sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
27 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

ตอนที่ 25 ความลับ




ร่างสูงใหญ่ก้าวยาวๆ ตามหลังหญิงสาวไปติดๆ พอลงจากเรือนหลวงณชนกก็เดินดุ่มๆ ตรงไปที่รถ หญิงสาวเดินหน้าตึงตรงไปข้างหน้าด้วยความเร่งรีบ ไม่แม้แต่จะหันไปเจรจาหาความกับใครอีกคนที่กำลังสปีดตามหลังมาติดๆ ร่างบอบบางหากถูกครอบอยู่ภายใต้บุคลิคของชายหนุ่มหยุดอยู่ตรงรถยนต์คู่ใจ มือเรียวล้วงลงกระเป๋ากางเกงควานหากุญแจแล้วดึงออกมาเตรียมไขประตูรถ

“ณชาคุณจะไปไหน?”

มือหนาคว้าหมับไปที่ข้อมือเรียวเล็กแล้วรั้งไว้

“ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน” หญิงสาวกางมือขึ้นผลักอกแกร่งเต็มกำลัง
แต่อีกคนกลับไม่สะทกสะท้านมือหนาบีบข้อมือของเธอแรงขึ้นแล้วตะคอกถาม

“คุณทำแบบนี้คิดจะหนีปัญหางั้นเหรอ”

“แล้วคุณมายุ่งอะไรกับฉัน จะไปไหนก็ไปเลยนะผู้ชายเฮงซวย” เมื่อสุดที่จะระงับความพุ่งพล่านของอารมณ์เธอจึงระเบิดคำพูดที่ไม่น่าฟังออกไป

“ผมต้องยุ่งเพราะต่อไปคุณกับผมก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี” ยิ้มเยาะอย่างผู้มีชัย

“ใครจะไปแต่งงานกับคุณ จำใส่สมองไว้เลยว่าฉันไม่แต่งงานกับคนเพศเดียวกันเด็ดขาด”

“เพศเดียวกัน.....คุณว่าคุณกับผมเป็นเพศเดียวกันงั้นเหรอ?....ณชนกคุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า....ฮ่าๆ คุณเพี้ยนไปแล้วหรือไง”

พอได้ยินเหตุผลที่เธออ้างขึ้นธีรดลย์ก็ถึงกับฮาก๊าก ดูท่าก่อนเข้าพิธีแต่งงานเขาคงต้องพาแม่แต๋วแหววนี่ไปเช็กสมอง แล้วต่อด้วยไปโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อเข้าพบจิตแพทย์เสียแล้วกระมัง

“ตาบอดเหรอไม่เห็นรึไงว่าฉันออกจะแมนเต็มร้อย คุณมันงี่เง่าบ้ากามอกหักแล้วเพี้ยนรึไงถึงได้คว้าไม่เลือกแบบนี้ ฉันจะบอกให้ว่ายังไงฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับผู้ชายเฮงซวยอย่างคุณแน่ ปล่อยฉัน....”

“คุณแน่ใจเหรอว่าคุณเป็นแมนเต็มร้อย” เลิกคิ้วถามสีหน้ากวนอารมณ์นิดๆ
“ตาคุณบอดรึไงไม่เห็นเรอะว่าฉันแมนขนาดไหน”

“งั้นเหรอ....ถ้าคุณคิดว่าคุณแมน....คุณกล้าแก้ผ้าให้ผมดูไหมล่ะ ว่าร่างกายของคุณกับผมมันแตกต่างกันไหม” เลิกคิ้วยียวนแล้วหรี่มองเรือนร่างงามแววตาเป็นประกาย

“คนบ้า.....ไอ้บ้ากามเอ๊ย ปากดีแบบนี้ขอถีบซักเปรี้ยงเถอะ” พอเจ้าตี๋เปิดประเด็นอันล่อแหลมเท้าเรียวเล็กก็ยกขึ้นจุดประสงค์คือยันโครมลงบนท่อนขาของเจ้าคนปากร้าย

“อ้าว...เฮ๊ย!...”

ชายหนุ่มแหกปากขึ้นพร้อมๆ กับเบี่ยงกายหลบฝ่าเท้าได้หวุดหวิด พออีกคนหลบได้ร่างบางที่ส่งแรงไปกับฝ่าเท้าถึงกับเสียหลัก

“ว๊าย!!....”

