สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
30 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

เติมเต็ม ... สิ่งใหม่ ๆ



มือนี้คงไม่มีประโยชน์
หากจับถือสิ่งของบางอย่างอยู่เต็มมือ


Photobucket>




กระดาษที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียน
ย่อมไม่สามารถรองรับไอเดียใหม่ที่เลิศหรู


Photobucket>




แก้วน้ำที่เต็มล้น
คงไม่สามารถรินสิ่งใด ... ที่ต้องการลงไปได้


Photobucket>





เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยไฟล์เก็บสะสมค้างปี
ย่อมทำงานได้มีประสิทธิภาพน้อยกว่า
เครื่องที่หมั่นลบขยะออกอย่างสม่ำเสมอ







คำนำ ... คิดจากความว่าง 2
สำนักพิมพ์ ดีเอ็มจี







 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551
28 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2551 9:00:25 น.
Counter : 872 Pageviews.

 

ขอ มือ เธอ หน่อย
ไว้คอย กระชับ ให้ชื่น ใจ

ขอ มอง ตา หน่อย
ไว้คอย เตือนเธอ เมื่อเหงา ใจ

ขอ ใจ เธอ หน่อย
ไว้คอย เป็นแรง ผลักดัน ฝันอัน ยิ่งใหญ่
หากมีหัวใจ ของเธอ ก็สุข เกินพอ......

 

โดย: โอรัช IP: 125.24.129.151 30 กรกฎาคม 2551 21:30:17 น.  

 


คริ คริ ...
พี่อรร้องเพลงเป็นเหมือนกันแฮะ

แสดงว่า มีความสุข...จัง

ยินดีด้วยค่ะที่มีความสุข ขอแบ่งปันความสุขให้เพื่อน ๆ ร่วมทางด้วยนะคะ

ขอทุกท่านมีความสุข สนุก สดชื่น รื่นเริง บันเทิงใจในทุกกาลสถานค่ะ

 

โดย: สาวิกา 30 กรกฎาคม 2551 21:37:32 น.  

 


สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


เจ้าบ้านขยันขึ้นหน้าใหม่จังเลย...เราไม่ค่อยได้เข้ามาบ้างเป็นบางครั้ง...ตั้งหน้าตั้งตาอ่านกันจนตาลายนะ อิอิ

 

โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.205.197 30 กรกฎาคม 2551 21:45:49 น.  

 

คุณมุ่งฯ.....คะ

พี่มีคำตอบสำหรับคำถามที่สอบถามพี่ในหน้าต่างก่อนหน้า ดังนี้

๑. ถ้าเราปลูกต้นโพธิ์จำนวนหลายๆ ต้นถวายวัด จะมีอานิสงส์เท่ากับการปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์หรือไม่
คำตอบคือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่สาสุข เป็นหน่อเนื้อเชื้อไขของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับโคนต้นในวันที่ตรัสรู้ แม้กาลล่วงมาบัดนี้พุทธานุภาพของพระพุทธองค์ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม การปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์จึงมีอานิสงส์มหาศาล
ถ้ามีโอกาสก็เชิญมากราบพระศรีมหาโพธิ์ที่ กระทรวงสาธารณสุข หรือนำน้ำสะอาด/ดิน มาปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์มีอานิสงส์มหาศาล

๒. ปีนี้หลวงพ่อจำพรรษาที่เมืองไทย ส่วนการสวดมนต์และอธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย ที่วัดพระแก้วนั้น ลูกศิษย์ของหลวงพ่อกำลังติดต่อกับสำนักพระราชวังเพื่อขออนุญาต ต้องตรวจสอบวันที่หลวงพ่อว่างและวัดพระแก้วสะดวกด้วย แล้วจะแจ้งให้ทราบค่ะ

 

โดย: โอรัช IP: 125.24.129.151 30 กรกฎาคม 2551 22:16:04 น.  

 

คำง่ายๆ เพียงไม่กี่คำ แต่ฉุดความนึกคิดได้ดีเหลือเกินครับ

 

โดย: ตั้งสติ 31 กรกฎาคม 2551 8:33:09 น.  

 

Photobucket>

 

โดย: สาวิกา 31 กรกฎาคม 2551 9:02:25 น.  

 

 

โดย: สาวิกา 31 กรกฎาคม 2551 9:40:08 น.  

 

 

โดย: สาวิกา 31 กรกฎาคม 2551 9:40:46 น.  

 

รวมพลังใส่เลื้อเหลืองเพื่อในหลวงของเรา วันศุกร์ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๑ เวลา ๙ โมงเช้า ถึง ๙ โมงเย็น (สามทุ่ม) ค่ะ

 

โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.34 31 กรกฎาคม 2551 12:20:31 น.  

 

"ถ้ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ
เงินทองมากมายก็ไม่มีความหมาย
ความอิ่ม ความพอ เป็นของสำคัญที่สุด"

ธรรมะของ พระราชนิโรธรังสีคัมภีร์ปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสฺรังสี)

สาธุ สาธุ สาธุ
ธรรมะของหลวงปู่เหมาะสมทุกกาลเวลา
วันนี้ใครติดตามข่าว คงเห็นจริงตามที่หลวงปู่กล่าวไว้

 

โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 31 กรกฎาคม 2551 16:12:28 น.  

 

สาธุค่ะ พี่อร คุณย่าอักฯ

เจ้าแม่จ๋า..

ดอกไม้สวยชื่นใจจัง

:-)

 

โดย: ..เวลา.. IP: 58.181.136.90 31 กรกฎาคม 2551 16:42:51 น.  

