sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
27 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 23 ไอรักบนแรงชัง




ย่างเข้าวันที่สามที่เจ้าหลวงเวียงครามพำนักอยู่ในคุ้มเฮือนหลวง บรรยากาศความขัดแย้งเริ่มคลายลงเมื่อเจ้านางดวงรัศมีเลือกที่จะนิ่งเฉย พอเห็นชายาอ่อนลงประมุกแห่งคุ้มจึงเริ่มคลายใจ

“วันนี้พี่กับลูกจักแวะไปเยี่ยมเจ้าพี่ฤาชัยที่คุ้มดงหลวงเวียงแก้ว อาจจักกลับค่ำสักหน่อยน้องจักตามไปด้วยหรือไม่”

“เชิญเจ้าพี่กับลูกเถอะน้องยังมิหายเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง”

“หากน้องยังเหน็ดเหนื่อยก็พักผ่อนให้สบายเถิด” บอกแล้วจึงหมุนกายเดินลงจากเรือน

ร่างอวบอิ่มยืนมองสองพ่อลูกที่กำลังขึ้นนั่งบนรถรางสีหน้าเรียบเฉย พอลับร่างของสวามีนางจึงหมุนตัวเดินหน้านิ่งตรงไปที่ลานกลางบ้านก่อนจะหยุดตรงหน้าของบ่าวคนหนึ่งแล้วออกคำสั่งน้ำเสียงราบเรียบ

“คำฟองไปเรียกแม่ไหมแก้วมาพบเราที่ห้องสักประเดี๋ยวไป”

“เจ้า”

บ่าวนางนั้นโน้มตัวลงรับคำสั่งแล้วผลุนผลันลงจากเรือน

“ไหมแก้วเราก็อยากจักรู้ว่าเจ้าจะหน้าด้านหน้าทนอยู่ได้อย่างไร หากเรามิพอใจให้เจ้าอยู่”

ใบหน้างดงามตามวัยแค่นยิ้มเมื่อนึกถึงผลที่แม่นางรำคนนั้นกำลังจะเผชิญ
ไม่กี่อึดใจไหมแก้วก็เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับฟองคำ เจ้านางดวงรัศมีปรายตามมองหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินนอบน้อมเข้ามาด้วยสายตาจงเกลียดจงชัง

เมื่อเดินเข้าใกล้เจ้านางที่นั่งเชิดคอจนตั้งตรงอยู่บนตั่งไม้ขัดเงาอย่างดี ไหมแก้วจึงทรุดกายลงนั่งพับเพียบก้มลงกราบทำความเคารพ

“เจ้าแม่มีเรื่องอันใดจักให้ไหมแก้วรับใช้เจ้า”

“ฟองคำเจ้าออกไปก่อน เราอยากจักคุยกับนางตามลำพัง” พยักหน้าเชิงไล่

“เจ้า” ก้มตัวรับคำสั่งแล้วหันหลังเดินเข่าออกไป

เจ้าดวงรัศมีปรายตามองสะใภ้ไร้ฐานันดรอย่างรังเกียจ ไหมแก้วก้มหน้ามิกล้าสบดวงตากร้าวดุ หญิงสาวนั่งตัวเกร็งด้วยความอึดอัดกับรัศมีของความเกลียดชังที่กำลังแผ่ออกมาจากสายตาเย็นชาคู่นั้น

“ไหมแก้วเราขอบอกตามตรงว่าเรานั้นหาได้พึงใจกับการออกเรือนในครานี้ของฟ้าครามนัก” เสียงห้วนเอื้อนเอ่ยจุดประสงค์

“ไหมแก้วขอความเมตตาจากเจ้าแม่โปรดเห็นใจในความรักและภักดีที่ไหมแก้วมีให้กับเจ้าพี่ด้วยเถิดเจ้า”

หญิงสาวโน้มตัวลงกราบแทบเท้าของเจ้านางเพื่อขอความกรุณา

“แล้วเจ้าเล่าเห็นใจในความรักของคนเป็นแม่อย่างเราไหม” ขยับเท้าออกปรายตามองใบหน้าเฉยชา