ด้วยความตกใจเสียงหวานจึงอุทานออกมาด้วยภาษาของเพศหญิงเต็มปากเต็มคำ เมื่อร่างกายของเธอกำลังแหงนหงายไปด้านหลัง

ธีรดลย์ที่ตกใจไม่แพ้กันคว้าหมับไปที่เอวบางอ้อนแอ้นแล้วออกแรงดึงเธอเข้ามาปะทะกับอกอุ่น วงแขนแข็งแกร่งโอบกระชับร่างบอบบางแน่นด้วยสัญชาตญาณที่อยู่ภายใน จนลืมว่าตัวเองผวากับคราบผู้ชายที่ครอบอยู่บนตัวเธอเสียสนิท

“ปล่อยฉันนะ.....ปล่อย” ร่างอรชรพยายามดิ้นรนออกจากพันธนาการ

“ไม่ปล่อย”

ส่ายหน้าพร้อมกับกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น

“คุณจะบ้ารึไงฉันเป็นผู้ชายนะมากอดซี้ซั้วเดี๋ยวฟ้าก็ได้ผ่าลงมาหรอก”

“ถ้าฟ้าจะผ่าจริงๆ ผมว่าคงผ่าคุณกับยัยดาจนเกรียมเป็นตอตะโกแล้วล่ะ อีกอย่างผมก็ไม่เคยไปสาบานอะไรไว้ที่ไหนรับรองปลอดภัยจากสายฟ้าล้านเปอร์เซ็นต์”

“ปลอดภัยไม่ปลอดภัยฉันก็ไม่อยากอยู่ใกล้คุณ ปล่อยฉัน.....ปล๊อย....” ณชนกแผดเสียงใส่หูเจ้าตี๋หน้าหล่อด้วยระดับเสียงที่ชายหนุ่มถึงกับแก้วหูลั่นเปรี๊ยะ

“อูย.....ณชนกคุณจะแหกปากทำไมนักหนาถ้าหูผมดับจนหนวกขึ้นมาคุณจะรับผิดชอบไหวเหรอ”

ธีรดลย์ยกไหล่ถูกับใบหูเพื่อไล่เสียงอื้ออึงที่ดังตึงตังอยู่ในโสตประสาท
“ถ้าไม่ปล่อยฉันจะแหกปากเสียงดังกว่าเมื่อกี้อีก.....ปะ....”

เสียงที่กำลังจะลอดผ่านจากริมฝีปากบางถูกเก็บกักด้วยริมฝีปากอุ่นจัดที่ฉกลงมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่งามเบิกโพลงด้วยความตกใจ เมื่อริมฝีปากหนาที่ทาบลงมาเริ่มกดลงบดเบียดหนักหน่วง ปลายลิ้นนุ่มตวัดรัดเกี่ยวหยอกเย้าเรียวลิ้นอุ่นของหญิงสาวอย่างเร่าร้อน

ชายหนุ่มบดจูบเร่าร้อนและรุนแรงขึ้นทุกขณะอย่างลืมตัวกับความหวานจากอุ้งปากงาม ในขณะที่หญิงสาวอ่อนระทวยคล้ายล่องลอยอยู่บนยอดไม้ที่ไหวเอน หัวใจที่กระหน่ำเต้นในคราแรกเหมือนหยุดกึก จนทำให้ร่างกายหอบเหนื่อย

สรรพสิ่งรอบกายเงียบงันจนเหมือนกับว่าในเวลานี้โลกทั้งโลกกำลังหยุดนิ่ง ณชนกกรอกตาไปมาเมื่อชายหนุ่มยังร่ายจุมพิตอันเร่าร้อนไม่หยุด เธอพยายามยกมือที่อ่อนแรงทุบลงบนไหล่กว้าง

ธีรดลย์เหมือนเริ่มรู้สึกตัวว่าหญิงสาวในอ้อมกอดเริ่มอ่อนแรง ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกสูดอากาศเข้าปอด เสียงหายใจหอบรัวของเธอทำให้เขาเพิ่มแรงกอดให้แนบแน่น เมื่อรับรู้ว่าอีกคนเริ่มแข็งขืนเขาจึงคลายวงแขนออก ก้มลงมองใบหน้าสวยเฉี่ยวที่กำลังตื่นตระหนก

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้สำรวจปฏิกิริยาของเธอ อยู่ร่างบอบบางที่แข็งขืนก็หมดแรงแล้วทรุดลง

“ณชา!...”

