1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
ทวาทศมาสประจำปี 2559 ตอนที่ 6
ทวาทศมาสประจำปี 2559 ตอนที่ 6 ทวาทศมาส ประจำปี 2559 ก็มาถึง ตอนที่ 6 ซึ่งเป็นตอนจบปี 2559 แล้วค่ะ รวบรัดตั้งแต่เดือน ต.ค.- ธ.ค. ค่ะ เดือน ตุลาคม เดือนนี้ ประเดิมด้วย วันที่ 6 ต.ค.ค่ะ ลูกศิษย์ (หนุ่ม) มาเชิญไปเป็นเกียรติในกิจการใหม่ที่เขาร่วมลงทุน กับเพื่อนของเขา คือ บริษัททัวร์ งานนี้ คือ การล่องเรือสำราญชมความงามของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นลักษณะงานปาร์ตี้ขอบคุณลูกค้าของบริษัทเขา (ลูกค้าที่เป็นสมาชิกของบริษัททัวร์) ถือว่า เป็นความเจริญก้าวหน้าอีกก้าวหนึ่งของลูกศิษย์คนนี้ ฉันก็ขอแสดงความยินดีกับเขาด้วย หนุ่ม มารับฉันตั้งแต่บ่าย 4 โมงเย็น ต้องไปเร็วหน่อย เพราะเขาต้องไปคอยต้อนรับแขกของเขา งานนี้ จัดที่โรงแรม ริเวอร์ไซด์ คือ ไปขึ้นที่ท่าเรือ ของโรงแรมนี้ งานนี้ เขาต้องใส่ชุดกระโปรงด้วย ไปถึงสถานที่จัดงาน มีแขกมามากมายแล้ว ใครเป็นใคร ไม่รู้จักสักคน ห้าห้า เขาก็แนะนำ ให้เพื่อน ให้ลูกน้องเขารู้จักฉัน แล้วให้ลูกน้องผู้หญิงคนหนึ่ง มานั่งเป็นเพื่อนในร้าน ค้อฟฟี่ช้อบ สั่งน้ำมาให้ฉันดื่ม คือ ชามะนาว 1 แก้ว ส่วนตัวเขา ต้องเดินไป เดินมา รับแขก ทักทาย แขก เฮ้อ ! งานนี้ มี ตลก มี ดารา บางคน ได้รับเชิญมาด้วย เช่น ไก่ มกจ๊ก อีกคนฉันจำได้ เขาเล่นละคร โทรทัศน์ เรื่อง ซิกเซ้นท์ แต่ไม่รู้ว่า ชื่ออะไร เดี๋ยวท่านผู้อ่าน ชมรูปเอง นะคะ อิอิ ประมาณ น่าจะ เกือบสองทุ่ม ก็ลงเรือกัน ฉันจัดอยู่ในแขกประเภท วีไอพี ได้ลงเรือก่อน และ หนุ่มพาไปนั่งที่โต๊ะ วีไอพี ที่จัดเตรียมไว้ ห้าห้า ดูใหญ่โตเหมือนกันนะเนี่ย แถม เป็นช่วงกินเจ หนุ่ม ก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ เตรียมอาหารเจ ให้ฉันด้วย 1 ชุด แต่กว่าอาหารจะมา ฉันหิวมาก เพราะเลยเวลาทานอาหารมื้อเย็นของฉันแล้ว เห็นเขาวางข้าวเกรียบ และถั่วลิสง ซึ่งเป็นออเดิฟ บนโต๊ะ วีไอพี เลยเผลอหยิบใส่ปากเคี้ยวไป 2-3 ชิ้น ห้าห้า เจ แตกเลย ไม่เป็นไร เราไม่ได้เจตนา เราเผลอเพราะความหิว อิอิ คงไม่บาปหรอกนะ มาชมภาพที่ฉันเก็บมาฝาก ค่ะ โต๊ะ วี ไอ พี จ้ะ งานเลิกแล้ว มาเจอ จีรวัฒน์ ลูกศิษย์ที่เคยสอน ก็มาร่วมงานนี้ด้วย งานปาร์ตี้ ล่องเรือสำราญไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา สำเร็จเสร็จสิ้น น่าจะประมาณ 3 ทุ่มเศษ หนุ่ม มาส่งฉันที่บ้าน ก็น่าจะประมาณ 4 ทุ่ม ฉันก็ขอบใจเขา ที่ให้เกียรติพาไปเป็นแขก วีไอพี ของเขา และ แสดงความยินดีกับเขา ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเกี่ยวกับบริษัททัวร์อีกงานหนึ่ง วันที่ 7 ต.