยอยู่ในตรอกภายนอก ส่วนจะมีความลับใดได้รับการเปิดเผยหรือไม่คงมีเพียงคุณครอสกับสารวัตรโฮมสองคนที่อยู่ภายในเท่านั้นที่จะบอกได้


Create Date : 09 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2557 13:43:59 น. 0 comments
Counter : 558 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.