Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

รอยอาญา ๔๓ (ธัญรัตน์)




“ดูมันสิ ไม่ไหวเลยขับรถแค่นี้ทำเป็นบ่นว่าเหนื่อย อ้าว...เจ้าโป่งเอาของไปเก็บในห้องเถอะไป”
กำพลบ่นตามหลังเขา
“เป็นยังไงบ้างลูก พ่อไม่อยู่หลายวันเพลงเหงาหรือเปล่าลูก แล้วทำไมดูสีหน้าไม่ค่อยจะสดชื่นเลย แล้วนี่...เอ่อ...”
“เขาไม่อยู่ค่ะคุณพ่อ ไปดูงานแต่อีกหน่อยคงจะกลับค่ะ”เธอรีบดักคอพ่อเอาไว้
“ดีเลยจะได้มากินข้าวด้วยกัน พ่อซื้อของมาเยอะแยะเลย”กำพลบอกและยิ้มออกมา

“เขาไม่กินหรอกค่ะคุณพ่อ พอเขามาเพลงก็จะให้เขากลับบ้านแล้วค่ะ”
เธอบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูจะเศร้าใจไม่น้อย แต่กำพลไม่ทันที่จะได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น ลูกก็เดินหายเข้าไปในห้องเอาดื้อ ๆ โดยที่ไม่ได้สนใจที่จะไต่ถามสารทุกข์ของพ่อเลยเลยด้วยซ้ำ ทำให้กำพลรู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่ก็ยังไม่อยากจะถามอะไรเธอในตอนนี้ ได้แต่ก้มลงหอมแก้มหลานชายที่นั่งอยู่บนตักเขานั่นเอง


รถสปอร์ตขับเข้ามาจอดที่สนามบ้านสวนด้วยความเร็ว เพราะดนุพรรู้ดีว่าตัวเองกลับมาค่อนข้างดึก ด้วยกว่าที่เขาจะจัดการกับปัญหาที่หน้างานให้จบลงด้วยดีนั้นก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่เขาก็ยังอุ่นใจที่พิสิทธิ์บอกว่าวันนี้กำพลกลับมานอนที่บ้านแล้ว ประตูบ้านปิดสนิท บ้านก็ดูเงียบผิดปกตินัก

“เพลงผมกลับมาแล้ว เปิดประตูหน่อย คุณหลับหรือยัง”
เขาเดินไปเคาะประตูและเรียกระพีพรรณอยู่นานแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากใคร เขาเดินอ้อมไปหลังบ้านเพื่อหวังจะเรียกคนในบ้านจากครัว แต่ก็พบว่าประตูปิดสนิทเหมือนกัน แล้วเขาก็เดินอ้อมมาหน้าบ้านอีกครั้ง ก็พบว่าระพีพรรณยืนรอเขาอยู่หน้าบ้านแล้ว

“เพลงทำไมวันนี้บ้านเงียบจังเลย ผมเรียกคุณตั้งนาน คุณกินข้าวหรือยัง ผมซื้อกับข้าวมาด้วย ขอโทษด้วยนะที่ผมกลับมาช้า เพราะมีปัญหามากจริง ๆ กว่าที่ผมกับเจ้าสิทธิ์จะเคลียร์ได้ก็เกือบสามทุ่มแล้ว แต่ผมยังไม่ได้กินอะไรนะ กะว่าจะมากินพร้อมคุณ แล้วลูกหลับหรือยัง พ่อคุณกลับมาแล้วใช่มั้ย”
เขาถามเธอด้วยความกระตือรือร้น แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมตอบอะไร ได้แต่มองหน้าเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย จนเขาสังเกตเห็นได้ชัด

“เพลงคุณเป็นอะไร ทำไมไม่พูด หรือว่าคุณโกรธที่ผมกลับมาช้า ผมขอโทษ”เขาบอกเธอและเดินไปใกล้ ๆ เธอ
“คุณกลับไปได้แล้วค่ะ และไม่ต้องมาที่นี่อีก คุณพ่อกลับมาแล้ว”
เธอบอกเขาออกไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวดที่สุด กับทางเลือกที่ตัวเองใช้เวลาคิดมาหลายชั่วโมง
“คุณหมายความว่ายังไงผมไม่เข้าใจ แล้วเรื่องของเราล่ะ”เขาถามด้วยความงง

“ไม่มีเรื่องอะไรระหว่างเราค่ะ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว และขอให้เราเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันตลอดไป อย่ามายุ่งกับฉันและคนที่นี่อีก เราต้องการจะอยู่อย่างสงบ”เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหินเป็นที่สุด
“คุณหมายความว่ายังไงเพลง ทำไมจนป่านนี้แล้วคุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าผมต้องการอะไร หรือว่าคุณยังสงสัยอะไรในตัวผมอีก ถามผมได้นะถ้าคุณเข้าใจอะไรที่ผิด ๆ ผมได้อธิบายได้ แต่ผมขอร้องว่าคุณอย่าทำอย่างนี้เลย ผมต้องการคุณกับลูกมากแค่ไหนคุณก็รู้ และคุณก็รู้ว่าผมรักคุณ ต้องการรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำลงไป คุณยังจะมาไล่ผมอีกเหรอ ผมไม่เข้าใจคุณเลยเพลง”
เขาอดที่จะต่อว่าเธอไม่ได้

“แต่ฉันไม่ได้รักคุณค่ะ ฉันมีคนรักของฉันอยู่แล้ว ฉันไม่ต้องการให้คนที่ฉันไม่ได้รักมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น”
น้ำเสียงและสีหน้าที่มองไปที่เขานั้นช่างเฉยเมยเหลือเกิน จนดนุพรเห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจเอามาก ๆ
“ใคร....คุณรักใคร...หรือว่า....พี่เด่น...”เขานึกขึ้นได้ว่าเห็นรถพี่ชายมาที่บ้านสวนตอนบ่าย

“ใช่ค่ะ ฉันรักพี่เด่น ฉันเคยบอกคุณไปแล้ว เรารักกัน รักมานานแล้ว และฉันก็อยากจะใช้ชีวิตคู่กับเขา ส่วนคุณก็กลับไปได้แล้ว พวกเรายกโทษให้คุณแล้ว ต่อไปนี้เราก็ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ฉันก็จะได้อยู่กับคนที่ฉันรักได้อย่างสบายใจซักที”
เธอยังคงมองเขาบอกด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยและห่างเหินเขาเป็นที่สุด