“เจ้าแม่เจ้า” ใบหน้างดงามเงยขึ้นขณะเรียกขาน

“อย่าบังอาจมาเรียกเราเช่นนั้นเราหาได้นับญาติกับเจ้าไม่” ตวาดปรามเสียงลั่นบ้าน

ร่างบอบบางสั่นสะท้านทั้งน้อยใจทั้งหวาดเกรงเมื่อเห็นชัดว่าอย่างไรเสียเจ้านางท่านก็คงมิเห็นใจแลปล่อยวางกับความรักของเธอกับเจ้าฟ้าคราม

“วันนี้ที่เราเรียกเจ้ามาก็เพื่อเจรจากับเจ้า เราจักให้เงินทองของมีค่ากับเจ้าจำนวนหนึ่งมันมากพอที่จะทำให้ชีวิตเจ้าสุขสบายไปทั้งชาติ ได้เงินทองแล้วจงออกไปให้ไกลจากฟ้าครามเจ้าจะยอมทำตามความประสงค์ของเราหรือไม่”

พอได้ยินจุดประสงค์ของเจ้านางดวงรัศมีไหมแก้วก็ถึงกับหน้าซีดด้วยความคาดไม่ถึง อะไรกันเจ้านางท่านประสงค์ใช้เงินทองซื้อความรักของเธอกระนั้นหรือ ริมฝีปากงามเม้มแน่นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่เจ้านางท่านตีความรักของเธอเป็นเพียงสิ่งของ ด้วยความตั้งมั่นในความรักหญิงสาวจึงโน้มตัวลงอีกครั้งพร้อมกับคำปฏิเสธที่อีกคนไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน

“กราบเจ้านางไหมแก้วมิอาจรับความเมตตาในครั้งนี้ได้”

พอได้ยินเจ้านางดวงรัศมีถึงกับนั่งไม่ติดที่ ใบหน้าดุดันเริ่มเกรี้ยวกราดเมื่อคำขาดที่ยื่นให้ถูกปฏิเสธเสียง่ายดาย ดวงตากร้าวดุจ้องเขม็งไปที่ดวงหน้าสวยหวานแววตาชิงชัง

“เราเมตตาเจ้าถึงปานนี้ เจ้ากลับมิใส่ใจในความหวังดีของเรา ไหมแก้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าฟ้าครามมีคู่หมาย ถึงอย่างไรบุตรเราก็ต้องกลับไปสมรสกับคู่หมายของเขาอยู่ดี เราเมตตาหาทางออกให้เจ้าแต่เจ้ากลับเมินเฉย วันหน้าหากฟ้าครามต้องจากไปเจ้าก็อย่ามาหาว่าเรานั้นแล้งน้ำใจ”

“ไหมแก้วขอให้เจ้าพี่เป็นผู้ตัดสินว่าจักทำประการใด หากเจ้าพี่มีความประสงค์ที่จักจากไปไหมแก้วก็สุดแท้แต่เจ้าพี่เจ้า”

“จองหอง....เจ้าคงคิดล่ะสิว่าฟ้าครามนั้นรักเจ้าจนมิยอมฟังใคร”
ปรายตามองใบหน้าขาวซีดตรงหน้าอย่างสมเพช

“หามิได้เจ้า ไหมแก้วเพียงแต่น้อมรับกับทุกความประสงค์ของเจ้าพี่ ไหมแก้วเป็นเมียอย่างไรเสียก็ต้องเดินไปตามความประสงค์ของเจ้าท่าน ไหมแก้วหาได้เมินเฉยกับความเมตตาของเจ้านางไม่”

“อวดดี.....วาจาเจ้ามันช่างอวดดี เราจักให้เวลาเจ้าอีกซักวันกลับไปทบทวนว่าสิ่งที่เราหยิบยื่นมันพอเพียงหรือไม่ หากเจ้ายังยืนกรานเราก็จักไม่ไว้หน้าใครอีกต่อไป”

“หากเจ้านางมีประสงค์เห็นควรเป็นเช่นใด ก็โปรดแจ้งกับเจ้าฟ้าครามเพื่อให้ท่านเป็นผู้เลือกเถิด”

“เจ้ากำลังคิดเอาฟ้าครามมาข่มขู่เรากระนั้นหรือ” คิ้วเรียวเลิกขึ้นขณะส่งเสียงเยาะหยัน

“หามิได้เจ้า เพียงแต่ไหมงามจะปฏิบัติตามความประสงค์ของเจ้าพี่เพียงเท่านั้น”

