สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
4 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

วิธีทำให้ชีวิตให้โล่ง และ เบาขึ้น

Photobucket>


วันนี้เรามาคุยกันถึงวิธีทำให้ชีวิตเบาขึ้น โล่งขึ้น สบายขึ้นดีไหม?
วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และเบาขึ้น เช่น...


ย้ายเนื้อหา และสาระวิธีที่ทำให้ชีวิตเบาขึ้น โล่งขึ้น สบายขึ้น
ไปไว้ในส่วนของสาระเรียบร้อยแล้ว
อยากรู้ อยากดู ก็ตามไปดูได้ค่ะ


ใครมีเทคนิควิธีทำให้ชีวิตเบาขึ้น โล่งขึ้น
ก็มาเล่า มาแบ่งปันกันได้ค่ะ




Photobucket>







 

Create Date : 04 มิถุนายน 2551
61 comments
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 11:43:40 น.
Counter : 555 Pageviews.

 

fu0hk.

 

โดย: vewrri IP: 125.27.35.109 4 มิถุนายน 2551 22:13:19 น.  

 

ขึ้นหน้าใหม่วันนี้มาด้วยความแปลกใช่มั๊ยล่ะ? หรือไม่มีใครเห็นของแปลก

ลองเปลี่ยน ๆ ดูบ้าง ...อะไร ๆ ในชีวิตเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ลองทำอะไรแปลก ๆ กันดูบ้างท่าจะดีเนอะ

นึกถึงพี่ชายที่เพิ่งจากไป ... พี่เขาขำเจ้าบ้านจะตาย เมื่อรู้ว่าเจ้าบ้านหันหน้าเข้าวัด เพราะตอนที่ร่วมหัว จมท้ายกัน (ในที่ทำงานนะ) สำมะเลเฮฮากันถึงไหน ถึงกัน ...ร้านเหล้าไม่ไล่ ไม่เลิกกัน

ตอนนั้นเจ้าบ้านสวยที่สุดเลยนะ ...แหะ ๆ ก็ทั้งแผนกมีเจ้าบ้านเป็นผู้ฉิง เอ๊ย ผู้หญิงคนเดียวนี่นา นอกนั้นผู้ชายหมด ใคร ๆ ก็รุมกันดูแล เอาใจซ้า ...ดาวล้อมเดือนยังไง ยังงั้นเชียวละ ...นึกแล้วขำ

ตอนเข้าวัดใหม่ ๆ พี่เขาเคยมาหา เห็นเจ้าบ้านหน่อมแน้ม ...พี่เขาขำซะสุดฤทธิ์เลย ...ณ วันนี้เหลือเพียงความทรงจำ

เฮ้อออออ ...ร่ำลากันดีกว่าเนอะ เดี๋ยวพลพรรคจะคิดว่าเจ้าบ้านเพ้อ เป็นไรไปซะอีกอ่ะ


Photobucket>

 

โดย: สาวิกา 4 มิถุนายน 2551 22:20:28 น.  

 

เจ้าย่าฯ ตามมาเร็วเชียวน้า
จะมีใครว่องไวได้เท่าเจ้าย่าฯ มั๊ยน้า?

(ภาพยกนิ้ว 10 นิ้ว หลาย ๆ ภาพ)

 

โดย: สาวิกา 4 มิถุนายน 2551 22:22:22 น.  

 

อ้าว!!! เจ้าบ้าน
เปิดบ้านแล้ว.....หลบไปนอน
บอกแล้วว่า...อย่าเปิดเครื่องส่ง
สว.เลยต้องแวะมาเยี่ยมเป็นคนแรก
(ยิ้ม อ๋าย.... อาย......)

คนชอบพูดกันว่า
คนแก่ชอบพูดถึง......อดีต

ต่อไปคงต้องเปลี่ยนว่า
ผู้อาวุโสชอบ...... chat กับเด็ก
555555555555555555555
(ยกมือไหว้ ประหลก ๆ ขอโทษ ผู้อาวุโส)

วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และเบาขึ้น เช่น..
ลดน้ำหนัก....... จ้า
จะโล่งและเบาจริงๆ

ไปนอนบ้างแร่ะ
Good nite จ้า

 

โดย: โอรัช IP: 125.24.140.167 4 มิถุนายน 2551 22:28:21 น.  

 

น่าทำได้ยาก น่ะ

เอาว่า "รู้ว่าตัวเราเป็นใคร และเป็นตัวของตัวเอง"

ขอบคุณที่นำมาฝาก จ๊ะ

 

โดย: บ้าได้ถ้วย 4 มิถุนายน 2551 22:38:40 น.  

 

อย่าจม !! อยู่กับอดีต (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)


ความหนักอกหนักใจ เหนื่อยใจในชีวิตของเราทั่วๆ ไป
อีกประการหนึ่งก็คือ การคิดในเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา


ไม่ใช่ว่าจะห้ามเสียเลย หามิได้
คิดได้ แต่ว่าต้องคิด ด้วยปัญญา
รื้อมันด้วยปัญญา สร้างขึ้นด้วยปัญญาตลอดเวลา
อย่างนั้นสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน
ไม่เป็นความเสียหายในการที่เราจะคิด


เพราะเอามาศึกษาค้นคว้าในเรื่องอย่างนั้น
ว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นอย่างไร ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลงไปในสภาพอย่างไร
เราจะได้จดจำไว้เป็นบทเรียนสำหรับชีวิตของเราต่อไป
คิดแบบวิเคราะห์วิจัยอย่างนี้ไม่เสียหาย
แต่ว่าโดยมากหาได้คิดในรูปนั้นไม่ เอามาคิดในรูป
ที่มันจะสร้างปัญหา คือ ความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ตนทั้งนั้น
คือ คิดด้วยความโง่เขลา ไม่ได้คิดด้วยปัญญา ในเรื่องอะไรต่างๆ
เรื่องบางเรื่องมันผ่านพ้นไปตั้งนาน แล้ว
แต่เราก็เอามาคิด พอคิดแล้วก็เกิดความไม่สบาย
ใจเป็นทุกข์ขึ้นมาก็เพราะเรื่องอย่างนั้น


บางคนถึงกับว่าน้ำตาไหล ถามว่าทำไมจึงน้ำตาไหล
แหมคิดถึงเรื่องเก่าแล้วฉันเศร้าใจเหลือเกิน...
ก็มันเรื่อง อะไรที่ไปคิดให้เศร้าใจ
อยู่ดีๆ ไม่ว่า ไปหาเรื่องให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อน
ที่คนโบราณเขาว่า เอามือไป ซุกหีบ
มือมันอยู่ดีๆ ไม่ชอบ เอาเข้าไปซุกในหีบ
แล้วก็ปิดฝาหีบลงไปโดนมือเจ็บปวดไปเปล่าๆ
นี่มันไม่ได้เรื่องอะไร ทำไมจึงชอบคิดในเรื่องอย่างนั้น
เรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมาไม่ชอบปล่อยชอบวาง ไม่ชอบทิ้งเรื่องนั้นออกไปเสีย



ในหลักธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น ท่านวางหลักในเรื่องนี้ไว้ว่า
“อตีตํ นานวาคเมยฺย นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ”

บอกว่า อย่าคิดถึงสิ่งที่ล่วงมาแล้ว อย่าคิดถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
สิ่งใดเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ให้เพ่งพิจารณาในเรื่องนั้น
เพื่อให้รู้ชัดเห็นชัดตามสภาพที่มันเป็นอยู่จริงๆ อันนี้เป็นหลักการอันหนึ่ง
ซึ่งเราน่าจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเรา



เพราะว่าคนเราทั่วๆ ไป ที่มีความทุกข์ระทมตรมใจอะไรต่างๆ นั้น
ส่วนมากก็เป็นเรื่องเก่าๆ ที่มันผ่านพ้นมาแล้ว
ของหายไปตั้งสองเดือนแล้ว ก็ยังเอา มาคิดถึงอยู่
คือ บางทีก็พูดกับใครๆ ว่า แหมนึกถึงเรื่องนั้นทีไรแล้วแสนจะกลุ้มใจ
รู้ว่ากลุ้มใจ แต่ว่าทำไมไปคิดถึงเรื่องนั้น
นี่เขาเรียกว่าเผลอไป ประมาทไป
ไม่ได้ระมัดระวังควบคุมความคิดของตัว
แล้วก็ไปคิดถึงเรื่อง ที่ทำให้เศร้าใจ
ให้เสียใจเป็นทุกข์เป็นร้อนด้วยประการต่างๆ
นั้นล้วนแต่เป็นเรื่องเก่าๆ แก่ๆ ทั้งนั้น
เอามานั่งคิด นั่งฝันไป ไม่ได้เรื่องอะไร
อย่างนั้นไม่ควรคิด เพราะมันผ่านพ้นไปแล้ว



เรื่องเวลานี้มันมีสามกาละคือว่า ปัจจุบัน อดีต อนาคต
สามกาลนี้มันนิดเดียวเท่านั้นเอง
ตัวปัจจุบันนี่ก็นิดเดียว แล้วมันก็กลายเป็นอดีตไป
แล้วอนาคตก็ย่างเข้ามา กลายเป็นตัวปัจจุบัน แล้วก็เป็นอดีตต่อไป
ถ้าหากว่าเราถือหลักว่าเวลานี้มันไม่คงที่
มันมาถึงเราแล้วก็ผ่านพ้นไปๆ วินาทีนั้นผ่านพ้นไป
วินาทีใหม่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านพ้นไป
คล้ายๆ กับภาพยนตร์ เวลาเราดูหนัง
ภาพต่างๆ มันผ่านสายตาเราไปในรูปต่างๆ กัน

นั่นคือความเปลี่ยนแปลงของภาพอยู่ตลอดเวลา
ภาพมันถี่ยิบเพราะความหมุนของเครื่องแล้วฟิล์มมันก็หมุนไป
เราก็เห็นว่าเป็นภาพวิ่งแสดงอย่างนั้นแสดงอย่างนี้
ปรากฏแก่สายตายของเรา ทำให้เราเห็นว่ามันเป็นจริงๆ จังๆ
เป็นเรื่องเป็นราว บางทีดูด้วยความเพลิด เพลิน
บางทีดูแล้วก็เศร้าโศกเสียใจ เวลาจบเรื่องลงไปก็พลอยเศร้าไปกับพระเอก
หรือว่านางเอกที่ต้องพบชะตากรรมที่ไม่นึกฝัน
ว่าจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ที่จริงภาพเหล่านั้นมันเป็นมายา
ที่มาหลอกตาเราชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นเอง
แต่ว่าภาพมันติดต่อกัน เลยเห็นเป็นเรื่อง เดียวกันตลอดเวลา
อย่างนี้มันก็ผ่านๆ ไปเท่านั้นเอง



อะไรๆ มันก็ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ได้หยุดอยู่
แต่ว่าเรานั้นเป็นผู้ทำผิด ทำผิดในเรื่องอย่างไร
ทำผิดคือไปเก็บเอาสิ่งนั้นไว้มาใส่ในใจ
ใส่ไว้ในห้วงนึกในความคิดของเรา
เก็บเรื่อยไปไม่รู้ว่าอะไรต่ออะไร เรียกว่าเป็น คนชอบเก็บ
ชอบสะสม ลักษณะของจิตมันก็อย่างนั้นอยู่ด้วยเหมือนกัน

คือว่า ชอบสะสมอารมณ์ประเภทต่างๆ ที่ผ่านมาเข้ามา
แล้วมันก็เก็บไว้ แล้วเอามานั่งคิด นั่งนึกให้เกิดความทุกข์ความเศร้าใจ
ไม่มีเรื่องอะไรจะคิดก็ไปเอาเรื่องที่มันเศร้าใจไม่สบายใจมาคิด
บางทีไปคิดในเวลาใกล้จะนอน เลยกระทบอารมณ์ นอนไม่หลับ
หรือบางทีไปคิดเวลารับประทานอาหาร
เลยเกิดเบื่ออาหารขึ้นมา ไม่อยากจะรับประทานแล้ว ใจมันไม่สบาย



ใจมันไปคิดในเรื่องครั้งกระโน้น เก่าไม่รู้สักกี่สิบปี แล้ว
ถ้าเป็นวัตถุก็เรียกว่าบูดแล้ว เน่าแล้ว เปื่อยแล้ว
เราอุตส่าห์เอามาสร้างเป็นโครงร่างขึ้นมาใหม่ ไปเก็บ
เอาขี้เถ้ามันมาเสกสรรปั้นแต่งให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว
นั่งดูด้วยความเศร้าโศกใจ นี่เรียกว่า ความเขลาหรือความฉลาด
ขอให้เราคิดดูสักเล็กน้อย



สิ่งใดที่มันผ่านไปแล้วก็ปล่อยไป ช่างมันเถอะผ่านพ้นไปแล้ว
เราจะไปคิดถึงสิ่งนั้นทำไมให้มันเป็นอดีตไป
อดีตมันก็ผ่านพ้นไปแล้วปัจจุบันมันก็ผ่านพ้นไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง
แต่ถ้ามาถึงเข้า เราก็พิจารณาต่อไปด้วยปัญญาว่าสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นแก่เรา
แต่ว่าสิ่งนี้มันไม่เที่ยงมันมีความเปลี่ยนแปลง
คอยดูว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อไป
ให้เราทำตนเป็นคนดูด้วยปัญญา อย่าดูด้วยความยึดมั่นถือมั่น
อย่าดูด้วยความหลงผิดในเรื่องนั้นๆ
จิตใจเราก็จะสบายขึ้นไม่มีปัญหา ไม่มีความทุกข์ความเดือดร้อนใจ
นี้เป็นประการหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหา คือความไม่ สบายใจ
หรือว่าความเหน็ดเหนื่อยใจที่เกิดขึ้น
ให้พอคลายไปได้ จากการคิดนึกในรูปอย่างนี้



เรียบเรียงจากส่วนหนึ่งของปาฐกถาธรรมวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๐
จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 77 เม.ย. 50
โดย พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) วัดชลประทานรังสฤษฎ์ จ.นนทบุรี
คัดลอกจาก ...ผู้จัดการออนไลน์
(3รอยยื้ม)

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 4 มิถุนายน 2551 23:19:38 น.  

 


สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน

เราจงเป็นเราเพราะเราเป็น...แต่อย่าเป็นเรา...เพราะใครเขาต้องการให้เป็น

 

โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.210.107 4 มิถุนายน 2551 23:19:58 น.  

