สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
22 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
You've Got Friend


Photobucket>


"มิตรภาพ"




ไม่ใช่สิ่งที่โรงเรียนมีสอน
แต่ถ้าคุณไม่เคยเรียนรู้ความหมายของคำว่า
"มิตรภาพ" นั้นก็หมายความว่า
คุณไม่เคยเรียนรู้อะไรจริง ๆ หรอก






Photobucket>



"หมั่นคอยดูแล ... และรักษามิตรภาพให้งดงาม"









Create Date : 22 มิถุนายน 2551
Last Update : 22 มิถุนายน 2551 22:19:27 น. 43 comments
Counter : 1068 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ทุกท่านค่ะ :-)


นำมาฝากค่ะ ..

..
ผู้ภาวนาไม่ต้องไปรอเวลา
เมื่อใดเวลาใด ถ้าตั้งจิตดวงนี้ให้มั่นคงลงไปในจิต
ก็จะรู้ได้เข้าใจในเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ เป็นต้นไป
เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรปิดบัง นอกจากจิตใจของตัวเองนั่นแหละ
สังขารมารกิเลสนั่นแหละมันปิดบัง มันกั้นกางไม่ให้ทำ ไม่ให้พินิจพิจารณา

อย่างว่าจะตั้งจิตลงไปในจิตในปัจจุบันนี้ เป็นต้น มันก็มัวรอช้า ไม่กำหนด ไม่พิจารณา เฉื่อยชา
ไม่ดูว่าดวงจิตผู้รู้มันมีอยู่ในปัจจุบัน
สังขารที่มันปรุงแต่งขึ้นมา มันปรุงขึ้นมาในปัจจุบัน
เราก็ดับก็ละในปัจจุบัน ทำความเพียรอยู่ในปัจจุบัน

...

หลวงปู่สิม
_/|\\_






โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:9:08:10 น.  

 
๒๒ มิถุนายน น้อมรำลึกถึงเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหฺมรังสี....!!


เมื่อวันเสาร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 8 (ต้น) ปีวอก จ.ศ. 1234 ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน 2415 เวลาประมาณ 24.00 น.เศษได้สิ้นชีพตักษัย ( มรณภาพ ) บนศาลา ใหญ่วัดอินวรวิหาร บางขุนพรหม

สิริรวมชนมายุของท่านได้ 85 ปี อยู่ในสมณเพศได้ 65 พรรษา ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ได้ 20 ปี บริบูรณ์ ดำรงฐานันดรศักดิ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์โตมาได้ 7 ปี เศษ


-----------------

"หมั่นสร้างบารมีไว้..แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง"


"ลูกเอ๋ย..ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเองคือบารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย..หากไม่เช่นนั้นแล้ว เจ้าจะเอาตัวไม่รอดเพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว..เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมาก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัวแล้ว เจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า..หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง

จงจำไว้น่ะ...เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้..ครั้นถึงเวลา..ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่..จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า.."



//board.palungjit.com/showthread.php?p=1297751#post1297751


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.97 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:9:49:57 น.  

 
ดี.....สวัสดีเช้าวันจันทร์......

สมาชิกบ้านฯ...สบายดีทุกท่านนะคะ

ขอบคุณ...นู๋เวลา
เอาธรรมะดี ๆมานำเสนอแต่เช้า

ขออนุโมทนา...
คุณย่าอำฯ, คุณมุ่งฯ, คุณนางฯ, นู๋อบ
ในทุก ๆ บุญกุศลที่ได้กระทำค่ะ

น้องลิง..จ๋า
วันหยุดไปเที่ยวไหนคะ
เล่าให้พี่ฟังบ้างจิ

นู๋กา.....จ๊ะจ๋า....
ดื่มน้ำอุ่น...วันละ 3 ลิตร น๊ะจ๊ะ

เมื่อบ่ายวานนี้...
สว.ขับรถไป....นครชัยศรี เพื่อรับเพื่อนที่วัชรธรรมสถาน
ไปถึงบ่าย 3 โมงครึ่ง ยังไม่เลิก
สว.เลยไปนั่งรอข้างบ่อปลา
สักพัก รู้สึก สงบ...สุข. กาย..เบา จิต...เบา
ดีมาก ๆ ที่ได้มานั่งเงียบ ๆ กับธรรมชาติ
ขากลับ...แวะซื้อต้นไม้ไปฝากแม่

ช่วงนี้ สว.หัดปลูกต้นไม้ ..
มาเริ่มปลูกตอน....วัยชรา
แค่พรวนดินไม่กี่กระถาง
ปวดเมื่อยดีจัง
ก่อนหน้านี้....แม่..จะไม่ยอมให้ สว. รดน้ำต้นไม้เลย...
เพราะว่า....รดที่ไร ต้นไม้ของแม่เหี่ยวเฉาะตาย
แม่บอก..สว. เป็นคนมือร้อน
ก็จะลองดู

ใครปลูกต้นไม้เก่ง ๆ มาแนะนำสว. บ้างเน๊อะ
น้องลิง...ชอบปลูกต้นไม้ป่าวคะ
มาสอนพี่บ้างเด๊อะ



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:10:10:17 น.  

 
อุอุ... พี่อรขา..

นู๋เวลาช่วยมะได้เรยยยอ่ะค่ะ เรื่องนี้ ..

ตะบองเพชร ยังตายเลยค่า ...

:-P


โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:10:18:28 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน



ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ...ขอให้ทุกๆท่านโปรดดูแลรักษาสุขภาพด้วยครับ...ถึงสุขภาพกายจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร...แต่ขอให้สุขภาพใจยังคงเดิม...ช่วยกันเติมกำลังใจให้กันและกัน...ก็จะผ่านพ้นคืนวันไปได้อย่างสุขใจ (ยิ้มอ่อนโยน 1 ครั้ง)




10 ข้อผิดพลาดในการออกกำลังกาย

1. ไม่ยืดกล้ามเนื้อให้เพียงพอ
ยืดกล้ามเนื้อทันทีหลังการออกกำลังกายแบบแอโรบิค การยืดกล้ามเนื้อขณะที่กล้ามเนื้อยังอบอุ่นและยืดหยุ่นจะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บ

2. ใช้น้ำหนักมากเกินไปขณะยกน้ำหนัก
อย่าพยายามยกน้ำหนักมากเกินกว่าขีดความสามารถของกล้ามเนื้อ การยกน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไปมีประโยชน์และปลอดภัยมากกว่ากับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

3. ไม่อบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย
กล้ามเนื้อต้องมีการปรับตัวก่อนออกกำลังกาย จึงควรเริ่มออกกำลังกายช้า ๆ แล้วเพิ่มความหนักเมื่อร่างกายปรับตัวแล้ว

4. ไม่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย
หลังการออกกำลังกายทุกชนิด ใช้เวลา 2 – 3 นาทีในการลดอัตราการเต้นของหัวใจและยืดกล้ามเนื้อ เพื่อเสริมความยืดหยุ่นและเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายอื่น ๆ

5. ออกกำลังกายหนักเกินไป
การออกกำลังกายในระดับปานกลาง โดยใช้เวลาออกกำลังกายนาน มีประสิทธิภาพมากกว่าการออกกำลังกายอย่างหนัก โดยใช้ระยะเวลาเพียง 2 – 3 นาที

6. ดื่มน้ำน้อยเกินไป
อย่ารอจนกระหายน้ำจึงดื่มน้ำ เพราะหมายความว่าขณะนั้นร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ ควรพกกระติกน้ำติดตัวตลอดเวลาที่ออกกำลังกายและตลอดวัน

7. ทิ้งน้ำหนักบนเครื่อง Stairstepper มากเกินไป
การทิ้งน้ำหนักลงบนเครื่อง Stairstepper อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ข้อมือและหลัง ลดความหนักของเครื่องจนถึงระดับที่คุณสามารถรักษาท่าทางได้ดี และสามารถวางมือบนที่พักมือได้โดยไม่ทิ้งน้ำหนัก

8. ออกกำลังกายเบาเกินไป
ควรออกกำลังกายในระดับที่หนักพอให้เหงื่อออก และอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในอัตราที่เหมาะสมกับเป้าหมายของการออกกำลังกาย

9. ใช้แรงสะบัดเพื่อยกน้ำหนัก
ในขณะที่คุณออกแรงสะบัดเพื่อยกน้ำหนัก กล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ จะกระตุกไปด้วย และอาจทำให้กล้ามเนื้อตึงหรือบาดเจ็บได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อหลังเป็นส่วนที่เปราะบางมาก ควบคุมน้ำหนักที่ยก อย่าให้น้ำหนักควบคุมคุณ!

10. ทาน Energy bar หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ เมื่อออกกำลังกายในระดับปานกลาง




โดย: นางเดินทัก IP: 222.123.77.22 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:10:40:23 น.  

 


โดย: สาวิกา วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:11:16:16 น.  