“ไหมแก้ว! เจ้าจะอวดดีกับเรางั้นรึ” ตบมือลงบนเข่าดังฉาดพร้อมตวาดเสียงลั่นเรือน

“หามิได้เจ้า”

“นังไพร่พอผัวหลงมัวเมาหน่อยคำเราเจ้าก็เมินเฉย เจ้าเห็นเราเป็นหัวหลักหัวตอหรือกระไร ถึงได้มองข้ามไม่เห็นหัวหงอกหัวดำเช่นนี้”

อารมณ์ที่เดือดเป็นทุนยิ่งประทุขึ้นเมื่อพูดอย่างไรไหมแก้วก็หาได้ยอมรับ

“หากเจ้านางมิมีเรื่องอันใดจักให้ไหมแก้วรับใช้ ไหมแก้วขอลาเจ้า”
เมื่อเห็นว่าหากยังอยู่เหตุการณ์อาจจะยิ่งย่ำแย่ ไหมแก้วจึงตัดปัญหาขอลากลับเรือน

“ตกลงเจ้าจักมิยอมอ่อนให้เราใช่ไหม” ถามน้ำเสียงขุ่นเคือง

“อย่างที่ไหมแก้วเรียนเจ้านางเจ้า ว่าไหมแก้วจะปฏิบัติตามความประสงค์ของเจ้าพี่เท่านั้นเจ้า”

เจ้านางดวงรัศมีผุดลุกขึ้นด้วยท่าทีที่เกรี้ยวกราด ร่างอวบอิ่มเดินตรงดิ่งมาหยุดอยู่เบื้องหน้าหญิงสาว ดวงตากร้าวดุกราดมองไปตามเรือนร่างบอบบางก่อนจะแค่นเสียงข่มขู่

“ก็ได้หากเจ้าเลือกเช่นนั้น เราก็จักทำตามความประสงค์ของเรา จำใส่หัวของเจ้าไว้ว่าอย่างไรเราก็หายินยอมปล่อยวางเรื่องนี้ไม่”

ไหมแก้วนั่งนิ่งด้วยความคิดที่สับสน ดวงหน้างดงามวูบสลดเห็นทีความรักครานี้คงมิสุขสมดังที่วาดหวัง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจ้องไปเบื้องหน้าดวงตาคู่งามร้อนผ่าวเมื่อความกังวลกำลังจุกแน่นไปทั้งอก....รักต่างชนชั้นมันปวดร้าวเช่นนี้เอง...

***************

ไหมงามย่างขึ้นเรือนอย่างรีบเร่ง หญิงสาวก้าวผ่านลานบ้านตรงดิ่งไปที่ห้องนอนของญาติผู้น้องสีหน้าห่วงใย เมื่อสายแม่ฟองคำวิ่งหน้าตาตื่นตระหนกไปแจ้งข่าวว่าเจ้านางดวงรัศมีเรียกหาไหมแก้ว ด้วยความห่วงน้องเธอจึงรีบมาดูว่าไหมแก้วไปพบเจ้านางท่านด้วยเรื่องใด

“ไหมแก้วน้องเป็นเยี่ยงไรบ้าง เจ้านางท่านเรียกน้องไปด้วยเรื่องอันใด”
พอเปิดประตูเข้าไปก็ถามไถ่เรื่องราวในทันที

“พี่งามเจ้า”

เสียงหวานเรียกขานญาติผู้พี่น้ำเสียงสั่นพร่าอย่างเสียขวัญ แขนเรียวทั้งสองยกขึ้นเรียกร้องหาไออุ่นจากคนที่เพิ่งเข้ามา

“ไหมแก้ว! “ ร่างสูงโปร่งพุ่งพรวดเข้าไปหาแล้วกางแขนโอบกอดร่างสั่นเทาของญาติผู้น้อง

“พี่งามเจ้าไหมแก้วมิรู้จะทำเยี่ยงไรกับความทุกข์ใจในครานี้”

“มีเรื่องอันใดบอกพี่มา”

“เจ้านางท่านมิเห็นใจในความรักของไหมแก้ว ท่านประกาศกร้าวว่าอย่างไรเสียก็จักมิปล่อยวาง พี่งามเจ้าไหมแก้วเกรงเหลือเกินกับความเกลียดชังของเจ้านางท่าน”

