|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทอย (44)
ดวงอาทิตย์ที่กำลังค่อยๆ ลาลับ ถูกกลืนกินด้วยขอบฟ้าด้านทิศตะวันตก แกนเวลาเคลื่อนไป ทำให้ทุกสิ่งเกิดความเปลี่ยนแปลง ดาราจักรหมุนวน ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ เทหวัตถุบนฟากฟ้า เรื่อยลงไปจนถึงอิเล็กตรอน การสั่นไหวภายในอะตอมที่ต่างโคจรเคลื่อนไปไม่เคยหยุดนิ่ง แต่ทั้งหมดนั้นต่างเป็นเพียงสิ่งที่เกี่ยวเนื่อง สิ่งที่เกิดขึ้นโดยสัมพันธ์กันกับแกนของเวลาเท่านั้น แต่ที่แท้แล้ว เวลา คืออะไร และมันทำงานอย่างไรกันแน่
แสงสุดท้ายของวันกลางฤดูร้อนอันยาวนานหดหายจากไปในที่สุด
เอาล่ะ ได้เวลาแล้ว ทอมลุกขึ้นพูดอย่างยินดีราวกับว่าตนเองเป็นผู้ทรงเกียรติที่ได้รับเลือกให้ทำการกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครให้ความสนใจกับเขาสักเท่าไร และไม่ว่าเขาจะพูดขึ้นมาหรือไม่ งานฉลองก็เริ่มขึ้นอยู่ดี
นักเต้นทั้งสิบสองคน ชายหก หญิงหก ชายหนุ่ม หญิงสาว ที่ต่างซ้อมเต้นกันในสถานที่ลับตา เพราะจะต้องไม่มีใครได้เห็นการเต้นนี้จนกว่าจะถึงเวลา ซึ่งก็คือในตอนนี้ ทั้งหมดเดินเป็นแถวเรียงเดี่ยวเข้ามาสู่ลานกว้าง ก่อนวนไปรอบๆ กองไม้ มันดูลึกลับ มีพิธีการ ในทุกย่างก้าว ในทุกการเคลื่อนไหว ท่ามกลางความมืดที่กำลังกดทับลงมา ก็ยิ่งทำให้ดูลี้ลับมากขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวคนหนึ่งในนั้นนำคบไฟมาจากที่ใด แต่ในความมืดสลัวรางทุกคนต่างก็ได้เห็นดวงไฟเล็กๆ จุดหนึ่งสว่างขึ้น มันอาจเป็นตัวแทนแห่งความหวัง จุดประกายแห่งความฝัน แสงที่คอยชี้นำเส้นทาง หรือไม่ก็แค่คบไฟ หลังจากนั้นมันก็ถูกจุดเข้ากับกองไม้ที่มีการราดของเหลวสีดำซึ่งขุดได้จากใต้ดินเตรียมไว้ ของเหลวสีดำที่ลุกติดไฟได้ง่ายนี้จะถูกนำมาใช้ในพิธีการอันสำคัญเท่านั้น กองไฟลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็ว เปลวไฟเหล่านั้นพากันส่ายไหวไปมาราวกับมีชีวิต และพวกมันก็คือนักเต้นคู่แรกสำหรับเปิดงานพิธีในค่ำคืนนี้
จากในความเงียบ เสียงปรบมือโห่ร้องก็ดังขึ้น
นักเต้นทั้งสิบสองคนภายใต้ชุดที่มีสีสันฉูดฉาด อีกทั้งยังมีผ้าสีสันสดใสผูกไว้กับข้อมือ ข้อเท้า รวมถึงกระพรวนเล็กๆ ที่เย็บติดไว้ตามเสื้อผ้าจะถูกเขย่า โดยเฉพาะเมื่อทั้งหมดนั้นต่างเต้นอยู่ต่อหน้าแสง เมื่อพวกเขาเริ่มส่ายไหวก็จะก่อให้เกิดเป็นเงาจำนวนมากมายทอดยาวไปทั่วทุกทิศโดยรอบ เสียงกระพรวนที่ดังเป็นจังหวะตามการขยับอย่างพร้อมเพรียง รวมกันเข้ากับเสียงดนตรีที่เกิดจากเครื่องเป่า กับเสียงกลองที่ตีด้วยจังหวะเร่งเร้าสนุกสนาน เกิดเป็นภาพ และเสียงที่น่าตื่นตะลึงขึ้น