ค. วันนี้ มีหลายเหตุการณ์ที่น่าบันทึกอยู่ ช่วงสาย ๆ นพ แวะมาที่บ้านฉัน พร้อมกับซื้อกับข้าวเจ มาฝากด้วย เป็นเต้าหู้ทอด เผือกทอด พอเห็นฉัน จ่าหน้าพัสดุหนังสือที่ยศไกรอุดหนุน เตรียมจะส่งนั้น เห็นที่อยู่เป็นเส้นทางที่เขาจะผ่านพอดี เลยโทรศัพท์ถามทางบ้านของยศ และอาสาไปส่งให้ ฉันจะได้ไม่ต้องเสียค่าส่งโดยไม่จำเป็น นพ เป็นคนมีน้ำใจดีอย่างนี้เสมอ ช่วงสาย ๆ ก็ไปซื้ออาหารซอง ๆ กับ วัชรี เพื่อเตรียมพร้อมไปทานที่ คานาสือ เพราะว่า เราจะเดินทางไปเที่ยวที่แคว้นซินเกียง ระหว่างวันที่ 11-27 ต.ค. จึงต้องเตรียมอาหาร หลาย ๆ อย่างที่สามารถนำไปได้ เพื่อความประหยัด เช่น ข้าวสวยกล่อง ม่าม่า ยำยำ โจ๊กซอง ข้าวต้มกุ้ง หมู ซอง ๆ น้ำพริก ขนมนมเนยทั้งหลายแหล่ ลูกอม หลากรส เป็นการเตรียมพร้อม ช่วงเย็น พิเชฐ ก็มาช่วยซ่อมไฟ ห้องครัว ซึ่งเปิดติดยาก ซ่อมอยู่นานมากเลย คงไม่ค่อยชำนาญ เพราะไม่ใช่ช่างไฟโดยตรงเหมือนโชค เหงื่อไหลไคลย้อย กว่าจะปล้ำสำเร็จ แต่ก็ยังคงเปิดยาก เพียงแต่ว่า ติดง่ายกว่าเดิมบ้าง ไม่ต้องรอนาน ฉันก็ให้ค่าเหนื่อยไปทานน้ำทานขนม 100 บาท วันที่ 10-27 ต.ค. เป็นช่วงเวลาท่องเที่ยวของฉันอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้ฉันได้เขียนเล่าเรื่องไว้ในบล็อกแก๊งอยู่ หลายตอน แต่ยังไม่จบดี ถ้าท่านสนใจ ก็หาอ่านได้จากลิ้งค์ต่อไปนี้ ค่ะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=11-11-2016&group=2&gblog=72 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=16-11-2016&group=2&gblog=73 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=23-11-2016&group=2&gblog=74 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=03-12-2016&group=2&gblog=75 ทั้งหมด ฉันเขียนไปได้ 4 ตอน น่าจะเหลืออีก 2-3 ตอน ซึ่งจะได้เขียนต่อไปในอนาคต อิอิ แต่อย่างน้อยมาดูรูปภาพประกอบความสวยความงามก่อนอ่าน ค่ะ ที่จริง ยังมีภาพสวย ๆ อีกมากมาย เอาไว้ไปชมในงานเขียนก็แล้วกัน ค่ะ วันที่ 13 ตุลาคม วันนี้ เป็นวันแห่งความวิปโยคของประชาชนไทยอย่างใหญ่หลวง อาจจะไม่มีวันไหน ที่คนไทยจะโศกเศร้าได้มากเท่าวันนี้ อีกแล้ว นั่นก็คือ เป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย เสด็จสู่สวรรคาลัย เสียแล้ว ขณะนั้น ถึงฉันและเพื่อน ๆ จะอยู่ต่างแดน คือ แคว้นซินเกียง ก็จริง แต่พวกเรา ก็ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ทางเมืองไทยอยู่เสมอ คอยถามข่าวคราวอาการประชวรของพระองค์ท่านอยู่เสมอ ไม่นึกเลยว่า วันที่ 13 ต.ค. ฉันจะได้ข่าวการเสด็จสู่สวรรคาลัย ของพระองค์ท่าน พวกเรา พออ่านข่าวจากเน็ต ที่เพื่อนทางประเทศไทยส่งมา ต่างนิ่งเงียบกันไม่หัวเราะเฮฮาเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ในใจของฉัน เฝ้าแต่ถามว่า นั่นเป็นข่าวจริง ๆ เหรอ พ่อหลวงของเรา จากเราไปแล้วจริง ๆ หรือ ฉันได้แต่ ถอนสะอื้นในใจ น้ำตาคลอเบ้า เหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่ที่ลำคอ ถามจุกว่า คนส่งข่าว เชื่อถือได้ไหม และในที่สุด เราก็หนีความจริงไม่พ้น