 
Photobucket>


สุขสันต์ ...วันจันทร์ ทุก ๆ ท่านค่ะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนากับธรรมะยามเช้าจากนู๋ไทมส์นะจร้า

พี่อรจ๋า ...
ตอนนี้นู๋กาไม่ได้ร้อนแต่มือเท่านั้นอ่ะ ร้อนทั้งตัวเลย น้องวิวมากอดยังร้องจ๊ากกกส์ ...
(หน้าม่อยเล็กน้อย)

เวลาไม่สบายจะเป็นแบบนี้อ่ะค่ะ ตัวจะร้อนผ่าว ๆ มีไอร้อนออกมาเลย...แต่วัดปรอทจะไม่มีไข้นะคะ

เมื่อคืนเข้านอนผิดเวลาไปหน่อย เลยนอนไม่หลับ ก็นอนฟังซีดีไปเรื่อย พอใกล้จะหลับน่าจะประมาณ ตี 1 กว่า ๆ (ยามเพิ่งมาตีระฆังไป)

จู่ ๆ เกิดอาการไอไม่หยุด ลุกขึ้นมาจิบน้ำ อมยา ก็ไม่หาย ไอค๊อก ไอแค๊ก ไอกระด๊อก ไอกระแด๊ก แต่ไม่ได้ ไอ เลิฟ ยู ก๊ะใครนอนไอจนถึงเช้าเลยค่ะ แต่พอลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมมาทำงาน ...อาการไอหายไปเป็นปลิดทิ้งเลยเชียว จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ไอสักแค๊ก
(หน้าตาอิดโรยเล็กน้อย)

เฮ้ออออ... ขันธมารทำงานเฉพาะเวลานอนละมังเนอะ

พูดเรื่องการปลูกต้นไม้ นู๋กาก็ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยงาม เพราะไอร้อนมันเยอะ แต่พอลองปลูกไม้น้ำดู ...พอได้ค่ะพี่อร

นู๋กาเพิ่งซื้อต้นฝาดแดง ตอนซื้อต้นไม่โตนัก แต่ตอนนี้กำลังงามเชียว ออกดอกให้ดูอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ พี่อรลองดูมั่งมั๊ยคะ?


โดย: สาวิกา วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:11:36:49 น.  

 
นู๋กา...จ๊ะจ๋า

ตอนกลางคืน อากาศชื้นทำให้มีอาการไอเพิ่มขึ้น
ลองหนุนหมอนให้ศีรษะสูงขึ้น...จิ
อาการไอจะลดลง

บ้านนี้ชุมนุมสาว(ไฟ)แรงสูง
ตัวร้อน/มือร้อน...กันท๊างน๊าน
คริ คริ คริ



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:13:31:27 น.  

 
นู๋กา...

สว. ชอบดอกไม้ไทยที่มีกลิ่นหอม
เมื่อวานแวะซื้อต้น ทิวาราตรี, มลุลี และ ดอกพุด มาปลูกเพิ่มเติม
เพื่อนบอกจะขุดหน่อดอก สะเรเต มาฝาก

เดิมแม่ สว. ชอบปลูก "ไม้ประ(แดก)" เช่นมะม่วง ขนุน มากกว่า "ไม้ประดับ"
อยู่ไปอยู่มา ต้นมะม่วงชักเยอะไป มีกาฝาก
มะม่วงและขนุนติดลูกเยอะ แต่อยู่สูงมาก
มิมีปัญญาตัดลงมาต้องปล่อยเน่าคาต้น

แม่ต้องเสียค่าจ้างตัดต้นมะม่วงทิ้ง ต้นละเกือบ 5 พันบาท
แม่เลยเปลี่ยนไปปลูก "ไม้ใบประดับ"แทน

สว.เริ่มเพาะ ต้นอัญชัน จากเมล็ดที่เพื่อนบ้านแบ่งให้ ตอนนี้เริ่มงอกเป็นต้นกล้าแล้ว
อิ...อิ...อิ...อิ... ภูมิใจจัง

สว.ตั้งใจทำเป็นซุ้มอัญชันกระดานลื่น
คือมีกระดานลื่นที่เคยซื้อไว้ให้หลาน ๆ เล่นตอนนี้หลาน ๆโตเป็นหนุ่ม-สาว กันหมดแล้ว
เลยจะปลูกต้นอัญชันและให้เลื้อยขึ้นเป็นซุ้ม
ถ้าได้ดอกเยอะ ๆ ก็จะทำ "เทมปุระดอกอัญชัน"

มีกล้วยไม้ที่หลานชายซื้อปล่อยทิ้งไว้จนใบกล้องแกล้ง
สว.รดน้ำต้นไม้ ฉีดปุ๋ยชีวภาพ ได้ 1 เดือน
ตอนนี้กล้วยไม้ออกดอกตูมน่ารักจัง

เวลาปลูกต้นไม้ สว...ดูกายดูใจไปด้วย
เวลาถอนวัชพืช...เออ...จิตเรามีปฏิฆะ.แฮ่
เวลาฉีดปุ๋ย....เออ...จิตเรามีปฏิฆะ อีก
เวลานอน...หลับสบาย...เพราะเหนื่อยจัง
คริ..คริ..คริ..คริ



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:15:42:05 น.  

 
อิอิ ... วันนี้บ้านนี้มีนู๋กา คุยก๊ะ พี่อรอยู่ 2 คนเองอะมั้งเนอะ ...และวันนี้พี่อรดูอารมณ์ดี มีความสุขจัง ...ถ้าบ้านนู๋กาอยู่ใกล้ ๆ บ้านพี่อรนะ นู๋กาจะไปช่วยพี่อรปลูกต้นไม้ทุกวันหยุดที่ว่างเชียวแระ..จะได้กิน "เทมปุระดอกอัญชัญ" ของพีอรด้วย
(หน้าตาจริงจัง ไม่พูดเล่น)

จริง ๆ แล้วนู๋กาชอบทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ แลไม้ประ (แดก) ได้อ่ะค่ะ แต่ที่บ้านไม่มีที่ปลูก ได้แต่ปลูกลงกระถาง

นู๋กาชอบไม้หอม ดอกราตรี ดอกโมก เคยซื้อมาก็ปลูกจนตายคามือไปแล้วอ่ะ
(หน้าจ๋อย + เขิน)


โดย: สาวิกา IP: 58.10.152.24 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:17:32:15 น.  

 

*** อ้างอิง ความเห็นที่ 4 นู๋เวลา
อุอุ... พี่อรขา..
นู๋เวลาช่วยมะได้เรยยยอ่ะค่ะ เรื่องนี้ ..
ตะบองเพชร ยังตายเลยค่า ...****

คิก..คิก.. คิก.. คิก..

เหมียลพี่....เมื่อตะก่อน


นู๋กา....
เทมปุระอัญชัน.....คงต้องรอนานหน่อย
วันนี้แม่สว.จ้างคน.....มาตัดหญ้าและวัชพืช
เขาเลยแถมตัดต้น อัญชัน สูงประมาณ 1 ฟุต ของสว.ไปด้วย
อะไร อะไร ก็ไม่เที่ยง
เมื่อเช้ายังรดน้ำอยู่เลย.....
มิเป็นไร....เพาะใหม่...เพาะใหม่



โดย: โอรัช IP: 125.24.126.215 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:19:19:47 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน เอาบุญมาฝากครับ

รักษาสุขภาพกันทุกท่านนะครับ

ตอนเด็กๆปลูกต้นไม้บ่อยขึ้นง่ายครับ โตขึ้นพึ่งซื้อต้นทับทิมมาปลูกเผื่อจะมีลูกหลานเยอะๆครับ(แหะๆ)และต้นมะลิอีก2ต้นด้วย(เขามาขายโดยบังอิญผ่านมา3ต้น50บาท)
ปรากฏว่าน้องสาวแย่งอาสาไปปลูกให้ สบายเลย ที่บ้านชอบปลูกต้นไม้กันผมแทบไม่ได้ปลูกเลย คุณoreo1234 แวะมารับพระเครื่องและปัจจัยไปทำบุญ เห็นหน่อต้นโพธิ์ ขึ้นหน้าประตูบ้านบนยางมะตอยงงมาก มาถ่ายรูปเก็บไว้ใหญ่เลย แหะๆ บ้านผมเองคร้าบบ

***ที่ไม่ค่อยคุยน่ะ..

เพราะ ช่วงที่ผ่านมา..

โดนดุน่ะค่ะ..และอ่นๆ เล็กน้อย..เลยเศร้า..
***โดย: times ***
เป็นกำลังใจให้ครับ แฮปปี้ๆ
ปล.อ่นๆ แปลว่าอะไรครับเปิ้ล อิอิ (ก่น?)
:-P


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:20:46:55 น.  

 
>>>นู๋กา....
เทมปุระอัญชัน.....คงต้องรอนานหน่อย
วันนี้แม่สว.จ้างคน.....มาตัดหญ้าและวัชพืช
เขาเลยแถมตัดต้น อัญชัน สูงประมาณ 1 ฟุต ของสว.ไปด้วย
อะไร อะไร ก็ไม่เที่ยง
เมื่อเช้ายังรดน้ำอยู่เลย.....
มิเป็นไร....เพาะใหม่...เพาะใหม่
โดย: โอรัช<<<


อิอิ ...ขออนุญาตขำพี่อรอ่ะ
รู้เห็น เป็นธรรม ได้เสมอเลยนะคะ

เอาค่ะ นู๋กาเป็นกำลังใจช่วย
เพาะใหม่ ๆๆๆๆ
ม่ายเหนื่อย ๆๆๆ แฮ่ก ๆๆๆ




ต้องนี่ค่ะ ... ดอกไม้ในดวงใจนู๋กา


Photobucket>


มะลิผลิแย้มบาน หอมหวานเย็นชื่นจิต
น้อมนำสู่มวลมิตร ผู้สนิททั้งใกล้ไกล
มะลิซ้อนไม่ซ่อนเงื่อน มอบผองเพื่อนผู้ห่างไกล
มอบแทนคำขอบใจ ทั้งไออุ่นกรุ่นกายเอย

โดย oio









โดย: สาวิกา วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:21:27:03 น.  