“ไม่จริง ถ้าคุณรักพี่เด่น แล้วเมื่อบ่ายทำไมคุณถึงได้....”
“ฉันก็แค่อยากจะรู้ว่าคนอย่างคุณนี่หลอกง่ายแค่ไหนไงคะ คุณเคยแต่จะหลอกคนอื่นมามากแล้ว ทีนี้รู้หรือยังคะว่าการที่ถูกคนอื่นหลอกมันเป็นยังไง เรื่องเมื่อบ่ายมันไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้นค่ะ เชิญคุณกลับบ้านไปได้แล้ว และอย่ามาที่นี่อีก”
เธอบอกและก้าวเดินเพื่อจะเข้าบ้าน แต่ก็มีเขามาขวางเอาไว้

“คุณแน่ใจเหรอเพลงว่าสิ่งที่คุณพูด มันออกมาจากใจคุณ คุณแน่ใจเหรอว่าคุณแค่หลอกผม ว่าคุณไม่ได้รักผม”
เขาถามด้วยสีหน้าที่ผิดหวังที่สุด
“ฉันแน่ใจที่สุดค่ะ ขอตัวนะคะ”

เธอเดินเลี่ยงเขาเข้าไปในบ้านและปิดประตูใส่หน้าเขาเอาดื้อ ๆ สร้างความมึนงงให้เขาไม่น้อยเลย แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เขาค่อย ๆ เดินไปนั่งที่รถและรออยู่ที่หน้าบ้านได้สักพัก ก็ไม่มีแม้แต่วี่แววว่าระพีพรรณจะกลับออกมาอีก เสียงเรียกเข้าที่มือถือดังขึ้น เขาปิดมันทิ้งทันทีเมื่อรู้ว่านั่นคือนัชนิน เพราะเขาไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับใครทั้งนั้นในตอนนี้ และเขาก็ตั้งใจว่าจะหาเวลาว่างไปบอกความจริงกับนัชนินสักที ในเรื่องลูกและเมียแต่ก็ยังไม่มีเวลาเลย

ความเหนื่อยอ่อนของร่างกายเรียกร้องให้เขาสตาร์ทรถ และขับออกไปจากบ้านสวนตรงไปพักผ่อนที่คอนโดของเขาเพื่อตั้งหลักก่อน แล้วเขาก็ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะกลับมาหาเธอใหม่ เขาก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้นกว่านี้ เพราะวันนี้ระพีพรรณอาจจะโกรธที่เขากลับมาช้าก็เป็นได้


เวลาบ่ายคล้อยของวันต่อมากำพลหันไปมองโทรศัพท์ที่ดังเป็นรอบที่ร้อยแล้วก็ว่าได้ตั้งแต่เช้ามาจนถึงตอนนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถไปรับได้ เพราะลูกสั่งห้ามไม่ให้รับโทรศัพท์ ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจลูกสาวนัก เพราะเขาเห็นท่าทีของลูกแล้ว คิดว่าคงจะต้องมีเรื่องไม่สบายใจเอามาก ๆ

ในที่สุดเขาก็ละมือจากเปลหลาน เข็นรถไปดึงสายโทรศัพท์ออกเพื่อให้เสียงเงียบ เพราะไม่อยากจะให้หลานตื่นขึ้นมาในตอนนี้ เสียงรถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เขาชะเง้อไปมอง ก็พบว่าเป็นรถของเด่นณรงค์ แทนที่จะเป็นของดนุพรตามที่เขาคิดเอาไว้แต่แรก

“สวัสดีครับคุณท่าน คุณเพลงโทรนัดให้ผมมาหาที่นี่ครับ บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย คุณเพลงอยู่ไหนครับ”
เด่นณรงค์ไหว้กำพลทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน
“ยายเพลงบอกว่าจะรอพ่อเด่นอยู่ที่ท้ายสวนแหนะ เพิ่งจะกลับจากออฟฟิศเหมือนกัน”เขาบอก
“แล้วมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ น้ำเสียงคุณเพลงไม่ค่อยจะดีเลย”เขาอดสงสัยไม่ได้
“ไปคุยกันเองก็แล้วกันนะ ฉันไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเด็ก ๆ ขอเลี้ยงหลานอย่างเดียวดีกว่า”
เขาตอบไปตามความรู้สึก เพราะเดาไม่ถูกว่าลูกสาวมีปัญหาอะไร ถามก็ไม่ยอมบอกได้แต่เงียบไปเฉย ๆ

“ครับ งั้นผมไปหาคุณเพลงก่อนนะครับ”
เด่นณรงค์รีบผละออกมาจากกำพล เพราะรู้สึกว่ากำลังอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ไม่นานเขาก็เห็นระพีพรรณยืนหันหลังให้เขาอยู่ที่ท้ายสวน
“คุณเพลง”เขาเรียกชื่อเธอด้วยความเคยชิน
“พี่เด่นมาแล้วเหรอคะ”เธอหันมาหาเขา พร้อม ๆ กับในมือก็ถือสมุดบันทึกเอาไว้
“เมื่อวานพี่เด่นทำนี่ตกหรือเปล่าคะ เพลงเก็บเอาไว้ให้ ใช่ของพี่เด่นหรือเปล่าคะ”
เธอบอกพร้อม ๆ กับยื่นสิ่งที่ถืออยู่ให้เขา

“ใช่ครับ พี่ก็หาอยู่ตั้งนาน ไม่รู้ว่ามาตกอยู่ที่บ้านคุณเพลงได้ยังไง ขอบคุณมาก ๆ นะครับ”
เขาบอกเธอด้วยความดีใจ เพราะตั้งแต่กลับถึงบ้านเมื่อวานเขาก็หาสิ่งนี้แทบจะทั้งคืนแต่ก็หาไม่พบ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าไปลืมไว้ที่ไหน
“มันคงจะสำคัญกับพี่เด่นมาก ๆ เลยนะคะ”เธอถามด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อยลง
“ครับมันมีความทรงจำดี ๆ หลาย ๆ อย่างอยู่ในนี้ ขอบคุณคุณเพลงมาก ๆ ที่เก็บไว้ให้พี่ ธุระของคุณเพลงมีแค่นี้เหรอครับ เห็นว่ามีเรื่องจะคุยกับพี่”เขาถามเพราะนึกขึ้นได้
“ไม่มีแล้วค่ะ เพลงแค่อยากจะบอกว่าเก็บสมุดไว้ให้พี่เด่นแค่นั้นค่ะ แล้วพี่เด่นล่ะคะ มีอะไรจะบอกเพลงหรือเปล่า”
เธอถามเขาออกไปในที่สุด