 

นางวิสาขา
เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายิกา
//www.watkoh.com/kratoo/get_last_post.asp?FID=18

นางวิสาขา เกิดในตระกูลเศรษฐี ในเมืองภัททิยะ แคว้นอังคะ บิดาชื่อว่า ธนญชัย มารดาชื่อว่าสุมนาเทวี และปู่ชื่อ เมณฑกเศรษฐี ขณะที่เธอมีอายุอยู่ในวัย ๗ ขวบ เป็นที่รักดุจแก้วตาดวงใจของเมณฑกะผู้เป็นปู่ยิ่งนัก
หญิงงามเบญจกัลยาณี

ในเมืองสาวัตถีนั้น มีเศรษฐีตระกูลหนึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า มิคารเศรษฐี มีบุตรชายชื่อ ปุณณวัฒนกุมาร เมื่อเจริญวัยสมควรที่จะมีภรรยาได้แล้ว บิดามารดาขอให้เขาแต่งงานเพื่อสืบทอดวงศ์ตระกูล แต่เขาเองไม่มีความประสงค์จะแต่งเมื่อบิดามารดารบเร้ามากขึ้น เขาจึงหาอุบายเลี่ยงโดยบอกแก่บิดามารดาว่า ถ้าได้หญิงที่มีความงามครบทั้ง ๕ อย่าง ซึ่งเรียกว่า เบญจกัลยาณี
แล้วจึงจะยอมแต่งงาน


ภาพโดย สุภร พลินทรากูล

เบญจกัลยาณี ความงามของสตรี ๕ อย่าง คือ

๑. เกสกลฺยาณํ ผมงาม คือ หญิงที่มีผมยาวถึงสะเอวแล้วปลายผมงอนขึ้น

๒. มงฺสกลฺยาณํ เนื้องาม คือหญิงที่มีริมฝีปากแดงดุจผลตำลึงสุกและเรียบชิดสนิทกันดี

๓. อฏฺฐิกลฺยาณํ กระดูกงาม คือหญิงที่มีฟันสีขาวประดุจสังข์ และเรียบเสมอกัน

๔. ฉวิกลฺยาณํ ผิวงาม คือหญิงที่มีผิวงามละเอียด ถ้าดำก็ดำดังดอกบัวเขียว ถ้าขาวก็ขาวดังดอกกรรณิกา

๕. วยกลฺยาณํ วัยงาม คือ หญิงที่แม้จะคลอดบุตรถึง ๑๐ ครั้ง ก็ยังคงสภาพร่างกายสาวสวยดุจคลอดครั้งเดียว
บิดามารดาเมื่อได้ฟังแล้วจึงให้เชิญพราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญในด้านอิตถีลักษณะมาถามว่า หญิงผู้มีความงามดังกล่าวนี้มีหรือไม่ เมื่อพวกพราหมณ์ตอบว่ามี จึงส่งพราหมณ์เหล่านั้นออกเที่ยวแสวงหาตามเมืองต่าง ๆ พร้อมทั้งมอบพวงมาลัยและเครื่องทองหมั้นไปด้วย
..........

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 31 กรกฎาคม 2551 17:19:20 น.  

 

ชน ๔ พวกเมื่อวิ่งจะดูไม่งาม

พวกพราหมณ์เที่ยวแสวงหาไปตามเมืองต่าง ๆ ทั้งเมืองเล็กเมืองใหญ่ จนมาถึงเมืองสาเกต ได้พบนางวิสาขามีลักษณะภายนอกถูกต้องตามตำราอิตถี ลักษณะครบทุกประการ ขณะที่นางพร้อมทั้งหญิงบริวารออกมาเที่ยวเล่นน้ำกันที่ท่าน้ำ ขณะนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก หญิงบริวารทั้งหลายพากันวิ่งหลบหนีฝนเข้าไปในศาลา แต่นางวิสาขายังคงเดินด้วยอาการปกติ ทำให้พวกพราหมณ์ทั้งหลายรู้สึกแปลกใจประกอบกับต้องการจะเห็นลักษณะฟันของนางด้วยจึงถามนางว่า

“ทำไม เธอจึงไม่วิ่งหลบหนีฝนเหมือนกับหญิงอื่น ๆ”

นางวิสาขาตอบว่า ชน ๔ พวกเมื่อวิ่งจะดูไม่งาม ได้แก่

๑. พระราชา ผู้ทรงประดับด้วยเครื่องอาภรณ์พร้อมสรรพ

๒. บรรพชิต ผู้ครองผ้ากาสาวพัสตร์

๓. สตรี ผู้ชื่อว่าเป็นหญิงทั้งหลาย นอกจากจะดูไม่งานแล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุจนเสียโฉม หรือพิการ จะทำให้เสื่อมเสียและหมดคุณค่า

๔. ช้างมงคล ตัวประดับด้วยเครื่องอาภรณ์สำหรับช้าง

พวกพราหมณ์ได้เห็นปัญญาอันชาญฉลาด และคุณสมบัติ เบญจกัลยาณี ครบทุกประการแล้ว จึงขอให้นางพาไปที่บ้านเพื่อทำการสู่ขอต่อพ่อแม่ตามประเพณี เมื่อสอบถามถึงชาติตระกูลและทรัพย์สมบัติก็ทราบว่า มีเสมอกัน จึงสวมพวงมาลัยทองให้นางวิสาขาเป็นการหมั้นหมายและกำหนดวันวิวาหมงคล

ธนญชัยเศรษฐี ได้สั่งให้ช่างทองทำเครื่องประดับ ชื่อ มหาลดาปสาธน์ เพื่อมอบให้แก่ลูกสาว ซึ่งเป็นเครื่องประดับชนิดพิเศษ เป็นชุดยาวติดต่อกันตั้งแต่ ศีรษะจรดปลายเท้า ประดับด้วยเงินทองและรัตนอันมีค่าถึง ๙ โกฏิกหาปณะ ค่าแรงฝีมือช่างอีก ๑ แสน เป็นเครื่องประดับที่หญิงอื่น ๆ ไม่สามารถจะประดับได้เพราะมีน้ำหนักมาก นอกจากนี้ ธนญชัยเศรษฐี ยังได้มอบทรัพย์สินเงินทองของใช้ต่าง ๆ รวมทั้งข้าทาสบริวารและฝูงโคอีกจำนวนมากมายมหศาล อีกทั้งส่งกุฏุมพีผู้มีความชำนาญพิเศษด้าน
ต่าง ๆ ไปเป็นที่ปรึกษาดูแลประจำตัวอีก ๘ นายด้วย




ธนญชัยเศรษฐีให้โอวาทลูกสาว

ก่อนที่นางวิสาขาจะไปสู่ตระกูลของสามี ธนญชัยเศรษฐีได้อบรมมารยาทสมบัติของ กุลสตรีผู้จะไปสู่ตระกูลของสามี โดยให้โอวาท ๑๐ ประการ เป็นแนวปฏิบัติ คือ

โอวาทข้อที่ ๑ ไฟในอย่านำออก หมายความว่า อย่านำความไม่ดีของพ่อผัวแม่ผัวและสามีออกไปพูดให้คนภายนอกฟัง