ธีรดลย์ถึงกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อแม่สาวในร่างชายดันใจเสาะกับรสจูบอันเร่าร้อนของเขาจนเป็นลมล้มพับไป ชายหนุ่มยกมือขึ้นเกาหัวหันซ้ายหันขวาอย่างตัดสินใจ เมื่อตัดสินใจได้เขาจึงโน้มตัวลงเพื่ออุ้มคนที่นอนหมดสติ ร่างสูงใหญ่ชะงักกึกแล้วผงะหงายเมื่อปลายมือสัมผัสกับเนื้อผ้าที่เธอสวมใส่

“....อึ๋ย.....จูบลงไปได้ไงวะนั่น.....”

พอสติกลับมาอาการผวาทอมก็บังเกิด มือหนายกขึ้นถูหน้าตาเหมือนพยายามลบภาพอันน่าสะพรึงออกไปจากความรู้สึก

ชายหนุ่มทั้งขยาดทั้งแขยงเมื่อนึกถึงห้วงเวลาอันน่าสั่นประสาท ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าณชนกเป็นผู้หญิง แต่สภาพที่เธอเป็นมันก็ยากทำใจให้ยอมรับ ใบหน้าขาวราวอิสตรีจ้องไปที่ร่างอรชรที่นอนแน่นิ่งอยู่บนผืนหญ้าแล้วนิ่วหน้าอย่างใช้ความคิด

“...ณชนกทำไมคุณไม่เป็นหญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ โอ๊ย.....ทำไมมันซวยแบบนี้วะเนี่ย...จะมีเมียทั้งทีก็ดันเป็นประเภทที่ลืมเพศตัวเอง......”

เมื่อหมดทางเลือกร่างสูงใหญ่จึงตัดใจกัดฟันหลับหูหลับตาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วมุ่งหน้ากลับไปที่เรือนหลวง ชายหนุ่มเดินเร็วๆ ขึ้นบันใดแล้วพาร่างไร้สติมุ่งไปที่ห้องนอนของเธอ พอวางร่างบางลงบนเตียงเรียบร้อยเจ้าคนขี้กลัวก็รีบแจ้นเอาข่าวไปแจ้งให้ผู้ใหญ่ที่กำลังนั่งเริงร่าอยู่อีกห้องให้ทราบเรื่องด้วยสีหน้าทั้งตื่นทั้งตระหนก

“คุณแม่ครับคุณณชนกเป็นลม” พอเปิดประตูเข้าไปชายหนุ่มก็ร้องเรียกมารดาทันที

“เหรอ..”

คุณหญิงจอมเฮี๊ยบหันไปถามบุตรชายด้วยใบหน้าที่ยังค้างรอยยิ้มเหมือนไม่ตระหนกซักนิดกับข่าวที่เขานำมาแจ้ง

“อ้าว....คุณแม่ไม่ตกใจเลยเหรอครับ”

“แล้วดลจะให้แม่ตกใจอะไรล่ะลูก” เพราะมัวแต่สนใจเรื่องที่คุยค้างอยู่จึงทำให้เธอไม่ได้สนใจกับคำบอกเล่าของบุตรชายนัก พออีกคนถามย้ำจึงเลิกคิ้วน้อยๆ ประกอบคำถาม

พอได้ยินคำตอบธีรดลย์ที่สปีดมาเต็มกำลังถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ชายหนุ่มหันไปมองบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลายที่นั่งหน้าแช่มชื่นอย่างกังขา.....หรือว่าเขาจะตื่นตูมเกินเหตุ.....ท่าทางอาการเป็นลมของผู้หญิงมันคงเป็นเรื่องปกติ

“มีอะไรเหรอตาดลวิ่งหน้าตื่นเป็นเจ๊กตื่นไฟไปได้” ท่านนายพลยังมีอารมณ์เย้าแหย่บุตรชาย เสียงหัวเราะของบรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายยุติลงแล้วหันไปจดจ่อกับคำบอกเล่าของเจ้าหนุ่มหน้าตี๋ที่วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา

“ผมขอโทษครับที่ตื่นเต้นไปหน่อย....คือพอดีณชนกเป็นลมผมเลยไม่รู้จะทำยังไงดี”

“หา!!....อะไรนะตาดลหนูณชาเป็นลมเหรอลูก คุณพระช่วย!....แล้วน้องอยู่ไหน” คุณหญิงรังรองดีดตัวลุกจากเก้าอี้รวดเร็วปานจรวดเมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากบุตรชาย

“ตาเถร! ณชาเป็นลมจริงเหรอตาดล” เจ้าทอรุ้งที่นั่งหัวเราะอยู่เมื่อครู่เด้งตัวลุกขึ้นบ้าง

“เอ่อ...จะ....จริง...ครับ”

เจ้าคนจิตอ่อนถึงกับสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ หญิงกลางคนทั้งสองก็ทำเสียงตระหนกขึ้นพร้อมๆ กับรีเฟ็คที่แรงและเร็วจนเขาตั้งตัวแทบไม่ทัน....อะไรกันทีเมื่อกี้นิ่งซะคนนำสารงง....บทจะตกใจก็ไม่แจ้งล่วงหน้าความรู้สึกช้ากันเสียจริง....ชายหนุ่มนึกค่อนขอดอยู่ในใจ

“น้องอยู่ไหน!!!”

และเสียงของคนที่อยู่ในห้องทั้งหมดก็ประสานขึ้นพร้อมๆ กัน

“ผมอุ้มเธอไปไว้ที่ห้องแล้วครับ”

เจ้าทอรุ้งสะดุดกึกเมื่อได้ยินคำตอบจากว่าที่ลูกเขยชัดๆ ถึงจะกังขาแต่เวลานี้เธอห่วงลูกมากกว่าจะสอบสวนเอาความว่าเจ้าหนุ่มหน้าหล่อรู้จักห้องนอนของบุตรสาวเธอได้ยังไง

ด้วยความห่วงณชนกจึงทำให้บรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายทิ้งความสงสัยเอาไว้แล้วเดินเร็วๆ ตรงไปที่ห้องนอนของณชนกโดยมีเจ้าทอรุ้งกับพ่อเลี้ยงเรืองเดชเดินรีบเร่งนำขบวน

“ณชา!”

พอเห็นสภาพบุตรสาวแน่นิ่งอยู่บนเตียงเจ้าทอรุ้งก็ถึงกับพุ่งเข้าไปหา

“ยาดมค่ะเจ้า”

คุณหญิงควานมือหายาดมในกระเป๋าถือพอได้จึงรีบยื่นให้

“โธ่!! ลูกแม่คิดมากจนเป็นลมไปเลยเหรอเนี่ย” คนเป็นแม่พึมพำอย่างเห็นใจ

“ตาดลทำไมน้องถึงเป็นลม” คุณหญิงรังรองเริ่มเปิดบัลลังก์ใตร่สวน

“สงสัยณชาคงเครียดที่จะต้องแต่งงานเลยเป็นลมเอา แม่ลูกคนนี้ก็เหลือเกินไม่รู้จะคิดมากทำไมนักหนา” เจ้าทอรุ้งยังคิดไปในทางที่ดี

“แต่รังรองว่ามันไม่น่าใช่นะคะ ตาดลแกไปทำอะไรน้อง” เสียงเขียวๆ ของคุณหญิงจอมเฮี๊ยบคาดคั้น

“เอ่อ.....คือ.....”

พอได้ยินคำถามของมารดาตัวต้นเหตุก็เริ่มอึกอัก

“คืออะไรตาดล แกทำอะไรน้อง...ฮึ”

เสียงแหวของคุณหญิงจอมเฮี๊ยบยังไม่ลดระดับความเขียว เมื่อบุตรชายหลบตาเธอจึงจิกตาเอาเรื่องจนทำให้ชายหนุ่มถึงกับแอบค่อนขอดตัวเอง.....ว่าไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยให้ตาย.....พอเห็นประกายตาเอาเรื่องของมารดาก็พาลเสียวสันหลังวาบ....

“ว่าไง”

สายตาพิฆาตจากมารดาตวัดจิกพร้อมๆ กับคำถามที่เน้นย้ำอีกครั้ง

“เธอแค่ตกใจที่ผม....เอ่อ....อืม....”