“ไม่มีครับ งั้นพี่ว่าเราออกไปข้างนอกดีกว่า เห็นคุณลุงคุยน้อยลงกว่าหลาย ๆ ครั้ง ไม่รู้มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”เขาบอกตามความรู้สึกพร้อม ๆ กับหันหลังให้เธอเพื่อจะเดินนำเธอไป
“ใจจริงพี่เด่นไม่คิดที่จะให้เพลงรู้เลยใช่ไหมคะ ว่าพี่เด่นคิดยังไงกับเพลง”
เธอตัดสินใจเริ่มในสิ่งที่ตั้งใจจะพูดกับเขา พร้อม ๆ กับรู้สึกเจ็บลงไปลึก ๆ ที่อก ที่พบว่าความรักของตัวเองที่มีให้กับใครคนหนึ่งนั้นช่างเต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรคเหลือเกิน

“คุณเพลงพูดถึงอะไรครับ พี่ไม่เข้าใจ”เขาหันกลับมาถามเธอด้วยความสงสัย
“พี่เด่นหาเขาพบหรือยังคะ เด็กน้อยหน้าใสผมเปียคนนั้น เด็กน้อยที่พี่เด่นได้มอบหัวใจให้เขามานานนับสิบปี พี่เด่นพบเขาหรือยังคะ พบแล้วพี่เด่นบอกเขาหรือยังคะ ว่าพี่เด่นคิดยังไงกับเขา”
เธอถามเขาออกไปพร้อม ๆ กับน้ำตาแห่งความสงสารเขาก็ไหลรินออกมาอย่างช้า ๆ
“คุณเพลงพูดอะไรครับพี่ไม่รู้เรื่อง พี่ว่าเรากลับออกไปข้างนอกดีกว่านะ เดี๋ยวอีกหน่อยยุงจะชุม”
เขาบอกเธอและหันหลังกลับเพื่อจะเดินหนีเธอไป เพราะคาดเดาได้ว่าเธอคงจะอ่านบันทึกของเขาให้แล้ว

“แล้วเมื่อไหร่พี่เด่นจะบอกเธอคะ ว่าพี่เด่นรักเธอ และพี่เด่นเจ็บปวดแค่ไหนที่จะต้องสูญเสียเธอไป แล้วพี่เด่นไม่คิดว่าเด็กคนนั้นเขาจะมีความรู้สึกเดียวกันกับพี่เด่นบ้างเหรอคะ มันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอคะพี่เด่น ถ้าเธอจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้รับรู้ว่ามีใครคนหนึ่งแอบมอบความรู้สึกดี ๆ ให้เธอ”
น้ำเสียงที่เครือเต็มทีบอกเขาออกไป แต่เขาก็เลือกที่จะหันหลังให้เธออยู่อย่างนั้น เขาบอกไม่ได้ว่าเขาสับสนแค่ไหนที่ได้ยินสิ่งที่เธอบอกออกมา แล้วหน้าน้องชายก็ลอยมาอยู่ใกล้ ๆ เขาอีกครั้ง และมันก็เป็นเครื่องสั่งการขาของเขาให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้ดี

“พี่เด่นไม่คิดบ้างเหรอคะ ว่าเพลงจะรักพี่เด่น และอยากจะมีพี่เด่นเป็นผู้นำชีวิต”
เธอตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าจะกล้าพูดมันออกมา ส่วนน้ำตานั้นยิ่งเธอเอ่ยคำนี้ออกมา มันยิ่งไหลไม่ขาดสาย เพราะเธอรู้สึกสงสารตัวเองเป็นที่สุด ที่จะต้องบอกเขาออกไปแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ในใจนั้นขมขื่นเป็นที่สุด ที่แค่ในจิตนาการว่าจะต้องเดินคนละทาง กับคนที่เป็นพ่อของลูกตัวเอง ใบหน้าของเขาที่ได้ยินคำบอกเล่าเธอเมื่อวานนี้ มันยังลอยเด่นมาตอกย้ำความเจ็บปวดให้เธอได้ดีเหลือเกิน และคำ ๆ นี้มันก็ทำให้เด่นณรงค์หยุดเดินและหันกลับมาหาเธอที่บัดนี้สองแก้มขาวเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลอาบลงมา

“มันจะมีทางเป็นไปได้หรือเปล่าคะที่เราสองคนจะกลับมาสานต่อความรู้สึกดี ๆ ที่เราเคยมีให้กัน พี่เด่นจะรังเกียจผู้หญิงที่มีอดีตที่ไม่ขาวสะอาดอย่างเพลงหรือเปล่าคะ แล้วพี่เด่นพร้อมที่จะยืนเคียงข้างกับผู้หญิงที่แทบจะมีแต่ตัวอย่างเพลงได้หรือเปล่าคะ”
เธอถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่นที่อยากจะได้คำตอบ ประหนึ่งว่าตัวเองนั้นแทบจะขาดเขาไม่ได้ แต่เธอก็จำเป็นที่จะต้องทำแบบนี้ ถ้าไม่เช่นนั้น อาจจะตบตาเด่นณรงค์ไม่ได้

และเมื่อเธอทำไม่สำเร็จ เขาก็จะไม่เชื่อว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง แล้วเขาก็จะไม่มีวันที่จะยอมรับได้ ถ้ารู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาและไม่ได้ต้องการเขาอย่างที่พูดออกมา เพราะในความคิดของเธอแล้ว รู้ดีว่า ถึงเขาจะรักเธอมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่มีวันที่จะเห็นแก่ตัว ยอมอยู่กินกับคนที่เธอไม่ได้รักเป็นแน่ และยิ่งรู้ว่าคนที่เธอรักนั้นคือน้องชายเขาด้วยแล้ว ระพีพรรณมั่นใจว่าเด่นณรงค์จะต้องเป็นฝ่ายยอมเจ็บปวดเสียเอง เหมือนที่เขาเขียนไว้ในบันทึกนั้นอย่างแน่นอน

