คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
 
กุมภาพันธ์ 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
2829 
space
space
17 กุมภาพันธ์ 2559
space
space
space

ทวาทศมาสประจำปี 2558

 (ต่อจากตอนที่ 1 ค่ะ) 


        เดือน พฤศจิกายน เดือน 11 ของปีแล้ว ค่ะ เวลาผ่านไปเหมือนมีปีกบินด้งคำโบราณว่า จริง ๆ เนอะ ช่วงนี้ ศิษย์เก่าที่จองโต๊ะเริ่มทยอยกันมารับบัตรที่บ้านฉัน วันนี้ วันที่ 1 เจนก็มารับบัตรไป เขาเก่งมากไปช่วยกันชวนรุ่นเขา จองไปทั้งหมด 6-7โต๊ะ 
     วันที่ 3 พฤศจิกายน  ภัชลีย์ รุ่น ปี 20 มารับบัตร ซื้อก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เจ้าอร่อยของเขามาฝาก รสชาติก็อร่อยตามที่กล่าวถึงเช่นกัน เขาได้อุดหนุนหนังสือของฉันไป 1 ชุด เช่นกัน อิอิ


      วันที่ 5 พฤศจิกายน  วันนี้นงลักษณ์ให้วินมอเตอร์ไซด์มารับบัตรเข้างานราตรีคืนสู่เหย้าชาวธาตุทอง แถมฝาก ก๋วยเตี๋ยวและต้มเลือดหมู อย่างละ 1 ถุง แถมส้มเขียวหวานอีก 1 ถุง ฉันลายน์ไปขอบใจลูกศิษย์ที่ห่วงใยในเรื่องการกิน การอยู่ของฉันเสมอ อิอิ



      วันที่ 7พฤศจิกายน   วันนี้ เป็นวันแต่งงานของ เอ เขาเชิญมาทาง กล่องข้อความ เด็กสมัยใหม่ ดูเหมือนเขาลืมคิดถึงความเหมาะสมของประเพณีไปหมด แม้แต่การ์ดก็ไม่ได้ส่งทางไปรษณีย์ ถ้าถือตัว ถือสา ฉันก็คงไม่ไป แต่ เอ เป็นลูกศิษย์ที่สนิทมากคนหนึ่ง เป็นเด็กประจำชั้นด้วย ก็ต้องไปเสียหน่อย พ่อแม่เขาฉันก็รู้จัก อุ้ยก็เสียความรู้สึกที่ไม่ได้รับเชิญโดยตรง  มีแต่การไปแปะการ์ดแต่งงานไว้ในเฟสเป็นการเชิญ จะไม่ว่างอย่างไร ก็แค่ส่งทางไปรษณีย์หรือโทรไปบอกเพื่อนก็ยังดี  ฉันต้องเป็นคนประสานให้เขา โทรไปเชิญอุ้ยกับแม่อุ้ย  วันนี้ ครอบครัวอุ้ยจึงได้ไปงาน ครั้งแรกอุ้ยยืนยันถ้า เอ ไม่โทรบอกเขาจะไม่ไปแน่นอน  เฮ้อ! งานแต่งเสร็จตั้งนาน ก็ไม่ส่งรูปมาให้ชมกันเลย มีอยู่ในกล้องอุ้ย 2 รูปเท่านั้น แปลกดีเหมือนกันเนอะ
       งานนี้ที่ฉันไปได้  ต้องขอบใจ นายกสมาคมฯ สุเทพ เพราะเขาไปงาน เอ ในฐานะเอ เป็นอุปนายก คนที่ 1ของคณะกรรมการชุดนี้  ฉันเลยได้อาศัยเขามารับและส่ง  ขากลับ ครอบครัวอุ้ย ก็ได้อาศัยกลับบ้านด้วย  ประหยัดค่ารถไปเยอะ  เห็นเล่าว่า ขามา เสียค่ารถเป็นเงิน 500 กว่าบาทประมาณนั้น งานเขาส่วนใหญ่เป็นแขกผู้ใหญ่ของพ่อแม่ และเพื่อนร่วมงานของเขา สุเทพเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพ่อของเอ ดังนั้น รุ่นสุเทพ จึงมี 2 โต๊ะ ฉันไม่รู้จักใครเลย เพราะไม่เห็นมีครูธาตุทองสักคน กว่าจะหายเหงาได้ ก็ตอนที่ครอบครัวอุ้ยมานั่นแหละ  อิอิ 



      วันที่ 8 ก็มีลูกศิษย์มารับบัตรหลายรุ่น  คือ สิริวรรณ แถมนำดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทำเองกระถางใหญ่มาฝากด้วย
      ช่วงบ่าย กำชัย ก็แวะมารับบัตรและซื้อผลไม้มาฝากฉัน คือ สาลีญี่ปุ่น 2 ลูก องุ่นไร้เม็ด น่าจะครึ่งโล แล้วก็อุดหนุนหนังสือฉันไป 1 ชุดด้วย คุยกัน ถามทุกข์สุขกัน หน้าที่การงานเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดี ทำงานด้านศุลกากร ฉันก็ดีใจที่ลูกศิษย์ที่ฉันสอนได้ดีไปอีกคน ช่วงเย็น เพ็ญ ห้องของชู ก็มารับบัตรงานเช่นเดียวกัน นำขนมเปี๊ยะมาฝาก 1 กล่อง วันนี้ มาชมภาพหน่อยนะจ๊ะ 