มันคือการเต้นรำเฉลิมฉลองอย่างไม่ต้องสงสัย เกือบทุกสายตาภายในลานกว้างนั้นต่างจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวอันน่าตื่นตา ราวกับว่าทุกๆ ความเคลื่อนไหวในจักรวาลได้ถูกย่อลงจนเหลือเพียงสิ่งนี้เท่านั้น
แต่มันก็แค่เกือบ ไม่ใช่ทั้งหมด
นายอำเภอแฟรงขยับตัวออกมาจากความมืดทางด้านข้างของแถวที่นั่ง ดาบในมือกดต่ำ ร่างย่อลงเล็กน้อย ทอยคิดว่าเขาทำได้ดี แต่ยังคงไม่ดีพอ บางทีมันอาจไม่ใช่ความผิดของเขาที่ดูเหมือนว่าจอมโจรอาลีกำลังรอคอยการลงมือของใครบางคนอยู่ก่อนแล้ว ทอยรีบขยับตัวแต่ก็ดูเหมือนจะช้าเกินไป
นายอำเภอไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขามีความมุ่งมั่นตั้งใจ ความรับผิดชอบที่มีต่อผู้คนทั้งหลาย ต่อหมู่บ้านแห่งนี้ เขาจะต้องปกป้อง ไม่ยินยอมให้มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้น แต่ที่กำลังจ้องมองกลับมานั้น คือสายตาอีกคู่ที่ไม่หวั่นหวาด ดวงตาของผู้มองเห็นในสิ่งที่จำเป็นต้องเห็น
ดวงตาของจอมโจรอาลีบาบาแห่งกองโจรสี่สิบ และมันกำลังยิ้ม ไม่ใช่ดวงตา แต่หมายถึงเจ้าของดวงตาคู่นั้น
มีเงาสีดำตวัดผ่านหน้าของนายอำเภอไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ความมืดมิดรอบกายจะกลายเป็นสีแดงเรื่อเรือง ก่อนที่อดีตจะพุ่งผ่านไปในห้วงความคิดของเขาอย่างรวดเร็ว เสียงกรีดร้องที่ฟังดูเหมือนจะดังมาจากอีกฟากหนึ่งของห้วงจักรวาล ทุกสิ่งที่เคยสำคัญกลับกลายเป็นเพียงหมอกควัน รวมถึงตัวตนของเขาเองด้วย
'รู้ไหมนายอำเภอ ว่าทำไมข้าถึงไม่ฆ่าเจ้าทิ้งตั้งแต่แรก' เสียงของอาลีกระซิบถามเขาจากความมืดสีแดง
'ทำไมข้าถึงทำเป็นเชื่อเจ้าโง่ทอมนั่น เอาเจ้าไปฝากไว้กับตาเฒ่าขาเป๋หัวแข็งคนนั้น' น้ำเสียงนั้นฟังดูขบขัน 'แล้วหวังว่านายอำเภอชื่อดังอย่างเจ้าจะยอมนั่งกอดเข่าอยู่เฉยๆ อย่างนั้นหรือ'
'เจ้ารู้แต่ทำเป็นไม่รู้' เสียงนั้นกระซิบอย่างเย็นชา และนำพาความเย็นให้เข้าสู่ร่าง เข้าสู่ไขกระดูกของเขา 'เจ้าก็รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เจ้ารู้มาตั้งแต่ต้นแล้ว'
ไม่ ไม่ ไม่ เขาตะโกนลั่น ไม่อยากฟังเสียงนี้อีกต่อไป
'เจ้ารู้ว่าได้ทำอะไรลงไป' น้ำเสียงนั้นค่อยๆ เปลี่ยนไป หรือมันอาจไม่ได้เปลี่ยน เขาพึ่งเคยได้ยินเสียงของอาลีในวันนี้เอง แต่เสียงนี้กลับให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยมากกว่านั้น 'เพราะการกระทำที่เห็นแก่ตัวของเจ้า ข้าจึงมีเหตุผลที่จะบดขยี้ทำลายหมู่บ้านแห่งนี้ ตามที่ข้าตั้งใจจะทำมาตั้งแต่แรกแล้ว แทนที่จะรับของมีค่าของพวกเจ้าแล้วจากไปเงียบๆ อย่างที่ชาวบ้านอีกหลายคน ที่ถึงแม้จะไม่พอใจ แต่ก็คงคิดว่าดีกว่าหนทางที่เจ้าเป็นผู้เลือกให้นี้ หนทางที่ทำให้ข้าไม่จำเป็นจะต้องย้อนกลับมาเหยียบหมู่บ้านแห่งนี้อีก เพราะเมื่อพ้นจากค่ำคืนนี้แล้ว ที่นี่ก็จะไม่มีหมู่บ้านเหลืออยู่อีกต่อไป'
