sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
6 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 19 หวานชื่น



อีกสองเดือนต่อมาเรือนรักที่เจ้าฟ้าครามตั้งใจสร้างเป็นเรือนหอของตนกับไหมแก้วก็เสร็จสมบูรณ์ เจ้าหนุ่มหวังใช้ฤกษ์ดีที่ได้รับจัดพิธีมงคลขึ้นพร้อมๆ กัน ถึงสองงาน

“ไหมแก้วน้องมีความคิดเห็นเป็นประการใดที่พี่จะจัดงานแต่งงานของเราเป็นวันเดียวกับงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่” เจ้าหนุ่มถามขึ้นในคืนหนึ่ง

“สุดแล้วแต่เจ้าพี่”

“แล้วพ่อครูล่ะท่านจะเห็นชอบเป็นประการใด? อีกอย่างงานแต่งงานของเราผู้ใหญ่ทางฝ่ายพี่คงมิได้เดินทางมารับขวัญไหมแก้ว ตัวเจ้าพ่อนั้นท่านมิได้ว่ากระไร แต่เจ้าแม่....พี่นั้นหนักใจเหลือเกิน” ใบหน้าคร้ามคมหม่นลงเมื่อนึกถึงเจ้าดวงรัศมีที่ไม่ได้ยินดีกับการตัดสินใจออกเรือนของเขานัก

“ไหมแก้วต้อยต่ำก็สมควรแล้วที่เจ้านางดวงรัศมีจะรังเกียจ” ใบหน้าสวยหวานก้มนิ่งอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ถึงจะเตรียมใจกับเหตุการณ์นี้มาตลอดแต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้

“ไหมแก้วอย่าคิดมากเจ้าแม่ท่านก็ทำเป็นแข็งไปอย่างนั้น อดทนไว้นะอย่างไรเสียหากวันหนึ่งเราทั้งสองมีหลานให้เจ้าแม่ซักคนบางทีท่านอาจจะยอมรับความรักของเรา”

“เจ้าพี่ไหมแก้วรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ควรอยู่ตรงนี้” มือเรียวไต่ไล้ไปตามแผงอกแกร่งแล้วหยุดทาบมือลงบนหน้าอกด้านซ้ายของชายหนุ่ม ใบหน้าสวยหวานแหงนเงยขึ้นมองปลายคางสากแววตาหม่นหมอง

“ไหมแก้วใยน้องถึงพูดเช่นนั้น รู้ไหมนับตั้งแต่วันที่พี่พบเจ้าในนี้ก็ร่ำร้องเรียกหาเจ้าเพียงผู้เดียว เวลาเลยผ่านมาเป็นปีๆ มันมิทำให้เจ้ารับรู้ถึงความรักของพี่เลยหรือ” มือหนาทาบทับลงบนมือเรียวแล้วกดย้ำลงบนหน้าอกด้านซ้าย

“แต่ไหมแก้วต่ำต้อยเหลือเกินที่จะอยู่เคียงข้างเจ้าพี่”

“เจ้านั้นสูงค่ายิ่งกว่าแม่หญิงใด ไหมแก้วน้องรักพี่บ้างไหม?” เจ้าหนุ่มโน้มใบหน้าลงถามชิดกับริมฝีปากอิ่ม

“ไหมแก้วรักเจ้าพี่จนหมดใจใยเจ้าพี่ถามไหมแก้วแบบนี้”

“หากรักก็จงอย่างคิดถึงสิ่งใด แค่เข้าใจว่าพี่รักน้องจนหมดใจเท่านั้นก็พอ เข้าใจไหม..” เจ้าฟ้าครามยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นประกายตาของหญิงสาวในอ้อมกอดเริ่มมีประกายแช่มชื่นขึ้น

“ไหมแก้วจะไม่คิดถึงสิ่งใดอีก” หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ หากแต่ใจยังอดหวั่นไหวไปกับความเป็นไปในวันหน้าไม่ได้ เรื่องแม่ผัวกับลูกสะใภ้ที่เข้ากันไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ขนาดไหนใยเธอจะไม่รู้

เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเจ้าฟ้าครามเดินทางกลับสยามเพื่อแจ้งเรื่องที่จะแต่งงานรับไหมแก้วเป็นชายา ถึงขั้นมีเรื่องมีราวกับเจ้านางดวงรัศมีที่ไม่ยอมรับว่าที่สะใภ้ซึ่งเป็นนางรำต่างศักดิ์

ใบหน้าสวยหวานหลับพริ้มเมื่อรู้สึกน้อยใจในวาสนา รักต่างศักดิ์อย่างไรเสียมันก็คงไม่อาจราบรื่น ถึงวันนี้เจ้าฟ้าครามจะเดินทางกลับมาที่คุ้มเฮือนหลวงเพื่อดำเนินการในส่วนของพิธีการให้ถูกต้องตามประเพณี โดยที่ไม่ใส่ใจแม้เพียงนิดว่างานแต่งที่กำลังจะจัดขึ้นนั้นจะมีญาติผู้ใหญ่ฝ่ายตนหรือไม่ แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดีหากว่าเธอยังผิดสีผิดศักดิ์ผิดสีอยู่แบบนี้

“ไหมแก้ว....น้องกำลังคิดสิ่งใด” เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าหญิงงามนิ่งงันไป

“ไหมแก้วกำลังหนักใจ กับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในวันหน้า” หญิงสาวเปิดเปลือกตาเหลือบมองเสี้ยวหน้าคม

“น้องกังวลกับสิ่งใดบอกพี่ได้ไหม หากแก้ไขได้พี่จะได้รีบทำ”

“มันคงเป็นความกังวลที่ไหมแก้วคิดมากไปเอง เจ้าพี่อย่าใส่ใจเลย” ใบหน้างดงามเบือนหลบดวงตาคมที่จ้องคาดคั้น

“ไหมแก้ว...” มือหนาจับปลายคางมนลุกขึ้นชันแขนข้างหนึ่งเพื่อพยุงตัวเองในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน หญิงสาวจ้องใบหน้าคร้ามคมด้วยหัวใจที่ไหวระทึก “หากน้องรักพี่ก็อย่าใส่ใจหากในวันนี้จะมีเพียงเราแค่สองคน”

“แต่ไหมแก้วเป็นต้นเหตุที่ทำให้เจ้าพี่หมางใจกับเจ้านางดวงรัศมี ไหมแก้วเหมือนคนไม่ดีที่ทำให้แม่ลูกต้องมีปัญหากันแบบนี้”

“ถึงไม่ใช่ไหมแก้วเจ้าแม่กับพี่ก็หมางใจกันอยู่ดี มีที่ไหนจับให้ญาติผู้พี่กับญาติผู้น้องให้เกี่ยวดองกันพี่ไม่เอาแน่หากจะให้แต่งงานกับเจ้าน้อง” ใบหน้าคร้ามคมเริ่มเครียดขรึมเมื่อนึกถึงคนที่มารดาหมายหมั้นอยากได้เป็นสะใภ้จนออกนอกหน้า

“แต่เจ้านางดุจดาราหาใช่เครือญาติในสายเลือดของเจ้าพี่ หากจะเกี่ยวดองก็ไม่เห็นจะเป็นอันใด”

“น้องพูดเสียอย่างนี้มันก็เท่ากับยุยงพี่ให้ยอมรับกับการหมั้นหมาย”

“หากทำให้เจ้าพี่มิผิดใจกับเจ้านางท่านไหมแก้วก็ยินดีเจ้า” ถึงจะเจ็บปวดจนรวดร้าวไปทั้งใจเมื่อคิดจะถอยห่าง แต่เพื่อความเหมาะสมไหนเลยเธอจะดึงดันแต่งงานกับคนที่สูงศักดิ์เกินตัว

“ไหมแก้วพูดเหมือนไม่รักพี่” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเหมือนตัดพ้อ

“ไหมแก้ว...” หญิงสาวได้แต่อึกอัก เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรเธอจึงได้แต่ก้มหน้าแล้วนิ่งอยู่อย่างนั้น

