สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
คุณธรรม ... ความดี




โสตสำเหนียกเสียงขัดหูอยู่เป็นนิจ ...
จิตใจมักมีเรื่องข้องขัดเป็นอาจิณ



Photobucket>


นี่คือหินฝนทองแห่งการฝึก


"คุณธรรมความดี"


จากหนังสือ
"สายธารแห่งปัญญา"





Create Date : 11 สิงหาคม 2551
Last Update : 11 สิงหาคม 2551 9:48:12 น. 28 comments
Counter : 1264 Pageviews.

 
Photobucket


สุขสันต์ ... วันจันทร์ ทุกท่านค่ะ

มาทักทายรายงานตัว หลังจากปลีกวิเวก หลีกลี้ไปภาวนาอยู่กับพระลูกชาย ไปตั้งแต่เย็นวันศุกร์ เพิ่งกลับมาเมื่อวานตอนบ่าย ๆ

ไปเที่ยวนี้ ... นอนซะเป็นส่วนมาก อิอิ ยังมีหน้ามาเล่าให้ฟังอีก

อากาศดี ลมเย็นสบาย ช่วงเย็น ๆ ไปกับน้องที่เป็นเพื่อนพระลูกชาย น้องคนนี้ไม่ค่อยคุย เจ้าบ้านเลยคุยน้อยไปโดยปริยาย ...

คริ คริ ... ม่ายฟุ้ง ต่างคน ต่างเดิน ต่างคน ต่างภาวนา ต่างคน ต่างนอน ไม่ได้สนทนาไรกันมากมาย อยู่กับตัวเอง ดูตัวเอง ... สงบ เย็น (ใจ) ดี

นำบุญกุศลมาฝากทุกท่านเช่นเคยนะคะ และขออนุโมทนากับทุกบุญกุศลของทุกท่านที่ได้กระทำโดยดีงามเช่นกันค่ะ ...สาธุ


โดย: สาวิกา วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:10:00:29 น.  

 
โธ่


โดย: boyblackcat วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:10:37:04 น.  

 


โดย: gripenator วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:11:26:35 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน
สุขสันต์วันแม่ทุกท่านล่วงหน้าครับ

วันแม่จะพาคุณแม่ไปไถ่ชีวิตโคกระบือ300กว่าตัวเข้าโครงการธนาคารโคกระบือในพระราชดำริ ที่วัดราชโอรสาราม จะมีพระภิกษุสามเณร300กว่ารูปเท่าจำนวนโคกระบือเจริญพระพุทธมนตร์อวยพรทั้งโคกระบือและผู้ร่วมบุญให้ด้วย ขณะนั้นใครจะภาวนาไปด้วยก็ได้อีกนะครับ ได้ถวายไทยธรรมและภัตตาหารเพลแถมอีกด้วยครับ

กลางวันจะร่วมกับพี่น้องและครอบครัวพี่น้องเลี้ยงอาหารแม่ครับ เสียดายครับคุณพ่อผมเสียแล้วครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:13:01:22 น.  

 
เพลง... สายใย
ศิลปิน... แกรนด์เอกซ์

เคยเหงาบ้างไหม
เหมือนวันที่โลกไร้สรรพเสียง
เรไรไม่ร้อยจำเรียง
ยินเพียงหัวใจไหวระรัว

คิดถึงบ้างไหม
เคยยวนเคยยั่วเย้าหยอกเล่นหัว
เคยคุยส่งเสียงลั่นครัว
ไม่กลัวไม่เกรงใดๆ

**

ลาทีเจอะกันวันใหม่
ถึงอยู่ไกลส่งใจไปถึง
ความรักผูกพันตราตรึง
แม้อยู่ที่ใดหัวใจเป็นหนึ่ง
จะกลับมาให้พบพาน

รอได้ไหม
รอวันที่โลกพร้อมสรรพเสียง
เรไรร่วมร้อยจำเรียง
บทเพลงวิวาห์กังวาน

:)


โดย: -j IP: 58.137.0.83 วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:16:46:41 น.  

 
สุขสันต์ ... วันแม่ ทุก ๆ ท่านค่ะ


Photobucket>



โดย: สาวิกา วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:9:07:27 น.  

 
เพลงเพราะๆ .. เอามาฝากค่ะ

เพลง : คือสิ่งที่ทำให้โลกหมุนไป
ศิลปิน / Artist : ดีเจ จอห์น DJ. John
GMM Grammy

คือน้ำตา คือน้ำผึ้ง
คือความคิดถึงห่วงหา และอาทร
คือภาพฝัน ในยามที่ล้มตัวนอน
เขาเป็นอย่างไร

* คือสายลม คือเปลวแดด
คือดวงตะวันแผดร้อน และสดใส
คือฝนพร่ำ ช่ำเย็นกลางทะเลทราย
ต่อลมหายใจ ให้คนหลงทาง

** คือสิ่งที่ทำให้โลกหมุนไป
ทำให้ใจเต้นรัว ไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใด
คือสิ่งที่ทำให้ใจของคน ยังจะทนสู้ไป
คือความหมาย คือคำนั้น คือฉันรักเธอ
โลกใบนี้คงมีแต่สีเทา ถ้าใจของเราไม่มีรัก

(ซ้ำ *, **)

สวัสดีทุกท่านค่ะ _/|\\_

:-)

ปล. ย่าอักฯ ขา..นู๋เวลาจะเอาไปฝากที่บ้าน..แต่เข้าบ้านไม่ได้นะคะ


โดย: ..เวลา.. IP: 58.181.136.90 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:10:40:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ


ขออนุโมทนากับทุก ๆ บุญกุศลนะคะ _/|\\_


ช่วงนี้ เราสับสนใจค่ะ
บางที ก็เข้าใจนะว่าเป็น กรรมจัดสรร..
แต่ บางที ก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่า เป็น
Destiny รึเปล่า..

เราเดินมาถึงสามแยก..
ไม่รู้จะเดินหรือเลี้ยวไปทางไหนดี
ประสบการณ์ทำให้รู้ว่า กว่าคนเราจะรู้ว่าเลือกทางเดินผิด
ก็เหนื่อยล้า ที่จะย้อนกลับไปเริ่มที่จุดเดิม..
หลายครั้ง ที่เราฮึดเดินหน้าต่อไป
เพื่อหวังว่า ข้างหน้า..อาจจะไปบรรจบกับถนนที่เราค้นหาอยู่ได้
ต่อเมื่อรู้ว่า ยิ่งเดินหน้า..ยิ่งหลง และจำทางกลับที่เก่าไม่ได้..
เราก็แทบจะหมดโอกาส สูญสิ้นทั้งเวลา..ทั้งเรี่ยวแรงค่ะ

ทางเดินของชีวิต.. มีเครื่องผูกพันมากมาย
แม้แต่ในสังคมเน็ต..หรือแชท ก็ทำให้เราผูกพันได้

เราไม่อยากผูกพัน.. กับใครอีกแล้ว
เพราะ เราไม่อยากจะถึงทางแยก..
เราไม่อยากจะเป็นทั้งผู้ถูกเลือกหรือ เป็นผู้เลือก..

วันนี้ ได้แต่ปล่อยไปตามยถากรรม..
บางที หลายสิ่งหลายอย่างอาจถูกลิขิตมาแล้วก็ได้นะคะ

-j..


