1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
6 กรกฏาคม 2556
โปรเจ็คสุดหิน
และแล้วโปรเจ็คสุดหินก็จบลงจนได้ เป็นโปรเจ็คที่สูบพลังทั้งสมองและจิตใจไปมากมายที่สุดนับตั้งแต่เคยทำงานมา โปรเจ็คนี้เป็นการจ้างบริษัทข้างนอกเข้ามาทำระบบซึ่งในโพรเซสงานนี้ยังไม่มีซอฟต์แวร์มาช่วยในการทำงาน กระบวนการคัดเลือกเป็นไปอย่างเข้มข้น ในช่วงเวลาหลายเดือนหลายบริษัทในตลาดถูกคัดเลือกให้เข้ามานำเสนอแบบละเอียด หลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดเราก็ได้บริษัทที่มีฟังก์ชั่นการทำงานตอบโจทย์ความต้องการ โดยการคัดเลือกจากคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจากแต่ละส่วนงานที่ช่วยกันกรอง เจ้าที่ได้รับคัดเลือก คนที่มานำเสนอระบบเป็น MD ของบริษัท มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจขององค์ กรเก๋เป็นอย่างดี ทุกคนเชื่อมั่นว่าระบบถูกออกแบบมาด้วยพื้นฐาน Knowledge ที่ดี โจทย์งานของเก๋สั้นๆ คือทำให้โปรเจ็คสำเร็จตาม requirements ตามระยะเวลา และงบประมาณที่วางไว้ แต่ในรายละเอียดมีหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ วางแผนโครงการ, เก็บ requirements จากผู้ใช้งาน, หาและคัดเลือกบริษัทที่จะมาทำระบบให้, นำเสนอให้โปรเจ็คผ่านการอนุมัติงบประมาณจากผู้บริหาร และทำงานร่วมกับบริษัทนั้นจนได้ระบบขึ้นมาพร้อมใช้งานหนึ่งระบบ คนที่เคยผ่านงานด้าน Project Management คงทราบว่าระหว่างทางแต่ละจุดต้องเจอปัญหาเยอะแยะมากมาย และเก๋ก็ได้รับประสบการณ์จากปัญหามากมายของโปรเจ็คนี้เช่นกัน เริ่มตั้งแต่ที่พบปัญหาใหญ่สุดคือตัวระบบที่ตอนนำเสนอภาพออกมาดี แต่ข้างในไม่ได้เสร็จสมบูรณ์อย่างที่โอ้อวดไว้ ขอใช้คำว่าโอ้อวด เพราะเมื่อผ่านไปหลายเดือนติดตั้งระบบเสร็จเก๋ทดลองใช้งานพบว่าติดปัญหาการใช้งานเกือบทุกฟังก์ชั่น เหมือนระบบยังทำไม่เสร็จเรียบร้อยแล้วนำมาขาย ในขณะนั้นบริษัทอื่นๆที่บริษัทนี้ทำงานให้ก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน แม้กระทั่งบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งก็เจอปัญหา ทำให้ต้องทำงานยืดเยื้อกันมาเกือบสองปีแล้วก็ยังไม่สามารถเปิดระบบให้ user ใช้งานได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกคนยอมรับว่าเกิดจาการเลือกที่ผิดพลาด แต่ด้วยแนวทางที่สรุปในที่ประชุมแล้วว่าเราเลยจุดที่จะยกเลิกการทำระบบไปแล้ว จึงต้องเดินหน้าแก้ปัญหาเพื่อให้ระบบนี้ใช้งานได้ จะเปลี่ยนม้ากลางศึกไม่ได้...เค้าว่างั้น เมื่อได้ทิศทางที่ชัดเจนเก๋ก็เดินหน้าต่อ...