       วันที่ 12 พฤศจิกายน  วันนี้ นิลรัตน์ ก็มารับบัตรด้วยตัวเอง นิลรัตน์ เป็นลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอีกคนหนึ่งที่พวกครูต้องภูมิใจ เขาเป็นเด็กช่างพูด  มีความคิดแปลกใหม่ กล้าแสดงออกตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนแล้ว งานแต่งของเขา ก็เชิญฉันไปด้วย งานแต่งก็จัดแหวกแนวไปจากงานแต่งโดยทั่วไป ตามที่ฉันได้เขียนไว้ในบล็อกแก็งค์ ไปแล้ว การจัดทำวารสารสมาคมฯ เขาก็ให้การสนับสนุน 10000 บาท วันนี้ เขามารับบัตรงาน จองไว้สองโต๊ะสำหรับรุ่น 6/2 ปี 37 เหมือนเดิม   ซื้อขนมจีบและซาลาเปาร้าน   วราภรณ์มาฝากอีกกล่องด้วย ต้องขอบใจเขาไว้ ณ ที่นี้ด้วยจ้ะ ได้ดีแล้วไม่ลืมครูอาจารย์ที่เคยสอนเขามา 
       วันที่ 14 พฤศจิกายน
       วันนี้เป็นวันที่ฉันเหนื่อยมาก ๆ เพราะเป็นวันงาน คืนสู่เหย้าชาวธาตุทอง  ฉันเป็นคนขายบัตรให้ลูกศิษย์รุ่นต่าง ๆ ก็ต้องมาคอยให้การต้อนรับพวกเขา  บางคน บัตรเข้างานยังอยู่ที่ฉันเลย ต้องคอยบริการเขา ต้องไปก่อนเวลาด้วย วันนี้ ให้ก๋วยมารับไปงาน 16.30 น. ต้องนุ่งกระโปรง ใส่ส้นสูง (อยากสวย) เขาเชิญให้เข้าพิธีไหว้ครูด้วยนั่นเอง เลยต้องนุ่งกระโปรงให้สุภาพ จ้ะ ลูกศิษย์แต่ละรุ่น รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง ทักทายปราศรัยกันไป ถ่ายรูปคู่บ้างเดี่ยวบ้าง  ลูกศิษย์บางคนเพิ่งเจอกันในลายน์ ในเฟส จากกันหลายสิบปี บอกว่า เจอหน้าอาจารย์ ผมขอถ่ายรูปคู่ด้วยนะ อิอิ เช่น จักรี เฮงอรุณ รุ่นกำชัย เขาเป็นทหารอากาศ เก่งมาก ขับเครื่องบินด้วย  เจอกัน จำเค้าหน้าได้ ยังตัวเล็ก ผอมอยู่ รักษาหุ่นดีอยู่ อิอิ  เรื่องราวสนุกสนานอย่างไร วุ่นวายมากน้อยแค่ไหน ฉันเขียนไว้อย่างละเอียดพร้อมรูปที่เด็ก ๆ ถ่ายแล้วส่งมาให้ฉัน เลยได้นำมาประกอบข้อเขียนด้วย เชิญอ่านได้ตามเว็บที่ฉันให้ไว้นี้นะคะ 

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=17-11-2015&group=5&gblog=39

     วันที่ 16 พฤศจิกายน  วันนี้ธวัชชัย  รุ่นก๊อง ซึ่งไปทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน เลยชวนฉันกับรวง ไปทานอาหารกันและคุยกัน นัดตอนเย็น ไม่อยากให้เขาจ่ายเยอะ เลยไม่ให้ไปร้านศรทอง ซึ่งรวงอยากไป ร้านนี้ ค่อนข้างแพง เลยพาไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด ซึ่งก๊องเคยพาไปทาน อร่อยใช้ได้ ไม่ได้สั่งก๋วยเตี๋ยวหรอก สั่งเนื้อเป็ด ไส้เป็ด ปีกเป็ด ฯลฯ แล้วก็ขนมจีบ ซาลาเปา  ลูกชิ้นหมูปิ้ง อร่อย ๆ ทั้งนั้น แล้วก็มีข้าวสวย มื้อนี้แค่ เจ็ดหรือแปดร้อยกว่าบาทเอง เสียค่าแอร์ไปคนละ 10 บาท (เขาคิดค่าห้องแอร์ด้วย) นั่งกินไปคุยกันไปถามสารทุกข์สุกดิบกันไป  อิ่มแล้วมากินขนมที่ หน้าปากซอย 38 อีกรอบหนึ่ง ส่งรวงขึ้นไฟฟ้า ส่วนธวัชเรียกแท็กซี่ มาส่งฉันที่บ้านก่อนแล้วจึงนั่งแท็กซี่กลับบ้านไป เฮ้อ! วิถีชีวิตของเจ้าลูกศิษย์คนนี้ ขึ้น ๆ ลง ๆ ตอนนี้ไปทำงานที่ญี่ปุ่น คงจะดีขึ้นเรื่อย ๆ นะจ๊ะ ขอให้เป็นเช่นนั้น เรามาดูรูปพวกเรา กินข้าวกันนะ อิอิ


       วันที่ 19 พฤศจิกายน  
       วันนี้ ฟ้า มาเยี่ยมและอุดหนุน วารสารของสมาคมฯไป 2 เล่ม ซื้ออาหารมื้อเที่ยง จากเชสเตอร์คิว มาฝากด้วย เป็นปลาย่างกินกับซอส นั่นเอง  นั่งคุยกันสนุกสนาน หายเหงาไปเยอะ เขากำลัง แพลน ที่จะไปเรียนการ์ตูน ที่ญี่ปุ่น ก็เป็นลูกศิษย์ที่เจริญก้าวหน้าอีกคนหนึ่งนะ 

