ครัวแม่เนื้ออุ่น
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Caramel Custard




ขนมนี้มีชื่อเรียกหลายอย่างนะคะ Cream Caramel, Flan, Caramel Custard โดยรวมแล้วก็คือขนมที่มีไข่กับนมเป็นส่วนผสมหลัก มีชั้นของคาราเมลอยู่ด้านบน วิธีทำจริงๆ แล้วก็คล้ายๆ สังขยาบ้านเรานะคะ เพียงแต่ใส่นมกับครีมแทนกะทิ มีกลิ่นน้ำตาลไหม้ที่ติดขมนิดๆ ราดหน้า

หลายๆ คนมี caramel custard เป็นขนมสุดโปรด อุ่นมีพี่ชายคนหนึ่งที่ชอบทานขนมชนิดนี้มาก ถึงขนาดบอกใ้ห้อุ่นทำ ถึงแม้บอกไปแล้วว่าไม่เคยทำก็ยังยืนยันว่าจะกิน

อุ่นเลยไปค้นจากตำราขนมที่ตัวเองมี สุดท้ายมาลงเอยที่ Cream Caramel จากหนังสือ Bake with Heart ของแก้ม its_gemmi คนเก่งของเรา ถ้าสูตรจากแก้มก็เป็นอันเชื่อใจได้ว่าอร่อยแน่นอน อุ่นปรับส่วนของนมนิดหน่อยโดยเพิ่มวิปปิ้งครีมเข้าไปเพราะอยากให้ขนมหอมมันขึ้น และไม่ได้ใช้วิธีอบแบบ water bath แต่ใช้วิธีในตำรา TABLE TALES ของ พล ตัณฑเสถียร ที่แนะนำให้อบโดยใช้ความร้อนต่ำแทนเพื่อให้เนื้อเนียนๆ

ส่งขนมให้พี่ชายแล้ว พี่ส่งข้อความกลับมาบอกว่า

"คัสตาร์ดอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก แบบนี้เป๊ะเลยที่อยากกินมานาน >v<

...แม่กินเข้าปากคำแรกแล้วให้พี่มาบอกว่า ถ้าตกลงเป็นลูกสะใภ้ตอนนี้ รับทันทีกำไลเพชร แถมเครื่องทำขนมสามหมื่นกว่าที่เคยบอกว่าอยากได้ให้ด้วย ^^"

โห .. ขนาดนั้นเลยเหรอ อุ่นยังไม่ได้ชิมเลยอ่ะ วันนี้สบโอกาสเลยลองทำอีกรอบ แล้วก็สรุปได้ว่า อร่อยจริงๆ ค่ะ อิอิ



มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันก่อนนะคะ

Caramel Custard

ส่วนผสม

(ทำได้ 3 ถ้วย)

คาราเมล

- น้ำตาลทราย 60 กรัม
- น้ำร้อนจัด 1 ช้อนโต๊ะ

คัสตาร์ด

- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ไข่แดง 1 ฟอง
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- นมสด 180 กรัม
- วิปปิ้งครีม 100 กรัม
- กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. เตรียมพิมพ์ด้วยการใช้เนยสดทาให้ทั่วพิมพ์ด้านใน พักไว้
2. อุ่นนมและวิปปิ้งครีมให้ร้อน แต่ไม่ต้องเดือด พักไว้
3. ใส่น้ำตาลทาย 60 กรัมลงในหม้อก้นหน้า ตั้งไฟอ่อนๆ จนน้ำตาลละลายกลายเป็นสีอำพัน
4. เติมน้ำร้อนจัดลงไป ใช้ตะกร้อมือคนเร็วๆ ให้เข้ากัน
5. ตักคาราเมลที่ได้ใส่ก้นพิมพ์ที่ทาเนยรอไว้
6. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 100c
7. ตีไข่ไก่ ไข่แดง น้ำตาลทราย 50 กรัม และวานิลาให้เข้ากันอย่างเบามือเพื่อให้เกิดฟองน้อยที่สุด
8. ค่อยๆ รินนมสดและวิปปิ้งครีมลงไป คนตลอดเวลาให้เข้ากัน
9. กรองส่วนผสมผ่านกระชอน 1 ครั้ง เทลงพิมพ์ที่กรอกคาราเมลรอไว้
10. อบประมาณ 1 - 1 1/2 ชั่วโมง หรือจนกระทั่งสุก



