++ สิ้นหวัง ไร้อนาคต และโลกแคบ ++

ความคิดเห็นจากพระรูปหนึ่งกรณีข่าวสวนสันติธรรม (กันยายน ๕๓)

ความคิดเห็นจากพระรูปหนึ่งกรณีข่าวสวนสันติธรรม
(กันยายน ๕๓)



หลายวันมานี้เราคงจะเห็นข่าวพระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช ลงหนังสือพิมพ์ และเป็นข่าวทางหน้าจอโทรทัศน์หลายช่องมีการโหมข่าว ชงเรื่อง วิพากษ์วิจารณ์ใส่สีกันอย่างเต็มที่จากทั้งทางผู้ร้องเรียน และจากทางสำนักข่าวต่างๆ ( นั่นเป็นสิ่งที่นักข่าวที่มุ่งแต่จะขายข่าวมักจะทำเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับพระ และอาจเป็นเพราะที่ผ่านมาข่าวเกี่ยวกับพระในด้านลบมักเป็นเรื่องจริงโดยส่วนใหญ่ และสั่นคลอนศรัทธาไปมากแล้ว ) ผู้คนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้จักท่าน หรือรู้จักแค่เพียงผิวเผิน เมื่อได้ฟังหรือดูข่าวนี้ ก็คงร่วมพิพากษากันตามเนื้อข่าวที่ได้รับฟัง หรือได้อ่านจากสื่อที่นักข่าว และผู้ร้องเรียนเหล่านั้นนำเสนอ ส่วนใหญ่แล้วนักข่าว และผู้เสพข่าวเหล่านั้นล้วนมีชุดคำตอบภายในใจอยู่แล้ว เมื่อเป็นข่าวที่เขียนถึงพระสงฆ์ในแง่ลบ โดยยังไม่ทันรู้ถึงเรื่องราวข้อเท็จจริงของอีกด้านหนึ่ง ( และนั่นก็เป็นธรรมดาในสังคมโลก )



แต่เหตุการณ์นี้จะเป็นกรณีที่ทุกคนควรศึกษา เพราะทางด้านพระอาจารย์ปราโมทย์ และกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาต่างดำเนินชีวิตกันอย่างสงบ ทำกิจวัตรตามปกติ ไม่ออกมาเต้นผางๆ เพื่อตอบโต้ แก้ข่าวอย่างเผ็ดร้อนเดือดพล่านแบบกรณีข่าวอื่นๆ ที่เราเคยเห็น การออกมาชี้แจงโต้ข่าวกันกลับไปกลับมา โดยเฉพาะในวงการเมือง และวงการดารา ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าทางผู้นำเสนอข่าว เพราะมันขายได้ และคนส่วนใหญ่มักชอบติดตาม แต่ในกรณีนี้จะมีก็แต่คำชี้แจงต่อสื่อมวลชนอย่างสุภาพเพียงสองสามหน้ากระดาษเท่านั้น แต่ด้วยคำชี้แจงแบบไม่โจมตีใครเช่นนี้ ผู้ที่เคยศึกษางานของท่าน และต้องการทราบข้อมูล หรือรอฟังอยู่ ส่วนใหญ่ก็เกิดความสบายใจขึ้นทันทีว่า “ไม่มีอะไร” แต่นักข่าว และผู้คนบางกลุ่มอาจจะไม่พอใจในถ้อยแถลง ที่ไม่มีการตอบโต้กันอย่างเผ็ดร้อน ตามความคุ้นเคยจากการอ่านข่าวเรื่องอื่นๆมา แหละนี่คือสันติวิธีในการแก้ปัญหา ที่คนในสังคมไม่ค่อยรู้จัก ไม่คุ้นเคยและไม่ค่อยได้เห็น แต่กรณีเช่นนี้จะเกิดให้เห็นก็เฉพาะกลุ่มผู้ศึกษาธรรม และกลุ่มนักภาวนาที่แท้จริงเท่านั้น เพราะจิตใจของเขาจะไม่ขวนขวายที่จะเบียดเบียนใคร เพราะมีศีลคอยปกป้องการกระทำทางกาย และวาจาอยู่ จะกล่าวไปใยกับการยื่นฟ้องร้องกล่าวโทษผู้ทรงธรรมในร่มกาสาวพัสตร์นี้ แม้คดีความในเรื่องนี้ยังไม่ได้จบลง แต่เชื่อเหลือเกินว่า ในสภาวะจิตใจของลูกศิษย์ลูกหาของท่าน “เรื่องนี้จบลงแล้ว” ( จบลงในทุกขณะที่คิดถึงมัน )



