ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
ทอย (26)

“คุณพูดได้ดี” ลินคอนเอ่ยชมโฮม ในขณะที่ตำรวจทั้งหลายกำลังค่อยๆ ทยอยกันออกจากห้องประชุมเพื่อที่บางส่วนจะได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ ไม่ก็พักผ่อน หรืออาจนอนวิตกกังวลจนกว่าเช้าวันพรุ่งนี้จะมาถึง เมื่อความวุ่นวายที่ยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นเช่นไรเริ่มต้นขึ้น

มีตำรวจหลายคนที่เกิดความคิดแบบเดียวกันขึ้นภายในหัวของพวกเขาอย่างแปลกประหลาด มันคือภาพเหตุการณ์ของสิ่งที่พวกเขาเคยเล่นเมื่อหิมะแห่งฤดูหนาวมาเยือนในวัยเด็ก นอกจากสงครามปาลูกหิมะ หรือการปั้นตุ๊กตาหิมะแล้ว พวกเขาจะไปที่เนินสูงเพื่อปั้นลูกบอลหิมะแล้วปล่อยให้มันกลิ้งลงมา ลูกบอลที่กลิ้งไปจะค่อยๆ หนาขึ้น ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่พวกเขามองดูมันอย่างตื่นเต้น

ลูกบอลหิมะได้ถูกกลิ้งลงเนินไปแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายมันจะใหญ่โตได้แค่ไหน

“...ขอบคุณครับท่าน” โฮมตอบ แต่ลินคอนพบว่าสายตาของเขาเอาแต่จะเหลือบมองไปตามตำแหน่งต่างๆ ที่ยังมีตำรวจยืนจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่

“ผมสงสัยอยู่เสมอมา ว่าทำไมคุณถึงยังคงเป็นเพียงแค่สารวัตร คุณไม่คิดอยากจะมีตำแหน่งที่สูงกว่านี้บ้างหรือ”

“ไม่ครับท่าน ผมชอบทำงานภาคสนาม ชอบตระเวนไปตามท้องถนน มากกว่างานเอกสารพวกนั้น” คราวนี้โฮมแอบมองไปที่ประตู คล้ายกับคาดหวังว่าอาจจะมีใครสักคนเดินสวนเข้ามาก็เป็นได้

“คุณกำลังมองหาใครอยู่หรือเปล่า” ลินคอนอดถามไม่ได้

“เปล่า เปล่าครับท่าน” โฮมรีบปฏิเสธ

ตำรวจหนุ่มสวมแว่นตาที่ยกมือขึ้นถามเมื่อครู่นี้ขยับเข้ามายืนรีรออยู่ห่างๆ ท่าทางเหมือนกำลังประเมินอยู่ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี เขาพยายามที่จะก้มหน้า หลบสายตาของลินคอน ซึ่งในที่สุดก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นก่อน

“นี่ พ่อหนุ่ม คุณมีอะไรเร่งด่วนที่จะต้องรายงานผม หรือสารวัตรโฮมอย่างนั้นหรือ”

“เอ่อ ป...เปล่า ครับท่าน...เอ่อ” ตำรวจหนุ่มหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากโฮม ลินคอนเห็นว่าสีหน้าของโฮมนั้นไม่เปลี่ยนแปลงให้เห็นเลยสักนิด ก่อนที่จะพยักหน้าเล็กน้อย “ครับ...ผมมีเรื่องต้องรายงานสารวัตรครับ” เขาสูดหายใจลึก อาจจะกำลังสวดภาวนาอยู่ภายในใจด้วย “ผมพยายามติดต่อคุณวสันต์ตามคำสั่งของสารวัตรที่แจ้งมาในบันทึกด่วนที่สุดทุกทางแล้ว แต่ก็ติดต่อเธอไม่ได้เลยครับ”

“ดูเหมือนคุณวสันต์ที่ว่า จะออกเวรไปสักพักแล้วใช่ไหม” ลินคอนถาม และโฮมต้องแปลกใจที่ท่านผู้ว่ารู้เรื่องนี้ด้วย “ป่านนี้เธออาจเข้านอนเรียบร้อยไปแล้ว คุณก็รู้ใช่ไหม พ่อหนุ่ม”

“ผมทราบครับท่าน แต่ผมได้ติดต่อไปที่หมายเลขโทรศัพท์ในห้องพักของเธอ...ซึ่งมีความจำเป็นต้องทำในบางครั้ง เมื่อมีเหตุเร่งด่วนเกิดขึ้น และเธอไม่เคยว่าอะไร พวกเราทุกคนต่างรู้ว่าบางครั้งมันก็มีเรื่องที่ไม่อาจรอได้ แต่ครั้งนี้เธอไม่ยอมรับสาย และเธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนครับ”