เวลาทำขนมที่มีส่วนผสมของนม อุ่นชอบใช้เมจิโกลด์กล่องนี้แหละค่ะ หอมมัน ไหนๆ ก็จะอ้วนแล้วก็ขอให้อร่อยสุดๆ ละกัน แต่ว่าถ้าจะให้ดื่มก็ไม่กล้าดื่มนะคะ มันอ๊วนอ้วน อิอิ (สับสนดีไหม)



อุ่นทำสามสูตรนะคะ ดังนั้นจะได้ขนมประมาณ 10 ถ้วย

ตั้งสองหม้อพร้อมกันไปเลยค่ะ

หม้อหนึ่งใส่น้ำตาลทรายที่จะทำคาราเมล ตั้งไฟอ่อนๆ ทิ้งไว้ เดี๋ยวน้ำตาลก็ละลายเองค่ะ

อีกหม้อใส่วิปปิ้งครีมกับนม ตั้งไฟปานกลางแค่ให้ส่วนผสมร้อนแล้วก็ดับไฟได้เลย



ระหว่างรอน้ำตาลทรายละลายก็มาเตรียมพิมพ์กันค่ะ

ทาเนยสดให้ทั่วพิมพ์ด้านในนะคะ



เมื่อน้ำตาลทรายละลายเกือบหมดแล้ว เราก็นำน้ำเปล่าไปต้มในไมโครเวฟ 2 นาที น้ำตาลละลายหมด น้ำก็ร้อนจัดพอดีเลย



เมื่อน้ำตาลทรายละลายหมดแล้ว ก็เทน้ำร้อนจัดใส่ลงไป

ขั้นตอนนี้ต้องระวังนะคะ เพราะตอนเทน้ำร้อนลงไป ส่วนผสมจะฟู่ขึ้นมา ให้รีบใช้ตะกร้อมือคนเร็วๆ ให้เข้ากัน แล้วยกลงจากเตาได้เลยค่ะ

*** คำเตือน คาราเมลมันร้อนมาก อย่าให้โดนผิวหนังหรืออย่าลองไปจิ้มดูดเด็ดขาด ระวังด้วยนะคะ



ได้แล้วค่ะ คาราเมลสำหรับราดหน้า (แต่ว่าตอนทำ มันจะไปนอนรอที่ก้นขนม)



รีบตักคาราเมลกรอกก้นพิมพ์ตอนที่มันยังร้อนๆ เพราะว่าถ้าเย็นแล้วมันจะแข็งและเหนียวค่ะ



กรอกคาราเมลรองก้นถ้วยเสร็จแล้ว ก็ไปวอร์มเตาอบได้เลยค่ะ

อุ่นใช้ไฟบน-ล่าง 100c



ตอกไข่ไก่ ไข่แดง น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลารวมกัน

อุ่นไม่ได้ใช้ฝักวานิลาเพราะว่าไม่มีง่ะ แถวบ้านไม่มีขายด้วย ถ้าจะซื้อต้องไปวิลล่าโน่นแน่ะ ไว้ถ้ามีโอกาสจะลองใช้ฝักวานิลาแท้ดูนะคะ



ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากันอย่างเบามือที่สุด เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดฟองอากาศ ซึ่งจะทำให้ขนมของเรามีรูพรุน (นี่ขนาดเบามือแล้วนะคะ ฟองยังเพียบเลย แหะๆ)



ใช้มือแตะๆ ดูนมที่เราต้มไว้ตั้งแต่ทีแรก ถ้านมยังร้อนอยู่ให้ใช้ช้อนคนจนกระทั่งมันอุ่นๆ (เพราะถ้าเทลงไปตอนร้อนจัด ไข่จะสุกเป็นลิ่มๆ) ใช้มือซ้ายค่อยๆ รินเป็นสายเล็กๆ ลงในอ่างผสม ขณะที่มือขวาก็ใช้ตะกร้อมือคนอยู่ตลอดเวลา