 
ซาหวัดดีค่ะ ทุก ๆ ท่าน _/|\\_

มัวแต่เข้าไปดูห้องแชทค่ะ พี่อร
เลยไม่ค่อยจะเข้ามาเขียนในนี้
ยายลิงไม่ค่อยจะปลูกอะไรเลย เพราะกลัวพวกหนอน ไส้เดือนค่ะ

ชอบปลูกแต่ ต้นรัก อะค่ะ อิอิ
แต่ คิดๆอยู่ว่าจะจ้างใครมาตัดดีหนอ
ต้นรัก.. นี่ยังกะ หญ้าคาแหนะค่ะ
หากไม่ถอนรากถอนโคน ก็ขึ้นมาอยู่นั่นแหละ รกรุงรังค่า


สังเกตุดูตัวเองว่า ติดแชทเหมือนกันค่ะ
น่ากลัวทีเดียว เหมือนกับติดละคร
ไม่น่าเลย ๆ ๆ
แต่ ก็ได้เห็นโลก..อีกมุมนึง เห็นคนอีกกลุ่มนึงค่ะ
ทำให้รู้สึกว่า ในโลกนี้..มีอาไรอีกมากมายที่เราไม่รู้ ไม่เห็นนะคะ

ที่เข้าไป ก็ไปดูเพื่อนๆในนี้ซะมากกว่าค่ะ
ยายลิงไม่ปรารถนา จะหาเพื่อนใหม่..และก็ไม่ได้เหงาค่ะ

เมื่อวาน ก็จิตตกนิ๊ดดดนึง ตอนที่เด็กที่ดูแลเวบนั้น..กล่าวถึงพี่ช.แรงค่ะ
แถม..คนที่เราเคยคิดเดาว่าเป็น พี่โอ ก็หนับหนุนด้วย
อีกทั้ง ญ.อีกคนนึง ก็เหมือนกัน

ตอนแรกเรารู้สึก เจ็บจิ๊ดดด ต่อมาก็กลายเป็น โกรธ..
แต่ก็ระงับได้ค่ะ เพราะ ยอมรับความจริง..

เด๋วมาต่อค่ะ นู๋กาหายดียังจ๊ะ


โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:9:15:14 น.  

 

วันนี้ ก็รู้สึก ปุดๆนิดหน่อยค่า (แยกเขี้ยวว)
กับคนที่บ้าน พอตกลงกันให้เราเข้าเน็ต เล่นแชทได้..ที่บ้าน
เค้าก็เลยเข้าไปบ้าง..ทั้งวัน เพื่อจะเช็กดูเราอีกแล้ว

คราวนี้ ก็เริ่มมาเตือนกลายๆอีก ว่า ไปเขียนทำไม..
ให้อ่านเฉยๆ แบบที่ ลธ.

คนเรานี่ อย่าได้เผลอเลยนะคะ
ให้คืบ จะเอา ศอก..จริงๆ
หากยอมอีก ก็จะขึ้นครอบ..อีกแย้วววค่า

ดีที่เราไม่บอกที่นี่..
ไม่งั้น คงจะเข้ามาตามอ่านอีกเป็นแน่เลยค่า

เห็น ตัวโทสะ..นางยักษ์ อิอิ


โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:9:32:30 น.  

 
น้องลิง....ถึงเป็นนางยักษ์
ก็คงเป็นนางยักษ์แสนสวย..... ค๊า....

เช้าวันนี้ สว. ตื่นมาขุด ว่านหางจรเข้
ไปให้....เพื่อน ใช้สระผม และ ทาผิวก่อนรับเคมีบำบัด ตามที่มีคนแนะนำไว้ค่ะ

แม่ สว. ปลูกว่านหางจรเข้ จนเต็มแปลง
สว. เพิ่งจะได้ประสบการณ์
กลิ่นของว่านหางจรเข้...แร๊งแรง...เหมือนกลิ่น.....เต่า
จำได้เคยมีคนบอกไว้ว่ากินว่านหางจรเข้สด ๆ แล้ว...กลิ่นตัวจะแรง...มั๊กมั่ก

มิรุ...ว่าเพื่อน เอาว่านสดๆ ไปสระผม และ ทาผิว จะมีกลิ่น..เต่า รึป่าว
คริ...คริ...คริ...คริ





โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:9:53:58 น.  

 

.. มาถึงวันที่เรา ต้อง ยอมรับสภาพความเป็นจริงค่ะ

ไม่สามารถจะ ปฎิเสธ หรือ ปกป้อง สิ่งที่ เป็นไป หรือ เกิดขึ้น ได้เลยค่ะ

เพราะ กรรมวิบาก ได้แสดงผล
ผล..ที่เห็น เกิดมาจาก เหตุ ที่คนเราสร้าง
เมื่อ เราไม่ได้สร้างเหตุ เราจึงไม่สมควรที่จะได้รับ..
ไม่ว่า จะเป็น เงินทอง ความมั่งคั่ง หรือ กรรม..ที่เราไม่ได้ก่อค่ะ

คงได้แค่ ดูๆไป เราคนโง่.. โง่ทางโลก แต่ฉลาด ทางธรรมค่ะ (ยิ้มมม)


โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:10:02:24 น.  

 

..พี่อรขา

โจ้..ในลานธรรม บอกว่า มียาสมุนไพรช่วยรักษา มะเร็งค่ะ
ยา..ของหมอเจน ไม่ทราบพี่อรรู้จักไหมคะ
โจ้บอกว่า ช่วยรักษา มะเร็งขั้น 3 ถึง 4 ได้ค่ะ รักษาได้มาเป็นร้อยคนแล้ว

ยายลิงส่งยาตัวนี้ ไปให้ อีหนู shasa ลองกิน..
เพราะ มันจะอยู่ได้แค่ 3 เดือนเอง
ยายลิงเลยต้องลองทุกวิถีทางค่ะ

คุณพ่อ-แม่ ชอบปลูกไม้ไทยที่มีกลิ่นหอมค่ะ
เช่น ประยงค์ โมกข์ จำปีสีนวล พุด ปีป..ฯลฯ
ยายลิง ใจร้อน..ชอบให้ตังแม่ซื้อต้นใหญ่ๆไปเลยค่ะ
เพราะ ชอบไม้ไทยหอมๆมากๆๆค่า


โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:10:10:44 น.  

 
ขอบคุณ...ค่ะ น้องลิง
พี่จะบอกเพื่อนค่ะ
ถ้าเขาสนใจ จะติดต่อคุณโจโจ้ ค่ะ
(ยิ้ม.. ยิ้ม.. ยิ้ม.. )

อิ.. อิ.. อิ.. อิ..
วันนี้มีสนทนาอยู่ 2 คน
คือ น้องลิง และ สว.

นู๋กา...หายไปไหน
นู๋เวลา.....
นู๋หน่อย.....
คุณย่าอำฯ.....
คุณมุ่งเต็มใจ .....
คุณนางเดินทัก .....




โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:11:34:19 น.  

 

สวัสดีค่ะ ...พี่อร พี่ลิง และทุก ๆ ท่าน

วันนี้นู๋กาค่อยยังชั่วแล้วค่ะพี่ลิง ได้หลับสนิทยาวรวดเดียวถึงเช้าเลย

เมื่อคืนรู้แกว กินยาขยายหลอดลมไว้ล่วงหน้า ไม่ไอ เลยทำให้หลับได้ ไม่งั้นคงไอค๊อก ไอแค๊กอีก

อยากจะไอ เลิฟ ยู ... แต่ก็ไม่มียูให้ไอเลิฟ เลยหลับดีก่า ...อิอิ

ช่วงนี้พี่อรอารมณ์ดี และดูมีความสุขจังเนอะ ดีค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วความสุขเราหาสามารถหากันได้ง่าย ๆ ความสุขอยู่รอบ ๆ ตัวเรานี้เองเนอะ ...แค่คิดดีก็มีความสุขแล้ว

ช่วงนี้ถึงนู๋กาจะป่วย แต่เป็นเพียงป่วยแค่กาย ใจไม่ป่วย แถมได้รับการเติมเต็มจนล้นฟู แต่ไม่เหลิงค่ะ เพราะสุข - ทุกข์มันเสมอกันอยู่แล้วแง่ของความเป็นไตรลักษณ์

นู๋กาเพิ่งได้เพื่อนที่แท้จริงกลับคืนมา รู้สึกดีใจ และมีความสุขจัง (คริ คริ เลียนแบบพี่อรหน่อยนะคร๊าส์)


โดย: สาวิกา วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:11:42:53 น.  

 
มาแล้วครับทุกท่าน

ขอให้สุขภาพแข็งแรงโดยดีงามกันทุกท่านครับ

***อยากจะไอ เลิฟ ยู ... แต่ก็ไม่มียูให้ไอเลิฟ ***สาวิกา***
สำหรับผมนะมียูที่คิดจะเลิฟครับ คุณสาวิกา แต่ไม่รู้ยูที่ว่าจะคิดยังไง จะคิดบวกกับผมให้มีความเพียรต่อไปบ้างหรือเปล่า
ที่เกรงวิตกนะครับ ก็คือว่าจะกลายเป็นคนพาลพาโล ตามคิดผิดพลาดไปรบกวนเวลาข้างเดียว(คือตัวผมเองรู้สึกว่าเธอนิ่งลูกเดียว) ถ้าเป็นยังงั้น ต้องรู้จักวาง เป็นสุภาพบุรุษที่ดีครับ มีใครเป็นที่ปรึกษาได้บ้างไหมครับว่าจะหยุด หรือเดินต่อดีครับ

นำมาบทความฝากครับ

ผลกรรมผู้หญิงแต่งกายไม่สำรวมเข้าวัด

--------------------------------------------------------------------------------

ผู้หญิงเข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวม


ผู้หญิงที่เข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวมอวดเนื้อหนังให้พระหวั่นไหวต่อไปจะได้รับ
ผลกรรมอย่างไร...?