 

สวัสดีค่า ทุก ๆ ท่าน.. _/|\\_

..แย้ววจา บริจาค..หรือ โล๊ะแควนทิ้งได้อ๊ะป่าวจ๊ะท่านเจ้าบ้าน

..ที่เค้าว่า ปลูกเรือนผิด คิดจนเรือนทลาย.. นั้นคงจาจริงนะคะ

เราทำบาป..จากการทิ้งใครต่อใครมาหลายคนแล้ววอะ ฮือๆๆ
ไม่ได้เจตนาเลยจริงๆ

ดูเหมือนว่า ยายลิงเป็นคนง่ายๆ ไม่ได้ต้องการคนรวยหรือมียศอาไร
ไม่ต้องการงานแต่งหรือสินสอดแหวนเพชร..
แต่ๆๆ ต้องการคนดี..ที่สงสัยมีแค่ในจินตนาการของเราเองค่ะ

เค้าถือว่า เป็นคนดีคนหนึ่ง..
ดีแบบโลกๆ ดูแลเอาใจใส่ หอมเช้าเย็นก่อนนอน..เสมอต้นเสมอปลาย
โทรหาวันละหลายๆหนค่ะ
จัดหาข้าวหาปลา..ล้างจาน ทิ้งขยะ ส่งผ้าให้..
ที่สำคัญคือ จับแมลงให้..ไม่ว่าจะแมงมุม แมงสาบตัวเล็กๆ
..จ่ายค่าส่วนกลางน้ำ ไฟ เน็ต โทรศัพท์ ยูบีซี อาหาร..จ-ศและเสาร์เช้า
จ่ายค่าซักรีดผ้า..
มีส่วนดี แบบที่ญ. ทั่วๆไปต้องพอใจค่ะ
พ่อแม่ตายหมด มีแต่พี่น้อง..ไม่คบใคร ไม่มีเพื่อนหรือสังคม
ให้เวลา...เราเต็มที่ นอกจากงานแล้ว

เออ.. แล้วจะเอายังไงอีกเนอะ

แต่ๆๆๆ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ไม่เคยเห็นเค้าสวดมนต์ไหว้พระ
ไม่เคยไหว้เจ้าที่ เจ้าทาง..
น้อยครั้งที่จะชวนไปวัด แต่ก็เป็นวัดที่ตจว.ที่เราปลีกเวลาไปไม่ได้ค่ะ
เค้าชอบการเมืองมากๆๆ ไม่สามารถจะอยู่ในความสงบได้อะค่ะ
ไม่เปิดทีวี ก็ต้องเป็นเพลง เป็นวิทยุ..เราไม่มีสมาธิน่ะ
เค้าครอบ..เรา เป็นเจ้าชีวิต เจ้าเข้าเจ้าของไง ทั้งๆที่พึ่งเราทุ้กกกกอย่าง

ขอแค่นี้ก่อนนะคะ อย่าพึ่งเบื่อนะ
หากทำให้เสียบรรยากาศ ต้องขออำภัยด้วยค่ะ
ขอหม่ำๆอาหารเช้าก่อง

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 5 มิถุนายน 2551 8:52:03 น.  

 


สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


ความพอดีที่ปล่อยวางระหว่างได้...
ไม่ตึงไปหรือหย่อนคลายคล้ายเชือกหนัง...
กระทำกิจผิดพลาดพลั้งยังระวัง...
อย่ามุ่งหวังให้เกินงามตามครรลอง...


เมื่อคืนเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่า...คุณมุ่งโพสต์เฉือนปลายจมูกไปแค่ 20 วิ เองนะ (หัวเราะปากกว้าง 1 ครั้ง)

ปล. ถึงย่าอักไม่บอกชื่อก็ไม่เป็นไร...เราเองก็ไม่ได้ซ่าส์อะไรมากมายนะ คริ คริ

 

โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.109.101 5 มิถุนายน 2551 8:56:45 น.  

 

สวัสดีค่ะ ...พลพรรคทุก ๆ ท่าน

ทั้งที่มากันในยามเช้า และส่งท้ายยามค่ำคืน ...ขอทุกท่านมีความสุขในทุก ๆ กาลเช่นเคยนะคะ


อ้างอิง>>>คนชอบพูดกันว่า
คนแก่ชอบพูดถึง......อดีต
โดย: โอรัช<<<


พี่อรจ๋า...
เมื่อคืนพยายามย้อนระลึกถึงความทรงจำ ที่มีกับพี่ชายที่จากไป พยายามนึกอยู่นาน เพราะนู๋กาเป็นคนไม่ค่อยจดจำอดีตเท่าไหร่นัก

โอ้โฮ...นับนิ้วไปมา รู้จักกันมาเกือบ 20 ปีแล้วนี่นา ช่วงนั้นนู๋กายังละอ่อนอยู่เลยอ่ะ เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่มีความสุข และสนุกที่สุดช่วงหนึ่งเชียวแระ ช่วงนั้นใช้ชีวิตรื่นเริง บันเทิงกับโลกสมมติสุด ๆ

เจอกับพี่ชายด้วยความสุขและสนุก ตอนจบก็จบด้วยดี พี่ชายทำผิดต่อนู๋กา พี่ชายหลั่งน้ำตาขอโทษ ... นู๋กาโหสิ และให้อภัย ...(นางเอ๊ก นางเอกเนอะ)

เปลี่ยนสถานภาพเป็นพี่ชาย และน้องสาว ที่รู้จัก และรู้ใจกันมากที่สุด (หายากนะ) แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปตามวิถีชีวิตกันไป

พี่ชายเพิ่งย้อนมาพบกับนู๋กาอีกครั้ง ก็ประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ ได้เบอร์โทรฯ ของนู๋กาจากเพื่อนสนิทของนู๋กาอีกที หลาย ๆ เดือน พี่ชายจะโทรฯ มาเซย์ฮัลโหลสักที ...แวะมาเยี่ยม มากินข้าวด้วย คุยคุ้ยเรื่องความหลังหนุก ๆ กัน

หนึ่งคน หนึ่งกรรมสัมพันธ์ ที่หมดลงด้วยดี ...เอวังโหตุ



พี่ลิงจ๋า...เมื่อคืนนู๋กาแวะห้องแชท เจอใครก็ไม่รู้ ใช้ชื่อ 007/11 พี่ลิงเห็นเลขนี้พี่ลิงนึกถึงใครจ๊ะ? แล้วยังจำภาพ Mr.007/11 ของนู๋กาได้ป่าว ...เอิ้กกกกก ๆๆๆ คงจะแอบซุ่มคอยดูนู๋กากับเจ้าย่าฯ ละมัง ...แต่นู๋กาไปในนามคนขี้เล่น น่าร๊ากกกกกซะ ...ใครก็นึกไม่ถึง 55555


เช้านี้เจ้าบ้าน...มาย้อนระลึกถึงความหลังที่ (เคย) หวานชื่น อย่าว่ากันเนอะ

ไประเริงร่าแชทกับเด็ก ๆ ดีกว่า จริงป่ะ? เจ้าย่าฯ เจ้าขา

 

โดย: สาวิกา 5 มิถุนายน 2551 8:58:00 น.  

 

วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และเบาขึ้น
(เน้นตัวอักษร โตเบ้อเริ่มเฮิ่ม)

เชื่อว่า ณ วันนี้
น้องลิง และ นู๋กา
รู้สึกว่าชีวิตโล่งและเบาขึ้น ... ชั่วขณะ
คริ คริ คริ
(ยิ้มล้อเลียน.............)
ที่เบาเพราะไม่ต้องแบกอารมณ์ รัก-ชัง
อาจจะมีอาลัย อาวรณ์ บ้างเล็กน้อย

"ยินดีด้วย....สำหรับความเป็นอิสระ"
อิสระจากความรัก-ความชัง
(ยิ้มน้อย ๆ...... อ่อนโยน)

 

โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 5 มิถุนายน 2551 9:29:33 น.  

 

***วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และเบาขึ้น
(เน้นตัวอักษร โตเบ้อเริ่มเฮิ่ม)***

สีอารายยยยยยยยย
ทำมั้ยไม่บอก...ทำมั้ยไม่บอก...ทำมั้ยไม่บอก...
กำหนดขนาดอักษรได้แล้ว
แต่กำหนดสีม่ายยยยถูกง่ะ
อิ อิ...ทุกข์จายยยยย


***ปล. ถึงย่าอักไม่บอกชื่อก็ไม่เป็นไร...เราเองก็ไม่ได้ซ่าส์อะไรมากมายนะ คริ คริ***

บอกจิ...
อย่าน้อยจายเลยน้า
เห็นว่าเข้าไปคุยเรื่องการเขียนกลอนกับคุณคีตฯ
มีคนแซวหน่อยเดียว
น้อยใจออกไปเลย
เค้าก็หยั่งงั้นแหละ

ตอนแรกย่าอำฯเห็นแล้วต๊กกาไจนะ
โอโฮ
ทำไมเขาพูดไม่เพราะอย่างนั้น
รับไม่ได้

แต่พอมาพิจารณาอีกที
ภาษาก็แค่สมมติบัญญัติ
เป็นมายา
จะไปถือสาอะไร...
ก็มีแค่คนสองคน

ย่าอำฯจึงเลือกเวลาหน่อย
แซวภาษาเด็ก ๆ
พร้อมฟังธรรมจากผู้รู้ไปเรื่อย ๆ
แต่ไม่นานคงเลิกค่ะ
เพราะใช้เวลานานมาก
สายตาไม่สู้จอ

จร้รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรา
เข้าไปแล้วย่าอำฯจะทักทายนะ...
ครั้งเดียวให้นึกออกว่าคือย่าอำฯเลยแหละ
ไว้พบกัน...55555555


***"ยินดีด้วย....สำหรับความเป็นอิสระ"
อิสระจากความรัก-ความชัง
(ยิ้มน้อย ๆ...... อ่อนโยน)***

หนูอรจ๋า...
อันนี้ทำยากนะ
ที่จะเป็นอิสระจาก...
ทั้งรักทั้งชังทั้งหวานและขมขื่นนนนนนน
ย่าอำฯใช้เวลานานเกือบห้าปีลามั้ง...
ขอให้ทุกท่านใช้เวลาน้อยกว่าย่าอำฯนะคะ
เอาใจช่วยค่ะ


***เจอใครก็ไม่รู้ ใช้ชื่อ 007/11***
ไผน้ออออออออออ
หนูกากับคุณยายลิงแย้มให้ย่าอำฯรู้ซักกะคนได้ไหม...
ได้ไหม ? ได้ไหม ?
อยากรู้ง่ะ
ย่าอำจะได้ปฏิบัติตนให้ถูกต้อง
ย่าอำฯเก๊าะเห็นอีตาคนนี้เหมียนกัลลลลลนะ
ยังนึกอยู่ว่า...
ใครวะมีรหัสประจำตัวซ้าด้วย
นะ นะ นะ นะ
อยากรู้จริงจริ๊งงงงงงงงจริงจริง
(หน้าสงสัยมากกกกก ๑ ภาพ และเครื่องหมายคำถามใหญ่มาก ๆ สีแดง ๑ภาพ)


***ไประเริงร่าแชทกับเด็ก ๆ ดีกว่า จริงป่ะ? เจ้าย่าฯ เจ้าขา***

กะลังมันส์อยู่หนูกา
อยากชวนหนูเวลาไปด้วย
เพราะมีบ้านเราหลายท่านไปสิงสถิตอยู่
ไว้นัดไปเฮพร้อม ๆ กันซักวันก็ดีเน๊อะ
จะได้เม้าส์ให้มันหยดเลย
คุณยายลิงจะเปลี่ยนใจไหมคะนี่ ?
ไปนะคุณยายลิง
ทดสอบความเข้มแข็งของใจ.

 

โดย: อำไพพร IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 10:07:28 น.  

 


ซาหวัดดีค่ะ พี่อร นู๋กา คุณนางฯ

แว๊บเข้าไปในลธ. ชีวิตกับธรรมะ กระทู้ ผู้หญิงคนนึง..แล้วอึ้ง อะค่ะ
น้องเค้าเล่าถึงเรื่อง chat พอดี อ่านแล้ววน่ากัวเนอะ

พี่อรขา.. หมอบอกผ่านมาทางพี่ว่า ยายลิงหมดฮอร์โมนแล้วค่ะ
ไม่คิดจะทานยาด้วย เพราะทั้งย่ายายแม่ก็ไม่เห็นเคยทานยาค่ะ
แต่พี่เคย ทานแล้วตัวบวม..ค่ะ

นี่ก็เป็นสิ่งนึงค่ะ ที่ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
เรารู้สึกไม่มีความสามารถจะทำหน้าที่ได้อีกแล้วค่ะ
เชื่อว่า วันนึงข้างหน้าเค้าก็คงจะไปหาเศษหาเลยเอาข้างนอก..
ซึ่งเราก็คงจะทำใจไม่ได้..
ก็เลยต้องปล่อยให้เค้าไปซะตอนนี้เลย

นู๋กาจ๋า.. Mr.007/11 ยังอยู่ดูแลพวกเราตาไม่กระพริบเลยจ้ะ ยิ้มแยกเขี้ยว อิอิ

คุณย่าอำฯขา อย่าไปหลอกใครว่าเป็นเดะๆเอ๊าะๆน๊าค๊า ผิดศีลข้อ 4 ค่ะ

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 5 มิถุนายน 2551 10:10:34 น.  

 


คุณย่าอำขา..
Mr. 007/11 ก็คือ Mr. Bond ไงคะ James Bond ไง หนังสนุกดีนะคะ
ยายลิงดูมาตั้งแต่เด็กเลยม้าง วันก่อนซื้อซีดีมาดูตอนอยู่หัวหินค่ะ
หลานชายบังคับให้ดู ก็สนุกนะตอนล่าสุด ไม่ค่อยจะเข้าใจ
ต้องดูสองรอบค่ะ..

ส่วน 7/11 ก็คือ ร้านสะดวกซื้อไงคะ
คุณย่าอำ..เดาเอาซีคะ ใครล่ะที่นู๋การอร้อรอๆๆ รอวันรอคืน
คนมีสิเหน่..ที่สาวแก่แม่ม่าย ตกหลุมไงคะ อิอิ ยิ้มมมแยกเขี้ยวค่า

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 5 มิถุนายน 2551 10:20:25 น.  

 

***
กะลังมันส์อยู่หนูกา
อยากชวนหนูเวลาไปด้วย
เพราะมีบ้านเราหลายท่านไปสิงสถิตอยู่
ไว้นัดไปเฮพร้อม ๆ กันซักวันก็ดีเน๊อะ
จะได้เม้าส์ให้มันหยดเลย
คุณยายลิงจะเปลี่ยนใจไหมคะนี่ ?
ไปนะคุณยายลิง
ทดสอบความเข้มแข็งของใจ.***

น่าสนุกนะคะ..
แล้วเกี่ยวอะไรกับความเข้มแข็งของใจหละคะเนี่ย...งง!


***
ส่วน 7/11 ก็คือ ร้านสะดวกซื้อไงคะ
คุณย่าอำ..เดาเอาซีคะ ใครล่ะที่นู๋การอร้อรอๆๆ รอวันรอคืน
คนมีสิเหน่..ที่สาวแก่แม่ม่าย ตกหลุมไงคะ อิอิ ยิ้มมมแยกเขี้ยวค่า ***

อุอุ..

_/|\\_
สวัสดีทุกท่านค่ะ

 

โดย: times IP: 58.181.136.90 5 มิถุนายน 2551 10:35:10 น.  