โดย: -j IP: 58.137.0.83 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:10:56:32 น.  

 
สวัสดีคุณยายลิงค่ะ _/|\\_

**
ประสบการณ์ทำให้รู้ว่า กว่าคนเราจะรู้ว่าเลือกทางเดินผิด
ก็เหนื่อยล้า ที่จะย้อนกลับไปเริ่มที่จุดเดิม..**

สำหรับนู๋เวลานะคะ..
ในขณะหนึ่งๆ ที่เราตัดสินใจอะไรไปสักอย่าง..
ณ moment นั้น เราต้องคิดแล้ว..
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล ความถูกต้อง หรือ อารมณ์ หรือถูกบังคับ..แล้วเราตัดสินใจเลือก..
และ..ถ้าเราได้เลือกๆ ไปแล้ว..
แม้ว่าจะโดนบังคับ (เพราะเรายอมให้คนอื่นมาบังคับ)
เราจะยอมรับผลทุกอย่าง..
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น..
เพราะ..เราได้เลือก..เอง..

ทุกข์ที่เกิด..ย่อมมี..
หากผลนั้นไม่ได้เป็นดั่งที่ใจคาด หรือ ปรารถนา..
ก้อ..ต้องแก้กันไปค่ะ

การเริ่มต้นใหม่..
ไม่ได้หมายความว่า..
เราจะกลับไปที่จุดเดิม..
ในความเป็นจริง..
เวลาเปลี่ยนไป..เราพยายามทำให้เหมือนเดิมแค่ไหน..
ก็กลับไปที่จุดเดิมไม่ได้..

แม้อาจจะคนเดิม..สิ่งแวดล้อมเดิม..แต่จะไม่เหมือนเดิมค่ะ

สิ่งที่ผิดพลาด..เป็นบทเรียน..ให้เราก้าวต่อไป..ยังจุดต่อไป..

หุหุ..ยังมีต่อ..ถ้ายังต่อติดนะคะ

ตอนนี้ขอตัวก่อนค่ะ

_/|\\_








โดย: ..เวลา.. IP: 58.181.136.90 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:11:12:55 น.  

 

ขอบคุณนะจ๊ะ นู๋เวลา..


นู๋พูดถูก..ที่ว่า เรากลับไปจุดเดิม แต่ย่อมไม่เหมือนเดิม..

ก็ตรงนี้ไงคือ ปัญหา
เพราะ ใจเราไม่เหมือนเดิมแล้ว
ก่อนหน้าที่จะมีใคร.. เราก็สามารถจะไปไหน ๆ ได้ไม่ขัดข้อง

แต่.. พอมีแล้ว เราอยากหยุดใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่ว ๆไป
ไม่อยากเดินทาง ไม่อยากต้องพลัดพรากไง

การเดินทาง.. โดยไม่รู้เวลากำหนดกลับ ย่อมทำให้ต้องทุกข์ใจ
เมื่อคิดอยากจะกลับมา ปักหลัก..
ก็ไม่คิดว่า วันนึงต้องไปไหนไกล ๆ อีก

.. มโนธรรม กำลังสู้กันไงคะ


โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:11:35:03 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน

วันแม่ปีนี้ดีมากครับ ได้ทำตัวเป็นประโยชน์กับคุณแม่ พาท่านไปไถ่ชีวิตโคกระบือที่วัดราชโอรสาราม กับธนาคารโคกระบือในพระราชดำริ อุทิศบุญให้แม่แห่งชาติ(สมเด็จพระราชินีฯ)ด้วยครับ ถวายหนังสือธรรมะเครื่องไทยธรรม พระพุทธรูป นั่งภาวนากับพระภิกษุสามเณรที่เจริญพระพุทธมนตร์ให้พรถึง339รูป ได้รับเมตตาจากหลวงพี่เดินไปรับเครื่องไทยธรรมที่คุณแม่ถึงที่นั่งท่านเลยครับ

ได้ให้หญ้าน้ำโคกระบือ339ตัวเท่าที่จะมีโอกาสครับผมได้ไถ่โคหมายเลข55 ได้ช่วยเพื่อนที่ติดธุระไถ่โคหมายเลข120อีกตัวจาก339ตัวด้วยครับ

กลับไปบ้านพี่น้องหลานๆมาชุมนุมพร้อมหน้ากันเลี้ยงอาหารเล่นดนตรี ให้ท่านชื่นใจครับ

หลานผมที่กลับจากได้ทุนไปแคมป์ฤดูร้อนที่แคนาดากับโรงเรียนเซนต์คาเบรียล เอารายงานมาให้ดู น่าชื่นใจ

บังเอิญน้องชายผมรับวัยรุ่นเยอรมันโครงการแลกเปลี่ยนมาพักที่บ้านด้วย เลยพามางานนี้ด้วย หน้าตาเหมือนมิเชล บัลัค หัวหน้าทีมชาติฟุตบอล เพียงแต่ผมสีทองครับ ผมได้ให้ผ้าขาวม้าไหมที่ได้เป็นของขวัญจากศรีสะเกษเป็นที่ระลึกให้คุณแม่มอบให้เขา จับผูกคาดเอวให้ด้วยครับ
ผมก็เลยครึ้มล้อเล่นในงาน ช่วงตอนดูทีวีโอลิมปิกว่าแหนะฝรั่งเจ้าชายโอลิมปิกให้เกียรติมาร่วมงานวันแม่ของผมด้วยคร้าบบบ แหะๆ อิอิ

ธรรมะสวัสดีครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:14:58:02 น.  

 
ใครเข้าลานธรรมได้บ้างไหมครับ ผมเข้าไม่ได้ บอกว่าปิดชั่วคราวกำลังปรับปรุง ไม่รู้ว่าตรงกันไหมครับ เลยไม่ได้เข้ากระทู้ติดตามพระกรรมฐานเลยครับ

คุณเปิ้ลครับ ผมได้ส่งที่อยู่สำหรับส่งแผ่นโลหะให้แล้วนะครับ ไม่ทราบว่าได้รับเรียบร้อยไหมครับ ถ้ายังไม่ได้รับแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ จะได้หาทางส่งให้ต่อไปครับ

ฑีฆายุกา โหตุ มหาราชินี
12สิงหาคม2551นี้ ย้อนหลังครับ

ธรรมะสวัสดีครับทุกๆท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:15:26:34 น.  