“น่าน้อยใจเรานั้นรักนางจนหมดใจ ต่อให้ใครขวางเราก็ยังเลือกที่จะรักนาง เราสู้อุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองแต่ดูเถอะนางกลับผลักไสให้เราไปครองรักกับคนอื่น” ใบหน้าคร้ามคมบูดบึ้งเมื่อเมียรักคิดผลักไส

พอเห็นสีหน้าง้ำงอของเจ้าหนุ่มไหมแก้วก็อดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มออกมา เออหนอคนตัวโตบทจะงอนก็งอง้ำไม่ร่ำไร “โธ่! เจ้าพี่ไหมแก้วก็แค่อยากให้เจ้าพี่คืนดีกับเจ้านางท่าน” หญิงสาวลูบไล้ใบหน้าคร้ามคมอย่างเอาใจ

“พี่ไม่ได้อกตัญญูกับท่านแม่ ใช่อยู่ในเวลานี้พี่หมางใจกับท่านแต่การที่เราเลือกอยู่กับคนที่เรารักมันก็ไม่ได้หมายความว่าพี่จะเป็นลูกที่เลวทราม ไหมแก้วพ่อแม่เราเทิดทูลไว้เหนือเกล้าแต่ไม่ใช่ว่าจะต้องทำตามคำบงการจนไม่เหลือความสุขให้ตัวเอง”

“แต่มันก็คือปัญหาอยู่ดี” คนที่เชื่อฟังบุพการีมาตลอดชีวิตอดแย้งขึ้นไม่ได้

“เจ้านี่เป็นยังไงขนาดพี่จับปล้ำทำเมียจนเจ้ายอมรับหน้าที่ เวลานี้เจ้ายังจะลังเลอะไรอีก หรือจะให้พี่สร้างทายาทก่อนเจ้าถึงจะยอมรับความรักที่พี่นั้นมีให้เจ้า” เมื่อเมียรักยังยักท่าเจ้าฟ้าครามก็เริ่มมีน้ำโหจนน้ำเสียงอ่อนนุ่มเริ่มดุดันจนฟังเหมือนกระด้าง

ใบหน้างดงามเริ่มงอง้ำเมื่อเจ้าหนุ่มโพล่งวาจาอันล่อแหลม “เจ้าพี่ใยจึงทำเสียงดุดันเช่นนั้น”

“ไม่ดุได้อย่างไรดูเจ้าสิเป็นเมียพี่อยู่ทุกค่ำคืน มาวันนี้พี่จะแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณีกลับเสือกไสไล่ส่งให้พี่ไปเข้าหอกับคนอื่น”

“ไหมแก้วก็แค่...”

“แค่อะไรแค่ไม่รักพี่หรือว่าแค่อะไร?....” น้ำเสียงคนถามห้วนจนคนฟังเริ่มใจเสีย

เมื่อเห็นแววตาขึงขังของเจ้าหนุ่มไหมแก้วก็เริ่มหวาดหวั่นกับความผิดของตัวเอง “เจ้าพี่” หญิงสาวเรียกขานเสียงหวานปานน้ำผึ้ง

“ไม่ต้องมาเรียกขานหวานหยดพี่กำลังโกรธ”

“เจ้าพี่ขา...”

“ฮึ...เห็นเราเป็นเศษดินที่ไร้ค่าหรืออย่างไรจึงคิดตักแบ่งให้คนอื่น” เจ้าฟ้าครามยังตั้งหน้าตั้งตางอนไม่เลิก

ไหมแก้วอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นอาการกระเง้ากระงอดของเจ้าหนุ่มผู้เด็ดขาด ใครจะไปรู้ว่าเจ้าฟ้าครามยามงอนจะน่าหยิกยิ่งกว่าอิสตรี

“ไม่หายงอนไหมแก้วก็ไม่ง้อนะ”

“ไม่ง้อก็ไม่ต้องง้อพี่คงไม่มีความสำคัญอะไร”

“โถ...เจ้าพี่ไหมแก้วขอโทษ....ไหมแก้วผิดไปแล้ว.....ไหมแก้วรักเจ้าพี่ยิ่งกว่าสิ่งใดอย่าโกรธไหมแก้วเลยนะเจ้า” หญิงสาวออดอ้อนเสียงอ่อนนุ่มพลางกอบกุมใบหน้าคร้ามคมด้วยกิริยาละมุนละไม