โอวาทข้อที่ ๒ ไฟนอกอย่านำเข้า หมายความว่า เมื่อคนภายนอกตำหนิพ่อผัวแม่ผัวและสามีอย่างไร อย่านำมาพูดให้คนในบ้านฟัง

โอวาทข้อที่ ๓ ควรให้แก่คนที่ให้เท่านั้น หมายความว่า ควรให้แก่คนที่ยืมของไปแล้วแล้วนำมาส่งคืน

โอวาทข้อที่ ๔ ไม่ควรให้แก่คนที่ไม่ให้ หมายความว่า ไม่ควรให้แก่คนที่ยืมของไปแล้ว แล้วไม่นำมาส่งคืน

โอวาทข้อที่ ๕ ควรให้ทั้งแก่คนที่ให้และไม่ให้ หมายความว่า เมื่อมีญาติมิตรผู้ยากจนมาขอความช่วยเหลือพึ่งพาอาศัย เมื่อ ให้ไปแล้วจะให้คืนหรือไม่ให้คืน ก็ควรให้

โอวาทข้อที่ ๖ พึงนั่งให้เป็นสุข หมายความว่า ไม่นั่งในที่กีดขวางพ่อผัว แม่ผัวและสามี

โอวาทข้อที่ ๗ พึงนอนให้เป็นสุข หมายความว่า ไม่ควรนอนก่อนพ่อผัวแม่ผัวและสามี

โอวาทข้อที่ ๘ พึงบริโภคให้เป็นสุข หมายความว่า ควรจัดให้พ่อผัว แม่ผัวและสามีบริโภคแล้ว ตนจึงบริโภคภายหลัง

โอวาทข้อที่ ๙ พึงบำเรอไฟ หมายความว่า ให้มีความสำนึกอยู่เสมอว่า พ่อผัว แม่ผัวและสามีเป็นเหมืองกองไฟ และพญานาคที่จะต้องบำรุงดูแล

โอวาทข้อที่ ๑๐ พึงนอบน้อมเทวดาภายใน หมายความว่า ให้มีความสำนึกอยู่เสอมว่า พ่อผัว แม่ผัว และสามีเป็นเหมือนเทวดาที่จะต้องให้ความนอบน้อม

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 31 กรกฎาคม 2551 17:30:16 น.  

 

นางวิสาขาตำหนิพ่อผัว

เมื่อนางวิสาขา เข้ามาสู่ตระกุลของสามีแล้ว เพราะความที่เป็นผู้ได้รับการอบรมสั่งสอนเป็นอย่างดีตั้งแต่วัยเด็ก และเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีน้ำใจเจรจาไพเราะ ให้ความเคารพผู้ที่มีวัยสูงกว่าตน จึงเป็นที่รักใคร่และชอบใจของคนทั่วไป ยกเว้น
มิคารเศรษฐีของสามี ซึ่งมีจิตฝักใฝ่ในนักบวชอเจลกชีเปลือย โดยให้ความเคารพนับถือว่าเป็นพระอรหันต์ และนิมนต์ให้มา
บริโภคโภชนาหารที่บ้านของตนแล้ว สั่งให้คนไปตามนางวิสาขามาไหว้พระอรหันต์ และให้มาช่วยจัดเลี้ยงอาหารแก่อเจลกชีเปลือยเหล่านั้นด้วย

นางวิสาขา ผู้เป็นพระอริยสาวิกาชั้นโสดาบันพอได้ยินคำว่า อรหันต์ ก็รู้สึกปีติยินดีรีบมายังเรือนของมิคารเศรษฐี แต่พอได้เห็นอเจลกชีเปลือย ก็ตกใจจึงกล่าวว่า “ผู้ไม่มีความละอาย เหล่านี้ จะเป็นพระอรหันต์ไม่ได้” พร้อมทั้งกล่าวติเตียนมิคารเศรษฐีแล้วกลับที่อยู่ของตนต่อมาอีกวันหนึ่ง ขณะที่มิคารเศรษฐีกำลังบริโภคอาหารอยู่ โดยมีนางวิสาขาคอย
ปรนนิบัติอยู่ใกล้ ๆ ได้มีพระเถระเที่ยวบิณฑบาตผ่านมาหยุดยืนที่หน้าบ้านของมิคารเศรษฐี

นางวิสาขาทราบดีว่าเศรษฐีแม้จะเห็นพระเถระแล้วก็ทำเป็นไม่เห็น นางจึงกล่าวกับพระเถระว่า
“นิมนต์พระคุณเจ้าไปข้างหน้าก่อนเถิด ท่านเศรษฐีกำลังบริโภคของเก่าอยู่”
เศรษฐี ได้ฟังดังนั้นแล้วจึงโกรธเป็นที่สุด หยุดบริโภคอาหารทันทีแล้วสั่งให้บริวารมาจับและขับไล่นางวิสาขาให้ออกจากบ้านไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาจับนางวิสาขาขอชี้แจงแก่กุฎุมพี ๘ นายที่คุณพ่อได้ส่งมาช่วยดูแลนางก่อน และเมื่อมิคารเศรษฐีให้คนไปเชิญกุฎุมพีมาแล้วแจ้งโทษของนางวิสาขาให้ฟัง ซึ่งนางก็แก้ด้วยคำว่า “ที่ดิฉันกล่าวอย่างนั้น หมายถึง มิคารเศรษฐี บิดาของสามีกำลังบริโภคบุญเก่าอยู่ มิใช่บริโภคของบูดเน่าอย่างที่เข้าใจ” กุฎุมพีทั้ง ๘ จึงกล่าวกับเศรษฐีว่า “เรื่องนี้นางวิสาขาไม่มีความผิด”


