Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
22 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
The Prestige : เงื่อนชีวิต




(หมายเหตุ : บทความชิ้นนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางตอนของหนัง - และขอความกรุณาใครที่เคยเอาบทความผมไปลงที่อื่น แม้จะไม่ใช่เพื่อการค้า และระลึกตนว่าไม่ได้เขียนดีเด่น บล็อกผมไม่ได้มีคนเข้ามากมาย ก็อยากให้มาขออนุญาตก่อนสักนิดครับ เพราะบางบทความผมต้องส่งเป็นต้นฉบับเพื่อพิจารณาในการตีพิมพ์)

บ่อยครั้งที่มนุษย์มักพลั้งพลาดตกไปอยู่บ่วงของวังวนบางอย่าง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเชื่อว่าตนได้อำนาจที่เหนือกว่าผู้คนทั่วไป

เกริ่นมาอย่างนี้ไม่ใช่จะมาโยงไปเรื่องการเมืองนะครับ แค่นี้ก็เครียดกันมากพออยู่แล้ว แต่จะกล่าวถึงกรณีของสองนักมายากล แองเจียร์ และบอร์เดน ใน The Prestige พฤติกรรมการแข่งขันและห้ำหั่นกันของทั้งคู่ ชวนให้นึกถึงเพลง ‘นักมายากล’ ของวง Paradox ในท่อนที่ว่า “ฉันดั่งคนเล่นกลจนหยิ่งในศักดิ์ศรี อวดบารมีมาบดบังความรัก ได้ทำร้ายใจเธอเจ็บปวดยิ่งนัก ทั้งนอกและในการแสดง” อย่างไรก็อย่างนั้น

ย้อนกลับไป ณ กรุงลอนดอน ปลายศตวรรษที่ 19 ในการแสดงมายากลอันเลื่องชื่อของโรเบิร์ต แองเจียร์(ฮิวจ์ แจ๊คแมน) ซึ่งเราพบว่า อัลเฟรด บอร์เดน(คริสเตียน เบล) นักมายากลคู่แข่งแอบเข้าไปใต้เวทีเพื่อกระทำการบางอย่างเหมือนมีเจตนาทำลายการแสดงครั้งนี้ แต่กลับจบลงด้วยความตายของแองเจียร์ ส่วนตัวเขาถูกตัดสินประหารชีวิตในความผิดข้อหาฆาตกรรม

ในระหว่างที่ถูกคุมขังเพื่อรอการประหาร บอร์เดนได้รับสมุดบันทึกส่วนตัวของแองเจียร์ และเริ่มอ่านเรื่องราวแต่หนหลังเมื่อ ค.ศ.1887 ครั้งที่ทั้งคู่ยังทำงานเป็นหน้าม้าให้กับนักมายากลคณะ Milton The Magician ขณะเดียวกันก็ฝึกปรือฝีมือกับ แฮร์รี่ คัตเตอร์(ไมเคิล เคน) วิศวกรควบคุมกลไกบนเวทีการแสดง บุคลิกของทั้งสองคนนั้นต่างกันออกไป ในขณะที่แองเจียร์เก่งกาจในฐานะผู้ให้ความบันเทิง บอร์เดนกลับเคร่งเครียด จริงจัง และมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์กลใหม่ๆ มากกว่า

จุดเปลี่ยนสำคัญของทั้งคู่มาจากอุบัติเหตุในการผูกเชือกสำหรับการแสดงมายากลชุดแทงค์น้ำ เงื่อนที่บอร์เดนมัดนั้นผิดพลาดทำให้ผู้แสดงอย่าง จูเลีย(ไพเพอร์ เพราบู) ภรรยาของแองเจียร์คลายปมออกไม่ได้ และจมน้ำเสียชีวิต ปริศนาของเงื่อนดังกล่าวได้กลายเป็นเสมือนพันธนาการที่รัดทั้งคู่วให้ถลำลึกสู่วังวนแห่งโลกของมายากลจนไม่อาจหวนกลับได้อีกต่อไป