เหตุผลหนึ่งที่กระแสข่าวนี้อ่อนแรงไปอย่างรวดเร็วสำหรับในกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาที่เรียนธรรมะ และตั้งใจภาวนาตามแนวทางที่ท่านสอน เพราะนี่มิใช่ครั้งแรกที่ท่านอาจารย์ปราโมทย์ถูกโจมตี เพียงแต่กลุ่มผู้โจมตีได้เปลี่ยนช่องทาง หรือเปลี่ยนแผนในการโจมตีให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น และก็ถือว่าทำได้สำเร็จในวงกว้าง ( และก็ย่อมได้สร้างกรรมเป็นวงกว้างอีกด้วย) ข้อมูลต่างๆ ส่วนหนึ่งเคยลงโจมตีไว้ทางอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่กลับเป็นเพียงแค่ไฟไหม้ฟาง ไม่ให้ผลเด่นชัด และเป็นวงกว้าง เหตุหนึ่งคงมาจากผู้รับสื่อส่วนใหญ่ ได้รับข้อมูลทั้งสองด้าน รวมถึงข้อมูลการโจมตีไม่มีน้ำหนัก และเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้มีผู้คนส่วนใหญ่เทใจเชื่อถือได้อีกทั้งลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ปราโมทย์จำนวนมากก็ใช้การสื่อสารอินเทอร์เน็ต



แม้ในช่วงต้นของการโจมตีอาจดูดีได้ผล และมีผู้คนหวั่นไหวเป็นอันมาก แต่เมื่อมีผู้รู้หลายท่านได้ออกมาเขียนบทความแสดงความเห็นอย่างเป็นเหตุเป็นผล และเป็นเหตุเร้ากุศล เช่น พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล คุณดังตฤณ และท่านอื่นๆ เหตุการณ์นี้ก็สงบไปจากจิตใจของผู้ที่ยังลังเลสงสัยอยู่ในที่สุด และครั้งนั้นทางด้านลูกศิษย์ลูกหาของท่านก็ใช้การแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี เช่นกัน ในช่วงนั้นตัวของท่านอาจารย์ปราโมทย์เองก็ยกเลิกกิจนิมนต์ภายนอกทั้งหมดเพื่อลดกระแสการเผชิญหน้า และการมุ่งร้ายของอีกฝ่าย เว็บไซต์วิมุตติซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งในการเผยแผ่ธรรมที่เป็นผลงานของพระอาจารย์ปราโมทย์ ก็ปิดเงียบ เพื่อสร้างกระแสความสงบ ถึงแม้จะมีการเปิดเว็บไซต์บางแห่งเพื่อโจมตีท่านโดยตรงอีกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถทำให้เกิดผลในวงกว้างได้



แต่ในกรณีการโจมตีระลอกใหม่ครั้งนี้ไม่เป็นเช่นนั้น ดูเหมือนกลุ่มคนดังกล่าวจะมีการเตรียมการและหาข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการโจมตีครั้งนี้เป็นอย่างดี  ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งประเด็นไปทางเรื่องเงินๆทองๆ จำนวนมหาศาลที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ และตีข้างกระทบใน ในเรื่องของแม่ชี อดีตภรรยาทางโลกผู้มีปฏิปทาในทางธรรมที่ดี โดยไม่อธิบายรายละเอียดที่ชัดเจนในวิถีการเป็นอยู่ในสวนสันติธรรม และไม่ได้กล่าวถึงการมีคณะสงฆ์ที่มีความตั้งใจในการภาวนาที่ดีอยู่ที่นั่นซึ่งแสดงถึงสถานปฏิบัติธรรมที่มิใช่มีเพียงท่านอยู่ตามลำพังกับแม่ชี ซึ่งข้อมูลแบบครึ่งๆ กลางๆ เช่นนี้ เป็นความต้องการที่จะสื่อถึงอาบัติหนักของพระภิกษุ  และสิ่งที่ชาวบ้านติเตียน เพื่อให้เกิดแรงโน้มเอียงอย่างรวดเร็ว ที่จะเกิดความเชื่อถือในข้อมูลที่ผู้โจมตีนำเสนอออกมา ทั้งประเด็นหลัก ประเด็นย่อย อีกทั้งยังห้อยท้ายด้วยความน่าเห็นใจจากการถูกทำร้ายจิตใจก่อนจนทนไม่ไหว และเมื่อผู้นำการโจมตีเป็นผู้หญิงและคณะบุคคลผู้มีชื่อเสียงจึงสามารถเพิ่มกระแสความน่าสนใจได้อย่างรวดเร็ว และเชื่อเหลือเกินว่ากลุ่มผู้โจมตีก็ย่อมมั่นใจในความถูกต้องของตัวเอง และเชื่อว่าตนมีดี แหละงานนี้น่าจะสำเร็จผลตามที่ต้องการ