ขอบเขตของคำถามที่ว่า ‘แต่งกายไม่สำรวม’ เข้าวัดนั้น อาจทำให้เพ่งโทษคับแคบ ต้องค่อยๆ
มองให้คลุมข้อเท็จจริงตามลำดับครับ

โดยความเป็นเพศหญิง มีธรรมชาติดึงดูดใจ หรือล่อตาอยู่ในตัวเองเดินๆไปถ้าเป็นที่สนใจได้ก็ถือว่ามีรูปสมบัติอันพึงมีสมเพศตนถ้าวันไหนแต่งองค์ทรงเครื่องได้ถึงขนาดชายหญิงมองเหลียวหลังกันทั่วทุกหัวระแหงก็จะยิ่งภาคภูมิเต็มอิ่มประมาณเดียวกับที่นักวิ่งเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรกทีเดียว



ฉะนั้นผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดีเกือบทุกคนจึงอดไม่ได้กับการอยากทดสอบเสน่ห์ของตนแล้ว
อะไรจะเป็นเครื่องทดสอบได้ดีไปกว่าผู้ประกาศตนว่าสละเรื่องทางเพศแล้วไม่สนใจเพศหญิงอีกแล้ว



สมัยนี้พระทั่วไปไม่ใช่เครื่องทดสอบที่น่าท้าทายอะไรนักเนื่องจากข่าวฉาวที่ประดังเข้าหูเข้าตาผ่านหน้าหนังสือพิมพ์แทบไม่เว้นแต่ละวันทำให้ผู้หญิงยุคใหม่มองพระไม่ต่างจากชายนุ่งกางเกงนอกวัดทั้งหลายหากทำให้สนใจได้ยังไม่ถือว่าแน่อะไรนัก เท่าที่ทราบจากคำให้การของสาวๆส่วนใหญ่จะรู้สึกสมเพชและนึกดูถูกพระที่ไม่สำรวมเพ่งเล็งตนด้วยสายตากรุ้มกริ่มตั้งแต่แรกเห็นยิ่งกว่าสมเพชและดูถูกผู้ชายทั่วไปมากเนื่องจากใส่เครื่องแบบที่ควรจะมีสง่าราศีเยี่ยงภิกษุผู้อิ่มแล้วแต่กลับทำตัวกระจอกไม่ต่างจากนักโทษที่หิวโซ

แต่หากกลับเป็นตรงข้ามถ้าเป็นพระชื่อดัง ที่มีคนร่ำลือว่าเป็นผู้สงบ เป็นผู้สำรวมการทำให้
ท่านสนใจได้ นับว่าน่าภาคภูมิใจเป็นพิเศษระดับความอยากให้สนใจก็ต่างๆกันไปตามพื้นความคิดความอ่านของผู้หญิงแต่ละคน



เท่าที่ได้ทราบจากปากของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งตั้งใจสละโลกและเข้าประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ เธอยอมรับว่ารู้สึกผิดและละอายคือพออยู่ๆในวัดไปแล้วอดไม่ได้เห็นชายที่เคร่งๆแล้วอยากลองเสียหน่อยว่าเขาจะทนเสน่ห์เธอไหวไหม

ในระดับของเธอ ก็จัดได้ว่ามีสติดีและยอมรับตามจริงมากพอที่จะเห็นแม้อาการตั้งใจเล็กๆน้อยๆของตน เช่นชม้ายตาหรือไม่มีอะไรเลยก็เดินด้วยความรู้สึกเป็นเป้าล่อความสนใจของผู้เคร่งในธรรมธรรมดาผู้หญิงที่เคยถูกจับจ้องมามากจะสำเหนียกรู้ได้ว่ากำลังมีผู้ชายสนใจตนอยู่หรือเปล่าและเป็นการแอบชำเลืองหรือเพ่งเล็งเขม็งเป็นความสนใจด้วยความชื่นชมหรือเจืออยู่ด้วยราคะและราคะนั้นถึงขั้นหื่นกระหายหมดรูปหรือว่าเป็นเพียงความวาบหวามแบบอ่อนๆ


หากทำได้ครั้งหนึ่งก็นึกยินดี หรือนึกภูมิใจว่าตนแน่ยิ่งพระที่ขึ้นชื่อว่าปลอดกิเลสเท่าไร ยิ่งอยากทำให้สนใจตนมากขึ้นเท่านั้นแต่หากปลูกฝังจิตสำนึกในทางละอายเอาไว้ก่อนก็จะรู้สึกผิดรุนแรงที่ทำเรื่องไม่งาม ไม่สมควร หรือบางคนยั่วให้สนใจสำเร็จเห็นพระทำตาหวานใส่ ก็พานเกลียดชัง พานสาปส่ง หมดความนับถือไปเลยไม่เหลือเกียรติให้ต้องเคารพกันอีก และไม่คิดหวนกลับไปทำบุญที่วัดนั้นตลอดชีวิตนี่นับเป็นความขัดแย้งในตัวเองที่น่าปวดหัว

ที่กล่าวมาคือหญิงผู้มีสำนึกในธรรมแล้วนะครับตั้งใจจะเดินบนเส้นทางสีขาวแน่นอนแล้วยังเจอเรื่องมิติมืดภายในตนเล่นงานให้ย่ำแย่เข้าได้ แล้วผู้หญิงธรรมดาโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับการรับรู้ข่าวคาวๆฉาวๆของพระล่ะ?

เท่าที่ทราบแนวโน้มของสาวรุ่นใหม่จะไม่มีความรู้สึกเกี่ยวกับเครื่องแบบที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับเขตวัดถ้าเพิ่งเข้าวัดใหม่ๆหรือนานๆเข้าวัดทีจะนึกไม่ถึงว่าเสื้อยืดและกางเกงรัดรูปที่‘แต่งกันเป็นปกติ’ นั้นอาจมีความยั่วตายวนใจ และรบกวนตบะของพระสงฆ์ได้ง่ายๆ

แต่จะมีสาวอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จงใจแต่งตัวหวือหวาขัดกับสถานที่ให้เป็นที่สนใจของคนอื่น ไม่ว่าจะพระเณรหรือฆราวาสด้วยกันเข้าหลักถ้าอยากเด่นต้องทำตัวให้ไม่มีใครเหมือน เขาหลิ่วตาเราอย่าหลิ่วตามเขาแต่งขาวเราต้องแต่งดำ ผู้หญิงอื่นปกปิดเราต้องเปิดโปง

เอาเฉพาะเจตนาอันหนักแน่นข้อนี้นะครับถ้าแต่งตัวโป๊เพื่อล่อตาล่อใจเพศตรงข้ามในวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งทำด้วยความภาคภูมิใจและไม่สำนึกผิดภายหลังหญิงนั้นได้ชื่อว่าเพาะเชื้อแห่งความเป็นธิดาพญามารไว้ในตนแล้ว

การทำบุญสร้างความเป็นธิดาพญามารมีหลายระดับถ้าแจกแจงละเอียดยิบคงเป็นปึก ในที่นี้ขอแยกเป็นคร่าวๆให้เห็นภาพง่ายสุดคือ

๑) เมื่อถึงเวลาทำบุญ ก็ทำด้วยน้ำจิตเลื่อมใสของที่นำมาถวายเป็นการจัดหาของตนหรือตั้งใจร่วมสวดหรือฟังเทศนาธรรมด้วยอาการสำรวม ก็เป็นบุญที่มีกำลังมากหากเสน่ห์ที่นำมาโปรยในวัดมีกำลังอ่อน แค่ในระดับล่อตาล่อใจไม่ถึงขั้นรู้สึกว่าถ้าสึกพระได้ถือว่าเจ๋ง อย่างนี้มีวิบากเป็นกระแสดึงดูดใจแต่เจือด้วยปัญหาร้อนใจในการคบเพื่อนต่างเพศ เพราะใครๆก็จ้องตาเป็นมันและมักเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ทางเพศเป็นหลักแต่กว่าจะกอบโกยประโยชน์จากเนื้อหนังไปได้เต็มอิ่ม กว่าจะรู้สึกจืดชืดก็เนิ่นนานแรมปี

เมื่อตายไป กำลังของบุญอาจเป็นแรงฉุดขึ้นสวรรค์ถ้าจิตไม่ผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะอยู่ในหมู่เทวดาที่เสวยบุญรื่นเริงเช้าค่ำตามปกติ แต่หากจิตผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัดก็จะไปอยู่ในหมู่เทวดาฝ่ายมาร มีใจขวางผู้ปรารถนาความหลุดพ้นเห็นใครประพฤติพรหมจรรย์เก่งๆก็อาจทุรนทุรายอยากลองของเช่นลองมาเข้าฝันแสดงภาพงามวิจิตรล่อใจเสียหน่อย ดูซิว่าจะเผลอหลุดฟอร์มไหมพร่ำละเมอเพ้อพกถึงนางในฝันได้ไหม

๒) เมื่อถึงเวลาทำบุญ ใจก็ยังวอกแวกคอยสังเกตว่ามีใครมองตนไหม เมื่อร่วมสวดมนต์กับคนอื่นก็ไม่ตั้งใจเมื่อฟังเทศนาธรรมก็ฟุ้งซ่านเรื่องแฟน อย่างนี้เป็นบุญที่มีกำลังอ่อนและเจืออยู่ด้วยราคะ หากเสน่ห์ที่นำมาโปรยในวัดมีกำลังกล้าแข็งถึงขั้นเห็นว่าถ้าสึกพระได้นับเป็นยอดหญิง อย่างนี้มีวิบากเป็นกระแสน่ารังเกียจไม่น่าเข้าใกล้ ไม่น่าจับต้อง ตัวไม่เหม็นแต่ก็เหมือนเหม็นอย่างไรบอกไม่ถูกผู้ชายเข้ามาด้วยความหน้ามืดสถานเดียวและมักเป็นประเภทที่เสพสมครั้งเดียวแล้วเบื่อทันทีอยากทิ้งขว้างเหมือนกระดาษชำระที่ใช้แล้วทันที แทบไม่มีแก่ใจอยากแตะต้องต่อเว้นแต่รอให้หน้ามืดอีกทีคราวหลัง