 

ชื่อเพลง : ทะเลใจ
อัลบั้ม : พฤษภา
ศิลปิน : ยืนยง โอภากุล
คำร้อง : ยืนยง โอภากุล
ทำนอง : ยืนยง โอภากุล


แม้ชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน
วันที่ผ่านมา ไร้จุดหมาย
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียงตัว และจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดี ต่อกัน

เหมือนชีวิตผันผ่าน คืนวันอันเปลี่ยวเหงา
ตัวเป็นของเรา ใจของใคร
มีชีวิตเพื่อสู้ คืน วันอันโหดร้าย
คืนนี้ตัวกับใจ ไม่ตรงกัน

คืน นั้น คืน ไหน ใจแพ้ตัว
คืนและวันอัน น่า กลัว ตัวแพ้ใจ
ท่ามกลางแสงสี ศิวิไลซ์
อาจหลงทางไปไม่ยาก เย็น
คืน นั้น คืน ไหน ใจเพ้อฝัน
คืนและวันฝันไป ไกลลิบโลก
ดังนกน้อย ลิ่วล่องลอย แรงลมโบก
พออับโชค ตกลงกลาง ทะเลใจ

ทุกชีวิตดิ้นรน ค้นหาแต่จุดหมาย
ใจในร่างกาย กลับไม่เจอ ทุกข์ที่เกิดซ้ำ
เพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอ ก็เป็นสุข

คืน นั้น คืน ไหน ใจแพ้ตัว
คืนและวัน อัน น่า กลัว ตัวแพ้ใจ
ท่ามกลางแสงสี ศิวิไลซ์
อาจหลงทางไปไม่ยาก เย็น
คืน นั้น คืน ไหน ใจเพ้อฝัน
คืนและวันฝันไป ไกลลับโลก
ดังนกน้อย ลิ่วล่องลอย แรงลมโบก
พออับโชค ตกลงกลาง ทะเลใจ

แม้ชีวิตได้ผ่าน เลยวัยแห่งความฝัน
วันที่ผ่านมา ไร้จุดหมาย
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียง ตัวและจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดี ต่อกัน
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียง ตัวและจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดี ตลอดกาล...


เอามาฝากจ้า
ดีเจย่าอำฯ


***ทดสอบความเข้มแข็งของใจ.***
หนูเวลาจ๋า
อันนี้ฟามลับ
ระหว่างคุณยายลิงกับย่าอำฯ
ไว้คุณยายลิงขยายแล้วกัน


ขอบคุณข้อมูลอีตาคนนั้น...
ที่คุณยายลิงกรุณาขยายค่ะ.

 

โดย: อำไพพร IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 10:49:44 น.  

 

ถ้าเป็นความลับ..ไม่ขอทราบดีกว่าค่ะ..

รักษาความลับ..มันหนักอ่ะค่ะ..

ชอบเพลงที่คุณย่าอำฯ เอามาฝากค่ะ

ขอบคุณค่ะ_/|\\\\_

 

โดย: times IP: 58.181.136.90 5 มิถุนายน 2551 10:55:04 น.  

 

คุณย่าอำฯ...คะ
สุดจ๊าบเลยน๊า
(ยกนิ้ว หัวแม่โป้ง สองมือ)

น้องลิง....คะ
ต้องนี่เลย....ดื่มน้ำเต้าหู้ทุกเช้าค่ะ
มีสารที่คล้ายฮอร์โมน
ช่วยให้อารมณ์ดี ไม่ซึมเซา
อิ อิ อิ .......................................
มื้อเย็นก็โยเกิร์ตโลแฟทแบบที่นู๋อบแนะนำ เสริมแคลเซี่ยมให้กระดูก

เพื่อนใกล้ชิดสว. มีแนวโน้มจะเป็นมะเร็งเต้านม เป็นรายที่ 3 ค่ะ รอผลตรวจทางพยาธิวิทยาคลินิก
เอ้า..... สว. สสส. ท้งหลายอย่าประมาท
ไปตรวจ mammogram กันบ้างน๊ะ
ร้อยละ 2 ของผู้หญิงอายุ ต่ำกว่า 35 ปี
ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งนี้ได้
สว.เพิ่งไป routine check up เมื่อวาน
รอฟังผลอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ระหว่างตรวจก็พิจารณามรณานุสติไปด้วย
คิดว่าถ้าผลการตรวจพบก้อนเนื้อร้าย
เราจะรับมันได้มั้ย
(หน้าหดหู่เล็กน้อย หิวหน่อย ๆ ๆ)


 

โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 5 มิถุนายน 2551 11:11:28 น.  

 


ขอคนแก่..มาพูดถึง อดีต..หน่อยนะคร้า

เป็นโรคนอนไม่ค่อยจะหลับเพราะชอบคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ค่ะ

ก่อนนี้ ชอบนอนฝันหวาน.. ฝันยังไม่จบเรื่อง ก็ผลอยหลับเสียแล้ว

ปัจจุบัน..ชอบอยู่กับความจริง และหลายๆครั้งชอบกังวลหรือทุกข์ล่วงหน้าค่ะ
เรียกว่า เป็น นิสัย..ที่แก้ไม่หาย
ไม่ใช่ไม่รู้หลักธรรม รู้แต่ทำไม่ได้ค่ะ..

เมื่อคืนนี้ ก็อดคิดถึงเรื่องตอนสาวๆไม่ได้..มีคนมาจีบเยอะ
ในชีวิต ไม่ค่อยจะชอบหลอกใคร แบบว่า แมนมากกกเลย ยายลิงเนี่ย หุหุ
ความคิด..กระโดดมาจนถึงตอนท้ายๆที่เริ่มเข้าวัดป่า..

ก็มีหนุ่มๆ..สองคนแย่งกันมาสอนธรรมะยายลิง ก็ขำดี
คนนึง ก็โมโหอีกคนนึง..ที่มาสอนเรากราบ ก็หาว่ามาแต๊ะอั๋ง..จับมือเราน่ะค่ะ

ยายลิงค่อนข้างจะเนื้อหอม เพราะเป็นคนหน้าตาพอไปวัดได้ค่ะ
ตอนสาวๆโสดๆ..เป็นสาวมั่นเลยทีเดียว ชอบสังคมมากกกๆๆ
ผิดกับตอนนี้ วัยมันร่วงโรย สังขารมันผุพังค่ะ
แต่ๆๆ ยังชอบที่จะแต่งตัวแนวเซอร์ๆอยู่..
คืนก่อน กลุ้มๆเครียดๆ..พอดีสั่งถุงผ้าไว้
แล้วพนง.โทรมาบอกว่า เข้ามาแล้ว
ก็เลยไปเซ็นทรัล ชิดลม..หลังเลิกงาน..
ชอบบรรยากาศกลางคืนมากๆค่ะ
ยายลิงก็ซื้อ กระเป๋าแบบถุงผ้า..ตัดสินใจไม่ถูกเลยซื้อทั้ง 3 แบบ 3 ใบค่ะ

ก็มาเล่า..บ่นๆถึงกิเลสของคนแก่ให้ฟัง..

ชีวิตผ่านร้อนหนาวววมามาก.. บางทีนึกๆอยากจะกลับไปเมกา
วันก่อน เครียด..บอกกับพี่ว่า หนูมีความรู้สึกอยากหนี อยากทิ้งใครๆ..
พี่ถามว่า ..จะเนรคุณเหรอ แล้วบอกเพื่อนพี่ว่า แจ..จะเนรคุณ อิอิอิ

เล่าให้คนใกล้ตัวฟัง เค้าบอกว่า เราพูดแรงนะนั่น เด๋วพี่จะคิดมาก
แต่ ตอนนั้น..มันรู้สึกอยากหนีจริงๆเลย

นู๋เวลาและคุณย่าอักขา..ยายลิงไม่ค่อยจะมีฟามลับอาไรกะใครหรอกค่ะ
ต้องขออำภัยคุณย่าอำฯด้วยค่ะ จำฟามลับระหว่างเราบ่ได้ค่ะ อ๊ายอายยย

พี่อรขา.. ยายลิงยังไม่ยอมแพ้กับสังขารหรอกค่ะ
ยังรักสวยรักงามมมอยู่มากๆๆ
ที่ผ่านมา.. พยายามปล่อยตัวกลมกลืนไปกับเค้า..
ตอนนี้ ลุกขึ้นมา รักตัวเองอีกแล้วววค่ะ
(ยิ้มกว้างงงง)

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 5 มิถุนายน 2551 13:06:07 น.  

 

อิสรภาพจากตัวตน

โดย พระไพศาล วิสาโล หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2551

หากจัดอันดับ “คุรุ” ทางจิตวิญญาณชาวตะวันตกผู้ทรงอิทธิพลและยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน หนึ่งใน ๑๐ อันดับแรกย่อมได้แก่เอกคาร์ท โทลเลอ (Eckhart Tolle) หนังสือและคำบรรยายของเขาแม้ไม่ใช่ประเภท “How to” ที่ให้สัญญาว่าจะพาไปสู่ความสำเร็จในชีวิต แต่ก็มีผู้ติดตามผลงานของเขานับล้านๆ คน คำสอนของเขามีแก่นแกนอยู่ที่ “การอยู่กับปัจจุบัน” ดังชื่อหนังสือเล่มแรกที่สร้างชื่อเสียงแก่เขาคือ The Power of Now

แม้ตัวเขาเองไม่ได้ประกาศว่าสังกัดศาสนาใด แต่คำสอนของเขาก็มีหลายส่วนที่ใกล้เคียงกับพุทธศาสนามาก โดยเฉพาะการเน้นให้ “ดูตัวคิด” และการถอนจิตออกมาจากความรู้สึกนึกคิดทั้งปวง จนเกิดภาวะตื่นรู้โดยปราศจากความคิด ในทัศนะของเขา ขั้นตอนสำคัญของการเดินทางสู่ความรู้แจ้งคือ “เรียนรู้ที่จะไม่ยึดเอาความคิดของคุณเป็นตัวคุณ” เพราะแท้จริงแล้ว “ความคิดของคุณมิใช่ตัวคุณ” พูดอย่างอาจารย์พุทธทาสก็คือ อย่าไปยึดถือความรู้สึกนึกคิดทั้งปวงว่าเป็น “ตัวกู ของกู”

ชีวิตของเขาน่าสนใจตรงที่เขาค้นพบความจริงดังกล่าว ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนอบรมทางด้านจิตวิญญาณของศาสนาใดมาก่อน จะว่าไปแล้วความทุกข์ต่างหากที่ผลักดันให้เขาพบความจริงอันลึกซึ้งยิ่ง เขาเล่าว่าในวัยหนุ่มเขาเป็นโรคซึมเศร้าอย่างแรงจนอยากจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง อาการดังกล่าวรบกวนจิตใจเขามาตลอดจนเกือบอายุ ๓๐ ปี แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้นในคืนวันหนึ่ง

คืนนั้นเขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เลวร้ายมาก แปลกแยกกับทุกสิ่ง ชิงชังโลกทั้งโลก และที่หนักที่สุดคือชิงชังตัวเอง จนไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม “ฉันทนอยู่กับตัวเองต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” เป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาในใจเขาตลอดเวลา จู่ๆ เขาก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า นี่เป็นความคิดที่แปลก “ตัวฉันมีหนึ่งหรือสองกันแน่ ถ้าฉันทนอยู่กับตัวเองไม่ได้ ก็แสดงว่าตัวฉันนั้นมีสอง คือ “ฉัน” กับ “ตัวตน” ที่ “ฉัน” ทนอยู่ด้วยไม่ได้” เขาสงสัยขึ้นมาว่า คงมีเพียงหนึ่งเท่านั้นที่จริง

เขาพิศวงงงงวยกับความคิดดังกล่าวจนจิตหยุดปรุงแต่ง ไร้ความคิดใดๆ มีแต่ความรู้สึกตัวเต็มที่ แล้วเขาก็รู้สึกว่าตัวเองถูกดูดลงไปในที่ว่าง เป็นที่ว่างข้างในตัวมากกว่าที่ว่างภายนอก เขาเล่าว่าจำสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ได้ แต่เมื่อตื่นขึ้นมา เขาพบกับความรู้สึกใหม่ เป็นความตื่นตาตื่นใจในมหัศจรรย์ของชีวิต ราวกับว่าเพิ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกเป็นวันแรก เขายังได้พบกับความสงบที่ดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

เป็นเวลานานหลายปีที่เขาไม่เข้าใจว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่ต่อมาเขาก็เริ่มเข้าใจ เขาอธิบายว่าความทุกข์แสนสาหัสในคืนนั้นได้บีบคั้นให้จิตของเขาต้องถอนจากความยึดติดในตัวตนที่อมทุกข์ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการปรุงแต่งของจิต เขาเชื่อว่าการถอนจากความยึดมั่นดังกล่าวเป็นการถอนอย่างสิ้นเชิง จนตัวตนที่อมทุกข์นั้นพินาศพังภินท์ไปทันที เหมือนกับถอดจุกออกจากตุ๊กตาพองลมจนแฟบ คงเหลือแต่ธรรมชาติแท้จริงที่เป็นปัจจุบันขณะอย่างต่อเนื่อง

คำอธิบายดังกล่าวใกล้เคียงกับพุทธศาสนา เพราะพุทธศาสนามองว่า ตัวตนนั้นไม่มีอยู่จริงตั้งแต่แรก แต่เป็นสิ่งที่จิตสร้างขึ้นมาเอง ซ้ำยังไปยึดมั่นสำคัญหมายว่าเป็นสิ่งจริงแท้ ความหลงดังกล่าวเป็นรากเหง้าของการไปยึดอะไรต่ออะไรมาเป็น “ตัวกู ของกู” อีกมากมาย ไม่เพียงยึดร่างกายนี้ หรือทรัพย์สมบัติรอบตัวว่าเป็น “ตัวกูของกู” เท่านั้น แม้แต่ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ทั้งบวกและลบ ก็ยังยึดว่าเป็น “ตัวกู ของกู” ผลก็คือ เมื่อความเครียดเกิดขึ้น ก็สำคัญมั่นหมายว่า “กูเครียด” เมื่อเกิดทุกขเวทนาไม่ว่ากับกายหรือใจ ก็ยึดมั่นสำคัญหมายว่า “กูทุกข์”

รากเหง้าของความทุกข์ทั้งปวงจึงเกิดจากความยึดติดถือมั่นว่าเป็น “ตัวกู ของกู” ต่อเมื่อปล่อยวางจากความยึดติดดังกล่าว จึงจะหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ อะไรเล่าที่จะทำให้เกิดการปล่อยวางดังกล่าวได้ คำตอบก็คือ ปัญญาที่แลเห็นความจริงว่า ไม่มีอะไรที่น่ายึดถือ หรือยึดถือว่าเป็นตัวตนได้เลยแม้แต่อย่างเดียว

อุปสรรคสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ปัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นไม่ได้ ก็คือความหลงว่าสิ่งทั้งปวงนั้นอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของเรา และสามารถใช้มันปรนเปรอสร้างสุขแก่เราได้ทุกเมื่อ แต่เมื่อใดก็ตามที่ตระหนักว่าแท้จริงแล้วไม่มีอะไรที่เราควบคุมได้เลย แถมยังเต็มไปด้วยทุกข์จนไม่น่ายึดถือหรือน่าเอาด้วยซ้ำ จิตก็ปล่อยวางสิ่งทั้งปวงทันที

ตรงนี้เองที่ความทุกข์มีความสำคัญ เพราะสามารถทำให้ผู้คน “ตาสว่าง” และหลุดจากความหลงดังกล่าวได้ จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของโทลเลอเกิดขึ้นเมื่อเขาประสบกับความทุกข์อย่างหนักถึงขั้นอยากตายไปจากโลกนี้ ในด้านหนึ่งความทุกข์ดังกล่าวทำให้จิตของเขากระสับกระส่ายทุรนทุราย แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ผลักดันให้เขาจำต้องปล่อยวางจาก “ตัวตนที่อมทุกข์” พูดอีกอย่างคือเขาตระหนักชัดว่า “ตัวตนที่อมทุกข์” นั้นไม่น่ายึดถืออีกต่อไป ยิ่งมาได้คิดว่า “ตัวตนที่อมทุกข์” นี้เป็นสิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมาเอง เขาก็สลัดมันทิ้งได้ทันที