หลังความตายของภรรยา แองเจียร์ได้แยกออกมาเปิดคณะมายากลตามชื่อที่เธอเคยตั้งให้ว่า The Great Dalton พร้อมจากคัตเตอร์มาเป็นวิศวกรคิดกลต่างๆ ส่วนบอร์เดนได้พบรักและแต่งงานกับ ซาร่าห์(รีเบคก้า ฮอลล์) พร้อมกับเปิดแสดงมายากลเช่นกัน...ทั้งคู่ไม่ได้เพียงขับเคี่ยวกันแค่บนเวทีการแสดงเท่านั้น แต่ยังรักผู้หญิงคนเดียวกัน(สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน ในบท โอลิเวียร์ ผู้ช่วยสาวคนใหม่ของแองเจียร์) ต่างผลัดกันรุก-รับหาทางทำลายกลของแต่ละฝ่าย และแน่นอนมันได้สร้างบาดแผลแก่ชีวิตของพวกเขา รวมถึงทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่คนรอบข้างเคยมีให้ทีละน้อย

เหตุการณ์แต่หนหลังครั้งนั้นถูกดำเนินควบคู่ไปกับการเดินทางของแองเจียร์ สู่เหมืองทองรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามาตามหานักวิทยาศาสตร์ชื่อดังแห่งยุค นิโคลา เทสล่า(เดวิด โบวี่) เพื่อขอให้ประดิษฐ์เครื่องมือในการแสดงกลที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็อ่านตีความบันทึกลับของบอร์เดนเพื่อไขปริศนากลย้ายร่าง(The Transported Man) ซึ่งตนเองยังแก้ไม่ตก และไม่สามารถคิดกลมาเอาชนะได้

The Prestige เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายแฟนตาซี-วิทยาศาสตร์ระดับรางวัลในชื่อเดียวกันของ คริสโตเฟอร์ พรีสต์ เมื่อปี 1995 โดยผ่านการเขียนบทร่วมและกำกับของ คริสโตเฟอร์ โนแลน(Memento, Batman Begin) ซึ่งยังคงจุดเด่นเช่นเดียวกับงานก่อนๆ ไว้อย่างครบถ้วน นั่นคือการเล่าเรื่องที่ตัดสลับระหว่างอดีต และปัจจุบันอย่างเข้มข้น นอกเหนือจากนี้แล้วทุกฉากที่รังสรรค์ขึ้นมา ได้มุ่งเน้นให้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายกับคนดูโดยตลอด ไม่ต่างกับการแสดงมายากลซึ่งประกอบด้วย 3 องก์ นั่นคือ The Pledge(ข้อผูกมัด) แสดงให้ผู้ชมเชื่อว่าเห็นบางอย่างในลักษณะปรกติธรรมดา, The Turn(การหักเห) พลิกแพลงทำให้ผู้ชมเห็นว่าของสิ่งนั้นพิเศษกว่าธรรมดาทั่วไป และสุดท้ายคือ The Prestige(ศักดิ์ศรี) นำเสนอสิ่งที่น่าทึ่งภายในชั่วพริบตา ซึ่งไม่มีใครเห็นมาก่อน สมกับประโยคเริ่มต้นของหนังที่ถามเราว่า “คุณตั้งใจดูมันจริงๆ หรือยัง ?”