ผู้เขียนเชื่อว่าการเปลี่ยนช่องทางการใช้สื่อใหม่นั้นต้องมีการวางแผนกันเป็นอย่างดี และรู้ถึงแนวโน้มอันเป็นผลที่จะได้รับ เพราะถ้าช่องทางในอินเทอร์เน็ตได้ผลไม่เข้าเป้าแล้ว นี่จะเป็นช่องทางที่จะสั่นสะเทือนได้แรงกว่า เหตุผลง่ายๆ ก็คือ หนังสือพิมพ์ วิทยุ และทีวี คนไทยเข้าถึงได้กันได้แถบทุกหย่อมหญ้า เพราะในสื่อช่องทางนี้ผู้คนย่อมไม่รู้จักท่านมากกว่าที่จะรู้จักท่านมาก่อน และระดับการรับสื่อของกลุ่มคนมีหลากหลาย และส่วนใหญ่คือ “คนนอกวงการ” ( ผู้ที่เป็นชาวพุทธที่ไม่ได้ศึกษาธรรมะ และเจริญภาวนา ) ดังนั้นมันจึงได้ผลเป็นวงกว้างกว่า อีกทั้ง เมื่อใดที่ข่าวพระภิกษุถูกเลือกลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ นั่นหมายความว่า เป็นที่สนใจจากทุกฝ่ายแน่นอน เพราะนั่นล้วนเป็นข่าวด้านลบทั้งสิ้น เหตุผลง่ายๆ ก็คือ มันขายได้ และเชื่อเถอะว่าไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นใด ทัศนะคติของนักข่าว และคนส่วนใหญ่มักฟันธง ปลงใจไปแล้วว่า  “นี่คือเรื่องจริง” ( อย่างที่บอก เหตุหนึ่งก็มาจากข่าวลบที่เป็นจริงของพระนอกธรรมวินัยที่มีโอกาสขึ้นหน้าหนึ่งทั้งหลาย ที่ถอนศรัทธาผู้คนไปมากแล้ว ดังนั้นคงโทษใครไม่ได้ นอกจากจะช่วยกันดูแล ปกป้องรักษาอย่างเข้าใจ )



ผู้คนเหล่านั้นย่อมพิพากษากันตามใจชอบ โดยไม่แม้กระทั่งจะฟังข่าวอีกด้านก่อน และไม่มีการค้นหาข้อมูลว่า พระรูปนั้นเป็นใคร มีประวัติความเป็นมาเช่นไร ปฏิปทาท่านเป็นอย่างไร ในส่วนนี้ต้องขวนขวายเอาเอง เพราะนักข่าวย่อมไม่นำมาเสนอเป็นแน่ ( เพราะส่วนใหญ่แล้วไม่รู้จักท่าน และไม่ใช่คนเข้าวัดหรือเป็นนักภาวนากันสักเท่าไร ) สุดท้ายแม้ผลออกมาจะไม่ได้ตรงตามที่นักข่าวฟันธงเชื่อไว้ ก็เป็นไปได้ยากที่สื่อเหล่านั้นจะตามแก้ข่าวให้อย่างเป็นธรรม ให้สอดคล้องกับยามที่ตีข่าวให้ดัง



