โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ
https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ 18 เหนือกาลเวลา
|
|
ธีรดลย์กระพริบตา เมื่อร่างกายทะลุผ่านบานประตูออกมาด้านนอก ใบหน้าขาวราวอิสตรีเบิกกว้างทั้งงวยงงเมื่อทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวดูเหมือนจะมีแต่ความว่างเปล่า ชายหนุ่มจ้องบานประตูที่เพิ่งผ่านทะลุออกมาอย่างกังขาว่าตัวเขาข้ามผ่านบานไม้หนานั่นมาได้ยังไง
ชายหนุ่มหมุนตัวไปทางลานบ้าน โอ๊ะ... แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเกือบปะทะกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนใบหน้าซีดเซียวอยู่ตรงหน้า
คะ....คุณเป็นใคร? ชายหนุ่มรวบรวมความกล้าถามออกไป
เป็นใครงั้นหรือ?.....ใยต้องถามซ้ำๆ ซากๆ เสียงหวานหากเย็นยะเยือกเอ่ยออกมาน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
ก็ต้องถามสิเพราะผมไม่รู้จักคุณ อารมณ์ขุ่นเคืองที่มีปิดรับความหวาดกลัวไปหมดสิ้น
ณชนกยืนเก้ๆ กังๆ อยู่อีกฟากของประตู หญิงสาวหันซ้ายหันขวายกมือเกาหัวเพราะไม่รู้จะตัดสินใจไปทางไหนดี เอาวะไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกัน พูดจบเธอจึงหลับตาแล้วพุ่งตัวทะลุบานประตูออกไป ร่างบอบบางอ้อนแอนที่สปีดมาเต็มแรงทะยานไปข้างหน้า
เฮ้ย!... หญิงสาวแหกปากเสียงลั่นบ้านเมื่อร่างกายของเธอที่กำลังทะยานทะลุบานประตูกำลังจะประสานงากับเจ้าตี๋หน้าหล่อ
อ้าว...เฮ้ย!.... ธีรดลย์หันไปตามเสียงแหลมปรี๊ดของหญิงสาว พอเห็นว่าอีกคนกำลังทะยานออกมาเต็มสปีดชายหนุ่มก็ผงะหงายพร้อมกับแหกปากบ้าง
ผลั่ก!! อูย... ร่างโปร่งใสที่ถลาออกมาประสานงากับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเต็มแรง จนทำให้ร่างบอบบางหากโปร่งใสนอนแอ้งแม้งอยู่บนแผงอกกำยำของอีกฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ณชนกคุณทำบ้าอะไรฮึ ชายหนุ่มตำหนิน้ำเสียงห้วน
ฉัน...ก็แค่ลองวิ่งฝ่าประตูนั่นออกมา ณชนกลนลานลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัว
วิ่งฝ่าประตูมาได้ทำไมไม่ฝ่าทะลุผมออกไปบ้าง ผู้หญิงอะไรอยู่ใกล้แล้วซวยเป็นบ้า ธีรดลย์บ่นอุบอิบ
คุณว่าอะไร? และเสียงเขียวๆ ของหญิงสาวก็ลอยมาทันใด
ผมเปล่า หูหาเรื่อง ชายหนุ่มอ้ำอึ้งผุดลุกขึ้นนั่ง
เฮ้ย!.... เสียงหวานอุทานขึ้นอีกครั้งเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวแปลกหน้ายืนหน้าตื่นๆ อยู่ห่างออกไป
ธีรดลย์ที่นั่งสูดลมหายใจเข้าปอดถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ ยัยแต๋วแหววก็แหกปากเสียงดังลั่นขึ้นมา ณชนกคุณจะแหกปากทำไมผมตกใจหมด
คุณธีรดลย์..นะ...นะ...นั่น หญิงสาวชี้ไม้ชี้มือไปทางหญิงสาวแปลกหน้า ชายหนุ่มมองตามปลายนิ้วเรียวยาวของเธอไปอย่างว่าง่าย พอเห็นเป้าหมายเต็มตาใบหน้าขาวตี๋ก็พยักหงึกหงัก จะตกใจทำไมซี้คุณไม่ใช่เหรอ ธีรดลยที่เริ่มชินกับหญิงสาวแปลกหน้าพูดขึ้นเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา
คุณเรียกเธอมาเหรอ? ถามพลางลูบแขนที่ขนกำลังพร้อมใจกันลุกชันด้วยความหวาดผวา ถึงจะเคยเห็นไหมงามแต่เธอก็อดกลัวไม่ได้
ผมเปล่านะอยู่ๆ เขาก็มาเอง ชายหนุ่มส่ายหน้าพัลวัน
พวกเจ้าทั้งสองจะยอมช่วยเราหรือยัง ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะทันได้โต้วาทีเสียงเย็นหากห้วนสั้นก็โพล่งขึ้นขัดขวาง
อะไร?....ช่วยอะไร....ผมไม่รู้เรื่อง ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษธีรดลย์จึงรีบผลักภาระที่เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรออกไปให้ห่างตัว
อย่ามาเฉไฉ....เจ้าฟ้าครามเพราะเจ้าพวกเราถึงต้องเป็นอยู่แบบนี้ ผีสาวชี้มือไปที่ชายหนุ่มแล้วตัดพ้อ
ใครคือเจ้าฟ้าคราม....ถ้าคุณหมายถึงเจ้าหนุ่มรูปหล่อก็โน่นเลยในโน้น คุณมีปัญหาอะไรก็ไปเคลียร์กับเขาเอาเองสิ มันมาเกี่ยวอะไรกับผม
พวกเรารอเจ้าทั้งสองมาหลายร้อยปี พวกเจ้าละทิ้งพวกเราให้ทนทุกข์อยู่กับความเกลียดชัง ไหมแก้วเจ้ารับปากว่าจะกลับมาแต่ไหนเลยเจ้าจึงละทิ้งพวกเราให้ทนทุกข์มิจบสิ้น ใบหน้างดงามแปรเปลี่ยนเป็นเครียดขรึมเมื่อหันไปทางณชนก
ฉันไม่เข้าใจไหมงามคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? หญิงสาวส่ายหน้าไปมาเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งที่ผีสาวกำลังเอ่ยถึงมันคืออะไร
พวกเรายอมเสียสละเป็นตัวแทนของเจ้า แต่ไหมแก้วเจ้ากลับละทิ้งพวกเราละทิ้งคนรักละทิ้งทุกอย่างเจ้าเจ็บปวดเพราะพิษรักแต่รู้ไหมว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับความทุกข์ทนของพวกเรา
ณชนกเห็นไหมว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะคุณ คุณเป็นคนดูดพวกเขาเข้ามา ธีรดลย์รีบสรุป
เออ...คุณวิญญาณครับเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคุณทั้งสองผมว่าผมไม่ควรเข้ามายุ่ง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ต้องหากรรมการมาตัดสินหรอกคุณเคลียร์กันเองได้
อ้าว...อีตาธีรดลย์ใจคอคุณจะชิ่งหนีง่ายๆ แบบนี้น่ะเหรอ เห็นแก่ตัวชะมัด พออีกฝ่ายทำท่าถอยหนีหญิงสาวที่เริ่มผวานิดๆ ก็หันไปแขวะ
ไม่หนีได้ไงคุณดูสินั่นผีเชียวนะ ขืนอยู่เกิดแม่คุณองค์ประทับขึ้นมาผมจะมีชีวิตรอดมั้ย
เจ้าจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เพราะเจ้าก็มีส่วนที่ทำให้พวกเราไปไหนไม่ได้ และเสียงเย็นยะเยือกก็ส่งสัญญาณเป็นผู้ตัดสิน
ทำไมพูดกับผมแบบนั้นล่ะ ผมยังไม่เคยทำอะไรให้คุณเลยนะ
ใบหน้าเซียวซีดบึ้งตึง ลำคอตั้งตรงด้วยความขุ่นเคือง ไหมงามมองหน้าคนทั้งสองด้วยแววตาขุ่นใบหน้างอง้ำ พวกเจ้าก็เป็นเสียอย่างนี้ลืมสิ้นว่ามีใครรอคอย
พอไอโกรธของผีสาวพุ่งขึ้น บรรยากาศรอบกายก็เริ่มเย็นยะเยือกจนน่าขนลุก ธีรดลย์ขยับเข้าไปหาร่างบอบบางของณชนกชายหนุ่มโน้มตัวลงกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาว เอาไงดีผมว่างานนี้เราสองคนเข้าวินทั้งคู่
คุณก็ถามเธอดูสิว่าจะให้เราช่วยอะไร หญิงสาวหันไปบอก