 
พูดถึงเยอรมัน ทำให้นึกถึงปราสาท นอยชไวน์สไตน์ ที่เยอรมันที่ผมเคยนำลงไว้ในกระทู้คุณสาวิกา ที่ลานธรรม และกล่าวว่ามีความเกี่ยวข้องกับวอล์ท ดิสนีย์ และการ์ตูนมิคกี้เมาส์ ไว้นานแล้ว
ผมบังเอิญได้ดูรายการทีวี ที่ช่อง9 อสมท.คืนวันศุกร์ เป็นรายการที่เกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ หนึ่งใจเดียวกัน ของทูลกระหม่อมหญิงพระองค์ใหญ่ เมื่อประมาณ2-3สัปดาห์ที่แล้ว
ทูลกระหม่อมพระองค์หญิงทรงเสด็จพระดำเนินพานายสมชาย ศักติกุล และผู้ชมรายการทีวี ท่องเที่ยวในปราสาท ได้อย่างดียิ่ง
ที่น่าสนใจบุคลิกท่าเดินของนายสมชายที่เดินเฉพาะในรายการวันนั้นทำให้ผมนึกถึงตัวการ์ตูนเอกสุนัข และมิคกี้เมาส์ที่เดินในรายการการ์ตูนของวอล์ท ดิสนีย์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของคุณสมชาย สำหรับผมคล้ายคลึงกับ วอล์ท ดิสนีย์ ที่ผมเห็นตอนเด็กๆอย่างยิ่ง และน่าอัศจรรย์ เสียดายกระทู้นี้ลงรูปภาพของทั้งสองท่านมาเปรียบเทียบกันไม่ได้

ประเทศไทยก็มีดีในการสร้างภาพยนตร์เหมือนกันนะครับ

ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาครับ
ธรรมะสวัสดีครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:16:00:44 น.  

 
ขอบคุณทุก ๆ ท่าน ...สำหรับการมาเยี่ยมเยียน สนทนา ฝากข่าวถึงกันและกันนะคะ

ขออนุโมทนากับทุก ๆ บุญกุศลของทุก ๆ ท่านด้วยเช่นกัน ...สาธุ

ขอทุกท่านมีความสุข ร่าเริง เบิกบาน ในทุก ๆ กาลค่ะ





โดย: สาวิกา วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:22:06:06 น.  

 
สวัสดี
วันพฤหัสบดี....วันดี...ดีทั้งวัน

พรุ่งนี้วันสารทจีน สว.เป็น"ลูกจีนรักชาติ" แต่ไม่ค่อยได้ช่วยแม่เรื่องการจับจ่ายซื้อของเพื่อไหว้เจ้าเลย
เขารู้ว่าถ้าซื้อไก่ประเภทชี้ฆ่าเพื่อไหว้เจ้า สว.จะเดินไปที่อื่น และไม่กินไก่นั้นเลย

ช่วงนี้สว.กำลังบ้า ปลูกต้นไม้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สว.พาแม่ไปใส่บาตรที่วัดป่ามณีกาญจน์ ขากลับแวะซื้อต้นไม้เล็ก ๆ เกือบ 20 ต้น ใส่มาเต็มรถ ยังปลูกไม่หมดเลย

เมื่อเช้ารีบมาแวะตลาดนัดซื้อต้นไม้หอมมี ราชาวดี ราตรี ปีบยูนาน และ เล็บมือนาง
ใส่รถไว้รอเอากลับบ้านเย็นนี้
ไม้หอมที่ปลูกแล้ว ก็มี แก้ว กุหลาบ มะลิ เข็มขาว พุดซ้อน พุดน้ำบุษย์ ทิวาราตรี และ มลุลีค่ะ
ที่สั่งจองไว้ก็มี กระแต และ แก้วมุกดา

ส่วนไม้ใบก็มีเยอะแล้ว จำชื่อไม่ได้ แวะซื้อตามทางที่ไปวัดป่ามณีกาญจน์นั่นแหล่ะ มีร้านขายต้นไม้เยอะเลย ราคาไม่แพง

สว.ลงมือขุดดินเพื่อปลูกเองทั้งหมด เลยเลือกต้นไม่ใหญ่นัก เพื่อจะได้ไม่ต้องขุดหลุมใหญ่มาก
โดยมีหลานชายเป็นผู้ช่วย ระยะแรกปวดแขนมากๆ เลย ตอนนี้เริ่มชินแล้ว
สิ่งที่ต้องระวังเวลาขุดดิน คือ ไส้เดือน ที่อาศัยอยู่ในดิน กลัวจะไปทำให้เขาตาย

ต้นมะม่วงพิมเสนที่บ้าน สว. ตอนนี้ออกผลเยอะ หลานชายเขาภูมิใจมาก เพราะเขาช่วย สว. ผสมปุ๋ยน้ำชีวภาพมารดที่โคนต้น หลายครั้ง ต้นมะม่วงเลยออกลูกดก .... อิ อิ อิ

สว. คิดว่า การปลูกต้นไม้กับการภาวนาไปด้วยกันได้ดี ระหว่างปลูกก็ดูกาย...ดูใจ ......ไปด้วย



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:8:37:28 น.  

 
สวัสดีค่ะ _/|\\_


ตอนนี้กำลัง อิน.. กับละครเรื่อง สู่ฝันนิรันดร..
เป็นแนวที่เราชอบเลย ย้อนอดีต เพ้อฝัน อิอิ
มิน่า.. เราถึงเป็นคนที่ชอบละเมอเพ้อพก
มีอุดมการณ์ อุดมคติ และ อนุรักษ์นิยมค่ะ

ชอบบ้าน เรือนไทยมาก ๆ
สมัยเด็ก ๆ ไปบ้านคุณตาที่เป็นบ้านไม้สัก ทรงโบราณ..
คุณตา ก็เป็นคุณหลวงค่ะ..
บรรพบุรุษเป็นขุน หลวง พระ พระยา..
นามสกุล พระราชทานกันหมด
เลยเหมือนกับคนละเชื้อสายเผ่าพันธุ์
ลุงสัญญา..ก็มีศักดิ์เป็นลุงเราค่ะ

วันแม่.. ก็ได้ไปหาคุณแม่-พ่อมาค่ะ
คนแก่ ๆ ก็ชอบคุยถึงเรื่องความหลัง
หลายอย่าง.. มีที่มาที่ไป เราเชื่อเรื่อง กรรมสัมพันธ์ค่ะ
ยังคุยกันเลยว่า ด้านคุณตา คือ ลุงสัญญา ธ.
ด้านคุณยาย.. แตกหน่อออกมาเป็นพี่..
หากลุงยังอยู่ จะเป็นอย่างไรเนี่ย


เลือดเราจึงค่อนข้างข้นค่ะ
ไม่ถึงกับเจ้ายศ เจ้าอย่าง แต่ก็มีอัตตาสูงกันพอควร
เลยไม่ยอม ก้มหัว.. ให้กับใครง่าย ๆ

ด้านคุณพ่อ ก็เหมือนนิยาย..
แต่ก็เป็นความลับ..ให้เราเพียงแค่รับรู้
เพื่อจะหา จุดสัมพันธ์..หรือ ย้อนรอยอดีตชาติแค่นั้น

ทำให้เราเชื่อในเรื่องตายแล้วเกิดค่ะ
เรื่องอดีตชาติ.. เราคงจะเป็นคนไทยโบราณ..
จึงรักเมืองไทยมากมาย
รักต้นไม้ ไม้หอมที่พี่อร..กล่าวถึงมาทั้งหมด
เพราะพ่อแม่ก็ปลูกค่ะ

แต่ครอบครัวเราไม่รวย พอมีพอกิน..
เลยไม่มีปัญญาปลูกบ้าน เรือนไทยค่ะ
ส่วนพี่เรา ไม่ชอบเลย เพราะหัวสมัยใหม่ น่าเสียดาย..