ข้าทำเพื่อทุกคน ข้าต่อสู้เพื่อหมู่บ้าน เขาเถียงอย่างอ่อนแรง
'เจ้าก็แค่ต่อสู้เพื่อตนเอง เพื่อตำแหน่งนายอำเภอของเจ้าเท่านั้น เจ้าเคยคิดจริงๆ สักนิดหรือไม่ ว่าชาวบ้านต้องการสิ่งใดกันแน่' เขานึกถึงสายตาของชาวบ้านที่จ้องมองมาเมื่อตอนก่อนที่งานจะเริ่มขึ้น นึกถึงความสงสัย ถึงความหวาดกลัวที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาเหล่านั้น ที่เขาทำเป็นมองไม่เห็น ไม่รับรู้ ไม่เข้าใจใดใดทั้งสิ้น เขาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง สู้เพื่อหมู่บ้าน หรือที่จริงแล้วจะเป็นอย่างที่เสียงนี้ว่ากันแน่
'ทั้งหมดมันเป็นแผน เป็นเสียงดนตรี เป็นงานฉลองของข้า' เสียงนั้นยิ่งคุ้นเคยมากขึ้น 'และเจ้าก็จะต้องเต้น เต้นรำไปอย่างที่ข้าต้องการ'
เต้นต่อไป อาลีตะโกนสั่งอย่างใจเย็นท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของชาวบ้านหลายคน ในขณะที่มีร่างของนายอำเภอนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ดาบสีดำถูกเก็บคืนสู่ฝักแล้ว แต่ก็พร้อมที่จะพุ่งออกมาจัดการกับเหยื่อของมันได้อีกทุกเมื่อ ข้าเคยได้ยินมาว่า การเต้นนี้เมื่อเริ่มขึ้นแล้ว ก็จะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุด เพราะหากหยุดลงแต่กลางคัน มันจะต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับหมู่บ้านทั้งหมด
ซึ่งคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านต่างก็เชื่อว่าเป็นความจริง ความแห้งแล้ง โรคระบาดร้ายแรง ฝูงแมลงศัตรูพืชที่ปกคลุมท้องฟ้าจนมืดมิด ผลผลิตที่ไม่งอกงาม ลูกสัตว์ที่เกิดมาพิกลพิการ สิ่งเลวร้ายทั้งหลายเท่าที่พวกเขาจะนึกออก เมื่อพวกมันเกิดขึ้นก็จะต้องมีเหตุผล ไม่ว่าพวกเขาจะรู้หรือไม่รู้ ไม่ว่ามันจะเป็นเหตุผลที่แท้จริงหรือไม่ก็ตาม วงกลมอันประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งสิบสองคนจึงยังคงเคลื่อนที่ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เสียงเครื่องเป่า เสียงกลอง ซึ่งตอนนี้ฟังดูวังเวงไม่เหมือนกับเป็นงานเฉลิมฉลอง แต่การเต้นรำก็ยังนับว่าดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ห้ามใครก้าวออกไปจากลานแห่งนี้เด็ดขาด อาลีออกคำสั่งเพียงแค่นั้น ส่วนการขู่เข็ญทั้งหลายก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่รับฟังให้ไปจินตนาการกันเอง ว่าแต่...พวกเจ้าเป็นใครกัน