ในสมัยพุทธกาล มีภิกษุและภิกษุณีหลายรูปที่หลุดพ้นจากทุกข์ได้เพราะถูกทุกข์บีบคั้นอย่างหนักจนเห็นว่าขันธ์ทั้ง ๕ คือร่างกายและจิตใจนั้นไม่น่ายึดถือแม้แต่น้อย อาทิ พระธรรมาเถรีซึ่งเป็นภิกษุณีวัยชราผู้ทุพพลภาพ เวลาไปบิณฑบาตต้องถือไม้เท้าประคองร่างกายที่สั่นเทา มีคราวหนึ่งท่านเกิดสะดุดล้มลง ร่างกระแทกกับพื้น ได้รับทุกขเวทนาอย่างแรง ชั่วขณะนั้นเองที่ท่านเห็นว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์อย่างยิ่ง ความตระหนักชัดว่าร่างกายนี้ไม่น่ายึดถือ ทำให้จิตของท่านปล่อยวางในขันธ์และหลุดพ้นทันที

อีกกรณีหนึ่งได้แก่พระสัปปทาสเถระ ท่านมีความทุกข์ใจอย่างมากที่ไม่พบความสงบทั้งๆ ที่บวชมาถึง ๒๕ ปี รู้สึกว่าชีวิตของตนไร้คุณค่า ครั้นจะลาสิกขาก็รู้อับอาย จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ขณะที่ท่านสะบัดมีดโกนปาดคอ เกิดความเจ็บปวดอย่างแรง ท่านก็ได้ประจักษ์ชัดว่าว่า สังขารนั้นเป็นทุกข์ น่าเบื่อหน่าย ไม่น่ายึดถือ จิตก็ปล่อยวางและหลุดพ้น บรรลุเป็นพระอรหันต์ทันที

ความทุกข์สามารถเปิดใจให้เกิดปัญญาได้ แต่ปัญญาจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อจิตไม่จมดิ่งอยู่ในความทุกข์อย่างสิ้นเชิง แต่สามารถ “ทะลึ่ง” โผล่พ้นความทุกข์แม้ชั่วขณะ จนแลเห็นความทุกข์ แทนที่จะเป็น “ผู้ทุกข์” ชั่วขณะนั้นเองที่ปัญญาสามารถผุดโพลงขึ้นมาได้ โดยเฉพาะเมื่อเห็นความทุกข์ตามที่เป็นจริง การฉุกคิดระคนฉงนสงสัยที่เกิดขึ้นกับโทลเลอว่า “ตัวฉัน” ที่อมทุกข์นั้น มีจริงแน่หรือ เป็นเชื้ออย่างดีให้ปัญญาญาณสว่างโพลงขึ้นมา จนสามารถสลัดตัวตนที่ปรุงแต่งนั้นทิ้งไปได้

อย่างไรก็ตามการที่จะ “เห็น” ทุกข์ โดยไม่ “เป็น” ทุกข์ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีสติเป็นเครื่องยกจิตออกจากทุกข์ สติที่เกิดขึ้นหากมีกำลังมากพอสามารถทำให้จิตหลุดจากทุกข์ บางครั้งภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ แต่ก็นานพอที่ปัญญาจะมารับช่วงต่อ จนหลุดจากทุกข์ หรือ “ได้คิด” ขึ้นมาจนเปลี่ยนใจเปลี่ยนชีวิต ดังที่เกิดขึ้นกับหลายคนที่กลุ้มใจจนเตรียมโดดตึกฆ่าตัวตาย แต่พลันได้เห็นแสงเงินแสงทองยามรุ่งอรุณ ก็เกิดฉุกคิดขึ้นมา มองชีวิตในมุมใหม่ จนเลิกคิดฆ่าตัวตาย และเริ่มต้นชีวิตใหม่จนก้าวข้ามความทุกข์ที่รุมเร้าได้

คนทั่วไปเมื่อถูกทุกข์กลุ้มรุม หากยังพอมีสติอยู่ ก็มักหาทางหนีจากทุกข์ ด้วยการหันเหใจให้ไปรับรู้สิ่งอื่นที่น่าพึงพอใจแทน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยวห้าง หรือเสพเพศรส แต่หากถูกทุกข์รุมเร้าอย่างหนักจนทนไม่ไหว ก็อาจปลิดชีวิตตัวเอง มองในแง่หนึ่งนั่นคือความพยายามที่จะหนีจาก “ตัวตนที่อมทุกข์” โดยสำคัญผิดว่า ร่างกายและจิตใจนี้คือตัวตน

น่าสนใจก็ตรงที่มีบางคนที่พยายามหนีจาก “ตัวตนที่อมทุกข์” ด้วยการสลัดมันทิ้งไป แต่แทนที่จิตจะเป็นอิสระ กลับไปยึดเอาตัวตนอื่นเป็นที่พึ่งแทน กลายเป็นอีกคนหนึ่ง ต่อเมื่อตัวตนเดิมหายทุกข์ จึงกลับไปหาตัวตนนั้นและดำรงชีวิตเหมือนปกติ นี้อาจเป็นคำอธิบายว่าเหตุใดบางคนจึงมีความผิดปกติทางจิตที่เรียกว่าบุคลิกซ้อน (multiple personality disorder)

เมื่อเร็วๆ นี้มีการเปิดเผยกรณีหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง “คาเรน” เป็นหญิงวัย ๓๔ ปี ที่จิตแพทย์พบว่าเธอมีบุคลิกต่างๆ ถึง ๑๗ แบบ แต่ละแบบนั้นแตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน และไม่สื่อสารกัน แต่ละบุคลิกมีชื่อและสำนึกตัวตนแตกต่างกัน ราวกับมีคน ๑๗ คนในร่างเดียวกัน บางบุคลิกชื่อ “แคลร์” เป็นเด็ก ๗ ขวบ บางบุคลิกชื่อ “ซิดนีย์” อายุ ๕ ขวบ ในแต่ละวันคาเรนจะสลับอยู่ในบุคลิกต่างๆ กัน โดยไม่เฉลียวใจเลยว่ามีบุคลิกอื่นๆ อยู่ในตัวเธอด้วย

คาเรนเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์เมื่อ ๑๗ ปีที่แล้ว ด้วยอาการซึมเศร้าและอยากฆ่าตัวตาย ต่อมาจิตแพทย์พบว่าเธอถูกบิดาล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่เด็ก น่าแปลกก็ตรงที่เธอจำไม่ได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กับพ่อ ทั้งๆ ที่มีลูกด้วยกัน ๒ คน การปรึกษากับจิตแพทย์อย่างต่อเนื่องทำให้เขาค่อยๆ ค้นพบบุคลิกทั้ง ๑๗ อย่างในตัวเธอ

จิตแพทย์ได้พบว่า บุคลิกเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยจิตไร้สำนึกเพื่อเป็นทางหนีทุกข์ เมื่อใดก็ตามที่ไปอยู่ในบุคลิกหนึ่ง ก็จะไม่รับรู้ความทุกข์ที่เกิดกับอีกบุคลิกหนึ่ง เพราะแต่ละบุคลิกนั้นเสมือนเป็นคนละตัวตนที่ไม่เกี่ยวข้องหรือรู้จักกัน ดังนั้นเวลาคาเรนถูกพ่อกระทำมิดีมิร้าย เธอจะกลายไปเป็นเด็กชายที่ชื่อ “ไมลส์” วัย ๘ ขวบทันที เพราะจิตไร้สำนึกรู้ดีว่าเด็กชายย่อมไม่ถูกกระทำเช่นนั้นจากพ่อ พูดอีกอย่างหนึ่ง ในขณะนั้นตัวตนที่ชื่อคาเรน ถูกสลัดทิ้งไป และมีตัวตนใหม่เข้ามาแทนที่ เป็นตัวตนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับคาเรน นี้คือเหตุผลว่าทำไมคาเรนจำไม่ได้ว่าพ่อทำอะไรกับเธอ

แต่ละตัวตนมีหน้าที่ต่างๆ กันซึ่งช่วยให้เธอสามารถทนกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้ เวลาพูดคุยกับพ่อ ตัวตนที่ชื่อ “ซิดนีย์” ก็เข้ามาแทน เพราะเป็นเด็กที่ร่าเริง สามารถคุยเล่นกับพ่อได้ วิธีนี้ทำให้เธอไม่ต้องเป็นปฏิปักษ์กับพ่อ เพราะยังต้องพึ่งพาพ่ออยู่

การสลัดตัวตนเดิมทิ้งเพื่อไปยึดตัวตนใหม่ สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดบางคนจึงมีลักษณะเหมือนผีเข้า อาการดังกล่าวอาจเกิดกับหญิงสาวที่อยู่ภายใต้การดูแลกวดขันอย่างใกล้ชิดจากพ่อหรือแม่เจ้าระเบียบ ในด้านหนึ่งเธอจึงเป็นคนสุภาพเรียบร้อยราว นุ่มนวล แต่บางครั้งก็กลายเป็นคนก้าวร้าว อามรณ์รุนแรง และน่ากลัว ด่าทอพ่อแม่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ราวกับเป็นคนละคน ใช่หรือไม่ว่า บุคลิกหรือตัวตนอย่างหลังนั้นเป็นทางออกของเธอ เพื่อระบายความโกรธเกลียดใส่พ่อแม่ได้เต็มที่ ขณะเดียวกันก็สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจเธอ ซึ่งปกติไม่สามารถทำได้ในฐานะคนธรรมดา พูดอีกอย่างหนึ่ง ความเครียดจากการถูกกดดันให้อยู่ในระเบียบ รวมทั้งความทุกข์จากความรู้สึกผิดที่โกรธเกลียดพ่อแม่ ทำให้เธอไม่สามารถทนอยู่กับตัวตนเดิมที่เรียบร้อยได้ จึงต้องสลัดตัวตนนั้นทิ้ง และหาตัวตนใหม่ที่อนุญาตให้เธอทำสิ่งต่างๆ ได้ตามอำเภอใจ

การทิ้งตัวตนเดิม แล้วไปยึดตัวตนใหม่นั้น เป็นวิธีหนีทุกข์ไปได้ชั่วคราว แต่ไม่นานก็ต้องกลับมาเจอทุกข์ดังเดิม เพราะในที่สุดก็ต้องหวนคืนสู่ตัวตนเดิม ซ้ำยังมักสร้างทุกข์ใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความสับสนทางใจ กรณีดังกล่าวยังชี้ว่า การสลัดตัวตนมิใช่ของง่าย เพราะจิตมักไปยึดเอาสิ่งอื่นมาเป็นตัวตน หรือสร้างภาพลวงอย่างใหม่ให้มาเป็น “ตัวกู” แทน ความทุกข์นั้นมีพลังบีบคั้นให้จิตปล่อยวางจากตัวตน (ที่ปรุงแต่งขึ้นเอง) ก็จริง แต่หากไม่มีสติเพื่อพลิกจิตให้เห็นทุกข์แล้ว ก็ยากที่จะเกิดปัญญาจนอยู่เหนือทุกข์ได้ ตรงข้ามความทุกข์นั้นเองกลับผลักให้ไปหาตัวตนใหม่ด้วยหวังว่าจะเป็นสรณะสำหรับหลบทุกข์ได้ แต่นั่นเป็นความหลงอีกอย่างหนึ่ง เพราะตราบใดที่ยังยึดติดถือมั่นว่ามีตัวตนอยู่ ก็ต้องมี “กู ผู้ทุกข์” อยู่ร่ำไป ไม่ว่าตัวตนนั้นจะถูกปรุงแต่งให้เลอเลิศเพียงใดก็ตาม

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 at ที่ 7:48 น. by knoom
ป้ายกำกับ: บทความมติชน, พระไพศาล วิสาโล

ปล.

๑. นี่ post ครั้งที่ ๒ แล้วค่ะ ทำไม post ครั้งแรกแล้วโชว์แล้ว แต่พอเข้ามาอีกทีก็หายไปค่ะ งงๆ ค่ะ

๒. นู๋อบมิได้เป็นไรมากมายค่ะ นับว่าสบายดี มิต้องเป็นห่วงค่ะ ขอบคุณพี่ๆ ที่เป็นห่วงทุกคนค่ะ

๓. คุยไม่ค่อยเก่งค่ะ

๔. คิดถึงทุกคนค่ะ

 

โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.224 5 มิถุนายน 2551 13:40:12 น.  

 


พี่อรขา..

ยายลิงและคุณแม่..เคยไปตรวจมานานแล้วว..
หมอที่วิชัยยุทธ..เคยบอกให้เลือกว่า หลังตรวจเจอจุดแล้ว..
ให้เลือกจะผ่าเอาออกเลยวันนั้นหรือรอผลแล้วจะมาผ่าวันหลัง
ยายลิงจิตตกเลยค่ะ ตอนนั้นโชคดีกลับไปหาหมอที่อื่นที่ รพ.คามิลเลี่ยน
..หมอบอกว่า เป็นน้ำ ไม่ใช่เนื้อ..คนที่ไม่เคยมีลูกจะมีน้ำกลิ้งไปมาค่ะ
ทิ้งไว้เฉยๆ หรือจะมาดูดออกเพื่อความสบายใจก็ได้..
ยายลิงก็เกือบๆ จะเป็น นางมณโฑ..นมโตข้างเดียวแล้ววว

คุณแม่ก็เหมือนกันค่ะ ไปตรวจมา..พบสองจุดทั้งสองข้าง
แม่ตอนนั้นอยู่อเมกา โทรมาร้องไห้โฮกับยายลิง..
เราก็ใจแป้ว ใจหายไปด้วย ปรากฎว่าเป็น น้ำ เหมือนกัน..
แต่คุณแม่เคยผ่าตัดก้อนเนื้อ..เท่าลูกปิงปองไปก่อนหน้านั้นแล้ว

ตอนที่แม่เจอ.. แม่เพิ่งไปตรวจก็เป็นปรกติค่ะ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน แม่อาบน้ำก็คลำๆเองแล้วเจอ..
จึงไปหาหมอ แล้วถึงเอาออก..ค่ะ

มะเร็ง..น่ากลัวมากกกค่ะ

ยายลิงทำบุญรพ.สงฆ์มาทุกอาทิตย์..5 ปีกว่าแล้ว
ก็คิดว่า อานิสงส์นี้คงจะพอช่วยครอบครัวยายลิงได้บ้างค่ะ

วันก่อน โจ้ก็บอกบุญยายลิง..แต่ก็เนอะ เราเคยถวายเงินแสน..มุงหลังคา
ศาลาเดิม.. วัดป่ามณีกาญจน์..ร่วมกับพระอาจารย์ติ๊กค่ะ
ตอนนั้น เพิ่งกลับจากลอนดอน..ไม่เคยเก็บเงินเลย
ถือคติอย่างกับพระค่ะ
คือ ไม่สะสม.. แหะๆ ที่จริงทำบุญ ให้ทาน ให้แม่ ให้คนเอาเปรียบบ้าง
โดนหลอกบ้าง แล้วก็ให้ตัวเองหมดค่ะ
(ยิ้มแบบอายยยๆๆ)

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 5 มิถุนายน 2551 13:57:50 น.  