คำถามดังกล่าวได้ถูกตั้งขึ้นเพื่อถามทั้งต่อคนดูว่าสามารถเชื่อในกลที่แสดงได้เพียงใด เรามาดูหนังที่เกี่ยวกับมายากล หรือหนังแฟนตาซีที่กำลังปั่นหัวเรากันแน่ ?...เหตุการณ์ซึ่งเกิดในยุควิคเตอเรียน ระหว่างรอยต่อของศตวรรษที่ 20 ทำให้คำถามนี้มีความคลุมเครือมากขึ้น แม้จะเป็นยุคที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมซึ่งมีวิทยาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า แต่ความเชื่อเรื่องลึกลับก็แทรกซึมในวิถีชีวิตผู้คนพร้อมๆ กับความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย

ส่วนปริศนากลของทั้งแองเจียร์ และบอร์เดนนั้น มีอยู่ตั้งแต่ต้นเรื่อง เมื่อคัตเตอร์บอกให้ลองไปชมการแสดงของนักมายากลชาวจีนคนหนึ่ง ที่เขายกให้เป็นมายากลของจริง ผลลัพธ์คือทั้งคู่ได้พบคำตอบว่าไม่มีสิ่งใดมหัศจรรย์อย่างแท้จริง มายากลที่น่าทึ่งของนักมายากลจีนล้วนเกิดจากการยอมเสียสละชีวิตส่วนตัวทั้งชีวิตให้กับการแสดง

คำถามจึงได้ย้อนกลับไปถามคนทั้งคู่แทนว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่กระจ่างได้เพียงตามอง และการต่อสู้ของทั้งคู่เองเล่า แท้จริงแล้วนั้นมันมีค่าควรกับการเสียสละชีวิตเพื่อมันอย่างนั้นหรือ ?

หลังจากที่ขาดรายได้มาจุนเจือครอบครัว บอร์เดนจำต้องแสดงกลย้ายร่าง กลสำคัญที่เขาไม่อยากแสดง มันนำมาซึ่งชื่อเสียง เงินทอง สร้างความอิจฉาให้กับแองเจียร์ที่ไม่อาจแก้ปริศนาของกลที่น่าทึ่งได้ แต่ก็ทำให้บอร์เดนต้องปิดบังชีวิตส่วนตัวกับภรรยาไว้ ไม่ต่างกับเชือกเงื่อนตายที่ตนเองรู้เพียงวิธีผูก แต่ยากจะรู้วิธีแก้มัด

แองเจียร์ตามหาเทสล่าเพื่อเอาชนะบอร์เดน ไม่ต่างกับที่คนของเอดิสันตามหาคู่แข่งหวังขโมยความก้าวหน้าเพื่อชิงความได้เปรียบ ถึงเวลานั้นเองเทสล่าได้หนีไปพร้อมกับทิ้งสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ให้กับเขา แต่ขอให้แองเจียร์ทำลายมันทิ้งเสีย...น่าเสียดายที่มันได้กลายเป็นกับดักสำคัญให้เขาต้องยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตน เพื่อแลกศักดิ์ศรีแห่งมายากลในการเอาชนะคู่แข่ง จนกลายสภาพไม่ต่างจากนกที่ต้องถูกฆ่าตายในการแสดงมายากล

นิโคลา เทสล่า นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นไฟฟ้ากระแสสลับ, เทสล่า คอยล์ และคิดค้นสิ่งประดิษฐ์อีกมากมายจนกลายเป็นตำนาน และมีสมญานามไม่ต่างจากพ่อมด(เช่นเดียวกับ โทมัส อัลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์ชื่อก้องอีกคนของโลก) ชีวิตจริงของเขามีบั้นปลายที่น่าเศร้า แต่เรื่องราวที่ The Prestige นำมาผูกกับเรื่องนั้นก็นำมาอธิบายสัจธรรมของคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี เพราะแม้ทุกวันนี้เขาจะไม่มีชื่อเสียงเทียบเท่าเอดิสัน ก็ไม่สำคัญเท่ากับการละวางต่ออำนาจแห่งวิทยาศาสตร์ที่ขยายขอบเขตเกินกว่าใครจะคาดคิดได้เสียที