พ่อผัวยกย่องนางวิสาขาในฐานะมารดา

เมื่อมิคารเศรษฐี ฟังคำชี้แจงของลูกสะใภ้แล้วก็หายโกรธขัดเคือง และกล่าวขอโทษนาง พร้อมทั้งอนุญาตให้นางนิมนต์พระบรมศาสดาพร้อมภิกษุสงฆ์มารับอาหารบิณฑบาตในเรือนของตน ขณะที่นางวิสาขาจัดถวายภัตตาหารแด่พระบรมศาสดาและภิกษุสงฆ์อยู่นั้น ก็ได้ให้คนไปเชิญมิคารเศรษฐีมาร่วมถวายภัตตาหารด้วย แต่เศรษฐีเมื่อมาแล้วไม่กล้าที่ออกไปสู่ที่เฉพาะพระพักตร์พระศาสดา เพราะไม่มีศรัทธาเลื่อมใสจึงแอบนั่งอยู่หลังม่าน เมื่อเสร็จภัตกิจแล้วพระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนา ส่วนมิคารเศรษฐีแม้จะหลบอยู่หลังม่านก็มีโอกาสได้ฟังธรรมด้วยจนจบ และได้สำเร็จเป็นพระโสดาบันบุคคลในพุทธศาสนาเป็นสัมมาทิฎฐิบุคคลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทันใดนั้น มิคารเศรษฐีได้ออกมาจากหลังม่านแล้วตรงเข้าไปหานางวิสาขาใช้ปากดูดถันของลูกสะใภ้ และประกาศให้ได้ยินทั่วกัน ณ ที่นั้นว่า “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปขอเธอจงเป็นมารดาของข้าพเจ้า” และตั้งแต่นั้นมานางวิสาขาก็ได้นามว่า “มิคารมารดา” คนทั่วไปนิยมเรียกนางว่า “วิสาขามิคารมารดา”

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 31 กรกฎาคม 2551 17:32:46 น.  

 

คุณสมบัติพิเศษประจำตัวนางวิสาขา ในบรรดาอุบาสิกาทั้งหลาย นางวิสาขานับว่าเป็นผู้มีบุญสั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติมากเป็นพิเศษกว่าอุบาสิกาคนอื่น ๆ หลายประการ เช่น..

๑ . ลักษณะของผู้มีวัยงาม คือ แม้ว่านางจะมีอายุมาก มีลูกชาย-ลูกหญิง ถึง ๒๐ คน ลูกเหล่านั้นแต่งงานมีลูกอีกตั้งคนละ ๒๐ คน นางก็มีหลานนับได้ ๔๐๐ คน หลานเหล่านั้นแต่งงานมีลูกอีกคนละ ๒๐ คน นางวิสาขามีเหลนนับได้ ๘,๐๐๐ คน ดังนั้น คนจำนวน ๘,๔๒๐ คน มีต้นกำเนิดมาจากนางวิสาขา นางมีอายุยืน ได้เห็นหลานเหลนทุกคน แม้นางมีอายุถึง ๑๒๐ ปี แต่ขณะเมื่อนางนั่งอยู่ในกลุ่มของลูก หลาน เหลน นางจะมีลักษณะวัยใกล้เคียงกับคนเหล่านัน คนพวกอื่นไม่สามารถทราบได้ว่า นางวิสาขาคือคนไหน แต่สังเกตได้เมื่อเวลาจะลุกขึ้นยืน ธรรมดาคนหนุ่มสาวจะลุกขึ้นได้ในทันที แต่สำหรับคนแก่จะต้องใช้มือยันพื้นช่วยพยุงกาย และจะยกก้นขึ้นก่อน นั้นแหละจึงจะทราบว่า นางวิสาขาคือคนไหน

๒ . นางมีกำลังมาเท่ากับช้าง ๕ เชื่อกรวมกัน ครั้งหนึ่ง พระราชามีพระประสงค์จะทดลองกำลังของนาง จึงรับสั่งให้ปล่อยช้างพลายตัวที่กำลังมากเพื่อให้วิ่งชนนางวิสาขา นางเห็นช้างวิ่งตรงเข้ามา จึงคิดว่า “ ถ้าเราจับช้างนี้ด้วยมือข้างเดียวแล้วผลักไป ช้างนี้ก็จะเป็นอันตลายถึงชีวิต เราก็จะบาป ควรรักษาชีวิตช้างไว้จะดีกว่า ” นางจึงใช้นิ้วเพียงสองนิ้วจับช้างที่งวงแล้วเหวี่ยงไปปรากฏว่าช่างถึงกับล้มกลิ้ง แต่ก็ไม่เป็นอันตราย

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้ ชนทั้งหลายเมื่อจัดงานมงคลในบ้านเรือนของตนจึงพากันเชิญนางวิสาขาให้ไปเป็นประธานในงาน มอบให้นางเป็นผู้นำในพิธีต่าง ๆ แม้แต่อาหารก็ให้นางทานก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคล จนนางวิสาขาไม่มีเวลาปฏิบัติพระภิกษุที่มาฉันในบ้านของตน ต้องมอบให้ลูก ๆ หลาน ๆ ดำเนินการให้

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 31 กรกฎาคม 2551 17:33:50 น.  

 

***คุณมุ่งฯ.....คะ

พี่มีคำตอบสำหรับคำถามที่สอบถามพี่ในหน้าต่างก่อนหน้า ดังนี้

๑. ถ้าเราปลูกต้นโพธิ์จำนวนหลายๆ ต้นถวายวัด จะมีอานิสงส์เท่ากับการปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์หรือไม่
คำตอบคือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่สาสุข เป็นหน่อเนื้อเชื้อไขของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับโคนต้นในวันที่ตรัสรู้ แม้กาลล่วงมาบัดนี้พุทธานุภาพของพระพุทธองค์ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม การปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์จึงมีอานิสงส์มหาศาล
ถ้ามีโอกาสก็เชิญมากราบพระศรีมหาโพธิ์ที่ กระทรวงสาธารณสุข หรือนำน้ำสะอาด/ดิน มาปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์มีอานิสงส์มหาศาล

๒. ปีนี้หลวงพ่อจำพรรษาที่เมืองไทย ส่วนการสวดมนต์และอธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย ที่วัดพระแก้วนั้น ลูกศิษย์ของหลวงพ่อกำลังติดต่อกับสำนักพระราชวังเพื่อขออนุญาต ต้องตรวจสอบวันที่หลวงพ่อว่างและวัดพระแก้วสะดวกด้วย แล้วจะแจ้งให้ทราบค่ะ
****

สาธุขอบคุณครับ จะคอยฟังข่าวครับ

ถ้ามีโอกาสจะหาดินน้ำไปถวายครับ แต่เรานำไปโรยตรงๆได้เลยตามความเหมาะสม ใช่ใหมครับ ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากนะครับ

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 31 กรกฎาคม 2551 17:49:27 น.  

