1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31
ไปร่วมงานสวดลักขี บวชชีหมื่นคน
ไปร่วมงานสวดลักขี บวชชีหมื่นคน เมื่อผู้อ่านได้เห็นหัวข้อเรื่องของบล็อกที่ฉันกำลังเขียนนี้ ก็คงจะสงสัยว่า งานสวดลักขี บวชชีหมื่นคน คืออะไร ฉันเอง เมื่อได้เห็นป้ายประกาศที่แขวนไว้ที่วัด ธรรมมงคล ก็เกิดความ สงสัยเช่นกัน เมื่อเกิดความสงสัย ก็ต้องหาคำตอบ ค่ะ วัดธรรมมงคล ฉันคิดว่า น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักวัดนี้นะ เพราะเป็นวัด ที่มีเจ้าอาวาสที่เผยแผ่ศาสนาพุทธ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มีสาขาของการสอนสมาธิในประเทศ ไทย สองร้อยกว่าสาขา ที่ต่างประเทศ ท่านก็ไปสร้างวัดเพื่อเผยแผ่ศาสนาพุทธที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและ ประเทศแคนาดา เพื่อให้ชาวไทย ที่อยู่ในต่างประเทศมีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการทำสมาธิ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และ นักบวช ด้วยความเมตตาของท่าน เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล ท่านนี้ ก็คือ พระธรรมมงคลญาณ วิ.(หลวงพ่อ วิริยังค์ สิรินฺธโร ) ค่ะ ฉันมีลูกศิษย์คนหนึ่ง ทำงานอยู่ที่วัดนี้ คล้าย ๆ เป็นโยมอุปฐาก คอย ช่วยเหลืองานวัด ช่วยสอน เณรที่บวชอยู่ที่วัดนี้ เวลาวัดมีงานต่าง ๆ เธอก็จะมาช่วยงานที่วัด เรียกว่าเป็นจิตอาสา นั่นเอง สุรีย์ ชวนฉันมาเรียน วิชาสมาธิ หลายครั้ง ฉันก็ยังไม่มีเนื้อนาบุญพอที่จะมาเรียนสักที ครั้งนี้ ที่วัดธรรมมงคล จัด งานฉลองเนื่องในโอกาส ที่หลวงพ่อวิริยังค์ มีสิริอายุวัฒนะครบ 99 ปีในวันที่ 7 มกราคม ซึ่งใน ทุก ๆ ปี จะจัดตั้งแต่วันที่ 4-8 มกราคม โดยมีการสวดลักขี บวชชีหมื่นคน ความหมายของ การสวดลักขี บวชชีหมื่นคน ได้คำอธิบายมาว่า "บวชชี หมายถึงการทำความดีให้ตนเองสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้ใจเศร้าหมอง หญิงชายก็บวชชีได้ แล้วเสริม พลังแห่งความสุขด้วยการสวดลักขี" "การสวดลักขี คือ การสวดบทพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ หนึ่งแสนจบ " นี่แหละค่ะ ความหมายของที่มาของ งานสวดลักขี บวชชีหมื่นคน ค่ะ สุรีย์ ชวนฉันไปเข้าร่วมงานสวดลักขี บวชชีหมื่นคน ปีนี้ด้วย ฉันได้ ชวนประไพ คนที่มีอาชีพเป็นแม่บ้าน เคยมาทำความสะอาดที่บ้านฉันไปร่วมงานนี้ด้วย ซึ่งเขาก็อยากไปงาน นี้ เพราะเขาเคยไปไหว้พระที่วัดนี้บ่อย ๆ เป็นอันว่า ฉันได้เพื่อนไปงานนี้แล้ว นัดกันไปวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเป็น วันอาทิตย์ เขาจึงจะว่าง นั่นเอง วันที่ 6 ฉันนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีปุณณวิถี ตามที่นัดกับไพไว้ ประมาณ สามโมงเช้า เจอกันตามนัด พวกเราก็นั่งรถรับจ้าง เข้าวัดไป คนละ 10 บาท ค่ะ ไปถึงวัด คนมากมาย ฉันโทรหาสุรีย์ตามที่นัดไว้ แต่สุรีย์ไม่ได้รับสาย เราก็เลยเดินไปตามคนอื่น ๆ ไป โดยไม่รู้ว่า จะไปด้านไหนก่อน ได้ยินแต่เสียงสวดมนตร์ บท อิติปิโส ดังกระหึ่มทั่ว วัดเลย เราก็เดินไปตามทาง เจอโรงทาน หลายร้านเลย เจอร้านดาราด้วย ค่ะ มาชมบรรยากาศของงานค่ะ ภาพแรกที่เห็นคือ คนเข้าแถวกันยาวเหยียด มาทราบภายหลังว่า เพื่อ ไปลงทะเบียนมางาน ค่ะ แต่ฉันกับ ไพ ไม่ได้ไปเข้าแถวกับเขาหรอก โทรศัพท์ถึงสุรีย์ก็ไม่รับ เลย เดินไปตามทาง เอ้า ！ เจอโรงทาน ไพ บอกยังไม่ได้ กินข้าวเช้า ก็เลยแวะโรงทานก่อนเลย มีร้านอาหารมาออกโรงทาน หลายร้าน เช่น กระเพาะปลา ไส้กรอกทอด ขนมจีนน้ำยา เจอร้านส้มตำดาราด้วย ไพรีบไปขอถ่ายรูปกับดารา เอ้า ！ ฉันไม่ยอมแพ้ไพนะ เอาบ้าง เลยได้ถ่ายรูปกับดาราชาย 2 คน คือ ชื่อเอกพงษ์ และสุรินทร์ ส่วนหนึ่งของโรงทานด้านนอก ค่ะ โฉมหน้าดาราชายที่ฉันไปถ่ายรูปด้วย ทั้งสองคน น่ารัก สุภาพ ไม่ถือตัว มีคนมาถ่ายรูปกับทั้งสองคนมากมาย ค่ะ เดินไปเดินมาไม่รู้จะกินอะไรดี พอดีเจ้าของโรงทานกระเพาะเชื้อเชิญ ให้กินร้านของเขา ก็เลยทานกระเพราะปลาคนละถ้วย แล้วสุรีย์ก็โทรเข้ามือถือฉัน บอกตำแหน่งจุดนัดแล้ว สุรีย์์ก็เดินมาหาฉัน ทักทายกันแล้ว สุรีย์พาเราไปลงทะเบียน ก็แถวที่ต่อกันยาวเหยียดที่เห็นครั้งแรกนั่นแหละ ลงทะเบียนเพื่อรับ หนังสือ สูจิบัตร แต่สำหรับหนังสือ คำสอนหลวงพ่อ หมดไปตั้งแต่สองวันแรกแล้ว แต่ฉันก็ไม่อด เพราะ สุรีย์เอาของเขาให้ฉัน เขาบอกว่า เขามีหนังสือ ของหลวงพ่อมากมายแล้ว นั่นเอง เป็นบุญของฉันที่ได้หนังสือเล่มนี้มา อ่านประเทืองปัญญา เนาะ จากนั้น สุรีย์ ก็พาทัวร์ไปชมโรงทาน ซึ่งจัดไว้โดยเฉพาะ เห็นบอกว่า ประมาณ สามร้อยกว่าร้าน คนศรัทธา ทำบุญกันมากมายจริง ๆ เห็นแล้วก็ตื้นตันใจเนาะ ที่เห็นชาวพุทธยัง มั่นคง ศรัทธาในเรื่องของการทำบุญและทำทานด้วย ที่เห็นและจำได้ มีก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ทอดมัน ฉันได้ชิมด้วย 4ชิ้น รสชาติ อร่อยใช้ได้ทีเดียว อีกส่วนหนึ่งของโรงทาน ราดหน้า ห่อหมก อีกมากมาย ถ่ายรูปมาเป็น ตัวอย่างให้เห็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เซลฟี่กับลูกศิษย์หน่อย เซลฟี่กัน 3 คน อีกรูป ค่ะ อิ่มท้องกันแล้ว ก็มองหาที่นั่ง เพื่อที่จะได้เข้าร่วมสวดลักขี ซึ่งจะมีการ สวดกันตลอดเวลา ครบกี่จบไม่ทราบ ก็จะมีการพัก สัก 10 นาที แล้วก็สวดกันต่อไป ตลอดทั้งคืน ทั้งวัน ค่ะ ที่นั่งที่ปะรำพิธี