 

นั่นแน่...หนูอบบบบบบ
เล่นเลียนแบบคุณนางฯ
ลงเรื่องซะยาววววววววววววิ้วววววววววเลย

คุณนางฯเพิ่งเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ
มาเขียนคุยสั้น ๆ
ได้สองสามคอมเมนต์เอง

ย่าอำฯกลั๊วววววววววววววววววกลัว
วิญญาณสาระข้อมูลของคุณนางจะได้กลิ่น
แล้วทนม่ายยยยไหว
กลับเข้าร่างเดิมน่ะซิ

อย่าเพิ่งนะ อย่าเพิ่งนะ
อย่าเพิ่งเข้าสิงคุณนางฯเวลานี้
ให้ได้ฟังคุณนางฯ
คุยอารายยย ๆ ที่เบา ๆ หมองมั่งจ้า.


ย่าอำฯใช้เวลาไตร่ตรองมาหลายชั่วโมง
เห็นควรเชื่อคำเตือนของคุณยายลิงดีกว่า

ขอเวลาย่าอำอีกหนึ่งวันนะ
จะไม่ chat แระ
แต่อาจจะเข้าไปฟังเขาบ้างเล็ก ๆ

หยุดอาชีพ chat ซะที

พรุ่งนี้เย็นถึงวันอาทิตย์เย็น
ย่าอำฯจะหัดละทิ้งบ้านภาระต่าง ๆ
ไปอยู่วัดแล้วนะ
สัปดาห์ละสองวันสองคืน

เพราะฉะนั้น...
ยังม่ายต้องห่วงนะ
ว่าย่าอำฯจะหายลับดับลมหายใจไปเสียอีกคนละหรือ ?

ยังอยู่...
แต่อยู่ที่วัด

ให้ห่างเครื่องบันเทิง ทีวี วิทยุ คอมพิวเตอร์ ฯเสียบ้าง

เผื่อใจจะสงบเดินทางธรรมได้ก้าวหน้าขึ้น
ค่ะ.

 

โดย: อำไพพร IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 14:12:35 น.  

 

สาธุย่าอำค่ะ

พี่นางฯ อย่าพึ่งติดโรคหนูนะคะ

เดี๋ยวพี่ๆ เขาจะเหงาไปค่ะ

อากาศดีอย่างนี้ รักษาสุขภาพกันทุกคนนะคะ

หันมาดื่มน้ำที่อุณหภูมิปกติ (อุณหภูมิห้อง) หรือทานน้ำอุ่นถ้าอากาศเย็น หรืออยู่ห้องแอร์

บ่ายๆ ก็ไล่ลมด้วยน้ำขิง จะทำให้ไม่อึดอัดและสุขภาพดีค่ะ

ตอนนี้นู๋อบเลิกขนมนมเนย ของที่มีไขมันมากๆทั้งหลาย หันมาโซ้ยผลไม้แทนค่ะ

นอกจากจะไม่เพิ่มไขมันแล้ว ยังช่วยระบายท้องอีกด้วยนะคะ

สุขภาพดีกันทุกคนนะคะ

ยิ้มกว้างที่สุดให้พี่ๆทุกคนค่ะ

 

โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.224 5 มิถุนายน 2551 14:36:55 น.  

 


สาธุค่ะ คุณย่าอำฯ _/|\\_

วันก่อน ยายลิงไปหาจิตแพทย์ประจำตัวพี่มาค่ะ
เคยพบสองสามครั้ง ดูอบอุ่นดี เพราะแก่มากแล้ว 80 กว่า..84-85?
พอไปพบ กลับรู้สึกผิดหวัง เพราะดุที่เราไม่กินยาที่สั่งน่ะค่ะ
ยายลิงนึกว่า เป็นยานอนหลับ..เลยไม่กิน และปกติก็แพ้ยาง่ายด้วย
คงจะเป็นยากล่อมประสาทมั๊ง

ที่ผิดหวังเพราะ..พูดถึงเรื่องธรรมะ แกก็บอกว่า ทำไมต้องมีธรรมะ
โห.. บอกไม่ถูกเลยค่ะ ยายลิงน่ะใช้ ธรรมะโอสถ ใช้พุทโธๆ..
ทำให้ความดันไม่ขึ้น ทำให้นอนหลับ ทำให้ไม่คิดมากค่ะ

ก็รู้ว่า เรากะพี่กะคนรอบข้างน่ะคนละแนวเลยค่ะ
มีเค้านี่แหละ ที่พอจะพูดภาษาเดียวกันพอจะรู้เรื่องบ้าง

หลายคนไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมีหลักธรรมะ..
เพราะคนมีธรรมะ จะไม่เห่อไปกับลาภยศ
คนใหญ่คนโต
จะไม่จิตตก..หรือไม่น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนา..
ยายลิงเคยคิดถือคติ อยากจะเป็นแบบแผ่นดิน ที่มีคนเหยียบคนถ่มน้ำลาย..
ก็ไม่หวั่นไหวค่ะ

แต่เพราะเราหลงไปในกระแสโลก..ยายลิงถึงมีอาการนี้
อันที่จริง ยายลิงก็ได้รู้ได้เห็นอะไรมากมายที่พอจะวิเคราะห์ได้..
ว่า เงินหรืออำนาจนั้น..ทำให้คนเรามีความสุขจริงๆเหรอ

ที่ผ่านมาสักอาทิตย์นี้ ทำให้ยายลิงรับรู้ว่า อกุศลจิตกำลังครอบงำ..
เพราะ หลักธรรมที่มีอยู่..ไม่ได้เอามาใช้
เพราะปล่อยให้กิเลสครอบงำ เผลอใจเผลอตัวไปกลั้วกับโลกค่ะ

ความจริง ยายลิงขออะไรในใจก็ยังพอจะได้
แต่ความโลเล ความไม่แน่ใจ สับสนใจทำให้เป็นทุกข์
สิ่งที่ได้ ก็เลยไม่มั่นคง..ไม่ใช่ ของจริง..ก็เพราะ ยายลิงไม่ยอมเอาจริงไงคะ
เมื่อยังอยากเล่นๆอยู่ ก็คงจะได้เล่นต่อไปเนอะ (นิ่งหลับตา ซีเรียส จริงจัง)

ที่ยายลิงทุกข์ ก็เพราะ ความคิด..
ทุกข์เพราะ คิดผิด.. เพราะฟุ้งซ่าน เพราะ
ปล่อยให้อกุศลจิตครอบงำค่ะ

คุณย่าอำฯขา..
ในอดีต..มีแต่ยายลิงคนเดียวแหละที่เขียนมาก พิมพ์มาก สาธยายมาก
คนอื่นๆนั้น มีแต่แปะๆๆค่า (ยิ้มๆ)

คนอื่นๆน่ะเขาฉลาด..เข้ามาอ่าน มาทัก มาร้องเพลง หรือแปะค่ะ
ที่ยายลิงมีแควน หรือ แควนคลับก็เพราะยายลิงเป็นคนเปิดเผย
ก่อนนี้ ทั้งบ้าดีเดือด และ บ้าระห่ำค่ะ กลัวใครซะที่ไหน
ถามนู๋กาดูซี เคยราวีกับทั้งผู้ดูแล ทั้งสมาชิกค่ะ

ตอนหลังเจ็บเพราะเข้าเนื้อไง คนมีแผลจะไม่ค่อยกล้าค่ะ (น้ำลาย เอ๊ย น้ำตานอง)

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 5 มิถุนายน 2551 15:20:39 น.  

 


..ทุกข์จากการมีคู่ อันดับหนึ่งคือ การห้ามเขียน ห้ามโพสน่ะค่ะ

ยายลิงมีความสุขจริงๆ ในโลกส่วนตัว
ก่อนนี้ ตื่นเช้ามาจะคิดว่าจะพิมพ์เรื่องใด
เรื่องจริง ชีวิตจริงจะเป็นอุทาหรณ์ให้ใครๆได้
ยิ่งได้ทำบุญกับหนังสือคุณตุลย์ ทำให้ยายลิงแตกฉานค่ะ (ยิ้มมม)

เราจะมองโลก มองคนในแง่ กรรมวิบากหมดเลย
อันที่จริง ก็เป็น คำให้พร ของคุณตุลย์ด้วยค่ะ
ตอนนั้น งานประจำคือ การทำบุญ และแจกหนังสือธรรมะ..

เสียดาย..ที่หลังจากมีคู่ ทำให้ทุกอย่างชะงักงัน
เพราะมัวแต่ทุกข์ กับ..ความไม่ได้ดังใจไงคะ
แต่ใช่ว่า ยายลิงจะเพิกเฉยเสียทีเดียวนะ..
ทุกๆเช้าตอนแต่งตัวมาทำงานก็มักจะใช้ความคิดพิจารณาไปเรื่อยๆค่ะ
แต่ก็ตอนหลังไปวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองมากไปหน่อย
..จิตถึงได้ตก ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆๆไงคะ

ยายลิงจะเป็นนักเขียนให้ได้ค่ะ
วันนึง ถึงคราวอับจน..จะเขียนหนังสือและปฎิบัติธรรมค่ะ _/|\\_

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 5 มิถุนายน 2551 15:38:44 น.  

 

คุณย่าอำฯ.... น้องลิง.... คะ

มาชวน มาชวน ค่ะ

วันศุกร์ที่ 27 มิ.ย. 2551 เวลา 07.30-14.30 น.
พระอาจารย์อารยะวังโส
วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จว.ลำพูน
แสดงธรรมและนำอบรมกัมมัฏฐาน
เรื่อง "การพัฒนาสุขภาพจิตด้วยกรรมฐานในวิถีพุทธ"
ณ ห้องประชุม 801 อาคาร 8
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี

การอบรมครั้งนี้ มาใช้ห้องประชุม
ของหน่วยงาน สว. ค่ะ
เชิญมาพบกันได้ค่ะ


 

โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 5 มิถุนายน 2551 15:46:16 น.  

 

ปาด(โถ่)พี่อรขา

ว่าจะจดไปให้คุณแม่จั๊กกะหน่อย

คุณแม่พึ่งบอกเมื่อเช้าเองว่าจะไปปฏิบัติธรรมที่โพธิปักฯอีกค่ะ 21-29/6

มะมีโอกาสได้กราบพระอาจารย์ซักกะที

สงสัยบ่อมีวาสนาต่อกัน

ไว้โอกาสต่อๆๆๆๆ ไปนะคะ

 

โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.224 5 มิถุนายน 2551 17:13:23 น.  

 

คิดครวญคร่ำ เพ้อพร่ำ ตามตนคิด

หลงยึดติด ว่าคิดนั้น คือฉันหรือ

หลงความคิด ว่าคือกู ของกูฤา

หลงยึดถือ ก็วกวน จนวางวาย



เมื่อคิดอยู่ ก็ให้รู้ อยู่ว่าคิด

ตามจริต ฟุ้งซ่าน เรามีอยู่

รู้ตามไป สติพลัน ตื่นตัวดู

ที่คิดอยู่ พลันดับ ไปกับตา


โอ้เห็นแจ้ง แล้วหนอ ว่าคิดนี้

มิใช่มี ตัวตนแท้ เสียที่ไหน

เป็นแต่เพียง ของเกิดดับ ตามปัจจัย

เหตุหมดไซร้ ก็ไตรลักษณ์ อนัตตา

__/\\__

+ _ +

 

โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.224 5 มิถุนายน 2551 17:25:36 น.  

 


คุณย่าสายรุ้ง

อายุ 61/16


@*!*@

 

โดย: 007/11 IP: 58.147.39.28 5 มิถุนายน 2551 17:31:26 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน
คห.ที่ 23 ของคนมีความสุข
_/|\\_

พรุ่งนี้เย็นถึงวันอาทิตย์เย็น
ย่าอำฯจะหัดละทิ้งบ้านภาระต่าง ๆ
ไปอยู่วัดแล้วนะ
สัปดาห์ละสองวันสองคืน
_/|\\_

ที่ผิดหวังเพราะ..พูดถึงเรื่องธรรมะ แกก็บอกว่า ทำไมต้องมีธรรมะ
โห.. บอกไม่ถูกเลยค่ะ ยายลิงน่ะใช้ ธรรมะโอสถ ใช้พุทโธๆ..
ทำให้ความดันไม่ขึ้น ทำให้นอนหลับ ทำให้ไม่คิดมากค่ะ
_/|\\_

หลายคนไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมีหลักธรรมะ..
เพราะคนมีธรรมะ จะไม่เห่อไปกับลาภยศ
คนใหญ่คนโต
จะไม่จิตตก..หรือไม่น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนา..
ยายลิงเคยคิดถือคติ อยากจะเป็นแบบแผ่นดิน ที่มีคนเหยียบคนถ่มน้ำลาย..
ก็ไม่หวั่นไหวค่ะ

แต่เพราะเราหลงไปในกระแสโลก..ยายลิงถึงมีอาการนี้
อันที่จริง ยายลิงก็ได้รู้ได้เห็นอะไรมากมายที่พอจะวิเคราะห์ได้..
ว่า เงินหรืออำนาจนั้น..ทำให้คนเรามีความสุขจริงๆเหรอ
_/|\\_

ยายลิงจะเป็นนักเขียนให้ได้ค่ะ
วันนึง ถึงคราวอับจน..จะเขียนหนังสือและปฎิบัติธรรมค่ะ
_/|\\_

คห.ที่ 26 ของคนมีความสุข
_/|\\_

ถ้าเป็นความลับ..ไม่ขอทราบดีกว่าค่ะ..
รักษาความลับ..มันหนักอ่ะค่ะ..
3รอยยิ้ม

เมื่อคืนเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่า...คุณมุ่งโพสต์เฉือนปลายจมูกไปแค่ 20 วิ เองนะ (หัวเราะปากกว้าง 1 ครั้ง)
3รอยยิ้ม

คห.ที่ 10 ของคนมีความสุข
3รอยยิ้ม

ธรรมะสวัสดีครับ

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 5 มิถุนายน 2551 17:39:04 น.  

 

แฮ่มมมม ๆๆๆๆ
Mr. 007/11 มาทักทายเจ้าย่าฯ ซ้าด้วย
เรียกเจ้าย่าสายรุ้ง ...อืมม์ หวานซ้า

เจ้าบ้านว่าแล้วเชียว
แล้วทำไมไม่ทักกันเลยน้อ
ทำนิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหวรึ?
(ภาพเชิด...งอนอ่ะ)

เจ้าย่าฯ ...คุณนางฯ ... Mr.007/11
ได้ปะกะ "คนบ้าคนเก่า" ป่าว
เหอ ๆๆๆๆ ... ไม่อยากจะคุย
คนบ้าฯ เจอเจ้สา (บ้ากว่า)
หายบ้าไปเลยอ่ะ
เขาบ้ามา ... นู๋กาบ้า (กว่า) ไป
อิอิ ...อึ้งไปเรยยยย
(หัวเราะปากกว้างเห็นลิ้นไก่)

นู๋อบ...ขออำภัยด้วยเน้อ
ว่าจะแจ้งให้ทราบ ไม่ทันอ่ะ
คห.ก่อน เจ้าบ้านย้ายไปเอง
ย้ายไปอยู่ในส่วนของสาระจ้ะ
หน้านี้จะได้ไม่โหลดนานนัก
(หน้าสลดนิดหน่อย)

พี่ลิงจ๋า...
ลองเขียนส่งธรรมะใกล้ตัวดูจิ
เผื่อจะได้นักเขียนประดับวงการ
เพิ่มอีก 1 คน
เฮ้ ... นู๋กามาเชียร์ค่ะ

 

โดย: โก๊ะ...จัง IP: 124.120.108.54 5 มิถุนายน 2551 18:03:49 น.  