และเธอก็ทนไม่ได้อีกเหมือนกัน ที่จะทนเห็นเขาต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะรักคน ๆ เดียวกับน้องชายตัวเอง เธอไม่สามารถที่จะปล่อยให้คนดี ๆ อย่างเด่นณรงค์ต้องพบกับชะตาความรักแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะชีวิตเขาโชคร้ายมามากพอแล้ว และเธอจะไม่มีวันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาโชคร้ายเพิ่มมากขึ้น

“คุณเพลง”

เขาเรียกชื่อเธอได้แค่นั้น เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้ยินสิ่งที่เธอบอกเขามาก่อน แล้วเขาก็หวนคิดไปถึงเรื่องระหว่างเขาและเธอในอดีต และพยายามจะคิดทบทวนดูว่าเขาลืมคิดข้อนี้ไปได้ยังไง และมันจะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะมองไม่เห็นว่าเธอจะรู้สึกยังไงกับเขา หรือจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นเธอจะเด็กเกินไปสำหรับเรื่องนี้ และเขาก็ไม่สามารถจะบอกอะไร ๆ เธอไปได้

“เพลงรักพี่เด่นค่ะ รักมานานแล้ว รักมาตลอด เพลงเฝ้านับวันเวลาที่เราจะได้มาพบกันอีกแทบทุกวัน พี่เด่นรู้มั้ยคะว่าเพลงดีใจแค่ไหน ที่เพลงได้ไปทำงานอยู่ที่บ้านพี่เด่น เพลงเฝ้ารอเวลาที่พี่เด่นจะได้รับอิสระภาพ และกลับมาหาเพลง มาบอกเพลงว่าพี่เด่นรักเพลง แต่ว่าเรื่องต่าง ๆ กลับไม่เป็นอย่างที่เพลงคิด เพลงไม่ดีพอสำหรับพี่เด่นแล้ว พี่เด่นไม่รู้หรอกค่ะว่าเพลงเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องหนีออกมาแบบนี้ และเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเรา

แต่เพลงก็ไม่แคร์อะไรอีกแล้วค่ะ เพลงจะไม่สนใจความรู้สึกของใครอีกแล้ว เพราะเพลงรักพี่เด่น บ้านสวนของเพลงคงพอที่จะให้ความสุขกับเราได้บ้าง ถ้าพี่เด่นไม่รังเกียจเพลง แต่งงานกับเพลงนะคะ ให้โอกาสเพลงได้มีความสุขบ้าง ให้เพลงได้อยู่กับคนที่เพลงรัก และเขาก็รักเพลงบ้าง”
เธอบอกเขาออกไปพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย ด้วยกำลังทำในสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะทำ

“คุณเพลง ถ้าสิ่งที่คุณเพลงบอกพี่มามันเป็นความจริง พี่ขอบอกคุณเพลงไว้ตรงนี้ว่า พี่ไม่เคย และไม่มีวันที่จะรังเกียจคุณเพลงเด็ดขาด ไม่ว่าคุณเพลงจะเป็นยังไง ความรักของพี่ที่มีต่อคุณเพลงก็ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงไปได้ และไม่ว่าคุณเพลงจะอยู่ที่ไหน พี่ก็พร้อมที่จะยืนเคียงข้างอยู่กับคุณเพลงเสมอครับ”
เขาบอกออกไปทั้งน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลออกมาด้วยความปลาบปลื้มใจในสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินจากเธอ
“แต่งงานกับเพลงนะคะ แล้วเราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ ทิ้งเรื่องร้าย ๆ ทั้งหมดให้มันเป็นอดีตไปนะคะ”
เธอบอกเขาแล้วน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาไม่ยอมหยุดด้วยในความคิดนั้นมีใครบางคนเข้ามาอยู่ในหัวใจ และรู้สึกใจหายแค่ไหน ที่ต่อไปนี้จะไม่มีเขา มาวนเวียนอยู่ในชีวิตเธอและลูกอีกแล้ว

“แล้วคนอื่นเขาจะคิดยังไงครับคุณเพลง...แล้วดำ....เอ่อ....”เขาถามออกไปด้วยความกังวล
“พี่เด่นทำเพื่อคนอื่นมามากพอแล้วค่ะ อย่าให้ความสุขที่เหลือของพี่เด่นต้องถูกคนอื่นกำหนดอีกเลยนะคะ ใครจะคิดยังไง จะว่ายังไงเพลงไม่สนใจค่ะ ขอเพียงให้พี่เด่นมีความสุขเพลงก็พอใจแล้ว พี่เด่นทำเพื่อคนอื่นและเสียสละมามากพอแล้วค่ะ ต่อไปนี้ทำเพื่อตัวเองบ้างนะคะ แต่งงานกับเพลงนะคะ เพลงขอร้อง”

เธอบอกและเดินเข้าไปโอบกอดเขาเอาไว้ ด้วยความรู้สึกสงสารเขาอย่างล้นเหลือ เพราะยังมีกระจิตกระใจห่วงความรู้สึกคนรอบข้างมากกว่าความรู้สึกของตัวเอง แล้วเธอจะปล่อยให้คนดี ๆ อย่างเขาต้องเจ็บปวดได้ยังไง และถ้าเธอจะเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขได้ เธอก็ยินดีที่จะทำเพื่อเป็นการชดใช้สิ่งที่พ่อกับพี่เธอทำไว้กับเขาไว้

“คุณเพลง”
เขาเรียกชื่อเธอได้แค่นั้นแล้วก็สวมกอดร่างบอบบางของเธอเอาไว้ด้วยความรัก พร้อม ๆ กับน้ำตาของความดีใจก็ไหลออกมาให้เธอได้เห็น เพราะในที่สุดเขาก็ได้สิ่งที่เขารักและเฝ้ารอมานานแสนนาน แค่ได้รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา แค่นี้ชีวิตเขาก็พอใจเป็นที่สุดแล้ว