บ้าเหรอขืนถามออกไปโต้งๆ แล้วคุณคนนั้นบอกให้เราสองคนช่วยไปอยู่เป็นเพื่อนจะไม่พาลซวยกันหรือไง
แล้วจะเอาไง ใบหน้านวลเนียนเริ่มงอง้ำ
คุณลองถามเขาดูสิว่าถ้าเราทำบุญไปให้เธอจะหายไปไหม
คุณอยากรู้ก็ถามเธอเองสิ ขืนฉันถามไปแล้วคำถามนี้มันไม่เข้าหูเธอพาลโกรธขึ้นมาฉันจะไม่แย่หรือไง ณชนกส่ายหน้าปฏิเสธลูกเดียว
เอาไงดีล่ะ ธีรดลย์เริ่มลังเล
คุณไหมงามฉันถามหน่อยสิว่าคุณเป็นคนพาพวกเรามาที่นี่ใช่ไหม? ณชนกตัดใจถามขึ้น
วิญญาณสาวพยักหน้าน้อยๆ แล้วฉันตายหรือยัง พอหลุดคำถามออกไปหญิงสาวก็หลับตาแล้วกลั้นลมหายใจเพื่อรอคำตอบ
ยัง
ณชนกลืมตาขึ้นช้าๆ อย่างยินดีเมื่อได้รับคำยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ถ้าฉันยังไม่ตายทำไมร่างกายของฉันถึงได้โปร่งใสแบบนี้ อีกอย่างฉันจับต้องอะไรบนเรือนนี้ไม่ได้ นอกจากจับอีตานี่ได้คนเดียว
ทุกอย่างที่เจ้าเห็นเป็นเพียงภาพนิมิตที่จิตของเจ้าสัมผัส ตัวเราและทุกอย่างบนเรือนเป็นเหมือนสายลมที่เจ้ามิอาจแตะต้องได้
หมายความว่าพวกฉันกำลังฝันงั้นเหรอ?
ไม่ใช่ความฝัน ผีสาวตอบกลับทันใด
อ้าว สองหนุ่มสาวอุทานขึ้นพร้อมๆ กันเมื่อไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังเผชิญสุดท้ายมันคืออะไร
เจ้าสองคนกำลังยืนอยู่ในห้วงของเวลาที่ทับซ้อน ในตอนนี้เจ้าอาจจะรู้สึกเหมือนร่างกายเบาหวิวและโปร่งใส นั่นเพราะจิตของเจ้าทั้งสองกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงเวลาของกาลเก่า พวกเจ้าอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมเจ้าทั้งสองถึงผูกพันกับเรา
ใช่พวกเราอยากรู้ แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือทำไมคุณถึงรอเรา ณชนกรวบรวมความกล้าเอ่ยถามขึ้น
มาสิ....มากับเราแล้วเจ้าจะเข้าใจ วิญญาณสาวหมุนตัวช้าๆ
เดี๋ยว... ธีรดลย์ที่นิ่งเงียบมาพักใหญ่กางมือปราม ผมถามหน่อยสิว่าถ้าผมไปกับคุณแล้วผมจะปลอดภัย ชายหนุ่มถามด้วยความรอบคอบ
เราต้องการความช่วยเหลือจากพวกเจ้าหาใช่ชีวิต หากเจ้าช่วยพวกเราได้พวกเราก็จะหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานที่กำลังเผชิญ เจ้าฟ้าครามหากเจ้ายังลังเลพวกเราก็จะยิ่งทนทุกข์
เอาอีกแล้วเรียกผมว่าเจ้าฟ้าครามอีกแล้ว ช่วยเรียกผมว่าธีรดลย์ได้ไหมผมชอบชื่อนี้ ชายหนุ่มบอกน้ำเสียงคล้ายตำหนิ
บ่นพอหรือยัง ณชนกที่นิ่งเงียบมาซักพักยกมือขึ้นเท้าสะเอวแล้วถามขึ้น ผมเปล่าบ่นนะ ผมก็แค่อยากให้เค้าเรียกชื่อผมไม่ใช่ชื่อใครก็ไม่รู้
เอาเถอะจะชื่อใครมันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละน่า คุณจะมากเรื่องทำไมนักหนา คุณไหมงามตกลงคุณจะบอกได้หรือยังว่าจะให้พวกฉันช่วยอะไร หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเจ้าตี๋หน้าหล่อเริ่มสงบปากสงบคำ
ใบหน้าสวยหวานหากซีดเซียวเริ่มมีโครงร่างที่เข้มขึ้นจนเหมือนเป็นคนปกติธรรมดา มากับเราสิแล้วพวกเจ้าจะรู้ ไหมงามหมุนตัวเดินลงบันไดไปช้าๆ ณชนกหันไปมองหน้าธีรดลย์แล้วพยักหน้าชวน ชายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงปฏิเสธ
ใจเสาะเป็นปลาซิวไปได้ หญิงสาวปรายตามองแล้วเบะปากดูแคลนก่อนจะเดินตามร่างบางอ้อนแอ้นลงจากเรือนไป
ธีรดลย์ยืนชั่งใจชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าเจ้าแต๋วแหววยังบ้าระห่ำได้ขนาดนั้น ขืนผู้ชายอกสามศอกอย่างเขายังมัวมายืนแข้งขาสั่นอยู่อย่างนี้มีหวังคงถูกทับถมไม่จบไม่สิ้น ....แต่จะให้เดินตามผีไปต้อยๆ แบบนั้นมันก็ทำใจลำบากไม่เบา....เมื่อเห็นคนที่กำลังเดินนำอยู่ข้างหน้าเป็นคนภพอื่นชายหนุ่มก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี
อ้าวอีตาธีรดลย์ยังไม่มาอีกเหรอ เป็นผู้ชายซะเปล่าใจเสาะชะมัด และเสียงสวรรค์ก็ลอยแว่วมาถากถาง
.....เอาวะผีก็ผีมีหลวงพ่อซะอย่างก็ให้มันรู้ไปว่าหลวงพ่อที่มีจะเผ่นหนีมันทุกวัด.... มือหนาดึงสร้อยพระออกมาเพิ่มขวัญกำลังใจให้ตัวเอง ถึงจะรู้ว่าพระที่ร้อยอยู่เต็มคอคงช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้พึ่งพิงบ้างก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย เมื่อตัดใจได้ชายหนุ่มจึงเดินแกมวิ่งลงจากเรือน
******************************
เวลาไม่นานคนทั้งสองก็เดินลงมายืนอยู่กลางสวนกุหลาบ บรรยากาศที่สว่างจ้าในคราแรกเริ่มพร่าเลือน ดวงอาทิตย์ที่ฉายส่องสว่างจ้าพลันหม่นครึ้ม สายลมอ่อนๆ เริ่มกระโชกโหมพัดแรงขึ้นจนกลีบดอกกุหลาบที่เบ่งบานเริ่มร่วงหล่นปลิดปลิวกันให้ว่อน
เกิดอะไรขึ้น! ธีรดลย์ที่ไม่คิดวางใจกับอะไรโพล่งออกมาด้วยความตระหนก เมื่อเห็นความวิปริตของบรรยากาศรอบๆ ตัว
แต่ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรอยู่ๆ ความมืดมิดก็คลี่เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งสวน ธีรดลย์ที่สติมีน้อยกว่าใครผวาเฮือกพร้อมๆ กันกระโจนเข้าไปโอบกอดคนร่างเล็กไว้ในขณะที่ร่างกายเริ่มสั่นเทา ชายหนุ่มหลับตาปี๋เมื่อรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังหมุนลอยไปอย่างไม่มีจุดหมาย
หญิงสาวร่างบางอ้อนแอ้นคว้าหมับไปที่ร่างสูงใหญ่ของอีกคนแล้วซบหน้าลงบนอกกว้างเมื่อรู้สึกว่าความมืดมัวกำลังทำให้ใจประหวั่นหวาดกลัว สายลมที่กำลังโหมพัดเข้ามาดังหวีดหวิวจนน่าสะพรึง
เมื่อสองกายที่คุ้นเคยประสานแน่น อยู่ๆ ภาพในหนหลังก็วิ่งพล่านไปทั้งความรู้สึกหญิงสาวเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ เมื่อรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังสงบนิ่ง....คุณพระ! เสียงหวานอุทานขึ้นเมื่อมองเห็นภาพพร่าเลือนของใครคนหนึ่ง
เสียงหรีดหริ่งดังแผ่วมาไกลๆ ณชนกยืนจ้องชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนประสานมือไขว้ไว้ด้านหลังจ้องมองดอกกุหลาบขาวที่ชูช่อบานสะพรั่งอยู่เต็มแปลงด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมเหมือนคนที่กำลังหลงอยู่ในห้วงรัก กลิ่นหอมจางๆ ของกลีบกุหลาบลอยมาตามลมจนเธออดไม่ได้ที่จะสูดดมเพื่อเพิ่มความสุนทรีให้กับความรู้สึก ร่างแกร่งสูงสง่าที่ยืนเด่นตระหง่านอยู่ท่ามกลางมวลดอกไม้.....ช่างคุ้นเคยนัก....