ไม่มีโอกาสได้นั่งหรอก เพราะคนจองตั้งแต่วันแรก แล้วก็ต้องนั่งกับพื้น ฉันคงไม่ไหว เพราะนั่งพับเพียบไม่ไหว เนื่องจาก เข่าที่ผ่าตัด งอไม่ได้เต็มที่ หาได้ที่ริม ๆ ของอาคาร มีคนนั่งสวดมนตร์ เราก็ไปนั่งกับเขาด้วย นั่งสวดตามไปด้วย ซึ่งตรงไหนพอที่จะมีที่นั่งได้ ทุกคนก็พร้อมที่จะแทรกนั่งค่ะ นั่งตามไหล่ทางกันค่ะ เราได้ที่นั่งข้าง ๆ อาคาร แต่นั่งได้สักพัก ก็ต้องย้าย เพราะแดดไล่ที่ เลยหาที่นั่งริม ๆ ที่จะลงไปที่ปะรำพิธี โชคดี สามารถห้อยขา ได้ด้วย เลยยึดที่นั่งตรงนี้เลย ปะรำพิธีอยู่ใน พวกเราอยู่ริม ๆ มีเสื่อของผู้ที่มาบวชชีแบ่งให้นั่งด้วย ด้านหนึ่งของปะรำพิธี ซึ่งมีทั้งหมด 4 ด้าน มีคนจองที่หนาแน่นหมด นอกจากนี้ ยังมีบนตึก บนอาคารต่าง ๆ อีกด้วย ค่ะ อีกมุมหนึ่งของปะรำพิธี ค่ะ ระหว่างที่พัก สวดลักขี ฉันมีโอกาสไปกราบพระและทำบุญหยอดกล่อง หลังจากนั้นเมื่อพิธีสวดลักขีเริ่มสวด เราก็มานั่งสวด ค่ะ บทสวดลักขี บวชชีหมื่นคน มีเนื้อหาดังนี้ ค่ะ อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุธโธ วิชาจะระณะสัมปันโณ สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ ฯ สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ คำแปลบทสวดลักขี ค่ะ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นพระอรหันต์หมดกิเลสแล้ว ผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยด้วยพระองค์เอง ผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติดี ผู้หมดความกังวลเสด็จไปดีแล้ว ผู้รู้แจ้งแล้วซึ่งโลก ผู้สามารถฝึกบุรุษ ที่สมควรฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ผู้สามารถจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้แลฯ พระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นคำสั่งสอนที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเข้าใจได้ด้วยตนเอง เป็นคำสั่่งสอนที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดเวลา เป็นคำสั่งสอนที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาปฏิบัติตามเถิด เป็นคำสั่งสอนที่นำมาปฏิบัติตามได้ด้วยตนเอง เป็นคำสั่งสอนที่ผู้รู้ก็สามารถรู้ได้เฉพาะตน ดังนี้แล ฯ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติดีแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติถูกต้องตามคำสั่งสอนแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติเพื่อรู้แจ้งแห่งทุกข์แล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติสมควรแล้ว ได้แก่ท่านเหล่านี้ คือ คู่แห่งบุรุษทั้งสี่ รวมได้แปดบุรุษ นั่นแหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ควรรับสักการะที่เขา นำมาบูชา ผู้ควรรับสักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ ผู้ควรรับสักการะที่เขา มอบให้ด้วยความยินดี ผู้สมควรทำความเคารพ ผู้ให้ผลบุญสูงสุด ของโลก ดังนี้แล ฯ เวลาพักสวดลักขี อีกครั้ง ฉันได้ไปทำบุญ โดยเขียนชื่อที่อยู่บนใบโพธิ์ ซึ่งมีอยู่สองต้น เป็นการร่วมทำบุญ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อวิริยังค์ คนเข้าแถวมาทำบุญ มากมาย ฉันให้ไพไปทำบุญก่อน ฉันต้องนั่งเฝ้าที่ที่นั่งสวดมนตร์ไว้ ผลัดกันไป ถ้าไปทั้งสองคน กลับมา เราจะไม่ได้ที่นั่งแน่นอน เรียกว่า ลุกแล้วเสียม้า นั่นแหละ ฉันเข้าแถว และนำเงินทำบุญคนละ 100 บาท ทำบุญให้เยาว์และจ๋า ด้วย ตามที่เพื่อนได้บอกไว้ให้ทำบุญเผื่อด้วย ให้เงินเจ้าหน้าที่ ไป 300 บาทแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ให้ใบโพธิ์มา 3 ใบ ฉันเขียนชื่อ ที่อยู่ ของตัวเองเสร็จ ก็เขียนให้เยาว์และจ๋า แล้วก็ต้องไป แขวนไว้ที่ต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง ซึ่งมีคนมาทำบุญและแขวนใบโพธิ์ไว้ มากมายแล้ว เขามีไม้ให้เกี่ยวกับใบโพธิ์เพื่อไป แขวนไว้ที่ต้นโพธิ์ ทุกคนก็อยากแขวนไว้ที่สูง ๆ แต่ฉันตัวเล็ก ไม้ที่ให้ นำใบโพธิ์ก็หนักและยาว ฉันจึงขอให้คนที่ ตัวสูงและกำลังแขวนใบโพธิ์ของตนเองอยู่ ช่วยแขวนใบโพธิ์ของ พวกเราด้วย เธอผู้นั้นก็น่ารัก ใจดี ช่วยฉันตามคำขอ ค่ะ ทำบุญเสร็จ ก็ต้องมีการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก คนถ่ายรูปก็มากมาย ต้อง เข้าคิวเช่นเดียวกัน ฉันก็อาศัยถ่ายให้ คนอื่น และขอให้คนอื่นถ่ายให้ฉันบ้าง ก็ได้รูปมาให้เพื่อน ๆ ชมค่ะ ระหว่างต้นโพธิ์เงิน โพธิ์ทอง มีรูปของหลวงพ่อวิริยังค์ อยู่ตรงกลาง เลยได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอีกภาพหนึ่ง ค่ะ ประมาณ บ่ายโมงเศษ ๆ ก็มีการแสดงพระธรรมเทศนา ซึ่งผู้แสดง ก็คือ พระราชวิสุทธิมุณี แห่งวัดศาลาอตุลฐานะจาโร จังหวัดสุรินทร์ พระท่านนี้ ก็คือ เจ้าอาวาสของวัดศาลาอตุลฐานะจาโร ซึ่งพระตู่ ลูกศิษย์ไปอยู่ที่วัดนี้ และฉันได้ช่วยเป็น สะพานบุญเชิญชวนเพื่อน ลูกศิษย์ลูกหา มาเป็นเจ้าภาพบวชพระ บวชเณร ภาคฤดูร้อน ทุกปี นั่นเอง ฉันเคยเจอท่าน ที่วัดบวรนิเวศ ซึ่งท่านและพระตู่ได้นำ พระและเณร ของที่วัดมาบวช ที่วัดบวรนิเวศ เมื่อบวชเสร็จก็ไปปฏิบัติธรรม ที่วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ต่อไป ค่ะ นี่เป็นรูปหลวงพ่อ พระราชวิสุทธิมุณี ที่ฉันถ่ายจากจอโทรทัศน์ ค่ะ เพราะไม่มีโอกาสฝ่าฝูงชนไปถ่ายรูปท่านโดยตรงได้ ค่ะ หลังจากการแสดงธรรมเทศนาเสร็จแล้ว