สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
18 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
ความดี


การทำดีนั้น
"ทำยาก และเห็นผลช้า"
แต่ก็จำเป็นต้องทำ


Photobucket>

เพราะหาไม่
"ความชั่ว ซึ่งทำได้ง่าย"
จะเข้ามาแทนที่
แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยไม่ทันรู้สึกตัว



พระบรมราโชวาท
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ในพิธีพระราชทานกระบี่ฯ
แก่ผู้สำเร็จการศึกษาชั้นสูง จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร
ณ ๖ สิงหาคม ๒๕๒๔






Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 21:43:46 น. 46 comments
Counter : 662 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ ...ทุก ๆ ท่าน

เหินห่างจากบล็อกตัวเองไปซะนาน
เกือบเปลี่ยนบล๊อกนี้ให้เป็น
แกลลอรี่น้องหมิง หมิง ซะแว้วววอ่ะ

ต้องขอบคุณพ่อ ก.ก๋า
ที่พาน้องหมิง หมิง มายิ้มเริงร่าทุก ๆ วันนะคะ

Photobucket>


โดย: สาวิกา วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:56:55 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


อาจห่างหายไปเสียนานเหมือนกันบ้าง...
อย่าอ้างว้างกลางสายลมห่มความเหงา...
แม้รอยยิ้มแห่งไมตรีมีบางเบา...
คงคลายเศร้าเพราะว่าเราเข้าใจกัน...


โดย: นักเดินทาง IP: 117.47.84.81 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:27:51 น.  

 
น้อมรับใส่เกล้าครับ






โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:08:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ


เข้ามาดูรูปน้องหมิง หมิงทุกวันค่ะ น่ารักซะจริงๆ


ขออนุโมทนา สาธุกับทุกๆบุญกุศลด้วยนะคะ _/|\\_


ก่อนนี้ ไม่เข้าใจเรื่องการอนุโมทนาบุญ คิดว่า การบอกเรื่องที่เราไปทำบุญมา
เป็นเหมือนการโอ้อวดค่ะ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว



เราเองทำความดี ทำบุญมามาก..
แต่ก่อนนี้ เราทำเพราะอาจจะมีของเก่า ทำเพราะจิตคิดอนุเคราะห์ค่ะ
ไม่ค่อยจะหวังผลอะไรเลย ทำแล้วก็ลืม..
จนกระทั่ง หลังๆมา..โลกมันกลม เจอคนที่จำเราได้เพราะเราได้ให้ ได้ช่วยเหลือเขาไป
ก็รู้สึกดีนะคะ บางที นั่งจัดโต๊ะย้ายที่ทำงาน..ก็จะเห็นใบโอนเงินไปทำบุญเยอะมากกกก


เราเชื่อคำพูดที่ว่า บุญเหมือนรดน้ำที่โคนต้น ให้ผลที่ปลาย..
หลายคนไม่เข้าใจว่า เราทำอะไรอย่างไรมา เหมือนว่าเราจะโชคดี..
อันที่จริง เราทำมาตลอดชีวิตน่ะค่ะ
ดังนั้น บางที เราทำนิดเดียว หรือแค่คิด บุญก็ส่งผล
คนอื่นที่ไม่ได้ทำมา สะสมมา จึงยังไม่เห็นผล..
เราก็เพียรบอกใครๆไปว่า ทำๆไปเถอะ อย่าท้อ..
การให้อะไรคนอื่น เท่ากับ เป็นการให้ตนเอง..


พี่ช.นู๋กาบอกกับพี่เราว่า เขาไม่เคยทำอะไรให้ใครเท่ากับที่ทำให้เราเลย..
แม้แต่แม่ของเขา..
แสดงว่า เขาทำอะไรให้ใคร น้อยมากนะคะ
บังเอิญ เราเกิดมาเป็น ผู้ให้ เสียส่วนมาก..
เพิ่งจะได้มาเป็น ผู้รับ.. ก็จากพี่นี่แหละค่ะ
แต่ การรับจากพี่ ไม่ใช่เพื่อจะให้ตนเองอยู่ถ่ายเดียว
การรับจากพี่ เพื่อจะไปต่อบุญไงคะ
เราจึงเริ่มจะเข้าใจแล้วว่า ทำไม พี่กับเราจึงแยกกันไม่ได้ ขายกันไม่ขาด
เพราะเงินของพี่..เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เราทำบุญนั่นเองค่ะ
จึงเปรียบเสมือน..เราร่วมกันทำบุญ
บุญจึงเป็นสายใย ร้อยรัดให้เรามีกรรมสัมพันธ์ที่ดีต่อกันค่ะ


การได้กลับมา ขึ้นคาน.. ต่อนั้น ถือว่า เป็นโชคของเรานะคะ :-)
เพราะ ชีวิตของเราดีขึ้นมากๆค่ะ


โดย: -j IP: 58.8.245.16 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:49:52 น.  

 
พี่คะๆ
ประเดิมเม้นท์เป็นรายแรกของสามดาวเลยนะคะ
กรรมเริ่มบันดาล ณ บัดดลค่ะ อิอิ

วันนี้ไปกราบ ลพ มาค่ะ
ไปรอประตูเปิดค่ะ ประมาณคันที่5
อานิสงฆ์จากการนำของพี่สาวิกาค่ะ
เลยขับรถไปแต่มืดเลยค่ะเดี๋ยวนี้
มีความสุขจิงๆ...ถึงมันจะชั่วคราวก็เถอะ

มีอีกอย่างพี่สาวิกาบอกให้ลอง
วันนี้ไปสนทนากับแม่ชี แล้วก็ไปให้ท่านโอบด้วยล่ะ
ปีติยังไม่หุบเลยเนี่ย คิคิ...
ขอบคุณสำหรับความสุขที่แบ่งปันนะคะ
ถึงมันจะชั่วคราวก็เถอะ...อิอิ



โดย: สามดาว IP: 116.58.231.242 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:22:40 น.  

 
สวัสดีค่ะ ทุกท่าน

คิคิ ...ขี้นหน้าใหม่
ได้เม้นท์ใหม่ ๆ จากสมาชิกหน้าใหม่ (ของบ้านนี้) แต่เก่ามาจากที่อื่น

ขอบคุณทุก ๆ ท่านนะคะ ...ไว้ว่าง ๆ เจ้าบ้านค่อยมาคุยใหม่

กับบางคนได้คุยกันสด ๆ ทุกวัน จนไม่อยากมาคุยแบบแห้ง ๆ ในนี้แล้วอะจิ เอาน่า ...ไว้มาทักทายรายงานตัวกัน ในวันที่เบื่อคุยกันแล้วก้อได้นี่เนอะ

มีความสุขในทุก ๆ วันนะคะ





โดย: สาวิกา IP: 124.120.107.212 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:05:40 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน



ดอกไม้ คลายเครียด

ว่าไหมนอกจากการปลูกต้นไม้จะช่วยคลายเครียดแล้ว ยังช่วยทลายกำแพงสี่เหลี่ยมในที่ทำงานเดิมๆ ด้วยสีสันแห่งธรรมชาติ เชื่อเถอะแล้วอาการหน้ามืด ตาลาย คล้ายจะเป็นลม เพราะงานล้นมือและเครียดขึ้นสมองจะลดลงทันตา

1. สับปะรดสี
ไม้ประดับสวยงาม ต้องการเพียงแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า แนะนำให้วางตามมุมที่มีแสงผ่าน อาจออกดอกให้ได้ลุ้น

2. ซุ้มกระต่าย
มีดอกสีขาวเป็นช่อ ช่วยสร้างความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เหมาะเลี้ยงไว้เพื่อพักสายตาสำหรับคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีสีเขียวสลับสีอ่อน เช่น สีขาว สีเหลือง จะช่วยทำให้ห้องสว่างขึ้น

3. หน้าวัว
แนะนำสำหรับใครที่เครียดจากการทำงานมากๆ นอกจากใบสวยแล้วยังมีดอกสีสันสดใส ออกดอกมากสุดถึง 10 ดอก เป็นไม้ดอกที่เติบโตได้ดีในที่ที่มีแสงรำไรและในที่ร่ม ยิ่งปลูกในที่อากาศเย็น ดอกจะยิ่งโต สีจะยิ่งสด