เมื่อรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ประยุทธ จันทร์โอชา ก็ได้ประกาศถึงการเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ อย่างเป็นทางการ ความหวังที่จะให้ข่าวการเสด็จสวรรคตไม่จริงนั้น ฝันสลายไปเสียแล้ว ค่ะ คืนนั้นพวกเรา เข้านอนกันแต่หัวค่ำ ไม่มีเสียงคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนทุกวันที่ผ่านมา พวกเรา ยังต้องอยู่ แคว้นซินเกียงอีกเกือบครึ่งเดือน จำต้องพยายามหักห้ามความทุกข์โศก ให้ผ่อนคลายหายไปบ้าง ชีวิต ยังต้องดำเนินต่อไปตามโปรแกรมที่พวกเราวางไว้แต่ต้น ฉันเก็บภาพแห่งความเศร้าโศก เสียใจของวันรุ่งขึ้น คือ 14 ต.ค. จากในอินเทอร์เน็ต เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำแห่งความเศร้าโศกไว้ในบันทึกประจำปีของฉันด้วย ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ วันที่ 29 ต.ค. เป็นวันแรก ที่ทางพระบรมมหาราชวัง เปิดอนุญาตให้ประชาชน เข้าไป กราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ ฉันฟังข่าวจากโทรทัศน์ในแต่ละวัน มีประชาชนไม่น้อยกว่า 30,000-40,000 คน ได้ไปรอทนแดดทนฝนนับเป็นสิบ ๆ ชั่วโมง เพื่อรอการเข้าไปกราบพระบรมศพพระองค์ท่าน อย่างอดทน ด้วยความรัก ความอาลัยที่มีต่อพระองค์ ฉันเห็นภาพเหล่านั้น มองด้วยความซาบซึ้ง ด้วยความปลาบปลื้ม และภาพเหล่านั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่า พระองค์ท่านเป็นที่รัก เคารพ ของปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ แม้แต่ชาวต่างชาติ ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ต่างก็แสดงความอาลัยรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา วันที่ 30 ต.ค. วันนี้ อุดม แวะมารับเงินค่ามัดจำเรื่องจองโต๊ะงานธาตุทองคืนถิ่น ซื้อผัดไทห่อใหญ่มาฝากด้วย อิอิ อุดม เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับรุ่ง เป็นคนใจดี อารมณ์ดี หน้าที่การงานก็อยู่ในระดับดี คนหนึ่ง 31 ต.ค เดือน พฤศจิกายน มาถึงเดือนที่ 11 ของปีแล้วค่ะ วันที่ 4-6 พ.ย. เป็นวันที่ ฉันจะไปทอดกฐินที่จังหวัดเชียงใหม่ งานกฐินครั้งนี้ เป็นงานใหญ่ของพี่ ปรีดา (พี่ตุ๋ย) ซึ่งเป็นศิษย์มัธยมวัดธาตุทอง รุ่นที่ 1 พี่ตุ๋ย จัดกฐินครั้งนี้ใหญ่มาก มีรถตู้ถึง 9 คัน และบอกพี่บานเย็นว่า ให้รถตู้ พี่บานเย็น 1 คัน จะชวนใครก็ได้ ที่เป็นครูหรือศิษย์เก่าของธาตุทองไปได้ พี่บานเย็นก็เลยมาชวนฉัน และให้ฉันชวนครูอื่น ๆ ไปได้อีก ฉันจึงไปชวน อมรทิพย์ (แดง) และวิริยา แล้วชวน เรืองรุ่งด้วย ปรากฏว่า ถึงวันไปจริง วิ ติดงานไปไม่ได้ จึงมีแดงและเรืองไปกันแค่สองคน รวมฉันเป็น 3 คน รถตู้คันเรา มีคนอื่นมาเพิ่มอีก 2 คน ของเรา 4 คน จึงรวมเป็น 6 คน รถตู้คันอื่น ๆ ก็เช่นกัน ไม่เต็มสักคัน เพราะบางคนถึงเวลาแล้ว ก็ไปไม่ได้ ทำให้เสียที่นั่งในรถตู้มาก รวมถึงอาหาร ที่สั่งเตรียมไว้มื้ออาหารกลางวันอีกด้วย