“รักแล้วใยจึงผลักใสให้พี่ไปครองเรือนกับหญิงอื่น”

“เพราะไหมแก้วรักเจ้าพี่จึงไม่อยากให้เจ้าพี่ต้องผิดใจกับผู้ใด ยิ่งเป็นบุพการีแล้วไซร์ยิ่งไม่สมควร” หญิงสาวให้เหตุผล

“พี่บอกเจ้าแล้วว่าพ่อแม่นั้นพี่ยกท่านไว้เหนือเกล้า พี่เชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านทั้งสองและปฏิบัติแต่ในสิ่งที่ถูกที่ชอบ พี่เป็นลูกที่ดีของท่านมาตลอดจนบัดนี้ แต่การครองเรือนพี่มิอาจเดินไปตามคำชี้นำของใคร พี่รักด้วยหัวใจและก็จะอยู่กับผู้หญิงที่หัวของพี่สั่งให้รัก” เจ้าหนุ่มบอกน้ำเสียงอ่อนลง

“เจ้าคือหัวใจของพี่ไหมแก้ว เวลาเป็นปีๆ ที่พี่มีเจ้ามันสุขล้นจนพี่ไม่ประสงค์กับสิ่งใดอีกแล้ว พี่ไม่ได้หลงลืมหน้าที่ของบุตรแต่หากถึงเวลาออกเรือนเราก็ต้องมีครอบครัวของตัวเอง ครอบครัวที่เราจะต้องประคับประคองให้สมบูรณ์แบบ เวลานี้เจ้าเป็นเมียพี่หน้าที่ของเจ้าคือต้องเป็นเมียที่ดี ต้องเป็นแม่ที่ประเสริฐ ส่วนเจ้าแม่หากท่านยังยอมรับไม่ได้ในวันนี้ วันหนึ่งข้างหน้าท่านก็จะยอมรับความรักของเราไปเอง”

“แล้วหากไม่มีวันใดที่เจ้าท่านยอมรับล่ะเจ้า”

“เฮ้อ! หากเจ้ามัวแต่กังวลอยู่อย่างนี้ไหนเลยชีวิตคู่ในวันหน้าจะเป็นสุข พูดเสียยาวหวังว่าเจ้าจะเข้าใจแต่สุดท้ายเจ้าก็ผลักไสพี่อยู่ดี” ปรายตามองสายตาตัดพ้อ

“เจ้าพี่คนดีของน้อง....อย่างง้ำงอนไปเลยไหมแก้วบอกแล้วว่าอย่างไรเสียก็จะน้อมรับกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าพี่ประสงค์ สิ่งใดที่เจ้าพี่เห็นสมควรไหมแก้วก็เห็นเป็นตามนั้น.....นับจากนี้ไปไหมแก้วจะเป็นเมียที่ดีของเจ้าพี่....”
หญิงสาวประคองใบหน้าคร้ามคมด้วยอุ้งมือทั้งสอง ริมฝีปากบางเผยอแย้มยั่วยวน

เจ้าฟ้าครามจ้องเรียวปากได้รูปที่เผยอขึ้นด้วยหัวใจที่กระตุกไหว ชายหนุ่มแอบยิ้มอยู่ในใจเมื่อเห็นกิริยาอันน่าเอ็นดูของเมียรัก คืนนี้จะลองงอนให้เมียง้อดูซักทีว่าในยามเมียรักง้อเธอจะหวานชื่นซักเพียงใด.....

ไหมแก้วมองใบหน้าเคร่งขรึมของเจ้าหนุ่มด้วยหัวใจที่ไหวหวั่นไปกับความเงียบงันและเมินเฉย หญิงสาวเริ่มเก้ๆ กังๆ เมื่อบนยั่วเย้าที่เธอกำลังเชิญชวนไม่เป็นผลอย่างที่คิดไว้ ร่างบอบบางอ้อนแอ้นหยุดกึกนิ่งงันอยู่อย่างนั้นเมื่อกายแกร่งที่นอนเฉยเมยอยู่ข้างๆ กำลังแข็งขืน