เมื่อตายไปกำลังของบาปมักรั้งลงต่ำถึงอบายภูมิ อาจไปเป็นเปรตจำพวกอสูรยิ่งถ้าจิตผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะอยู่ในเขตอสุรกายใจทรามชอบเข้าฝันพระหรือชายดีๆ แสดงเป็นแต่ภาพลามกจกเปรต ล่อให้คิดถึงกามารมณ์และมักเป็นกามารมณ์ที่ผิด หรือสถานเบาถ้ามีวาสนาได้กลับมาเป็นมนุษย์ก็อาจมีความต้องการทางเพศสูง อย่างที่เรียกกัน (แบบผิดความหมายเดิม)ว่าเป็นฮิสทีเรีย อยากมีอะไรกับผู้ชายไม่เลือกหน้า เป็นต้น

สิ่งที่ค่อนข้างแน่นอนคือถ้าผู้หญิงเข้าวัดโดยมีใจเจืออยู่ด้วยเรื่องทางเพศหรือเรื่องเกี่ยวกับการดึงดูดใจชาย เกิดใหม่มักจะเป็นหญิงอีกและห่วงเรื่องความดึงดูดใจของตนเป็นที่หนึ่งจะกระวนกระวายมากถ้ารู้สึกว่าตนเองขาดความดึงดูดใจ ไม่น่าชมได้เงินเดือนมามักถมลงไปกับเรื่องความสวยความงามเป็นหลัก

ทางที่ดีที่สุด ถ้าเริ่มเข้าวัดด้วยใจที่สะอาด ไม่มีเจตนาให้พระมาเพ่งพิศตนจะปลอดภัยที่สุดครับ การแต่งกายปกปิดมิดชิดก็เป็นการสะท้อนถึงเจตนาอันดีผมทราบว่าสุภาพสตรีหลายท่านมี‘ชุดปกติ’ รัดรูป ตอนเข้าวัดยากจะหา ‘ชุดปกปิด’ ได้เจอ อันนี้ขอแนะนำว่าหากทราบแน่ว่าต้องตามที่บ้านไปเข้าวัดประจำ ก็ควรหาซื้อ ‘ชุดพิเศษ’ มาเพื่อแสดงเจตนารมณ์อันดีในการเข้าวัดโดยเฉพาะครับ

ดังตฤณ
//www.watthummuangna.com/board




โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:13:26:20 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน
เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งที่มีท่านที่กังวลกันเยอะครับ รู้สึกว่าที่นี่มีการจัดการและรับรองที่ดีครับ

โดย แนะนำวัดคำประมงรักษาโรคมะเร็ง


เรือนธรรมแนะนำอโรคยาศาล สถานอภิบาลพักฝื้นผู้ป่วยด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ อยู่ที่วัดคำประมง เลขที่ 20 หมู่ 4 บ้านคำประมงตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม สกลนคร 47130 หลวงพ่อเจ้าอาวาสคือ พระอาจารย์ปพนพัชร์ จิรธัมโม ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยการใช้สมาธิภาวนาร่วมกับยาสมุนไพร รักษาฟรีนะคะ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการรักษาได้มาจากผู้มีจิตศรัทธาบริจาค ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
//www.khampramong.com
//www.khampramong.com
e-mail : ppp@khampramong.com
โทร. 042 779 276 , 081 601 6960 , 081 322 7107

ธรรมะสวัสดีครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:13:34:45 น.  

 
ผมเองไม่ได้ปลูกต้นไม้มานานแล้วครับ
เวลาจะปลูก
ก็ง่ายๆครับ เตรียมต้นอ่อนมา พรวนดินในตำแหน่งที่จะปลูกให้ดี โรยปุ๋ยในหลุมที่พรวนเตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่มพอประมาณตามธรรมชาติของต้นไม้แต่ละชนิด แล้วกลบดินที่พรวนไว้ข้างนอก ให้แน่นพอสมควร อ้อก่อนกลบดินถ้าต้นไม้สูงหรือต้องการเครื่องป้องกันให้ปักไม้ประคองต้นอ่อนด้วย

ได้มีโอกาสร่วมปลูกต้นโพธิ์เมื่อประมาณ2-3เดือนที่แล้วครับที่วัดแถวบุรีรัมย์ ตอนไปเยี่ยมชมเขาพระวิหารมา (กลับมาจากเขาพระวิหารและปราสาทเขาพนมรุ้ง แล้วทั้งคู่ก็มีเรื่องเลยครับ บังเอิญจริงๆ )

ธรรมะสวัสดีครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:13:51:50 น.  

 


โดย: สาวิกา วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:14:08:18 น.  

 
















โดย: สาวิกา วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:14:13:21 น.  

 















โดย: สาวิกา วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:14:13:39 น.  

 










โดย: สาวิกา วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:14:15:14 น.  

 
test test


โดย: test IP: 124.120.209.169 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:14:42:38 น.  

 
แป่ะ..แป่ะ..แป่ะ..แป่ะ..แป่ะ

นู๋กา...ได้ยินเสียงปรบมือมั้ยคะ
ชีวิตแมวหนุ่ม....สุดท้ายแฮปปี้เอ็นดิ้ง แบบหนังไทยเปี๊ยบเลย.....คริ.. คริ.. คริ...

เอาอีก..เอาอีก..เอาอีก
เล่าเรื่องน้องหมาบ้าง.....จิ








โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:15:56:17 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน

มีขำขันมาเล่าบ้างครับ

Subject: FW: Fw: Difference between wife & girlfriend

Wife is like TV, girlfriend is like Handphone (HP)

At home watch TV, go out bring HP.

No money, sell TV. Got money change HP.

Sometimes enjoy TV, but most of the time play with HP.

TV free for life but HP, if you don't pay the services will be terminated

TV is big, bulky and most of the time old, but handphone is cute, slim,
curvy and very portable at any time.

Operational cost for TV is often acceptable but for HP is high and often demanding,

Most Important, TV got remote.. HP don't have..

Last but not least........

TV do not have virus, but h/p yes..........have VIRUS
..............so better choose TV.

สวัสดีครับทุกท่าน(3ยิ้ม)


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:17:20:09 น.  

 
เอาใจช่วยท่านที่มีกังวลโรคมะเร็งครับ
****************************
//board.palungjit.com/showthread.php?t=135209

พลังศักดิ์สิทธิ์.!!! "หลวงพ่อล้มลุก" บวกพลังสมาธิ..ช่วยหายจากมะเร็งระยะ๔

----------------------------------------------
ล้มลุก....เป็นนามขององค์พระประธานใน

พระอุโบสถสีชมพู วัดเพลง ถนนรัตนาธิ

เบศร์ ตำบลไทรม้า อำเภอเมือง นนทบุรี


....ที่ ครูบาศรีนวล ธัมมาวุโธ เจ้าอาวาสวัด

เพลง สร้างพระอุโบสถสีชมพูให้เป็นหนึ่งเดียว เนื่องจาก มีความศรัทธาต่อองค์

สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเป็นอย่างสูง...


ด้วยเมื่อ ครั้งอดีตมีนิมิตจูงใจธุดงค์มา ณ

พื้นที่แห่งนี้ เพื่อพัฒนาจากสภาพเสื่อม

โทรมรกชัฏให้เข้าสู่ความรุ่งเรือง จนกระทั่ง

เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างในปัจจุบัน เมื่อสร้าง

พระอุโบสถจึงได้นำสีประจำวัน พระราช

สมภพของพระองค์ท่านมาเป็นสัญลักษณ์

และ....จากพลังแห่งพุทธคุณทำให้เกิด

ความศักดิ์สิทธิ์...ผู้คนที่ประสบภัย ในวิถี

ชีวิตอับเฉา ความล้มเหลวต่างๆ ธุรกิจล้ม

ละลาย หากได้มาตั้งจิตอธิษฐานสวดมนต์

ขอพรต่อพระประธานองค์นี้ (แต่ต้องทำดี

และขยันหมั่นเพียรในอาชีพด้วย) แล้ว...

....ภาวะที่ซวนเซจะทำให้ความเป็นอยู่ของ

ชีวิต กลับฟื้นคืนมาสู่สภาพปกติหรือดีขึ้น...

ชาวบ้านจึงได้ขนานนามว่า หลวงพ่อล้มลุก


ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อล้มลุกมีพลัง

จริงหรือ ไม่มีใครที่จะเอามาตรหรือมิเตอร์

มาวัดได้ แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็น

เครื่องชี้บอก...

...เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แพทย์ตรวจพบอาการป่วย

ซึ่งเกิดกับ ครูบาศรีนวล ว่าเป็น โรคตายทั้ง

เป็น คือ มะเร็ง ในระยะที่ 4 ซึ่งมีอาการผอม

โซแบบว่า ชีวิตเริ่มนับถอยหลัง เนื่องจาก

โรคนี้ไม่มีวันที่รักษาให้หายได้.....ถึงขั้นที่

ศิษยานุศิษย์ต้องทำใจ ซื้อหีบศพมาตั้งรอ


ก่อนที่จะถึงวาระนั้น...ครูบาศรีนวลจึงได้เข้า

ไปนมัสการองค์พระประธาน ในพระอุโบสถ

แล้วก็เกิดปัญญาอารมณ์ว่า....ชาวบ้านได้

ขนานนามว่า “ล้มลุก” ในคาบเวลานี้ชีวิตเรา

กำลังจะจมน้ำ หากมีพลังเมตตาบารมีขอให้

ช่วยฉุดขึ้นจากห้วงนี้เถิด


ตามจิตอธิษฐานจากนั้น...จึงได้ถือเป็นกิจ

นมัสการ สวดมนต์ ปฏิบัติสมาธิต่อหน้า

หลวงพ่อล้มลุก (แต่ก็ยังไปพบแพทย์ตาม

นัด)...ผลปรากฏว่ามาในระยะหลัง เซลล์

มะเร็งที่มีทีท่าจะลุกลามฝ่อลง อาการป่วย

ทั้งทางจิตและทางกายค่อยๆเป็นปกติ....