โต๊ะอาหารก็เตรียมไว้ 9 โต๊ะ แต่นั่งจริง ก็ 5-7 คน เท่านั้น อาหารก็เลยเหลือ เสียดายของมาก ๆ ค่ะ มาดูรูปในบรรยากาศต่าง ๆ เรียงตามลำดับเหตุการณ์ ค่ะ อาหารมีมากหลายอย่าง คนทานน้อย จึงเหลือมากมาย ค่ะ ถ่ายรูปหมู่ ก่อนจะเคลื่อนขบวนกฐินไปวัดที่จะไปทอด ค่ะ พิธีทอดกฐินเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ตุ๋ย ใจดี ใครที่สนใจจะไปเที่ยวพระธาตุดอยคำ และพระธาตุจอมทอง ก็ให้รถตู้พาไปเที่ยว ดูเหมือน มีรถตู้ ไป 2-3 คัน คนสูงอายุ ส่วนใหญ่อยากพักผ่อน ก็ไม่ไป วันที่ 9 พ.ย. วันนี้ ถือว่า เป็นวันประวัติศาสตร์สำคัญ วันหนึ่ง คือ การเลือกตั้งของ ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นการเลือกตั้งที่ฮือฮามาก ตัวเก็งที่จะได้เป็นประธานธิบดีของสหรัฐฯ คือ นางฮิลลารี่ แต่กลับกลายเป็น นายดอนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศสหรัฐอเมริกา อะไร ๆ ในโลกนี้ ก็ไม่เที่ยงแท้ การพลิกผันเกิดขึ้นได้เสมอ อิอิ ฉันเลยบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ วันที่ 13 พฤศจิกายน วันนี้ โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง มีการจัดกิจกรรมเชิญชวนศิษย์เก่า ครู อาจารย์ ร่วมทำพิธี ถวายความอาลัยรัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ฉันก็ได้ไปร่วมงานนี้ด้วย หัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความระลึกถึงพระองค์ท่าน ยังไม่มีโอกาสไปถวายความอาลัยรัก ที่พระบรมมหาราชวัง ได้มาร่วมพิธีแสดงความอาลัยรักที่โรงเรียนจัดขึ้นก่อน ก็ยังดี ค่ะ ร่วมถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก วันที่ 24 พ.ย. ภัชย์ มาเยี่ยมที่บ้าน จ้ะ เดือน ธันวาคม ทวาทศมาส ก็มาถึงเดือนสุดท้ายของปี 2559 แล้ว ในเดือนนี้ ก็มีเรื่องที่ให้ระลึกถึงและบันทึกค่ะ วันที่ 1 ธันวาคม พ่อหลวงของเรา ได้เสด็จสู่สวรรคาลัย ไปแล้ว ครบ 50 วัน โทรทัศน์ ได้ถ่ายทอดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล ตามประเพณีให้ประชาชนได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน วันที่ 4 ธ.ค. วันนี้ อ้อยมารับเงินที่จองโต๊ะงานธาตุทองคืนถิ่น และพาฉันไปเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เราไปทานอาหารกันที่ เทอร์มินอล 21 วันนี้ คุณน้อย แฟนของอ้อยขับรถมารับ แต่มาถึงแล้ว สองพ่อลูกขอแยกไปหาอาหารที่ชอบทาน ส่วนฉันกับอ้อย ไปอีกคู่หนึ่ง อ้อยพาไปทานอาหารเกาหลี มาชมภาพของพวกเรา ค่ะ วันที่ 5 ธันวาคม ที่จริง วันที่ 5 ธ.