Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
9 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
Ghost World อยู่อย่างคนไม่มีสิทธิ์




ในวัยรุ่นคุณเคยรู้สึกแปลกแยกจากคนอื่นหรือเปล่า ? ผมเชื่อว่าไม่ว่าใครต้องเคยรู้สึกผ่านช่วงเวลาอันสับสนในวัยรุ่น รู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจ แปลกแยกจากพ่อแม่ ผู้ใหญ่ สังคม หรือแม้แต่เพื่อนฝูงไม่มากก็น้อย และถ้าใครเคยผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเข้าใจหนังอย่าง Ghost World หรือตัวละครอย่าง อีนิดมากขึ้นเท่านั้น

คุณเคยไหมที่เห็นว่าสังคมและคนรอบข้างมันงี่เง่าสิ้นดี โดยไม่อาจสลัดความคิดเหล่านี้ให้หลุดไปได้ เพราะเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ แม้จะต้องสูญเสียสิทธิ์และโอกาสหลายๆสิ่ง แต่คุณยังยอมจะแปลกแยกอย่างนี้ต่อไปดีเสียกว่าทำตามค่านิยมที่สังคมเขาโยนใส่หัวคุณ




อีนิด (ธอร่า เบิร์ช) เป็นคนหนึ่งแน่ๆ ซึ่งคิดแบบนั้น เธอมองเพื่อนในรุ่นเดียวกันนอกจาก รีเบคก้า(สการ์เลต โยฮันสัน) เพื่อนซี้อย่างสุดเซ็งในรสนิยมและท่าทางของพวกเขาเหล่านั้น ชีวิตเธอหมกมุ่นอยู่กับการทำเรื่องประหลาดๆ เช่นมองบุคลิกผู้คนที่ผ่านเข้ามาอย่างติดตลกและวาดเป็นตัวการ์ตูน หาเพื่อนที่เป็นพนักงานมินิมาร์ทโทรมๆ อย่าง จอช แบบหยอกเล่นๆ นอกจากนี้อีนิดยังมีชีวิตครอบครัวที่ต่างคนต่างแทบไม่พูดกันสักคำ นานๆทีพ่อของเธอจะพูดอะไรออกมา ก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกที่ดีให้เธอเลยแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ดี หนังชี้ให้เห็นว่า ท่าทีมองคนอย่างมืดๆ ของอีนิด มาจากความหัวเร็ว แต่ปากร้าย สบถคำแสลงได้ไม่หยุด แต่กลับเสแสร้งทำสิ่งที่เธอไม่ชอบไม่ได้ ความซวยและหมดโอกาสในสังคมจึงประดังเข้ามาอยู่เนืองๆ ตั้งแต่หลังจากจบการศึกษา เธอกลับต้องมาเรียนซ่อมวิชาศิลปะซึ่งมีครูสอนที่ต้องรสนิยมจากคำอธิบายของนักเรียนมากกว่าอื่นใด เธอมีความฝันว่าจะแยกตัวจากบ้านไปหาอยู่กับเพื่อนสนิทคนเดียว ในขณะที่รีเบคก้าได้หางานพิเศษ แต่เธอกลับทำไม่ได้ ครั้นจะขายของสะสมเพื่อหาเงินแต่ละอย่างก็ฝืนจะสละสิ่งเหล่านั้นได้อีกเช่นกัน

อาจกล่าวได้ว่าพฤติกรรมของอีนิด เป็นผู้ที่พอใจในตัวเองดีอยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุการณ์หลายๆอย่าง ราวกับว่าโลกที่เธอมอง กับที่คนอื่นมองเห็นนั้นราวกับอยู่คนละขั้วเลยทีเดียว เธอมองคนอื่นอย่างรังเกียจเพียงใด ผู้คนรอบข้างก็ยิ่งถอยห่างจากเธอยิ่งขึ้นเท่านั้น

อีนิดรู้จักกับเซย์มัวร์(สตีฟ บุสเซมี่) พนักงานบริษัทดูท่าทางตลกๆ ไม่มีมาดขาดแรงดึดดูดใดๆ จากความต้องการกลั่นแกล้งลองนัดออกเดท และสืบพฤติกรรมของชายคนนี้ด้วยเห็นเป็นเรื่องตลก แต่เมื่อได้ศึกษาและเรียนรู้เซย์มัวร์ เธอกลับพบสิ่งดีที่เธอไม่เคยคาดคิดในตัวชายกลางคนอารมณ์เปลี่ยวเหงาธรรมดา และทำให้ปิดเทอมของเธอมีเรื่องราวเกี่ยวเนื่องไปกับเซย์มัวร์ปนเปไปกับการเรียนซ่อมวิชาศิลปะที่ต้องเอาชนะใจครู, ปัญหาครอบครัว, และเรียนรู้ความแปลกแยกในตัวเธอเอง