โธ่.....แค่คิดจะเริ่มก็ยังไม่กล้าแล้วคืนนี้จะง้อผัวกันยังไง....ชายหนุ่มที่กลั้นอารมณ์พิศวาสไว้ภายในเริ่มค่อนขอดกับกิริยาเหนียมอายของเมียสาว

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังลังเลเจ้าหนุ่มจึงพลิกกายหันไปอีกด้านซะให้รู้แล้วรู้รอดไป ไหมแก้วจ้องแผ่นหลังของเจ้าหนุ่มแล้วครุ่นคิด จะเริ่มบทง้อแต่จารีตที่ได้รับการปลูกฝังก็สั่งห้ามไว้ให้อยู่ในกรอบที่ดีงาม แต่หากปล่อยให้ผ่านเลยพอรุ่งสางเจ้าหนุ่มก็จะมึนตึงแล้วพาลกับบ่าวไพร่ให้เป็นที่ขยาดหวาดผวาไปทั้งเรือน

จะหยุดแล้วนิ่งเฉยก็ไม่ได้ จะก้าวผ่านเข้าไปก็ไม่ควร มือเรียวยกขึ้นหมายสัมผัสกายแกร่งดังที่ความรู้สึกเรียกร้องโหยหา แต่ความเป็นหญิงสั่งให้เก็บพับไว้ที่เดิม

เจ้าฟ้าครามกัดกรามแน่นเพื่อระงับความพุ่งพล่านของอารมณ์ให้สงบนิ่ง ชายหนุ่มเหลือบตามองด้านข้างด้วยความหวังว่าเมียรักจะทำอะไรซักอย่างเพื่อให้ความปวดร้าวจากอารมณ์รักภายในให้เบาบาง

“เจ้าพี่....อย่าหันหลังให้ไหมแก้วแบบนี้” เมื่อไม่รู้จะทำยังไงไหมแก้วจึงทาบมือลงบนไหล่หนาแล้วดึงร่างแกร่งให้พลิกกายหันกลับมาเผชิญหน้า

“พี่จะนอนแล้วมีอะไรค่อยคุยพรุ่งนี้” ถึงจะแอบยินดีที่ไหมแก้วเริ่มบทง้อแต่เจ้าหนุ่มยังคิดว่าเพียงเท่านี้ไหนเลยจะเพียงพอ

“หากเจ้าพี่อยากจะพักผ่อนไหมแก้วก็คงไม่รบกวน” ใบหน้างดงามเริ่มงอง้ำเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมอ่อนข้อ

“ไหมแก้วนอนเถอะ” บอกพลางพลิกกลับไปท่าเดิม

ไหมแก้วปวดใจจนน้ำตาซึมเมื่อเห็นความเฉยชาฉายชัดออกมาจากกิริยาแข็งขึงจากคนรัก นับตั้งแต่อยู่กับกับเจ้าฟ้าครามมาเธอไม่เคยนอนอยู่นอกอกอุ่นนั่น แล้วคืนนี้หากอีกฝ่ายยังหมางเมินเธอจะข่มตาหลับได้อย่างไร ยิ่งคิดหัวใจก็ยิ่งปวดแปลบ

หญิงสาวจ้องแผ่นหลังของเจ้าหนุ่มอย่างปวดร้าวด้วยความรู้สึกที่เริ่มแบ่งข้าง....หนึ่งเสียงบอกให้เธออย่าไปสนใจสะบัดกายหนีให้รู้แล้วรู้รอด....แต่อีกหนึ่งเสียงกลับตอกย้ำความรักที่เธอมีแล้วทำหน้าที่ของภรรยาที่ดีให้สมบูรณ์.....