แต่ถ้าหากโชคชะตาจะนำพาให้เธอมาเป็นของเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาหยุดคิดมาตั้งแต่ที่เขารู้ว่าเธอคือคนที่น้องชายเขารักแล้ว เขาหยุดความกังวลเรื่องความรู้สึกของคนอื่นตามที่เธอบอกเอาไว้ เพราะรู้สึกสุขใจที่สุดที่ได้ครอบครองร่างเธอเอาไว้แนบอกในเวลานี้

เสียงใครบางคนเหยียบกิ่งไม้ที่พื้นหักอยู่ใกล้ ๆ ต้นมะม่วง ทำให้เด่นณรงค์ต้องรีบละวงแขนออกจากร่างเธอ และทั้งสองก็หันไปหาเสียงที่ดังอยู่ใกล้ ๆ แล้วร่างของดนุพรก็เดินออกมาจากที่กำบัง เขามองไปที่หน้าพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลายเหลือเกินในเวลานี้ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่ทั้งสองได้พูดไปเมื่อสักครู่นั้นจะเป็นความจริง แต่มันก็เป็นไปแล้ว นี่เขาเข้าใจผิดไปทั้งหมดใช่ไหม ที่คิดว่าระพีพรรณรักเขา

“ดำ”เด่นณรงค์เรียกน้องชายด้วยความตกใจ และห่วงความรู้สึกเขาเป็นที่สุด ถ้าเกิดเขามาได้ยินเรื่องทั้งหมด
“เพลง....คุณจะบอกผมได้มั้ยว่าเรื่องที่ผมได้ยินเมื่อกี้มันไม่จริง คุณไม่ได้รักพี่เด่น แต่คุณรักผม ใช่มั้ยเพลง คุณรักผมใช่มั้ย”เขาร้องถามเธอด้วยความเจ็บปวด พร้อม ๆ กับเดินมาหาทั้งสองคนใกล้ ๆ
“คุณได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะคุณดำ ฉันรักพี่เด่น ไม่ใช่รักคุณ ฉันบอกแล้วไงคะ ว่าอย่ามาที่นี่อีก”
เธอตอบเขาไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวดที่สุด แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็ดีใจที่เขามาได้ยินเรื่องนี้ เพราะมันคงจะง่ายสำหรับเธอ ที่จะทำให้เขาไปจากชีวิตเธอได้

“ไม่จริง ๆ ผมไม่เชื่อ พี่เด่นอาจจะรักคุณ แต่คุณไม่ได้รักพี่เด่น คุณรักผมต่างหาก”เขายังไม่ยอมรับความจริง
“อะไรที่ทำให้คุณคิดแบบนั้นคะคุณดำ”เธอถามเขา
“ก็ที่ผ่าน ๆ มาที่คุณอยู่กับผมนั่นไง และตาพิงก็เป็นพยานได้ว่าคุณรักผม หรือว่าคุณจะบอกว่ามันไม่ใช่”
เขาถามเธอเสียงดังกว่าปกติ

“ฉันไม่เคยเต็มใจที่จะอยู่กับคุณ และเป็นของคุณเลยด้วยซ้ำ คุณก็รู้ว่าคุณทำยังไงกับฉัน คุณกักขังฉัน ทำให้ฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่เคยรักใครเลย นอกจากพี่เด่นเท่านั้นค่ะ เรารักกันมานานแล้ว คุณได้ยินมั้ยคะว่าเรารักกันมานานแล้ว ฉันขอร้องนะคะ ขอร้องว่าอย่ามาขัดขวางความรักของเราอีกเลยค่ะ ขอให้เราได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขด้วยเถอะนะคะ ที่ผ่าน ๆ มาฉันยกโทษให้คุณค่ะ”
เธอบอกเขาพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลรินออกมาแทบจะไม่มีวันหยุด เมื่อคำพูดนั้นสร้างความเจ็บปวดให้ตัวเอง และเธอก็แน่ใจว่า เขาก็คงจะต้องเจ็บปวดไม่แพ้กัน

“ไม่จริง ผมไม่เชื่อ คุณรักผมต่างหาก”
“ฉันไม่เคยรักคุณค่ะ และขอร้องเถอะค่ะ เลิกมาตามตอแยฉันได้แล้ว ฉันเบื่อเต็มที ให้พวกเราได้อยู่อย่างมีความสุขซักทีนะคะ เพราะตั้งแต่คุณเข้ามาในชีวิตของพวกเรา มันก็มีแต่เรื่องร้อนใจมาโดยตลอด ได้โปรดอยู่ห่าง ๆ พวกเราเถอะ”
เธอยืนยันกับเขาอีกครั้ง

“ได้ถ้าคุณคิดว่าการมาของผมสร้างความยุ่งยากใจให้คุณ เอาซิ คุณอยากจะแต่งงานเหรอ....ได้...เมื่อคุณอยากจะแต่ง ผมก็จะแต่งเหมือนกัน และไม่ว่าคุณจะแต่งวันไหน ให้รู้เอาไว้ด้วยว่า วันนั้นก็คือวันแต่งของผมเหมือนกัน มีผู้หญิงอีกเป็นร้อย ๆ ที่เขาอ้าแขนรอรับผมอยู่ ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมจะมาทนงอนง้อกับคนที่ไม่เห็นค่าของผมทำไม มันก็อาจจะจริงของคุณนะ ผมคงจะเข้าข้างตัวเองไปมาก ที่คิดว่าคุณรักผม”เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่เสียใจและเจ็บปวดเป็นที่สุด
“ดำพี่ว่าเราค่อย ๆ หาทางออกดีกว่านะ”เด่นณรงค์ที่ดูจะใจเย็นและมีสติมากกว่าเขาบอก

“นี่ล่ะคือทางออกที่ดีของเราสองพี่น้อง ถ้าเขาไม่เคยรักผมเลย มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ ผมขอโทษด้วยนะพี่เด่น ถ้าผมรู้ตั้งแต่แรกว่าพี่รักผู้หญิงคนนี้ ผมจะไม่มีวันเดินเข้าใกล้เธอเลยสักนิด แต่ก็ไม่เป็นไหรหรอก ในเมื่อไม่มีใครแคร์ใคร ผมเองก็เบื่อและเหนื่อยที่จะกลับมาแก้ไขอะไร ๆ เหมือนกัน ก็ดีมันจะได้จบ ๆ ไป”
เขาบอกกับพี่ชายด้วยน้ำเสียงที่ค่อนขอดที่สุด แล้วก็หุนหันเดินออกไป
“ดำ ๆ เดี๋ยวก่อนสิ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”เด่นณรงค์ร้องเรียกเขาและเดินตามเขาไป