     วันที่ 20 พฤศจิกายน  
     โรงเรียนเรา ผู้บริหารย้ายอีกแล้ว ผอ.คนนี้มาอยู่ได้เพียง ปีกว่า ไม่น่าจะถึงสองปีดีนะ ก็ขอย้ายกลับไปยังบ้านเดิมที่ ตากเสียแล้ว เฮ้อ! สงสารธาตุทองเหลือเกิน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เหมือนผู้บริหารแต่ละคนเห็นโรงเรียนเราเป็นที่พักชั่วคราวกันทั้งนั้น แล้วมันจะก้าวหน้าอย่างไร มาใหม่ที ก็เปลี่ยนแนวใหม่ที น่าเบื่อกับระบบการบริหารในปัจจุบันนี้มาก  การย้ายที ก็ต้องมีการจัดเลี้ยงส่งที เลี้ยงรับเลี้ยงส่งกันอยู่อย่างนี้ตลอดเลยเนอะ  อิอิ งานนี้ เจอ ผช.วรรณา ซึ่งเคยอยู่ที่โรงเรียนเราด้วย ตอนนี้ ก้าวหน้ามากทีเดียวได้เป็น ผอ.แล้ว ดูเหมือนจะไปประจำที่ จังหวัดอยุธยา เขาก็น่ารักนะ ไม่ถือตัว มาสวัสดีฉันในฐานะเป็นพี่เขา และเราก็เคยดีต่อกันในสมัยเขาเป็นวิชาการและก็ถูกสับเปลี่ยนไปอยู่ธุรการ 



      วันที่ 26-30 พฤศจิกายน 
       ช่วงนี้ ฉันก็ชีพจรลงเท้าอีกครั้งหนึ่งนะ ตกลงไปทัวร์ของคุณปราโมทย์อีกครั้งหนึ่ง คือ เที่ยวสิบสองปันนา  ครั้งนี้ ชวน พี่เจ๋ ลุงสม และวัชรี ไปด้วย เป็นทริปที่ไม่ประทับใจเลย เพราะนั่งรถนานมาก ได้เที่ยวแค่วันเดียว แล้วก็นั่งรถกลับแล้ว ฉันได้เขียนบรรยายไว้ใน บล็อกแก๊งค์ ท่านที่สนใจก็ตามไปอ่านได้ค่ะ 
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=17-12-2015&group=2&gblog=59

     เดือนธันวาคม  เดือนสุดท้ายแห่งปีแล้ว เดือนนี้ ถ้าคนที่มีอาชีพทำงานบริษัท ก็คงรอคอย อยากให้มาถึง เพราะจะได้โบนัส ส่วนคนที่รับราชการก็เฉย ๆ ไม่ตื่นเต้น เพราะไม่ได้โบนัส แต่ก็ตื่นเต้นในเดือนกันยา เดือนตุลา ว่า ใครจะได้สองขั้นบ้าง อิอิ ข้าราชการบำนาญอย่างฉัน ไม่มีอะไรตื่นเต้นเลย เพราะไมได้ขึ้นเงินเดือนกับเขา นั่นเอง เหอเหอ 
       วันที่ 1 ธันวาคม   วันแรกของเดือน ก็ได้ทำบุญแล้ว นั่นคือ  โรงเรียนจัดงานเทศน์มหาชาติ  ฉันก็ได้ช่วยเป็นสะพานบุญให้โรงเรียน บอกบุญให้คนรู้จักบ้าง ลูกศิษย์บ้างไปตามโอกาสที่จะเป็นไปได้ ปีนี้ คนคงให้เงินไปทำโรงทานได้น้อย วิ เลยขอมาที่ฉันให้ช่วยหา เฮ้อ! ไม่ใช่หากันได้ง่าย ๆ ฉันเลยชวนเยาว์ ทำบุญคนละ 500บาท สองคน เป็น 1000 บาท ให้ วิ ไปซื้ออะไรตามใจเขา เพื่อเป็นโรงทานอีกโรงหนึ่ง วิ แจ้งว่า ไปซื้อ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ได้รับความนิยมจากเด็ก ๆ มาใช้โรงทานดีมาก แปล็บเดียวหมดเกลี้ยงเลย อิอิ โรงทานปีนี้ มีน้อยจริง ๆ ฉันไปถึงประมาณ 11 โมงได้ โรงทานแต่ละโรง ไม่ค่อยเหลืออะไรแล้ว เหลือเจ้าข้าวหมูแดง ซึ่งข้าวสุกไม่ทัน ฉันเลยได้ทานข้าวหมูแดง 1 จาน น้ำอีก 1 แก้ว อิ่มพอดี เงินที่ได้จากการทำบุญเทศน์ปีนี้ ก็ได้น้อยกว่าปีที่แล้วหลายแสนอยู่ อาจจะเป็นเพราะเศรษฐกิจ และจัดทุกปีกระมัง ฉันก็ได้อยู่ฟังเทศน์ จุดเทียน จนงานเลิก จึงได้กลับบ้าน 