4. Aglaonema
เหมาะสำหรับคนจ็อบเยอะ งานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาเพราะเป็นต้นไม้ที่อยู่ในร่มได้นานที่สุด ทนทานต่ออากาศแห้งแล้งหรือความชื้นต่ำ อยู่ได้เป็นเดือนแม้จะไม่ได้รดน้ำหรือโดนแดด แนะนำให้วางตามมุมห้องประชุม หรือประตูทางเข้า เพื่อความสวยงาม

5. กระบองเพชร
แค่วางใกล้ๆ คอมพิวเตอร์ก็อุ่นใจว่าจะช่วยดูดซับรังสีจากหน้าจอไม่ให้ทำร้ายคุณได้ แถมดูแลง่าย ราคาถูกด้วย

6. หนวกปลาดุกแคระ
ไม้ประดับสุดฮิตต้นเตี้ยๆ โตช้า เหมาะมากสำหรับออฟฟิศหรือโต๊ะทำงานพื้นที่จำกัด เลี้ยงได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ดูแลง่ายแค่รดน้ำวันเว้นวันเท่านั้น

7. ออมทอง
แค่ชื่อก็ฟังดูดีคนไทยโบราณเชื่อว่า ใครปลูกไว้จะทำให้มีเงินมีทอง เลี้ยงได้ทั้งในน้ำและดิน ถ้าปลูกในออฟฟิศขอแนะนำให้ปลูกในน้ำ เพราะจะโตช้ากว่า ที่สำคัญต้องหมั่นดูราก ถ้าเริ่มมีสีดำให้นำไปล้าง เปลี่ยนน้ำเดือนละครั้ง แล้วรากจะขึ้นใหม่

8. เฟิร์นเงิน
เหมาะสำหรับโต๊ะทำงานที่อยู่มุมอับ มีแสงสว่างน้อย คุณสมบัติช่วยลดอุณหภูมิความร้อนจากภายนอก และเติบโตได้ดีในห้องที่อากาศเย็นฉ่ำ ปลูกง่ายๆ แค่หมั่นพรมน้ำที่ใบทุกวัน และรดน้ำตรงโคนประมาณครึ่งแก้ว แค่วันเว้นวัน และควรนำออกแดดประมาณ 3 วันครั้ง

9. ลิ้นมังกรแคระ
ช่วยเพิ่มออกซิเจนในอากาศ และดูดสารพิษในอาคารได้ดี ดูแลง่าย อยู่ได้ 6-7 เดือน โดยไม่ต้องรดน้ำ เป็นไม้โตช้า อยู่คู่กับโต๊ะทำงานได้นาน จนกว่าจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง

10. บอนสีพญาเศวต
เจ้าของฉายาราชินีแห่งไม้ใบ อยู่ได้แม้ในออฟฟิศที่มีแสงสว่างน้อย หรือที่มีแสงนีออน แต่ต้องระวังรดน้ำเฉพาะโคนต้น ห้ามโดนใบเด็ดขาด มิฉะนั้นใบอาจร่วงหรือเน่าได้ ควรนำออกไปรับแดดบ้าง



โดย: นักเดินทาง IP: 222.123.76.151 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:45:04 น.  

 
แวะมาคุยด้วยคนค่ะ

พูดถึงต้นไม้ ช่วงไปอินเดีย สว. ห่วงต้นไม้มากเลย
กลัวว่าจะตายเพราะไม่มีคนช่วยรดน้ำ
แต่โชคดีมาก น้องชายช่วยเป็นธุระ ประกอบกับอากาศอบอุ่นขึ้น ต้นโมกพวง ชมนาด และ หอมเจ็ดชั้นออกดอก โดยเฉพาะหอมเจ็ดชั้น ดอกบานเป็นชั้นๆ สวยดี

และ ต้นวาสนากำลังออกดอกบานหลายช่อ ยามค่ำคืนส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบ้าน
กลบกลิ่น ดอกหอมเจ็ดชั้น
ความจริง ดอกหอมเจ็ดชั้นเนี่ย คนอื่นเขาว่าหอมแรง
แต่นี่มาเจอ กลิ่นดอกวาสนา ข่มซะหมด

วกกลับไปเรื่องอินเดีย
ครั้งนี้มีพี่คนนึงซึ่งเธอได้เคยไป สี่สังเวชนียสถาน มาแล้ว เมื่อปีกลาย กับกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งมีพระวิทยากร นำไป

พอกลับมาเมืองไทย เผอิญเธอได้ไปฟังหลวงพ่อแสดงธรรม เรื่องพระสูตร ต่างๆ ทำให้เธอต้องกลับไปอินเดียอีกครั้ง ในปีนี้เพื่อทำพิธีขมากรรมต่อพระพุทธเจ้า
เพราะเหตุว่า ด้วยความไม่รู้ ทำให้เธอเหยียบย่ำไปบน พระคันธกุฎี และ เดินเวียนประทักษิณ รอบองค์พระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน ที่กุสินารา
ซึ่งหลวงพ่อบอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เป็นบาป
เพราะคันธกุฎี หรือ กุฎีต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าเคยประทับ เราไม่ควรขึ้นไปเหยียบย่ำ เพื่อปักธูปเทียน
แต่ควรให้ความเคารพด้วยการกราบไหว้ที่ด้านล่าง แทน การเดินย่ำขึ้นไปด้านบน

ส่วนพระพุทธรูปปางปรินิพพาน นั้น เราควรถวายการเคารพโดยไม่ไปเดินประทักษิณรอบองค์พระ เพราะจะเป็นการเดินข้ามพระเศียรของพระองค์
เปรียบเหมือนพ่อแม่ที่เราเคารพ ท่านนอนอยู่
แล้วเราไปเดินวนรอบศีรษะท่าน เป็นการไม่เคารพ
หากต้องการจะเวียนประทักษิณ ให้กระทำที่ด้านนอกพระวิหารแทน

เจ้าหน้าที่ที่ดูแล สถานที่ต่างๆ นั้น เป็นชาวฮินดู
เขามอง สังเวชนียสถาน เป็นแค่ โบราณสถาน
เป็นสถานที่ทำเงินทำทองให้เขา ทุกอย่างทำเพื่อเงิน
ไม่ได้มองว่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรแก่การเคารพกราบไหว้แบบที่เราชาวพุทธคิด

ครั้งนี้ สว . ได้เห็น ความบ้าบุญแบบบ้าคลั่ง ของ ชาวพุทธคนไทย แบบทำบุญได้บาป เพราะขาดความเคารพในพระรัตนตรัย
ที่ กุสินารา ระหว่างที่คณะของ สว. กำลัง นั่งสวดมนต์อิติปิโส ถวายการเคารพพระรัตนตรัย หน้าพระพุทธรูปปางปรินิพพาน โดยพวกเรานั่งกันเป็นแถวเรียบร้อย
มีคนไทยกลุ่มใหญ่อีกคณะส่วนใหญ่เป็นหญิง นุ่งห่มด้วยชุดขาว เดินย่ำเข้ามากลางวง เพื่อนำผ้ามาถวายห่มพระพุทธเจ้า ผ้าที่นำมาห่มก็ลากข้ามหัวพวกเราซึ่งกำลังสวดมนต์อยู่ แถมบางนางบุกเดินย่ำเท้าข้ามขอบหิน ซึ่งเป็นที่กั้นเป็นขอบองค์พระเพื่อจะนำผ้าเข้าไปด้านในชิดองค์พระ น้องคนนึงในคณะของสว. ทนไม่ไหว จึงหันไปจับเท้าเธอไว้ และเตือนว่าไม่ควรเดินย่ำข้ามหินเข้าไปด้านในองค์พระ
บางคนในคณะนั้นต่อว่าพวกเราขึ้นดังๆ ว่า
ทำไมไม่รีบๆไหว้ ๆ แล้วออกไป นั่งสวดมนต์กันอยู่ได้
คณะนี้หลังจากส่งผ้าให้เจ้าหน้าที่ด้านในแล้ว ก็ปิติที่ตนเองได้ถวายผ้า แล้วก็แห่กันออกไป ไม่มีการนั่งกราบไหว้

แต่ก็มีบางคนที่เข้ามาเห็นพวกเราสวดมนต์อยู่ ก็จะรีบนั่งลงพนมมือฟังกันเรียบร้อย รอจนเราสวดมนต์เสร็จและเคลื่อนออกไป คณะของเขาจึงเข้าไปกราบบ้าง
ซึ่งดูแล้ว มีมารยาทงดงามและเคารพในพระรัตนตรัย

จึงขอนำมาฝากเพื่อนๆ สมาชิก
การทำบุญควรทำด้วยมารยาทที่งดงาม
และเคารพในพระรัตนตรัยด้วย






โดย: โฮรัช IP: 118.173.98.234 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:40:32 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:06:07 น.  