ไม่นานเธอมองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเนิบนาบใกล้เข้ามา พอคนทั้งสองประสานสายตาเธอกลับรู้สึกวูบไหวไปกับแรงอารมณ์ชองชายหนุ่มที่พุ่งทะยานขึ้น ห้วงเวลาของคนทั้งสองที่กำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้าหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็วเร็วจนเหมือนมองแทบไม่ทัน แต่น่าแปลกที่เธอกลับจดจำทุกรายละเอียดและความรู้สึกของคนทั้งสอง
ธีรดลย์จ้องหน้าคนที่ยืนนิ่งอยู่ในอก แล้วมองเลยไปที่ภาพพร่าเลือนตรงหน้า ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังเต้นแรงเมื่อรับรู้ถึงแรงอารมณ์ของผู้ชายอีกคนที่กำลังร่ำร้องเรียกหารัก หญิงสาวร่างบางอ้อนแอ้นในชุดนางรำอันงดงามช่างสวยงามบาดใจ....เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลงรักเธอในขณะที่ร่างกายกำลังเรียกเร้าและปรารถนา....
ทั้งธีรดลย์และณชนกต่างยืนนิ่งงันอยู่กับที่เมื่อถูกภาพนิมิตฉุดรั้งและตรึงเขาและเธอให้หยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น ภาพของเจ้าฟ้าครามและไหมแก้วเริ่มเด่นชัดขึ้นทีละนิดๆ จนกลายเป็นเหมือนเขาทั้งสองกำลังล่องลอยอยู่ในร่างกายของคนทั้งสอง
ภาพกิจวัตรของคนทั้งสองยังคงหมุนวนอยู่ในความรู้สึกจนทำให้ทั้งเขาและเธอเริ่มเข้าใจกับความเป็นไปในอดีต ธีรดลย์รู้สึกอิ่มเอมไปกับความสุขที่กำลังดำเนินไปในวันต่อวัน ขณะที่ณชนกก็เริ่มปล่อยกายใจให้ดื่มด่ำอยู่ในห้วงแห่งเสน่หาที่ชายหนุ่มตักป้อนจนอิ่มเปรม
จากวันหมุนผ่านเป็นเดือนจนเลื่อนข้ามเข้าสู่ห้วงแห่งปี ความสุขปรีดิ์เปรมที่คนทั้งสองสัมผัสยังคงหวานชื่น ใบหน้าสวยหวานแย้มยิ้มเมื่อยืนอยู่ในอ้อมกอดของชายคนรัก ใบหน้าคร้ามคมโน้มลงจรดริมฝีปากลงบนแก้มนวลเนียนพลางชี้ชวนให้เธอมองดูเรือนไม้หลังใหญ่ที่ปลูกสร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์
นั่นเรือนของเรา เรือนที่พี่สร้างขึ้นเพราะความรักที่มีต่อไหมแก้ว ชายหนุ่มกระซิบบอก
เรือนหลังนี้งามเหลือเกินเจ้า หญิงสาวยิ้มบางๆ
พี่จะเรียกเรือนรักหลังนี้ว่าเรือนไหมแก้ว
ทำไมเจ้าพี่ถึงเรียกชื่อนี้ล่ะเจ้า หญิงสาวเอียงหน้าถามไถ่
เพราะพี่รักไหมแก้ว เรือนเป็นที่อยู่อาศัยในยามที่พี่เหนื่อยล้า เมื่อพี่จากเรือนไปหัวใจพี่ก็คะนึงหาแต่น้องนาง เรือนหลังนี้พี่สร้างขึ้นเพราะความรักที่มีให้น้องจนล้นหัวใจ ไหมแก้วรู้ไหมเจ้านั้นมีความหมายต่อพี่จนสุดที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบได้ เจ้าหนุ่มเอื้อนเอ่ยคำรักได้หวานละมุนจนคนฟังได้แต่ยิ้มรับอย่างปลาบปลื้มใจ