คุณตาเคยเป็นอัยการ ว่าความชนะ
มีคนเอาที่แถวพระขโนงมาให้ 500 ไร่..
แต่คุณตาไม่รับ เพราะทำงานด้วยความซื่อตรง สุจริต
และตอนนั้นก็มีฐานะแล้ว
แม่เล่าว่า คุณตาบอกว่า สมบัติคู่กับวิบัติค่ะ..
คุณตาเกษียนตอนอายุ 40 เพราะเป็นริษสีดวง นั่งทำงานไม่สะดวก
คุณตาเลยชอบเดินไปวัดระฆังเพื่อสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาส

เราเหมือนคุณตา และเป็นหลานที่คุณตารักมากค่ะ อิอิ
จมูก สิงห์โต..
เป็นหลานที่คุณตาไกวเปล
ตอนคุณตาตาย เก็บศพไว้ที่บ้านเป็นปีเลยค่ะ

เพลง หนึ่งในดวงใจ.. คือเพลงที่เราฝังใจตอนงานศพคุณตาค่ะ
ตอนนั้น เราอายุประมาณ 3 ขวบ..


ขออำภัยด้วยนะคะ เขียนเสียยาว เป็นเพราะ อิน กับละคร..
แล้วเลยมา อิน..กับเรื่องอดีตค่ะ


โดย: -j IP: 58.137.0.83 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:11:05:14 น.  

 

สวัสดีค่ะ ...พี่อร และทุก ๆ ท่าน

นาน ๆ พี่อรจะแวะมาสักที มีเรื่องราวดี ๆ มาเล่า มาฝากอยู่เสมอเรยยย ...ขอบคุณนะคะ

แค่อ่านก็รู้ว่าพี่อรความสุขดีนะคะ ... มีความสุขกับการภาวนา มีความสุขกับการทำงาน (สุข ๆ ดิบ ๆ) มีความสุขกับการปลูกต้นไม้

ไม้หอมมีเยอะเสียด้วย ชอบจัง ถ้าที่บ้านมีที่ปลูกต้นไม้ เจ้าบ้านคงมีความสุขกับการเดินในสวนแน่ ๆ เลยอ่ะ

ตอนที่ไปภาวนาที่สวนสันติธรรม ตอนเย็น ๆ เดินจงกรมไปตามทางเดิน ตาก็มองดอกไม้สวย ๆ ข้างทาง ที่ครูบาฯ ท่านช่วยกันปลูก ในใจก็คิดไปด้วย ใครนะ เป็นคนวางต้นไม้ตามมุมต่าง ๆ ช่างหาที่ลงได้เหมาะดีจริง ๆ

ตกเย็นนั้นมีคำตอบ ครูบา 3 รูป เข็นรถที่บรรทุกต้นไม้ต้นเล็ก ๆ ที่ท่านเพาะชำไว้ไปวางไว้รอบสวน ครูบารูปหนึ่งคอยชี้มุมให้วาง รูปหนึ่งหยิบไปวาง อีกรูปเข็นรถตาม เป็นภาพที่เห็นแล้วใจมีความสุข มีปีติ เห็นความเป็นธรรมชาติของการภาวนาของครูบา และตนเองด้วย (อิอิ .. เอาดีเข้าตัวก็ได้นิ)

มะลิออกดอกเมื่อใด นำภาพมาฝากนู๋กาบ้างนะคะ ชอบที่ซู้ดเลยค่ะ ...






คิคิ ... ชอบดอกมะลิ แต่นำกุหลาบสีชมพูมาฝาก สื่อถึงใจได้เช่นกันเนอะ ... ตะเอง


โดย: สาวิกา วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:11:09:46 น.  

 

พี่อร กับพี่ลิงแวะมาคราใด นู๋กาอ่านไป อมยิ้มไปทุกครั้งเลยค่ะ


ขอบคุณพี่ลิง และพี่อรนะคะ ที่แวะมาเล่าเรื่องราวความหลัง ความสนุก ความสุขให้ฟังค่ะ


โดย: สาวิกา วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:11:14:28 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน
นำธรรมะมาแบ่งปันครับ

ลักษณะของ “คู่สร้างคู่สม”
โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก


สามีภรรยาที่ครองรักครองเรือนกันยาวนานและมีความสุขตามประสาผู้อยู่ในโลกียวิสัย นอกจากเรื่องความสมดุลทางกามารมณ์ที่ผู้รู้สมัยนี้ให้ความสำคัญมากนั้น ยังต้องมีคุณสมบัติภายในซึ่งนับว่าเป็น “ความดีภายใน” ประกอบด้วย สามีภรรยาที่ต่างก็มี “ความดีภายใน” เหมาะสมกลมกลืนกันเรียกว่า “คู่สร้างคู่สม” มีลักษณะดังต่อไปนี้ คือ

1. มีศรัทธาสมกัน คือ มีความเชื่อในลัทธิศาสนาอย่างเดียวกัน หรือถ้านับถือศาสนาต่างกัน ก็ต้องรู้จักให้เกียรติและเคารพลัทธิความเชื่อของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ไม่ก้าวก่ายดูถูกเหยียดหยาม ความเชื่อถือของอีกฝ่ายหนึ่ง อีกความหมายหนึ่ง การมีศรัทธาสมกัน หมายถึง มีแนวคิด ความเชื่อในเรื่องทั่วๆ ไปลงรอยกันได้ มีค่านิยม มีเจตคติไปในทางเดียวกัน หรือปรับเข้าหากันได้ ไม่ดึงดันเอาแต่ความคิดความเชื่อของตนว่าถูกต้องฝ่ายเดียว

2. มีศีลสมกัน คือ มีความประพฤติ มีศีลธรรมจรรยาไม่ลักลั่นกัน ถึงขนาดคนหนึ่งเป็นคนไร้ศีลไร้ธรรม อีกคนก็มีศีลธรรม อีกความหมายหนึ่ง การมีศีลสมกัน หมายเอาเพียงการปรับความประพฤติให้เข้ากันได้ในเรื่องดี เช่น ฝ่ายหนึ่งชอบเข้าวัดฟังธรรม ทำบุญตักบาตรประจำ อีกฝ่ายก็ทำด้วยหรือไม่ทำก็ไม่ถึงกับขัดขวาง ส่วนในเรื่องไม่ดีเป็นเรื่องต่างฝ่ายต่างต้อง “ปรับปรุงตัวเอง” ให้ดีขึ้น

เช่น สามีเคยเที่ยวดึกๆ ดื่นๆ ดื่มเหล้าเมายา ก็ปรับให้ลดลงบ้าง ไม่ใช่เห็นฝ่ายหนึ่งไม่ดีแล้วปรับตนให้เลวตาม อย่างเช่น สามีเล่นม้า ภรรยาก็เล่นตาม อย่างนี้เรียกว่าปรับความประพฤติให้ชั่วเหมือนกัน ถึงจะไปกันได้ดี แต่ก็จะพากันลงนรก ไม่ถือว่าเป็น “คู่สร้างคู่สม”

3. มีน้ำใจสมกัน คือ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ เสียสละเหมือนๆ กัน ถ้าฝ่ายหนึ่งงกเห็นแก่ได้ อีกฝ่ายใจกว้างเป็นมหาสมุทร เรียกว่าน้ำใจยังไม่สมกัน ควรปรับให้พอเหมาะพอสมกัน ถ้าฝ่ายหนึ่งคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้อะไรใครเปล่าๆ ทุกอย่างจะต้องได้คืนหรือมีผลตอบแทนหมด แม้กระทั่งกับคนในครอบครัว อย่างนี้ก็ยากที่จะอยู่กันยืด

4. มีปัญญาสมกัน คือ มีความรู้ความเข้าใจไปกันได้ในเรื่องหลักๆ ไม่ใช่ต่างกันหรือสวนทางกันชนิดขาวกับดำ ความรู้ในที่นี้เน้นความมีเหตุมีผล ยอมรับฟังกันมากกว่า “ปริญญาบัตร” โดยนัยนี้ คนที่จบแค่มัธยมศึกษา ถ้ามีความรู้ มีเหตุมีผลเข้ากันได้ทางด้านความคิดกับคนระดับปริญญาเอก ก็สามารถเป็น “คู่สร้างคู่สม” กันทางความรู้ได้

สามีภรรยาที่ปรับศรัทธา-ความประพฤติ-น้ำใจ และปัญญาให้กลมกลืน ชีวิตคู่ก็จะราบรื่นชั่วกาลนาน

เป็นภรรยาแบบไหนดี

คนโบราณว่า ชายหนุ่มจะเลือกสตรีมาเป็นคู่ครอง ควรดูให้ครบ ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ ถ้าหาได้ไม่ครบก็ควรเลือกเอาคุณสมบัติ คือ ถึงจะไม่ได้เมียสวย เมียรวย ก็ขอให้ได้เมียดี ดีแค่ไหน อย่างไรนั้นพูดยาก แล้วแต่ความเหมาะสมและความชอบส่วนตัว หญิงบางคนจู้จี้ ขี้บ่น ขี้นินทา ชายบางคนอาจเห็นว่าเหมาะสมจะเป็นภรรยาตน เพราะอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เหงาปาก ฟังเธอนินทาคนอื่นเพลินไป อย่างนี้ก็มี

คัมภีร์พระไตรปิฎก พูดถึงภรรยาไว้ 7 ประเภท คือ

(1) ภรรยาเยี่ยงเพชฌฆาต ได้แก่ ภรรยาล้างผลาญประเภทคู่เวรคู่กรรม คิดแต่จะทำลายสามีให้ย่อยยับ จนกระทั่งทำลายชีวิต

(2) ภรรยาเยี่ยงโจร ได้แก่ ภรรยาปล้นทรัพย์ประเภท “กะเชอก้นรั่ว” หามาได้เท่าใดไม่พอใช้จ่าย ใครมีภรรยาชนิดนี้ ต่อไปให้ร่ำรวยขนาดไหน ไม่ช้าก็หมดตัว

(3) ภรรยาเยี่ยงนาย ได้แก่ ภรรยาที่ทำตนเหนือสามี ดูถูกสามีว่าด้อยกว่าตน ภูมิใจนักหนาที่ได้แสดงตนให้คนอื่นเห็นว่าสามีเสมือนลูกไก่ในกำมือตน จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด

(4) ภรรยาเยี่ยงแม่ ได้แก่ ภรรยาที่รักเอ็นดูสามีเสมือนแม่รักและเอ็นดูลูก ปรนนิบัติและเป็นห่วงสามีสารพัด ไม่ทอดทิ้งสามีไม่ว่ากรณีใดๆ

(5) ภรรยาเยี่ยงน้องสาว ได้แก่ ภรรยาที่ทำตนดุจน้องสาว สามีภรรยาเช่นนี้มักทะเลาะเบาะแว้งกระทบกระทั่งกันเรื่อยด้วยสาเหตุเล็กๆ น้อยๆ แบบพี่ทะเลาะกับน้อง แต่ก็ตัดไม่ตายขายไม่ขาด

(6) ภรรยาเยี่ยงเพื่อน ได้แก่ ภรรยาที่เป็นเพื่อนคู่คิดของสามีเหมือนเพื่อนรัก คอยปรึกษาหารือกันและกัน ให้เกียรติกัน ช่วยงานกันและกัน เช่นสามีภรรยาเป็นครูด้วยกัน ช่วยกันตรวจการบ้านเด็ก หรือสามีเป็นนักเขียน ภรรยาช่วยค้นข้อมูล ช่วยตรวจทานต้นฉบับให้ เป็นต้น

(7) ภรรยาเยี่ยงทาสี ได้แก่ ภรรยาที่ยอมให้สามีดุด่าสับโขกตบต่อยทุบตี ยอมทนเพราะ “รัก” สามีสุดหัวใจ ภรรยาบางคนได้สามีเป็นปีศาจสุรา ต้องวิ่งซื้อน้ำแข็ง โซดา ทำกับแกล้มเลี้ยงปีศาจและเพื่อนปีศาจไม่เว้นแต่ละวันก็มี

สามีพึงทราบว่ามี 7 ประเภทเหมือนกัน สามีภรรยาทั้ง 7 ประเภทนี้มีอยู่ทั่วไป ใครเป็นคู่ครองแบบไหนก็โปรดพิจารณาเอา ถ้าที่เป็นอยู่แล้วเห็นว่าไม่เหมาะสม ไม่ดี ก็อาจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้นตามต้องการ ไม่มีอะไรสายเกินแก้ ถ้าแน่วแน่แก้ไขจริงจัง

ที่มา //www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14647

//board.palungjit.com/showthread.php?t=144006


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:17:36:15 น.  

 
เพิ่มเติมต่อเนื่องจากคคห.ที่15กระทู้นี้ครับ

//board.palungjit.com/showthread.php?t=144006


อันผู้หวัง ครองเรือน มีเพื่อนรัก
ต้องยึดหลัก ธรรมะ ที่พระสอน
หนึ่งสัจจะ ต่อกัน มิบั่นทอน
ไม่ยอกย้อน ฃ่อนรัก หักกมล

สองทมะ ข่มใจ ไม่คิดแค้น
เหมือนรถแล่น หยุดได้ มิไร้ผล
สามขันติ ทรหด และอดทน
บังคับตน อดออม พร้อมกันไป

สี่จาคะ สละของ ต้องแบ่งให้
ผูกมิตรไว้ ในดวงจิต คิดสดใส
ผู้มีธรรม ทั้งสี่ ภายในใจ
มิมีใคร อาจแยก ให้แตกกัน
*********************************
ธรรมะสวัสดีครับ

"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
"เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"

"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:17:44:55 น.  