       วันที่ 3 ธันวาคม 
       วันนี้เป็นวันที่พวกเราชาวธาตุทอง มีความเสียใจกับการจากไปของ น้อง แขก (ราตรี) น้องป่วยเป็นมะเร็วมาเป็นแรมปี รักษามาก็มาก ไปรักษาถึงเมืองจีน ก็ไม่อาจจะพ้นจากมัจจุราชที่ต้องการพรากเราไป เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เฮ้อ ! แขกจากพวกเราไปตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่ฉันเดินทางไปสิบสองปันนา วันนี้เขาจะฌาปนกิจแขก ฉันก็มาส่งเขา ให้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ 
        วันที่ 7 ธันวาคม 
        วันนี้ ชมรมอนุรักษ์วรรณศิลป์และชมรมกินไปเที่ยวไปได้สาระ ได้จัดพยปะสังสรรค์กัน โดยประธานเรยา ทั้งสองชมรมฯ ได้ประชุมกับพวกเรากรรมการ ตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีนี้ เก็บคนละ 500 บาทเหมือนปีที่แล้ว  มีกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น คือ พิธีไหว้ครู ครูที่คณะกรรมการเสนอชื่อ คือ คุณครูสุวัฒน์ ซึ่งเป็นคุณครูเสาหลักของชมรมฯ เป็นที่เคารพของสมาชิกทุกคน รวมทั้งฉันด้วย ท่านกรุณาฉันมากพอควร ให้ความรู้เกี่ยวกับการแต่งร้อยกรองในรายละเอียดหลายเรื่อง จึงสมควรที่จะจัดพิธีนี้ขึ้น แล้วน้องวัชรินทร์ ก็เสนอชื่อฉันขึ้นไปอีกคน  อ๋ายหยาฉันไม่เก่งเรื่องร้อยกรองเลย ตรวจทานให้ถูกฉันทลักษณ์ เรื่องตัวสะกดที่สะกดผิดของสมาชิก แต่คณะกรรมการก็ไม่มีใครคัดค้าน เหมือนกับว่า ให้เกียรติฉันในเรื่องให้ความรู้เรื่องหลักภาษา การใช้ภาษา  นั่นเอง นอกจากกิจกรรมนี้แล้ว  ยังมีกิจกรรมประกวดร้อยกรองเพื่อนำไปเป็นเนื้อร้องประจำชมรมอนุรักษ์วรรณศิลป์ด้วย ผู้ชนะการประกวด ได้รางวัล คือโล่ ส่วนรองชนะ ได้เกียรติบัตรใส่กรอบอย่างสวยงาม  เรื่องราวของงานนี้  ฉันเขียนเล่าไว้ในบล็อกแก๊งค์  ใครที่สนใจก็หาอ่านได้ตามเว็บต่อไปนี้ นะคะ



       วันที่  11 ธันวาคม  เป็นวันที่ คนไทยร่วมแรงร่วมใจแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คือ "ปั่นเพื่อพ่อ"  โดยมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯเป็นองค์ประธานในการปั่นเพื่อพ่อ  นำประชาชนที่ร่วมงานในโครงการนี้  นับจำนวนเป็นแสน ๆ คน ทั่วราชอาณาจักร  เป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
     วันที่ 12 ธันวาคม  
     วันนี้ ทิพย์ (เกว์ลิน) นัดกับฉัน ตอนนี้เขามีแฟน มีงานทำที่ดี สามารถมีรถใช้แล้ว  เลยนัดฉันไปทานข้าวกลางวันสักมื้อ  เราไปทานกันที่ร้านสบายใจไก่ย่าง ร้านนี้ ฉันเคยมาทานกันบ่อย รสชาติอาหารเขา ก็ใช้ได้ ราคาก็ไม่สูงนัก เราสั่ง ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ปลาราดน้ำปลา ต้มยำ น้ำตก กินกันไปคุยกันไป เป็นชั่วโมง เป็นความสุขใจที่ลูกศิษย์ที่เคยสอน เขายังมาเยี่ยม ไม่ลืมฉัน ขอบใจนะจ๊ะ 