เหตุการณ์ครั้งก่อนเริ่มย้อนตอกย้ำ....ในยามที่เธอไม่พอใจเจ้าฟ้าครามมักจะไม่ปล่อยให้เธอต้องอยู่ในอารมณ์เครียดขรึมจนนานวัน.....หากจะง้อคนรักซักครั้งมันจะเป็นอะไรไป....เมื่อตัดสินใจได้หญิงสาวจึงเริ่มบทง้อที่เจ้าฟ้าครามจะต้องจดจำไปนานแสนนาน

พอคิดได้หญิงสาวจึงไล้ปลายนิ้วไปตามลำแขนแข็งแรง เจ้าหนุ่มนึกกระหยิ่มอยู่ในใจว่าอย่างไรเสียเมียรักก็คงจะเริ่มง้อด้วยบทแรก ประเดี๋ยวเถอะไหมแก้วพี่จะเรียกร้องบทง้อของเจ้าจนถึงเช้าเลยคอยดู ชายหนุ่มบอกตัวเองอย่างมาดมั่น ใบหน้าคร้ามคมหลับพริ้มเพื่อรอช่วงเวลาที่ความปรารถนาใกล้สุกงอม....ไม่เสียแรงที่แกล้งโกรธคืนนี้ดูท่าผลที่ทำมาจะสัมฤทธิ์

เรียวปากบางกระชับจูบไล้ที่ซอกคออุ่นก่อนจะไล่ไปเรื่อยๆ จนหยุดนิ่งอยู่ที่ติ่งหู หญิงสาวใช้บทเรียนที่ชายหนุ่มพร่ำสอนหยอกเอินเชิญชวนขณะมือไม้ไล้ลูบไปตามท่อนแขน ชายหนุ่มหลับตาพริ้มดื่มด่ำกับความหวามหวานที่เมียสาวกำลังปลุกเร้าด้วยหัวใจที่ไหวระทึก ในทุกครายามเขาเป็นคนเริ่มว่าตื่นเต้นแล้ว ในครั้งนี้มันกลับให้ความรู้สึกเร่าร้อนจนไฟรักครั้งใดก็ไม่อาจร้อนแรงได้เท่าเทียม

ไหมแก้วยิ้มเอียงอายเมื่อรับรู้กลายๆ ว่าผลของการเชิญชวนเริ่มปรากฎเป็นไฟรักที่พร้อมแผดเผาให้ร่างสาวร้อนระอุ เมื่อร่างแกร่งตอบรับจนเหมือนพร้อมกับทุกสิ่งแต่อีกฝ่ายยังแข็งขืนไม่ยอมอ่อนให้ เมื่อเจ้าหนุ่มคิดใช้ไม้แข็งเธอจึงผละจากร่างสูงใหญ่ลุกจากเตียงเดินตรงไปที่ประตู

เจ้าฟ้าครามที่กำลังล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์ถึงกับหล่นตุ๊บลงมาชนิดท่าไม่สวยเมื่ออยู่ๆ ไฟรักที่ถูกจุดจนลุกพรึ่บ กลับดับมอดไปเสียอย่างนั้น ชายหนุ่มแอบมองตามร่างบอบบางที่เดินดุ่มๆ ออกจากห้องไปด้วยแววตาที่ทั้งงงทั้งค้าง.....

จะเอ่ยปากถามหญิงสาวก็เดินออกไปจนพ้นประตู เจ้าหนุ่มผุดลุกขึ้นก้มมองเครื่องยนต์ที่พร้อมทะยานไปข้างหน้าด้วยแววตาสุดแสนเสียดายกับห้วงเวลาที่กำลังจะได้ท่องไปกับความหฤหรรษ์หวานละไมแห่งห้วงรัก....ชายหนุ่มจ้องบานประตูตาเขม็งเฝ้ารอการกลับมาของเมียรักด้วยอาการกระวนกระวายเมื่ออดใจไม่ไหวจึงลุกจากเตียงเพื่อไปตามหา...

ร่างสูงใหญ่กำยำเดินไปยังไม่ถึงสามก้าวก็ต้องหยุดเท้าแล้วนิ่วหน้า เจ้าหนุ่มจ้องเรือนร่างบางระหงที่เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับฟืนหอบใหญ่ในอ้อมแขน....คิ้วหนาดกดำขมวดเป็นปมด้วยความงุนงงว่าไหมแก้วกำลังคิดพิเรนอะไรในค่ำคืนนี้....

หญิงสาวปรายตามองคนตัวใหญ่สีหน้าเรียบเฉยขณะเริ่มวางฟืนท่อนขนาดย่อมลงบนพื้น ก่อนที่เธอจะติดไฟเสียงทุ้มก็เอ่ยถามน้ำเสียงงุนงง “ไหมแก้วนั่นน้องจะทำอะไร?”