แล้วปัญหาใหญ่ข้อที่สองก็ปรากฏ ทีมงานที่มาทำระบบให้ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีทั้งคนที่ทำงานมาหลายปีแล้วแต่ไม่รู้ลึกในตัวระบบ เมื่อถามถึงการใช้งานบางจุดไม่สามารถตอบได้ และมีบางคนที่ยังใหม่อยู่ พวกนี้ยิ่งทำระบบก็ยิ่งติดปัญหา มี Bug มากมาย บางคนขาดความคิดในการทำงาน ซึ่งบางเรื่องเก๋คิดว่าแม้แต่คนที่จบปริญญาตรีมาใหม่ๆ ก็ยังมีความสามารถในการคิดได้ดีว่าจะต้องทำบางจุดออกมาอย่างไร ปัญหาข้อนี้ทางต้นสังกัดไม่สามารถทำอะได้ให้เราได้ เพราะเค้าขาดบุคลากรในการทำงาน ทั้งๆที่ตอนทำสัญญาก็มีการระบุ Organize Team มาเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายส่งคนมาให้เราไม่ครบ เพราะเค้าส่งคนที่เชี่ยวชาญไปเร่งทำโปรเจ็คให้กับบริษัทอีกที่ที่ติดปัญหาซึ่งทางโน้นผู้บริหารกำลังเดือดเป็นเรื่องราวใหญ่โตอยู่ จากปัญหาทั้งตัวระบบและบุคลากรทำให้โปรเจ็คเริ่มยืดเยื้อเกินเวลาที่ตั้งไว้ หลังๆ เค้าใช้วิธีแย่ขึ้นอีกคือแบ่งคนที่น้อยอยู่แล้วไปทำให้ที่ๆกำลังมีปัญหา คือถ้าที่ไหนว่าเค้าแรงหรือทะเลาะกันใหญ่โตก็จะส่งคนไปเร่งดับไฟก่อน เมื่อเก๋ได้พยายามควบคุมและติดตามแล้วไม่สามารถควบคุมเค้าได้ เพราะระดับคนอีกฝั่งคือ MD เก๋จึงขอใช้พลังจากหัวหน้าเข้าไปคุย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม จึงนำเรื่องเข้าสู่ผู้บริหาร การประชุมระหว่างผู้บริหารกับ MD ของบริษัทนั้นไม่ได้ผลเพราะปัญหาข้อที่ 3 ที่เก๋กำลังจะเล่าให้ฟัง ปัญหาข้อที่ 3 คือ MD ของบริษัทนั้นนิสัยแย่มาก ผิดกับวันแรกๆที่พูดจาดีมีหลักการ ให้เกียรติลูกค้า แต่เมื่อตกลงซื้อก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนพูดจาไม่ดี ดูถูกในความคิดของคนอื่นโดยใช้คำพูดไม่ให้เกียรติ บ่อยครั้งทำให้คนในที่ประชุมโมโห เช่น ผมว่าไอเดียทางการตลาดของคุณมันใช้ไม่ได้ มันไม่ใช่ตามหลักสากลที่เค้าใช้กัน คุณลองไปศึกษาที่อื่นนะว่าเค้าคิดกันยังไง , ถ้าจะให้ระบบของผมแสดงผลข้อมูลออกมาได้แบบโง่ๆเหมือนระบบ SAP ที่คุณใช้อยู่แบบนั้นเราก็ทำได้ แต่เราไม่แนะนำ คำพูดที่จุดชนวนเหล่านี้ทำให้บรรยากาศการประชุมกลายเป็นการแสดงอารมณ์ใส่กัน ทำให้คนที่เคยปะทะกับ MD ฝั่งโน้นไม่พอใจไม่ยอมเข้าร่วมประชุมในครั้งหลัง และคนที่เคยร่วมอยู่ในการประชุมหลายๆคนเอือมระอาไม่อยากเข้าร่วม อีกหลายๆนิสัยแย่ๆ เช่น การไม่ยอมรับความผิดทั้งๆที่เรามีข้อมูลหลักฐานมาแสดง เค้าจะบ่ายเบี่ยงและพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาเพื่อโยงออกนอกเรื่อง บางทีก็มีแต่งเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงเพื่อโยนความผิดใส่ฝั่งเราเพื่อบ่ายเบี่ยงว่าเค้าไม่ได้ผิด ทำเอาที่ประชุมงงกันไปตามๆกัน นิสัยเล่เหลี่ยมโกงสารพัด พยายามจะขอคุยกับผู้บริหารเพื่อเรียกเก็บเงินทั้งๆที่งานไม่คืบหน้า จนบริษัทเก๋ให้คำนิยามกับ MD คนนี้ว่า หน้าด้านมาก สรุปว่าแม้แต่ผู้บริหารของเราก็ไม่สามารถเอา MD คนนี้ได้อยู่ ไม่สามารถผลักดันฝั่งโน้นให้ทำงานไวขึ้นได้ ผู้บริหารที่เข้าร่วมประชุมส่ายหัวเอือมระอา และบอกให้เก๋กับหัวหน้าไปจัดการต่อเอง อารมณ์เคว้งคว้าง เหมือนโดนปล่อยเรือกลางทะเลให้หาทางพายหาฝั่ง เอง ถึงแม้ในความคิดของเก๋จะขัดแย้งกับทิศทาง เพราะใจอยากจะให้เลือกให้ยกเลิกสัญญาทำระบบกับบริษัทนี้ไปเลยเพราะเค้าทำผิดสัญญาตามที่ตกลงไว้หลายข้อ ซึ่งเรามีสิทธิ์ที่จะทำ แต่คงด้วยหลายๆเหตุผลในความคิดของผู้บริหาร ซึ่งก็ต้องยอมรับและทำให้เดินหน้าต่อ ขุนศึกของเรายังยืนยันจะไม่เปลี่ยนม้ากลางศึก (ทั้งๆที่ใจเก๋อยากจะฆ่าม้าให้ตายเพราะมันเป็นตัวถ่วงเหลือเกิน) เก๋ต้องทนทำงานต่อกับคนที่ทุกคนเอือมระอา ไม่มีใครอยากเกี่ยวข้อง ไม่อยากร่วมประชุม ต้องเหนื่อยเป็นหลายเท่ากับการช่วยโปรแกรมเมอร์ฝั่งโน้นคิดหาข้อสรุปในบางจุดในระบบว่าจะต้องออกมาแบบไหน เพราะระบบที่เค้าเคยโอ้อวดมันไม่มีอยู่จริง มันเหมือนเรากำลังเขียนโปรแกรมขึ้นมาใหม่จากที่มีแต่โครงและหน้ากากไว้ทำให้คิดว่ามันมี และกับปัญหาภายในบริษัทเก๋เองที่ส่วนงานที่รับผิดชอบโดยตรงไม่ยอมให้ข้อมูล ไม่ให้ความร่วมมือ หลายๆ ครั้งที่แจ้งกำหนดระยะเวลาที่จะต้องส่งข้อมูลกลับมาแต่ก็เงียบ ต้องคอยโทรตามบ้างอีเมลล์บ้าง บางครั้งก็เจอคำพูดไม่ดีกลับมา บางครั้งติดตามข้อมูลไม่ได้แล้วจริงๆก็ใช้วิธีแจ้งขอจากระดับสูงของต้นสังกัด แต่ก็มีบางเคสที่ยังไม่สามารถผลักดันให้ลูกน้องส่งข้อมูลมาได้ ลูกน้องบางคนก็แรงจนหัวหน้าเอาไม่อยู่ ถ้าไม่ได้ข้อมูลไปทางคนที่ทำระบบก็ทำงานต่อตรงส่วนนั้นไม่ได้ จึงต้องคอยคิดหาทางทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ข้อมูล หลายๆครั้งที่เรียกคนที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับโพรเซสของระบบ คนสำคัญก็เบี้ยว โปรเจ็คนี้จึงถูกเรียกว่าเป็นโปรเจ็คหินสำหรับเก๋ที่ต้องใช้ความอดทนและใช้พลังในการผลักดันให้มันจบ เจอปัญหาที่ต้องหาทางแก้แทบจะทุกวัน ปัญหาหนึ่งข้อกว่าจะแก้จบต้องทำหลายๆทาง ทางหนึ่งไม่สำเร็จก็ต้องคิดหาวิธีใหม่ เจอคำพูดไม่ดีจากทั้งจากบริษัทที่มาทำระบบให้ และจากคนในบริษัทเอง ต้องใช้ความอดทนในการสะกดอารมณ์สูง เพราะถ้าเก๋ใช้คำพูดไม่ดีโต้กลับไปก็จะไม่ได้อะไรกลับมานอกจากจะทำให้ทำงานด้วยกันยากขึ้น และต้องคอยฟังคำต่อว่าจากความล่าช้าของโปรเจ็คจากคนที่ไม่ทราบรายละเอียด เหมือนเป็นความผิดของเรา โดยที่ไม่ทราบว่าข้างหลังเราต้องเหนื่อยและเจอกับอะไรบ้าง หลายๆสถานการณ์ที่ผ่านมาค่อนข้างจะบั่นทอนความรู้สึก ณ ขณะนั้น แต่เก๋ก็ไม่ได้เก็บสิ่งเหล่านั้นมาคิด เพราะมันคงเป็นปกติของการทำงานที่จะมีคนหลากหลายประเภท สำหรับเก๋แล้วเราแค่รู้หน้าที่ของเราและทำมันให้ดีที่สุดก็พอ หากทุกคนรู้หน้าที่งานก็จะเดินได้อย่างไม่ติดขัด แต่หากมองความจริงในองค์กรไม่ได้มีคนแบบนั้นทุกคน