      วันที่ 14 ธันวาคม  วันนี้นัดกับวัชรี ไปเดินเที่ยวที่พันทิบ ซึ่งกำลังปรับปรุงอยู่ เดินหาซื้อฮาร์ทดีสอีกอัน  ช่วงเกือบเย็นแล้ว น้องเรยามากับน้องกัปตันมารับเงินไป 600 บาท
       วันที่ 17 ธันวาคม   วันนี้ รวงให้แมชเซนต์เจอร์ นำขนม คุ้กกี้ มาสวัสดีปีใหม่ พร้อมบัตรอวยพร  ต้องขอบใจ รวง เกือบทุกปี เขาไม่เคยลืมมาสวัสดีปีใหม่ฉันเลย เป็นลูกศิษย์ที่น่ารักอีกคนหนึ่ง
        วันที่ 19 ธันวาคม 
        วันนี้ เป็นวันอิสลามคืนถิ่น  นิทราเพื่อนรัก ประสานงาน ประสานเรื่องรถ มารับพวกเรา คือพี่เสริม พี่นฐา ไปงานนี้เช่นเคย แต่ปีนี้ มาช้ามาก นิทรา มากับรถเองด้วย กว่าจะมารับฉัน ก็จะหกโมงเย็นแล้วมั้ง แล้วเราก็ต้องแวะโลตัส เพื่อซื้อกระเช้าแบรนด์หรือสก๊อต เพื่อไปแสดงความยินดีกับ ผช.สายัณห์  ซึ่งตอนนี้ได้เป็น ผอ.อิสลามวิทยาลัยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่เป็นเพียงผู้รักษาการแทน อิอิ เรา 3 คน คือ พี่เสริม พี่นฐา และฉันหุ้นกัน 1 กระเช้า ฉันกับนิทรา ลงไปซื้อ พวกพี่ ๆ แก่แล้วนั่งอยู่ในรถ ประสิทธิ์ คนขับรถ ก็นำรถไปจอดตรงที่จะเลี้ยงออกจากโลตัส เตรียมพร้อม 
       พวกเราไปถึง ทุ่มกว่าแล้ว พากันไปที่โต๊ะเลย พอดีเจอ ผอ.สายัณห์ เลยจัดการมอบกระเช้าแสดงความยินดีกับเขา ถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกตามธรรมเนียม อิอิ  งานคืนนี้ก๋สนุกสนาน มีพิธีการเหมือน ๆ กับปีที่แล้ว นั่นแหละ น่าเสียดาย ไม่ได้เจอศิษย์เก่าที่รู้จัก ที่เคยสอนเลย แม้แต่ นายสุไรมาน ซึ่งปรกติเคยเดินมาที่โต๊ะพวกเรา แต่ปีนี้ เห็นเขาขึ้นไปรับโล่ ศิษย์เก่าดีเด่น แต่ก็ไม่ได้เดินมาหาพวกเรา  
       อาหารปีนี้ ก็อร่อยใช้ได้ ครูเก่าปีนี้ ก็ไปกันน้อยมาก คงแก่ ๆ กันมากแล้วมั้ง ไปกันไม่ไหว ห้าห้า เขาก็มีพิธีไหว้ครูเหมือนปีที่แล้ว ปีนี้ จัดไหว้ครูข้างล่างเวที ครูมีน้อยน่าจะประมาณ 10 คนเท่านั้น นะ ได้กุหลาบกันหลายดอก เด็ก ๆ (แก่แล้ว) เวียนมาไหว้ นำกุหลาบมาไหว้  พวกเราก็อวยพรให้พวกเขามีความสุข ความเจริญ ยิ่ง ๆ ขึ้น
ขากลับ นิทรากับน้องอีกสองคน นั่งรถมาส่งพวกเรา   ฉันลงก่อนเพื่อน สบายหน่อย ไม่ดึกนัก สี่ทุ่มกว่าเท่านั้น พี่เสริมกับพี่นฐาบ้านไกล ได้ข่าวว่า อุสมาน คนขับรถพาหลง ไปส่งพี่นฐาก่อนพี่เสริม พี่เสริมได้ข่าวทีหลังว่า ถึงบ้านเกือบตีหนึ่ง อิอิ มาดูรูปพวกเราค่ะ 




      วันที่ 20 ธันวาคม  
      วันนี้ เป็นวันที่ฉันมีความสุขมากอีกวันหนึ่ง ที่ห้อง 3/4 ห้องของชู เขาได้จัดพบปะสังสรรค์กันโดย ผัน เป็นคนเลือกร้านอาหารแถวบ้านเขา ซึ่งเขาเคยไปทานบ่อย ๆ บอกว่ารสชาติดี บรรยากาศดี ส่งรูปอาหารมาให้กลุ่มลายน์ดู  น่ากินทั้งนั้น โดยเฉพาะกรรเชียงปู น่ากินมาก (แต่พอถึงเวลาที่เราไปกิน ดันหมด ไม่มีขายให้พวกเรากิน  ทุกคนบ่นผิดหวังกันทั้งนั้น อิอิ)  สำหรับฉัน รสชาติอาหารก็ธรรมดานะ ไม่ได้อร่อยเลิศรสอะไรมากนัก หลายคนเขาก็บอกอย่างนี้เหมือนกัน แต่บรรยากาศดี ติดชายทะล ยิ่งพระอาทิตย์ใกล้ตก ยิ่งโรแมนติคดีเชียว 
       วันนี้  หนึ่ง เป็นคนมารับ เก๋ แล้วมารับฉัน  ชู ไปรับกลุ่มอี๊ด นิด เดือน เพ็ญ ด้วยมั้ง ปรากฏว่า กลุ่มฉันไปช้าที่สุด กลุ่มอื่นกินไปล่วงหน้าแล้ว เพราะมันบ่ายโมงกว่าแล้ว วันนี้ สมาชิกที่มาสังสรรค์มีประมาณ 20 คน น่าจะได้ คุยไป แหย่กันไป ตามประสาเพื่อนกัน เป็นบรรยากาศที่น่าชื่นชม  ที่จริงห้องนี้ ฉันไม่ได้เป็นประจำชั้นเขาหรอก แต่สอนพวกเขาแต่เขาก็ให้ความรัก นับถือฉันพอสมควร มีงานเขาก็เชิญชวนฉันไปร่วมงานด้วย ก็ต้องขอบใจพวกเขามากนะ  ฉันและเก๋ ถ่ายรูปตั้งแต่หน้าร้านอาหารเลย พร้อมบรรยากาศในการสังสรรค์ และบรรยากาศยามพระอาทิตย์ใกล้อัสดงด้วย มาชมค่ะ 









      วันที่ 24 ธันวาคม  
      วันนี้ ฝนนัดเจอกันที่เกทเวย์ ไปทานอาหารฉลองวันใกล้สิ้นปี เราไม่ได้เจอกันนานมากพอควร แต่ฝนก็ไม่เคยลืมฉัน งานเขาเยอะ ปีหนึ่ง เราคงเจอกันครั้งสองครั้ง ปีนี้ นัดกันที่เกทเวย์ เรากินอาหารญี่ปุ่นกันที่นี่ อาหารค่อนข้างแพง ฉันพยายามเลือกอาหารชุดที่ถูกที่สุดไว้ ไม่อยากให้ลูกศิษย์เลี้ยงแพง อิอิ นอกจากมากินข้าวด้วยกันแล้ว ฝนยังซื้อปลาสลิดแดดเดียว ตัวโตมากอีก 4 ตัว หมูฝอยอีกถุงมาฝากเอาไว้ให้ฉันกินกับข้าว อิอิ 