มีการถวายกัณฑ์เทศน์ โดยมี เจ้าหน้าที่นำกล่องมารับเงินทำบุญ ฉันกับไพก็ทำบุญ ใส่กล่องทำบุญไปด้วย เช่นกัน สาธุ ค่ะ หลังฟังธรรมเทศนาแล้ว พระผู้นำสวดลักขี ก็มีการนำพวกเราสวดมนตร์ กันต่อไป เรื่อย ๆ ผู้มาปฏิบัติธรรม บางส่วนได้ไปลาศีล เพื่อกลับบ้าน เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ ต้อง กลับไปทำงานแล้ว ประมาณช่วง บ่ายสามโมง หลวงพ่อ วิริยังค์ ได้มาที่ปะรำพิธี เพื่อทำ การทอดผ้าป่าที่สานุศิษย์ทั่วประเทศ ร่วมกันนำผ้าป่ามาทอดในวันนี้ เพื่อนำปัจจัยไปบำรุงพระพุทธศาสนา ต่อไป ค่ะ คณะที่นำผ้าป่ามาทอด มีมากมาย เฉพาะของที่วัดธรรมมงคล ก็มีเป็น 10 ต้น ให้คนมาวัดได้ทำบุญต้น ผ้าป่า ด้วย ฉันก็ได้เห็นพิธี จากในโทรทัศน์เท่านั้น เป็นภาพที่หลวงพ่อนั่งรถกอล์ฟมายังปะรำพิธี แล้ว มีพระภิกษุสองรูปช่วยกันประคอง หลวงพ่อมานั่งที่เก้าอี้ ค่ะ ต้นผ้าป่าของทางวัดธรรมมงคลที่ตั้งไว้ให้คนมาทำบุญ หลวงพ่อลงจากรถกอล์ฟ มีพระภิกษุมาช่วยประคองท่านมานั่งที่เก้าอี้ หลวงพ่อนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว ค่ะ จากนั้น จะมีผู้ที่มากล่าวอาราธนาศีล คือ ท่านมีชัย ฤชุพันธ์ุ มีอีกคน น่าจะเป็นคนช่วยเรื่องพิธีการ หลังจากที่กล่าว อาราธนาศีลแล้ว มีการกล่าวคำถวายผ้าป่าที่ลูกศิษย์ แต่ละ คณะนำมาทอดแล้ว มีการกล่าวนำ อวยพร วันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อ โดยคนที่ช่วยเรื่องพิธีการ ได้กล่าวนำ ว่า ขอให้หลวงพ่ออยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ สานุศิษย์ ขอให้ท่านอยู่ถึง 120 ปี ทุกคนร้องสาธุ เมื่อหลวงพ่อยกมือ ขึ้น ทุกคนก็ถือว่า หลวงพ่อรับปากแล้ว อิอิ คุณมีชัย ฤชุพันธุ์ และคนที่ร่วมทำพิธีทอดผ้าป่า ค่ะ พวกเราทุกคนในงาน จะร้องอวยพรว่า "ขอให้หลวงพ่อสุขภาพแข็งแรง" ร้องอวยพรเช่นนี้ เสียงเซ็งแซ่ไปทั่วปะรำพิธี เป็นเวลาน่าจะประมาณ 5 วินาที เห็นจะได้ค่ะ ทุกคนรวมทั้งฉันด้วย รู้สึก มีความปิติ ปลาบปลื้ม ที่ปีนี้ มีโอกาส มาร่วมงานวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อ ค่ะ หลังจากที่พิธีทอดผ้าป่า เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อก็ได้ให้โอวาท แก่พวกเรา ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น บางช่วงมีการเหย้าแหย่บรรดา ลูกศิษย์ลูกหาด้วย จากการฟังน้ำเสียง ของท่าน แสดงให้เห็นว่า วัย 99 ปี ของท่าน พูดได้ชัดเจน คล่อง ไม่ติดขัด หรือสั่นเครือเลย แสดงว่า สุขภาพท่านแข็งแรงมากทีเดียว ท่านก็คงจะสามารถอยู่ได้ถึง 120 ปี ตามที่ลูกศิษย์ลูกหาอวยพรไป ค่ะ หลวงพ่อให้โอวาทแก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่มางาน