ผู้ว่าเมืองโคราช พา "เที่ยววัดที่ห้ามพลาด เมืองโคราชสายบุญ"

ผู้ว่าพาเที่ยววัด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับส่วนราชการประจำจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนประชาชน และผู้จิตศรัทธา ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่ามหากุศล ✨เที่ยววัดห้ามพลาด...เมืองโคราชสายบุญ✨ ในวันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ตั้งแต่เวลา 16.45 น. เป็นต้นไป

วัดบึง พระอารามหลวง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2220 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดที่สร้างพร้อมๆ กับการสร้างเมืองนครราชสีมา โดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โปรดฯ ให้โดยพระยายมราช หรือ สังข์ เป็นผู้สร้าง โดยมีช่างชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ช่วยออกแบบผังเมือง
วัดบึง สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดที่เจ้านาย หรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยนั้นสร้างขึ้น เพราะมีหลักฐานทางโบราณคดีทั้งทางด้านศิลปกรรและสถาปัตยกรรม กล่าวคือ พระอุโบสถ พระพุทธรูปประธาน ใบเสมา และองค์ประกอบอื่นๆ และวัดบึงมีสมญานามว่า "วัดบึงขุนนาง"
หลวงพ่อโตอู่ทอง พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตัก กว้าง 6 ศอก ประทับนั่งขัดสมาธิราบพระหัตถ์แสดงปางมารวิชัย พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม ลงรักปิดทอง มีพุทธลักษณะสมัยอยุธยาตอนปลายถึงกรุงรัตนโกสินทร์

ขบวนที่ 1 วัดพระนารายณ์ถนน จอมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร (นครราชสีมา) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัด สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นผู้ทรงสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือที่ชาวโคราชรู้จักและเรียกขานกันอีกชื่อว่า วัดกลางนครและวัดกลาง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง เเละเป็นวัดแรกเลยที่มีการก่อตั้ง พร้อมๆ กับการวางผังเมืองของจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งวัดอยู่ติดกับศาลหลักเมืองอีกด้วย
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล นั่นก็หลวงพ่อใหญ่ หรือ "พระทศพลญาณประทานบารมี" เป็นพระประธานองค์แรกของจังหวัดนครราชสีมา อยู่ภายในวิหาร

ขบวนที่ 2 วัดศาลาลอย วัดศาลาลอย ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารีสร้างขึ้นกับ พระยาสุริยเดช หรือปลัดทองคำ ปลัดเมืองนครราชสีมา ผู้เป็นสามี หลังจากที่รบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2370 หลังจากเสร็จศึกสงครามที่ทุ่งสัมฤทธิ์ ขณะยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา คุณหญิงโมได้แวะพักบริเวณท่าตะโก และได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาเสี่ยงทายลอยไปตามลำตะคอง พร้อมตั้งจิตอธิฐาน หากแพรูปศาลานี้ ลอยไปติดอยู่ ณ ที่แห่งใด จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ ซึ่งแพได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นวัดร้าง จึงได้สร้างพระอุโบสถขึ้น เป็นวัดศาลาลอยในปัจจุบัน
ท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2395 สิริรวมอายุได้ 81 ปี เมื่อท้าวสุรนารีถึงแก่กรรม เจ้าพระยามหิศราธิบดีได้จัดการฌาปนกิจศพที่วัดศาลาลอย และเจ้าพระยามหิศราธิบดี ได้ก่อเจดีย์ (สถูป)บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีไว้ตรงข้ามหน้าโบสถ์หลังเก่าวัดศาลาลอย ที่ท้าวสุรนารีสร้างไว้ เจดีย์ดังกล่าวยังคงมีอยู่ ณ ปัจจุบัน และที่หน้าอุโบสถหลังเก่านี้ ปัจจุบันก็มีรูปปั้น เจ้าพระยามหิศราธิบดี หรือปลัดทองคำ สามีย่าโมอยู่ด้วย

ขบวนที่ 3 วัดพายัพตั้งอยู่ในเมืองนครราชสีมา บริเวณถนนเส้นเดียวกับอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี วัดพายัพ ถือเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม "พระอารามหลวงแห่งทิศพายัพ" ของเมืองโคราช วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชพร้อมกับการสร้างเมืองนครราชสีมา จึงเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และทรงคุณค่าทางด้านสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา

ขบวนที่ 4 วัดสระแก้ว ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
วัดสระแก้ว เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตกำแพงเมือง สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงให้สร้างเมืองนครราชสีมา พศ.2220 คำว่า "วัดสระแก้ว" เพราะวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสระแก้ว สระน้ำเก่าแก่ที่มีมานานเป็นสระน้ำคู่บ้านคู่เมืองของคนโคราช วัดสระแก้วก่อสร้างขึ้นโดยกลุ่มขุนนาง พระอุโบสถหลังเดิมนั้นก่อสร้างด้วยศิลปสมัยอยุธยา กล่าวกันว่าในสมัยที่คุณย่าโมยังมีชีวิตอยู่นั้นได้ปฏิสังขรณ์มาอย่างต่อเนื่อง
ที่นี่มีพระอุโบสถหลังใหม่นี้สร้างขึ้นในสมัยไหนไม่มีใครรู้ และใช้ศิลปแบบไหนไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่เป็น "พระอุโบสถไม่มีเสา" กรอบหน้าต่างจะมีผนังที่หนามาก สลับกับเสาใหญ่ระหว่างช่องหน้าต่าง
ต้องห้ามพลาดมาสักการะพระพุทธรูปประธาน ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยปางมารวิชัย และสิ่งสำคัญต้องห้ามพลาดเดินอ้อมไปทางด้านข้างของพระอุโบสถ จะพบกับ "หลวงพ่อติกขวโร หรือพระติกข์" พระพุทะรูปเก่าแก่ปางถวายเนตรที่ได้อัญเชิญมาจากอยุธยา กล่าวกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง

ขบวนที่ 5 วัดอิสาน ตั้งอยู่ที่ถนนกุดั่น ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
วัดอิสาน วัดบูรพ์ วัดพายัพ นั้นเป็นวัดที่ คฤหบดีและประชาชนเป็นผู้สร้าง วัดอิสาน ตั้งเมื่อ พ.ศ.2220 อุโบสถเก่า ศิลปะแบบอยุธยา กล่าวคือ แอ่นโค้งเป็นรูปเรือสำเภา เป็นรูปสี่เหลี่ยม เสาหลี่ยมมีบัวหัวเสา ฐานแอ่นโค้งทรงสำเภา หน้าบันด้านหน้าเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระประธานวัดอิสานมีนามว่า พระศรีรัตนปาติการส แปลว่า พระแก้วมงคลผู้ให้ความปรารถนาสำเร็จยิ่งกว่าปรารถนา พุทธลักษณะศิลปะสมัยเชียงแสน สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาได้อย่างงดงามลงตัว

ขบวนที่ 6 วัดหมื่นไวย์ ถนนสิริราชธานี ตำบลหมื่นไวย อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
วัดหมื่นไวย เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ปีพ.ศ.2253 โดยบริเวณที่ตั้งวัดในสมัยนั้นเป็นที่พักตั้งด่าน มีเรื่องเล่าว่าสมัยนั้นเป็นที่พักตั้งด่านของขุนหมื่นไวย ต่อมาได้มี พระเพชร ต้นตระกูล ศรีหมื่นไวย ได้เป็นผู้ริเริ่มก่อสร้าง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ต้องมาสักการะนั่นก็คือ "พระประธานปางป่าเลไลยก์" เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง อิฐที่ใช้ก่อสร้างฐานที่เป็นฐานโค้งสำเภาเรือ และผนังโบสถ์ เป็นอิฐก้อนใหญ่แบบเดียวกับอิฐที่ใช้ก่อสร้างกำแพงเมืองเก่าโคราช
โบสถ์กลางน้ำ วัดหมื่นไวย ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา มี 4 เสา 9 ประตู 8 หน้าต่าง มีน้ำล้อมรอบโบสถ์ ซึ่งเป็นปริศนาธรรมของการวางผังก่อสร้าง ที่ซ่อนไว้นานถึง 300 กว่าปี ในรัชสมัยพระนารายณ์มหาราช ที่ฐานของอุโบสถกลางน้ำวัดหมื่นไวย ก่อเป็นแนวโค้งที่เรียกตามเชิงช่างว่า หย่อนท้องช้าง หรือ หย่อนท้องสำเภา ซุ้มหน้าต่างและซุ้มประตูเป็นซุ้มรูปสามเหลี่ยม ลักษณะคล้ายคลึงกับสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย ราวพุทธศตวรรษที่ 23 สังเกตว่าที่หน้าต่างอุโบสถทำจากไม้ เคาะดูเสียงดังกังวานคล้ายหิน

ขบวนที่ 7 วัดป่าสาลวัน เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองโคราชมานาน
วัดป่าสาลวันก่อตั้งในปี พ.ศ. 2475 โดยพระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ (สิงห์ ขนฺตยาคโม) ศิษย์องค์สําคัญของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ส่วนชื่อ สาลวัน นั้น ตั้งชื่อโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) ซึ่งมาจากคําว่า สาละ แปลว่า ต้นรัง และ วนะ แปลว่า ป่า โดยตั้งชื่อตามลักษณะของวัดที่มีไม้เต็งรังเป็นจํานวนมาก
ผู้ว่าพาเที่ยววัด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับส่วนราชการประจำจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนประชาชน และผู้จิตศรัทธา ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่ามหากุศล ✨เที่ยววัดห้ามพลาด...เมืองโคราชสายบุญ✨ ในวันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ตั้งแต่เวลา 16.45 น. เป็นต้นไป
Create Date : 08 กรกฎาคม 2565 |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2565 14:57:09 น. |
|
8 comments
|
Counter : 2504 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณThe Kop Civil, คุณปัญญา Dh, คุณnonnoiGiwGiw, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณทนายอ้วน, คุณเริงฤดีนะ, คุณจันทราน็อคเทิร์น |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กรกฎาคม 2565 เวลา:18:47:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กรกฎาคม 2565 เวลา:6:21:52 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 10 กรกฎาคม 2565 เวลา:13:39:03 น. |
|
|
|
|
|