วันที่ 25 ธันวาคม 
      วันนี้เป็นวันคริสต์มาส  นัดกับหญิงไปเดินแพตทินัมกันในช่วงบ่าย  เพื่อจะได้ต่อเย็นดูไฟคริสต์มาสกันด้วย บริเวณนี้ ติดต่อไปถึงราชประสงค์  เซ็นทรัลเวิร์ล ตกแต่งไฟ สว่างไสว สวยงามกันไปหมด ขณะที่เดินดูไฟ เจอ ชวลิต เด็กที่เคยสอน ตั้งแต่จบไม่เคยเจอเลย ตอนนี้ ไปเป็นวิทยากรให้บริษัทประกันชีวิต มีครอบครัวเรียบร้อยแล้ว เขามาทักฉันว่า อาจารย์ ชื่อ อ.วารุณีใช่ไหม ถามอยู่2-3 ครั้ง ฉันพอจะจำเค้าหน้าเขาได้ เลยตอบไปว่า ครูชื่อ สุวิมล ไม่ใช่วารุณี เขาก็รีบบอกว่า  ใช่ ใช่ เขาจำชื่อผิด อาจารย์สอบภาษาไทย ผมจำได้ ก็ดีใจนะที่ได้เจอลูกศิษย์ที่จบไปแล้ว ไม่เคยได้เจอเลย คุยกันพอประมาณ ก็แยกย้ายกันไปถ่ายรูป ชมไฟ คนที่ราชประสงค์หน้าเซ็นทรัลเวิร์ล คนเยอะมาก เบียดเสียดกันน่าดู  แย่งกันถ่ายรูปกันกับรูปต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการจัดไว้ให้คนมาดูไฟได้ถ่ายรูปกัน




       วันที่ 27 ธันวาคม 
       วันนี้ หลานสะใภ้ คือ มาลี ก็เอาขนมคุ้กกี้ และข้าวหอมมะลิจากนาของเขาที่ต่างจังหวัดมาให้ 1 ถุงใหญ่ เป็นข้าวใหม่ หอมดีมาสวัสดีปีใหม่ แต่เช้า
       วันนี้ ต๋า (สุณี) โทรมาหา ถามว่า อยู่บ้านไหม ฉันบอกว่า วันนี้ ไม่มีนัด แต่มีงานเผาศพช่วงบ่าย ต๋า บอกว่า เดี๋ยวจะมาสวัสดีปีใหมฉันที่บ้าน  ดีใจนะ เพราะ ต๋า ขาดการติดต่อไปนานน่าจะ2-3 ปี ไม่ได้มาหาเลย อาจจะเป็นเพราะภาระ หน้าที่ งานบ้าน เรื่องการเรียนของลูก เลยห่างเหินไปบ้าง  ต๋า เป็นลูกศิษย์ภาคค่ำที่สนิทกับฉันมากพอสมควร มีเรื่องอะไร ก็ปรึกษาหารือกันอยู่บ่อย ๆ ภายหลังจากการที่มีครอบครัวไป ก็ห่าง ๆ กันไปบ้าง แต่เขากับฉันก็ระลึกถึงกันอยู่เสมอ 
      น่าจะประมาณ 10 โมงได้ ต๋าก็มาถึงบ้านฉัน หอบนมสด ตราหมี  น้ำผลไม้ 3 กล่องใหญ่ ขนมเปี๊ยะ เชอรี่อีก 2 กล่องเล็ก กินไปได้หลายวันทีเดี่ยว  ต้องขอบใจเขามาก ที่ยังระลึกถึงฉันเสมอ เรานั่งคุยกัน จิปะถะ หลายเรื่อง ถามทุกข์สุขกันไป ต๋า ยังเป็นคนอารมณ์ดี หัวเราะร่าเริงเหมือนเดิม ไม่แก่ ยังวัยรุ่นอยู่เลย นั่งคุยได้น่าจะเกือบสองชั่วโมง เขาก็ต้องลากลับ เพราะต้องไปรับลูกสาว ฉันฝากที่ระลึกสร้อยข้อมือไปให้หลานศิษย์ด้วย ของต๋า ดูเหมือนจะให้ที่ติดตู้เย็น ถ้าจำไม่ผิดนะ อิอิ ใครที่มาสวัสดีปีใหม่ ก็มักจะได้ของชำร่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ  ที่ฉันซื้อมาจากต่างประเทศเสมอ มาดูรูปพวกเราค่ะ 

      ช่วงบ่าย ก็ไปงานฌาปนกิจแม่ของแมว น้องหมวดภาษาไทยด้วยกัน ไปฟังสวดคืนหนึ่ง  วันนี้มาเผา ครูโรงเรียนเราและครูเก่า ๆ ก็มาเยอะพอสมควร ได้เจอพี่สุรางค์  นุสรณ์ ซึ่งไม่ได้เจอนานมาก ก็ดีใจนะ ที่ได้เจอเพื่อน ๆ ที่เกษียณกันไปแล้วหลาย ๆ คน แต่ไม่เห็นพี่ปลื้มมางานนี้  ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด 
       วันที่ 29 ธันวาคม 
       เมี่ยง  อ๊อด นัดกันกินข้าวฉลองวันสิ้นปี 58 ปีนี้ ฉันกับพวกเขาเจอกันน้อยครั้งมาก เป็นเพราะหน้าที่การงานของพวกเขา บอกว่า งานเยอะมาก มาครั้งนี้ มีโอ๋ มาด้วยอีกคน เป็น 4 คน ปีนี้ เรามีโปรแกรมไหว้พระก่อน แล้วจึงไปหาอะไร ๆ อร่อยทานกัน  โอ๋ เป็นเป็นคนเลือกไปทำบุญวัดกระทุ่มเสือปลา วัดนี้ ฉันมาเป็นครั้งที่ 3 แล้วมั้ง ครั้งแรก พา อ.สุภัทร มาทัวร์ 9 วัด ครั้งที่สอง มาบวชลูกอี๊ด มาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 มีการทำบุญด้วยพิธีกรรมหลายอย่างเหมือนกัน ฉันก็ทำตามที่โอ๋เขาถนัดแนะนำมา ทำเผื่อพะเยาว์ เพื่อนรักด้วย ตามที่เขาบอกมาว่า เขาไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปไหน (อันตราย เพราะอยู่ที่ปัตตานี) มาดูรูปที่เราถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก จ้ะ 