ค่ะ หลังจากนั้น ก็มีการแจกหนังสือ เรื่อง ๙๙ ธรรมสาทก ซึ่งเป็นคำสอน ของหลวงพ่อที่เขียนด้วยลายมือของท่าน และแจกเหรียญรูปหลวงพ่ออีก 1 องค์ด้วยค่ะ ตอนนี้ซิคะ คนเข้าแถวกัน ยาวเหยียด ยืนรอกันเป็นชั่วโมงหลายชั่วโมง ทุกคนก็ยอมทนยืนกัน เพื่อจะได้ของที่ระลึก ดังกล่าว ได้สิ่งของที่เป็น มงคลต่อ ชีวิต ค่ะ ฉันกับไพ สุรีย์และเพื่อน ของสุรีย์ ก็ต่อคิวด้วย เราไปต่อคิวเอาตอนเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง เพื่อ ให้คนซาหน่อย ก็ยังยืนเข้าแถวกันเป็นชั่วโมงค่ะ นี่เป็นของที่ระลึกที่หลวงพ่อแจกให้แก่ลูกศิษย์และผู้มางาน ค่ะ หนังสือคำสอนของหลวงพ่อ ที่แจกเมื่อลงทะเบียนแต่หมดไปตั้งแต่ วันแรก ๆ แล้ว เล่มนี้ สุรีย์ให้มา ค่ะ ส่วนอีกเล่ม เป็นสูจิบัตรของงานสวดลักขี บวชชีหมื่นคน ค่ะ หลังจากที่ได้รับของที่ระลึกแล้ว พอดีผ่านรูปของหลวงพ่อ เลยถ่ายรูป ไว้เป็นที่ระลึกอีกรูปหนึ่ง ค่ะ รูปนี้ พวกเราเซลฟี่กันค่ะ รูปนี้ ให้คนอื่นถ่ายให้อีกรูปหนึ่ง โชว์หนังสือของที่ระลึกของหลวงพ่อ หลังจากนั้น สุรีย์เดินมาส่งฉันและไพ เพื่อขึ้นรถรับจ้างเพื่อออกมาที่ ปากซอย ตอนนี้คนที่จะกลับบ้านเยอะมาก รอกันแถวยาวเพื่อรอรถสองแถว ซึ่งนั่งได้ประมาณ 7-8 คน กว่าฉัน กับไพจะได้นั่ง ก็น่าจะเป็นค้นที่ 4 แล้ว ฉันกับไพลงจากรถแล้วไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีปุณณวิถี ไพกลับบ้านไป ทางสำโรง ส่วนฉันกลับทางทองหล่อ ต่อมอเตอร์ไซด์เข้าบ้านไป ค่ะ วันนีัรู้สึก อิ่มบุญนะ ที่มีโอกาสไปร่วม พิธี สวดลักขี บวชชีหมื่นคน ค่ะ จิตใจรู้สึกเบาบาง นาน ๆ จะได้ไปทำบุญด้วยการสวดมนตร์เช่นนี้ค่ะ ขอแบ่งบุญมาให้เพื่อน ๆ ชาวบล็อกทุกคนด้วยค่ะ
Create Date : 08 มกราคม 2562
Last Update : 10 มกราคม 2562 9:52:41 น.
23 comments
Counter : 2809 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้... คุณhaiku , คุณkae+aoe , คุณกะว่าก๋า , คุณtuk-tuk@korat , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณtoor36 , คุณอุ้มสี , คุณnewyorknurse , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณNior Heavens Five , คุณชีริว , คุณสองแผ่นดิน , คุณไวน์กับสายน้ำ
โดย: kae+aoe
โดย: วัชรี แพร่ภัทร IP: 58.11.156.221 วันที่: 10 มกราคม 2562 เวลา:12:00:39 น.
โดย: กะว่าก๋า
โดย: กะว่าก๋า
โดย: คุณต่อ (toor36
โดย: อุ้มสี
โดย: กะว่าก๋า
โดย: kae+aoe
โดย: กะว่าก๋า
โดย: กะว่าก๋า
โดย: ชีริว
โดย: สองแผ่นดิน
โดย: กะว่าก๋า
โดย: กะว่าก๋า
โดย: กะว่าก๋า
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