ค. ทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เราจะมีพิธีถวายพระพรพ่อหลวงทุกหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชน แต่สำหรับปีนี้ พ่อหลวงจากเรา ไปสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ทางกรุงเทพฯ มีการจัดงานบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายแด่พระองค์ท่าน สถานที่ที่จัดงาน คือ สะพานภูมิพล ฉันกับครอบครัวพี่รัตนา(ข้างบ้าน) ได้ไปร่วมกิจกรรมนี้ด้วย พวกเราเอารถไปด้วย นั่งอัดกันไป พี่รัตนาต้องไปรถป๊อบลูกชายของเขาอีกคันกับครอบครัว รถออก ประมาณ ตี 5 ไปถึงแถวสะพานภูมิพล ต้องนำรถไปจอดที่โลตัส (หรือบิ๊กซี จำไม่ค่อยได้) แล้วก็มีรถเมล์รับส่งคนที่จะมาร่วมงานนี้ไปส่งที่ตีนสะพาน จากนั้น ต้องต่อรถสองแถวที่มาบริการ เพื่อให้ไปถึงจุดใกล้ ปะรำพิธี แต่พวกเราก็ต้องเดินเองเพื่อไปใกล้ปะรำพิธีและพระสงฆ์ที่มาสวดมนต์ จำนวน 999 รูป พวกเราเดินมาถึงบริเวณงาน ไม่สามารถใกล้ปะรำพิธี เพราะมีประชาชนมาร่วมพิธีนี้อย่างล้นหลาม ถนน ภูมิพล มีประชาชนปูพื้นนั่งอยู่ทั้งสองฟากถนน เราเองก็ต้องนั่งกับพื้นบ้าง ยืนบ้าง มาดูภาพที่ฉันเก็บมากฝาก ค่ะ วันที่ 10-11 ธันวาคม กลุ่มรวมมิตร 59 ซึ่งก็คือ รวมกลุ่มธาตุทอง 24 (ม.ปลาย)กับ กลุ่มธาตุทอง 2 ส (ม.ต้น) ซึ่งเป็นความคิดของ ชลอ ที่อยากให้รุ่นเดียวกันกลายเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น กิจกรรมแรกเพื่อเชื่อม สัมพันธไมตรี ก็จัดมิตติ้งกันที่บ้านพี่สาวของจรี ที่สูงเนิน โคราช งานเริ่มแรกนี้ มีสมาชิกมาร่วมงาน ทั้งสองห้องประมาณ ยี่สิบกว่าคน รถของหนึ่งเป็นคนมารับฉันที่บ้าน โดยมีสมาชิกที่ขึ้นรถหนึ่ง มารอขึ้นรถพร้อมกันที่บ้านฉัน เรื่องนี้ ฉันเขียนบรรยายถึงมิตรภาพอันน่ารักของพวกเขาในบล็อกแก๊งค่ะ ตามลิ้งค์ ดังนี้ นะคะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=06-01-2017&group=5&gblog=36 ก่อนที่จะติดตามงานนี้ ก็ขอลงรูปให้ดูเป็นน้ำจิ้มก่อน ค่ะ วันที่ 21-27 ธันวาคม สำหรับเดือนธันวาคมนี้ มีอีก 1 ทริป คือ ทริป ไปเที่ยวที่อิสาน ค่ะ เป็นทริปที่ยังไม่มีเวลาเขียน เล่าเรื่องเที่ยวให้ผู้อ่านได้อ่านเลย มีเรื่องอื่น ๆ แทรกเข้ามาก่อนหลาย ๆ เรื่อง ห้าห้า แต่จะเขียน เร็ว ๆ นี้แน่นอน ค่ะ ที่จริง ทริปนี้ ไม่ได้ตั้งใจไปหรอก ค่ะ ทริปนี้ พี่เจ๋ เป็นคนมาชวนไปแจมทัวร์ ที่มีคนจัดไปเที่ยว 3 คืน 4 วัน ราคา 4500 บาท อาหารมี 5 มื้อ รถตู้ จะต้องมีสมาชิก 8-9 คน เขาจึงจะจัดให้ ซึ่งกลุ่มพี่เจ๋ มีเพียง 4 คน จึงมาชวนฉันและวัชรี เพื่อให้ได้ เป็น 6 คน แล้วให้คนจัดทัวร์ ไปหาสมาชิกเพิ่มอีก 2-3 คน แต่ปรากฎว่า คนจัดทัวร์ก็หาสมาชิกไปให้ครบไม่ได้ ทัวร์นี้จึงล้มเลิกไป วัชรี เกิดความอยากไปมาก จึงเสนอว่า ให้ พี่เจ๋เอารถไป แล้วพวกเราลงขันกันไปตามที่จ่าย คือ ใช้หารค่าใช้จ่ายกัน นั่นเอง พี่เจ๋ ตอบกลับมาว่า "ไม่สะดวก" เราเลยเสนอกันใหม่ คือ นั่งรถทัวร์ ไปลงที่ขอนแก่น เพื่อนที่ขอนแก่น คือ เอก ยินดีเอารถของเขาพาพวกเราเที่ยว ฉันก็เสนอให้พี่เจ๋ ทราบถึงข้อเสนอของเอก พี่เจ๋ ก็ยังตอบคำเดิมว่า "ไม่สะดวก" ซึ่งฟังดูแล้ว ทั้งฉันและวัชรี เกิดความรู้สึก ไม่ชอบใจ เพราะเป็นคนชวนไปร่วมทริปทัวร์ของเขาที่ขาดคน ถ้าทางทัวร์เขาหาสมาชิกครบ แล้วถ้าเขาไม่สะดวก เขาจะไปกับทริปนี้ได้อย่างไร วัชร์ อารมณ์เสีย เลยชวนฉันไปเที่ยวกันสองคนก็ได้ เพราะมี เอก จะพาเที่ยวอยู่แล้ว ทริปนี้ จึงได้เกิดขึ้น มาชมภาพ แล้วค่อยไปอ่านเรื่องราวที่ฉันจะเขียนต่อไปในอนาคต นะคะ วันที่ 30 ธันวาคม ปีนี้ ปิดท้ายปี ด้วยการไปกราบพระบรมศพ พ่อหลวงที่พระบรมมหาราชวัง โดยนัดกับเหมียว เพื่อนบ้าน เรานั่งแท็กซี่ไป ช่วงเที่ยง กว่า ๆ ราคาร้อยกว่าบาทเศษ ๆ ไปถึงท้องสนามหลวง ต้องเดินไปอีกไกล ถามทางไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางที่ผ่าน คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ที่จะมากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แดด ช่วงเที่ยง ๆ ตอนนี้ อากาศร้อนมาก แต่ประชาชนไม่ได้หวั่นเกรง เรื่องแดด เรื่องลม เรื่องฝนเลย ยังคนหลั่งไหลกันเข้ามาเพื่อ จะได้มีโอกาสเข้าไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ระหว่างทาง จะมีร้านอาหารของผู้นำมา แจกแก่ผู้มาร่วมงาน หลายร้านมาก มีน้ำดื่มแจกให้ มียาดม ยาหม่อง แจกให้พร้อมเลย แต่เราไม่ได้ แวะทานอะไรเลย ตรงไปยังเต๊นท์ ตามที่เจ้าหน้าที่จัดคิวให้คนมางานเข้าไปนั่งรอ ขณะรอในเต๊นท์ ก็ยังมีคนเข็นข้าว เข็นน้ำไปแจกให้อีก ใจบุญจริง ๆ ฉันกับเหมียวเอาข้าวไข่เจียว น้ำพริก แบ่งกันกินแค่กล่องเดียว เพราะพวกเราอิ่มมาจากบ้านแล้ว และน้ำอีกคนละ 1 ขวดเล็ก เรารอกันที่เต๊นท์ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เริ่มได้เดินไปยังพระมหาราชวัง ซึ่งต้องเดินจาก สนามหลวงไปยังพระบรมมหาราชวัง ซึ่งไกลมากพอสมควร ทีเดียว ไปถึง ก็ต้องรอพัก เป็นช่วง ๆ อีก รอกันช่วงนี้ อีกประมาณ 1 ชั่วโมง พวกเราก็ได้เข้าไป กราบพระบรมศพพ่อหลวง ค่ะ มาชมภาพที่ฉันถ่ายมาฝาก เล็กน้อยค่ะ วันนี้ รู้สึกสบายใจมาก ที่ได้มีโอกาสมากราบพระบรมศพ พ่อหลวง สักครั้ง ก็ยังดี ถ้ามีโอกาส ฉันก็ยังอยากไปกราบพระองค์ท่านอีกนะ เข้าไปอยู่หน้าพระบรมโกศพระองค์ท่าน รู้สึกใจหาย แต่ก็ต้องยอมรับว่า พระองค์จากเราไปจริง ๆ แล้ว แต่พระองค์จะไม่หายไปจากใจฉันตราบชีวิตนี้จะหาไม่ ค่ะ ทวาทศมาส ประจำปี 2559 ก็ได้รวบรวมเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว ฉันก็หวังว่า ปี 2560 ฉันจะมีโอกาสได้รวบรวมเหตุการณ์ต่าง ๆ เหมือนในปี 2559 มาคุย มาเขียนเล่า ให้ท่านผู้อ่านได้อ่านอีก ปีหนึ่ง ค่ะ แต่อะไรก็ไม่เที่ยงแท้ นะคะ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมลิขิต อิอิ ขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามเรื่องราวใน ทวาทศมาส ประจำปี 2559 ตั้งแต่ ตอนที่ 1-6 ค่ะ
Create Date : 14 มีนาคม 2560
Last Update : 17 มีนาคม 2560 18:28:22 น.
26 comments