 
หลวงพ่อเล่าเรื่อง...ที่มาเครื่องมหาลดาปสาธน์ของนางวิสาขา(นางวิสาขาแต่งงาน)

ตอนนี้จะพูดกันถึงเรื่อง นางวิสาขา ต่อไป สำหรับตอนนี้เป็นตอนที่เรียกว่า พุทธบูชา มหาเตชวัณโต การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชมีอำนาจ ทำให้มีเครื่องประดับประดาเครื่องแต่งกายสวยงามเป็นกรณีพิเศษ คือ นางวิสาขามีเครื่องประดับกาย ราคา 16 โกฏิ
ในสมัยที่นางวิสาขามีอายุได้ 16 ปี ปรากฎว่า ท่านธนัญชัยเศรษฐี ได้รับหน้าที่เป็นพ่อตา คือมีคนมาขอนาง
ในตอนที่ นางวิสาขาจะแต่งงาน ปรากฏว่า บ้านของนางวิสาขาเป็นเมือง ๆ หนึ่ง ที่เรียกว่า เมืองสาเกต มีคนมาก ท่านบิดา คือ ท่าน ธนัญชัยเศรษฐี จึงได้จัดเครื่องแต่งตัวให้แก่บุตรสาว มีราคาประมาณ 16 โกฏิ (เห็นจะเป็น 16 พันล้าน)
เครื่องประดับประดานั้น ท่านบอกว่า หาด้ายสักเส้นหนึ่งก็ไม่มี ส่วนใดที่จะเป็นด้าย เขาใช้เงินทำเป็นเส้นด้าย พื้นเป็นทองคำร้อยเปอร์เซ็นต์ ประดับไปด้วยแก้วมณี (ซึ่งมีค่ามากกว่าเพชร) ถึง 20 ทะนาน และแก้วประพาฬ แก้วอินทนิล(แก้วอะไรต่ออะไรถึง 7 แก้ว จำไม่ได้ จำได้ก็ขี้เกียจพรรณนา) เป็นเสื้อคลุม คือเป็นเสื้อคลุมลงมาถึงข้อเท้ายาวถึงข้อมือ แล้วก็คลุมศีรษะ ข้างบนศีรษะเป็นนกยูงรำแพน ประดับประดาไปด้วยเพชรนิลจินดาหลากหลาย ราคาถึง 16 โกฏิ นี่เป็นเครื่องทรงที่แต่งเป็นกรณีพิเศษ
เครื่องทรงนี้มีน้ำหนักมาก เพราะนางวิสาขาเป็นพระโสดาบัน เมื่อนางเป็นพระโสดาบันแล้ว ท่านบอกว่า กำลังของนางกับช้าง 7 เชือก (เอาแรงของช้าง 7 เชือก มารวมกัน เท่ากับแรงของนางวิสาขา) แล้วก็มีหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นทาสของนางวิสาขา(เป็นเพื่อน ลูกของชาวบ้าน เป็นพระโสดาบันเหมือนกัน)มีกำลังเท่านางวิสาขา
เสื้อตัวนี้ของนางวิสาขามีชื่อว่า มหาลดาปสาธน์ มีนางวิสาขา กับหญิงเพื่อนคนเดียวเท่านั้น ที่จะยกขึ้น คนอื่นยกไม่ขึ้น เครื่องประดับประดานี้สวยมากเหลือเกิน ท่านพุทธบริษัท บรรดาท่านหญิงทั้งหลายฟังแล้วอยากได้ บ้างไหม เครื่องประดับแบบนี้ ความจริงพวกเราจะมีสร้อยสักเส้นหนึ่งมีเพชรสักเม็ดหนึ่ง หรือมีเพชรสักพวงหนึ่ง แบบนี้มันก็แสนยาก หามาด้วยความลำบาก เครื่องประดับของนางวิสาขา เฉพาะแก้วมณีเท่านั้นตั้ง 20 ทะนาน แล้วก็มีแก้วประพาฬ มีเพชรนิลจินดามีอะไรอีกมากมายนัก แล้วเสื้อทั้งตัวเป็นทองคำล้วน ที่เป็นด้ายใช้เงินแทน(แหม ถ้าได้มาเวลานี้ เสร็จ ขายเรียบ รวยมหาศาล เฉพาะเสื้อตัวเดียว)
เมื่อเวลาจะแต่งงาน ก็ปรากฎว่า ท่านธนัญชัยเศรษฐี ได้อัญเชิญ พระเจ้าปเสนทิโกศล ให้พระองค์เสด็จมาเป็นประธาน พระเจ้าปเสนทีโกศล ก็ถามว่า ทหารกองเกียรติยศของเรามาก จะให้ไปส่วนตัว หรือจะให้ ไปเต็มกองเกียรติยศ ถ้ากองเกียรติยศเต็ม ก็เป็น จตุรงคเสนา คือ กองทัพ 4 เหล่า ท่านธนัญชัยเศรษฐี พ่อของนาววิสาขา ก็บอกว่า ขอให้พระองค์มาเต็มกองเกียรติยศ ข้าพรพุทธเจ้ารับได้หมด
เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลมาแล้ว ก็ปรากฎว่า เครื่องประดับของนาง
เมื่อนางวิสาขาแต่งงานแล้ว นอกจากจะมีเครื่องมหาลดาปสาธน์แล้ว ปรากฏว่า ของที่เข้านำให้นางวิสาขาไปใช้ชั่วคราว พ่อให้ไปใช้ที่บ้านพ่อผัว แม่ผัว ก็อยู่กับผัวชั่วคราว เข้าให้เท่าไร ทราบไหม เข้าให้แบบนี้ เข้าให้ เงิน 500 เล่มเกวียน (นี่ชั่วคราวนะ ถ้าไม่พอมาเอาไปใหม่ได้) ทองคำ 500 เล่มเกวียน ภาชนะเครื่องใช้สอยที่เป็นทองคำ 500 เล่มเกวียน ภาชนะที่เป็นเงิน 500 เล่มเกวียน ภาชนะที่เป็นทองแดง 500 เล่มเกวียน อย่างนี้ เป็นต้น
เป็นอันว่า อย่างละ 500 เล่มเกวียน (โอ้โฮ มันเท่าไรกันแน่) ถ้าเราเป็นอย่างนั้น จะเป็นอย่างไร ผลที่นางวิสาขาได้อย่างล่ะ 500 เล่มเกวียน (ถ้าไม่พอมาเอาใหม่) คือผลจากการถวายสังฆทาน บรรดาท่านพุทธบริษัท
หากว่าบรรดาท่านผู้ฟัง ประสงค์จะมีทรัพย์มากอย่างนั้นบ้าง ก็ดูตัวอย่างที่กล่าวมาแล้วในตอนก่อนว่า นางวิสาขาร่ำรวย ได้เป็น ลูกมหาเศรษฐีใหญ่ ก็เพราะว่าถวายทานแต่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา พร้อมไปด้วยพระสงฆ์ ที่เรียกกันว่า ถวายทาน เวลานี้เราก็ถวายได้ แม้องค์สมเด็จพระพิชิตมารนิพพานแล้วก็ตาม เวลาเราถวายสังฆทานก็มีพระพุทธรูปเป็นประมุข จิตใจนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นประธาน พร้อมไปด้วยพระสงฆ์ผู้รับทาน เป็นกำลัง อย่างนี้ก็จัดว่า เป็นสังฆทานแบบนั้นเหมือนกัน
ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีกนิด ก็พากันสร้างวิหารทาน โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ตามแต่ที่เราจะมีทุน สร้างคนเดียวไม่ไหว ก็ร่วมกันสร้างปลาย ๆ คนก็มีประโยชน์ จะเป็นวิหารทานใหญ่ ที่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายมาทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ความจริง กฐิน หรือผ้าป่า ก็อยู่เฉพาะผ้าเท่านั้น ส่วนจตุปัจจัย ที่บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน นำไปถวายพระกล่าวว่า เป็นปัจจัยเพื่อวิหารทาน ถ้าพระท่านใช้อย่างนั้น
ฉะนั้น การถวายกฐินผ้าป่า เป็นสังฆทานพร้อมไปด้วยวิหารทาน จึงมีอานิสงส์ใหญ่ ดีไม่ดี เราจะรวยกว่านางวิสาขาเสียอีก พูดกันด้วยความจริงใจ
มาคุยกันถึงว่า ทำอย่างไรหนอ เราจึงจะมีเครื่องประดับสวยสด งดงาม อย่างนางวิสาขาได้บ้าง ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทลองฟังพระธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงโปรด พระองค์ตรัสไว้อย่างนี้(นี่เราพูดถึงเรื่องของนางวิสาขาเป็นตอน ๆ พูดทั้งหมดไม่ไหว เรื่องของนางยาวมาก)
องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวว่า การที่นางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นพระโสดาบันก็ดี หรือว่าได้เครื่องมหาลดาปสาธน์ก็ดี ทั้งนี้เพราะว่า นางมีความเคารพในองค์สมเด็จพระชินสีห์สัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ เป็นต้นมา อาศัยที่นางวิสาขามีพุทธบูชาเป็นปกติ คือ บูชาพระพุทธเจ้าเป็นปัจจัย จะทำอะไรก็ตาม นึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ที่เราหัด ฝึกกันภาวนาว่า พุทโธ อย่างนี้เป็นต้น หรือว่า อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ หรือ สัมมาอรหัง อะไรก็ได้ ในห้องพระพุทธคุณ การนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์แล้ว และก็ปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วด้วย ไม่ใช่ภาวนาว่า พุทโธ อย่างเดียว จะสร้างความร่ำรวยให้เกิดขึ้น