จะว่าไปแล้วการโจมตีจนเป็นข่าวดังคราวนี้ ย่อมเกิดผลกระทบในวงกว้าง และแรงเสื่อมศรัทธานั้นย่อมมีอย่างมากมายแน่ ทั้งจากกลุ่มผู้ศรัทธาทั่วไปในพระพุทธศาสนา กลุ่มผู้ประกอบบุญ กลุ่มที่เริ่มภาวนา และยังลังเลสงสัยอยู่ ตลอดจนถึงผู้ที่กำลังจะได้ศึกษางานของท่าน หรือพึ่งได้ศึกษา เพราะเกรงตนจะเดินผิดทาง หรือเป็นเป้าในการถูกตำหนิจากบุคคลรอบข้างที่ปลงใจเชื่อข่าวนี้ไปแล้ว จึงจำเป็นต้องสงวนท่าทีไว้ แหละนี่ไม่ใช่เรื่องผิดสำหรับเขาเหล่านั้น เพราะถ้าเราตกอยู่ในสภาวะเดียวกับเขา เราก็อาจจะรู้สึกไม่ต่างจากเขาเมื่อได้รับข่าวนี้ แต่สำหรับในวงการนักภาวนาลูกศิษย์ลูกหาของท่าน ที่ภาวนาพอเห็นดอกเห็นผลบ้างแล้ว ก็คงไม่ต้องกล่าวถึงว่า จะลังเลสงสัยหรือไม่ บางทีอาจตั้งใจภาวนากันมากขึ้นอีกด้วย เพราะเล็งเห็นถึงความเหนื่อยยากของครูบาอาจารย์ ที่เมตตาสั่งสอนด้วยใจจริง และเห็นโทษภัยของกระแสโลก ถ้ากลุ่มคนเหล่านี้จะส่งกระแสใดๆ ออกมา ก็คงเพียงเพื่อ ให้เกิดการรวมใจกันเป็นกำลังใจแด่ครูบาอาจารย์ที่ตนเคารพศรัทธาเท่านั้น แต่สำหรับครูบาอาจารย์ท่านนี้ การปฏิบัติบูชาคุณพระพุทธเจ้า คือ กำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับท่าน



สุดท้ายนี้ ถ้าใครคิดว่าผู้เขียนเชียร์พระอาจารย์ปราโมทย์ ผู้เขียนก็จะยิ้มให้อย่างเข้าใจ แต่ถ้าใครคิดว่า ผู้เขียนกำลังนำเสนอกรณีตัวอย่างแห่งสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา ผู้เขียนก็ต้องขออนุโมทนาสาธุด้วย แต่ทั้งหมดก็เป็นแค่เพียงมุมมอง และการวิเคราะห์เป็นการส่วนตัว อาจมีข้อผิดพลาดตามภูมิปัญญาอันจำกัด อย่างไรก็ดี ถ้าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการสร้างกระแสแห่งกุศลจิตของผู้ใดแล้ว ก็ถือว่าบทความนี้ยังพอมีประโยชน์บ้าง แต่ถ้าผู้อ่านท่านใดเกิดความขุ่นข้องหมองใจ และไม่มีความเห็นร่วมกับความเห็นนี้ ผู้เขียนก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย



หมายเหตุ ขอให้ผู้อ่านอย่าได้รู้สึกเกลียดชัง หรือโกรธแค้นกลุ่มผู้โจมตีเลย ขอให้เราเมตตาเขาดังเพื่อนมนุษย์ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตายเถิด เพราะบางทีถ้าเราประมาทในสังสารวัฏนี้ และไม่สนใจการภาวนา หรือภาวนากันอย่างผิดๆ วันหนึ่งเราอาจจะตกที่นั่งเดียวกับเขาเข้าให้บ้างก็ได้ เพราะถ้าเรายังไม่เป็นผู้แรกถึงกระแสแล้ว อย่าได้ประมาทกันเชียว อบายภูมิยังมีโอกาสเปิดกว้างสำหรับเรา



“ศีลที่ดีป้องกันไม่ให้เราไปเบียดเบียนผู้อื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันไม่ให้ผู้อื่นมาเบียดเบียนเราได้เสมอไป”



พระผู้ศึกษาปฏิบัติธรรมรูปหนึ่ง


๑๙ ก.ย. ๕๓





 

Create Date : 22 กันยายน 2553   
Last Update : 22 กันยายน 2553 19:44:30 น.   
Counter : 501 Pageviews.  


VAAy
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สิ้นหวัง ไร้อนาคต และโลกแคบ
[Add VAAy's blog to your web]