|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
2 ตุลาคม 2554
|
|
|
|
ความสวย....ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เห็นหัวข้อวันนี้...อย่าคิดว่ากำลังพูดถึงความสวยของตัวเองนะคะ
ขอบอกเลยคำนั้นห่างไกลจากเก๋มาก
วันนี้อยากเล่าเรื่องงานที่มีโอกาสได้เจอ sales อยู่บ่อยๆ
พอพูดว่า sales ทุกคนก็มักจะคิดถึงคนสวยๆ
ก็เป็นธรรมดานะคะที่จะใช้เทคนิคเอาคนหน้าตาดีๆมาขายของ อย่างน้อยๆก็ให้ดึงดูดที่ตัวคนที่มานำเสนอก่อน
บางทีถ้าสินค้าทัดเทียมกับค่ายอื่นๆ หรือไม่ดึงดูดใจเท่าที่อื่น ก็ยังมีความสวยของ sales มาช่วยให้คนฟังสนใจได้
ก็ได้ผลนะ..คนในทีมที่เป็นผู้ชายบางคนถึงกับลงคะแนนให้ซื้อของจากค่ายนั้นๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า sales หน้าตาดี อยากร่วมงานด้วย
เอ่อ...คนบางคนก็ใช้ตาคิดประมวลผลอะนะ ไม่ได้คิดผ่านสมอง
มีอยู่วันนึงเก๋นัด sales ให้เข้ามานำเสนอระบบ
นัดเก้าโมงครึ่ง...แต่เธอมาสายไปสี่สิบนาที
โดยที่ไม่โทรบอกล่วงหน้าว่าไม่สามารถมาได้ทันตามเวลา
คนในห้องประชุมสิบกว่าคนนั่งรอกันหน้านิ่วคิ้วขมวด
คนที่เดือดที่สุดเห็นจะเป็นหัวหน้าเก๋คนนึง คนนี้เป็นคนเจ้าอารมณ์
พูดในที่ประชุมเลยว่า เจ้านี้ไม่เวิร์ค ปล่อยให้พรีเซ้นต์ไป ไม่แต่จะไม่ให้เข้ากระบวนการคัดเลือก
เมื่อ sales มาถึง...
sales หน้าตาสวย เสียงหวาน พูดจาดี
แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป อารมณ์โกรธของหัวหน้าหายไปแบบปลิดทิ้ง
แล้วไอ้ที่โกรธๆอยู่มันหายไปไหนหมด
ประมาณว่าถ้าส่ง sales ผู้ชายมา หรือมาแบบไม่สวย เจ้านี้หมดโอกาสแน่
เป็นเพราะผู้ชายส่วนใหญ่ที่เก็บอาการหน้า...(เครื่องครัว)ไม่อยู่
เลยทำให้สาวๆที่เป็น sales หลงคิดไปว่าหน้าตาจะช่วยได้ เลยลืมหน้าที่หลักของตัวเอง
บางคนมาแบบแต่งตัวแต่งหน้า จัดเต็มมาเลย แต่พอถามเรื่อง product กลับตอบไม่ค่อยได้
สิ่งที่เก๋พูดไม่ได้เหมารวมนะคะว่า sales จะเป็นแบบนั้นทุกคน
บางคนก็มีจรรยาบรรณของความเป็น sales ที่ดี นัดเป็นนัด มาตรงเวลา ขอข้อมูลอะไรก็กระตือรือร้นส่งให้อย่างรวดเร็ว ถามเรื่อง product ก็ตั้งใจที่จะให้ข้อมูล
แต่ ยกตัวอย่าง sales คนนึงที่เก๋เจอมา เน้นแต่งตัวเปิดนิดเปิดหน่อย แล้วก็พูดจาหวานๆ หว่านล้อม
เก๋เป็นผู้หญิงไงเลยดูกันออกว่าผู้หญิงจะใช้ไม้ตายแบบไหน
แต่พอถามเรื่อง product ถามอะไรก็ตอบไม่ค่อยได้ เราก็ให้โอกาสกลับไปหาข้อมูล
พอกลับมาเจอกันอีกรอบ ทวงถามคำตอบจากคำถามเดิม ก็ยังตอบไม่ได้อยู่ดี
ถึงเก๋จะเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้หญิง แต่ความสวยหรืออะไรต่างๆพวกนี้ก็ไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจแม้แต่นิดเดียว
บางคนโทรมาตีสนิท มีอาการพูดอ้อนๆ แบบว่าอ้อนจนเกินงามเหมือนเรารู้จักกันเป็นการส่วนตัว
ถึงเก๋จะให้ความเป็นกันเองกับ supplier แต่ก็จะแบ่งเส้นกั้นให้เค้าให้เกียรติเรา เหมือนๆกับที่เราก็ให้เกียรติเค้า เพราะเรากำลังทำงาน
การให้ความสนิทสนมกับ sales บางคนมากเกินไปอาจเป็นภัยสำหรับตัวเรา ซึ่งหมายถึงความไม่โปร่งใส
มีความจริงนึงที่เก๋ทราบแล้วก็รู้สึกตกใจ
เทคนิคอีกแบบของ sales ที่มีอยู่จริง
sales บางคนถึงขนาดจีบลูกค้า โทรไปคุยเป็นการส่วนตัว นัดทานข้าว
โทรคุย ไปถึงขั้นเป็นแฟนกัน
แต่พอขายของเสร็จก็จบ...แล้วจะค่อยๆเฟดตัวออกไป
วิธีนี้มีอยู่จริง...เก๋ทราบเพราะเก๋ทำงานกับ sales ทั้งในบริษัทเอง และ sales ข้างนอก
เจ้าตัวแชร์ให้เก๋ฟัง และเค้าบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่บางคนทำแบบนี้
ขอย้ำอีกครั้งว่านี่คือวิธีการเฉพาะคน ไม่ได้หมายถึง sales ทุกคน
สำหรับเก๋แล้วความสวยไม่ได้ช่วยอะไร
แล้วนิสัยของ sales ก็เป็นเกณฑ์ข้อนึงในการคัดเลือกสำหรับเก๋ด้วย