Ghost World ร่ำๆ มีสิทธิ์จะกลายเป็นหนังแนว Coming of Age(หนังที่ว่าด้วยเรื่องการก้าวข้ามช่วงวัยหนึ่งสู่อีกวัยหนึ่ง) ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาก่อนจะจบการศึกษาจริงๆ ของอีนิดที่เปิดโอกาสให้พบประสบการณ์ต่างๆ, การพบกับบุคคลพิเศษในความทรงจำ, ลักษณะที่เจาะลึกให้เราเห็นโลกส่วนตัวของตัวละครอย่างใกล้ชิด, ความรู้สึกแปลกแยกแบบชีวิตวัยรุ่น ที่คุ้นชินกันดีจากหนังแนวนี้โดยเฉพาะที่มีตัวเอกเป็นวัยรุ่น

แต่พอเริ่มเข้าใกล้แนวทางนั้นเมื่อไหร่ ผู้กำกับ เทอร์รี่ ซวิกอฟฟ์ และผู้เขียนบท แดเนียล โครเวส ก็เหมือนจะหนีห่างแนวทางนั้นไปอีก ตัวอย่างเช่น ฉากที่เอนิดเปิดแผ่นเสียงที่ซื้อมาจากเซย์มัวร์ ซึ่งมันน่าจะเป็นเพลงที่ “โดน” หรือไม่ก็ “ยี้” ทันที แต่หนังกลับเลือกที่จะถ่ายอิริยาบถระหว่างการฟังของอีนิดไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่อาจทราบได้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับมันจริงๆ หรือการสร้างสถานการณ์ที่มีสิทธิ์ให้มันกลายเป็นฉากตลกฮากลิ้งได้ตลอดจากพฤติกรรมของคนในเรื่องและการมองโดยสายตาของอีนิด แต่ก็ปล่อยให้ผ่านเลยไป พวกเขาก็เลือกที่จะปล่อยคนดูให้เห็นอะไรเช่นนี้ไปตั้งแต่ต้นจนจบในแทบทุกฉากได้ ราวกับสนุกกับการหักหลังกับความคาดหวังคนดูยังไงยังงั้น

ไม่ต่างกับอีนิดที่เอาเข้าจริงเธอก็ยังแปลกแยกอยู่เช่นเดิมไม่ได้ก้าวพ้นวัยเช่นเดียวกับวัยรุ่นในหนังประเภทนี้แต่อย่างไร

จนน่าจะเรียกได้ว่า วัยรุ่นในหนังแนว Coming of Age โดยทั่วไปนั้นของหนังอเมริกาเป็นวัยรุ่นแบบอุดมคติ แม้จะพบอุปสรรคเพียงใดแต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็จะได้รับสัจธรรมนำทางชีวิตไปบ้างไม่มากก็น้อย แต่กรณีอย่างอีนิดกลับแสดงถึงลักษณะของวัยรุ่นซึ่งไม่รู้หนทางในอนาคตได้ชัดเจนกว่า สมจริงกว่า เพราะมีวัยรุ่นไม่กี่คนหรอก ที่จะได้หรือจดจำประสบการณ์ประทับใจ พบฮีโร่ในชีวิตที่เขาจดจำได้ไม่รู้ลืม

คนอย่าง เซย์มัวร์ ที่เธอแอบชื่นชมและพยายามผลักดันคืนชีวิตให้กับเขา หรืออีกนัยหนึ่งคือความต้องการสร้างให้เป็นผู้ช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกันนั้น กลับเป็นผู้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการสื่อสารสิ่งดีๆในตัวเขาออกมาได้ ขาดเสน่ห์ดึงดูดใดๆ และตัดขาดจากโลกภายนอกไม่ต่างจากเธอ ผลที่ได้ในแผนการของอีนิดจึงส่งผลล้มเหลวต่อทั้งเธอและเซย์มัวร์

ในขณะที่อีนิดเป็นวัยรุ่นที่แปลกแยกไม่รู้จบ เพื่อนคนสนิทอย่าง รีเบคก้า กลับเป็นวัยรุ่นที่ผ่านช่วงความแปลกแยกและเข้าสังคมได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยการทำงานพิเศษในร้านฟาสต์ฟู้ด, แต่งตัวเป็นคนมีเงิน, และหาบ้านเช่าอยู่ อันที่จริงก็มีหลายครั้งที่บ่งบอกว่าระยะห่างระหว่างพวกเธอทั้งสองมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุดกระทั่ง “ที่รีดผ้า” ก็กั้นพวกเธอให้ต่างกันชัดเจน และท้ายที่สุดเธอเองก็ไม่ได้แค่ต้องการจะออกจากบ้าน แต่ต้องการจะหนีจากทุกสิ่งเลยเสียด้วยซ้ำ