 
สวัสดีค่ะ ... ทุก ๆ ท่าน

ขอบคุณความน่ารักของน้องหมิง หมิง ที่ไม่เคยเจือจางลงแม้แต่สักน้อย ...มาอวดความน่ารักได้ไม่มีตกเทรนด์

ขอบคุณสาระดี ๆ จากคุณนักเดินทางค่ะ แค่อ่านขึ้นต้นว่าเกี่ยวกับดอกไม้ ต้นไม้ ใจก้อพลันนึกถึงพี่อรขึ้นมาทันควัน

อิอิ ...พี่อรมาแบบทันที ทันใดจริง ๆ มาประเดิมด้วยต้นไม้แสนรักทั้งหลาย ...แปลกแต่จริงนะ พี่อรพูดถึงต้นวาสนาที่กำลังออกดอกหอม ...ช่วงนี้นู๋กาก้อเห็นแต่ต้นวาสนาที่ออกดอกจากหลากหลายที่เหมือนกัน...ซึ่งปกติไม่ค่อยเห็นดอกวาสนาได้ง่าย ๆ นัก

สมาชิกหน้าใหม่ที่ เผลอ หลงมาลงเม้นท์บ้านนี้แล้ว อย่าเผลอหลงละเลยเสียล่ะ ...คิคิ...เผลอแล้วต้องมาเผลอบ่อย ๆ ด้วยน้า

ขออนุโมทนากับทุก ๆ บุญกุศลของพี่อร และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ


โดย: สาวิกา วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:38:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:24:03 น.  

 
ยิ่งมายิ่งรู้สึกเหมือนกันครับพี่
ว่าคนที่เรารู้จัก
เริ่มทยอยจากไปตามวันเวลา

และมันก็เป็นสัจธรรมแห่งชีวิตจริงๆครับ



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:22:02 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่


รูปในกล่องคอมเม้นท์สวยจังเลยครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:02:58 น.  

 
นู๋กา....
ต้นวาสนาออกดอกปีละครั้งในฤดูหนาว
แต่ทุกปีที่ผ่านมา ในกรุงเทพฯ แทบจะไม่เคยสัมผัสความหนาวเย็นเลย เขาก็เลยไม่ออกดอก
ปีนี้มีความหนาวเย็นมาให้สัมผัส และค่อนข้างนาน เขาก็เลยออกดอกกันใหญ่
แต่ต้นที่ออกดอกมักเป็นต้นที่สูงวัย แบบ สว.
อย่างต้นที่บ้าน สว. ต้นที่สูงประมาณตึก ๒ ชั้นจึงออกดอก ช่อดอกยาวประมาณ ๒ ฟุตเลยล่ะ
ส่วนต้นขนาดย่อมเมตรกว่า ๆ ไม่ออกดอก



โดย: โอรัช IP: 125.24.103.133 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:57:56 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน



มารายงานตัวว่ายังอยู่ครับ...

ขอบคุณคุณอรที่นำเรื่องราวและแง่คิดดีๆมาฝากครับ



โดย: นักเดินทาง IP: 117.47.205.138 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:59:16 น.  

 
สวัสดีค่ะ ...พี่อร

ถึงว่าจิคะ ทำไมช่วงนี้ถึงได้เห็นดอกวาสนาบ่อยจัง นึกว่าเส้นวาสนาของนู๋กำลังจะพุ่งซ้าอีกอ่ะ (555)

แต่เดิมที่บ้านเคยปลูกไว้ สูงทะลุหลังคาไปมาก ยังไม่เคยมีดอกให้เห็นเลยค่ะ พอย้ายบ้านเลยต้องตัดทิ้งไป

วันนี้พาน้องวิว ไปสอบสัมภาษณ์เพื่อเข้าเรียนต่อ ม. 1 ที่ รร.สาธิต ม.รามคำแหง ...เพิ่งไปลองสอบเป็นแห่งแรกของปีการศึกษาที่จะถึงนี้ ยังเหลืออีก 2 สนามที่จะประลองวิชา คือสนามสอบใกล้บ้าน เพราะมีสิทธิ์อยู่แล้ว ในฐานะเด็กเรียนดี และเด็กในพื้นที่ กับอีกหนึ่งสนามเพื่อทดสอบเกณฑ์ความรู้

ได้ฟังนโยบายของรร.สาธิตแล้ว รู้สึกดีอ่ะ ลุ้นให้น้องวิวเลือกเรียนที่นี่ ...ที่น้องวิวไม่อยากไปเรียนรร.สาธิต เพราะ

1. ไกลบ้าน
2. ติดเพื่อน เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่เลือกรร.ในพื้นที่กัน

ทีแรกเจ้าบ้านก้อคิดอยากให้เรียนใกล้บ้าน ...แต่พอไปฟังการประชุมในวันนี้ เห็นแนวการเรียน การสอนของ รร.สาธิตแล้ว รู้สึกชื่นชอบ และชื่นชมมาก ๆ อ่ะค่ะ ...เพราะการเรียน การสอนที่นี่ไม่ได้เน้นการแข่งขันการเรียนเป็นสำคัญ เน้นที่ความถนัดของเด็ก และมีแนวผสมผสานระหว่างเด็กเรียนดี กับเด็กเรียนปานกลาง และเด็กกิจกรรม ...

เด็กเรียนดีดึงเด็กกิจกรรมให้หันมาสนใจการเรียน...เด็กกิจกรรม ดึงเด็กเรียนดี ให้มันมามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม เพื่อส่วนรวม มีน้ำใจแบ่งปัน เสียสละ...

อืมม์ ...ถ้าเป็นแบบนี้จริง ๆ ก้อคงดีอะเนอะ เพื่อส่วนรวมอันเป็นอนาคตของเด็ก ๆ ทุกคน


โดย: สาวิกา IP: 124.120.100.59 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:05:25 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่

ธรรมะสวัสดีครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:30:30 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน

ไปทำบุญภาคเหนือมา4วัน รู้สึกดีมากครับ
เอาบุญกุศลบารมีมาแบ่งปันให้อนุโมทนากันครับ

ขออนุโมทนา สาธุกับทุกๆบุญกุศลด้วยครับ


***ก่อนนี้ ไม่เข้าใจเรื่องการอนุโมทนาบุญ คิดว่า การบอกเรื่องที่เราไปทำบุญมา
เป็นเหมือนการโอ้อวดค่ะ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว***

3ยิ้มครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:07:35 น.  

 
นำบุญกุศลมาให้อนุโมทนากันครับ
ผมพึ่งกลับมาจากตระเวณทำบุญภาคเหนือเช่นกำแพงเพชร ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย ฯลฯ 19-22กพ.2552 กับคณะชมรมสู่ร่มโพธิญาณมาครับ ไปมาหลายวัดจำจำนวนไม่ได้แน่นอน หลายจังหวัด ถวายสังฆทานบ้าง ทอดผ้าป่าบ้าง อุทิศผลบุญ ทำเทวตาพลี บวงสรวงเทพยดา บรรพบุรุษ บุรพกษัตริย์บ้าง สะเดาะเคราะห์ สืบชาตา เสริมโชคลาภ ฯลฯ
รักษาศีล ปฏิบัติภาวนาบ้าง มีปิติสุขต่อเนื่องมากครับ ได้ถวายพระพุทธรูปพระพิมพ์ แจกจ่ายรูปพระแก้วมรกต หลวงปู่พวง สุวีโร ได้ถวายหนังสือธรรมะพระพุทธการกธรรม เทวรูป ฯลฯ
บางส่วนเขามีสอนนั่งมโนมยิทธิกันด้วย แต่ผมหลับครับ(แหะๆ)มันดึกมากแล้ว แล้วผมก็นั่งร่วมแผ่เมตตาทั้งคณะกับพระอาจารย์ธรรมสาธิตตอนหัวค่ำมาแล้ว(แอบแผ่แบบสิบทิศ อาศัยร่วมพลังกับหมู่สงฆ์ ผ้าขาว และหมู่คณะทัวร์ เมตตาแรงดีมากครับ) แล้วก็มาบวงสรวงอุทิศบุญกุศลให้แก่พรหมเทพยดา พระภูมิเจ้าที่ พระแม่ธรณี บรรพบุรุษ สรรพสัตว์ ฯลฯ เขาบอกว่ามากันมากมายล้นออกนอกวัด ผมเพลียหน่อยแต่อิ่มใจ เลยเข้านอนครับ
*********

***ขอบคุณค่ะคุณมุ่งเต็มใจ ที่นำบุญมาฝากและให้มีส่วนร่วมในบุญที่มากมายเช่นนี้ แม้แต่ 3 โลกก็ร่วมอนุโมทนาด้วยช่างน่ายินดีจริงๆ ร่างกายแม้อ่อนเพลีย แต่ใจยังเกาะเกี่ยวในบุญที่มุ่งเต็มใจนี้ ก็ไม่เสียหลายที่ได้ทำแล้วหละคะ ^______________^***

//board.palungjit.com/member.php?u=77439

3ยิ้มครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:33:12 น.  