เหล่าศิษยานุศิษย์จึงเก็บหีบศพที่ตั้งรอไว้

เข้ากรุไป

ธรรมะสวัสดีครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 24 มิถุนายน 2551 เวลา:19:51:06 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน




เคล็ด(ไม่)ลับ สำหรับคุณแม่บ้าน

วิธีการทำให้เสื้อไหมพรมที่เผลอเอาไปอบแห้งจนหดเหลือตัวนิดเดียว...ให้กลับ
สภาพมาเป็นอย่างเดิม

1...สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องใช้ในเคล็ดลับวิธีนี้นั้นก็คือ...ต้องใช้น้ำเปล่าที่ผสมด้วยครีมหรือน้ำยานวดผม
2...ละลายครีมหรือน้ำยานวดผมลงไปในน้ำประมาณ 15 กรัม แล้วแช่เสื้อไหมพรมลงไปประมาณ 30 นาที
3...เมื่อครบ 30 นาทีแล้วยกขึ้นบิดให้หมาด ๆ หรือไม่ก็นำไปปั่นแห้งในเครื่องปั่นก็ได้ กะเวลาประมาณ 1 นาที จากนั้นก็นำไปผึ่งตากจับขยับรูปร่างอย่าให้ปิดเบี้ยวมากเกินไป

....แค่นี้เองเสื้อไหมพรมที่เผลอไปอบแห้งในเครื่องอบตัวนั้น ก็จะกลับยืดขึ้นมาหรือยืด
กลับมาคืนสภาพเดิมให้กับเราได้ใช้ใหม่อีกครั้งแล้ว

เป็นไงบ้างเคล็ดลับยอดเยี่ยมวิธีนี้…ต้องขอยกหัวแม่มือให้กับคนที่คิดค้นมาให้นะ…เพราะยอดเยี่ยมมากเลยสำหรับเรา ๆ ท่าน ๆ โดยเฉพาะท่าน ๆ ที่อยู่ในต่างประเทศด้วยแล้ว ด้วยในหน้าหนาวแดดไม่ค่อยมี ก็เลยจำเป็นที่จะต้องแบกเอาไปอบในเครื่องอบ…เพราะยังแถมประหยัดไฟในบ้านให้ได้ด้วย และในตอนนั้นก็มักที่จะชอบคิดเข้าข้างตัวเองนิดหน่อยบ้างแหละว่า ของเราคงไม่หด ไม่หดสิ หรือไม่ก็หดนิดหน่อยก็คงจะใส่ได้กำลังดีมั้ง…อะไรทำนองนั้นนะ

ข้อที่ควรระวังนั้นก็มีอยู่ที่ว่า.......

เคล็ดลับวิธีนี้ใช้ได้ดีและได้ผลเฉพาะกับเสื้อผ้ายืดที่ทำมาจากไหมพรมที่ทำมาจากขนสัตว์ 100 เปอร์เซ็นอย่างเดียว ที่ทำมาจากไยสังเคราะห์นั้นใช้ไม่ได้ผล



โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.208.91 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:8:22:35 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน



20 วิธีช่วยโลก

เคยเป็นกันมั้ย ที่ตอนกลางวันร้อนตับแล่บ แต่พอช่วงเย็นมาฝนเทกระหน่ำซัมเมอร์เซลซะอย่างนั้น นี่ล่ะหนาที่เค้าว่า ธรรมชาติเอาคืน งั้นเรามาช่วยกันรักษาโลกดีกว่าเน๊อะ ด้วยวิธีง่าย ๆ แค่ 20 ข้อเอง

1. ช่วยกันประหยัดพลังงานทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้า หรือพลังงานเชื้อเพลิง

2. ยกเลิกการใช้สารเคมีอันตราย เช่น สาร CFC

3. ช่วยกันรีไซเคิลแก้วและกระป๋องอลูมีเนียม

4. ช่วยกันปลูกต้นไม้ อย่างน้อย ๆ คนละ 1ต้น

5. เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขด Compact Fluorescent Lightbulb (CFL)

6. ช่วยกันลดปริมาณขยะอย่างน้อยร้อยละ 10

7. ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศอยู่ที่ 24 – 25 องศา

8. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เมื่อเลิกใช้งาน

9. หมั่นตรวจเช็คลมยางเป็นประจำ

10. วางแผนการเดินทางก่อนออกรถและพยายามขับไม่เกิน 80 กม.ต่อชั่วโมง

11. เลือกใช้บริการโรงแรมที่มีสัญลักษณ์สิ่งแวดล้อม

12. หันมาใช้พลังงานชีวภาพให้มากขึ้น

13. หมั่นทำความสะอาดตู้เย็นทุกสัปดาห์ ไม่นำของร้อนเข้าตู้เย็น ลดการใช้
พลาสติกคลุมอาหาร หมั่นละลายน้ำแข็งที่เกาะตู้เย็น

14. หันมาใช้พลังงานทางเลือกภายในอาคารให้มากขึ้น

15. นำเอาหลัก 3Rs (Reduce-Reuse-Recycle) มาใช้ทั้งที่บ้านและสำนักงาน

16. ติดตั้งเครื่องตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติ

17. ทานสเต็คและแฮมเบอร์เกอร์ให้น้อยลง

18. ช่วยกันคัดแยกขยะ โดยคัดพวกเศษผัก เศษอาหาร ออกจากขยะที่ยังนำกลับไปใช้ได้ออกจากกัน

19. เลือกซื้อสินค้าที่มีหีบห่อน้อย ๆ

20. ลดการใช้ถุงพลาสติก หันมาใช้ถุงผ้าแทน

แค่ช่วยกันคนละไม้คนละมือโลกของเราก็น่าอยู่ขึ้นมากแล้ว





โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.208.91 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:8:26:42 น.  

 
"ทุกข์.....โดยไม่ทุกข์"

เช้าวันนี้ สว. นำรถยนตร์ไปเข้าอู่เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
ออกจากอู่ สว.เรียกแท๊กซี่ให้ไปส่งที่ "สาสุข"
มองผ่าน ๆ สว. นึกว่าคนขับรถเป็นชาย
จนเมื่อเธอสอบถามเส้นทางการเดินทาง
สว. จึงรู้ว่าเป็น....โชเฟอร์หญิง

การสนทนาของเราเริ่มขึ้น.....
เธอเกิดที่นราธิวาส หลังแม่ตายเพราะมะเร็งจึงมาแสวงโชคในกรุงเทพ เพราะอยากรวย
เปลี่ยนอาชีพหลายครั้ง
ชีวิตมาสะดุดเพราะพิษต้มยำกุ้ง
มาสะดุดอีกครั้ง....เพราะเพื่อนที่ทำธุรกิจร่วมกันจากไปด้วย....มะเร็ง

ตลอดการเดินทาง ในช่วงเวลาที่การจราจรแน่นขนัด
โชเฟอร์คนนี้สนทนากับ สว. ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ........
แม้ในขณะที่เธอเล่าให้ฟังถึงวันที่ต้องวิ่งรถหาผู้โดยสารแทบไม่นอนตลอดคืน....
เพื่อหาเงินให้พอจ่ายค่าเช่ารถ.....

จนเมื่อ สว. จะลงจากรถ ....
ได้บอกเธอว่า..... ดีจังวันนี้ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับโชเฟอร์
เธอหันมาบอก สว. ว่า.... ดีใจเช่นกันที่ได้สนทนากับ สว..

เช้าวันนี้...สว. ได้สัมผัส สิ่งดีๆ จากโชเฟอร์คนนั้น
เธอทำให้ สว. เข้าใจคำว่า
"ทุกข์....โดยไม่ทุกข์"

เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดี...วันหนึ่ง



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:8:52:43 น.  

 


โดย: สาวิกา วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:9:19:42 น.  

 
_/|\\_

เหนื่อยไหม..เดินทางไกลมาหลายภพ
ควรเร่งจบอย่ารอช้าหาฝั่งฝัน
อย่าประมาทเพียรศึกษาให้เท่าทัน
รักยาวบั่น..รักสั้นต่อ..ขอใคร่ครวญ.

_/|\\_


โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:10:04:27 น.  

 
เชิญฟังธรรมบรรยาย โดย
พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล
วัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี

วันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑
เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น.

ณ ศาลาปันมี
ในโครงการบานาน่า แฟมิลี่ปาร์ก บ้านอารีย์
ซ.อารีย์ ๑ ถนนพหลโยธิน

ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ (เดินเข้าซอยข้างปั๊มเอสโซ่ได้เลยค่ะ)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ๐๒-๒๗๙-๗๘๓๘


ปล. ช่วงหลังนู๋อบงานยุ่งม้ากมากค่ะ เลยไม่ค่อยได้มีเวลานะคะ คิดถึงทุกๆคนค่ะ รักษาสุขภาพกันดีๆนะคะ เหมือนฝนใกล้จะตกอีกแล้วค่ะ

^0^

^_^


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.114 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:10:30:15 น.  

 
คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี
1 ปี เท่ากับ 365 วัน
แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที
ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
อุแม่เจ้า........แสดงว่า
เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง
คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา
แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน
เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก...
เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย
และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ
แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข
ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู
ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม
สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน
น้อยเกินไปจริง ๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ
ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี
แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ
อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!
อุแม่เจ้าเทค 2
คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง
สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!!
คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู
กางปฏิทินออกกว้าง ๆ
เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้
นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว
นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่
เราไม่ค่อยได้มองมัน
เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี
แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน
และผ่านคืนวันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น ......
คำนวณเองบ้างซิว้อยย.....
เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา (ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่
ผลลัพธ์ที่ได้
เราจะทำยังไงกับมันดี ......
แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ
นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวันๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า 'เงินเดือน '
บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ
ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน
เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่า กูจะเป็นอะไรดี
บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า
และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม 'ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด
ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย
บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล
เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี
อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ
ลองคิดแบบนี้บ้าง
ใช่แล้ว .....เราจะเกิดความเสียดาย
เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ
ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย
แต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย .... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ...
มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว
ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตามความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง
รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ....เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ ) ตายแล้ว
ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา
นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล

....... คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน
ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด
ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น
แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน.........
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......
แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน
ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก
ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ
อ้าว.... รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก
รีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน .... เสียดายแย่


โดย น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.114 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:10:36:05 น.  