หนังจบเหมือนจะมีความหวังเมื่อชายแก่ที่รอคอยรถเมล์สายที่ยกเลิกไปแล้วสมหวังราวกับปาฏิหารย์ แต่ดูเหมือนชะตากรรมของ “คนไม่มีสิทธิ์” อย่างอีนิด หรือเซย์มัวร์ ดูจะยังไม่รู้จุดหมายอยู่เช่นเดิม เพราะทางออกของเธอ และเขาต่างไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะลงเอยเช่นไร




คุณอาจคิดว่านี่คือหนังหดหู่ มันกลับเต็มไปด้วยภาพสีสันสดใสแบบหนังการ์ตูน หากคุณรู้มาว่านี่คือหนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูน(โดยผู้เขียนบทและกำกับศิลป์ร่วมในเรื่อง แดเนียล โครเวส) มันกลับเป็นหนังวัยรุ่นสะท้อนความเป็นวัยรุ่นได้อย่างเห็นชัดกว่าหนังวัยรุ่นที่ถ่ายทอดด้วยบรรยากาศสมจริงเสียอีก หากคุณดูแล้วคาดว่าจะได้พบหนังตลกร้ายฮากลิ้ง คุณก็ได้พบเห็นหนังที่เล่าเรื่องราบเรียบ มีรอยยิ้มมุมปากเจือปนเล็กน้อยเท่านั้น

และถ้าคุณพบว่านี่มันหนังอะไรกัน ถึงน่าเบื่อได้ขนาดนี้ ขอให้คุณลองกลับไปนึกถึงช่วงเวลาในวัยรุ่นอีกครั้งแล้วดูมันใหม่อีกรอบ รายละเอียดที่หล่นหายคล้ายกางเกงยีนส์ตกพื้น(ในเรื่อง)ก็จะมาปรากฎตรงหน้าได้ไม่ยาก

มีฉากหนึ่งที่เหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องเลย ภายในร้านวิดีโอร้านหนึ่งที่อีนิดและรีเบคก้าเข้าไป นักดูหนังคนหนึ่งถามพนักงานว่า “มีหนังเรื่อง 8 1/2 หรือไปครับ(ผลงานคลาสสิคของผู้กำกับอิตาลี เฟเดริโก เฟลลินี่) “

พนักงานค้นและตอบกลับไปว่า “จากข้อมูลเราพบแต่ 9 1/2 Weeks (ผลงานอีโรติคอีกเรื่องของเอเดรียน ไลน์) ไม่ทราบจะรับแทนได้ไหมครับ” แต่นักดูหนังคนนั้นก็ยังยืนกรานถามเรื่องเดิมอย่างเจียมตน ไม่อาจเรียกร้องได้มากกว่านั้น (อันที่จริงผู้กำกับได้แสดงให้เห็นเมื่อจบเครดิตท้ายเรื่องด้วยว่า สามารถทำหนังตลกตามตลาดด้วยฉากเดิม แต่พวกเขาก็ไม่ทำ)





ฉากที่ว่าผมขอโมเมว่า เทอร์รี่ ซวิกอฟฟ์ และหนังเรื่องนี้ก็เลือกจะเป็นคนไม่มีสิทธิ์ แบบตัวละครในเรื่อง เลือกจะเป็นหนังอย่าง 8 1/2 ที่ไม่ต้องรสนิยมผู้ผลิตและผู้บริโภคโดยทั่วไป พวกเขาไม่ใช่และไม่คิดจะเป็น 9 1/2 Weeks

แต่ที่แน่ๆเขา กับ Ghost World ก็ได้สร้างสิทธิ์ทางเลือกให้กับคนดู(อย่างผม)ไปเรียบร้อยแล้ว





Create Date : 09 กรกฎาคม 2548
Last Update : 9 กรกฎาคม 2548 17:56:10 น. 5 comments
Counter : 3512 Pageviews.

 
ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้เลยครับ ฉายใน UBC ก็พลาดทุกที


โดย: merveillesxx วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:30:16 น.  

 
ขอบคุณที่แวะทักทายกันนะคะ

และแวะมาอ่านรีวิวหนังด้วยค่ะ แล้วจะลองหามาดูนะคะ


โดย: สายลมโชยเอื่อย วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:35:28 น.  

 
เพิ่งดูหนังเรืองนี้จบ แต่ไม่ค่อยเข้าใจ เพิ่งจะเข้าใจก็ตอนอ่านบทความนี ขอบคุณมากครับ เขียนได้ดีมาก ทำให้เราเข้าใจหนังเรืองนีทันที เดียวกลับไปดูใหม่



โดย: Ausdresden IP: 141.76.121.15 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:57:07 น.  

 
^
^
ขอบคุณครับ

ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีคนมาอ่าน เพราะเขียนไว้นานมากแล้ว


โดย: yuttipung วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:18:52 น.  

 
เขียนได้ดีมาก


โดย: Hellcat IP: 27.55.93.181 วันที่: 15 เมษายน 2567 เวลา:0:03:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.