การประมือทางมายากลของ แองเจียร์ กับบอร์เดน อาจชวนท้าทาย แต่ข้อผูกมัดที่ทำลายชีวิตของทั้งคู่ น่าจะเป็นบทเรียนให้คนยุคหลังอย่างเราท่านได้ตระหนักถึงภัยแห่งอำนาจซึ่งมีอยู่ทุกหนแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ถ้อยคำที่เรียกว่า ศักดิ์ศรี ซึ่งทั้งคู่เลือกจะได้มาจากการให้ผู้ชมทึ่งต่อความมหัศจรรย์เพียงชั่วเวลาสั้นๆ นั่นเอง

เช่นเดียวกับที่โลกในปัจจุบันมีความคลุมเครือมากขึ้นเข้าไปทุกทียิ่งกว่ายุควิคตอเรียน แต่มนุษยชาติก็ต้องเดินหน้าต่อไปได้ด้วยความจริง มิใช่ มายาภาพ


Create Date : 22 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2549 15:01:26 น. 14 comments
Counter : 1195 Pageviews.

 
มาตามอ่านรีวิวค่ะ

อืมม์..เริ่มเข้าใจที่ไปตอบที่บล็อกเรื่องการสูญเสียตัวตนของบอร์เดนแล้วหละค่ะ



แต่เรารู้สึกต่างไปอะค่ะ เรารู้สึกว่า บอร์เดนตั้งใจเก็บกลนี้ไว้จนกว่าจะถึงเวทีใหญ่ๆ จริงๆ มากกว่ากระมัง

แหะๆ

แต่สงสัยต้องดูอีกซักรอบเพื่อเก็บรายละเอียดอีกที





ดีใจที่ได้อ่านรีวิวหนังเรื่องนี้จากบล็อกนี้นะคะ

ไม่เห็นจขบ.อัพในกลุ่มบล็อกนี้ตั้งนานแล้ว


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:33:08 น.  

 
คือต้องเขียนงานส่งที่อื่น และเคยมีคนแนะนำว่าอย่าเอาไปลงในเว็บ ก็เลยไม่ได้เขียนอีก กว่าจะเอามาลงหนังที่เคยเขียนไปก็ตกสมัยไปแล้ว

แต่บล็อกผมเองไม่ได้โด่งดังที่ไหน ก็เลยคิดว่าช่างเหอะ จะมีคนอ่านสักกี่คน เอามาลงดีกว่า


โดย: yuttipung วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:43:01 น.  

 
อ้อ..เข้าใจค่ะ

แต่ต่อให้ตกสมัยก็เอามาลงได้นะคะ เพราะเราเองก็ยังชอบอ่าน บางทีก็ทำให้เราคิดอะไรได้เพิ่มขึ้น



ถ้ากลัวเรื่องการคัดลอกมีสคริปต์ป้องกันอยู่นะคะ (บล็อกเรายังเคยทำอยู่ช่วงหนึ่งแล้วก็เอาออกไปแล้ว ถ้าอยากได้ก็ลองขอจากบล็อกคุณแพนด้ามหาภัยก็ได้ค่ะ)

ไม่แน่ใจว่าของอ้น-สายลมโชยเอื่อยก็ทำไว้หรือเปล่านะคะ (ส่วนใหญ่บล็อกไหนที่เป็นนักเขียนจะทำสคริปต์ป้องกันการคัดลอกไว้ค่ะ) ถ้ายังไงลองไปขอสคริปต์ที่คุณอ้นเธอก็ได้ค่ะ

จะได้ลงได้อย่างสบายใจค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:12:18 น.  

 
หนังเรื่องนี้หักมุมได้หลายรอบมาก ดูแล้วก็สนุกและลุ้นหลายตอน

หนังสื่อให้เห็นถึง คนที่ยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อศักดิ์ศรี ยอมแม้กระทั่งการแลกด้วยความสุขของชีวิตตัวเอง

และ การไม่ให้อภัย ไม่ระงับการจองเวร ก็จะจองเวรจองกรรมกันไม่มีสิ้นสุดเสียที


โดย: zmen วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:53:51 น.  