 

แล้ววันนี้จะมีโอกาสได้เจอ
Mr.Bond มั๊ยน้า?
คงจะแปลงร่างอีกละ

ไม่น่าบอกเล้ยยยยย
(ภาพหน้ามุ่ย 3 ภาพ)

 

โดย: โก๊ะ...จัง IP: 124.120.108.54 5 มิถุนายน 2551 18:36:19 น.  

 

นู๋กาขออนุโมทนากับเจ้าย่าสายรุ้งด้วยค่ะ ..ที่จะไปวัดภาวนาทุกสัปดาห์ อยากมีโอกาสอย่างเจ้าย่าฯ มั่งจัง

อิอิ ...ถ้าพูดอย่างนี้ต่อหน้า ลพ.ท่านจะต่อว่าเอา ...แล้วแต่ละวันไม่ภาวนารึ จะภาวนาเฉพาะเวลาไปวัดหรือไง?
(ภาพหน้าจ๋อย)

พี่ลิงจ๋า...
หัดเขียนในบ้านนี้ก็ได้น้า
นาน ๆ พี่ลิงจะเขียนไรยาว ๆ แบบนี้
ดีออกค่ะ
มีไรเล่าแบ่งปันกัน

บ้านนี้เป็นบ้านสุขสันต์
ของคนสุขสันต์นี่นา
คนเป็นแฟนพันธ์แท้จริง ๆ
จึงจะเข้ามาอ่านอย่างต่อเนื่องค่ะ

เวลาขึ้นหน้าใหม่เท่านั้น
หน้านี้จะไปปรากฏในหน้ารวมของบล็อก
หัวข้อที่ตั้งใจ จะดึงคนเข้ามาอ่านดู
อ่านแล้วก็ไป ...
ความต่อเนื่องจะอยู่เฉพาะแฟนพันธ์แท้เท่านั้นค่ะ

ตอนนี้แฟนพันธ์แท้จริง ๆ
ก็มีกันอยู่แค่นี้เองล่ะค่ะ
ใครจะแปลงร่าง (ชื่อ) ยังไง
ก็ไม่มีความสำคัญหรอกเนอะ
ขอแค่รู้ว่าแวะมา ก็ดีใจแล้ว
(ภาพยิ้มปากกว้าง ๆๆๆๆ)


 

โดย: สาวิกา IP: 124.120.108.54 5 มิถุนายน 2551 19:19:49 น.  

 

ถึงคุณ.........

พี่มิได้ขำก๊ากกก.....มาหลายเพลา
ได้โปรด......จัด............ให้ด้วยนะคะ
(หน้า ละห้อย)

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
(ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม)


 

โดย: โอรัช IP: 125.24.126.8 5 มิถุนายน 2551 19:36:04 น.  

 

พี่อรขำก๊ากกกกกกกเลยรึ?

ขำอาราย ... บอกนู๋กาหน่อยจิ
นู๋กาไม่ได้ขำก๊ากกกกก ๆๆๆๆ
มานานแล้วเหมือนกัน

มีคนเคยขำนู๋กาก๊ากกกกกก ๆ
แต่นู๋กาไม่ขำด้วยอ่ะ
ก็คนอาไร๊ ...มาขำนู๋กา
ตอนนู๋กากำลังเคืองอ่ะ
ใครจะไปขำออกเนอะ...

ขอขำด้วยคนน้าพี่อร...

 

โดย: สาวิกา IP: 124.120.108.54 5 มิถุนายน 2551 19:56:29 น.  

 

ขำ..... ก๊าก ก๊าก ก๊าก
ม่าย.....บอก

ขออนุโมทนา คุณย่าอำฯ ค่ะ
อือ....แล้วอย่าไปชวนพระท่าน Chat นะคะ
(ล้อเล่น..... หน่า)

น้องลิง....คะ
พี่รออ่าน บทความ...ค่ะ

ได้อ่าน กลอน ที่หลาย ๆคนเขียน
ชื่นชม ฝีปาก นักกลอน บ้านนี้
สว.กลุ้มใจกับตัวเอง เหลือเกิน
แต่งม่าย.....เป็น
คือว่า มันนึกคำไม่ออกอ่ะ
สมองไม่เวอร์ค.....





 

โดย: โอรัช IP: 125.24.126.8 5 มิถุนายน 2551 20:34:18 น.  

 

พี่อร...
ตะก่อนนู๋กาก็แต่งกลอนไม่เป็นนะ
แต่มีผู้จุดประกายให้อ่ะค่ะ

ก็ลอง ๆ แต่งดู
อิอิ ...ตอนนี้นะ
นู๋กานั่งรถทีไร
บทกลอนจะผุดขึ้นมาเวลานั่งรถปราจำ
(ภาพที่ 7 แถว 3)

จะจดก็จดไม่ได้
พอจะมาเขียน ลืมโหม๊ดแหล่ว
(ภาพที่ 4 แถวที่ 1)

คุณครูชมด้วยแหละ
มีบทกลอนจากใจ...ไหลมาเรื่อยค่ะ
แต่มะอยากเขียนอ่ะ
เด๋วพี่อรแซวนู๋อีก ...
(ภาพอ๊ายยยย อาย...ที่ 2 แถว 3)



 

โดย: สาวิกา IP: 124.120.108.54 5 มิถุนายน 2551 20:47:25 น.  

 



เรื่องเล่าจากเด็กสา'สุข



เรื่องของ...อุนจิ...อึ...ขี้..(ตามชอบ)



1.อึล่องหน

เป็นประเภทที่คุณรู้สึกเหมือนมันกำลังจะหลุดออกมา
แต่พอรีบแจ้นไปนั่งส้วม
ปรากฎว่า...ไม่ออกแฮะ
อย่างมากก็ผายลมสามสี่ครั้ง


2.อึสะอาด

เป็นประเภทที่ เมื่อคุณอึออกมาแล้ว
มองก็เห็นลอยอยู่ในโถ
แต่พอมองกระดาษเช็ดก้นที่ใช้ไปแล้ว
เออ...ยังดูสะอาดดีนี่หว่า


3.อึเปียก

เป็นประเภทที่เช็ดก้นไปสิบกว่ารอบแล้ว
แต่ยังรู้สึกเหมือนไม่ได้เช็ด
จนคุณต้องดึงกระดาษชำระส่วนหนึ่ง
มารองระหว่างก้นคุณกะกางเกงใน
เพื่อจะได้ไม่เกิดร่องรอยอารยธรรม


4.อึระลอกสอง

เกิดขึ้นเมื่อคุณอึเสร็จไปแล้ว
กำลังดึงกางเกงขึ้นมาถึงหัวเข่า
จะใส่อยู่รอมร่อ
แต่ทันใดนั้น...
ความรู้สึกนี้ก็เกิดขึ้น
แล้วคุณก็ตระหนักว่า...
คุณยังมีอึล็อตใหม่ที่ยังต้องระบายออกอีก


5.อึเลือดขึ้นหน้า

เป็นอาการปวดอึแบบสุดโต่ง
เกินกว่าจะทนได้
นั่นไง.....มันกำลังทะลักออกมาแล้วววว


6.อึท่อนซุงยักษ์

เป็นอึชนิดก้อนใหญ่พิเศษ
คุณก้มลงมองดู
โอ๊ววว..น่ากลัวจัง
มันจะถูกดูดลงไปในคราวเดียวกันได้รึนี่
ว่าแล้ว
คุณก็ฉวยแปรงขัดส้วม
มาตีให้มันแตก...เป็นส่วนน้อยๆเสียก่อน
เอ๊ะ...มันก็เหมือนกล้วยหอมนะนี่


7.อึเปี่ยมแก๊ส

มีลักษณะเสียงดังกึกก้อง
จนคนที่อยู่แถวนั้น ขยับเสียงคิกคัก


8.อึคนเมา

ลักษณะของอึที่ปล่อยในตอนเช้า
หลังคืนที่ไปดื่มหนักมา
ส่วนใหญ่จะเป็นที่สังเกตได้ว่า ข้นเหนียว
จนมักฝากร่องรอยที่ระลึกในโถส้วม


9.อึข้าวโพด

ชื่อก็บอกอยู่แล้ว จะให้อธิบายอีกเหรอ
ดีไม่ดีมันมาเป็นฝักล่ะ...ยุ่งเล้ยยย


10.อึดอกสว่าน

มันจะทำให้รูก้นแสบสัน สะท้านทรวง
จนคุณต้องบิดตัวไปมาด้วยความเร่าร้อน
เมื่อไหร่จะสุด...ฟะ
คุณต้องรวบรวมพลังครั้งสุดท้าย...
อ้าววววว....ฮุยเลฮุย...ฮึบฮึบ


11.อึแก้มเปียก ( กำลังส่งสูง )

อึประเภทนี้
จะถูกขับอกมาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
จนทำให้แก้มก้นพลอยเปียกไปด้วย
อืมมม....อันตรายเหมือนกันนะเนี่ยยย


12.อึต่องแต่ง

เป็นอาการที่อึปฏิเสธที่จะหล่นลงมา
ถึงแม้ว่าคุณ..จะปล่อยสุดแล้วก็ตาม
จนคุณต้องสะบัดก้นสักครั้งสองครั้ง
เพื่อหวังให้มันหลุดออกจาก...ขั้วก้น
อ้าวววว......ฮึบ


13.อึประหลาดใจ

คุณ...
ไม่ได้อยู่ที่ห้องน้ำด้วยซ้ำ
เพราะคุณ...มั่นใจว่า...เพียงแค่ตด
ชะอุ้ย....คุณขี้แตก



แหวะ.


 

โดย: 007/11 IP: 222.123.57.34 5 มิถุนายน 2551 20:54:26 น.  

 

พี่อรอยู่ไหนจ๊า
มาเร็ว ๆ จ้า
คุณ ......
นำเรื่องจากเด็กสาสุขมาให้อ่าน
แหวะ ๆๆๆๆๆ

มาขำก๊ากกกกกกซะให้สะใจไปเรยยยย


 

โดย: สาวิกา 5 มิถุนายน 2551 21:41:59 น.  

 

***คุณย่าสายรุ้ง
อายุ 61/16
@*!*@
โดย: 007/11 IP: 58.147.39.28 5 มิถุนายน 2551 17:31:26 น.***

(ภาพหญิงสาวอายุ ๑๖ อายม้วนต้วนหน้า
แดง ๑ ภาพ)
เหม๋....
มีคนใจกล้ามาเปิดเผยนามแฝงย่าอำฯตอน chat ซะแว้ว
ไม่ได้ใช้"คุณย่าสายรุ้ง"นะ
ใช้สายรุ้ง...
บางทีเวลาคุยกับคนอื่นก็เรียกเขาว่าพี่
แทนตัวเองว่ารุ้ง...แค่นั้นเอง

ว่าแล้วเชียว
วันนั้นทำไม้ทำไมถึงสะดุดตา
ตาคนเนี๊ยะ...007/11
สายลับของบ้านรวมพลฯ
ยังรู้สึกถึงความนิ่งไม่ไหวติงของตาคนเนี๊ยะอยู่เลย

หนูรุ้งเธอจีบหนูหนอนผีเสื้อ กะ หนูธรรมมี้อยู่
ภาระกิจนี้ยังไม่สำมะเร็จ
แต่จะเลิก chat ซะแล้วนะซิ
(ตามความห่วงใยของคุณยายลิง)
กะว่าจะเข้าไปปล่อยขนมจีบเล็ก ๆ น้อย
เป็นครั้งคราวจ้า

(ภาพหน้าเศร้ามาก ๆ)
ขอโทษหนูกาด้วยนะ
ที่แย้งคุณจุดไปเรื่องชื่อนั้น...
พี่เห็นไม่สมควร
และทนไม่ได้
กลัวเธอจะลามปามเลยไปกว่าที่ควร
เป็นของไม่ควรนำมากล่าวเปะปะ
(ภาพมือสวยมากยกขึ้นไหว้อย่างสวยงาม)

อิ อิ
007/11...ขา
แน่จริงบอกมาเล้ยยยยยยยยยยย
ครายคือหนู ก.ไก่
(ภาพหน้ายิ้มเย้ยยยยยยยยย ๓ ภาพ)


***เรื่องเล่าจากเด็กสา'สุข
โดย: 007/11 IP: 222.123.57.34 5 มิถุนายน 2551 20:54:26 น.***

ดีใจจัง...
เลิกปิดวาจาแล้ว...
ว่าซะยาวววววววววววววววววววววว
อ่านตามแทบไม่ไหว...

เคยฝันเห็นอึเป็นก้อนแข็ง
วางอยู่บนจาน
คล้าย ๆ ภูทุเรียน
เอามีจับได้ไม่รังเกียจเลย
แต่พอถึงก้อนสุดท้าย
ความรังเกียจปรากฏขึ้นมา
นำมาพิจารณาทบทวนได้ว่า...
ช่วงที่หยิบได้ไม่มีความรังเกียจ
จิตเขารับรู้แค่เป็นเพียงธาตุ ๔
ไม่ได้กำหนดหมายว่าเป็นสมมติอะไร
แต่ตอนท้ายที่เริ่มรู้สึกรังเกียจนั้น
จิตเขาเริ่มคลายออกจากแค่ความเป็นธาตุ ๔
กลับมาจับอยู่กับสมมติ
ฝันนี้นำทางให้ย่าอำฯ...
เริ่มหัดพิจารณามองดูทุกสิ่ง...
ที่ความเป็นธาตุมากขึ้น
ก็พอจะมองเห็นนะ
ถ้าทรงไว้ได้
ความเป็นตัวตนความเป็นเราของเรา
จะค่อย ๆ คลายลงได้
แต่...
(ภาพหน้าตาหม่นหมอง+น้ำตาไหล ๑ ภาพ)
ยังทำไม่ได้เลย...

แหมมมมมมม
เสียดายจัง
ที่ไม่เห็นตอนหนูกาประคารมกับตาคนบ้า
วันนี้พี่แกก็สถิตอยู่ตั้งแต่เช้ายันเย็น
เข้าไปทีไร...เห็นทู้กที
ตาแกคงจะดีเป็นบ้าเลย
อยู่หน้าจอได้ทั้งวัน

คุณนางฯขา
ฟามลับแตกดังโป๊ะแล้ว
ทักทายกันนะคะ
ถ้าพบกันที่ห้อง chat

เอ...แต่ไม่แน่
เปลี่ยนชื่อใหม่ดีมั๊ยน้า
นักสืบจะได้ไล่จับเราไม่ได้
(ภาพอิคิวซังเอาสองมือจับหัวอยู่)

 

โดย: น้องสายรุ้ง... IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 22:51:30 น.  