ความจริง ภาวนาว่า พุทโธ ก็รวยเหมือนกัน เพราะตายแล้วเป็นเทวดา มีทิพยสมบัติมาก กลับมาก็เป็นมหาเศรษฐีแต่ยังไม่ใหญ่เท่า นางวิสาขา นาง
เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันถึงว่า การได้เครื่องมหาลดาปสาธน์ เครื่องประดับพิเศษ ในสมัยเมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ ยังดำรงพระชนม์อยู่ สาวกขององค์สมเด็จพระบรมครูซึ่งเป็นสาวิกา คือผู้หญิง มีเครื่องมหาลดาปสาธน์อยู่สองท่านด้วยกัน คือ นางวิสาขามหาอุบาสิกาท่านหนึ่ง กับ พระนางมัลลิกาเทวี เอกอัครมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศลท่านหนึ่งมีสองท่านด้วยกัน เพราะว่าหญิงทั้งสองนี้ ทำบุญมาสม่ำเสมอกัน การให้ทานก็สม่ำเสมอกัน ไม่แพ้กัน แต่การให้ทานไม่ได้แข่งขัน ต่างคนต่างมีศรัทธาเหมือนกัน
เอาละ ตอนนี้ สำหรับท่านหญิงที่ได้เครื่องมหาลดาปสาธน์ มีค่าถึง 16 โกฏิ ได้มาจากไหน เราก็ต้องหาเหตุหาผลกัน เพราะว่า ในพระพุทธศาสนา มีเหตุมีผล องค์สมเด็จพระทศพลทรงเทศน์ไว้อย่างนี้ ท่านกล่าวว่า ถ้าสตรีผู้ใด ได้เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา ถ้าหากว่าท่านผู้นั้นยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด เกิดเป็นมนุษย์ในชาติต่อไป จะมี เครื่องมหาลดาปสาธน์ เช่นเดียวกับนางวิสาขามหาอุบาสิกา
ถ้าหากว่าเป็น ผู้ชาย ได้เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนาเมื่อเวลาที่พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว มีความเลื่อมใสขออุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดา ตรัสว่า เอหิ ภิกขุ ซึ่งแปลว่า เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด เพียงเท่านี้ ก็จะมีผ้าไตรจีวรสำเร็จไปด้วยฤทธิ์ ลอยมาจากอากาศ สวมลงไปในร่างของท่านผู้นั้น(โดยไม่ต้องหาซื้อผ้า เพราะในสมัยนั้นหาซื้อผ้ายากแสนยากเพราะไม่มีพ่อค้าขายผ้าไตรมากมาย เหมือนสมัยนี้)
นี่แหล่ะบรรดาท่านพุทธบริษัท การที่นางวิสาขามหาอุบาสิกา มีเครื่องมหาลดาปสาธน์ เป็นเครื่องประดับพิเศษ อีกองค์ หนึ่งก็คือ ท่านมัลลิกาเทวี เอกอัครมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล มีเครื่องมหาลดาปสาธน์ เป็นเครื่องประดับ ก็เพราะอาศัยได้เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา
เวลานี้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยทั่วหน้า ก็เคยทำกันมาเป็นปกติ เช่น การทอดกฐินก็ดี การทอดผ้าผ่าก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี ท่านทั้งหลายก็มักจะถวายผ้าไตรจีวร ไว้แก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาทั้งนี้ต้องจัดเป็นการถวายสังฆทาน การถวายสังฆทานนี้ มีอานิสงส์มากตามที่กล่าวมาแล้ว
ฉะนั้น หากว่าท่านทั้งหลายมีความเคารพในองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ที่เรียกว่า พุทธบูชา คือบูชาความดีของพระพุทธเจ้า ด้วยการปฏิบัติตาม ถ้าโอกาสจะพึงมีแก่บรรดาท่านพุทธบริษัทแล้ว ก็ซื้อผ้าไตรจีวรถวายเป็นสังฆทาน ไว้ในพระพุทธศาสนา ความจริง พรุพุทธเจ้าไม่ได้ทรงจำกัดว่า ต้องถวายเป็นสังฆทาน ท่านบอกว่า เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา (คำว่าสังฆทาน เฉพาะผ้าไตรจีวรนี้ อาตมาพูดเอง)
ทั้งนี้ก็เพราะว่า การถวายสังฆทานมีอานิสงส์มาก มากกว่าการถวายเป็นปาฏิปุคคลิกทาน ถ้าเรามีผ้าผืนเดียว พระสงฆ์ท่าน ก็ให้แก่พระที่มีความจำเป็นต้องใช้ คือ ท่านจัดการกันเอง ตัวอย่าง
ในสมัย เมื่อองค์สมเด็จพรจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ พระนางวิสาขาเป็นภรรยา เวลานั้น นางวิสาขามีอายุได้ 16 ปี แต่งงานเมื่ออายุ 16 ปี คลอดบุตรอายุ 16 ปีวิสาขา ทำยังไม่เสร็จ ต้องรออยู่ถึง 3 เดือน เลี้ยงกองทัพ 4 เหล่า 3 เดือน ก็ลองคิดดู เรียกว่า คนจำนวนนับแสนที่พระเจ้าปเสนทิโกศลนำมาเขาก็ตั้งค่ายให้อยู่ ตั้งพลับพลาเป็นที่ประทับ แล้วคนของบ้านนางวิสาขาก็มากมาย เป็นหมื่น ปรากฎว่าพ่อของนาววิสาขารับหมด แล้วก็ไม่หนักใจเรื่องการเลี้ยง เงินทองไม่ยุบเย็บจีวรถวายพระพุทธเจ้าผืนหนึ่ง เป็นผ้าเนื้อละเอียดมาก กรอด้ายเอง แล้วก็ทอผ้าเอง เย็บเป็นจีวรเอง ประสงค์ถวายเฉพาะองค์พระพุทธเจ้า เวลาไปถวายจริง ๆ พระพุทธเจ้าทรงเรียกประชมพระสงฆ์ทั้งหมด พระสงฆ์ทั้งหมดก็นั่งเรียงแถวตามลำดับอาวุโส (ไม่ใช่ตามสำดับยศ พระพุทธเจ้าไม่ทรงนิยมยศ ถือว่ายศ เป็นโลกธรรม) ตามลำดับอาวุโสของพระ
เมื่อพระนางกีสาโคตมีถวายให้พระองค์ พระองค์ ก็ทรงรับ แล้วพระองค์ก็ส่งให้พระสารีบุตร พระสารีบุตรก็ส่งให้พระโมคคับลาน์ พระโมคคัลลาน์ก็ส่งต่อ ๆ ไป จนกระทั้งถึงองค์สุดท้าย ได้แก่ พระอชิตภิกขุ เป็นองค์สุดท้าย ไม่รู้จะให้ใคร ก็รับไว้
พระนางกีสาโคตมีก็เสียใจว่า ปั่นด้ายเอง ทอผ้าเอง เย็บเอง ปรารถนาจะถวายกับพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้ากลับรับแล้วส่งให้พระอื่น ร้องไห้เสียใจ องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงมีพระพุทธฎีกาตรัสกับพระน้านางว่า การถวายแต่พระองค์ มีอานิสงส์มากก็จริงแล แต่ว่าเป็น ปาฏิปุคคลิกทาน ผ้ามันมีอยู่ฝืนเดียว จะให้เป็นสังฆทานโดยเฉพาะ แบ่งคนละผืนหรือคนละครึ่งผืน มันก็ทำไม่ได้ ฉะนั้น องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงให้ผ้านั้นเป็นสังฆทานเสีย คือ ส่งให้พระสารีบุตร พระสารีบุตรส่งให้พระโมคคัลลาน์ พระโมคคัลลาน์ส่งต่อ ๆ กันไป ถึงองค์สุดท้าย คือ อชิตภิกขุ อย่างนี้ได้ชื่อว่า พระทุกองค์ได้รับหมด แต่ไม่กำหนดนำมาไว้เพราะตัวมีผ้าใช้พอ และสำหรับองค์สุดท้าย ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ท่านมีผ้าน้อยเกินไป ชาวบ้านไม่ค่อยนิยมนัก จึงมีโอกาสรับผ้าไว้ได้ อย่างนี้องค์สมเด็จพระจอมไตรบอกว่า เป็นสังฆทาน
แล้วองค์สมเด็จพระพิชิตมารจึงได้กล่าวถึงทาน ตามที่กล่าวมาแล้วว่าการถวายแด่พระพุทธเจ้าเอง 100 ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับ ถวายสังฆทาน 1 ครั้ง
นี่แหล่ะ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย การนำพระธรรมเทศนาใน พุทธบูชา มหาเตชวัณโต การบูชาพระพุทธเจ้า ย่อมมีเดช มีอำนาจมาก แม้วาเราจะปรารถนาเครื่องประดับมาก ๆ อย่างนางวิสาขา ก็ปรารถนาได้
เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เรื่องของ นางวิสาขาบูชาพระพุทธเจ้า แล้วได้เครื่องมหาลดาปสาธน์ ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน หากว่าท่านมีความประสงค์สิ่งใด ก็ขอให้ได้สิ่งนั้นจงทุกประการ สวัสดี