“บางทีเธออาจไม่ได้อยู่ภายในห้องพัก คุณอาจคิดมากเกินไปก็ได้” ลินคอนเหลือบมองมาที่โฮม และสีหน้าของเขายังคงเกือบเหมือนเดิม 'แค่เกือบเท่านั้น' ลินคอนคิดว่าโฮมกำลังเกิดความกังวล กังวลอย่างยิ่ง “...คุณไม่เห็นด้วยกับผมอย่างนั้นหรือ สารวัตร”

“...ครับท่าน คุณวสันต์ควรอยู่ภายในห้องพัก และรับโทรศัพท์นี้”

โฮมไม่แน่ใจว่าลินคอนจะรู้สึกสงสัยเหมือนกับตัวเขาด้วยหรือไม่ 'เขาต้องคิดเหมือนกันแน่' มันคือภาพของเด็กสาวในชุดเสื้อคลุมสีแดง พร้อมกับรอยยิ้มเยียบเย็น กลิ่นเฉพาะตัวของฟอสฟอรัส และไม้ขีดไฟก้านหนึ่งที่พึ่งถูกจุดถืออยู่ในมือ

ลินคอนหยุดคิดครู่หนึ่ง “ถ้าคุณว่าอย่างนั้น ผมว่าเราคงต้องรีบเคลื่อนไหวแล้ว”

“แต่...แต่ ผมเป็นห่วงคุณวสันต์ ผมอยากจะขอเวลาสักเล็กน้อย...” โฮมรู้ว่าเขาไม่ควรพูดแบบนี้ สถานการณ์นั้นมีความคับขันเร่งด่วน เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจความรู้สึกร้อนรนที่เกิดขึ้นภายในใจในครั้งนี้เลย

ลินคอนยิ้มเล็กน้อยอย่างเข้าใจ “ใช่ เราถึงต้องรีบ เราจะแวะไปหาคุณวสันต์ที่ห้องพักของเธอเสียก่อน” ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะค่อยๆ เลือนหายไป “แต่ถ้าเธอเกิด...โชคร้าย เราคงต้องหันกลับมาจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าให้เรียบร้อยเสียก่อน ตกลงไหมสารวัตร”

“...ครับผม” โฮมรับคำ เขาคิดว่าการที่ลินคอนยอมให้เขาเสียเวลาทำอย่างนี้ ไม่ได้เป็นเพราะท่านผู้ว่าเกิดรู้สึกอ่อนไหวอะไรขึ้นมา เพียงแต่ลินคอนคงคิดแล้วว่ามันเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาก็จะกังวลเกี่ยวกับเธอไปตลอด และอาจมีผลกระทบกับการปฏิบัติงานในที่สุด

ทั้งคู่กำลังจะเดินออกจากห้องประชุมโดยใช้ทางออกที่อยู่ด้านหลังเวที ก่อนที่ท่านผู้ว่าจะหันกลับมาหาตำรวจแว่นคนเดิมอีกครั้ง

“สารวัตรสั่งให้คุณถามใช่ไหมพ่อหนุ่ม ในบันทึกด่วนที่คุณพูดถึง” ตำรวจแว่นยังทำท่าไม่เข้าใจ “คำถามนั้นที่คุณยกมือถามในที่ประชุม สารวัตรโฮมเป็นคนสั่งให้คุณถามใช่ไหม”

ความเข้าใจค่อยๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของตำรวจแว่น “ใช่ครับท่าน ผมถามตามที่สารวัตรเขียนไปทุกคำ ตามนั้นทุกอย่าง”

'แล้วมันก็ได้ผลอย่างที่เขาต้องการ อาจมีใครถามคำถามนี้ขึ้นมา ไม่สิ มันต้องมีคนถามแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นแล้วก็ให้เป็นใครสักคนที่จะไม่ถามให้ลึกไปกว่านั้นก็คงจะดีกว่า' ลินคอนยิ้มกว้าง “แล้วคุณเชื่อคำตอบของสารวัตรไหมล่ะ”

“เชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจเลยครับ” ตำรวจแว่นยิ้มกว้างกว่า “สารวัตรจะต้องจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยแน่ครับท่าน”

“คุณพูดถูกแล้วพ่อหนุ่ม” ลินคอนยิ้ม และชี้มือไปที่ตำรวจแว่น “คุณพูดถูกที่สุด” เขาหันกลับ และรอยยิ้มนั้นก็จืดจางลงอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่พากันเดินมาถึงประตู และโฮมออกเดินนำไปเพื่อเปิดประตูให้กับลินคอน ในตอนที่กำลังเดินผ่านประตูออกไปนั้นเอง ลินคอนก็ถามขึ้นเบาๆ