 
***จึงขอนำมาฝากเพื่อนๆ สมาชิก
การทำบุญควรทำด้วยมารยาทที่งดงาม
และเคารพในพระรัตนตรัยด้วย

โดย: โฮรัช ***


อนุโมทนาครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.1.130 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:01:33 น.  

 
สาธุ....
ขออนุโมทนาทุกบุญกุศลที่คุณมุ่งฯ กระทำมาและที่จะกระทำในโอกาสต่อไป
ขอให้สำเร็จตามที่ประสงค์ค่ะ

นู๋กา....
อิ อิ อิ ปลูกต้นไม้ ก็ ต้องใส่ปุ๋ย จ้า

พูดถึงเรื่องเรียน พี่เชียร์ให้เรียนสาธิตฯ
หลานสาวพี่สองคน ตอน ม. ต้น เรียนสาธิตประสานมิตรฯ พอ ม.ปลายแยกไปเรียน เตรียมอุดม พญาไท 1 คน
ทั้งสองคนค่อนข้างมีวุฒิภาวะ รู้จักการบริหารงานและทำงานเป็นกลุ่มได้ดี วางแผนงานเป็น และชอบทำกิจกรรมด้วย
ซึ่งสังเกตุว่า ต่างจากหลานอีกสองคน ที่เรียนโรงเรียนสามัญใกล้บ้าน ขาดทักษะตรงนี้ เหมือนถูกกดข่ม




โดย: โอรัช IP: 125.24.98.41 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:52:26 น.  

 
สวัสดีครับพี่

หมิงหมิงรายงานตัวครับ







โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:50:19 น.  

 
ขอเชิญร่วมงานบุญอายุวัฒนะหลวงปู่คูณ สุเมโธ
ณ วัดป่าภูทอง บ้านภูทอง ต.ภูทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม 2552

วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552
เวลา 07.00 น. ทำบุญตักรบาตร
เวลา 19.00 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
ในวาระ 66 ปี 43 พรรษาหลวงพ่อคูณ สุเมโธ/แสดงพระธรรมเทศนา

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2552
เวลา 07.00 น. พระสงฆ์บิณฑบาต
เวลา 08.00 น. ถวายจังหันแด่พระสงฆ์-สามเณร
เวลา 10.00 น. สรงน้ำหลวงพ่อคูณ สุเมโธ

จึงขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในหลวงปู่พระครูวิมลภาวนาคุณ
(หลวงปู่คูณ สุเมโธ) เพื่อแสดงมุทิตาจิตสักการะ และสรงน้ำโดยพร้อมเพียงกัน

ประมวลภาพงานทำบุญครบรอบอายุวัฒนะมงคล 65 ปี
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=1998

//www.dhammajak.net/forums/view...p?f=10&t=20591

//board.palungjit.com/showthread.php?t=69773&page=4


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.1.130 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:02:41 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:24:42 น.  

 
สวัสดีค่ะ


ชอบดูรูปน้องหมิง หมิงค่ะ โดยเฉพาะรูป #17 ที่ยิ้มเห็นฟันหลายซี่เลย
แถม โดนยุงกัดหรือไร..จึงแต้มยาเหลือง..เห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้เลยค่ะ :)
น่ารักซะจริงๆเลย..


ขออนุโมทนากับทุกๆบุญกุศลด้วยนะคะ _/\\_



โดย: -j IP: 58.8.30.3 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:49:26 น.  

 
หมิงหมิงไม่ต้องปิดหูเลยครับพี่
เพราะผมบอกลูกทุกวัน
ว่า

"ป่ะป๊ารักหมิงหมิงน้า"



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:10:25 น.  

 
สวัสดีครับพี่







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:16:48 น.  

 
: เจอกันในใจ


สิ่งดีดีจะไม่มีวันจาง และยังคงเหมือนเก่า
หากวันใดวันที่ไม่มีเรา อยากให้เธอได้ยอมรับ
การเจอกันต้องมีวันจาก ความรักมีเส้นทางของมัน
มีเรื่องราวที่เราเคยผ่าน ที่เราจะจำมันเก็บไว้

หากเธอคิดถึงฉัน ถึงแม้ไม่ได้เจอ
ให้เธอรู้ฉันยังอยู่ไม่ไกล
เมื่อไหร่ที่คิดถึงฉัน ให้รักแทนดวงตา
ฉันจะมาเจอเธอที่หัวใจ

จากกันไปเราเข้าใจกันดี จะไม่มีน้ำตา
อดทนรอรอแค่วันเวลา ที่จะเจอกันอีกครั้ง
คำที่เคยทักทายวันก่อน มาถึงตอนกล่าวคำร่ำลา
ยังไม่รู้หนทางข้างหน้า จะกลับมาเจอกันอีกไหม

หากเธอคิดถึงฉัน ถึงแม้ไม่ได้เจอ
ให้เธอรู้ฉันยังอยู่ไม่ไกล
เมื่อไหร่ที่คิดถึงฉัน ให้รักแทนดวงตา
ฉันจะมาเจอเธอที่หัวใจ

เมื่อไหร่ที่คิดถึงฉัน ให้รักแทนดวงตา
ฉันจะมาเจอเธอที่หัวใจ...


โดย: -j IP: 58.8.27.112 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:03:29 น.  

 

ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้สึกดีๆ _/|\\_ :-)


เพียงวันละเล็ก ละน้อย ให้มันเป็นไปอย่างนี้ทุกวัน
ให้เหมือน หยดน้ำที่มันหยดลงที่เดิม...เสมอ
รักน้อย ๆ แต่มาคงที่เถอะเธอ ก็พอชื่นใจ

ให้เป็นแค่น้ำ หยดน้อย หยดลงเบาๆ ที่พื้นหัวใจ
ให้รัก ซึมซับลงไปประจำทุกวัน..เสมอ
รู้ว่ารัก แต่อย่าใจร้อนเลย...นะเธอ

ให้วันพรุ่งนี้ช่วยพิสูจน์ความรัก
ให้วันเวลารวบรวมรักที่ได้จากเธอ
ทางอีกแสนไกล ที่เราต้องเจอะเจอ
ค่อยๆ ไปเถอะ จะดีไหม

ทำทีละนิด ละน้อย และคอยดูแลให้รักงดงาม
หยดน้ำ ไม่นานจะเป็นดั่งธารน้ำเย็น...สดใส
และให้รู้ว่าเป็นความรักจากใจ เพียงไม่ช้าไม่นาน

ให้วันพรุ่งนี้ช่วยพิสูจน์ความรัก
ให้วันเวลารวบรวมรักที่ได้จากเธอ
ทางอีกแสนไกล ที่เราต้องเจอะเจอ
ค่อยๆ ไปเถอะ จะดีไหม

ให้วันพรุ่งนี้ช่วยพิสูจน์ความรัก
ให้วันเวลารวบรวมรักที่ได้จากเธอ
ทางอีกแสนไกล ที่เราต้องเจอะเจอ
ค่อยๆ ไปเถอะ จะดีไหม

และจะรักหมดหัวใจ


โดย: -j IP: 58.8.27.112 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:28:11 น.  

 
โดย เรือนธรรม


อบรมพุทธธรรม

ประจำเดือน มีนาคม ๒๕๕๒ ณ ห้องหนังสือเรือนธรรม

โทรศัพท์ ๐-๒๒๔๔๘๒๙๒ : //www.ruendham.com/

วันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๕.๐๐ น.: ฟังธรรมบรรยาย วันพฤหัสบดี : พระอภิธรรม

โดย พระอาจารย์ทวี เกตุธมฺโม

วันศุกร์ : พระอภิธรรม

โดย พระอาจารย์มหาบุญช่วย ปัญญาวชิโร วัดบางยี่ขัน

วันเสาร์ เวลา ๐๙.๓๐-๑๕.๐๐ น.

: เช้า จิตปรมัตถ์

: บ่าย เจตสิกปรมัตถ์

โดย อาจารย์บุญณัฐศักดิ์ ทวิพัฒน์

วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๕.๓๐ น.

:เช้า จิตปรมัตถ์

:บ่าย เจตสิกปรมัตถ์

โดย อาจารย์บุญณัฐศักดิ์ ทวิพัฒน์

กิจกรรมประจำเดือน

๒๗ - ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๒ : อบรมสมาธิเบื้องต้น ระดับ ๒

๒๔- ๒๖ เมษายน ๒๕๕๒ : อบรมสมาธิเบื้องต้น ระดับ ๑

(เข้าวันศุกร์ เวลา ๑๙.๐๐ น. ออกวันอาทิตย์ เวลา ๑๖.๐๐ น.)

อบรมสมาธิเบื้องต้น เป็นคอร์สเหมาะสำหรับผู้เริ่มใหม่ในการปฏิบัติที่ถูกต้อง

กรุณาสำรองที่ล่วงหน้า (ไม่มีค่าใช้จ่าย) โทร. ๐-๒๒๔๔-๘๒๙๒

หมายเหตุ อบรมสมาธิระดับ ๒ จะมีทุกสามเดือน

อบรมคอร์สธรรมภาษาอังกฤษ

เริ่ม วันเสาร์-อาทิตย์ แรกของทุกเดือน

เวลา ๙.๐๐-๑๗.๐๐ น. มาเช้าเย็นกลับ

โดย อาจารย์กัญญา วรเนตร

สนใจติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ ๐๘-๑๔๐๒-๗๙๙๖

ทุกวันเสาร์ เวลา ๑๐.๐๐- ๑๒.๐๐ น.

เชิญร่วมกิจกรรมหัวเราะเพื่อสุขภาพ

โดย อาจารย์กสานติ์ วณิชชานนท์

(ยกเว้นเสาร์แรกของเดือนไม่มีนะค่ะ)

//ruendham.com/news_post.php?id=291&room=1


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:53:50 น.  

 
รางวัลที่ ๑ โดย สุชีพ ปุญญานุภาพ

ขอแนะนำให้อ่านโดยทันที เป็นคำอธิษฐานที่ ไพเราะ และประทับใจมากๆ เพื่อจิตที่เป็นสุขสงบอย่างบริสุทธิ์ ขออนุโมทนา

สมาคมพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่งประกาศชักชวนประชาชนให้ส่งข้อเขียนเรื่อง " ถ้าข้าพเจ้าจะเปิดเผยความปรารถนาหรือคำอธิษฐาน" ไปที่สมาคม ฉบับของใครดีที่สุดจะได้ีรับรางวัล

แต่รางวัลนั้นก็แปลกอยู่ คือแทนที่จะเป็นเงินเป็นทองหรือของที่ระลึก กลับเป็นว่าข้อเขียนของผู้นั้นจะได้รับการพิจารณาจัดพิมพ์ในวารสารของสมาคม ที่ออกเป็นประจำนั้นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะจัดพิมพ์เป็นใบปลิวหรือจุลสารสำหรับแจกแก่ประชาชน เพราะฉะนั้นรางวัลดังกล่าวนี้ ก็คือการได้มีส่วนช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์แก่คนทั่วไป ซึ่งทางสมาคมถือว่าสูงกว่าการได้เงินทองหรือสิ่งของ

ข้อกำหนดนั้นมีอยู่ว่า ถ้าท่านจะตั้งความปรารถนาใดๆ หรืออธิษฐานจิตเพื่ออะไรในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน และถ้าท่านจะเปิดเผยความปรารถนาหรือคำอธิษฐานนั้นให้คนอื่นได้ทราบบ้าง ก็ขอให้เขียนมาเป็นข้อ ๆ ไม่เกิน ๑๐ ข้อ และจะอธิบายคลุมทั้งหมดก็ได้ แต่คำอธิบายทั้งหมดนั้นจะต้องไม่ยาวเกิน ๑ หน้ากระดาษ

คนที่ได้ทราบประกาศนี้พากันสนใจ ที่เห็นว่าเป็นการประกวดไม่ซ้ำแบบใคร และมีทีท่าว่าเป็นคำสอนไปในตัวของสมาคมพระพุทธศาสนาแห่งนั้น ตั้งแต่เริ่มประกาศให้ประชาชนรู้ คือเป็นคำสอนแบบให้คิดเอาเอง ใครคิดเป็นก็ได้รับคำสอนมาก ใครคิดไม่เป็นหรือคิดไม่ออก ประกาศนั้นไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไร แต่กลับให้สติที่จะช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์สาธษรณะ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนด้วยซ้ำ

กรรมการสมาคมปรึกษากันว่า ผู้ส่งข้อความเข้าประกวดถ้ามีถึง ๑๐ คน ก็นับว่าน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งแล้ว แต่กลับปรากฎว่า มีผู้ส่งข้อความเข้าประกวดอย่างมากมายเกินที่คาดคิดไว้

คณะกรรมการของสมาคมต้องตรวจข้อเขียนที่ส่งมาประกวดนั้นอย่างเคร่งเครียด ในจำนวนข้อเขียนหลายร้อยฉบับ มีอยู่ฉบับหนึ่งที่เขียนส่งมาเฉพาะคำแสดงความปรารถนาหรือคำอธิษฐาน รวม ๑๐ ข้อ ไม่มีคำอธิบายประกอบ ในการนี้ผู้ส่งมากล่าวว่าเห็นว่าคำอธิษฐานเหล่านี้ชัดเจนในตัวแล้วจึงไม่จำเป็นต้องเขียนอธิบายเพิ่มเติมอีก เว้นไว้แต่ตอนท้ายคำอธิษฐาน ได้กล่าวสรุปไว้เพื่อให้เห็นว่า ตัวผู้เขียนยังไม่ดีพอ จึงต้องมีหลักฐานไว้เตือนตัวเอง และที่แปลกก็คือ เป็นคำอธิษฐานเพื่อคุณธรรม มากกว่าการขอทรัพย์สมบัติใด ๆ คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ตัดสินให้ข้อเขียนของผู้นั้นได้รางวัลที่ 1 แต่ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าผู้นั้นเป็นใคร เพราะมิได้ให้ชื่อที่อยู่กำกับไว้ด้วย


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:06:12 น.  

 
ข้อเขียนที่แสดงถึงความปรารถนาหรือ คำอธิษฐาน ๑๐ ประการนั้น มีดังต่อไปนี้

๑. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนคิดจะได้ดีอะไรอย่างลอย ๆ นั่งนอนคอยแต่โชควาสนา โดยไม่ลงมือทำความดี หรือไม่เพียรพยายาม สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตน ถ้าข้าพเจ้าจะได้ดีอะไรก็ขอให้ได้เพราะทำได้ทำความดีอย่างสมเหตุผลเถิด

๒. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนลืมตนดูหมิ่นเหยียดหยามใคร ๆ ซึ่งอาจด้อยกว่าในทางตำแหน่ง ฐานะการเงิน หรือในทางวิชาความรู้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ให้เกียรติแก่เขาตามความเหมาะสมในการติดต่อเกี่ยวข้องกันเถิด อย่าแสดงอาการข่มขู่เยาะเย้ยใครๆ ด้วยประการใดๆเลย ก็ขอให้มีความอ่อนโยน นุ่มนวล สุภาพเรียบร้อยเถิด

๓. ถ้าใครพลาดพลั้งลงในการครองชีวิตหรือต้องประสบความทุกข์ ความเดือดร้อนเพราะเหตุใดๆก็ตาม ขออย่าให้ข้าพเจ้าเหยียบย่ำซ้ำเติมคนเหล่านั้น แต่จงมีความกรุณาหาทางช่วยเขาลุกขึ้น ช่วยผ่อนคลายความทุกข์ร้อนแก่เขาเท่าที่จะสามารถทำได้