 

***ขออนุโมทนา คุณย่าอำฯ ค่ะ
อือ....แล้วอย่าไปชวนพระท่าน Chat นะคะ
(ล้อเล่น..... หน่า)***

ห้ามช้าไปต๋อยจ๋า
หนูหนอนเด็กที่รุ้งจีบอยู่น่ะ
เธอชวนพระ(หรือเณรก็ไม่รู้นะ)
มาหัด chat เกี่ยวกับธรรมะนะ
แต่พระ chat ไม่ออกวนไปวนมา
ภาษาไม่เข้าใจกัน
รุ้งเลยต้องแอ๊บวัยจาก ๖๑ ให้เป็น ๑๖ ไง
อิ อิ
สงสัยรุ้งจะบาปพอควรทีเดียวนิ
ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์นี้
จะไปเพิ่มกุศลให้ตัวเองที่วัด
จะได้เร่งเกียร์หนีบาปทัน.


***ยายลิงจะเป็นนักเขียนให้ได้ค่ะ***

คุณยายลิงขา
ขอเป็นกำลังใจหนับหนุนนะคะ
ให้ได้ค่าเรื่องบรรทัดละสิบบาทเลยค่ะ
(หน้ายิ้มแจ่มใส ชูนิ้วัวแม่มือให้ทั้งสองมือ ๑ ภาพ)


***คห.ที่ 28 ของคนมีความสุข
โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.224 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:17:25:36 น.***

(ภาพสาวสวยชื่อรุ้งอายุ ๑๖ ปี น้อมไหว้อย่างสวยงาม ๑ ภาพ)



***วันศุกร์ที่ 27 มิ.ย. 2551 เวลา 07.30-14.30 น.
พระอาจารย์อารยะวังโส
วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จว.ลำพูน
แสดงธรรมและนำอบรมกัมมัฏฐาน
เรื่อง "การพัฒนาสุขภาพจิตด้วยกรรมฐานในวิถีพุทธ"
ณ ห้องประชุม 801 อาคาร 8
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี***

ขอบพระคุณค่ะที่กรุณาส่งข่าว...
ขอเวลาหน่อยนะคะ
ยังให้คำตอบไม่ได้
ใจอยากไป
รอพี่สาวอยู่
แต่ต้องไปอยู่วัดทุกสัปดาห์
ตามที่ตั้งใจไว้นะซิ...




 

โดย: น้องรุ้ง... IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 23:10:31 น.  

 

หนูกา...
จุกจิกหรือ ?
ถ้าใช่
เราแซวไปแล้ว
ว่าชื่อไร จุกจิก หรือจุ๊กจิ๊ก
เราอารมณ์บ่จอยนะ
ตอบมาห้วน ๆ ว่าจุกจิกความหมายไม่ดี
เธอชื่อจุ๊กจิ๊ก.

แต่รุ้งว่าไม่ใช่นะ
พี่นักสืบ
หาใหม่ดีก่า
ฮา ฮา

หนูกา...
หลับอยู่ก็ตื่นมาเลยนะ
มาเฉลยที...
รุ้งก็อยากรู้เหมี้ยนนนนกัลลลลลล.

 

โดย: น้องรุ้งคนสวย... IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 23:16:23 น.  

 


สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


ย่าอักครับ...ครั้งแรกที่ได้เข้าห้องแชทก็เจอคนบ้า...ทำให้ตกใจว่าคนประเภทนี้ยังมีเหลืออยู่อีกหรือ...หลังจากที่ไม่ได้เจอมานานมากแล้ว...แต่พอมาคิดอีกทีก็เท่ากับว่าเขาทำให้เราเกิดการเรียนรู้...จึงทำให้คิดได้ว่าการเรียนรู้ต้องทำทั้งภายในและภายนอก...ก็จะเป็นการเรียนรู้ที่แท้จริง..แต่ถ้าจะให้รู้ยิ่งต้องเป็นการรู้แล้ววาง...คือรู้แบบไม่รับรู้

บางท่านอาจจะ งง ๆ ว่ารู้แบบไม่รับรู้นะมีด้วยหรือ...ยกตัวอย่างเช่นเรากำลังอะไรสักอย่าง...สิ่งที่เรามองนั้นถ้าเราไม่เอาใจไปใส่กับมัน...เราก็จะไม่รับรู้ว่าสิ่งที่เรามองนั้นคืออะไร...สักแต่ว่ามองไม่ได้ไปยึดถือว่ามันคืออะไร...ทำให้เราไม่ต้องไปแบกรับความรู้สึกที่เกิดจากการมอง...เราก็จะโล่งเบาสบายเหมือนไม่มีอะไรมาคอยบีบรัดตัวเรา...ทำให้เราเป็นอิสระจากสิ่งทั้งปวงที่จะมาร้อยรัดเราลงได้...

ในทางตรงกันข้าม...ถ้าเราไปมัวโฟกัสในทุก ๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต...ก็จะทำให้เรารู้สึกอึดอัดกับชีวิตในทุก ๆ วัน...เท่ากับว่าเราไปยอมรับข้อผูกมัดหรือเงื่อนไขต่าง ๆ ทางความรู้สึกที่เราเองเป็นผู้กำหนดขึ้นมา...ทำให้ชีวิตของคนเรามีแต่เรื่องอึดอัดใจอยู่ตลอดเวลาทุกวัน...

เมื่อเป็นดังนี้แล้ว...เราก็จงเลือกเอาเถิดว่า...เราจะผูกติดอยู่กับความสบายใจหรือความทุกข์ใจ...เมื่อใดที่เราคิดได้และเข้าใจได้ชัดเจนแล้ว...เมื่อนั้นเราก็จะหลุดพ้นจากภาวะของการถูกครองงำทางความรู้สึกลงไปได้...ทำให้เรามีความเป็นอิสระอย่างแท้จริง...ปรารศจากสิ่งที่วุ่นวายอันเป็นเหตุให้เราต้องเดือดเนื้อร้อนใจอยู่ร่ำไป

ก็สลับๆกันไปบ้างนะระหว่างข้อมูลข่าวสารและการพูดคุย...ปกติก็ไม่ค่อยถนัดในการพิมพ์เชิงพูดคุยเท่าไหร่...เพราะว่ามันไม่รู้สึกต่อเนื่องเหมือนการพูดคุยกันโดยตรง...

ช่วงนี้เจ้าบ้านและหลาย ๆ ท่าน...พัฒนาฝีมือเชิงแต่งกลอนได้ดีมากขึ้น...จนเป็นที่ยอมรับจากใจจริงว่า...บางครั้งเราเองก็ชักจะสู้ไม่ได้เสียแล้ว...โดนคลื่นลูกใหม่มาไล่คลื่นลูกเก่าจนต้องถอยหลังเข้าคลองไปซะแล้ว...ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งครับ (ยิ้มแบบอบอุ่น 1 ครั้ง)

คุณยายลิงและทุก ๆท่านครับ...แม้ว่าเราจะเสียอะไรก็ให้เสียไป...แต่ขออย่าให้เสียกำลังใจก็แล้วกัน...และตราบใดที่ลมหายใจยังคงอยู่...เราก็ยังคงสู้ต่อไปได้อีกนานเท่านาน (ยิ้มแบบให้กำลังใจ 1 ครั้ง)

 

โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.211.145 5 มิถุนายน 2551 23:19:20 น.  

 

เราอารมณ์บ่จอยนะ

ขอแก้ไขเป็ประโยคล่างนะคะ
พิมพ์ผิดแค่สองตัวอักษรความหมายไกลกันเลย

เธออารมณ์บ่จอยนะ

 

โดย: รุ้งผู้ผิดพลาด... IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 23:24:06 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณนางฯ...

ครั้งแรกที่เข้าไป
ก็เห็นเขาใช้ภาษาที่รุนแรง
มีสองท่านค่ะ
ที่จะใช้ภาษาว่ากันอย่างไม่มีความยับยั้ง
ถอยเลยค่ะ
แต่ก็ตัดสินใจเข้าไปดูใหม่
มองดูไปเรื่อย ๆ
ก็ได้คิดน่ะค่ะว่า...
แค่ภาษาสมมติเท่านั้นเอง
น่าจะรับฟังได้
ตอนหลัง ๆ
ก็ฟังอย่างไม่ลงรายละเอียด
เพียงรู้ว่า
เขาโต้แย้งกัน
กำลังสอนธรรมกัน
ด้วยวิธีอีกวิธีหนึ่ง
ที่เหมาะสำหรับเขา
แต่ครูบาอาจารย์ของย่าอำฯ
ไม่เคยพูดคำหยาบหรือด่าว่าลูกศิษย์แรง ๆ เลย
ท่านงดงามมาก
จะดุก็แค่คำว่า...ฮึ้ยยย
คำนี้จะหนักเบาสั้นยาว
ตามแต่ระดับความผิดของศิษย์ค่ะ
เป็นตัวอย่างที่ย่าอำฯ...
จดจำและจะไม่ทำให้ผิดแผกไปจากที่ครูบาอาจารย์ทำให้ดู

คุณนางฯคุยมาในลักษณะอย่างนี้
ย่าอำฯว่าให้ประโยชน์แก่พวกเรามาก
ไม่ต่างจากนำสาระความรู้มาให้เรา
ก็สลับกันบ้างก็ดีนะคะ
ตามแต่ความสะดวกของคุณนางฯค่ะ.

 

โดย: ย่าอำฯ IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 23:38:09 น.  

 

***คห.ที่ 38 ของคนมีความสุข ***

คุณอรขา
เรียกร้องอยากขำกร๊ากกกกกกก
มีคนจัดให้แล้วค่ะ
ขำอย่างไรอย่าลืมส่งควมขำไปกำนัลเขาด้วยนะคะ
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 

โดย: ย่าอำฯเองจ้า IP: 125.26.31.56 5 มิถุนายน 2551 23:41:08 น.  

 


สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


วันนี้เป็นเช้าที่ท้องฟ้าสดใสมาก...แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ได้กี่ชั่วโมง...เพราะว่าเดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอนเสมอไป...เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายล้วนเกิดดัสลับกันไป...

ธรรมชาติและสภาพแวดล้อมเป็นครูที่คอยสอนเราได้เป็นอย่างดี...อยู่ที่นักเรียนว่าจะเรียนรู้และเข้าใจได้แค่ใหน...จะได้กำไรหรือขาดทุนก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน...ที่สำคัญที่สุดก็คือการรู้จักพลิกอารมณ์จากด้านหนึ่งมาเป็นอีกด้านหนึ่ง...ด้วยความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องที่ชัดเจน...ดังนั้นการจะได้หรือเสียก็อยู่ที่การรู้จักพลิกนั่นเอง...แต่ถ้าเป็นพริกขี้หนูนะคงไม่ไหว...เผ็ดมากคร้าบบพี่น้อง


ก็รู้สึกสนุกดีครับย่าอัก...ที่ได้เห็นแนวความคิดหลากหลายในห้องแชท...สิ่งใหนที่เราไม่เคยรู้ก็จะได้รู้...สิ่งใหนที่รู้แล้วก็จะได้ทำความเข้าใจเพิ่มขึ้น...ส่วนคนที่เข้ามาถ่ายทอดก็ไปว่าเขาไม่ได้นะ...เพราะว่าคนเรารู้และเข้าใจมาอย่างไรก็ถ่ายทอดไปตามนั้น...เพียงแต่เราอย่าเอาความรู้ความเข้าใจของเราไปเป็นข้อโต้แย้งกับใคร...เราก็จะเป็นผู้ดูที่ได้กับได้แต่เพียงอย่างเดียว...ว่าป่ะ ย่าอัก คริ คริ

 

โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.202.121 6 มิถุนายน 2551 8:34:01 น.  

 


สวัสดีค่ะ...พลพรรคทุก ๆ ท่าน

แหม ๆๆๆๆ ลูกบ้านเราหนุกหนานในการ chat กันใหญ่

เมื่อคืนนู๋กาหลับไวค่ะ แต่รู้สึกตัวขึ้นมาตอนดึก ดูนาฬิกา เอ...เพิ่งหลับไปแป๊บเดียวตื่นทำไมละเนี่ยะ ... ที่ไหนได้น้องรุ้งมาตะโกนเรียกให้ตื่นนี่เอง

ช่วงนี้นู๋กาใช้เวลาหน้าจอน้อยลงค่ะ บางครั้งการพูดคุยด้วยตัวอักษรก็ไม่ตรงกับอารมณ์ที่แท้จริง ก็ขนาดคนเคยคุยกันดี ๆ ยังไม่เข้าใจกันได้เลยนี่นา แล้วตัวอักษรจะสื่อกันได้อย่างไรอะเนอะ

อิอิ...นักสืบคนนี้เก่งทีเดียวเชียว รู้ไปโหม้ด ...ถ้าน้องรุ้งเป็นแฟนพันธ์แท้บ้านรวมพลฯ รุ่นแรก แค่เห็น Mr.Bond ปรากฏน้องรุ้งก็ต้องรู้อยู่แล้ว

คนบ้าฯ น่ะแกล้งบ้าอ่ะ ตอนแรกมาไล่นู๋กาไปไกล ๆ อย่ายุ่ง เดี๋ยวจะตบจูบ เฮอะ ๆๆๆๆ แฟนละครน้ำเน่าช่อง 7

ยังกับกัวเนอะ บ้านนี้เค้าจู๊บ ๆๆๆๆ กันเกือบทุกวัน กัวไรกับตบจูบ เขาเลยเหวออ่ะ ...พอดีนู๋กากำลังจะกินข้าว เลยชวนเขากินด้วย มีต้มจืดมะระของโปรดของเขาพอดี เขาเลยหายบ้าเลยอะจิ 5555


 

โดย: สาวิกา 6 มิถุนายน 2551 9:06:24 น.  

 

สวัสดีค่ะ _/|\\_ ทุก ๆ ท่าน..

เช้านี้..มาทำงาน มีความรู้สึกคล้ายๆแบบเดิมค่ะ
ก็ครือ.. ตื้นเต้นที่จะมาเปิดอ่านในนี้
แต่ๆๆ อ่านไป ดื่มกาแฟและหนมปังไป..
ดั้น..ไปเจอตอน อึ..อึ แหวะ ๆ
ดันอ่านต่อไป แหวะ แทบจะกินไม่ลงเลย
ขำไม่ออกเลย มุขนี้อะ พี่...เจ้าขา

ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจนะค้า ทุกๆท่าน..(กราบงามๆ 1 ที)

ยายลิงยังพอจะมีเวลาค่ะ ประสบการณ์ชีวิตที่จะเขียน..
อาจจะเป็นประวัติศาสตร์เลยก็ได้นะคะ
อารมณ์นักเขียนน่ะ สะดุดง่ายๆนะคะ ต้องใช้สมาธิและความสงบมากกค่ะ

ก่อนนี้ ยายลิงเคยรู้สึกว่า ข้อเขียนของยายลิงจะเป็นตัวจุดประกายให้คุณตุลย์
คนที่ชอบสังเกตุและคนละเอียดจะเข้าใจถึงการรับ-ส่งลูกกันค่ะ

เรื่องของยายลิง..แน่นอนต้องเป็นแนว กรรมวิบากค่ะ
เป็นคนชอบพินิจพิจารณา..ชีวิตและความรู้สึกนึกคิดสะท้อนกรรมค่ะ
และไม่ได้มองเห็นเฉพาะตัวเราเอง แต่คนรอบข้างเลย

ยายลิงค่อนข้างจะจริงจังกับชีวิต หัวเราะไม่ค่อยจะออก..
ตอนน้องชายและหลานมาเที่ยว พวกเค้าเป็นคนสุขภาพจิตดีมากกกๆๆ
คุยไปหัวเราะไป..ทำให้ทั้งแม่และยายลิงผ่อนคลายมากค่ะ

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 6 มิถุนายน 2551 9:29:32 น.  