ได้แล้วค่ะ ส่วนผสมคัสตาร์ด

ให้กระชอนตาถี่ๆ กรองส่วนผสมหนึ่งครั้งนะคะ ส่วนผสมจะได้เนียนๆ (อุ่นลืมถ่ายรูปตอนกรองมาแหละ นึกขึ้นได้ก็เก็บไปโยนในอ่างล้างจานหมดแล้ว)



เทเบาๆ ใส่พิมพ์ขนมที่เรารองก้นพิมพ์ด้วยคาราเมล อุ่นทำได้สิบถ้วยค่ะ



ใช้เวลาอบประมาณ 1 - 1 1/2 ชั่วโมง แล้วแต่ขนาดของพิมพ์นะคะ อุ่นใช้วิธีเช็คสุกด้วยการใช้นิ้วแตะที่ผิวขนม ถ้ายังเหลวอยู่ก็อบต่อ แต่ถ้าแตะแล้วหน้าขนมแห้ง ดึ๋งๆ ก็จะจับออกมาเอียงดู ถ้าผิวหน้าของส่วนผสมไม่ไหลเอียงตาม ก็แสดงว่าขนมสุกแล้ว



ขนมสุกแล้วก็เอาออกมาพักไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท แล้วจับเข้าตู้เย็นจนกว่าจะทาน



หน้าขนมดูดี แล้วด้านในจะเป็นยังไงน้า



ปิดฝาถ้วย วันนี้มีนัดตามประสาสาวๆ จะเอาไปหม่ำๆ ด้วยกันค่ะ



แบ่งไว้ให้น้องๆ ที่บ้านทานด้วย

โดยเฉพาะถ้วยนี้ ตั้งใจจะเอามาถ่ายรูปโดยเฉพาะ



ใช้มีดเล็กๆ กรีดรอบๆ พิมพ์ แล้วคว่ำบนจาน

ว้า .. มือหนักไปหน่อย ขอบเยินเลย



แต่ว่าแทบจะไม่มีฟองอากาศเลย ถูกใจจัง



เข้าไปดูใกล้ๆ



อูย .. เห็นแล้วทนไม่ไหว ช้อน .. ช้อนอยู่หนายยยยยยย



อ้ามมมมมมมมม อาหย่อย



เนื้อเนียนดีจังเลยค่ะ ต้องขอบคุณเชฟพลด้วยที่แนะนำวิธีอบ แม้ว่าจะใช้เวลานานไปสักหน่อย (นานจนเกือบลืมว่าอบอะไรไว้ 555) แต่ว่าผลออกมาก็น่าพอใจมากๆ เลย



น้องๆ ตื่นแล้ว คว่ำใส่จานให้น้องๆ หม่ำด้วย



เป็นขนมอีกเมนูที่ทำได้ง่ายๆ และอร่อยถูกใจทุกคนค่ะ

ขอบคุณน้องแก้ม สำหรับสูตรดีๆ ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย

ขอบคุณเชฟพล จะยึดเทคนิคนี้เป็นวิธีอบคัสตาร์ดประจำตัวเลยนะคะ

พบกันใหม่เมนูหน้า สวัสดีค่า




Create Date : 10 พฤษภาคม 2554
Last Update : 10 พฤษภาคม 2554 22:48:54 น. 0 comments
Counter : 5344 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่เนื้ออุ่น
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




ถ้าใครมีคำถามอยากพูดคุยแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะกับเมนูที่ไม่ได้โพสต์เป็นหน้าแรกของบล็อก รบกวนส่งข้อความมาทางหลังไมค์ดีกว่านะคะ เพราะอุ่นจะไม่ได้เข้าไปดูบล็อกหน้าเก่าๆ ว่ามีใครฝากคำถามใหม่ๆ เอาไว้หรือไม่ กว่าจะได้เข้าไปดู บางทีก็ผ่านมาแล้วหลายเดือน -_-

หรือถ้าไม่มีล็อกอินพันทิป ส่งหลังไมค์ไม่ได้ ก็รบกวนฝากคำถามไว้ที่หน้าแรกของบล็อกนะคะ อุ่นจะได้เห็นและตอบได้ทันใจค่า
Friends' blogs
[Add แม่เนื้ออุ่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.