      หลังจากการไหว้เพื่อความเป็นมงคลแล้ว ก่อนออกจากวัด อากาศร้อนมาก มีรถเข็นขายน้ำมะพร้าว ไอศกรีมด้วย พวกเราเลยซื้อกินกันก่อนจะออกจากวัด   มุ่งหน้าไปแถวศรีนครินทร์ ร้านแรกที่ไปกินคือ ร้านก๋วยเตี๋ยว เพราะหิวกันมาก เอาร้านที่เจอก่อน กินกันก่อนเลย แล้วค่อยไปหาร้านอื่นกินต่อ 
    อิ่มจากร้านแรก  ซึ่งรสชาติก็ใช้ได้นะ อ๊อดเป็นคนจ่าย จากนั้นพวกเราก็เดินหาร้านอาหารแถวนั้น ซึ่งมีเยอะ ได้ร้านที่สอง เป็นพวกส้มตำ ไก่ย่าง คนมากินก็เยอะนะ น่าจะอร่อย ร้านนี้ สั่งกันเยอะ กินส้มตำถาดไม่หมด เสียดายมากอยู่  


       ออกจากร้าน ก็มุ่งหน้าไปเที่ยวที่ ยอดพิมาน แหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งเกิดขึ้นอยู่แถวปากคลองตลาด ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศดีทีเดียว  กว่าจะมาถึงได้ ต้องถามทางมาโดยตลอด มาถึงน่าจะประมาณ ยังไม่สี่โมงเย็น แดดยังร้อนอยู่  พวกเราก็แวะเข้าร้านขายเค้กทานฆ่าเวลา  รอให้แสงแห่งดวงสุริยาอ่อนแสงลงหน่อยจะได้เดินถ่ายรูปได้สบาย ๆ 

       นั่งแอร์เย็น ๆ ได้สักเกือบชั่วโมงน่าจะได้ พวกเราก็เดินเที่ยวและถ่ายรูปกัน เพื่อเก็บบรรยากาศของ ยอดพิมาน มาชมกันค่ะ 


     เราเดินชมอยู่ที่นี่ จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว จึงได้กลับ ต้องเอาบัตรไปรับรถ เขาเอารถเราไปเก็บให้เป็นตึกเก็บรถโดยเฉพาะ ทำเหมือนที่ญี่ปุ่นเลย 
     ออกมาจาก ยอดพิมาน  ก็ต้องงงกับการเดินทางต่อ ยายโอ๋เห็นรถเมล์ เบอร์อะไรไม่รู้เขียนว่าไปคลองเตย เลยให้อ๊อดขับตามไป แต่ปรากฏว่า ถนนสายนั้น เขาให้รถเมล์วิ่งอย่างเดียว คราวนี้เลยต้องขับออกนอกเส้นทาง หลงไปสักพัก เดาสุ่มกันไป แต่ในที่สุด เราก็หาทางกลับจนได้ มาทางคลองเตย เลยไปกินข้าวรอบดึกอีก 1 มื้อ คือ ร้านเกี๋ยวเตี๋ยวเป็ดที่ไปกินกับธวัชชัยนั่งเอง  กินลูกชิ้นกันคนละไม้ บะหมี่เป็ดคนละ ชาม เมี่ยงซื้อเป็ดพะโล้ ไปฝากแม่ของโอ๋ เขารู้ว่า ฉันชอบกินไส้เป็ด ซื้อไส้เป็ดให้ฉันกลับบ้านอีกถุง วันนี้ทั้งวัน อ๊อดจ่ายคนเดียว อิอิ ได้ข่าวว่า ปีนี้ได้โบนัสสี่หมื่นกว่า ห้าห้า 

 วันที่ 30 ธันวาคม  58
      วันนี้ ลูกศิษย์รุ่น 2/3 ปี 21 คือ พร กับปัท ก็มาสวัสดีปีใหม่ที่บ้านฉัน นั่งคุยกัน ถามทุกข์สุขกัน พร ซื้อรังนกมาฝาก 1 ตระกร้า ส่วนปัท ดูเหมือนจะซื้อวีต้ามา 1 กล่อง 6 ขวด ปีนี้ ได้ของบำรุงร่างกายหลายอยู่ อิอิ ฉันแจกสร้อยคอที่ซื้อจากเมืองจีนคนละเส้น ยายปัทมือไว เลือกก่อนเลยได้เส้นที่ตัวเองชอบ แต่ทุกเส้นฉันเลือกมแล้ว สวยทุกเส้น ต่างกันที่แต่ละคนชอบสีใดมากกว่า ฉันดูแล้ว มันก็สวยทุกสีน่ะนะ  
     คุยกันได้สักครึ่งชั่วโมง ทุกคนรู้สึกหิว  เพราะว่า มันเที่ยงกว่าจะบ่ายโมงแล้วนั่นเอง  พวกเราเลยตกลงนั่งแท็กซี่ไปกินข้าวกันที่ร้าน สบายใจไก่ย่าง สั่งส้มตำ  ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ต้มยำ ปลาราดน้ำปลา อะไรอีก จำไม่ได้ ดูรูปเอานะคะ  ห้าห้า   