 
ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก : วอร์เรน บัพเฟตต์ ( Warren Buffet)


มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์)
ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31 , 000 ล้านดอลล่าร์

ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา :

1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์

3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลัง
แต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือ
กำแพงล้อม

4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน

5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัว
ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัท ในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึง
ซีอีโอ ของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัด
ประชุม หรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ

7) เข าให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1

8 ) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดู
โทรทัศน์

9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่า
ตน เองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อ
บิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลาย
เป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์

10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า : จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัว
คุณเอง

ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง

มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม 1 มื้อ เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน
ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็
ต้องตาย เหมือนกัน

.... มองทะลุวัตถุนิยม และเ ห็นความหมายที่แท้จริงของชีวิต


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.114 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:10:37:44 น.  

 
คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี
1 ปี เท่ากับ 365 วัน
แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที
ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
อุแม่เจ้า........แสดงว่า
เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง
คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา
แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน
เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก...
เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย
และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ
แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข
ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู
ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม
สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน
น้อยเกินไปจริง ๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ
ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี
แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ
อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!
อุแม่เจ้าเทค 2
คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง
สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!!
คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู
กางปฏิทินออกกว้าง ๆ
เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้
นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว
นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่
เราไม่ค่อยได้มองมัน
เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี
แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน
และผ่านคืนวันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น ......
คำนวณเองบ้างซิว้อยย.....
เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา (ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่
ผลลัพธ์ที่ได้
เราจะทำยังไงกับมันดี ......
แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ
นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวันๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า 'เงินเดือน '
บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ
ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน
เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่า กูจะเป็นอะไรดี
บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า
และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม 'ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด
ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย
บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล
เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี
อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ
ลองคิดแบบนี้บ้าง
ใช่แล้ว .....เราจะเกิดความเสียดาย
เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ
ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย
แต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย .... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ...
มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว
ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตามความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง
รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ....เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ ) ตายแล้ว
ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา
นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล

....... คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน
ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด
ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น
แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน.........
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......
แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน
ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก
ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ
อ้าว.... รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก
รีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน .... เสียดายแย่


โดย น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา






โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.114 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:10:39:24 น.  

 
ผีถูกรถชนตาย ๓๓ ปี
เล่าเรื่อง : คุณเชาวลิต - คุณอรวิภา สาครวิมล จ.สมุทรสาคร
รวบรวมโดย : เมตตาเจโตวิมุติ

เรื่องที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เมื่อประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 ที่จังหวัดสมุทรสาคร

เรื่องมีอยู่ว่า มีวันหนึ่ง น้องชายซึ่งเป็นลูกของน้าสาวของข้าพเจ้า โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ บอกว่าภรรยาเขามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ไปหาหมอรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หมอได้ตรวจอย่างละเอียดอ๊กซ์เรย์ แล้วก็หาสาเหตุไม่พบ ได้แต่ฉีดยาบรรเทาปวดเท่านั้น เป็นอย่างนี้มาร่วมเดือน เขาจึงอยากจะย้ายโรงพยาบาลแต่ไม่มีเงิน จึงโทรมาขอความช่วยเหลือ ข้าพเจ้ารับปากว่าจะช่วยเหลือเรื่องเงินในการรักษา

แต่พอดีข้าพเจ้าได้รู้จักและติดตามอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง มาเป็นเวลา 5-6 ปีแล้ว ท่านเป็นฆราวาส ที่รักษาศีลไหว้พระสวดมนต์อย่างเคร่งครัด สามารถรักษาคนเจ็บป่วยที่ไปรักษาหมอหลวงแล้วไม่หาย ถ้าผู้นั้นหมดกรรมได้รักษากับท่าน ผู้นั้นก็จะหายจากอาการเจ็บปวด หรือ
ทุเลาลงได้แล้วแต่บุญ – กรรม จึงแนะนำให้ภรรยาของน้องชายมาลองรักษากับอาจารย์ดูก่อน ถ้าไม่หายจริงๆ ค่อยย้ายโรงพยาบาล

เมื่อมาพบอาจารย์ ภรรยาของเขาก็ได้แต่ร้องไห้ ตัวสั่น เมื่อเห็นดังนั้น ข้าพเจ้าก็คิดว่าในร่างกายของเขาคงไม่ได้เจ็บปวดธรรมดา ด้วยความสงสารและอยากช่วยเหลือ ข้าพเจ้าจึงถามเขาว่าอยากให้เราช่วยก็ขอให้สื่อสารออกมาให้รู้ ตอนหลังเขาก็ร้องไห้อย่างน่าเวทนา เหมือนคนกำลังทุกข์ทรมาน

ข้าพเจ้าก็เอามือลูบหลังเขาด้วยความสงสาร บอกว่าจะช่วยเหลือเขาทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ยอมพูดกับใคร เพราะเขากลัวคนมีวิชาจะดึงจิตเขาไปเป็นบริวาร เหมือนเขารู้ว่าเราจริงใจเขาจึงยอมบอก ตอนแรกคิดว่าเขาพูดไม่ได้จึงให้เขาเขียนใส่กระดาษทุวันนี้ยังเก็บไว้ เขาเขียนชื่อ นามสกุล บ้านเลขที่อย่างละเอียด ร้องไห้บอกว่าอยากกลับบ้านไปหาพี่อ แม่ พี่ น้อง เขาค่อยๆ เล่าหลายครั้งกว่าจะรวบรวมเรื่องราวให้ครบ เพราะเวลาเขามามีอาการเหมือนคนทุกข์ทรมาน รวมทั้งจะทำให้ภรรยาของน้องชายปวดท้องมากทุกครั้งที่เขามา เราจึงถามเขา เก็บข้อมูลทีละเล็กละน้อย

สรุปได้ว่า เขาเป็นคนจังหวัดน่าน มาทำงานเป็นช่างไม้ สร้างวัดเกตุมวดี เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๕ โดยที่ทางบ้านไม่ทราบ ตอนนั้นเค้าอายุ ๑๗ ปี พอมา พ.ศ.๒๕๑๙ เขาโดนรถชนตายขณะยืนซื้อของอยู่ข้างทางหน้าวัดบางปิ้ง เขาเช่าบ้านอยู่แถวนั้น

เขาเล่าว่า ตอนนั้นมืดแล้ว รถกะบะพุ่งชนเขาอย่างแรง โดนทับที่ท้องกลางลำตัว แหลกละเอียดตายคาที่ จึงเป็นเหตุให้ภรรยาของน้องชายปวดท้อง เวลาเดินต้องเอามือกุมท้องเหมือนคนไส้จะไหลออกมาอย่างนั้น ทางบ้านก็ไม่ทราบว่าเขาตายแล้ว เพราะเขามาทำงานกับเพื่อน ๒ คนแต่แยกกันอยู่คนละที่ นั้นหมายถึงเขาตายไปแล้ว ๓๓ ปีถ้ายังมีชีวิตอยู่ตอนนี้เขาก็อายุประมาณ ๕๐ ปี และเขายังไม่หมดอายุขัย ที่สำคัญเขาบอกว่าตอนมีชีวิตอยู่ไม่ค่อยได้ทำบุญทำทานเอาไว้ จึงยังไม่ไปไหน เขาจึงทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด จากการโดนรถทับ วนเวียนอยู่จนมาอาศัยอยู่ที่สะพานท่าจีนใกล้กับวัดกลางอ่างแก้ว ซึ่งภรรยาของน้องชายต้องผ่านไปมาทุกวัน

เขายังบอกอีกว่า เหตุที่อยากมาเจอข้าพเจ้ากับสามี เพราะเขาเคยได้รับอานิสงส์ผลบุญจากการ ' สวดมนต์เมตตาใหญ่ แบบพิสดาร ' แล้วแผ่เมตตาของข้าพเจ้ากับสามีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเล่าให้ฟังอย่างน่าสงสารว่า เวลามีคนแผ่เมตตาส่งบุญมาให้ พวกเขาจะต้องแย่งกัน เขาบาดเจ็บแย่งไม่ไหว ก็ไม่ได้รับเขาบอกว่าทุกคนอยากได้ แต่จะไม่ได้กันทุกคน ต้องนั่งกอดเข่ารอ (เขาทำท่าประกอบด้วย) แล้วลุกขึ้นแย่งกันเวลาได้รับผลบุญจะเป็นแสงสีเหลืองทองส่องลงมาที่ตัวเขา