อาลีหันมาให้ความสนใจกับหญิงสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนซ่อนตัวอยู่ห่างไปไม่ไกล และเฒ่าหัวแข็งที่ชื่อเฮฟคนนั้น ทั้งหมดนี้คือความผิดปกติที่เขาพบเห็นได้ในลานกว้างที่มารวมกัน ส่วนทอมกับพรรคพวกนั้นได้ถูกสมาชิกกองโจรคนอื่นๆ ใช้ดาบดำวางพาดที่คอคุมไว้จนหมด ทอมยิ่งทำให้ตัวเองขายหน้ามากขึ้นด้วยการทำให้กางเกงของตัวเองเปียกโชก สมาชิกกองโจรที่เหลือยังคงรอคอยคำสั่ง เพราะเมื่อหัวหน้ากำลังเจรจรา ทุกคนต่างรู้ว่าจะต้องเงียบไว้ก่อน
คุณนายวิกเซ่นรีบพลิกร่างของนายอำเภอขึ้นมาตรวจดูบาดแผลที่ใต้คางซึ่งเฉียดเส้นเลือดสำคัญที่ไปเลี้ยงสมองอย่างหวุดหวิด เส้นเลือดคู่นี้ที่เป็นเป้าหมายในการกัดเมื่อออกล่าเหยื่อ หัวใจของนางพลันเต้นแรง กลิ่นคาวเลือดบวกกับความคับขันของเหตุการณ์ผลักดันให้ร่างกายของนางมาสู่ความตึงเครียดในระดับสูงสุด นางรู้สึกได้ถึงหูที่ตั้งชัน ภาพของสิ่งต่างๆ รอบกายที่เปลี่ยนไป ไม่มีความมืด มีแต่กลิ่นต่างๆ มากมาย และเขี้ยวที่งอกยาวขึ้นภายในปาก
นางรีบใช้ผ้าคลุมไหล่ของตนกดลงบนปากแผลเพื่อทำการหยุดเลือด ร่างของนางภายใต้ชุดที่รัดรูปนั้นจึงเผยออกมา และดึงดูดสายตาของเหล่าโจรได้ไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่ของจอมโจรอาลี
ถ้าเจ้าไม่ดึงร่างของนายอำเภอไว้ได้ทันท่วงที ตอนนี้หัวของมันคงขาดตกลงสู่พื้นไปแล้ว
ทอยรู้ว่าที่ชายคนนี้พูดออกมานั้นเป็นความจริง เขาไม่รู้ว่าอาลีเป็นใคร แต่ตอนนี้รู้อย่างหนึ่งแล้วว่าเขาเป็นนักดาบที่มีฝีมือยอดเยี่ยม สิ่งซึ่งไม่มีใครเคยคิดว่าจอมโจรผู้นี้เป็นเมื่อก่อนหน้า ทุกคนต่างก็มีแผนการ เส้นทางของตนเอง ทุกคนต่างก็มีเหตุผล ต่างมีความเป็นจริงที่ต้องการจะมุ่งหน้าไปให้ถึง แต่ในกระบวนการระหว่างนั้น หากพวกมันต้องเคลื่อนมาปะทะชนกัน ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น และผู้ที่จะสามารถบิดมัน ผลักดันให้เป็นไปตามความต้องการของตนได้ ก็จะต้องเป็นบุคคลเช่นจอมโจรอาลีบาบาผู้นี้อย่างไม่ต้องสงสัย
พวกเจ้าที่เหลือไปจัดการกับไอ้หนุ่ม และตาเฒ่าขาเป๋นั่น ทอยเห็นอาลีชี้มือมาทางเขา ก่อนที่สมาชิกกองโจรที่เหลือจะขยับทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ส่วนนางที่ดูไม่ธรรมดาคนนี้ ข้าจะจัดการเอง
เขาตายไหม เฒ่าเฮฟร้องถามอย่างตื่นเต้น พร้อมกับดึงดาบที่เตรียมไว้ออกมาพร้อมต่อสู้