     กิจกรรมและเรื่องราวต่าง ๆ ที่ฉันได้ประสบพบมาตลอดปี 2558 ก็ได้จบลงแล้วค่ะ ปีนี้ ถือว่า เป็นปีที่มีความสุขท่ามกลางลูกศิษย์ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไปร่วมด้วยก็มีไม่น้อย  ช่วยทำให้ชีวิตดูมีคุณค่ามากขึ้น ไม่ได้อยู่ไปวัน ๆ ได้ท่องเที่ยวตามที่ใจปรารถนา แค่นี้ ฉันก็พอใจแล้ว สุขบ้าง ทุกข์บ้างปะปนกันไป ตามธรรมชาติของมนุษย์ ได้แต่หวังว่า  หากมีโอกาส ปีหน้า คงได้มาเขียนบันทีกปี 59 ให้ท่านผู้อ่านได้อ่านต่อไป นะคะ สำหรับปี 58 ขอจบเพียงเท่านี้ ค่ะ




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2559
2 comments
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2559 16:10:30 น.
Counter : 1531 Pageviews.

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ดูแล้วเป็นไดอารี่ที่เขียนได้ละเอียดมาก ๆ แบบว่าเก็บได้ทุกกิจกรรมที่ผ่านมาเลยครับ อ.สุวิมลเป็นอาจารย์ที่รักของลูกศิษย์จึงมีลูกศิษย์มาเยี่ยมมาหาเยอะ น่าจะเป็นการดีที่ทำให้อาจารย์ไม่รู้สึกเหงานะครับ

โหวตหมวดไดอารี่ให้เลยครับ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง 27 มีนาคม 2559 16:34:44 น.  

 

ทีแรกไม่รู้ว่าบล็อกที่อยู่ก่อนหน้านี้ค่อต่อจากตอนที่ 1 (เป็นเพราะตอนที่ 1 หายแล้วเขียนใหม่นี่เอง)
งั้นขอมาเม้นท์อันนี้ก่อนครับ อิอิ

ทีแรกฟังชื่อคืนสู่เหย้าชาวธาตุทองแล้วคิดว่าเดี๋ยวต้องมีคืนสู่เหย้าชาวธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุไฟ ธาตุเหล็ก ฯลฯ ...ที่แท้เป็นชื่อโรงเรียน!
ยังคงมีลูกศิษย์แวะเวียนมาหาตลอดเช่นเดิมนะครับ มีคนไปเรียนการ์ตูนที่ญี่ปุ่นด้วย น่าติดตามความคืบหน้าเรื่อยๆครับ สักวันอาจมีชื่อเป็นอนิเมเตอร์ของการ์ตูนดังก็ได้นะ ช่วงหลังๆเริ่มเห็นมีรายชื่อคนไทยขึ้นในเครดิตการ์ตูนดังๆหรือมีผลงานการ์ตูนตีพิมพ์ที่ญี่ปุึ่นแล้วครับ
ส่วนทริปสิบสองปันนายังจำได้แม่น เพราะเป็นบล็อกที่ดองไว้ข้ามปี อิอิ
อาจารย์ร่วมปั่นเพื่อพ่อด้วยเหรอครับ ปีนี้แปลกตรงที่จัดวันที่ 11 นี่แหละ สงสัยดูฤกษ์มาดีแล้ว (แต่คนดูฤกษ์ก็ตายไปแล้ว) ไม่รู้ปีนี้จะมีอีกไหมนะครับ
ร้านสบายใจไก่ย่างต้มยำน้ำข้นชามเบ้อเริ่ม น่ากิน!
เข้าร่วมงานสมาคมอิสลามด้วย ผมจำได้ว่าอาจารย์เล่าว่านับถือทุกศาสนาใช่ไหมครับ?
และช่วงปลายเป็นเป็นเทศกาลดูไฟอันสนุกสนาน ที่ดูไฟยอดนิยมของชาวกรุงก็คงไม่พ้น.... ศาลาว่าการ กทม.? ...ผิดๆ... เซ็นทรัลเวิลด์ต่างหาก เขาจัดสวยทุกปีจริงๆครับ แต่ปีนี้รู้สึกว่าคนเยอะกว่าปีก่อนๆมาก เยอะจนเดินแทบไม่ได้เลย
อาจารย์เที่ยวมาทั้งปีแล้วแต่ช่วงปีใหม่เน้นเที่ยวกรุงเทพนะครับนี่ ปีก่อนผมได้ไปยอดพิมานมาแล้วเหมือนกัน ช่วงเย็นลมดีกว่าที่คิดครับ ไม่ร้อนเลย
เดี๋ยวๆ... แล้ววันที่ 31 ธันวาไปไหนอะครับ? วันนี้น่าจะไฮไลต์เลยนา

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
aitai Literature Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Food Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

จากบล็อกตุรกีเทพีสององค์ไม่มีหัวครับ เก่าเป็นพันปีหัวหักไปหมดแหล่ว
ขอบคุณสำหรับแก้คำผิดนะครับอาจารย์ สองคำนี้ผิดประจำเลย

 

โดย: ชีริว 27 มีนาคม 2559 20:24:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space