Elle Magazine (Aug 2005)

แปลโดย Paige จาก One Richie Forum
ภาพจาก jen's site

แสงอาทิตย์ที่ผ่อนคลาย
เยิ่นเสียนฉี

ดูเหมือนเค้าจะปล่อยเสน่ห์ที่เป็นกันเองออกมาอยู่เสมอๆ ซึ่งสามารถทำให้ทุกคนรู้สึกถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย แม้ตอนนี้เค้าจะกลายเป็นคุณพ่อแล้วก็ตาม, แต่เค้าก็ยังเป็นเยิ่นเสียนฉีที่รอยยิ้มเต็มไปด้วยความสดใส

ในวันสัมภาษณ์, ริชชี่มาถึงสตูดิโอตรงเวลา และทักทายทุกคนอย่างเป็นมิตร เค้ายังคุยกับช่างภาพเหมือนเป็นเพื่อนเก่าเกี่ยวกับเรื่องรูปถ่ายกลุ่ม -- และฉันก็ได้ตระหนักว่าแม้จะมีคนมากมายอยู่รอบตัว, ริชชี่ยังคงสามารถสร้างความเป็นกันเอง, บรรยากาศที่ผ่อนคลาย

เค้าเรียนรู้อย่างจริงใจ, นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกๆ ประสบการณ์ไม่เคยจะเปล่าประโยชน์

ELLE: คุณรู้สึกว่าทัศนคติเกี่ยวกับชีวิตของคุณเป็นยังไง?
RICHIE: ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องจริงจัง ไม่ว่าจะเรื่องงาน, ชีวิตหรือการเล่น, ผมจะทำสิ่งเหล่านั้นอย่างจริงจังทีเดียว ผมไม่สามารถทนต่อการใช้จ่ายสิ้นเปลืองได้; ไม่ว่าจะเป็นเวลาหรือประสบการณ์ในทุกแบบ แน่หล่ะว่าผมไม่ได้คิดว่าการมีความฝันจะเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอยู่ในที่ของคุณเอง...สิ่งที่ผมควรจะพูดก็คือถ้าคุณเอาใจใส่กับประสบการณ์ที่คุณได้รับเข้ามา มันก็จะไม่ใช่การสุรุ่ยสุร่าย

ELLE: จากเมื่อเริ่มต้นจนถึงตอนนี้, อะไรที่คุณคิดว่าเป็นจุดเปลี่ยนของคุณที่สุด?
RICHIE: ผมคิดว่าในวงการบันเทิง, เรื่องราวของผมค่อนข้างแปลก ผมไม่ใส่ใจว่าคนอื่นเค้าจะว่าเรื่องของผมมันประหลาด เพราะตอนที่ผมเริ่มต้น, สิ่งต่างๆ มันไม่ได้แย่, แล้วผมก็ไปเกณฑ์ทหารและหายไป 2-3 ปี เมื่อผมกลับมา, ผมก็ไม่มีชื่อเสียงเลยซักนิด,จริงๆนะ, ผมไม่เป็นที่รู้จักเอาซะจริงๆ!
ระหว่างช่วงนั้น, ตอนแรกผมก็ค่อนข้างกลัว – ว่ามันจะเป็นวันคืนที่มืดมิดของผม มันดำเนินไปประมาณ 7 ปี
ผมลองหลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็น DJ, การแสดง,อื่นๆ , และก็มีอยู่ 2-3 อย่างที่ดูเหมือนจะเป็นโอกาสที่ดี มีบริษัทนึงขอให้ผมไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้, แต่ผมไม่ได้รับงานนั้นเพราะผมมองไม่เห็นข้อดีของผลิตภัณฑ์ เวลาต่อมา, บางคนคิดว่ารูปร่างของผมก็ไม่เลวและรับปากว่าจะให้เงินก้อนโตเพื่อให้ผมเล่นหนัง X ตอนนั้นผมรายได้น้อยจริงๆ และจำนวนเงินมันก็ล่อใจมากแต่ผมกลัวว่าถ้าเอาตัวเข้าไปครั้งนึงแล้วจะถอนออกมาลำบาก นั่นเป็นเหตุว่าทำไมผมจังไม่รับเล่น ตอนนี่พอผมลองคิดย้อนไปแล้ว; มันก็ค่อนข้างจะเกือบไปเหมือนกัน

ELLE: เมื่อคิดถึงวันเหล่านั้น คุณมีความคิดยังไง?
RICHIE: ผมคิดว่าแม้จะมองกลับไป – เมื่อชีวิตและการงานไม่ค่อยจะกระเตื้อง ผมยังคงทำอย่างจริงจัง จากการเตรียมการติดต่อกับคนอื่นหรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที่เข้ามา เพราะอย่างเช่นการแสดง, คุณจะได้สะสมประสบการณ์อย่างช้าๆ และรอคอยโอกาสที่จะเข้ามา
บางทีอาจเป็นเพราะชีวิตในช่วงก่อนนั้น; ผมถึงมีเพื่อนจากทุกระดับแตกต่างกันไป – จากระดับล่างถึงเจ้าหน้าที่ชั้นสูง ที่สำคัญที่สุดก็คือมันไม่เกี่ยวว่าคนแบบไหนที่ผมเกี่ยวด้วย, แต่การสามารถที่จะเข้าร่วมในกลุ่มและทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความผ่อนคลาย ผมคิดว่าการสามารถเข้าได้กับคนทุกประเภทเป็นประสบการณ์ที่มีค่าอย่างนึง มันสามารถเริ่มจากการคิดถึงเรื่องขนบธรรมเนียมของพวกเค้า หรือกินอาหารพื้นเมืองของเค้าหรือพิจารณาสิ่งต่างๆ ในมุมมองของพวกเค้า; ผมไม่สามารถจะเป็นแค่ผู้สังเกตุการณ์ได้ มันเป็นวิธีที่ผมชื่นชมการใช้ชีวิต – ผมสามารถสนุกกับชีวิตได้หลายแบบ มันเป็นความจริงและสบายๆ