ตอนที่ทำสรุปเลือกระบบ เก๋ไม่ได้มีเกณฑ์วัดทางด้าน product เพียงอย่างเดียวว่ามันตอบสนองความต้องการและเหมาะสมกับองค์กรของเรามั้ย
แต่ในข้อท้ายๆ เก๋จะใส่เกี่ยวกับความกระตือรือร้นในการให้ข้อมูล และความชำนาญการของ sales และเจ้าหน้าที่ที่มาให้ข้อมูลด้วย
เพราะเก๋ถือว่า บริษัทต้องส่งคนที่เชี่ยวชาญด้าน product ดีที่สุดมาคุยกับลูกค้า
บริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าจะทำแบบนั้น
หากคนที่มาไม่เชี่ยวชาญแล้ว เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าทีมหลังบ้านของเค้ามีความเชี่ยวชาญเพียงพอที่จะทำระบบคุณภาพให้เราได้
ต่อให้บริษัทไหนขายของคุณภาพดี แต่ผู้ประสานงาน คนทำงานไม่ดี
รับปากแล้วไม่ทำ สักแต่จะขายงานให้ได้ ไม่กระตือรือร้น ถ้าเลือกไปสุดท้ายงานก็มีปัญหา
ตัว sales หรือคนที่มานำเสนอ product จึงหมายถึงภาพพจน์ของบริษัท ที่จะทำให้ลูกค้ามองบวกหรือมองลบกับบริษัทนั้นๆได้
เก๋คิดว่า คนเราต้องเคารพในอาชีพของตัวเอง เมื่อสวมบทอาชีพของตัวเองไป ก็ต้องทราบว่าเราต้องทำตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้หน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด
หากเรามุ่งประเด็นในการทำงานผิด ไม่มีจรรยาบรรณที่ควรมี เราก็ไม่เหมาะสมกับอาชีพนั้น
sales เองก็แต่งตัวแต่งหน้าให้พอเหมาะ แล้วเอาเวลาที่เหลือที่เคยแต่งตัวแต่งหน้าแบบจัดเต็ม ไปทบทวนเรื่องความรู้ดีกว่า
มันจะได้ประโยชน์กับตัวเอง และต่อลูกค้ามากกว่า
ต่อท้ายเรื่องความสวยอีกหน่อย
เก๋เป็นคนนึงที่ไม่มองคนที่หน้าตา
ความสวยมันเกิดมาจากข้างใน...เก๋เชื่อแบบนั้น
คนสวยส่วนใหญ่มักรู้สึกได้รับอภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่น
เพราะได้รับการปฏฺิบัติที่ดีกว่าจากสังคม
เพราะสังคมถูกปลูกฝังให้ตัดสินอะไรจากสิ่งที่มองเห็นก่อนเสมอ
ในสังคมก็จะมีคนสวยที่ปฏิบัติตัวดี
กับอีกกลุ่มที่หลงคิดไปว่ารูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองสวยงาม จึงไม่ระมัดระวังการกระทำ หรือขัดเกลาสิ่งที่อยู่ภายในให้ดี
คนหน้าตาดีหลายคนกริยาไม่ดี ไม่รู้จักระมัดระวังในการวางตัว เพราะเชื่อมั่นอยู่อย่างเดียวว่าตัวเองสวย จะทำอะไรก็ได้
"คนพวกนี้ไม่สวย"
ถ้าโชคดีเกิดมาหน้าตาดีแล้ว ก็ต้องหมั่นฝึกใจฝึกกริยาให้สวยสมกับหน้าตาด้วย
จะได้เป็นคนสวยที่สวยข้างในและข้างนอกโดยแท้จริง
สวยภายนอก...ไม่ได้มีความหมาย
แต่สวยจากข้างใน...คือความสวยที่ยั่งยืนและมีคุณค่า
...แบบนี้ถึงจะเรียกว่าสวยจริง
Create Date : 02 ตุลาคม 2554 |
|
18 comments |
Last Update : 2 ตุลาคม 2554 13:01:27 น. |
Counter : 1098 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: -..- (tictin ) 2 ตุลาคม 2554 21:02:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: การเดินทาง ของหัวใจ IP: 192.168.20.137, 202.129.55.188 4 ตุลาคม 2554 17:56:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: การเดินทาง ของหัวใจ IP: 49.48.135.117 7 ตุลาคม 2554 16:26:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: พีช IP: 182.53.142.109 12 ตุลาคม 2554 17:01:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ^march^ IP: 10.67.1.111, 10.1.5.21, 223.27.229.127 13 ตุลาคม 2554 12:19:47 น. |
|
|
|
| |
|
|
sea_story |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]
|
ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเส้นทางที่จะเดินได้
ถ้าเชื่อมั่นว่ากำลังทำสิ่งดี
..ก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองเราไม่ดี
คิด..พูด..ทำ.. ในสิ่งที่เชื่อว่าดีที่สุด
แล้วทุกอย่างจะดีเอง
|
|
|