ยัง คุณนายวิกเซ่นตอบเพียงสั้นๆ เพราะรู้สึกว่าตอนนี้ตนพูดได้ไม่ค่อยถนัดเหมือนก่อน นางไม่เคยอยากแปลงร่าง โดยเฉพาะในท่ามกลางผู้คนมากมายแบบนี้ 'ถึงมันจะเป็นในความฝันก็ตาม' แต่บางครั้งเรื่องราวมันก็เกินเลยไปจากความอยาก หรือไม่อยาก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ นางไม่ได้เกลียดการเป็นมนุษย์หมาป่ามากขนาดนั้น แต่น่าเสียดายที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดแบบนาง และมักก่อให้เกิดความวุ่นวายติดตามมาอยู่เสมอ
แต่ที่สำคัญ จากฝีมือดาบของอาลีที่ได้พบเห็นเมื่อครู่ทำให้นางไม่แน่ใจว่าจะสามารถรับมือได้หรือไม่ ถึงแม้จะแปลงร่างแล้วก็ตาม
ในห้วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้เอง ที่นางพลันหวนนึกถึงใครคนนั้น คนที่ไม่อยากจะนึกถึงขึ้นมาอีกครั้ง
#####
แกนแอปเปิ้ลที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่อันถูกกองรวมทิ้งไว้ในหลุมตื้นๆ ที่ถูกขุดไว้ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ ทุกที่ทางเงียบงัน แต่ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกเฝ้ามองยังคงไม่จางหายไปไหน
'หนึ่ง สอง สาม' เกรทนับพวกมัน 'เมื่อรวมกับที่เจอมาตลอดทางก็จะกลายเป็น' เธอพยายามที่จะคิดเลขในใจอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความตื่นเต้นทำให้ดูเหมือนคำตอบนั้นจะดิ้นหลุดจากเธอไปได้ และต้องพยายามนับทั้งหมดนั้นใหม่อีกครั้ง
...ดูเหมือนงานจะเริ่มแล้วนะ ฮานบอกเมื่อมองเห็นแสงไฟสว่างเรืองขึ้นมาจากทิศที่ตั้งของลานกว้าง กองไฟได้ถูกจุด การเต้นรำเริ่มขึ้นแล้ว และพวกเขาสองพี่น้องยังคงติดอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำกับเศษขยะที่ไร้ความหมายกับเขา พี่ว่าเรารีบไปที่นั่น แล้วดูว่าเกิดอะไรขึ้นจะดีกว่าไหม เขาร้อนใจ อยากรู้ว่าแผนของนายอำเภอจะสำเร็จหรือไม่
เธอลังเล เธอเคยคิดว่าแอปเปิ้ลพวกนี้มีความสำคัญ แต่ตอนนี้เธอกลับไม่แน่ใจแล้ว เศษแกนแอปเปิ้ลพวกนี้อาจไม่มีความหมายอะไรนอกจากเป็นการเล่นแกล้งของใครบางคน
'แต่เป็นใครกันล่ะ' เธอคิดว่าตนเองพอจะเดาคำตอบได้แล้ว การเล่นแกล้งกันที่เหมือนกับพวกเธอ
นั่นเสียงอะไร ฮานมองหาไปรอบตัว พร้อมกับยกชูตะเกียงในมือสูงขึ้นเพื่อให้แสงสว่างกระจายออกไป แต่ก็ยังไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เธอพึ่งได้ยินเสียงที่เขาว่า เพราะมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อย มันฟังดูเหมือนเสียงครางต่ำๆ ของสัตว์ประหลาดที่กำลังโมโห
'หรือว่าจะเป็นเสียงร้องของพรายน้ำ' เธอนึก พร้อมกับหันมองออกไปยังสายน้ำดำมืด และเธอคิดว่าสีของมันไม่ควรเป็นเช่นนั้น ในความมืดเธอไม่รู้ว่ามันเป็นสีอะไร แต่เสียงจากภายในตะโกนก้องว่ามันเป็นสีแดง สีแดงของเลือด ทั้งหมดนั้น ทั่วทั้งท้องน้ำกว้าง