ประสบการณ์ในชีวิตจริงของการเล่นบทคุณพ่อ

ELLE: เมื่อเร็วๆ นี้คุณได้กลายเป็นคุณพ่อแล้ว คุณพูดเกี่ยวกับชีวิตของคุณกับลูกได้มั๊ย?
RICHIE: โดยทั่วๆ ไป ผมไม่ค่อยจะพูดเกี่ยวกับครอบครัว,ภรรยาและลูกของผมกับสื่ออยู่แล้วเพราะผมอยากจะให้พวกเค้าอยู่อย่างคนทั่วไป มีชืวิตที่เงียบสงบ ดังนั้นผมพยายามจะไม่พูดเกี่ยวกับพวกเค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยแฉพาะอย่างยิ่งหวังว่ารูปของลูกผมจะไม่ถูกเปิดเผยออกมาสาธารณะ ผมว่าการเก็บตัวเงียบแบบนี้เป็นการปกป้องครอบครัวของผม คุณก็รู้ว่าพวกปาปารัชซี่ไวกันแค่ไหน พวกเค้าจะรออยู่หน้าบ้านคุณเพื่อถ่ายรูป....ผมรู้ว่าผมเป็นศิลปิน มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แต่ผมหวังว่าครอบครัวของผมจะสามารถมีชีวิตที่สุขสงบได้

ELLE: คุณคิดยังไงกับการกลายเป็นคุณพ่อที่เป็นส่วนนึงของประสบการณ์ชีวิต? คำว่า “พ่อ” มีความหมายอะไรต่อคุณบ้าง?
RICHIE: ผมคิดว่าผมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจากเรื่องนี้ พ่อของผมเป็นผู้ชายทำงาน พวกเราไม่ได้ไปกันด้วยด้วยดีเท่าไหร่นัก แต่พ่อมักจะขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปทำงานทุกวัน, หวังจะทำให้ครอบครัวของเค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกเกี่ยวกับหน้าที่ของคนเป็นพ่อ; หวังว่าผมจะสามารถรับผิดชอบหน้าที่นี้ และดูแลครอบครัวของผมได้ การมีลูกถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผม แม้ว่าศิลปินและงานของพวกเค้าอาจจะไม่เกิดขึ้นอย่างราบรื่นเหมือนคนทั่วไป แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่งดงามที่มี

ELLE: อะไรเป็นสิ่งที่เปลี่ยนการดำเนินชีวิตที่มากที่สุดของคุณหลังจากลูกสาวคลอดแล้ว?
RICHIE: การดำเนินชีวิตของผมในอดีต, โดยธรรมดาในการทำงานผมจะต้องเดินทางออกนอกประเทศ, ไกลจากบ้านเป็นค่อนปี เดี๋ยวนี้ผมมีครอบครัวและลูก, ผมต้องกันในเรื่องการจัดงานและเวลา

การสนุกกับชีวิตที่น่าสนใจและทัศนคติ

ELLE: มุมมองเรื่องแฟชั่นของคุณเป็นยังไง?
RICHIE: ถ้าผมทำได้ ผมจะเลือกสิ่งที่ใส่กับตัวเองแล้วเหมาะ ที่ทำให้ผมดูดีและคนอื่นดูแล้วสบายๆ ผมคิดว่าผู้ชายควรจะดูแลภายนอกของตัวเองในเรื่องที่ง่ายที่สุดเลยก็คือความสะอาด, ประณีตและเข้ากัน จริงๆ แล้วที่ไต้หวันเอง, ผู้ก็รู้สึกว่ามาตรฐานของที่นั่นก็ค่อนข้างดี

ELLE: งานอดิเรกของคุณดูเหมือนจะหนักไปทางกิจกรรมการแจ้งนะ, อย่างเช่นโต้คลื่นแล้วก็แข่งรถ
RICHIE: พูดถึงเรื่องนั้น, ผมรู้สึกภูมิใจนิดๆ ผมว่าการโต้คลื่นที่ไต้หวันกลายเป็นที่นิยมเพราะว่าคนอย่างผมนี่แหล่ะ พวกเราจะพาเพื่อนๆ ในวงการไปโต้คลื่นด้วย ถ้าคุณถามว่าทำไมผมถึงเลือกกีฬาประเภทนี้....อ่า, น่าจะเพราะมันดูเท่ห์นะ ฮ่าๆ! ผมรู้สึกว่าการโต้คลื่นเป็นกีฬาที่ประเภทที่ต้อง ‘ไตร่ตรอง’ ค่อนข้างมาก บางครั้งคุณสามารถรอได้ – แต่น้ำมันก็สงบเงียบ , และคุณก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเก็บของกลับบ้าน และมีบางครั้งที่คุณเห็นคลื่นที่เหมือนจะดี คุณสามารถตื่นเต้นไปกับมัน คุณรีบขึ้นโต้คลื่นลูกนั้น แต่ถ้าคุณพลาด, มันก็เป็นเรื่องธรรมดา,คุณพลาด – มันก็คล้ายๆ กับชีวิตคนเรา!

Create Date : 18 กันยายน 2548		2 comments
Last Update : 14 มิถุนายน 2550 9:00:00 น.
Counter : 718 Pageviews.
Share Tweet