“แล้วคุณล่ะ สารวัตร คุณเชื่อมั่นกับภารกิจในครั้งนี้สักแค่ไหน”

โฮมฝืนยิ้ม “มันเป็นเรื่องง่ายที่เราจะมอบความไว้วางใจให้กับคนอื่น ให้เขาเป็นคนรับผิดชอบ และเป็นคนที่ลงมือทำครับท่าน”

แล้วทั้งคู่ก็เดินกันไปเงียบๆ ตามทางเดินแคบๆ ไปยังห้องเล็กๆ ที่แขกทั้งสองของพวกเขาพักรออยู่ ทางเดินนั้นเงียบวังเวงจนผู้คนจำนวนมากภายในห้องประชุมคล้ายกับเป็นเพียงความฝันที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง โฮมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโคท ก่อนเริ่มใช้มือตบไปตามกระเป๋าทั้งหมดที่มีอยู่

'ความฝัน นี่มันต้องเป็นฝันร้าย'

“มีอะไรหรือสารวัตร” ลินคอนที่พบเห็นท่าทางของเขาเอ่ยถาม ทั้งที่คิดว่าตนเองนั้นรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

“...กุญแจเมือง มันหายไปแล้วครับท่าน” โฮมเริ่มออกวิ่ง

“ถ้าอย่างนั้นแขกของเราคงไม่อยู่รออีกแล้ว” ลินคอนไม่ได้วิ่ง แต่ก้าวติดตามไปอย่างรวดเร็ว ประตูห้องเก็บเอกสารเก่าถูกเปิดทิ้งไว้ ภายในนั้นว่างเปล่าทั้งทอย และสโนวได้หายตัวไปแล้ว

“ต้องเป็นฝีมือของเจ้าหนุ่มนักฆ่านั่น แต่ผมก็คอยระวังเขาเต็มที่แล้ว เขาขโมยไปตอนไหนกัน” โฮมร้องด้วยความไม่พอใจ

“ถ้าคูณระวังตัวเต็มที่แล้ว ผมก็คิดว่าคงไม่ใช่ฝีมือของเขา” ลินคอนเดินตามเข้ามาพร้อมกับสำรวจมองไปรอบห้อง

“ท่านหมายความว่า...ไม่ เป็นไปไม่ได้ สุภาพสตรีอย่างเธอไม่มีทางทำอะไรแบบนี้ได้แน่”

ลินคอนทอดถอนใจยาว “สารวัตรโฮม คุณยังต้องเรียนรู้อีกมากนัก” เขาส่ายหน้า “ตราบใดที่คุณยังเอาแต่พูดว่าผู้หญิงทำอย่างนั้น อย่างนี้ไม่ได้ คุณก็จะต้องพบกับความประหลาดใจ ผิดหวัง และ เสียใจ บางทีอาจต้องเสียใจไปชั่วชีวิตเลยก็เป็นได้” มันมีความทรงจำเก่าๆ กับความเศร้าเจือปนอยู่ในคำคมของเขา บางทีลินคอนอาจไม่ได้อ่านมันมาจากหนังสือเล่มไหน แต่ได้เรียนรู้มันโดยตรงจากชีวิตของเขาเองก็เป็นได้

“ใช่ เธอเข้ามาใกล้ผม เธอมีโอกาสลงมือเพราะผมมัวแต่คอยระวังทอยไว้เท่านั้น”

“ยังมีอย่างอื่นหายไปอีกหรือเปล่า”

“เป...” แล้วโฮมก็นึกถึงของอีกชิ้นหนึ่ง สิ่งที่เขาเก็บใส่ไว้ในซองพลาสติกซึ่งอยู่ในกระเป๋าเสื้อโคทพร้อมกับกุญแจเมืองดอกนั้น “...ไม้ขีด ไม้ขีดไฟกลักนั้น” หลักฐานที่เด็กสาวเสื้อคลุมแดงทิ้งเอาไว้ในตรอกข้างร้านของเล่นซีเอฟ และมันเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญสำหรับใช้ตามหาตัวคุณครอสตามที่ฟรอส ยักษ์น้ำแข็งตนนั้นได้บอกเอาไว้

“นั่นหมายถึงการขโมยหลักฐานของเจ้าพนักงาน” โฮมอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ

“มันอยู่นี่” ลินคอนก้มลงหยิบซองพลาสติกที่คุ้นตาขึ้นมา เขาพบเห็นมันตั้งแต่แรกก่อนที่จะตั้งคำถามนี้ด้วยซ้ำ เขาเขย่าเบาๆ และเสียงที่ได้ยินก็ทำให้ทั้งสองคนโล่งใจ มันยังคงมีไม้ขีดไฟเหลืออยู่ภายในนั้น “แต่ผมเชื่อว่า จำนวนของมันคงต้องลดน้อยลงกว่าเมื่อตอนที่คุณพบเจอมันในครั้งแรก...บางที อาจจะสักครึ่งหนึ่ง”

“มันก็ยังคงเป็นการขโมยหลักฐานของเจ้าพนักงานอยู่ดี” โฮมเร่งสำรวจมองไปรอบๆ แต่ไม่พบเจอสิ่งใดอีก “และดูเหมือนเธอจะเอากุญแจเมืองของคุณเอดิสันติดตัวไปด้วย”

“นั่นอาจเป็นเพราะเธอรู้ว่าตัวผมเองยังมีกุญแจอยู่อีกดอกหนึ่งก็เป็นไปได้” ลินคอนเสนอ

โฮมไม่คิดเช่นนั้น “ไม่ เป็นเพราะว่าพวกเขายังต้องใช้มันอีกต่างหาก ที่ทางเข้าออกของประตูเล็กมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าอยู่ตลอดเวลา แต่ที่ประตูหน้าตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว ทั่วทั้งตึกนี้ว่างเปล่า พอตำรวจทุกคนเข้าไปรวมกันอยู่ในห้องประชุมเรียบร้อย ทอยก็แค่พาคุณสโนวหลบลงไปที่ห้องโถงชั้นล่าง โดยใช้กุญแจนั่นจัดการกับประตูทุกบานที่ปิดอยู่ ก่อนที่จะเดินจากไปอย่างง่ายดาย”

“ก็น่าจะเป็นอย่างที่คุณว่า” ลินคอนเห็นด้วย 'แต่ผมไม่คิดว่านักฆ่าหนุ่มคนนั้นจะเป็นผู้นำในครั้งนี้' เขาพึ่งได้พบกับทั้งสองเพียงไม่นาน แต่ด้วยประสบการณ์ที่เขามีเป็นการส่วนตัวนั้น ทำให้เขาคิดว่าโฮมยังตัดสินสโนวได้อย่างไม่ถูกต้องนัก จริงอยู่ที่เธอดูเหมือนจะมีความลังเล สับสน ไม่แน่ใจอยู่บ้าง แต่เขาคิดว่าลึกลงไปภายในเธอคนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่โฮมคาดคิดมากนัก 'คุณยังต้องเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับสุภาพสตรีพวกนี้อีกมาก พ่อหนุ่ม'

“พวกเราต้องรีบออกติดตามตัวทั้งคู่กลับมา” โฮมรีบออกจากห้อง “ยังมีตำรวจอยู่แถวนี้เป็นจำนวนมาก เราต้องรีบแจ้งข่าวออกไปให้พวกเขาช่วยกันสกัดจับเอาไว้”

“ไม่” ลินคอนส่งเสียงดังตามหลังมา “ไม่ เราจะไม่ทำอย่างนั้น สารวัตร เราจะปล่อยพวกเขาไป แล้วรีบดำเนินการตามแผนเดิมที่วางเอาไว้”

โฮมมองลินคอนอย่างไม่เชื่อหูในคำสั่งที่ได้ยิน “ผมไม่เข้าใจ”

ลินคอนทำหน้าจริงจัง ”ตอนนี้อาจจะมีรถตำรวจหายไปอีกคันหนึ่งแล้วด้วย ถ้าเธอกล้าล้วงของไปจากกระเป๋าของคุณ เธอก็คงไม่ลังเลที่จะ ขอยืม รถตำรวจไปใช้สักคัน แต่ปล่อยเธอไป อย่าขัดขวางเธอ ให้เธอได้ทำตามที่ต้องการ”

“ผมยิ่งไม่เข้าใจ ท่านผู้ว่า” และโฮมหมายความตามนั้น 'เขายังพูดราวกับว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของเธอ มากกว่าที่จะเป็นแผนของนักฆ่าคนนั้น' สโนวเป็นคนที่ขโมยสิ่งของไปจากเขาจริง แต่เขาเชื่อมั่นว่าทั้งหมดนี้จะต้องความคิดของทอย ที่หลอกล่อให้เธอทำอย่างนั้น