คนเกี่ยงงานมีอีกมากมาย เราจึงต้องคอยคิดหาวิธีที่จะทำงานร่วมกับคนเหล่านั้นให้ได้ สิ่งที่เก๋คิดอยู่เสมอตลอดการทำโครงการนี้คือ จะทำให้ระบบใช้งานได้เพื่อช่วยในการทำงานของทุกๆส่วนและเป็นประโยชน์โดยรวมกับองค์กร อุปสรรคและปัญหาต่างๆมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องแก้ไขไปแต่ละเรื่องเท่านั้นเอง และปัญหาที่เกิดกับโครงการนี้ก็ทำให้เก๋ได้ประสบการณ์ดีๆมากมาย ทั้งในแง่ของความรู้ ที่เราได้ทราบทั้งในแง่ของ Business เพราะเมื่อคนของเราบางคนไม่เข้าร่วมให้รายละเอียดเก๋ก็ต้องไปหาข้อมูลและทำความเข้าใจใน process เอง เป็นตัวแทนของผู้ใช้งาน และความรู้ในแง่โครงสร้างของระบบแบบลึกๆ เพราะเหมือนร่วมกับคนที่ทำระบบช่วยกันวิเคราะห์โพรเซสงานและสร้างระบบขึ้นมา มันได้ความรู้มากกว่าที่จะนำระบบสำเร็จรูปมาใช้ซึ่งเราก็จะได้ทราบแค่ในระดับของผู้ใช้งานระบบคนนึง ความผิดพลาดตั้งแต่เลือกบริษัทที่จะมาร่วมทำงานด้วยจะถูกเก็บไปเป็นประสบการณ์ เพื่อเขียนข้อกำหนดในการคัดเลือกเพิ่มเติม และแชร์ข้อที่ต้องระวังให้น้องๆในทีมทราบต่อไป ประสบการณ์ข้ออื่นๆอีกมากมายที่เกิดจากปัญหาระหว่างทางของการทำโครงการนี้ จะเก็บไว้เป็นความรู้และคิดทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำ คิดว่าโครงการต่อๆไปก็คงจะมีปัญหาอื่นๆไม่ซ้ำแบบเกิดขึ้น ก็คงต้องเรียนรู้กันต่อไป มองกลับมาในบ้าน... ต้องขอบคุณเป้ที่คอยเป็นกำลังเสริมอยู่ตลอดเวลา ช่วงปีที่แล้วต้องก้มหน้าก้มตาเร่งทำงานเลิกงานดึกติดต่อกันหลายเดือน ไม่มีเวลาเคลียร์เรื่องส่วนตัวต้องให้เป้คอยดูแลจัดการให้ บางคืนกลับมาเป้รอทานข้าวจนหลับไป บางคืนก็หิ้วอาหารไปให้ทานที่ออฟฟิต เป้เข้าใจและคอยดูแลเก๋เสมอ เก๋คิดว่าการมีคู่ชีวิตที่คอยส่งเสริมและช่วยเหลือกันจะเป็นกำลังหนุนให้เราผ่านทุกอย่างไปได้ เป้เป็ น คู่ชีวิตที่ดีของเก๋ หลังจากโปรเจ็คนี้ จบไปก็แอบหวังลึกๆว่าจะได้พักสมองซักแป๊บ แต่หัวหน้าจัดมาให้อีกสามโปรเจ็คทันที คงต้องลองดูกันอีกซักตั้งละนะ :)
Create Date : 06 กรกฎาคม 2556
5 comments
Last Update : 9 กรกฎาคม 2556 16:35:04 น.
Counter : 755 Pageviews.
โดย: Nepster 6 กรกฎาคม 2556 21:47:40 น.
โดย: ฺBegood (Brown&Cony ) 7 กรกฎาคม 2556 9:36:53 น.
โดย: พี่อ้วน IP: 61.90.28.43 12 กรกฎาคม 2556 8:29:09 น.
sea_story
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [? ]
ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเส้นทางที่จะเดินได้ ถ้าเชื่อมั่นว่ากำลังทำสิ่งดี ..ก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองเราไม่ดี คิด..พูด..ทำ.. ในสิ่งที่เชื่อว่าดีที่สุด แล้วทุกอย่างจะดีเอง
โปรเจ็คหินจบแล้ว อย่าลืมออกไปลั๊นล๊าพักสมองนะค่ะ