...พี่ฮาน เธอเรียก และเสียงมันไม่ยอมที่จะออกจากปากของเธอ พี่ฮาน เธอพยายามอีกครั้งแต่ยังคงไม่ได้ผล และ พี่ฮาน คราวนี้มันดังเหมือนเป็นเสียงกรีดร้อง
มีอะไรหรือน้องเกรท พี่ชายรีบเข้ามาหาด้วยความตกใจ เธอชี้ออกไปยังผืนน้ำกว้างใหญ่เบื้องหน้า เขาเห็นสีที่ผิดปกติของมันในทันที เดินออกไปข้างหน้าอีกสามสี่ก้าวพร้อมกับยกชูตะเกียงไปข้างหน้า เสียงประหลาดที่ดังมาตั้งแต่ก่อนหน้าคล้ายกับจะดังเพิ่มขึ้น
มันไม่ใช่สีแดงอย่างที่เธอคิด แต่เป็นสีน้ำตาล สีเหมือนน้ำโคลนและไหลอย่างรวดเร็ว ฮานรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่ฤดูน้ำหลาก ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีฝนตกหนักติดต่อกันให้ผู้คนต้องหวาดระแวง แต่เมื่อนำสองสิ่งนี้รวมเข้าด้วยกัน เขาก็รีบมองไปทางทิศต้นน้ำ และได้เห็นเงาของบางสิ่งที่กำลังกลืนกินริมฝั่งแม่น้ำ พร้อมกับเสียงครางต่ำๆ ที่มุ่งตรงมา และมันไม่ใช่พรายน้ำ
'มันเป็นกับดัก' ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าคนที่วางกับดักทำให้เกิดน้ำหลากท่วมรุนแรงอย่างฉับพลันแบบนี้ได้อย่างไรก็ตาม
วิ่ง เขาร้องได้เพียงแค่นั้น เมื่อเงาร่างเล็กๆ พุ่งจู่โจมเข้าใส่พวกเขาทั้งสอง เขาคิดว่าผู้ที่จู่โจมคือผีดูดเลือดที่เคยดักทำร้ายเกรทในสุสาน สุสานที่เขาแอบพาน้องสาวไปเยี่ยมหลุมฝังศพของบิดาทั้งๆ ที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ไป เขาทำให้น้องสาวต้องโดนทำร้ายมาครั้งหนึ่งแล้ว และจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้ เขาไม่อาจต้านทานเรี่ยวแรงมหาศาลของผีดูดเลือดได้ เขารู้สึกถึงสายน้ำที่กำลังท่วมท้นขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้หวาดกลัวความตาย แต่เขากลับโกรธ โกรธที่ตัวเองไม่อาจปกป้องน้องสาว ไม่อาจทำอะไรได้อย่างที่เขาเคยคิด ไร้พลังอย่างสิ้นเชิง
'สิบเอ็ด'
คือจำนวนของแกนแอปเปิ้ลทั้งหมด เกรทไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอก็คิดออกในที่สุด ขณะที่กำลังถูกเรี่ยวแรงมหาศาลจากร่างเล็กๆ นั้นฉุดกระชากลากไปพร้อมกับพี่ชาย
แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เธอไม่รู้ มันเป็นแอปเปิ้ลอีกลูกหนึ่งซึ่งถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะในโรงช่างของเฒ่าเฮฟ ลูกที่มีรอยกัดเล็กๆ หนึ่งรอย น้ำหวานที่เคยไหลเยิ้มเป็นทางแห้งกรัง กับแมลงวันตัวหนึ่งที่นอนหงายแน่นิ่งอยู่เบื้องหน้ามัน
Create Date : 05 กรกฎาคม 2557 |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2557 21:26:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 543 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|