“เจ้านางท่านอาจจักแค่ข่มขู่ มิเป็นอันใดดอกไหมแก้วอย่าคิดมาก เวลานี้เจ้าหลวงท่านรับรองน้องเป็นคนของคุ้มเป็นเจ้านางที่ถูกต้องของเจ้าฟ้าครามนางจะทำอันใดได้” ญาติผู้พี่ปลอบโยน

“พี่งามมิเห็นสีหน้าของท่านในยามจับจ้องสายตาทั้งเย็นชาและเกลียดชัง ไหมผิดมากเลยหรือกระไรที่รักเจ้าพี่” หญิงสาวบอกเล่าปนสะอื้น

“หามีใครผิดไม่ เรื่องความรักเป็นกำหนดของฟ้าหาใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ไหมแก้วน้องจงเชื่อมั่นในความรักอย่าหวั่นเกรงกับสิ่งใด หากเจ้านางขัดขวางเจ้าก็จักต้องฟันฝ่าเพื่อความสุขของตัวเอง หาไม่เจ้าก็จักมิเหลืออะไร”

“แต่แรงชังจากเจ้านางมันมากมายเหลือเกิน ไหมมิรู้จักทำประการใดเจ้านางท่านใจแข็งเหลือเกิน” ส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนแรง

“ชังได้ชังไปเราไปห้ามความรู้สึกของใครเขามิได้ดอก ความรักมีเพียงไหมแก้วกับเจ้าฟ้าครามเพียงเท่านั้นคนอื่นหาสำคัญไม่”

“แต่ไหมแก้วเกรงเจ้านางท่าน”

“จักเกรงอันใดพี่อยู่นี่ทั้งคนหากนางคิดร้ายพี่ก็หายอมให้นางกระทำการอันใดได้ตามใจไม่” บอกสีหน้ามาดมั่น

ไหมแก้วเงยหน้าขึ้นสบตากับญาติผู้พี่ ดวงตาคู่งามเต็มรื้อไปด้วยหยาดน้ำตา ไหมงามใช้มือทั้งสองประคองใบหน้าของญาติผู้น้องด้วยความเห็นใจ

“ไหมแก้วอย่าร้องไห้ พี่งามอยู่ตรงนี้พี่มิยอมให้ใครมาทำอันตรายน้องดอก คนของเราก็มีตั้งเยอะแยะไหนจักเจ้าฟ้าครามอีกเจ้าท่านรักน้องยิ่งกว่าสิ่งใดคงมิให้ใครมาทำอันตรายน้องได้แน่ หากเจ้านางท่านยังมิหยุดหาความเห็นทีคงต้องพึ่งบารมีของเจ้าหลวงเสียแล้วกระมัง”

“มิได้นะเจ้า พี่งามอย่าเอาเรื่องเล็กน้อยไปรบกวนท่านประเดี๋ยวมันจักกลายเป็นความกันเสียเปล่าๆ “

“แต่เจ้านางท่านมาหาความกับไหมแก้วก่อน หากปล่อยให้ผ่านไปง่ายดายเจ้านางท่านก็ยิ่งได้ใจคราต่อไปเจ้ามิต้องย่ำแย่รึ” จ้องหน้าญาติผู้น้องแววตาจริงจัง

“เจ้านางท่านอาจจะหวังดี”

“หวังดีงั้นรึ ....หึหึ...น่าขันพี่มิใช่คนโง่เง่าที่จักอ่านสายตานางมิออก ในกลุ่มเจ้านางตามคุ้มต่างๆ เล่าขานกันมาแต่ไหนแต่ไรว่านางนั้นเด็ดขาดแลโหดเหี้ยมปานใด.....”

“หากนางโหดเหี้ยมปานนั้นในวันหน้านางจักทำประการใดกับสะใภ้ที่นางมิพึงใจเช่นไหมแก้ว” จ้องหน้าญาติผู้พี่แววตากังวล

“นางคงจักแค่ข่มขู่คงมิทำอันใดดอก พี่ว่าไหมแก้วไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ ประเดี๋ยวเจ้าฟ้าครามมาเห็นน้องหน้าเศร้าจักเป็นความเสียเปล่าๆ น้องมิอยากให้เรื่องวันนี้เป็นความมิใช่รึ”