“อ้าวเจ้าดลมัวแต่เอ่ออ่าแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน เราลูกผู้ชายมีอะไรก็ยืดอกไปเลยลูก แกเผลอไปทำอะไรรุนแรงกับน้องเขาใช่ไหม” นายพลคนกล้าเอ่ยออกมาบ้าง

“ผมเปล่าทำร้ายเธอ....ผม...เอ่อ....” ธีรดลย์ก้มหน้าเมื่อไม่รู้ว่าจะตอบยังไง จะบอกออกไปตรงๆ ก็กลัวผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงสาวล้มตึง แต่จะไม่พูดก็ไม่ได้เพราะประกายตาของคุณหญิงท่านเค้นหนักเหลือเกิน....ถ้ารู้ว่ามันบอกยากบอกเย็นรู้งี้ปล่อยให้เจ้าทอมนี่นอนนิ่งมันอยู่ในห้องซะก็ดีจะได้หมดปัญหา....

“ถ้าแกยังเอ่ออีกคำแม่เฉาะหัวแกแน่”

คุณหญิงที่ใจร้อนเป็นไฟยื่นคำขาดเมื่อสุดที่จะทนกับอาการอ้ำอึ้งของบุตรชาย

“ผมแค่จูบเธอครับ”

พอโพล่งออกไปชายหนุ่มก็พ่นลมหายใจดังเฮือก

“หา!....”

ทั้งคุณหญิงรังรองและเจ้าทอรุ้งต่างร้องขึ้นพร้อมกัน

“ผมไม่ได้ตั้งใจ....คือณชาตะโกนใส่หูผม....ผมไม่รู้จะทำยังไงเลย....เอ่อ” ตอบไปก็ผวาไป

“ตาดลแกทำแบบนี้ได้ยังไง น้องเขาเป็นผู้หญิงทำไมทำอะไรไม่คิดก่อน โอย....แล้วแบบนี้แม่จะสู้หน้าเจ้าท่านได้ไหมเนี่ย” ปรายตาตำหนิสีหน้ายังตื่นไม่หาย

“เจ้าค่ะรังรองต้องขอประทานโทษจริงๆ นะคะที่พ่อลูกชายตัวดีทำเรื่องงามหน้าแบบนี้” หันไปไหว้ขอโทษขอโพยน้ำเสียงกังวล

“เอ่อ....รุ้งก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายหรอกค่ะคุณหญิง แต่....ก็อดกังวลใจนะคะว่าพอณชาฟื้นขึ้นมาจะเข้าหน้าพ่อดลติดไหม” เจ้าทอรุ้งหันไปบอกอีกคนน้ำเสียงกังวลไม่ต่างกัน

“ผมขอโทษครับเจ้าแม่ที่ทำอะไรด้วยอารมณ์จนทำให้น้องเสื่อมเสีย ผมไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินน้องเลยนะครับที่ทำไปเพราะมันไม่รู้จะแก้ทางเธอยังไงดี” บอกอย่างสำนึก

“ถ้าเป็นแบบนี้รังรองว่าเราคงต้องหาฤกษ์แต่งเร็วๆ แล้วล่ะไม่งั้นหนูณชาจะเสียหายกว่านี้ เจ้ากับพ่อเลี้ยงคิดเห็นเป็นยังไงคะกับความคิดนี้” คนเป็นแม่ได้ทีรีบมัดมือชก

“เอาไงดีคะคุณ” เจ้าทอรุ้งหันไปถามสามี

“ไหนๆ เราก็ตั้งใจรวมแผ่นดินอยู่แล้วจะช้าจะเร็วมันก็ต้องดองกันอยู่ดี แต่งเร็วขึ้นอีกหน่อยจะเป็นไรไป ถ้าทางท่านนายพลกับคุณหญิงเห็นเป็นยังไงผมก็ยินดีครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดผมว่าเราไปนั่งจิบชาแล้วคุยกันไปน่าจะสบายอารมณ์กว่า ส่วนเรื่องของเด็กๆ ใครทำให้เป็นลมก็ปฐมพยาบาลกันเอาเองท่านนายพลเราไปนั่งจิบชากันดีกว่าครับ” พ่อเลี้ยงคนดังบอกอย่างอารมณ์ดี