“ไม่มีอะไรแล้วนี่พี่เด่น พี่ก็ได้อยู่กับคนที่พี่รัก และเขาก็รักพี่แล้วไง ผมจะหลีกทางให้ ผมคงจะไม่ใจจืดใจดำคอยขัดขวางทางรักของพี่ชายตัวเองหรอก ผมขอให้คุณมีความสุขกับคนที่คุณเลือกนะ”
เขาบอกพี่ชายและหันกลับไปมองเธอก่อนที่จะเดินหนีออกมาจากสวนด้วยความเร็ว และทันทีที่มาถึงเขาไม่ได่สนใจกำพลที่จะนั่งอยู่ใกล้ ๆ แคร่ ประตูรถถูกเปิดและปิดอย่างแรงและดังในเวลาไล่เลี่ยกัน แล้วเขาก็ขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง ทิ้งให้กำพลมองตามด้วยความสงสัย

“คุณเพลงจะทำยังไงดี ดำคงจะโกรธมากเลย”เด่นณรงค์หันมาพูดกับเธอ
“ช่างเขาเถอะค่ะพี่เด่น เพลงบอกแล้วไงคะว่าให้พี่เด่นเลิกห่วงความรู้สึกคนอื่นได้แล้วค่ะ แล้วพี่เด่นจะให้ในสิ่งที่เพลงขอหรือเปล่าคะ เพลงไม่ต้องการอะไรมากค่ะ เราแค่จดทะเบียนสมรสกันก็พอ เพลงไม่มีเพื่อนมากมาย ไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหน ถ้าพี่เด่นพร้อมเมื่อไหร่ เราจะไปจดทะเบียนที่อำเภอทันทีค่ะ”เธอบอกเขา

“ขอบคุณ คุณเพลงมากเลยนะครับที่มีความรู้สึกดี ๆ ให้พี่ แต่พี่ว่ารอให้พี่คุยกับคุณแม่กับดำก่อนนะครับ แล้วคุณท่านก็ยังไม่รู้เรื่องพวกนี้ เราค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปก็แล้วกันนะครับ แต่วันนี้พี่จะกลับบ้านไปก่อน”
เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ และดูจะอารมณ์เย็นลงมาจากเมื่อครู่แล้ว
“งั้นก็ตามใจพี่เด่นค่ะ เพลงยังไงก็ได้ค่ะ”เธอบอกเขาอีกครั้ง แล้วเธอก็เดินนำเขาออกจากสวนไป

“ผมกลับก่อนนะครับคุณท่าน แล้วผมจะมาเยี่ยมใหม่ครับ”
เขายกมือไหว้กำพลที่มองตามเขาตั้งแต่ออกมาจากสวน จนกระทั่งเขาเดินเข้ามาให้ใกล้ ๆ
“วันนี้พ่อเด่นจะไม่อยู่กินข้าวกับฉันก่อนเหรอ แล้วรายนั้นทำไมจู่ ๆ ก็ขับรถพรวดพราดออกไป จะทักทายสักคำก็ไม่มี ไม่รู้อารมณ์ไหน บทจะมาก็มา บทจะไปก็ไป”เขาอดบ่นคนที่เพิ่งจะขับรถออกไปเมื่อสักครู่ไม่ได้
“พอดีวันนี้ผมมีธุระสำคัญจะต้องไปทำครับคุณท่าน เอาไว้วันหลังผมจะมาฝากท้องด้วยนะครับ พี่ไปก่อนนะครับคุณเพลง แล้วค่อยพบกัน” เขาบอกก่อนจะขึ้นรถไป เพราะรู้สึกห่วงน้องชายอย่างบอกไม่ถูก

“ค่ะ แล้วค่อยพบกันค่ะ”ระพีพรรณบอกเขา และก็ยิ้มให้เขา
“มีอะไรกันหรือเปล่ายายเพลง”กำพลถามทันทีที่รถของเด่นณรงค์พ้นออกจากบริเวณบ้าน
“ไม่มีค่ะคุณพ่อ งั้นเพลงไปทำกับข้าวก่อนนะคะ อีกหน่อยพี่พีกับลุงโป่งก็คงจะมาค่ะ”
เธอบอกแค่นั้น ก่อนจะผละจากบิดาเข้าไปในบ้าน เพราะรู้ดีว่าจะต้องถูกถามอะไรไปมากกว่านี้ หากยังคงยืนอยู่ใกล้ ๆ ผู้เป็นพ่อ


สภาพของผู้ที่อาศัยโซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับแขกเป็นที่ซุกนอนตั้งแต่เมื่อวานเย็นนั้น แทบจะไม่หลงเหลือคราบของนักธุระกิจหนุ่มที่เคยเป็นที่สะดุดตาของใคร ๆ ที่ได้พบเห็นเลยแม้แต่น้อย เพราะผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง เสื้อผ้าที่ยังคงเป็นชุดที่ใส่เมื่อวานอยู่ และที่หนักไปกว่านั้นก็คือ ร่างของเขาแทบทั้งร่างนั้น เหม็นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า ที่เขาตั้งหน้าตั้งตากรอกเข้าปากตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาถึงคอนโดก็ว่าได้
เขาหวังเหลือเกินว่าเหล้าจะช่วยทำให้เขาลืมเรื่องร้าย ๆ ที่เขาได้พบมา แต่เหล้ามันก็ยังคงเป็นเหล้า มันไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้เลยแม้แต่น้อย

“เพลงรักพี่เด่นค่ะ รักมานานแล้ว รักมาตลอด เพลงเฝ้านับวันเวลาที่เราจะได้มาพบกันอีกแทบทุกวัน พี่เด่นรู้มั้ยคะว่าเพลงดีใจแค่ไหน ที่เพลงได้ไปทำงานอยู่ที่บ้านพี่เด่น เพลงเฝ้ารอเวลาที่พี่เด่นจะได้รับอิสระภาพ และกลับมาหาเพลง มาบอกเพลงว่าพี่เด่นรักเพลง แต่ว่าเรื่องต่าง ๆ กลับไม่เป็นอย่างที่เพลงคิด เพลงไม่ดีพอสำหรับพี่เด่นแล้ว พี่เด่นไม่รู้หรอกค่ะว่าเพลงเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องหนีออกมาแบบนี้ และเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเรา”