ที่มาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง หนังสือกฏของกรรม


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.205 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:22:35:04 น.  

 
พี่ไก่ขา

ดอกบัวงามมากเลยค่ะ

ตั้งแต่เปลี่ยนรูปอยู่ไปมา ชอบรูปนี้ที่สุดค่ะ


พี่อร

กำลังเพลิดเพลินกับการปลูกไม้หอมต่างๆ

ปลูกไม้กินได้บ้างก็จะมีประโยชน์มากนะคะ

ของเราปลูกเอง ไม่มียาหรือสารเคมี กินแล้วสบายใจที่ซู้ดดดดด


พี่มุ่ง

ขออนุโมทนากับสารพันบุญกุศลด้วยค่ะ


พี่ไก่อีกที

พี่ขา ถ้าสวนสันติธรรมเค้ามีเปิดให้ไปปฏิบัติอีกเมื่อไหร่รบกวนแจ้งหนูด้วยนะคะ

ไม่อยากพลาดอีกเลย

คุณแม่ก็คงอยากไปด้วยค่ะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

(^/\\^)



โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.139 วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:9:01:32 น.  

 
** ลิงเปิดแผล**
นักสืบ ไร้อันดับ


มีฝูงลิงอาศัยอยู่ในป่า
กลางพนาป่าเขาที่เล่าขาน
ทั้งลิงน้อยลิงใหญ่ให้สำราญ
กระโดดผ่านโผเต้นชอบเล่นจัง

ลูกลิงน้อยโดดข้ามตามลิงใหญ่
ผ่านไม่ได้ตกมาน้ำตาหลั่ง
เกิดปากแผลที่ท้องร้องเสียงดัง
เพราะพลาดพลั้งกระแทกตอตัวงอไป

แผลที่ท้องยาวแยกแตกเป็นนิ้ว
นั่งหน้านิ่วปวดแผลคิดแก้ไข
ลิงในฝูงตื่นตระหนกต่างตกใจ
ต่างเข้าใกล้มุงดูให้รู้ความ

มีเจ้าลิงตัวใหญ่ใคร่อยากรู้
แหวะแผลดูเป็นอย่างไรคิดไต่ถาม
ลูกลิงน้อยร้องลั่นตัวสั่นตาม
เพราะแผลลามปริไปให้ทุกข์ทน

ฝูงลิงแยกแตกฮือลือสักพัก
พอตั้งหลักมามุงยุ่งอีกหน
ลิงตัวแล้วตัวเล่าเฝ้าเวียนวน
มาแคะค้นแผลให้ใหญ่กว่าเดิม

บางตัวฉีกแผลกว้างอย่างไม่รู้
บางตัวดูแผลลึกแล้วหึกเหิม
เกี่ยวลำไส้เป็นรูดูเพิ่มเติม
บางตัวเสริมดึงต่อเพียงขอยล

แสนสงสารลูกลิงเหนือสิ่งไหน
ต้องสิ้นใจอย่างอนาถขาดเหตุผล
ความหวังดีไร้สมองตรึกตรองตน
ทำให้หนทางแก้ต้องแพ้ตาม
----------------


โดย: ลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:9:50:49 น.  

 
คนสวย มีเเต่sex


โดย: นายโทบี้ IP: 124.157.230.192 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:10:58:42 น.  

 
sexhahahaha sexsexsexsex


โดย: sex IP: 124.157.230.192 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:11:01:26 น.  

 
ห .จ .ร .ห .บ .ห .บ


โดย: นายก๊อต IP: 124.157.230.192 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:11:02:07 น.  

 
0010


โดย: 007 IP: 124.157.230.192 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:11:03:37 น.  

 
ผมสาวสวยนะค่ะจาก007


โดย: สาวสวย IP: 124.157.230.192 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:11:07:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]























Friends' blogs
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.