“เห็นพ่อเลี้ยงไม่เอาความแบบนี้ผมค่อยคลายใจ ผมออกไปกับพ่อเลี้ยงเลยก็แล้วกัน” นายพลคนกล้าถึงกับโล่งใจที่อะไรๆ ก็ดูราบรื่น

“ฮ่าๆ.....ท่าทางจะเป็นจูบแรกของณชา มันถึงได้ล้มตึงขนาดนั้น...” พ่อเลี้ยงเรืองเดชหัวเราะออกมาอย่างขบขันเมื่อรับรู้สาเหตุที่แท้จริง

“ดูท่าจะอยากได้ลูกเขยจนตัวสั่นถึงได้ไม่สะเทือนกับอะไร” เจ้าทอรุ้งบ่นตามหลังสามีอย่างหมั่นไส้

“อ้าว!....คุณจะนั่งบ่นอยู่ทำไมลุกๆ ปล่อยให้เด็กๆ เค้าแก้ไขกันเอง เจ้าดลถ้าทำยังไงลูกพ่อก็ไม่ฟื้นก็จูบมันอีกรอบก็แล้วกันเผื่อมันจะเป็นเหมือนนางเอกในนิทาน ไม่แน่นะฟื้นมาคราวนี้เผลอๆ จำเพศตัวเองได้ขึ้นมาพ่อยกให้พร้อมบ้านหลังนี้เลยนะลูก” พ่อเลี้ยงคนดังชี้โพรงอย่างใจป้ำ

“บ้าเหรอคุณพูดอะไรน่าเกลียด นั่นลูกสาวเรานะไปชี้โพรงให้กระรอกแบบนั้นใครมาได้ยินเข้า จะหาว่าเรากลัวลูกสาวขายไม่ออกจนต้องเอามายัดเยียด”

“ก็เพราะกลัวมันขายไม่ออกไง ก็ดูสภาพมันสิเห็นแบบนี้เป็นผมยังผวา ตาดลพ่อถามจริงๆ เถอะแกเห็นรูปทองของยัยณชาหรือไงถึงได้ยอมเกี่ยวดองง่ายดายแบบนั้น” พ่อเลี้ยงเรืองเดชหันไปถามว่าที่ลูกเขยสีหน้าแปลกใจ
“ครับ....ผมชอบเธอ....ผมเชื่อว่าวันหนึ่งณชาจะกลับมาเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ถ้าวันนั้นมาถึงเธอจะเป็นผู้หญิงที่งดงามมากครับ ผมยินดีที่จะแต่งงานกับเธอและใช้ความรักเยียวยาให้เธอกลับมายอมรับสิ่งที่เธอเป็น”

ธีรดลย์ถึงกับอึ้งเมื่อโพล่งคำตอบออกไปชนิดไม่ได้คิดมาก่อน ชายหนุ่มนึกแปลกใจว่าทำไมเขาถึงเชื่อมั่นนักว่าณชนกจะกลับมาเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ถึงแม้ว่าลึกๆ เขาจะยังหวาดๆ กับคราบผู้ชายที่เห็นจนชินตา แต่น่าแปลกที่เขากลับเชื่อมั่นว่าเธอจะเป็นสตรีที่งดงาม

พอได้ยินคำมั่นของว่าที่ลูกเขย พ่อเลี้ยงเรืองเดชก็ถึงกับยิ้มไม่หุบ ชายกลางคนหันไปจ้องหน้าภรรยา แล้วเลยไปพยักหน้าน้อยๆ กับนายพลหน้าเข้ม รอยยิ้มบางๆ หลุดออกจากมุมปากของบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณ เมื่อได้รับคำยืนยันที่น่าพึงใจ

“ถ้าใช้ใจมองเธอดีๆ ดลจะเห็นว่าณชาไม่ได้เป็นอย่างที่ดลเห็น” พ่อเลี้ยงกลางคนเปิดปากชี้ทางสว่างให้พร้อมกับรอยยิ้มที่ชายหนุ่มถึงกับงงงันว่ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นมันคืออะไร

“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ” เจ้าตี๋หน้าซื่อเกาหัวแกรกๆ พร้อมกับตั้งคำถาม