 

มาเติมเต็มกำลังใจ

คือบารมี10ประการกันนะครับ

มีดังนี้

ทานบารมี

ศีลบารมี

เนกขัมมะบารมี

ปัญญาบารมี

วิริยะบารมี

ขันติบารมี

สัจจะบารมี

อธิษฐานบารมี

เมตตาบารมี

อุเบกขาบารมี

มักท่องเป็นหัวใจแต่โบราณกันว่า

ทา สี เน ปะ วิ ขะ สะ อะ เม อุ

 

โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 31 กรกฎาคม 2551 17:58:25 น.  

 

คุณย่าอำฯ....คะ

สว.มาชวนไปดูภาพ วัดป่าพุทธพจน์ฯค่ะ
//larndham.net/index.php?showtopic=31351&st=51
เป็นวัดเล็ก ๆค่ะ

 

โดย: โอรัช IP: 125.24.145.221 31 กรกฎาคม 2551 23:30:01 น.  

 

Photobucket>

อนุโมทนากับพี่อรด้วยนะคะ ...ชวนเจ้าย่าฯ ไปดูคนเดียวเองนิ แต่นู๋แอบย่องตามหลังเจ้าย่าฯ ไปดูแล้ว คริคริ เจ้าย่าฯ ไม่รู้ว่าโดนสะกดรอยตาม

สถานที่สัปปายะดีจังนะคะ
เสียดายนู๋กาไม่มีโอกาสได้ไปภาวนาในที่สัปปายะแบบนั้นบ้าง ... ลางานหลายวันนี่หมดสิทธิ์เลยอ่ะค่ะ ต้องตอดเล็ก ตอดน้อยทีละวัน สองวัน

เย็นวันนี้ ถึงบ่ายวันอาทิตย์ขอส่งใบลากิจ ไปภาวนากับพระลูกชายค่ะ พระลูกชายท่านคอยกระตุ้นเร้าให้โยมแม่ภาวนาต่างที่บ้าง อย่างที่ลพ.ท่านเคยเตือน และแนะนำ ท่านว่าช่วงนี้เป็นโอกาสดี เพราะท่านอยู่วัด ให้ถือโอกาสเป็นการไปเยี่ยมเยียนกันอ่ะค่ะ

วันนี้ได้จัดเตรียมสมุด ปากกา กระดาษฟูลสแก๊บไปถวายที่วัดด้วย เนื่องจากท่านต้องเรียนหลักสูตรนักธรรมกัน กระดาษฟูลสแก๊บที่ใช้ในการสอบสนามหลวง หาซื้อยากค่ะ ต้องไปซื้อเฉพาะที่ ท่านรองเจ้าอาวาสเห็นเจ้าบ้านปวารนาไว้ ท่านจึงให้ช่วยจัดหาให้

สาวิกาซะอย่าง จัดหาได้ตามประสงค์ค่ะ ขอทุกท่านอนุโมทนาร่วมกันนะคะ


Photobucket>

 

โดย: สาวิกา 1 สิงหาคม 2551 9:46:20 น.  

 

ดอกไม้สวย..สดชื่นดีนะคะ

สวัสดีเจ้าแม่..เจ้าย่าฯ.. พี่อร..
และทุกท่านค่ะ

สุขสันต์..วันสุขค่ะ

:-)

 

โดย: ..เวลา.. IP: 58.181.136.90 1 สิงหาคม 2551 10:20:39 น.  

 

เอาของเก่าออก

//www.balavi.com/content_th/activity/activity_2.asp


แล้วดีจริงๆค่ะ

^_^

 

โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.34 1 สิงหาคม 2551 14:11:49 น.  

 

พระอริยเจ้านั้น
เมื่อมาโดยไม่มา
ชนทั้งหลายก็ไม่เห็น
เป็นอยู่โดยไม่เป็น
ชนทั้งหลายก็ไม่รู้
เมื่อกระทำโดยไม่กระทำ
ชนทั้งหลายก็ไม่เข้าใจ
ด้วยวิสัยพระอริยเจ้านั้น
ลึกเกินการคาดหยั่งของปุถุชน
ซึ้งเกินการคะเนถึงของคนหยาบ
บริสุทธิ์เกินการเดาของคนทั่วไป.

 

โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.34 1 สิงหาคม 2551 14:32:00 น.  

 

สวัสดีค่ะทุกท่าน...

เข้าบ้านมามะค่อยได้ทักทายกะหนูอบเชยเลย...
วันนี้เม้นต์ ค.ห. ใกล้ชิดกัน...
เลยคิดถึงหนูอบม้ากกกกมากค่ะ
สบายดีนะคะ...
บุญรักษานะคะหนูอบเชย...


โอ้โฮ !
เม้นต์ที่ ค.ห. ๒๒...
ของหนูอบเชย...
คมสุด ๆ เลยค่ะ...
ย่าอักฯขอคัดลอกเก็บไว้อ่านนะคะ
จุ๊บบบบบบจุ๊บค่ะ


อนุโมทนาทุกบุญของทุกท่าน...
ที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว...
และจะบำเพ็ญต่อไปนะคะ....
คริ คริ
โลภไปนี๊ดดดนึง...
แต่ไม่ถึงน่ารังเกียจนะคะ...


คุณอรขา...
กลับมาแล้ว...
มะเห็นเล่าอันใดเลย...
อยากฟังค่ะ...


คุณมุ่งฯคะ...
คริ คริ
ย่าอักฯเอาบุญเกี่ยวกับปลาช่อนคืนกะได้
แต่คุณมุ่งฯคงจะรับบุญไข่ไก่ที่ย่าอักฯทำไปแล้วได้ใช่ไหมคะ...
เอาไปสองเท่าเลยค่ะ...
ย่าอักฯเต็มใจสละส่วนของย่าอักฯให้คุณมุ่งฯค่ะ...


คุณนางฯ...
กิ๊ดตึ๊งนะ...
ทำงานระวังดูแลสุขภาพด้วยค่ะ...


หนูกา...
ที่เปลี่ยนเป็นเจ้าแม่สาวิกาประจำห้องแชทอย่างเต็มตัวแล้ว...
อนุโมทนาสาธุกับความสามารถค่ะ...
ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ นะคะ...