๔. ใครก็ตามที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาเท่าเทียมหรือเกือบเท่าเทียมข้าพเจ้าก็ดี มีความรู้ความสามารถหรือมีผลงานอันปรากฏดีเด่น สูงส่งอย่างน่านิยมยกย่องยิ่งกว่าข้าพเจ้า ขออย่าให้ข้าพเจ้ารู้สึกริษยาหรือกังวลใจในความเจริญของผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย ข้อให้ข้าพเจ้าพลอยยินดีในความดี ความรู้ความสามารถของบุคคลเหล่านั้นด้วยใจจริง ช่วยส่งเสริมสนับสนุนและให้กำลังใจแก่คนเหล่านั้น อันเข้าลักษณะการมีมุทิตาจิตในพระพุทธศาสนา ซึ่งตรงกันข้ามกับความริษยา ขออย่าให้เป็นอย่างบางคน ที่เกรงนักหนาว่าคนอื่นจะดีเท่าเทียมหรือดียิ่งกว่าตน คอยหาทางพูดจาติเตียน ใส่ไคล้ให้คนทั้งหลายเห็นว่าผู้นั้นยังบกพร่องอย่างนั้นอย่างนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีน้ำใจสะอาด พูดส่งเสริมยกย่องผู้อื่นที่ควรยกย่องเถิด

๕. ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีน้ำใจเข็มแข็งอดทน อย่าเป็นคนขี้บ่น ในเมื่อมีความยากลำบากอะไรเกิดขึ้น ขอให้มีกำลังใจต่อสู้กับความยากลำบากนั้น ๆ โดยไม่ต้องอ้อนวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วย ขออย่าเป็นคนอ่อนแอเหลียวหาที่พึ่ง เพราะไม่รู้จักทำตนให้เป็นที่พึ่งของตนเลย ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนชอบได้อภิสิทธิ์ คือ สิทธิเหนือคนอื่น เช่น ไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็ขอให้พอใจนั่งคอยตามลำดับ อย่าวุ่นวายจะเข้าตรวจก่อน ทั้งที่ตนไปถึงทีหลัง ในการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกใด ๆ ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดหาวิธีลัดหรือวิธีทุจริตใดๆ รวมทั้งขออย่าได้วิ่งเต้นเข้าหาคนนั้นคนนี้ เพื่อให้เขาช่วยให้ได้ผลดีกว่าคนอื่น ทั้งๆที่ข้าพเจ้าอาจมีคะแนนสู้คนอื่นไม่ได้เถิด

๖. ข้าพเจ้าทำงานที่ใด ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดเอาเปรียบหรือคิดเอาแต่ได้ในทางส่วนตัว เช่น เถลไถลไม่ทำงาน รีบเลิกงานก่อนกำหนดเวลา ขอจงมีความขยันหมั่นเพียร พอใจในการทำงานให้ได้ผลดี ด้วยความตั้งใจและเต็มใจ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ฉะนั้นเถิด อันเนื่องมาแต่ความไม่คิดเอาเปรียบในข้อนี้ ถ้าข้าพเจ้าบังเอิญก้ำเกินข้าวของ ของที่ทำงานไปในทางส่วนตัวได้บ้าง เช่น กระดาษ ซอง หรือ เครื่องใช้ใด ๆ ขอให้ข้าพเจ้าระลึกอยู่เสมอว่าเป็นหนี้อยู่ และพยายามใช้หนี้คืนด้วยการซื้อใช้ หรือทำงานให้มากกว่าที่กำหนด เพื่อเป็นการชดเชยความก้ำเกินนั้น ข้อนี้รวมทั้ง ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเอาเปรียบชาติบ้านเมือง เช่น ในเรื่องการเสียภาษีอากร ถ้ารู้ว่ายังเสียน้อยไปกว่าที่ควร หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะชดใช้แก่ชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ เมื่อมีโอกาสตอบแทนเมื่อไร ขอให้รีบตอบแทนโดยทันที เช่น ในรูปแห่งการบริจาคบำรุงโรงพยาบาล บำรุงการศึกษาหรือบริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์อื่น ๆ แบบบริจาคให้มากกว่าที่รู้สึกว่ายังเป็นหนี้ชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ และในข้อนี้ขอให้ข้าพเจ้าปฏิบัติแม้ต่อเอกชนใด ๆ ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดเอาเปรียบหรือโกงใครเลยแม้แต่น้อย แม้แต่จะซื้อของ ถ้าเขาถอนเงินเกินมา ก็ขอให้ข้าพเจ้ายินดีคืนให้เขากลับไปเถิด อย่ายินดีว่ามีลาภ เพราะเขาทอนเงินเกินมาให้เลย

๗. ขออย่าให้ข้าพเจ้ามักใหญ่ใฝ่สูง อยากมีหน้ามีตา อยากมีอำนาจ อยากเป็นใหญ่เป็นโต ขอให้ข้าพเจ้าใฝ่สงบ มีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ ไม่ต้องเดือดร้อนในเรื่องการแข่งดีกับใคร ๆ ทั้งนี้เพราะข้าพเจ้าพอจะเดาได้ว่า ความมักใหญ่ใฝ่สูง ความอยากมีหน้ามีตา ความอยากมีอำนาจ และอยากเป็นใหญ่เป็นโตนั้น มันเผาให้เร่าร้อน ยิ่งต้องแข่งดีกับใคร ๆ ด้วยก็ยิ่งทำให้เกิดความคิดริษยา คิดให้ร้ายคู่แข่งขัน ถ้าอยู่อย่างใฝ่สงบมีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ ก็จะเย็นอกเย็นใจ ไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากถอนใจเพราะเกรงคู่แข่งจะชนะ ไม่ต้องทอดถอนใจเพราะไม่สมหวัง ขอให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจซาบซึ้งในพระพุทธภาษิตว่า "ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ละความชนะความแพ้เสียได้ ย่อมอยู่เป็นสุข" ดังนี้เถิด แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่า เมื่อใฝ่สงบแล้ว ข้าพเจ้าจะต้องอยู่อย่างเกียจคร้านไม่สร้างความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ข้าพเจ้าทราบดีว่าพระพุทธศาสนามิได้สอนให้คนเกียจคร้านงอมืองอเท้า แต่สอนให้มีความบากบั่นก้าวหน้าในทางที่ดีไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม และความบากบั่นก้าวหน้าดังกล่าวนั้น ไม่จำเป็นต้องผูกพันอยู่กับความทะยานอยาก หรือความมักใหญ่ใฝ่สูงใด ๆ คงทำงานไปตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ผลดีก็จะเกิดตามมาเอง

๘. ขอให้ข้าพเจ้าหมั่นปลูกฝั่งความรู้สึกมีเมตตาปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีกรุณาคิดจะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ซึ่งพระพุทธเจ้าแนะนำให้ปูพื้นจิตใจด้วยเมตตากรุณาดังกล่าวนี้อยู่เสมอ จนกระทั่งไม่รู้สึกว่ามีใครเป็นศัตรูที่จะต้องคิดกำจัดตัดรอนเข้าให้ถึงความพินาศ ใครไม่ดี ใครทำชั่วทำผิดขอให้เขาคิดได้กลับตัวได้เสียเถิด อย่าทำผิดทำชั่วอีกเลย ถ้ายังขืนทำต่อไปก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาจะต้องรับผลแห่งกรรมชั่วของเขาเอง เราไม่ต้องคิดแช่งชักให้เขาพินาศ เขาก็จะต้องถึงความพินาศของเขาอยู่แล้ว จะต้องแช่งให้ใจเราเดือดร้อนทำไม ขอให้ความเมตตาคิดจะให้เป็นสุข และกรุณาคิดจะช่วยให้พ้นทุกข์ซึ่งข้าพเจ้าปลูกฝังขึ้นในจิตใจนั้น จงอย่าเป็นไปในวงแคบและวงจำกัด ขอจงเป็นไปทั้งในมนุษย์และสัตว์ทุกประเภท รวมทั้งสัตว์ดิรัจฉานด้วย เพราะไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์เหล่านั้น ต่างก็รักสุขเกลียดทุกข์ รู้จักรักตนเองปรารถนาดีต่อตนเองด้วยดันทั้งสิ้น