“ลองใช้เวลาที่มีมองดูเธอดีๆ สิลูบหัวไปมองไปก็ได้ บางทีอะไรๆ มันอาจจะง่ายขึ้น ฮ่าๆ....เราไปคุยเรื่องฤกษ์ที่ห้องน้ำชากันเถอะปล่อยให้เจ้าดลมันค้นหาปริศนาของมันไป ถ้ามันหาไม่ได้ก็ปล่อยไปตามยถากรรม” พ่อเลี้ยงอารมณ์ดีหันไปชวนคนอื่นๆ แล้วเดินเริงรื่นออกไป

ธีรดลย์ถึงกับงุนงงเพราะไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงเรืองเดชกำลังแนะนำให้เขาทำอะไร จะอ้าปากถามหาความกระจ่างคนอื่นๆ ก็เดินออกไปกันหมด

“มองดีๆ งั้นเหรอ จะมองยังไงมันก็ผู้ชายอยู่ดี” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง
เมื่อไม่รู้จะทำยังไงชายหนุ่มจึงทรุดลงนั่งข้างๆ ร่างอรชรที่นอนแน่นิ่ง มือหนาวางลงบนหน้าผากกลมลึง “แค่จูบเดียวยังสลบขนาดนี้ถ้าต้องแต่งงานไปจริงๆ เวลาเข้าหอคุณไม่ช๊อคเลยหรือไง” พูดแล้วก็อดขำไม่ได้ เมื่อเห็นดวงหน้าสวยเฉี่ยวยังคงหลับพริ้มเขาจึงลูบศีรษะเธอเบาๆ

ดวงหน้าขาวราวอิสตรีเบิกกว้างเมื่อรับรู้ว่าที่ไรผมของหญิงสาวดูแปลกตาไป ผมซอยสั้นดูพองหนาจนน่าฉงน ทำไมเขาไม่เคยสังเกต มือหนาวางลงบนผมด้านบนพอกดฝ่ามือลงก็รู้ว่าผมของเธอหยุ่นมือจนนึกเฉลียวใจ

“ลองลูบหัวไปมองไปงั้นเหรอ? มันหมายความว่ายังไงกัน”

เมื่อคิดยังไงก็ไร้คำตอบชายหนุ่มจึงลองลูบผมของเธอช้าๆ แล้วจ้องหาความผิดปกติ จังหวะหนึ่งริมฝีปากหนาถึงกับอ้ากว้างเมื่อเห็นชัดๆ ว่าปริศนาที่บิดาของเธอทิ้งไว้มันคืออะไร “.... คุณพระช่วย!!....ณชา!!....”





 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552
5 comments
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2552 22:23:11 น.
Counter : 710 Pageviews.

 

แว่บเข้ามาอ่านค่ะ สนุกดีค่ะ ^^

ขำนายดล น่ารักดีค่ะ

 

โดย: ษาค่ะ IP: 111.84.67.237 28 พฤศจิกายน 2552 15:17:49 น.  

 

 

โดย: tuk_ora 30 พฤศจิกายน 2552 10:21:31 น.  

 

แจ้งให้ทราบค่ะว่าเนทที่ทำงานใช้การไม่ได้ และไม่มีกำหนดว่าจะซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนได้ช่วงไหน แสนสุขขอแจ้งให้ผู้อ่านทราบว่าในอาทิตย์นี้คงงดอัพนิยายเป็นตอนๆ นะคะ และจะอัพให้ทีเดียวเมื่อกลับบ้านประมาณวันอาทิตย์ ค่ะ (ถ้าเนทที่บ้ายังเป็นใจ) ต้องขออภัยในความไม่ต่อเนื่องด้วยนะคะ รักษาสุขภาพด้วยจ้า

 

โดย: sansook 1 ธันวาคม 2552 13:07:28 น.  

 

ว้า แย่จังค่ะ

แต่ยังงัยก็เป็นกำลังใจกันต่อไป

ติดตามอ่านกันอยู่แล้วค่ะ

มิน่าล่ะว่าทำมัยเงียบหายไป

สู้ต่อไปค่ะ สู้เว้ย อิอิอิ....

 

โดย: น้องเอ๋ IP: 192.168.0.4, 61.47.26.146 1 ธันวาคม 2552 14:20:32 น.  

 

ณชา แมนมาก จูบทีเดียวเล่นเอาลมจับ 555

 

โดย: karaked IP: 68.105.5.210 8 มกราคม 2553 3:23:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.