คิดถึงคุณเย็นจังเลย...
หายไปหลายเพลาแล้ว...
จะกลับมาด้วยแรงคิดถึงของย่าอักฯ...
ไหมหนอ ?
กลับมาเร็ว ๆ นะคะ...


มีอีกคนที่ไม่ได้กล่าวถึง...
แหะ แหะ ...
ด้วยฟามเคารพค่ะ.

 

โดย: อักษราภรณ์ IP: 125.26.58.157 1 สิงหาคม 2551 17:52:03 น.  

 

เอ้า !
ลืมหนูเวลาได้ไงนี่...
สงสัยคุยกันทุกคืน...
ทำให้รู้สึกเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับตัวย่าอักฯเสียแล้ว...
เป็นเหตุให้ลืมไปว่าต้องคิดถึงหนูเวลาด้วย...
อิ อิ
อย่าลืมไปเยี่ยมบ้านขวัญจายยยย่าอักฯนะคะ...

 

โดย: อักษราภรณ์ IP: 125.26.58.157 1 สิงหาคม 2551 18:04:17 น.  

 

ย่าอำฯ....คะ

สว.ไปอยู่วัดครั้งนี้มีวิบากกรรมเกี่ยวกับกุญแจค่ะ
เริ่มจากคืนแรกไปถึงวัดประมาณ ๓ ทุ่ม
พบแม่ชีที่วัดจึงนึกขึ้นได้ว่า ไม่ได้แจ้งเรื่องเข้าพักให้หลวงลุงนิตย์ผู้มีหน้าที่จัดระเบียบการเข้าพักทราบล่วงหน้า
อาศัยว่าหลวงพ่ออนุญาตให้ติดตามท่านมาจากกรุงเทพฯ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการเข้าพัก แต่ต้องรอกุญแจเรือนพักจากหลวงลุงนิตย์ ท่านเก็บกุญแจไว้ที่กุฏิซึ่งอยู่ไกล และท่านมีกิจที่หลวงพ่อสั่งให้เตรียมตัวที่พระอุโบสถ พอเสร็จกิจท่านจะไปนำกุญแจมาให้ ปรากฎว่าหลวงพ่อกลับมาจากวัดเจดีย์หลวง และเรียกหาหลวงลุงนิตย์ให้ตรงไปที่โบสถ์เพื่อทำสังฆกรรมทันที หลวงลุงนิตย์ต้องตามหลวงพ่อไปที่โบสถ์ บอกให้สว.รอจนกว่าท่านจะเสร็จศาสนกิจ

แม่ชีจึงให้ สว.อาบน้ำที่เรือนพักอื่น
พบพี่ ๆ ผ้าขาวซึ่งมาปวารณาเข้าพรรษาที่วัด ได้รับความเมตตาอำนวยความสะดวกให้ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เลยต้องนอนเบียดที่เรือนพักนั้นเลย เพราะดึกมากแล้ว

เช้า...แม่ชีเป็นธุระกราบเรียนหลวงลุงนิตย์เรื่องกุญแจห้อง แต่ต้องรอท่านฉันจังหันเสร็จก่อน พอท่านฉันจังหันเสร็จ
สว.จะไปรับกุญแจ ปรากฏว่าหลวงพ่อเรียกหา สว. เพื่อใช้ให้ทำงานถวาย
สว.ต้องรีบไปพบหลวงพ่อ
สว.ละล้าละลังมากเลย เพราะถ้าหลวงลุงกลับเข้าเขตสังฆวาสไปก่อน
สว.ต้องรอจนเย็นกว่าท่านจะออกมา
กว่าสว.จะได้กุญแจเข้าเรือนพักก็เกือบเที่ยง

ตอนค่ำหลังจากเสร็จการภาวนารอบค่ำ
สว.ต้องไปทำงานที่ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อต่อที่ห้องสมุด แม่ชีจึงมอบกุญแจห้องสมุดให้ สว. ไปไขเปิดใช้งานเองเลย
พอทำงานเสร็จ ปรากฏว่าสว.หากุญแจปิดห้องสมุดไม่เจอ ต้องรีบไปยืมกุญแจสำรองจากหลวงพี่มาปิดก่อนท่านจะเข้าเขตสังฆวาส

เช้าวันถัดมา แม่ชีมายืมกุญแจเรือนพักของสว. เพราะพี่ที่เข้าพักก่อนหน้านี้ ท่านลืมของไว้ในเรือนพัก แม่ชีต้องเอากุญแจไปไข ปรากฏว่าแม่ชีมีงานต้องทำหลายอย่างเลยลืมกุญแจห้องของสว.ไม่รู้ว่านำไปวางไว้ที่ใด สว.จึงไม่มีกุญแจเข้าเรือนพัก กุญแจห้องสมุดก็ยังหาไม่เจอ

รอจนพระฉันจังหันเสร็จ แม่ชียังหากุญแจไม่เจอ สว.ต้องรีบไปยืมกุญแจสำรองจากหลวงพี่มาไขเข้าห้องพักเพื่ออาบน้ำ เพราะหลังฉันจังหันแล้ว พระท่านจะกลับเข้าเขตสังฆวาส จนเย็นท่านจึงจะออกมากวาดลานวัด ระหว่างนั้นเราจะไปรบกวนท่านไม่ได้
และก็ต้องยืมกุญแจสำรองจากพระไปไขเปิดห้องสมุดด้วยเพื่อหากุญแจที่ สว.ทำหายเมื่อคืนก่อน

สรุปว่า สว. ทำให้พระและแม่ชีวุ่นวายกับเรื่องกุญแจไปด้วย

คืนวันศุกร์และเช้าวันเสาร์ลูกศิษย์จากกรุงเทพฯ ทยอยเดินทางมาวัดเพิ่มจำนวนมากขึ้น เพื่อมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพหลวงปู่ใหญ่ที่วัดเจดีย์หลวง ทำให้วัดคึกคักแต่เช้า ช่วยกันทำอาหารถวายพระ

ตกเย็นชาววัดทั้งหมดเดินทางโดยรถบัสทหารแบบ open-airไปร่วมงานสวดศพหลวงปู่ใหญ่ ทำให้นึกถึงสมัยสว.เรียนมหาลัย สมัยนั้นยังไม่มีรถแอร์ ต้องนั่งรถตากลม ทำให้ผมแข็งเหมือนฉีดสเปรย์เลย