มือเรียวเกลี่ยหยาดน้ำตาออกจากแก้มนวลเนียนของญาติผู้น้องเบาๆ “ไปกันเถอะทำหน้าตาให้สดชื่นวันนี้พี่จะอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน”

ไหมแก้วจ้องหน้าญาติผู้พี่แล้วพยักน้อยๆ หญิงสาวลุกจากเตียงเดินเคียงออกไปกับไหมงามที่ยิ้มบางๆ อยู่ข้างกาย ไหมงามเป็นที่พึ่งให้เธอได้เสมอ นับตั้งแต่นางได้รับการอุปการะจากบิดาเธอเมื่อครั้งอายุได้แปดขวบ เพราะครอบครัวของไหมงามเสียชีวิตไปเมื่อคราวพายุใหญ่ถล่มหมู่บ้าน ด้วยความที่อายุห่างกันไม่มากจึงทำให้เธอกับไหมงามค่อนข้างสนิทกันจนผูกพันแน่นแฟ้นยิ่งกว่าพี่น้องที่คลานตามกันมา

****************

ร่างบอบบางอ้อนแอ้นยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพทิวทัศน์ของหมู่มวลดอกไม้เบื้องหน้าหาได้ทำให้จิตใจของเธอสงบนิ่งอย่างที่ควรจะเป็น ดวงตาคู่สวยเหลือบเลยไปทางแม่น้ำสายเล็กๆ ที่ทอดยาวออกไปด้วยความรู้สึกที่แห้งเหือดหาได้ฉ่ำชุ่มเหมือนสายน้ำที่กำลังไหลเอื่อยดังภาพที่เห็น....
บานประตูเปิดออกแผ่วเบาแต่ร่างบอบบางที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างกลับนิ่งเฉยคล้ายไม่รับไม่รู้กับสรรพสิ่งใดๆ

ใบหน้าคมคายจ้องมองหญิงสาวอย่างพินิจ ไหมแก้วมิเคยเหม่อลอยจนเมินเฉยกับการมาของเขา วันนี้เธอคงมีเรื่องราวบางอย่างอยู่ในใจถึงได้เงียบเฉยเช่นนั้น

วงแขนแข็งแรงโอบเอวคอดบางดึงร่างน้องนางเข้ามาแนบอก ก่อนจรดปลายจมูกลงบนซอกคอหอมละมุนด้วยความเสน่หา

“อุ๊ย!...เจ้าพี่!” ใบหน้างดงามหันขวับขณะฝืนร่างกายเมื่อถูกรุกรานโดยไม่ทันได้ตั้งตัว แต่พอเห็นผู้รุกรานชัดเจนเธอจึงลดอาการแข็งขืนแล้วยืนอยู่นิ่งๆ น้อมรับความอบอุ่นของอกแกร่งด้วยความเต็มใจ

“ไหมแก้วน้องมีเรื่องราวอันใดอยู่ในใจกระนั้นหรือ”

“หามีไม่ไหมแก้วกำลังเพลิดเพลินกับความงามของสวนเจ้า” หญิงสาวหลบตาเพราะเกรงเจ้าหนุ่มจะล่วงรู้ว่าเธอกำลังพูดปด

“ไหมแก้วน้องอย่ามาปดพี่ เจ้าก็รู้แต่ไหนแต่ไรเจ้าหาได้ใส่ใจกับสิ่งใดจนทำให้เหม่อลอยเช่นนี้”

มือหนาเชยคางมนขึ้นดวงตาคมเข้มจ้องดวงตาคู่สวยคล้ายกำลังค้นหาคำตอบว่าแท้จริงเธอกำลังมีสิ่งใดอยู่ในใจ

“น้องมีเรื่องอัดอั้นอยู่ในใจใช่ไหม?...”

“เปล่าเจ้า” เบนสายตาไปอีกทาง

“เปล่าแล้วใยจึงหลบตาพี่”

“น้องเปล่าเจ้า”

“แน่ะยังปากแข็ง น้องนี่ก็กระไรอึดอัดเรื่องอันใดใยมิบอกพี่ เก็บกักอยู่คนเดียวเยี่ยงนั้นพี่จักแก้ไขความทุกข์ของน้องได้อย่างไร”

รอยยิ้มบางๆ ผุดออกมาจากมุมปากสีเข้มเมื่อเห็นสีหน้าของเมียสาวดูเหมือนกำลังยุ่งยากใจเสียเต็มประดา

“เจ้าพี่คิดมากไปเอง น้องหาได้เป็นทุกข์กับเรื่องใดไม่”

“น้องแน่ใจรึว่ามิมีเรื่องอันใด ไหมแก้วพี่รู้ว่าอย่างไรเสียวันนี้เจ้าแม่ก็คงมิปล่อยให้น้องได้อยู่อย่างสงบเป็นแน่ เมื่อสายเจ้าแม่เรียกน้องไปพบที่เรือนหลวงใช่หรือไม่?”

ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามจากเจ้าหนุ่ม แต่เธอเกรงว่าหากพูดออกไปมันจะกลายเป็นความเสียเปล่าๆ จึงเลือกที่จะเก็บงำทุกอย่างไว้แล้วตอบปฏิเสธไป

“ปะ...ปะ...เปล่าเจ้า”

“หึหึ....น้องเกรงพี่จักขึ้นไปเอาเรื่องเจ้าแม่รึ ไหมแก้วพี่ให้คนของเราเฝ้าดูน้องตลอดเวลาน้องทำอะไรอยู่ที่ไหนมีเหรอว่าพี่จะมิรู้ เอาเถอะหากน้องมิใส่ใจเอาความพี่ก็จักนิ่งเฉย”

ใบหน้าคมคายโน้มลงแนบริมฝีปากลงบนแก้มนวลแล้วกระซิบถาม “แต่บอกพี่ได้ไหมว่าเจ้าแม่กระทำการอันใดให้น้องต้องหมองใจ”

หญิงสาวไม่มีโอกาสได้เอื้อนเอ่ยเมื่อริมฝีปากอุ่นจัดเคล้าเคลียอยู่บนเรียวปากเธอ “เจ้าพี่...” เสียงหวานเรียกขานหวังหยุดยั้งแต่คนฟังกลับเคลิบเคลิ้มไปกับน้ำเสียงนุ่มหวานที่กำลังขับขานอยู่ข้างหู

“หากวันนี้น้องหมองใจพี่ขอใช้ความรักที่มีปัดเป่าให้น้องคลายความหมองหม่น ไหมแก้วจดจำความรักของพี่ไว้นะคนดีพี่นั้นหาหยุดรักเจ้าได้ไม่ อย่าละทิ้งความรักของเราเพียงเพราะความบาดหมางจากคนอื่น อยู่เคียงข้างพี่เช่นนี้อย่าหลีกหนีไปไหน....ได้ไหมเล่าเจ้าเมียรัก...”

เจ้าฟ้าครามประคองใบหน้านวลเนียนด้วยสองมือ ดวงตาคมเข้มจับจ้องร้องขอขณะไล้มือไปตามวงหน้างดงามอย่างเสน่หา ร่างบางสั่นพร่าเมื่อเจ้าหนุ่มกำลังเรียกร้องขอคำมั่นจากกายเธอ วงแขนแข็งแรงช้อนร่างอ้อนแอ้นขึ้นแนบอกเมื่อหญิงสาวเริ่มอ่อนระทวยไปกับรสสัมผัสที่นาบไปตามเนื้อผิว

“เจ้าพี่....น้อง....เอ่อ....เกรง...” หญิงสาวอึกอักเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนนุ่ม

“เกรงอันใด.....เวลานี้พี่กำลังปลอบใจน้องให้คลายความหมองหม่น....มิมีสิ่งใดให้หวาดเกรงดอก”

“น้องเกรงว่าเจ้าพี่จักเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง เลยมิอยากให้เจ้าพี่ต้องเมื่อยล้ากับการอันใดอีก”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดออกจากริมฝีปากหนาเมื่อเห็นท่าทางหวาดหวั่นของเมียสาว ไหมแก้วหนอ...ไหมแก้ว....เมื่อไหร่เจ้าจะคุ้นชินซักทีกับความรักของร่างกายที่พี่ถ่ายทอด






Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2552 20:30:16 น. 2 comments
Counter : 273 Pageviews.

 
เนทพังมาหลายวันค่ะ โชคดีวันนี้เนทที่บ้านใช้ได้เลยรีบอัพให้ค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: sansook วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:20:37 น.  

 
เจ้านางนี่ร้ายไม่ใช่เล่นนะคะ


โดย: karaked IP: 68.105.5.210 วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:2:54:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.