 


..เคยรู้สึกมั๊ยคะ ว่า ส่วนที่คนเราสื่อออกมา
มักจะไม่ละเอียดลึกซึ้งเท่าความรู้สึกภายใน..

ตอนเป็นเด็กสาวอยู่ที่อเมกา..
จะเกิด ปิติ บ่อยมาก..เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกค่ะ
แต่จะเป็นความสุข..เบิกบานภายในใจ
แค่อากาศดี ในเช้าๆหนึ่งที่เข้าหน้า spring..
แค่ได้ฟังเพลงเพราะๆ หรือเป็นวันสำคัญวันใดวันหนึ่ง
หรือการได้ช่วยเหลือ พูดคุยกับคนแก่ที่อ้างว้างที่ถูกทอดทิ้ง..

สิ่งหนึ่ง..ที่ยายลิงเป็น ก็คือ เป็นคนละเอียด อ่อนโยน..
ไม่เคยรู้สึกว่า กร้าน กับชีวิตเลยค่ะ

อย่างเมื่อวาน..พอเรา เย็น.. ก็จะสัมผัสได้ถึงคนที่อยากเข้าใกล้ค่ะ
ชอบเวลา รับไหว้ คน.. การอ่อนน้อมเป็นคุณลักษณะพิเศษของเรา

หากจะนึกย้อนถึงอดีต หากจะคิดทำบัญชีให้กับยมบาล..
ก็คงจะได้ระลึกถึงแต่สิ่งดีๆ ที่ได้เคยทำไว้ในอดีตน่ะค่ะ :-)

 

โดย: คิงคอง IP: 58.137.0.83 6 มิถุนายน 2551 10:35:59 น.  

 

อ้าว...
ตะเองชื่อจุกจิกจริงเหรอ ?

ทำไมนักสืบเก่งขนาดนี้ง่ะ ?
งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เป็นงงแฮะ
(ภาพหัวหมุนเคว้งคว้างภาพใหญ่ ๑ ภาพจ้า)

ก็คิดอย่างหนูกาว่า
เป็นวิธีการสื่อเฉพาะตัวของเขา

จริงอย่างคุณนางฯว่ามาค่ะ
เห็นด้วยทุกประการ

คุณยายลิงขา
ความคิดกะลังไหล
เขียนไปเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หนับหนุน
จับประเด็นและสังเขปเรื่องไว้
แล้วว่าไปโลด....

 

โดย: สายรุ้ง IP: 125.26.29.31 6 มิถุนายน 2551 10:58:27 น.  

 


ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส
เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย
เขาจะเห็นแก่หน้าค่าชื่อ จะนับถือพงศ์พันธุ์นั้นอย่าหมาย
ไหนจะต้องเหนื่อยยากลำบากกาย ไหนจะอายทั่วทั้งโลกา

..ยายลิงชอบกลอนๆนี้ค่ะ
ตอนอยู่ป.6 วิชาขับร้อง..
เพิ่งจะย้ายโรงเรียน ก่อนที่จะไปอเมกา
เพื่อนในห้องร้องเพลงไม่ได้ ทั้งเนื้อ ทั้งทำนองค่ะ
มีแต่ยายลิงนี่แหละ ที่ร้องเอื้อน..เอ่ยได้แบบเพลงไทยเดิม..คุณครูร้ากกกลิง

ก็อดขำๆไม่ได้ เมื่อคืน..ก็ร้องเพลงไทยเดิมให้เค้าฟัง
คือเข้านอนแล้ว นึกถึง วัย..ตัวเอง
ไหงกลายเป็นร้องเพลง ลาวเจริญศรี ก็บ่ฮู้ค่ะ

..อายุเยาวเรศรุ่น... เจริญศรี

แล้วก็ต่อด้วยเพลงข้างบน ที่จำขึ้นใจค่ะ

ขออำภัยด้วยนะคะ สว.คนนี้แก่จริงๆเลย
แต่งตัววัยรุ่น ขาสั้น quicksilver เสื้อยืด gap สะพายถุงผ้า Juicy couture..
แต่ข้างในนั้น..ขอบอกว่า ล้ำลึกกกมากกๆค่า (ยิ้มแบบมีเลสนัย)

โจ้บอกว่า เหตุการณ์ปัจจุบันเป็น ผล..ของอดีตชาติค่ะ
ยายลิง ก็นึกสงสัยตัวเองครามครัน ว่า เราคือใครน่ะ
ทำไมฝังใจกับเมืองไทยมากนัก ทั้งๆที่ไปโตที่เมืองนอก (*''หน้างงๆๆ)

ขอโทดท่านเจ้าบ้านนะคร้า มาจ้อ..อยู่คนเดียว สงสัยต้องไปเปิด blog ตัวเองแย้วว

 

โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 6 มิถุนายน 2551 11:15:53 น.  

 

สวัสดี.....ดีวันศุกร์ค่ะ

คุณ 007/11.....คะ
ดีจัง....ที่จัดมุขตลกมาลงได้ทันใจ
ผู้อ่าน/ผู้ชม...ให้คะแนนกันเองนะคะ
ขอบคุณค่ะ

คุณนางฯ...คะ
ดีจัง.... สำหรับข้อคิดดี ๆ ๆ ค่ะ
(ให้ 3 ดี เลยค่ะ)
ขอบคุณค่ะ

คุณย่าสายรุ้ง...คะ
ดีจัง... ที่ตั้งใจไปอยู่วัดสัปดาห์ละ 2-3 วัน
ขออนุโมทนาบุญค่ะ
(ไหว้งาม ๆ 3 ที จากใจ)

นู๋กา....คะ
ดีจัง.... วันนี้ได้มาทักทายสมาชิกฯ แต่เช้า
ขอให้สนุกในการทำงานนะคะ

น้องลิง...คะ
ดีจัง....ชีวิตอิสระปราศจากพันธะ
รอคอยอ่านบทความดี ๆ จากน้องลิงค่ะ

สมาชิกท่านอื่น.. ที่ยังไม่มารายงานตัว
ดีจัง...คงเร่งรีบเคลียร์งานกัน
เพื่อ เสาร์-อาทิตย์ ได้ไปทำบุญกันตามประสงค์
ขออนุโมทนาบุญทุก ๆท่าน

ดีจัง.....ที่วันนี้ฉันยังมีลมหายใจอยู่
ดีจัง.....ที่วันนี้ฉันยังพูดได้ เดินได้ กินได้
ทำงานได้ ยังมีเงินใช้

(ยิ้มสดใส......ค่ะ)

 

โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 6 มิถุนายน 2551 11:27:58 น.  

 

//www.youtube.com/watch?v=GO62fAO8NII

ALL MY LIFE
K-C & Jojo

Baby (x11)

I'm So Glad...

I Will Never Find Another Lover
Sweeter Than You
Sweeter Than You

And I Will Never Find Another Lover
More Precious Than You
More Precious Than You

Girl You Are..
Close To Me You're Like My Mother,
Close To Me You're Like My Father,
Close To Me You're Like My Sister,
Close To Me You're Like My Brother
And You Are The Only One My Everything
And For You This Song I Sing....

All My Life
I Prayed For Someone Like You
And I Thank God
That I..That I Finally Found You
All My Life
I Prayed For Someone Like You
And I Hope That You Feel The Same Way Too
Yes, I Pray That You Do Love Me Too

I'd Send You All That I'm Thinking Of........Baby

Said I Promise To Never Fall In Love With A Stranger
You're All I'm Thinking Of
I Praise The Lord Above
For Sending Me Your Love
I Cherish Every Hug
I Really Love You

All My Life (Ohhhh..Baby, Baby)
I Prayed For Someone Like You
And I Thank God
That I...That I Finally Found You
All My Life
I Prayed For Someone Like You
And I Hope That You Feel The Same Way Too
Yes, I Pray That You Do Love Me

You're All That I Ever Know,
When You Smile All My Face Always Seems To Glow,
You Turn My Life Around,
You Pick Me Up When I Was Down,
You're All That I Ever Know,
When You Smile My Face Glow
You Pick Me Up When I Was Down

Say...You're All That I Ever Know
When You Smile My Face Glows
You Pick Me Up When I Was Down
And I Hope That You
Feel The Same Way Too
Yes I Pray That You Do Love Me Too

And All My Life
I Prayed For Someone Like You
And I Thank God
That I..That I Finally Found You
All My Life
I Prayed For Someone Like You
Yes, I Pray That You Do Love Me Too

All My Life
I Prayed For Someone Like You
And I Thank God
That I ..That I Finally Found You
All My Life
I Prayed For Someone Like You
Yes, I Pray That You Do Love Me Too

(Fading)
And All My Life
I Prayed For Someone Like You
And I Thank God That I...That I Finally Found You.....




ปล. ย่าอำฯเจ้าขา นู๋อบรู้ตัวว่าแต่งกลอนได้ไม่ดีหรอกค่ะ ไม่มีสัมผัสระหว่างบาทด้วย จบก็ไม่งดงาม (คือเน้นแต่ความหมาย) แต่ถ้อยคำมันไหลรินมาตอนใกล้เลิกงาน ก็เลยรีบๆลงไปก่อน ไม่ได้ขัดเกลาค่ะ โพสท์เสร็จก็เผ่นแน่บกลับบ้านเลยค่ะ กลัวรถติดค่ะ

 

โดย: dj อบค่ะ IP: 58.10.80.129 6 มิถุนายน 2551 11:32:38 น.  

 

ขอนุยาด ...ลอกเลียนแบบ

ดีจัง ...
วันนี้พี่อรดูอารมณ์ดีจัง
ถูกใจ Mr.Bond
นำเรื่องจากเด็กสา-สุขมาฝากอะจิ
(ภาพอมยิ้ม 3 ภาพ)

ขำออกมั๊ยอ่ะ เรื่องขี้ ๆๆๆๆ
แหวะ ๆๆๆๆๆ
(ภาพเชิด)

ดีจัง...
ใคร ๆ ก็ร้องขอไรจาก Mr.007
007 จัดให้ท้างน้าน
ยกเว้น ...
(ภาพหน้ามุ่ย 5 ภาพ)

ดีจัง...
มีสมาชิกมากันคับคั่ง
เจ้าบ้านพาไปหน้าใหม่ดีกว่า
(ภาพหน้ายิ้ม 3 ภาพ)

ดีจัง ...
วันนี้ รู้สึกมีความสุข
(มีบางอย่างแอบแฝงอยู่เล็กน้อย)

อ้างอิง>>>ขอโทดท่านเจ้าบ้านนะคร้า มาจ้อ..อยู่คนเดียว สงสัยต้องไปเปิด blog ตัวเองแย้วว<<<

พี่ลิงจ๋า ...
บ้านนี้ยินดีกับตัวอักษร
ของลูกบ้านทุกตัวอยู่แล้ว
พี่ลิงก็รู้นี่จ๊ะ ...

มีไรเขียนในบ้านนู๋กาได้เต็มที่จ้ะ
นู๋กายินดีอ่านเสมอจ้า

 

โดย: สาวิกา 6 มิถุนายน 2551 11:42:44 น.  

 


หึ..หึ....

ได้ดูกฎแห่งกรรมอีกแล้ววววววววววว

ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง

ทั้งลบ ทั้งย้าย ทั้งแก้

บางห้องก็สงวนสิทธิ

เฮ้อ...รู้สึก D



 

โดย: 007/11 IP: 58.147.39.28 6 มิถุนายน 2551 11:44:05 น.  

 

ดีจัง.....ที่วันนี้ฉันยังมีลมหายใจอยู่
ดีจัง.....ที่วันนี้ฉันยังพูดได้ เดินได้ กินได้
ทำงานได้ ยังมีเงินใช้


เห็นด้วยค่ะ พี่อร (ยิ้มยิ้ม)

ดีจัง.. ที่เขาเลี้ยงอาหารกลางวัน
ดีจัง.. ที่ขับรถถึงที่ทำงานปลอดภัย
ดีจัง.. ที่มี blog นี้และมีพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ
ดีจัง.. ที่ยังเห็นแสงอาทิตย์ขึ้น
ดีจัง.. ที่ยังพอจะมี สติ..และสตัง
ดีจัง.. ที่ยังมีงานทำ
ดีจัง.. ที่พี่ยังเมตตา
ดีจัง.. ที่พี่โอ ยังไม่ไปไหน อิอิอิ

แย่จัง.. มัวแต่พิมพ์ แกงเลยเย็นค่า (แยกกเขี้ยวว) ลิงมีเขี้ยวค่ะ

 

โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 6 มิถุนายน 2551 11:44:33 น.  

 

อ้าว เจ้าแม่ขา สงสัยเครื่องอบจามีปัญหาซะแล้วค่ะ

นอกจากเข้าจีเมล ลานธรรมไม่ได้แล้วยังเกเรกะบ้านนี้อีก

เมื่อกี้อบนึกว่าลงไปแล้วเชียวแต่พอมาเปิดอีกทีไม่มีเลยลงให้ใหม่น่ะค่ะ เลยซ้ำเลย ขออภัยด้วยค่ะ

 

โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.129 6 มิถุนายน 2551 11:51:05 น.  

 

หนูก.ไก่
ตะเองชื่อจุ๊กจิ๊กจริงหรือ ?

ตอบหน่อยน้า

กะลังจัดกระเป๋าจะไปวั
ยังจัดไม่เสร็จ
มันค้างใจอยู่น่ะ

แง แง

ถ้ารุ้งไม่รู้วันนี้...
รุ้งคงปฏิบัติธรรมไมขึ้นแหงเลย
บอกหน่อยน้า

เราจะได้รู้ตัว...
ว่าเราแพ้นักสืบอีกคดีซะแว้วววววววว

จะได้ก้มหน้าก้มตาปฏิบัติธรรม
เพื่อความไม่แพ้อีกต่อไป

นะตะเองนะ นะ นะ นะ นะ

อิ อิ
ถ้าจริงนะ
เราฮาบ้าเลย

ถ้าเราจะเรียกตะเองว่า
จิ๊กกกกกกกกกกกจ๋า........

น่าจะชื่อกุ๊กกิ๊กนิ

เราจะได้เรียกตะเองว่า
กิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกจ๋า

หวานหัวใจกว่ากันเยอะเลย

เปลี่ยนนะตะเอง
ขอร้องขอร้อง.

 

โดย: รุ้ง... IP: 125.26.31.168 6 มิถุนายน 2551 12:01:53 น.  

 


คุณย่าอำฯขา..

เค้าขึ้นบ้านใหม่กันแล้ววค่า
อย่ามัวแต่ refresh..นะคะ

 

โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 6 มิถุนายน 2551 12:14:25 น.  

 

ผมไปขึ้นบ้านใหม่มาแล้วครับ...ดีจัง

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 6 มิถุนายน 2551 12:52:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]























Friends' blogs
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.