ไหมแก้วก็รักเจ้าพี่จนสุดหัวใจไม่ต่างกัน หญิงสาวทรุดกายลงนั่งพับเพียบ ทาบมือขวาลงบนหลังเท้าแล้ววางปลายมือซ้ายไขว้กับปลายนิ้วข้างขวาก่อนจะโน้มใบหน้าก้มจรดหน้าผากนวลลงซบกับแผ่นมือ
ไหมแก้วอย่าทำแบบนี้ เจ้าฟ้าครามทรุดกายลงประคองร่างบางอ้อนแอ้นขึ้นมาแล้วสวมกอดไว้แนบอก
ไหมแก้วเทิดทูลเจ้าพี่ไว้เหนือเกล้า
ไหมแก้วคนดีโปรดฟังคำพี่ ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันหน้าพี่ก็จะรักและเทิดทูลเจ้าไว้ในหัวใจ ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลายพี่ก็หารักใครได้ดังเจ้า หากเทพยาดาสดับคำรักที่เรามีโปรดเถิดโปรดเป็นพยานให้ความรักของเรากับนางนั้นจงมั่นคงไปตราบจนชีวิตจะหาไม่ เราขอสาบานว่าหากวันใดเราละทิ้งนางขอให้เรานั้นจงไร้สิ้นลมหายใจภายในสามวันเจ็ดวัน เจ้าฟ้าครามเงยหน้าขึ้นมองไปยังเบื้องบนเพื่อบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนทิพย์พิมาน
เจ้าพี่อย่า...สาบาน... ไหมแก้วยกมือขึ้นทาบกับริมฝีปากหนาแต่หากช้าไปเมื่อคำสาบานที่เอื้อนเอ่ยถูกขานรับด้วยเส้นแสงสว่างวาบที่ผ่าเป็นสายฟาด.....เปรี้ยง! ....ลงมาในบันดล
ไหมแก้วก้มหน้ากรีดร้องอยู่ในอกแกร่งด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยหวานซีดเซียวเพราะตื่นตระหนกกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาอย่างไม่มีเค้าว่าฝนจะตก
ไหมแก้วอย่าตกใจ สิ่งที่เกิดขึ้นคงเป็นเพราะเทพยาดาท่านเมตตาสดับรับฟังคำสาบานของพี่ เจ้าหนุ่มประคองกอดร่างอ้อนแอ้นที่สั่นเทาด้วยความรักที่เต็มล้นไปทั้งใจ
เจ้าพี่ใยจึงเอ่ยคำสาบานพร่ำเพรื่อเช่นนี้ ไหมแก้วใจไม่ดีเลยรู้ไหม หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาแล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักใจ
ไหมแก้วใจไม่ดีกับคำมั่นของพี่อย่างนั้นหรือ? เมียรักเจ้าอย่าเป็นกังวลหากที่พี่กล้าสาบานนั่นก็เพราะคงไม่มีสิ่งใดอีกแล้วที่จะมาพรากพี่ให้ละทิ้งไหมแก้ว เจ้าฟ้าครามแย้มยิ้มเพราะเชื่อมั่นในคำสัตย์ที่ลั่นออกไป
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2552 8:45:43 น. |
Counter : 421 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: sansook 5 พฤศจิกายน 2552 9:27:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) 6 พฤศจิกายน 2552 5:51:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: karaked IP: 68.105.5.210 8 มกราคม 2553 1:09:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|