 
ชอบลูกเล่นการดำเนินเรื่องด้วยอ่ะค่ะ สลับไปสลับมา งงดี

ส่วนเรื่องการที่มีคนมาคัดลอกบทความไปนี่..........มัน......เป็นเรื่องที่น่ากลัวนะคะ


โดย: renton_renton วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:07:22 น.  

 
แวะมาอ่านครับ เคยคิดจะดูเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาสเสียที


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:23:19 น.  

 
สวัสดีค่ะ
เรื่องนี้มีคนแนะนำให้ดูหลายคนค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสเลย คงต้องรอดูแผ่นตามระเบียบ

ยังมีหนังของ Tarkovsky อยู่อีกเรีื่องนึง แต่ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ยังมึนกับเรื่องเดิมอยู่


โดย: rebel วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:21:27:09 น.  

 
หนังของทาร์คอฟสกี้ ผมคิดว่ามันก็มีวิธีดูอยู่ 2 วิธีนะครับ คือดูหลายๆ รอบเก็บรายละเอียด(ในหนังที่ผมดูมีการท่องบทกวี และสัญลักษณ์ด้านภาพเยอะเลย) แต่ส่วนตัวผมดูผ่านๆ ครับ เพราะผมคิดว่าสุดท้ายบทสรุปในเชิงปรัชญานั้น หนังก็สรุปให้ได้ในระดับหนึ่งครับ


โดย: yuttipung วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:23:01:18 น.  

 
ชนะคู่แข่งไม่ยากเท่าชนะใจตัวเอง
สองคนนี่ดิ้นไม่หลุดจากข้อผูกมัด เพราะพวกเขาเอาชนะตัวเองไม่ได้รึเปล่าคะ

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเทสลาจริงๆ เหรอคุณท้อป
มันน่าดูมากเพราะเรื่องเทสลานี่แหละ ไว้จะหามาดู

บล๊อกนี้ถึงไม่ดังแต่มีแฟนประจำนะ
เรื่องก็อปปี้ข้อความนี่ เจอกันเยอะจัง
สุดท้ายกี๋ว่ามันขึ้นอยู่กับเราแล้วหละ อัพขึ้นเนตปุ๊บ
มันก็ไม่ไพรเวทแล้วหละ ที่เหลือก็วัดดวงเอา

ไม่ได้มาเยี่ยมซะนาน คุณท้อปสบายดีนะคะ


โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:0:59:21 น.  

 
ชนะคู่แข่งไม่ยากเท่าชนะใจตัวเอง
สองคนนี่ดิ้นไม่หลุดจากข้อผูกมัด เพราะพวกเขาเอาชนะตัวเองไม่ได้รึเปล่าคะ
^
^
ถ้าชนะใจตัวเองหมายถึง "ปลงตก" ก็ถือว่าใช่ครับ เพราะแองเจียร์น่าจะอาการหนักกว่า บอร์เดน ในเรื่อง ตกที่เขายังปลงไม่ตกในชีวิตนั่นแหละ

เกี่ยวกับเทสลา จริงๆ ครับ เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่นำมาปนกับหนังได้เนียนดีครับ

ไม่ได้มาเยี่ยมซะนาน คุณท้อปสบายดีนะคะ
^
^
^
สบายดีครับ


โดย: yuttipung วันที่: 18 ธันวาคม 2549 เวลา:14:22:17 น.  

 
สวัสดีและสุขสันต์วันจิงเกอร์เบลค่า





โดย: renton_renton วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:22:30:54 น.  

 
สวัสดีวันส่งท้ายปีครับพ่ี
ขอให้มีความสุขมากๆครับผม


โดย: วัชเจียเหว่ย วันที่: 31 ธันวาคม 2549 เวลา:11:35:54 น.  

 
มาสวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้คุณมีความสุขมากๆในวันปีใหม่นี้


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 31 ธันวาคม 2549 เวลา:20:09:24 น.  

 
เขียนได้ดีมากจริงๆ


โดย: YoiChi_KunG วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:15:18:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.