๙. ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นคนโกรธง่าย ต่างว่าจะโกรธบ้าง ก็ขอให้มีสติรู้ตัวโดยเร็วว่ากำลังโกรธ จะได้สอนใจตนเองให้บรรเทาความโกรธลง หรือถ้าห้ามใจให้โกรธไม่ได้ ก็ขออย่าให้ถึงกับคิดประทุษร้ายผู้อื่น หรือคิดอยากให้เขาถึงความพินาศ ซึ่งนับเป็นมโนทุจริตเลย ขอจงสามารถควบคุมจิตใจให้เป็นปรกติได้โดยรวดเร็ว เมื่อมีความไม่พอใจหรือความโกรธเกิดขึ้นเถิด และเนื่องมาจากความปรารถนาข้อนี้ ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นคนผูกโกรธ ให้รู้จักให้อภัย ทำใจให้ปลอดโปร่งจากการผูกอาฆาตจองเวร ขอให้มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยรู้จักเปรียบเทียบกับตัวข้าพเจ้าเองว่าข้าพเจ้าเองก็อาจทำผิด พูดผิด คิดผิด หรือ อาจล่วงเกินผู้อื่นได้ ทั้งโดยมีเจตนาและไม่เจตนา ก็ข้าพเจ้าเองยังทำผิดได้ เมื่อผู้อื่นทำอะไรผิดพลาดล่วงเกินไปบ้าง ก็จงให้อภัยแก่เขาเสียเถิด อย่าผูกใจเจ็บหรือเก็บความรู้สึกไม่พอใจนั้นมาขังอยู่ในจิตใจ ให้เป็นพิษเป็นภัยแก่ตัวเองเลย

๑๐. ขอให้ข้าพเจ้ามีความรู้ความเข้าใจและสอนใจตัวเองได้เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธศาสนา ทั้งทางโลกและทางธรรม กล่าวคือ พระพุทธศาสนาสอนให้รู้จักสร้างความเจริญแก่ตนในทางโลก และสอนให้ประพฤติปฏิบัติยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ให้มีปัญญาเข้าใจปัญหาแห่งชีวิต เพื่อจะได้ไม่ติดไม่ยึดถือ มีจิตใจเบาสบายอันเป็นความเจริญในทางธรรม ซึ่งรวมความแล้วสอนให้เข้ากับโลกได้ดี ไม่เป็นภัยอันตรายแก่ใคร ๆ แต่กลับเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ แต่ก็ได้สอนไปในทางธรรมให้เข้ากับธรรมได้ดี คือให้รู้จักโลก รู้เท่าโลกและขัดเกลานิสัยใจคอให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อบรรลุความดับทุกข์ ความพ้นทุกข์ ขอให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจทั้งทางโลกทางธรรม และปฏิบัติตนให้ถูกต้องได้ทั้งสองทาง รวมทั้งสามารถหาความสงบใจได้เองและสามารถแนะนำชักชวนเพื่อนร่วมชาติร่วมโลก ให้ได้ประสบความสุขสงบได้ตามสมควรเถิด

ความปรารถนาหรือคำอธิษฐานรวม ๑๐ ประการของข้าพเจ้านี้ ข้าพเจ้าตั้งไว้เพื่อเป็นแนวทางเตือนใจหรือสั่งสอนตัวเอง เพราะปรากฏว่าตัวข้าพเจ้าเองยังมีข้อบกพร่อง ซึ่งจะต้องว่ากล่าวตักเตือนคอยตำหนิตัวเองเสมอ ข้าพเจ้าจึงคิดว่าถ้าได้วางแนวสอนตัวเองขึ้นไว้เช่นนี้ เมื่อประพฤติผิดพลาดก็อาจระลึกได้ หรือ มีหลักเตือนตนได้ง่ายกว่าการที่จะนึกว่าข้าพเจ้าดีพร้อมแล้ว หรือเป็นบุคคลที่สมบูรณ์แล้ว ซึ่งนับเป็นความประมาทหรือลืมตัวอย่างยิ่ง

//board.palungjit.com/showthrea...164726&page=35

ติดตามกิจกรรมพระกรรมฐาน
//board.palungjit.com/showthread.php?t=69773&page=4


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:08:05 น.  

 
แจ้งข้อมูลล่าสุดครับ

ขอส่งข้อความในแผ่นพับการขอรับบริจาคสร้างตึกอุบัติเหตุร.พ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร สำหรับปัจจัยที่ทุกท่านร่วมทำบุญใส่บาตรพระกรรมฐาน และทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างตึกอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2552 นั้น รวมเป็นเงินประมาณ 1,090,000 บาท โปรด ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบโดยทั่วกันและอนุโมทนาด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
ยุวดี ชาติไทย


อ้างอิง
ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญใส่บาตรพระกรรมฐาน 15 รูป และ ทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างตึกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน

อ้างอิง


//board.palungjit.com/showthread.php?t=156833


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.1.130 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:34:20 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:29:58 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณสาวิกา

แอร์เอง (สมาชิกลานธรรม "วลัญช์" ค่ะ) ขออนุญาตเขียนมาหานะคะ เพราะ web ลานธรรม เข้าไม่ได้ ตอนแรกมาเจอ blog คุณตอนที่กำลังหามูลวัดป่ามณีกาญจน์อยู่ (เพราะพี่อรแนะนำให้ลองพาลูกไป) และก็ได้ไปมาแล้ว

เท่าที่อ่านคร่าว ๆ มีชื่อพี่อรด้วย จึงคิดว่าน่าจะใช่เพื่อนจากลานธรรมเป็นแน่แท้

หากใช่เพื่อนจากลานธรรม : อยากสอบถามว่าเมื่อวานนี้ได้ไปฟังพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์อารยะวังโสหรือไม่ อาจารย์สอนเกี่ยวกับเรื่องอะไรคะ เสียดายที่ไม่ได้ไป แอร์ไปมา 2 คร้งก็นำมาปฏิบัติต่อที่บ้านด้วย จึงอยากทราบค่ะ

แต่หากคุณไม่ใช่ : แอร์ก็ต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูงด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: แอร์ IP: 61.7.255.2 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:17:06 น.  

 
สวัสดีค่ะ ...คุณแอร์

ขอบคุณนะคะ ...ที่แวะมาเยี่ยมเยียน

สาวิกา ...เป็นสมาชิกลานธรรมเหมือนกันค่ะใช้ชื่อ "สาวิกา" เป็นสมาชิก และพี่อรที่เอ่ยถึง ก้อคือพี่อรในลานธรรมเช่นกัน

เมื่อวานไม่ได้ไปฟังท่านอารยะวังโสค่ะ ...เพราะ
กิจกรรมอบรมที่กระทรวงสาสุขมักเป็นวันทำงาน...อิอิ แต่ได้กางร่ม (โดดงาน) ไปกราบลพ.ปราโมทย์ ที่สวนสันติธรรม ศรีราชามาค่ะ ที่ไปได้เพราะไปที่สวนฯ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน ...ตอนบ่ายข้ามฟากไปงานเผาศพที่จ.อยุธยา



โดย: สาวิกา IP: 124.120.127.129 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:24:26 น.  

 

ถึงคุณสาวิกา จะไม่ได้ไปกราบท่านอารยะวังโส แต่ก็ได้ไปกราบ หลวงพ่อปราโมทย์ แทน ขออนุโมทนาด้วยค่ะ


แล้วพี่อรล่ะคะ ได้ไปมาไหม

ยังไงสิ้นเดือนก็จะพยายามไป ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันค่ะ


โดย: แอร์ IP: 61.7.255.2 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:57:13 น.  

 
สวัสดีครับ

***แอร์เอง (สมาชิกลานธรรม "วลัญช์" ค่ะ) ขออนุญาตเขียนมาหานะคะ เพราะ web ลานธรรม เข้าไม่ได้ ตอนแรกมาเจอ blog คุณตอนที่กำลังหามูลวัดป่ามณีกาญจน์อยู่ (เพราะพี่อรแนะนำให้ลองพาลูกไป) และก็ได้ไปมาแล้ว***

ปีนี้น้องสาวพาลูกคือหลานชายผมไปบวชด้วยครับ แล้วสงสัยดันพาเพื่อนๆไปบวชอีกหลายคน 7มีค.จะซ้อมบวชผ้าขาว2สัปดาห์ ไม่แน่ผมจะไปวัดวันหลานบวชเณรคือ21มีค. ด้วยครับ อนุโมทนาสาธุบุญด้วยครับ

ปีนี้พระอาจารย์สาคร ท่าน เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานทุกวันพุธที่2และ 4ของเดือน 12.00-13.00น.ที่ชมรมพถุทธทีโอทีด้วยครับ เยี่ยมเลยครับ

อนุโมทนาสาธุบุญด้วยกันนะครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:15:18 น.  