Counter : 2417 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณชีริว , คุณกะว่าก๋า , คุณเรียวรุ้ง , คุณtoor36 , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณmultiple , คุณข้ามขอบฟ้า , คุณสองแผ่นดิน , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณThe Kop Civil , คุณClose To Heaven , คุณRinsa Yoyolive
โดย: ชีริว วันที่: 17 มีนาคม 2560 เวลา:23:30:09 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2560 เวลา:16:13:42 น.
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 18 มีนาคม 2560 เวลา:20:38:12 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 มีนาคม 2560 เวลา:21:11:05 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 18 มีนาคม 2560 เวลา:21:24:01 น.
โดย: multiple วันที่: 19 มีนาคม 2560 เวลา:4:20:41 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มีนาคม 2560 เวลา:6:12:48 น.
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 19 มีนาคม 2560 เวลา:21:01:00 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มีนาคม 2560 เวลา:21:41:00 น.
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 19 มีนาคม 2560 เวลา:23:59:25 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มีนาคม 2560 เวลา:6:27:11 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 20 มีนาคม 2560 เวลา:8:21:46 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มีนาคม 2560 เวลา:15:56:48 น.
โดย: multiple วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:5:19:49 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:6:32:24 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มีนาคม 2560 เวลา:18:47:21 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:6:24:45 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:11:14:27 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:6:51:45 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:12:30:52 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:21:30:31 น.
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
เข้ามาชมตอน 6 ครับ รวดเดียวจบปี 59 ไปเลย
ไม่ได้ล่องเรือชมเจ้าพระยามานานแล้วครับ วิวตอนกลางคืนท่าทางสวย แต่ก็คงถ่ายรูปยากอะ มืดด้วย เรือแล่นด้วย
ยังติดตามทริปเที่ยวจีนอยู่นะครับ ใกล้จบแล้วๆ อาจารย์ไปสองอาทิตย์เลย อยากมีเวลาไปทริปยาวๆแบบนี้บ้างครับ รอเกษียณก่อน
13 ต.ค. เป็นความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเกิดมาสัมผัสได้เลยครับ
พระธาตุจอมทองว่ากันว่าไหว้แล้วถูกหวยกันบ่อย ยังไม่เคยลองเลยครับ
ส่วนพระธาตุดอยคำยังไม่เคยไป
Dak Galbi ผมไปกินช่วงแรกๆแล้วได้คูปองส่วนลดครั้งหน้ามาเยอะเลย ป่านนียังใช้ไม่หมดเลยครับ
ทริปอีสานได้ยินอาจารย์พูดถึงเหมือนกัน รอชมครับ :D ตอนนี้ดูรูปไฮไลต์ไปก่อน
สวัสดีวันหยุดครับอาจารย์