เสียงนี้ยังคงก้องอยู่ในหูเขาแทบทั้งคืน ถึงเขาจะยังไม่ปักใจเชื่อกับคำพูดพวกนี้นัก แต่มันก็ทำให้เขากลัว ๆ ว่ามันจะเป็นความจริง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วเขาจะทำยังไง เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว เขาเองก็ไม่อยากจะจำ ถ้าทำได้ เขาก็อยากจะปิดมันทิ้งซะ แต่ด้วยความที่ห่วงเรื่องงาน กลัวจะมีปัญหาแบบวันก่อนอีก

เขาจึงจำเป็นจะต้องเปิดเอาไว้
มือที่ถือโทรศัพท์รีบกดทิ้งทันที ที่รู้ว่าเป็นพี่ชาย เขาบอกตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกเช่นไร ที่พี่ชายมารักผู้หญิงคนเดียวกับเขา แต่เขาก็ไม่อาจจะลืมได้ว่า ความรักของพี่มีมาก่อนที่เขาจะพบกับเธอด้วยซ้ำ แล้วเขาจะไปโทษพี่ชายได้ยังไงกัน ว่ามารักผู้หญิงของเขา แต่มันกลับเป็นเขาเองต่างหาก ที่ไปแย่งของ ๆ พี่ชายมา
มือถือดังขึ้นอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง เขาค่อย ๆ ยกขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นนินทกาล แล้วอะไรบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา

“สวัสดีครับคุณป้า มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ...เมื่อไหร่ครับ...ได้ครับแล้วเจอกันครับ”
เขากรอกเสียงไปตามสาย แล้วก็โยนโทรศัพท์ไปอย่างไม่แยแส มือค่อย ๆ ถูกเขายกขึ้นมาก่ายไว้ที่หน้าผาก ประหนึ่งว่ากำลังจะตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจพันแปดร้อยล้านบาทก็ไม่ปาน เขาค่อย ๆ ลากตัวเองให้ลุกจากโซฟาด้วยความยากลำบากไม่น้อย แล้วก็พาตัวเองเข้าห้องอาบน้ำและแต่งตัวใหม่ให้ดูดีเหมือนเดิม เพราะจะต้องไปพบนินทกาลตามที่นัดเอาไว้

ไม่นานเขาก็พารถเข้ามาจอดไว้ในบ้านของนินทกาล โดยมีนัชนินยืนรออยู่หน้าบ้านด้วยความตื่นเต้น ที่จะได้ต้อนรับเขา และนี่ก็เป็นครั้งแรกในรอบหลาย ๆ วันที่เธอได้เห็นเขา เพราะพยายามจะโทรหายังไงก็ติดต่อเขาไม่ได้ ถ้าเธอไม่รู้จากเพื่อนว่างานของเขามีปัญหามากเมื่อสองสามวันก่อน เธอก็คงจะโกรธที่เขาหายหน้าไปนานเป็นแน่

“คุณดำ หายหน้าไปตั้งหลายวัน คิดถึงจังเลยค่ะ คุณแม่รออยู่ด้านในค่ะ วันนี้ท่านทำอาหารโปรดคุณดำไว้ทั้งนั้นเลยค่ะ”
นัชนินทักทายเขา เมื่อเขาลงจากรถสปอร์ต และก็แสดงความเป็นเจ้าของเขา โดยการเดินเข้าไปคล้องแขนเขาและพาเขาเข้าบ้าน
“สวัสดีครับคุณป้า ต้องขอโทษด้วยครับที่พักนี่ยุ่งจริง ๆ”
เขาไหว้นินทกาลหลังจากที่นัชนินพาเขามาที่ห้องอาหาร ก็พบว่านินทกาลนั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ป้ารู้เรื่องจากยายแนนแล้วค่ะ เห็นบอกว่างานมีปัญหา แล้วตกลงเคลียร์ได้หรือยังคะ ถ้ามีอะไรให้ป้าช่วยก็ยินดีนะคะ”
เธอบอกเขา
“ขอบคุณครับ แต่ทุกอย่างตกลงกันได้ด้วยดีแล้วล่ะครับ”
เขาบอกพร้อม ๆ กับทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ นินทกาล โดยมีนัชนินนั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะอาหาร

“ทานข้าวเถอะค่ะ อาหารจะเย็นหมด”
เจ้าบ้านเชิญ พร้อมพยักหน้าให้คนรับใช้ตักข้าวให้ แล้วอาหารที่ดูจะมีรสชาติแสนจะอร่อยสำหรับสองแม่ลูกก็เริ่มขึ้น แต่สำหรับอีกคนนั้น เขาแทบจะหารสของอาหารไม่ได้เลย เพราะรู้ดีว่าการนัดหมายของนินทกาลในครั้งนี้ มีจุดประสงค์อยู่ตรงไหน โดยส่วนตัวของเขาแล้ว เขาไม่กลัวที่จะบอกความจริงเรื่องของเขาให้ทั้งสองได้รับรู้ แต่ผู้ที่เป็นแม่ของลูกเขาต่างหากที่เหมือนจะไม่เห็นค่าเขาเลยแม้แต่น้อย แล้วอาหารมื้อนี้ของเขาก็ขาดรสชาติโดยสิ้นเชิง เมื่อใบหน้าของใครบางคนแล่นเข้ามาในความคิด

“คุณดำคงจะพอเดาออกอยู่บ้างนะคะที่ป้านัดมาวันนี้ ว่ามีธุระอะไรอยากจะปรึกษา”
นินทกาลเริ่มเปิดบทสนทนา เมื่อสั่งให้นัชนินเข้าไปเตรียมของหวาน หลังจากที่อาหารเย็นเสร็จไปแล้ว และทั้งสองก็มานั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพียงลำพัง
“ครับคุณป้า”เขารับคำแค่นั้น
“ป้าเองก็มีลูกสาวอยู่คนเดียว ป้าก็อยากจะให้เขาได้ฝากอนาคตไว้กับคนที่ป้าไว้ใจได้ และคุณดำป้าก็เห็นมานาน คิดว่าคงจะพอทำให้ป้าอุ่นใจได้บ้าง ถ้าต้องเป็นคนดูแลยายแนนต่อจากป้า ไม่รู้ว่าคุณดำจะคิดเหมือนป้าหรือเปล่า”
นินทกาลเข้าเรื่องโดยไม่ยอมเสียเวลา และมันก็ทำให้ดนุพรนั้นรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ที่ถูกนินทกาลมัดมือชกแบบนี้