ดังนั้น เขาจึงพยายามที่จะได้เจอข้าพเจ้ากับสามี โดยการเกาะมากับร่างของภรรยาของน้องชาย แล้วดลใจให้น้องชายโทรศัพท์หาข้าพเจ้าทั้งที่ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้ากับน้องชายคนนี้ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน หลังจากนั้นข้าพเจ้ากับสามีก็รับปากว่าจะพาเขาไปส่งกลับบ้าน แต่ขอให้เขารับปากว่า ถ้าถึงบ้านแล้วต้องทำให้ภรรยาของน้องชายหายจากอาการปวดท้องอย่างเด็ดขาด เขาก็รับปากระหว่างนั้น เขาได้มาเข้าฝันภรรยาของน้องชายว่าให้หาศาลพระภูมิไม้และรูปปั้นผู้ชายแล้วปิดทอง เพราะเมื่อกลับถึงบ้านเขาจะได้อาศัยอยู่ในนั้น แล้วนำไปลอยน้ำ ที่ให้ปิดทองเพราะเขาบอกว่าไปอยู่ในน้ำจะได้สว่างไม่ต้องใช้เทียน เราก็ทำตามทุกอย่าง นอกจากนั้น เขายังให้จัดซื้อเสื้อผ่าพร้อมเงิน 90 บาท อธิษฐานให้จิตวิญญาณทั่วไปที่มีอีกมากมาย เพราะบางคนไม่มีเสื้อผ้าใส่หรือไม่ก็เก่ามากแล้ว แล้วนำไปบริจาคให้คนยากไร้

ช่วงเวลาที่ได้พูดคุยกับเขาได้รู้อะไรมากมาย เช่น คนจีนชอบเผากระดาษส่งของให้บรรพบุรุษเขาบอกว่าจริงๆ แล้ว เขาไม่ได้รับหรอกต้องไปซื้อหาสิ่งของที่จะส่งให้ แล้วนำมาอธิฐาน เอ่ยชื่อให้คนรับนำไปถวายเป็นสังฆทาน แล้วนำไปบริจาคให้คนยากจนให้ได้ใช้ประโยชน์จริง บรรพบุรุษจึงจะได้รับ ใครทำความดี ทำบุญมากๆ สวดมนต์ภาวนา ผู้นำจะมีเกราะเป็นแสงสีเหลืองทองสุกสว่างป้องกันตัว ไม่มีใครทำอะไรได้

หลังจากนั้นประมาณ ๑ สัปดาห์ ข้าพเจ้ากับสามีและญาติๆ ก็ออกเดินทางไปจังหวัดน่าน ก่อนหน้านั้นจากการช่วยเหลือของลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ข้าพเจ้านับถือ ได้เช็คข้อมูลของเขาก็ปรากฎว่ามีชื่อ นามสกุล บ้านเลขที่นั้นอยู่จริง แต่ไม่ได้ติดต่อกับทางราชการมานานแล้วจนกลายเป็นคนสาบสูญไปแล้ว จึงทำให้พวกเรามั่นใจว่าเราคงไม่โดนเขาหลอกไปถึงจังหวัดน่าน ไปถึงประมาณบ่าย ๒ โมงกว่า วนหาบ้านเขาอยู่นาน เขาก็พยายามนึก เขาบอกว่าผ่านไป ๓๐ กว่าปีแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก พวกเรานักับลูกศิษย์กับอาจารย์ที่หน้าวัดภูมินทร์

เมื่อเขาเห็นวัด เขาทำท่าดีใจอยากจะลงไปกราบพระ เราก็พาลงไปแต่เขาเข้าโบสถ์ไม่ได้ ต้องให้อาจารย์อธิฐานขอพระประธานในโบสถ์ให้ เขาจึงเข้าไปกราบได้ ข้าพเจ้าส่งเงินให้เขา ๑๐๐ บาท บอกว่ายกเงินให้เขาเอาไปหยอดตู้ทำบุญ จะได้มีผลบุญติดตัวกลับไป ลูกศิษย์อาจารย์ก็ช่วยขับรถนำพวกเราไปบ้านเขา พอใกล้จะเจอบ้านเขา เขาก็บอกว่าให้รีบพาเขาไปส่ง เพราะวันนั้นเป็นวันพระ เดี๋ยวท่านไม่ให้กลับเขาบอก เราจึงนิมนต์พราะสงฆ์จากวัดพระธาตุแช่แห้งมาสวดส่งวิญญาณให้เขาตามที่เขาขอ พอทำพิธีเสร็จก็เอาศาลพระภูมิ พร้อมกับมอเตอร์ไซด์ (เด็กเล่น) ที่เขาอยากได้สมัยมีชีวิตอยู่ลอยลงไปในแม่น้ำน่าน ใกล้กับบ้านของเขาที่ตอนเล็กๆ เขาเคยว่ายน้ำเล่น

จากนั้นเขาก็มาผ่านร่างภรรยาน้องชายอีกครั้ง เขาร้องไห้น้ำตาไหล บอกว่าดีใจมากที่ได้กลับบ้านและรู้สึกเสียใจที่จะไม่ได้เจอกับพวกเราอีกแล้ว ข้าพเจ้าเองก็อดใจหายไม่ได้ ได้แต่บอกว่าจะทำบุญสวดมนต์อุทิศไปให้ คอยรับนะเกิดชาติหน้าค่อยมาเจอกันใหม่ก็แล้วกัน และบอกเขาอีกว่าทุกคนในที่นี้ดีใจที่ได้ช่วยเหลือเขา เขายกมือไหว้ขอบคุณทุกคน พร้อมกับร้องไห้ก้มลงกราบข้าพเจ้าที่ตัก ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันใจมาก หันไปหาสามีของข้าพเจ้าแล้วบอกให้เขาขอบคุณเพราะเขาเป็นคนสำคัญที่สุด เป็นทั้งคนขับรถมาส่งจากมหาชัยจนถึงจังหวัดน่าน ภายในวันเดียวกัน แล้วยังออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่ได้หวังผลตอบแทน เขาน้ำตาไหลก้มลงกราบที่เท้าของสามีของข้าพเจ้า ภาพนั้นทำให้ทุกคนอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้จริงๆ แล้วเขาก็ล้มลงที่ตักข้าพเจ้าแล้วจากไป นับจากวินาทีนั้นภรรยาของน้องชายก็มีความรู้สึกเบาเนื้อเบาตัว และที่สำคัญไม่ได้มีอาการปวดท้องอีกเลย นั่นคือสิ่งที่เขารับปากไว้แล้วทำตามจริงๆ จนถึงทุกวันนี้เวลาข้าพเจ้านึกถึงเหตุการณ์นั้นเมื่อไหร่ก็อดที่จะมีความรู้สึกอิ่มเอมใจเสียทุกครั้ง เพราะเชื่อว่าคงไม่เคยได้มีใครได้มีโอกาสช่วยเหลือจิตวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานมากกว่า ๓๐ ปีให้ได้กลับบ้านเกิด

เรื่องทั้งหมดที่ท่านได้อ่านมานี้ อาจจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินจริง แต่ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และสาเหตุที่ข้าพเจ้านำมาเขียนบอกเล่ากับท่านให้หมั่นทำแต่ความดี ทำบุญทำทานสร้างกุศล ไหว้พระสวดมนต์เสียตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่ แล้วแผ่เมตตาให้ตัวท่านเอง ให้แก่เทพเทวาประจำตัวท่าน เทพเทวาจะได้มีบารมีสูงพอที่จะช่วยเหลือท่านในยามคับขัน ให้แก่ผู้อื่นตามแต่ใจท่าน ยิ่งแผ่ยิ่งเพิ่มพูนมากมายทวีคูณ ข้าพเจ้าขอให้อานิสงส์ผลบุญแห่งความดี ที่ท่านจะได้สร้างต่อไปนับจากนี้ ขอจงส่งถึงเจ้าของเรื่องโดยตรง คือนายสมบูรณ์ ภูมินทร์ จิตวิญญาณแห่งลุ่มน้ำน่าน ที่แม้เป็นเพียงจิตวิญญาณก็ยังรักษาคำพูดร่วมทั้งผู้เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายสมบูรณ์ ภูมินทร์ ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวผู้อ่านเอง เพราะแค่ท่านได้อ่าน ไม่ได้ประสพกับตัวเองจริงๆ ท่านยังเกิดแรงบันดาลใจในการทำความดี ดังนั้น ก็ขอให้สิ่งดีๆ ที่ท่านจะได้ทำต่อไปส่งผลให้ท่านพร้อมทั้งคนที่ท่านรักทุกคน มีแต่ความสุข ความเจริญ พบเจอแต่สิ่งดี คิดหวังสิ่งใดในทางที่ทีด ก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการทั้งภพนี้ และภพหน้าด้วยเทอญ

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ.2549


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.114 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:10:43:20 น.  

 
น้องหน่อย...จ๋า
นาน..นาน.. มาโพสต์ที ....ดีทั้ง 2 เรื่อง

คุณนางฯ....ก็เช่นกัน
ดีมาก.....เรื่องประหยัดพลังงาน
พี่ก็ช่วยประหยัดหลายข้อเลย
เพราะ เลิกนอนห้องแอร์มา 2 ปีกว่า ๆ แล้ว
ระยะแรกทรมานมาก ...มาก
แต่ก็ผ่าน...เดือนเมษาที่ร้อนสุด ๆ มาได้ 2 รอบแล้ว
จัดห้องนอนให้โล่ง.....ไร้สิ่งตกแต่ง
มีวิทยุ และ พัดลม 2 อย่างเอง
คือมีความตั้งใจว่า วัยเกษียณจะไปอยู่วัด
เลยฝึกตนเอง เลิกนอนห้องแอร์

นู๋กา..... ลูกชายจะบวชเมื่อไรคะ
จะได้ร่วมอนุโมทนา....ค่ะ



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:11:42:40 น.  

 
พี่อรจ๋า

เด๋วเสาร์นี้จะไปกราบเรียนลพ.เจ้าอาวาส วัดที่จะไปอยู่จำพรรษาก่อนจร้า

คอนเฟิร์มเรื่องกุฏิ และรายละเอียดต่าง ๆ เล็กน้อย ...เคยเรียนท่านไว้แล้วก่อนหน้านี้ ตอนนี้ใกล้วันแระ ไปเฟิร์มอีกที

แล้วนู๋จะมาแจ้งกำหนดการอีกทีนะคะ ขอบคุณพี่อรจร้าส์


โดย: สาวิกา วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:13:56:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]























Friends' blogs
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.