ขากลับจากวัดเจดีย์หลวง มาถึงวัดที่ลำพูน หลวงพ่อท่านเมตตาทราบว่าศิษย์มากันเยอะ ท่านจึงลงมานั่งบนเก้าอี้ไม้ พวกเราก็ปูเสื่อห้อมล้อมหลวงพ่อ ท่านเล่าเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องหลวงปู่ ธรรมเนียมการสวดศพแบบเหนือ และอื่น ๆ ระหว่างนั้นท่านมีอาการคัดจมูก ท่านพูดขึ้นว่า "หลวงพ่อเป็นภูมิแพ้"
(ก็หลวงพ่อไม่ยอมนอนพักผ่อนเลย)
ท่านยกมือชี้มาที่สว. แล้วพูดว่า
"..... ก็เป็นภูมิแพ้เหมือนกัน เป็นโรคจากวิบากกรรม" สว.ก็ งง เออ ท่านรู้แฮ่ะ
สว.จึงต้องระวังกายและใจมากขึ้น ก็ท่านรู้ทุกเรื่องที่เราเป็น...เราคิด....

หลวงพ่อท่านให้ศิษย์ช่วยกันแกะชุดไทยทานที่ พระองค์หญิงถวายท่านในการแสดงธรรมในงานศพหลวงปู่ใหญ่ที่ทรงรับอนุเคราะห์งานบำเพ็ญกุศล
ในชุดไทยทานนั้นมีอาหารหลายอย่าง สว.เห็นตั้งแต่อยู่ที่วัดแล้ว เกิดความสงสัยในใจว่า เอ...หลวงพ่อยอมรับประเคนด้วยรึ
ท่านก็พูดขึ้นว่า "เนี่ยจัดมาด้วยความไม่รู้ ชาวพุทธส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องเลย ใส่อาหารปะปนมา หลวงพ่อไม่ได้รับประเคนหรอกน๊ะ"
สว.จึงถึงบางอ้อ.. ผู้แทนพระองค์ท่านยกของประเคน แต่หลวงพ่อไม่ได้เอื้อมมือมารับนี่เอง
หลวงพ่อเมตตาสละสิ่งของทั้งหมดให้ศิษย์แบ่งกัน ตั้งไว้โต๊ะกลาง ใครอยากได้อะไรก็มาหยิบไป

หลวงพ่อท่านสนทนาด้วยจนเลยเที่ยงคืน ท่านจึงสั่งให้กลับไปนอน แต่ตัวท่านเข้ากุฎิเพื่อเขียนหนังสือต่อ

ค่ำคืนวันเสาร์นี้ มีพี่ท่านนึงมาเข้าพักเพิ่มในห้องพักเดียวกับสว. เธอรู้จักกับพี่ร่วมห้องและร่วมทางของสว.
เมื่อ ๔-๕ ปีก่อนหน้านี้ เพื่อนของเธอซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเคยพาเธอมากราบหลวงพ่อ เพราะเธอป่วยด้วยโรคมะเร็งมดลูก ต่อมาเพื่อนโทรไปตามเธอที่บ้านบอกว่าหลวงพ่อสั่งให้มาอยู่วัด ถ้าไม่มาต้องตาย หลวงพ่อสั่งให้อยู่วัด ๒๕ วัน ระหว่างอยู่วัดหลวงพ่อให้ล้างห้องสุขาทุกวันและให้สวดมนต์บางบทเป็นการเฉพาะ เธออยู่วัดจนครบกำหนดจึงกลับกรุงเทพ จนถึงทุกวันนี้เธอมีสุขภาพแข็งแรง โดยไม่ยอมผ่าตัดหรือรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน

วันรุ่งขึ้นเธออาสาพาคณะของสว.ไปส่งที่สนามบิน ระหว่างทางเธอเล่าว่าหลวงพี่ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อได้บอกเธอว่า เธอทำความผิด เธอไม่เข้าใจว่าทำไมมาว่าเธอทำความผิด สว.ก็เลยช่วยนึก
เธอทำผิดจริงๆ ค่ะ...
ก็เธอมาอยู่วัด เธอไม่ได้กราบขออนุญาตหลวงพ่อก่อนอ่ะ แม้ตอนที่หลวงพ่อนั่งสนทนากับหมู่ศิษย์ สว.เรียกเธอ เธอก็ไม่เข้ามากราบหลวงพ่อ แต่เธอให้คนมาเอากุญแจเรือนพักจากสว.เพื่ออาบน้ำและเข้านอน ตอนเช้าตีสี่ สว.ปลุกเธอไปทำวัตรเช้า เธอบอกว่า เธอไม่ได้มาถือศีลที่วัด เธอจึงไม่ยอมตื่นไปทำวัตรเช้าที่ศาลา

อึม...มาอยู่วัดกับครูบาอาจารย์
ท่านทราบทุกเรื่อง
ต้องระวังกายและใจให้จงหนัก



 

โดย: โอรัช IP: 125.24.138.208 1 สิงหาคม 2551 23:25:02 น.  

 


สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


ขอให้เพื่อนๆสมาชิกสละเวลาอ่านกันสักนิด...เพราะว่าเป็นเรื่องที่ไกล้ชิดเกี่ยวกับชีวิตของเราและคนที่เรารัก...ด้วยความห่วงใยทุกๆท่าน...จากเจ้ากรมสุขภาพและจิตใจ อิอิ


ตะลึง!ผลวิจัยชี้ควันธูปมีสารก่อมะเร็งเพียบ

ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) โดย นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าไอซียู รพ.วิชัยยุทธ แถลงข่าวผลงานวิจัยเรื่อง “สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป” ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยร่วมกับ น.ส. พนิดา นวสัมฤทธิ์ นักวิจัยห้องปฏิบัติการพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยทำการศึกษาถึงอันตรายของควันธูป ที่ประชาชนชาวพุทธนิยมใช้จุดเพื่อบูชาพระ ทั้งนี้ เนื่องจาก จากสถิติการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอดในเพศหญิงพบว่ากว่าร้อยละ 50 ไม่พบประวัติสูบบุหรี่ หรือใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ และยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง แม้ว่าร้อยละ 80 - 90 ของผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาวิจัยในครั้ง ได้ผลสรุปที่น่าตกใจว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับปัจจัยที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง กลับมีสาเหตุมาจากภัยที่เพิ่งค้นพบคือ สารพิษก่อมะเร็งจากควันธูป ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