“คุณคิดว่าคุณสโนวจะต้องการทำอย่างไรล่ะ สารวัตร เธอขโมยไม้ขีดไฟไปด้วยเพราะเหตุใด” ลินคอนเว้นจังหวะชั่วครู่ “นั่นเพราะเธอเองก็ต้องการหาทางช่วยคุณครอสออกมาเช่นเดียวกัน และบางทีเธออาจคิดว่ามันคือหนทางเดียวที่จะช่วยเหลือคุณฟรอสได้ด้วย”

“ตอนนี้ จึงเหมือนกับว่าเราได้แยกกำลังที่มีออกเป็นสองทีม และไม่แน่ว่าทั้งหมดก็คงจะไปจบลงในสถานที่เดียวกัน ด้วยเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งผมเชื่อมั่นเหลือเกินว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้น” ลินคอนบอกอย่างมั่นใจ ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองนั้นไม่มั่นใจอะไรเลยสักนิด ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น 'และถ้าหากมีทีมใดทีมหนึ่งพลาด อย่างน้อยก็จะยังคงมีความหวังเหลืออยู่บ้าง'

สุดท้ายโฮมก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของลินคอน

“เรามาสรุปแผนปฏิบัติการทั้งหมดนี้กันอีกครั้ง อันดับแรก คุณต้องรีบเดินทางไปรับตัวคุณวสันต์ที่ห้องพักของเธอ และไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งผมขอภาวนาว่าอย่าให้มีเหตุเช่นนั้น คุณต้องรายงานเข้ามา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม แล้วรีบเดินทางไปพบกับ ผู้นำทาง ตามที่อยู่ที่ผมให้ไป”

"ครับ" โฮมอ่านดูข้อความในแผ่นกระดาษบันทึกใบเล็กๆ นั้นอีกครั้ง และพยายามที่จะไม่เอ่ยคำถาม 'ท่านแน่ใจแล้วหรือครับ' ซ้ำอีก

“ส่วนเรื่องหลังจากนั้น ผมคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่การตัดสินใจของคุณ สารวัตรโฮม น่าเสียดายที่ผมไม่อาจปล่อยให้คุณได้พักผ่อนแม้เพียงสักครู่ ทุกนาทีล้วนมีค่า นับแต่วินาทีนี้ไปจนถึงคืนวันพรุ่งนี้คงต้องเป็นวันอันยาวนานของคุณแล้ว”

“เราต้องพาตัวคุณครอสกลับมาให้ได้ก่อนถึงเวลาเที่ยงคืนของวันพรุ่งนี้” ลินคอนย้ำเป็นครั้งสุดท้าย

“ท่านไม่ไปกับผมด้วยหรือครับ” โฮมถามพร้อมกับเหลือบมองดูขวานที่เอวของลินคอน พร้อมหวนนึกถึงความรวดเร็วในตอนที่มันถูกชักออกมายิงเข้าใส่เขา 'วีรบุรุษจากสงครามผีดูดเลือดไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อเสียงลอยๆ เท่านั้น'

“ไม่ ผมไปไม่ได้” ลินคอนส่ายหน้า “ผมจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ ภายในมหานครแห่งนี้ เพื่อคอยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น...นี่เป็นเมืองของผม” โฮมคิดว่าเขาได้ยินสิ่งผิดปกติบางอย่างในคำพูดนี้ของลินคอน แต่เขานึกไม่ออกว่ามันคืออะไร

เมื่อโฮมขับรถคันเก่าออกจากตึกนคราภิวัฒน์แห่งนี้ ลินคอนก็เดินกลับขึ้นไปยังห้องทำงานห้าเหลี่ยมบนชั้นสูงสุดของตน เขานั่งลงที่โต๊ะทำงานอย่างเงียบงัน คล้ายกับกำลังใช้ความคิด หรือรอคอยอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเสียงเคาะอย่างสุภาพพลันดังขึ้นเป็นจังหวะคล้ายเป็นรหัสอย่างหนึ่ง และมันไม่ได้ดังมาจากประตูห้องทำงาน แต่กลับดังมาจากทางหน้าต่างที่ด้านนอกมีเพียงท้องฟ้าของมหานครเท่านั้น

ท่านผู้ว่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย และไม่มีทีท่าว่าจะตกใจเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่ามันเป็นเพียงเรื่องธรรมดา หรือไม่เขาก็กำลังรอคอยมันอยู่ ในเสียงถอนหายใจที่แสนเหนื่อยหน่ายของเขานั้นก็คล้ายกับมีความโหยหาเจือปนอยู่ พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากซึ่งเจ้าตัวอาจไม่รับรู้ และจะต้องปฏิเสธอย่างสุดกำลังว่ามันเคยมีอยู่จริง


Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2557 13:58:17 น. 0 comments
Counter : 593 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.