“ไหมแก้วหนาว” ตอบเสียงเรียบ

“หนาวก็ห่มผ้าสิจะเอาฟืนขึ้นมาทำไมให้หนักเล่า” ปากแนะนำแต่สีหน้างงหนักเข้าไปอีก

“จะห่มผ้ากี่ผืนก็ไม่หายหนาวเพราะข้างกายมีคนเย็นเป็นน้ำแข็ง”

“แล้วจะเอาฟืนนั่นมาทำไม?” ถามไปก็ไหวหวั่นกับน้ำเสียงเย็นชาของเมียรัก

“เอามาเผาน้ำแข็งให้ละลาย” หญิงสาวตอบเสียงเด็ดขาดจนคนฟังถึงกับสะดุ้งจนพูดไม่ออก

เอาละเหวย....เป็นเรื่องแล้วสิทีนี้ โถ...แม่เมียตัวดีคิดสิ่งนี้ได้ยังไง....อะไรกันเมื่อกี้เพิ่งส่งเขาขึ้นสวรรค์อยู่หยกๆ แต่ตอนนี้คิดที่จะเผากันเลยหรือนั่น....

“เจ้าพี่กลับขึ้นไปนอนสิเดี๋ยวไหมแก้วก่อไฟเสร็จจะรีบเอามาย่าง” ใบหน้างดงามงอง้ำแต่ทว่าแววตากลับเอาจริงจนอีกฝ่ายได้แต่อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น

“ไหมแก้วจ๋า เมียรักของพี่ ก่อไฟบนเรือนแบบนี้มันไม่ดีนะจ๊ะ เรือนเราเป็นไม้ขืนติดไฟได้ไหม้กันทั้งหลัง” พอเห็นแววตาแข็งกร้าวของเมียสาวอาการแข็งขืนที่แสร้งทำก็พลันหลบหายจนกลายเป็นอ่อนหวานในทันใด

“ไหม้ก็ดีคนแถวนี้จะได้ละลาย” ยังไม่วายปรายตามองพร้อมประชด

“แค่เมื่อกี้พี่ก็แทบละลายแล้วล่ะจ๊ะ อีกนิ๊ดเดียวพี่ก็จะพาไหมแก้วไปท่องแดนสวรรค์อยู่แล้ว ดูซิเนื้อตัวมอมแมมหมดแล้วเห็นไหมนั่น”

“ไม่เป็นน้ำแข็งต่อล่ะไหมแก้วอุตส่าห์ไปขนฟืนมาจะได้เผาให้เสร็จสิ้นจะได้ไม่เสียเที่ยวที่หอบมา”

“โธ่...เมียจ๋า...เมียรักของพี่....เล่นเผากันบนเรือนแบบนี้พี่ก็สุกแย่สิจ๊ะ ไหนเมื่อกี้ใครนะบอกว่าหนาวมาเถอะคืนนี้พี่จะกอดไว้ในอกให้คลายหนาว” เจ้าฟ้าครามรีบปรี่เข้าไปกอดร่างบางอ้อนแอ้นไว้แนบอก ชายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเอง

ไหมแก้วนะไหมแก้วคิดมาได้กับวิธีแก้เผ็ดแบบนี้.....ประเดี๋ยวเถอะพี่จะแก้คืนให้หนำใจเลยคอยดู.....เจ้าหนุ่มก้มมองคาดโทษคนร่างเล็กในอ้อมแขน....



Create Date : 06 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2552 10:36:16 น. 2 comments
Counter : 427 Pageviews.

 
โหะๆ แก้เผ็ดกันได้น่ารักจริงจริ๊ง
แต่ถ้าทำจริงก็อันตรายมากเลยนะนั่น

รออ่านตอนต่อไปจ้า


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:28:20 น.  

 
แฟนๆ โปรดทราบขออนุญาตงดอัพนิยาย อาทิตย์นึงนะคะเพราะต้องไปเชียงรายค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ วันจันทร์หน้าจะรีบกลับมาปั่นต่อค่ะ


โดย: sansook วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:55:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.