นพ.มนูญ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาควันธูปมีสารก่อมะเร็ง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน มีส่วนประกอบมาจากกาว ขี้เลื่อย น้ำมันหอม และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม เป็นต้น โดยสารก่อมะเร็งเกิดจากการเผาไหม้ของกาวและน้ำหอม เป็นสำคัญ ทั้งนี้ ในการศึกษาวิจัย ทีมวิจัยได้ออกทำการสำรวจหาสารก่อมะเร็งในบริเวณวัดชื่อดังในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ จำนวน 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งเป็นวัดที่มีคนเข้าไปบูชากราบไหว้พระกันมาก โดยเริ่มดำเนินการสำรวจพร้อมตรวจสุขภาพคนงานที่ปฏิบัติงานในวัดจำนวน 40 คน เปรียบเทียบกับคนงานในหน่วยงานที่ไม่มีการจุดธูปจำนวน 25 คน โดยการตรวจเลือดและปัสสาวะ พบว่า คนงานที่ทำงานในวัดทั้งหมดมีสารก่อมะเร็งผสมอยู่ในเลือดและปัสสาวะสูงกว่าคนที่ไม่ทำงานในวัดถึง 4 เท่า โดยในวัดมีสารดังกล่าวสูงกว่าสถานที่ที่ไม่จุดธูปถึง 63 เท่า ที่สำคัญจากการตรวจร่างกายในคนงานในวัด 40 คนยังพบการแตกหักของรหัสพันธุกรรมสูงกว่าคนปกติถึง 2 เท่าอีกด้วย

“นอกจากนี้สำหรับการจุดธูปในบ้านตามความเชื่อและประเพณีที่ทำกันมาของคนไทย ที่ต้องการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดควันธูปในบ้านมาก ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะ ธูป 3 ดอกสามารถปล่อยมลพิษและสารก่อมะเร็งได้เทียบเท่าสี่แยกไฟแดงที่มีการจราจรคับคั่ง” นพ.มนูญ กล่าว และว่า ผลการวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Chemico –biological/ interactions ของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือน ก.พ.2551 ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเป็นหนึ่งในทีมวิจัยด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของธูปที่ไร้ควัน หรือธูปอโรมา มีสารก่อมะเร็งหรือไม่ นพ.มนูญ กล่าวว่า ธูปทุกชนิดล้วนมีสารก่อมะเร็งทั้งสิ้น ธูปไร้ควันและธูปอโรมา เคยมีงานวิจัยออกมาพบว่า มีการปล่อยสารเบนซินมากกว่าธูปธรรมดาด้วยซ้ำไป อย่างไรก็ตาม ภาครัฐควรมีการรณรงค์เรื่องนี้ให้ระมัดระวังกันถ้วนหน้า และต้องมีการรณรงค์ดับควันธูป โดยหลังจากจุดธูปแล้วควรมีการจุ่มธูปลงในน้ำหรือทรายก่อนปักลงในกระถางจะช่วยลดควันธูปได้ และในอนาคตภาคอุตสาหกรรมควรมีการผลิตธูปที่เมื่อจุดแล้วดับได้ทันทีภายในไม่กี่วินาที


 

โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.204.125 2 สิงหาคม 2551 9:07:05 น.  

 

ย่าอำฯ....คะ
สว.ขออนุญาตเล่าเรื่องวัดต่อค่ะ

วันอาทิตย์หลวงพ่อทราบว่าลูกศิษย์จะกลับบ้านกันเยอะ หลังจากฉันภัตราหารแล้ว หลวงพ่อได้ลงมาที่โรงฉันน้ำซึ่งบรรดาศิษย์กำลังรับประทานอาหารกันอยู่ ท่านนั่งเก้าอี้ม้ากลม พวกเราปูเสื่อนั่งล้อมท่าน ฟังท่านเล่าเรื่องต่างๆ
ไม่เบื่อเลย

หลวงพ่อได้ให้พระไปนำรูปท่านจากกุฏิ ๓ ใบ พี่(คนที่สว.เล่าว่า มาเข้าพักโดยไม่กราบเรียนขออนุญาตท่าน) รีบคลานเข้าไปขอ หลวงพ่อพูดขึ้นว่า "ไม่ให้ เราน่ะเพิ่งมา คนอื่นเขามาตั้งนานแล้ว" แล้วท่านได้เรียกพี่ร่วมทางของสว. และ สว. เข้าไปรับรูป
คนอื่นหลวงพ่อยื่นรูปให้เฉยๆ แต่ขณะที่ท่านยื่นรูปให้ สว. หลวงพ่อบอกสว.ว่า".....เก็บรูปหลวงพ่อไว้ในที่สมควร และลองอธิษฐานดูน๊ะ" ท่านเล่าเรื่องเกี่ยวกับรูปนี้ด้วยว่า ท่านอธิษฐานธรรมบางอย่าง สว.ความจำสั้นจำไม่ได้

สว.ดีใจมากเลย เพราะเป็นครั้งแรกที่สว.ได้รับรูปหลวงพ่อจากมือท่านเอง
แต่ สว.ไม่เคยขอรูปจากท่าน เพียงแต่เคยอธิษฐานไว้ว่า หากสว.มีบุญบารมีเพียงพอที่จะเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ขอให้หลวงพ่อมอบรูปให้ สว.
รอนาน ๒ ปี จึงสมประสงค์

 

โดย: โอรัช IP: 125.24.150.94 2 สิงหาคม 2551 21:15:59 น.  

 

โหหหหหหหหหหหหหหหหหห
ขออนุโมทนาสาธุกับคุณอรก่อนค่ะ
ที่ได้รับรูปจากหลวงพ่อโดยตรง

มาอ่านสองรอบแล้วค่ะ
คุณอรเขียนเล่าได้เห็นภาพเลยค่ะ
งานนี้เนื่องด้วยกุญแจตลอด
ทดสอบการควบคุมจิตและอารมณ์เป็นอย่างเยี่ยม
หากกำหนดไม่ทัน
ต้องหงุดหงิดมากถึงมาที่สุดเลยแหละ
ดีจัง...
ที่มีปัญหากะกุญแจ
ว่าไหมคะคุณอร...

 

โดย: อักษราภรณ์ IP: 125.26.52.75 3 สิงหาคม 2551 1:41:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]























Friends' blogs
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.