 
หวัดดีนู๋แอร์

ตามมาถูก บล็อกแล้ว จ้ะ
เจ้าแม่ สาวิกา เจ้าของเขาใจดี
แต่เขาเบื่อโต้ตอบกับ สว. (พี่อร) แล้ว
เลยยกบล็อกให้น้อง หมิง หมิง เป็นเจ้าของแทน

เมื่อวาน พี่อร โชคดีได้ไปกราบหลวงพ่ออารยวังโสค่ะ
พี่มองหานู๋ ไม่เจอะเจอ
คิดถึงอยู่ว่า นู่หายไปไหน

หลวงพ่อได้นำภาพที่ท่านไปปฏิบัติศาสนกิจ
ที่สังเวชนียสถาน อินเดีย ให้ชมกัน

หลังจากนั้น หลวงพ่อท่านสอนการภาวนา
โดยเริ่มจากการยืน และ เดิน วิชาธาตุ อย่างมีสติ
และนั่งภาวนา ต่ออีก 2 ชั่วโมง
หลวงพ่อท่านสอนวิธีปฏิบัติขั้นต้น กลาง และ สูง ต่อเนื่องกัน ดีมากๆ ๆ ๆ
พี่เสียดายว่า เมื่อวานลืมนำ MP3 ติดตัวไปด้วย
เลยไม่ได้อัดเสียงท่าน

เปรียบเหมือนท่านสอนว่า
เราต้องขับรถอย่างไร ใช้เกียร์อย่างไร เราจะต้องขับรถไปทางใด จะพบเจออะไร และ ต้องทำอย่างไร จนถึงปลายทาง คือ ความสิ้นทุกข์อย่างแท้จริง

เราฟังก็เหมือนพอรู้
แต่ตามท่านไม่ทัน
เพราะ เรายังขับรถไม่เป็นเลย

ท่านสอนวิธี ขับรถให้แล้ว
เราอยากจะไปให้ถึงปลายทาง ก็ต้องเริ่มหัดขับรถ
ขับคล่องเมื่อไร ก็ขับไปตามทางที่ท่านบอก
แต่คงตามท่านไม่ทัน เพราะท่านล่วงหน้าไปไกลแล้ว
เอาแค่ ให้เราปิดอบายให้ได้ก่อน

พูดกันเล่นๆ ในหมู่ศิษย์ว่า ขอให้ท่านช่วยเขี่ยเรา
ให้พ้นจากนรก ก็พอแล้ว
อีกคนพูดว่า ระวัง พ้นจากนรก มาเป็น เดรัชฉาน
แป๋ว..............





โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:48:47 น.  

 
สวัสดีค่ะ ..พี่อร คุณแอร์

อิอิ ...แอบได้ยินเสียงใครบ่นเราอยู่น้อ?
แหม ๆๆๆ ... ใครจะเบื่อคุณกะพี่อร คนใจดี

มีข่าวดีมาบอกพี่อรอีกต่างหาก
ข่าวคุณตุลย์อ่ะค่ะ ...ที่เคยบอกพี่อรไว้
แต่เห็นว่ายังอีกนาน เลยยังไม่ส่งข่าวให้ทราบ

ง้านบอกไว้ล่วงหน้าเผื่อพี่อรจะได้จดนัดหมายไว้
เย็นย่ำค่ำวันพุธที่ 8 เม.ย พี่อรทำตัวว่าง ๆ ไว้นะคะ
แล้วจะแจ้งรายละเอียดพี่อรอีกที
งานนี้จำกัดคนวงนอก
แต่นู๋ได้โควต้ามาเล็กน้อย
นับพี่อรเผื่อไว้แล้ว ...
ถ้าไม่สะดวกบอกด้วยนะคะ


โดย: สาวิกา IP: 124.121.231.87 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:01:44 น.  

 
คริ..คริ...คริ

ขอบคุณจ๊า...นู่กา
ขีดปฏิทินไว้แล้วจ้ะ



โดย: โอรัช IP: 125.24.115.43 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:44:40 น.  

 
คิคิ ...ขำพี่อรจัง
ไม่ตกข่าวเลยน้า
มาด้วยความว่องไวจริงเชียว

ขออนุโมทนาทุก ๆ บุญกุศล
ของคุณมุ่งฯ พี่อร และทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ


โดย: สาวิกา วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:50:10 น.  

 
สวัสดีครับพี่






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:38:48 น.  

 
ธรรมะสวัสดีครับทุกท่าน

อ้างอิง***ความดี


การทำดีนั้น
"ทำยาก และเห็นผลช้า"
แต่ก็จำเป็นต้องทำ***

หาโอกาสสร้างบารมีอีกแล้วคร้าบบบ

ข้อความข้างบน ทำให้ผมนึกถึงสาเหตุที่องค์พระโพธิสัตว์ต้องบำเพ็ญทุกรกิริยา6ปีก่อนตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะเพียงแค่ในอดีตชาติเกิดความคิดขึ้นมานิดเดียวในทำนองว่า
การตรัสรู้ธรรมเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาพระพุทธเจ้า
อยาก

ผมจึงใคร่เสนอแนวความคิดว่า
"การทำดีนั้นง่าย และเกิดเป็นความดีทันทีในตัวเองที่ทำแล้ว
เมื่อปัจจัยทางธรรมต่างๆนั้นลงตัว(ให้ทำดี)"

"ในทำนองเดียวกันการบ่มบารมีบำเพ็ญพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เช่นกัน ก็สามารถเป็นไปได้โดยง่ายหากเมื่อปัจจัยและเหตุลงตัวโดยพระธรรม"


ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 58.9.122.118 วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:1:12:27 น.  

 
ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยปัจจัยให้ ข้าพระพุทธเจ้าบำเพ็ญพระพุทธการกธรรม ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณได้โดยเลิศ ปราณีต ประเสริฐดีงาม
พุทโธ ธัมโม สังโฆ อัปมาโณ สัมปติจฉามิๆๆ
สิทธมัตถุๆๆ

ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 58.9.122.118 วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:1:27:15 น.  

 
สวัสดีค่ะทุกคน

หนูก็ว่าแล้วล่ะว่าพี่อรคงได้ไปกราบหลวงพ่อ พอดีหนูลางานไปปฏิบัติธรรมที่วัดปัญญาฯ เมื่อวันที่ 20-22 กพ 52 เลยไม่กล้าลางานอีกน่ะค่ะ

หนูก็ไม่เคยฟังบรรยายธรรมจากพระท่านไหนมาก่อน แต่รู้สึกว่าคำสอนของท่านทำตามได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการแผ่เมตตา 7 ขั้น, การกำหนดลมหายใจเข้าออก 1-5, 5-1 หนูรู้สึกว่าทำได้โดยไม่ขัดกับตัวเอง
แล้วเอากลับมาทำที่บ้านด้วย สิ้นเดือนนี้ต้องไม่พลาดๆ

ที่พี่อรแนะนำให้หนู+ครอบครัวไปวัดป่ามณีกาญจน์ หนูไปมาแล้วนะคะ ไปครั้งแรกตอนกลางวันวันอาทิตย์ ครั้งที่สองเมื่อวันมาฆบูชา แต่เสียดายพระอาจารย์สาคร ท่านไม่อยู่ทั้งสองครั้งเลย แฟนเค้าก็คงสงสัยเหมือนกันว่าเธอมาทำไมที่วัดนี้ เพราะไกลบ้านพอสมควร แต่เค้าก็ไม่ได้ถามอะไร บอกให้พาไปก็พาไป ต้องหาโอกาสไปใหม่ แต่เห็นเมื่อวันมาฆบูชา มีผู้หญิงใส่ชุดขาวเยอะเลย ไม่แน่ใจว่าเรียกว่า ผ้าขาวหรือเปล่า แล้วก็มีเด็ก ๆ ขึ้นไปกราบพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าทำอะไร หรือว่าท่านสอนเรื่องการสวดมนต์ หรือทำสมาธิ หนูก็ไม่รู้นะคะ แต่เราก็สนใจ เก็บข้อมูลไว้ ๆ เผื่อลูกเราโตจะได้ทำอย่างเค้ามั่ง

ขออนุโมทนากับหลานชายของคุณมุ่งเต็มใจด้วยนะคะ

(แหะ แหะ ขอยืม blog เค้าเขียนหน่อยนะคะ)




โดย: แอร์ IP: 61.7.255.2 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:16:36:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]























Friends' blogs
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.