“ครับคุณป้า”แต่เขาก็เลือกที่จะตอบเธอแค่นั้น
“คุณดำกับยายแนนก็คบกันมานานพอสมควรแล้ว และก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ จนคนใกล้ตัวของป้าเริ่มถามป้าบ่อยขึ้นว่าเราสองคนจะยังไงต่อไป ป้าเองก็ตอบเขาไม่ได้หรอก คุณดำเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว และก็เป็นผู้ชายด้วย ป้าก็เป็นฝ่ายหญิง ครั้นจะไปตอบคำถามใคร ๆ มันก็จะดูไม่ดีนัก ป้าก็เลยจะถามคุณดำ ว่าคุณดำคิดยังไงกับยายแนนบ้าง”
นินทกาลบอกความต้องการที่แท้จริง

“คุณแนนก็เป็นเด็กดีครับ ถึงแม้บางครั้งจะเอาแต่ใจตัวเองบ้าง แต่ก็ไม่มากไปสำหรับผม”เขาบอกแค่นั้น
“แล้วคุณกับยายแนนถึงขั้นไหนแล้วคะ ต้องขอโทษด้วยที่จะต้องถามตรง ๆ เพราะป้าก็ไม่อยากจะให้ลูกสาวต้องร่อนไปร่อนมากับผู้ชายที่เราเองก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับลูกเรา ป้าว่ามันออกจะดูไม่ดีสักหน่อย หรือคุณดำจะว่ายังไงคะ”
นินทกาลเข้าใจที่จะจับจุดและต้อนเขา เพราะเธอเริ่มที่จะไม่แน่ใจนักกับคำตอบของเขาที่แบ่งรับแบ่งสู้อยู่อย่างนี้

“ถ้าจะให้ผมพูดตรง ๆ ก็คือว่า ผมเองก็ดู ๆ ไปก่อนครับคุณป้า เรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ผมไม่อยากจะตัดสินใจผลีผลาม เพราะถ้าเราตัดสินใจผิดมันก็จะเสียทั้งสองฝ่าย ผมคงจะต้องขอเวลาคุณป้าสักพักครับ ให้เรื่องอะไร ๆ ของผมลงตัวมากกว่านี้ แล้วผมจะเรียนคุณป้าอีกที แล้วสำหรับเรื่องที่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมขอรับรองกับคุณป้าตรงนี้ ว่าผมไม่เคยทำอะไรที่นอกลู่นอกทางกับคุณแนนเลยสักครั้งครับ

อาจจะมีบ้างที่สายตาของคนหลาย ๆ คนที่มองเรา แต่ผมขอแคร์สายตาตัวเองมากกว่าที่จะไปแคร์สายตาคนอื่นครับ และอีกอย่างหนึ่ง คุณแนนเองก็มีเพื่อนเยอะครับ ผมเองก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไร จะไปจะมากับใครเราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคุณป้าคงจะเข้าใจผมบ้างครับ”

เขาบอกและตบท้ายด้วยกรงเหล็กที่จะเอามากั้นนินทกาลไม่ให้เข้ามาต้อนเขา จนทำให้อีกฝ่ายนั้นรู้สึกจะหน้าชาไปไม่น้อย ที่จู่ ๆ ก็ถูกเขาด่าตัวเองและลูกสาวแบบอ้อม ๆ แต่เธอก็เข้าใจเขา และเห็นด้วยไม่น้อย เพราะลูกสาวเองก็คบกับหลาย ๆ คน เพื่อเป็นการเผื่อเลือก แต่เธอก็ถูกใจเขา และพอใจถ้าหากได้เขามาเป็นลูกเขย จึงเลือกที่จะคุยกับเขาในวันนี้

“ป้าเข้าใจค่ะ และป้าเองก็ไม่ได้บังคับอะไรนะคะ แต่ป้าแค่อยากจะรู้ว่าคุณดำคิดยังไงกับยายแนนเท่านั้น ยายแนนยังเด็ก ป้าเองก็ต้องช่วยลูกดูคนหลาย ๆ คนที่เข้ามาใจชีวิตลูก และคุณดำเองป้าก็เห็นว่าเป็นคนเก่งและเป็นคนดี ถ้าจะให้พูดกันตรง ๆ ก็คือ ป้าพอใจมาก ๆ ที่จะได้คุณดำมาเกี่ยวดอง แต่ถ้าคุณดำยังไม่พร้อมที่จะบอกป้าก็ไม่เป็นไหร ป้าคงจะบังคับไม่ได้”
เธอบอกตรง ๆ เหมือนกัน
“เอาไว้ให้ผมแน่ใจมากกว่านี้ แล้วผมจะมาเรียนคุณป้าด้วยตัวเองผมเองนะครับ”
เขาบอกความต้องการเดิมออกไป







 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551
4 comments
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 7:22:25 น.
Counter : 602 Pageviews.

 

ท่าทางเรื่องจะยาวต่อไปอีกแฮะ ทั้งหมดกี่ตอนจบคะเนี่ย

 

โดย: chocolate-gateau IP: 76.66.197.59 13 พฤศจิกายน 2551 15:16:19 น.  

 

มาแล้วๆ อืม...จิงด้วยๆ แต่ก็ดีนะคะ ชอบเรื่องยาวๆเหมือนกันค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอแวะไปอ่านก่อนนะคะ

 

โดย: Dozaemon IP: 212.30.211.225 13 พฤศจิกายน 2551 21:18:41 น.  

 

อืม! บอกได้ว่าไม่ยาวค่ะ

มีทั้งหมด ๔๙ ตอนค่ะ

 

โดย: ธัญญะ 14 พฤศจิกายน 2551 12:15:03 น.  

 

ลุ้นแล้วลุ้นอีก เจ็บแทนตัวละครเลย up บ่อย ๆ นะ ลุ้นตลอดเลย เหมือน ฐานนันดร เลย

 

โดย: aoi IP: 203.121.167.243 14 พฤศจิกายน 2551 13:35:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.